จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 379
[ ท่ามพยายามเพิ่มออปชั่นลงใน <ยารุกต์> ]
[ ขอแสดงความยินดี! ท่านเพิ่มออปชั่นใหม่สำเร็จ! ]
กริดพลันตื่นเต้นกับข้อความระบบตรงหน้า
'สำเร็จในครั้งเดียว...!'
ชายหนุ่มเป็นคนที่ดวงซวยมาทั้งชีวิต เกมการเสี่ยงดวงไม่เคยเป็นใจให้เขา ถ้าหากมีลอตเตอรี่ที่มีโอกาสถูก 99% กริดจะเป็น 1% ที่ผิด แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเสี่ยงดวงชนะในเกมที่มีโอกาสเพียง 21%
เขารู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที แต่ก็ได้เพียงไม่นานเท่านั้น
[ ออปชั่นเกรด B <ความเท่> ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในไอเท็ม <ยารุกต์> ]
"อะไรนะ..."
[ ยารุกต์มีความเท่เพิ่มขึ้น ]
ชิ้ง~
=============================
[ +8 ยารุกต์ ]
เกรด : ยูนีค (เติบโต)
ความคงทน : 351/351
พลังโจมตี : 793 + 365
...
...
* <ความเท่>เพิ่มขึ้นจากผลของการแปรธาตุ
=============================
"..."
เชี่ย… อะไรคือความเท่ แล้วอะไรคือความเท่เพิ่มขึ้น
'...'
จากออปชั่นมากมายทั้งหมดที่มีอยู่ ทำไมถึงออกมาเป็นความเท่เสียได้ ชายหนุ่มคิดว่าพักนี้เรื่องราวรอบตัวเขามักเป็นไปได้สวยเสมอ จึงคาดไม่ถึงว่าออปชั่นที่ได้จากการแปรธาตุคราวนี้จะไร้ประโยชน์
"ไม่น่าเชื่อ… ไม่เคยมีไอเท็มใดสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกมาก่อน..."
กริดกำลังหงุดหงิดสุดขีด ส่วนซิลเวอรันกลับตื่นเต้นดีใจ
"โอ้...! โอ้ววว! ออปชั่นที่ดีที่สุดของเกรด B ความเท่! เหนือความคาดหมายมากจริงๆ!"
"..."
ความเท่คือออปชั่นที่ดีที่สุดของเกรด B งั้นหรือ กริดไม่เชื่อหูตนเอง
'ถ้าดีที่สุดของเกรด B ยังกระจอกขนาดนี้… ที่เหลือจะไร้ประโยชน์ขนาดไหนกันนะ'
ศาสตร์แห่งการแปรธาตุ ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งเคลือบแคลงสงสัย ดูเหมือนเม็ดเงินที่ตนนำไปลงทุนจะไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย แต่แร็บบิทก็ยังหาข้อดีมาปลอบใจเขาอีกจนได้
"ความเท่คือปัจจัยที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ รูปร่างหน้าตาที่ดีมักจะทำให้ผู้อื่นเกิดความชื่นชอบได้ง่าย"
เฉกเช่นโลกแห่งความจริงที่ผู้คนแสวงหาความเท่ พวกเขาล้วนยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อดูแลทรงผมและซื้อเสื้อผ้าราคาสูง แถมบางรายก็ยังยอมจ่ายหนักเพื่อศัลยกรรมใบหน้าให้เป็นที่พึงพอใจ
เหตุผลนั้นง่ายมาก ทั้งหมดก็เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตนเอง เช่นเดียวกันกับเวลาที่ผู้เล่นได้พบเห็นไอเท็มแปลกใหม่ รูปลักษณ์ภายนอกคือประตูด่านแรก และเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ
"...นั่นสินะ"
เมื่อลองมาคิดดูให้ดี ไม่นานมานี้ เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคลาสลับใหม่ที่มีชื่อว่า <นักเปลี่ยนรูปลักษณ์ไอเท็ม> ผู้เล่นคนดังกล่าวสามารถร่ำรวยมหาศาลได้ด้วยการทำอาชีพเปลี่ยนรูปลักษณ์ไอเท็มเพียงอย่างเดียว แม้คุณสมบัติของไอเท็มจะไม่เปลี่ยนไป แต่คนจำนวนมากก็ยอมจ่ายหนักเพื่อให้ไอเท็มที่ตนสวมดูดีขึ้น
กริดหันกลับมามองยารุกต์อีกครั้งอย่างเพ่งพิจารณา ยามนี้มีประกายแสงอ่อนๆ อันนุ่มนวลกำลังส่องสว่างจากใบดาบสีแดงยาว ไม่ผิดแน่ ยารุกต์เท่ขึ้นกว่าเมื่อก่อนตามที่คำอธิบายว่าไว้
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ทุกครั้งที่กวัดแกว่ง ยารุกต์จะส่องประกายเจิดจ้าราวอัญมณี ตัวกริดเองก็ยิ่งดูเท่ขึ้นเมื่อสวมยารุกต์ในมือ เป็นที่แน่นอนว่า ในงานแข่งนานาชาติหนนี้ ผู้ชมจะจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชมและประทับใจมากกว่าเดิม
แต่เมื่อลองคิดดูให้ดี… เขาก็แค่หาเหตุผลปลอบใจตัวเองเท่านั้น
***
"จนกว่าโรงแปรธาตุจะก้าวไปถึงขั้นสูง กระผมจะรวบรวมผงนางฟ้าให้มากที่สุดโดยไม่ใช้งานพวกมัน"
"...ดี"
กริดตอบกลับอย่างไร้ชีวิตชีวา เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พึงพอใจออปชั่นที่ยารุกต์ได้รับสักเท่าไร แร็บบิททำเพียงโค้งคำนับอย่างกระอักกระอ่วน
"เช่นนั้นกระผมขอตัวกลับไปทำงานก่อน"
"อือ… พยายามเข้า"
ชายหนุ่มแยกทางจากแร็บบิทและเดินกลับมายังโรงตีเหล็ก เขาต้องการจะสร้างไอเท็มที่เหมาะสมสำหรับทักษะ<ขว้างหอก>และ<ความชำนาญธนู>ที่ได้รับมากจากหมู่เกาะเบเฮ็น
'เรามีสูตรการผลิตธนูของจิสึกะอยู่ ใช้เจ้านั่นเป็นต้นแบบก็แล้วกัน'
หลังจากนั้น กริดก็จะสร้างหอกที่ไว้สำหรับขว้างโดยเฉพาะ ชายหนุ่มเริ่มการวางแผนในหัว
***
"สร้างคราดเล็ก"
[ คราดเล็กถูกสร้างสำเร็จ ]
ซู่ววว!
คราดเล็กจำนวน 50 อันลอยขึ้นในอากาศอย่างพร้อมเพรียงเหนือฟาร์มแห่งใหม่ใกล้กับภูเขาอัลเทส ทั้งหมดล้วนไม่ใช่คราดเล็กทั่วไป แต่เป็นคราดเล็กที่สร้างขึ้นจากออร่า
ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
ออร่าคราดเล็กทั้ง 50 อันทำการขุดดินพร้อมกันเป็นจังหวะจะโคน ภาพตรงหน้าช่างมหัศจรรย์ ประสิทธิภาพของคราดเล็กออร่าเทียบเท่าได้กับแรงงานชาวนาที่เชี่ยวชาญถึง 100 คน และนี่คือความสุดยอดของฮูเร็น ออร่ามาสเตอร์
ฮูเร็น ชายที่เคยถูกทำให้อับอายต่อหน้าคนทั้งโลกด้วยการพ่ายแพ้ต่อกริดในเวลาเพียงห้าวินาที เขามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะแก้แค้นกริดให้จงได้
'40 วันข้างหน้า...'
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติหนที่สองจะเริ่มขึ้น
ในฐานะตัวแทนทีมชาติสหรัฐ ฮูเร็นจะเข้าร่วมการแข่งและล้างแค้นกริดอย่างสาสม แต่เขากลับติดปัญหาอยู่หนึ่งเรื่องในตอนนี้
"ฉันมองคนไม่ผิดจริงๆ ทักษะของนายเหมาะแก่การทำฟาร์มมาก นายอยากจะฝึกกับฉันให้นานขึ้นอีกสักหน่อยรึเปล่า"
ชาวนาในตำนาน ปิอาโร่ ชายคนนี้คือปีศาจชั่วร้ายที่กักตัวฮูเร็นไว้และใช้แรงงานทำนา แต่ด้วยผลตอบแทนอันมหาศาลของภารกิจที่ปิอาโร่มอบให้ ความโกรธแค้นภายในใจฮูเร็นพลันจางหาย ฮูเร็นถามปิอาโร่ออกไปอย่างสนอกสนใจ
"ฝึกนานแค่ไหน"
"สามเดือน"
"สามเดือน...!"
เป็นระยะเวลาที่นานมาก ฮูเร็นเตรียมการไว้แล้วมากมายหลายสิ่ง เพื่อจะล้มกริดในงานแข่งซาทิสฟาสนานาชาติอีก 40 วันข้างหน้าให้ได้
"แค่เดือนเดียวไม่ได้หรือ"
ปิอาโร่ส่ายศีรษะเล็กน้อย
"ถ้าอยู่ได้แค่เดือนเดียว ฉันว่านายกลับไปตอนนี้เลยก็ได้ เพราะสุดยอดทักษะทำฟาร์มชนิดใหม่ที่ฉันจะสอนให้นั้นมีระดับสูงมาก ไม่มีทางที่นายจะเรียนรู้ได้ภายในหนึ่งเดือนแน่นอน..."
"..."
ฮูเร็นกำลังอยู่ระหว่างทางแยกแห่งการตัดสินใจ เขาควรบอกลาจากปิอาโร่ไปในตอนนี้เพื่อเตรียมการแก้แค้นกริด หรือว่าอยู่กับปิอาโร่ต่ออีกสามเดือนจนเก่งขึ้นหลายเท่า แล้วค่อยกลับมาแก้แค้นกริดในภายหลังดี
"อ--เอ่อ..."
ฮูเร็นครุ่นคิดถึงหลายปัจจัย อย่างเช่น ตัวเขาในตอนนี้สามารถเอาชนะกริดได้จริงหรือ...
'ด้วยความสัตย์จริง ไม่มีสิ่งใดที่ยืนยันเรื่องนั้นได้เลย'
เมื่อสามเดือนก่อนตามเวลาซาทิสฟาย เขามั่นใจมากกว่าเอาชนะกริดได้แน่นอนเมื่อครั้งรุกรานเรย์ดันพร้อมกองทัพองค์ชายเร็น แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว ความมั่นใจทั้งหมดถูกสั่นคลอนโดยคำพูดปิอาโร่
"นายแข็งแกร่งมาก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่แข็งแกร่งกว่า... อะไรนะ! อย่างนายจะมาเทียบกับนายท่านได้ยังไง ไม่มีทาง! ดยุคกริดต้องแข็งแกร่งกว่านายอยู่แล้ว"
ในตอนแรก ฮูเร็นคิดว่าปิอาโร่ให้ตอบอย่างเอนเอียง แต่เมื่อได้รู้จักกันนานวันเข้า ดูเหมือนนิสัยของปิอาโร่จะไม่ใช่คนเช่นนั้นเลยสักนิด
'หากเรายังเอาชนะกริดไม่ได้ในตอนนี้...'
ก็มีโอกาสที่ตนจะอับอายต่อหน้าคนทั้งโลกอีกครั้ง ถ้าเป็นเช่นนั้น...
"...ฉันจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสามเดือน"
ไม่ต้องรีบร้อนไปนัก ยังมีโอกาสอีกมาก ถึงปีนี้จะไม่ได้เข้าร่วม ปีหน้าก็ยังมี ปีถัดไปก็ยังมี จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม ฮูเร็นมุ่งหวังจะพัฒนาตนเองให้ได้มากที่สุด เขาต้องการให้คลาสออร่ามาสเตอร์กลายเป็นเกรดเลเจนดารีโดยไว
"ตัดสินใจได้ดี"
ปิอาโร่อมยิ้มให้กับความทุ่มเทของฮูเร็น นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การเกษตรของเรย์ดันจะพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ฮูเร็นจะยิ่งคุ้นชินกับวิถีชีวิตของชาวนามากขึ้น เขาพยายามอย่างหนักเพื่อพัฒนาเรย์ดัน จนกระทั่งลืมเจตนาในตอนแรกไปจนหมดสิ้น
เจตนาที่จะแก้แค้นกริด
***
ซีบาลแห่งกิลด์สเน็ค คริสแห่งกิลด์ไจแอนท์ ซิวรอนแห่งกิลด์โกลเด้น เฮ่าแห่งกิลด์ฮาเดส บองเดรแห่งกิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์ บูบัตแห่งกิลด์ยัค และราล์ฟแห่งกิลด์เซราฟ
หัวหน้าของเจ็ดกิลด์ใหญ่กำลังรวมตัวกันอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง พวกเขาล้วนเป็นผู้เล่นท็อป 30 ของโลกและนักกีฬาเข้าแข่งขันในงานซาทิสฟายนานาชาติหนที่สอง
"เก้าเดือนแล้วสินะ หลังจากที่พวกเราสร้างความอับอายขึ้นที่เรย์ดัน"
นับแต่นั้นเป็นต้นมา เจ็ดกิลด์ใหญ่ก็เสื่อมเสียเกียรติรุนแรง พัมธมิตรที่เคยยิ่งใหญ่และสร้างความหวาดกลัวต่อผู้คน บัดนี้เป็นได้แค่ตัวตลกในสายคนหมู่มาก กลายเป็นกิลด์โอเวอร์เกียร์ที่ถือครองความองอาจและยิ่งใหญ่ไว้แทน
"พวกเราต้องทวงศักดิ์ศรีคืนมาในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ"
ซิวรอนพลันแสดงสีหน้าสงสัย
"นายหมายความว่าให้พวกเราบดขยี้โอเวอร์เกียร์ในงานแข่งงั้นหรือ แล้วด้วยวิธีไหนกันล่ะ"
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาตินั้นไม่ใช่สงครามกิลด์ แต่เป็นการแข่งขันระหว่างประเทศ โดยกิลด์โอเวอร์เกียร์ก็ประกอบไปด้วยผู้เล่นจากหลากหลายชาติ คงเป็นการยากที่จะให้เจาะจงเล่นงานโอเวอร์เกียร์
ซีบาลแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย
"กริดคือสัญลักษณ์ของกิลด์โอเวอร์เกียร์ และกริดก็เป็นชาวเกาหลีใต้ ดังนั้นพวกเราต้องมุ่งเน้นไปที่การบดขยี้เกาหลีใต้ให้ราบคาบ"
ตัวตนของกริดนั้นยิ่งใหญ่มากสำหรับโอเวอร์เกียร์ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากริดและเกาหลีใต้ถูกชาติอื่นบดขยี้น่ะหรือ เจ็ดกิลด์ใหญ่ก็จะได้รับศักดิ์ศรีคืนมา และความนิยมในตัวกริดก็จะลดลง
"กิลด์โอเวอร์เกียร์ไม่ใช่ที่หนึ่งอีกต่อไปแล้ว"
ซีบาลมั่นใจในเรื่องนี้มาก เพราะในกระเป๋าสัมภาระของมันกำลังเต็มไปด้วยไอเท็มที่สร้างขึ้นโดยแพนเมียร์ ผู้เล่นคลาสช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของโลก ไอเท็มที่แพนเมียร์สร้างขึ้นนั้นอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมอันสูงส่งของเผ่าคนแคระ ซึ่งซีบาลคิดว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าไอเท็มที่กริดสร้างเลยสักนิด
"ร่วมมือกันบดขยี้เกาหลีใต้และทวงศักดิ์ศรีคืนมากันเถอะ"
การไม่ได้เป็นที่หนึ่งนั้นส่งผลใหญ่หลวงมาก ในช่วงเวลายุคทองที่พวกมันถูกเรียกว่าเป็นมหาอำนาจ หัวหน้าของเจ็ดกิลด์ใหญ่ล้วนได้รับความสนใจและได้รับเงินสนับสนุนจำนวนมหาศาล ซีบาลต้องการทวงคืนช่วงเวลาเก่าๆ กลับมา แต่เป็นคริสที่หันไปมองมันและเปิดปากพูดขึ้น
"ซีบาล นายเป็นหัวหน้าของพวกเราตั้งแต่เมื่อไรกัน"
นั่นสินะ... ใครบอกว่าเจ็ดกิลด์ใหญ่สามัคคีเป็นหนึ่งเดียว
เฉกเช่นกิดล์ทั่วไปในอดีต บางครั้งพวกมันก็ระแวงกันเอง บางครั้งก็เป็นศัตรูกัน และบางครั้งก็ร่วมมือกันต่อสู้กับกิลด์อื่น จนกระทั่งวันหนึ่ง ซีบาลตัดสินใจจับมือทุกคนก่อตั้งพันธมิตรเจ็ดกิลด์ใหญ่ขึ้น โดยตั้งตนเป็นหัวหน้า
ซึ่งคริสไม่ชอบเอาเสียเลย
"นี่คริส… นายกำลังพูดอะไรอยู่ หัวหน้าอะไรกัน ฉันเนี่ยนะหัวหน้า ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองเป็น พวกนายทุกคนคือพวกพ้องต่างหาก"
หัวหน้าของทั้งเจ็ดกิลด์ใหญ่ล้วนเปี่ยมไปด้วยความหยิ่งทระนง คำพูดของคริสอาจทำให้คนเหล่านั้นเคืองใจได้ ซีบาลจึงพยายามทำเป็นเพียงมุกตลกขำขัน มันต้องการรักษาบรรยากาศการพูดคุยเอาไว้
คริสโพล่งขึ้นอย่างฉุนเฉียว
"ใครเป็นพวกพ้องของนายกัน"
คริสไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมของพันธมิตรเจ็ดกิลด์ใหญ่เลยสักครั้ง รวมถึงเมื่อครั้งที่รุกรานเรย์ดันในอดีตด้วย เหตุผลที่คริสมาประชุมในวันนี้ก็เพื่อชี้แจงให้ทุกคนรู้ถึงจุดยืน
"อย่าได้ใช้ชื่อ<พัมธมิตรเจ็ดกิลด์ใหญ่>อีกในอนาคต กิลด์ไจแอนท์ของฉันขอถอนตัวและไม่ข้องเกี่ยวด้วยประการทั้งปวง"
คริสลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้และเดินจากไป หัวหน้ากิลด์คนอื่นไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำของคริสมากนัก ไม่มีเหตุผลให้บีบบังคับใครมาร่วมเป็นพันธมิตรตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ซีบาลนั้นคิดต่างออกไป แทนที่จะปล่อยคริสไปให้กลายเป็นเสี้ยนหนามในอนาคต มันต้องการบดขยี้คริสให้สิ้นซากเสียตรงนี้
ซีบาลลุกขึ้นยืนขวางทางคริสไว้และแสยะยิ้ม
"ข่าวลือที่นายเข้าร่วมกับกริดเป็นความจริงสินะ"
"คริสกับกริดงั้นหรือ"
หัวหน้ากิลด์คนอื่นที่เคยนั่งเฉยชา บัดนี้เริ่มมีปฏิกริยา คริสพลันขมวดคิ้ว
"ฉันเนี่ยนะเข้าร่วมกับกริด นายพล่ามไร้สาระอะไรอยู่"
"คนของฉันได้พบนายที่จุดเก็บเลเวลโดยบังเอิญ… อาวุธที่นายถือตอนนั้น เหมือนกับหนึ่งในอาวุธที่กริดใช้ทุกประการ"
บรรยากาศภายในห้องประชุมพลันตึงเครียด
สนุกสนานมากมายครับ
ReplyDelete