จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 181



       บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่า  บองเดรมีโอกาสคว้าชัยชนะมากกว่า

       『 จอมอาคมน้ำแข็ง  คือคลาสจอมเวทย์สายป้องกันที่ขึ้นชื่อในด้านตรึงศัตรู  ทุกเวทย์ที่โจมตีจะส่งผลให้ศัตรูติดการอาการเชื่องช้าหรือไม่ก็น้ำแข็งกัด  บางเวทย์สามารถแช่แข็งเป้าหมายได้ชะงักงัน  ถือเป็นคลาสที่มุ่งเน้นการสร้างอาการผิดปรกติอย่างแท้จริง 』 

       『ไม่เพียงเท่านั้น  ทักษะป้องกันตนเองของจอมอาคมน้ำแข็งยังถือเป็นที่โด่งดัง  เวทย์จำพวกบาเรียมีอยู่หลากหลายชนิด  โดยเฉพาะบาเรียที่ป้องกันความเสียหายทางการภาพ  ถือเป็นคลาสที่ตรึงศัตรูได้อยู่หมัดและมีการตั้งรับก็เป็นเลิศในคนเดียว  นับว่าชนะทางคลาสสายโจมตีกายภาพอย่างมาก』

       『แต่แน่นอนว่า  ทุกคลาสย่อมมีจุดอ่อน  อำนาจการสร้างความเสียหายของคลาสจอมอาคมน้ำแข็งจัดว่าด้อยเกือบจะที่สุด  จึงไม่เป็นที่นิยมในปาร์ตี้ล่าบอสและปาร์ตี้เก็บเลเวลนัก  ทว่า  ด้วยความที่พลังชีวิตของผู้เล่นนั้นต่ำมากหากเทียบกับมอนสเตอร์  ทำให้คลาสจอมอาคมน้ำแข็งจัดเป็นคลาสที่ทรงพลังในลานประลองอย่างไม่ต้องสงสัย』

       『หืม… ถ้าหากความสามารถในการสร้างอาการผิดปรกติคือจุดเด่นของจอมอาคมน้ำแข็ง  ดูเหมือนกริดจะเป็นฝ่ายได้เปรียบนะครับแบบนี้  เพราะเขาได้แสดงให้เห็นถึงการต้านทานอาการผิดปรกติอย่างสิ้นเชิงจากทักษะของบูบัติในการแข่งทำลายวัตถุ  หากเข้าใจไม่ผิด  กริดต้านทานอาการผิดปรกติทุกอย่าง  แล้วอย่างนั้นบองเดรจะไม่แย่เอาหรือ?』

       『นั่นก็ใช่  แต่ยังมีข้อยกเว้นอยู่ครับ  ถึงกริดจะไม่ได้รับอาการผิดปรกติเลยก็จริง  แต่เขาไม่มีทางเอาตัวรอดจากน้ำแข็งได้แน่ 』

       『ทำไมกันครับ?』

       『บองเดรมีทักษะจำพวก <กีดขวาง> อย่าง <คุกน้ำแข็ง> และ <ใยแมงมุมน้ำแข็ง> ที่จะทำการกีดขวางไม่ให้กริดเคลื่อนไหวได้  ดังนั้นถึงจะต้านทานอาการผิดปรกติไปก็ไม่มีประโยชน์  กริดจะต้องถูกตรึงให้อยู่ในสถานที่แคบ  และคงถูกปิดฉากด้วย <ศูนย์องศาสัมบูรณ์> อันเลื่องชื่อ』

       『อ๋อ… กริดจะถูกจำกัดการเคลื่อนไหวสินะครับ? 』

       『ถูกต้อง  คุณอย่าลืมว่าลานประลองเป็นเกาะ  หากโดยรอบเป็นทะเล  หมายความว่าในบรรยากาศย่อมมีความชื้นสูง  ทักษะติดตัวอย่างหนึ่งของจอมอาคมน้ำแข็งก็คือ <พลังเวทย์และระยะเวลาร่ายเวทย์จะลดลง 20% หากอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีน้ำมาก>  นับว่าบองเดรคือผู้ที่ได้รับผลนี้ไปเต็มๆ   ผมเกรงว่าเขาอาจไม่แพ้ให้กับใครเลยสักคน 』

       『แพ้ชนะไม่สำคัญเท่ากับเราจะได้เห็น <ใยแมงมุมน้ำแข็ง> ที่ร่ำลือกันว่างดงามมาก!』

       ไม่เพียงแต่จะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ  แต่ใยแมงมุมน้ำแข็งยังมีความสวยงามอลังการอีกด้วย  

       มันคือเวทย์มนต์ที่มีรูปร่างเหมือนกับใยแมงมุมซึ่งจะถูกสร้างขึ้นจากความชื้นในอากาศ  เป้าหมายจะถูกพันธนาการจากทุกทิศทางจนมิอาจขยับได้  และลงท้ายด้วยการตกเป็นเหยื่อของบองเดรในที่สุด  

       เมื่อสามเดือนก่อน  บองเดรความแชมป์ทัวนาเม้นลานประลองที่จัดขึ้นโดย JIN  บริษัทกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น  โดยเวทย์สำคัญในการแข่งคราวนั้นคือใยแมงมุมน้ำแข็ง  เขาสามารถจัดการกับ <แค็ทซ์> ได้อย่างอยู่หมัด  ทั่งที่แค็ทซ์นั้นเป็นถึงทายาทในเครือบริษัท JIN และคลาสเกรดอีปิกคนที่ 3 ของโลก

       "นั่นสินะครับ  จะคลาสเกรดอะไรก็ไม่สำคัญ  คลาสของบองเดรเป็นเกรดทั่วไปด้วยซ้ำ  แต่กลับขย้ำคลาสเกรดอีปิกได้ง่ายดายเช่นนั้น?  เขาย่อมไม่กลัวกริดแน่  แม้อีกฝ่ายจะมีคลาสเกรดเลเจนดารีก็ตาม"

       "บองเดรเป็นผู้เล่นที่ฉลาดและเล่นด้วยยากที่สุด  ไม่เหมือนกับฮูเร็น  ผมว่าคราวนี้กริดเจองานหนักของจริงแล้ว"

       บรรดาผู้ชมชาวฝรั่งเศสต่างแสดงอาการเห็นด้วยกับผู้บรรยายทันที  พวกเขามั่นใจว่าชัยชนะต้องตกเป็นของบองเดรแน่นอน  

       ความศรัทธาเหล่านี้ล้วนมีที่มา  เพราะบองเดรไม่เคยพ่ายแพ้ในการดวลมาก่อนเลยสักครั้ง  

       เขาไม่ได้ถูกขนานนามว่า <บองเดรผู้รบร้อยชนะร้อย> อย่างไร้เหตุผล

       ทว่าหากไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสล่ะก็  เสียงของกองเชียร์เริ่มแตกแยกไม่เหมือนก่อนอีกแล้ว

       "ฉันจะไม่เชื่อพวกนักวิเคราะห์บ้าบอนั่นอีก"

       "ใช่แล้ว  ครั้งฮูเร็นพวกมันก็พูดแบบนี้  ฮูเร็นไม่มีทางแพ้กริดบ้างละ  แล้วผลเป็นไง?"

       "แต่ความแข็งแกร่งของบองเดรคือสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้  ตำนานไร้พ่ายของเขายังไม่เคยถูกโค่น..."
       
       "นั่นก็จริง  แต่เลเวลของบองเดรน้อยกว่าฮูเร็นอีกไม่ใช่หรือ?  ฉันว่ากริดอาจทำได้นะ  ฉันอยากจะเชื่อแบบนั้น"

       มาดูทางฝั่งชาวเกาหลีใต้กันบ้าง

       >>  บองเดรผู้รบร้อยชนะร้อยงั้นหรือ… แน่ล่ะ  กริดเจองานช้างเข้าแล้ว 

       >>  ก็อดกริดชนะแน่

       >>  บองเดรคือแร้งเกอร์หัวกะทิที่ขึ้นชื่อในด้านไหวพริบ  พวกนายลืมวีรกรรมของเขาในการแข่งฝ่าวงกตไปแล้วหรือ?  ไม้เด็ดของกริดอย่าง <หน่วง> ถูกเผยไต๋ออกมาในตอนสู้กับฮูเร็นไปแล้ว  บองเดรไม่มีทางหลงกลนั้นแน่

       >>  ถ้ากริดเข้าประชิดตัวได้  เขาจะต้องชนะแน่นอนไม่ใช่รึไง?

       >>  จอมอาคมน้ำแข็งมีบาเรียป้องกันเป็นเลิศ  คงเป็นการยากที่กริดจะทำอะไรได้  และเมื่อกริดทำอะไรไม่ได้  โอกาสของบองเดรก็จะมาถึง

       >>  กริดไม่น่าจะเข้าประชิดตัวบองเดรได้แต่แรกอยู่แล้ว  ด้วยความสัตย์จริง  จอมอาคมน้ำแข็งเก่งเกินไปในการดวล  จะเรียกว่าโกงก็ยังได้  จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวคือการเก็บเลเวลที่แสนลำบาก

       >>  แต่บองเดรมีเลเวลอยู่ในอันดับ 11 ของโลกนะ
       
       >>  หมายความว่าหมอนั่นมันปีศาจไง  เล่นคลาสที่เก็บเลเวลยาก  แต่ยังเป็นถึงอันดับ 11 ของโลก  จะมีคำอธิบายอะไรได้อีก? 

       >>  กริดเองก็มีพลังแห่งไอเท็มอยู่นะ

       >>  พวกนายเริ่มทำตัวเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว

       >>  ใครกันที่บอกว่ากริดไม่มีวันเอาชนะฮูเร็นได้?  แล้วผลล่ะ?  5 วินาทีเท่านั้น!  อย่าทำเหมือนรู้ดีไปทุกเรื่องนักเลย

       >>  หุบปากแล้วสรรเสิญก็อดกริดซะ!
       
       "ดูเหมือนคู่ต่อสู้ในรอบต่อไปจะเก่งมากเลยสินะ"

       พ่อและแม่ยองวูไม่อาจเก็บซ่อนสีหน้าที่เป็นกังวลไว้ได้  ผู้บรรยายในทีวีเล่นเอาแต่วิเคราะห์ว่า  บุตรชายของพวกเขาน่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในครั้งนี้

       เซฮีจึงต้องพูดอะไรบ้างเพื่อให้พวกท่านรู้สึกดีขึ้น

       "พี่ต้องชนะแน่"

       เพราะก่อนจะสู้กับคนที่ชื่อฮูเร็น  ทั้งโลกก็ไม่มีใครคาดคิดว่าพี่ชายของเธอจะเอาชนะได้เหมือนกัน  แล้วผลล่ะ?  5 วินาทีเท่านั้น  เซฮีคิดว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้

       'พี่ทุ่มเวลาให้กับซาทิสฟายมากกว่าใคร...'

       แม้เซฮีจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับซาทิสฟายมากนัก  แต่มันเป็นการยากที่จะให้เชื่อว่า  พี่ชายของเธอผู้ที่ทุ่มเทเวลาตลอดทั้งวันให้ซาทิสฟาย  จะพ่ายแพ้ให้กับใครสักคน

       'ใช่ไหมพี่?  พี่ทำได้แน่'

       พี่ชายของเธอที่เคยถูกสังคมเพิกเฉยตลอดมา  แต่ยามนี้เขากลับกลายเป็นดาราที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก  เซฮีดีใจกับเรื่องนี้มาก  เธอภูมิใจกับพี่ชายคนนี้มากจริงๆ

       ***

       ณ ห้องพักนักกีฬาเกาหลีใต้

       สีหน้าของยูร่ากำลังเป็นกังวลอย่างหนัก  เพราะหลังจากยองวูเอาชนะฮูเร็นได้  เขาก็ยังไม่กลับมาที่นี่เลย  ส่วนไปไหนก็ไม่มีใครทราบ

       'เราต้องแนะนำวิธีสู้ในรอบต่อไปให้ยองวู...'

       บองเดรเป็นผู้เล่นสไตล์ตรงข้ามกับฮูเร็นโดยสิ้นเชิง  ยูร่าเคยแพ้พ่ายให้กับบองเดรมาแล้ว  แม้ยองวูจะเอาชนะฮูเร็นได้ใน 5 วินาทีและสร้างตำนานบทใหม่ของโลก  แต่เธอก็ยังเป็นกังวลว่านั่นอาจทำให้เขาประมาทคู่แข่ง

       'ถ้าถูกขังด้วยคุกน้ำแข็งหรือใยแมงมุมน้ำแข็งล่ะก็...  ยองวูคงขยับดาบไม่ถนัดแน่'

       ดาบใหญ่ของยองวูยาวกว่าสามเมตร  เมื่อถูกขังอยู่ในที่แคบ  การจะเหวี่ยงดาบเพื่อทำลายพวกมันออกมาจึงแทบเป็นไปไม่ได้  และนั่นก็จะกลายเป็นจุดจบอย่างไม่ต้องสงสัย    ยองวูที่ถูกคุมขังคงสิ้นท่าให้กับศูนย์องศาสัมบูรณ์ในพริบตา

       'ต้องให้เขารีบจบเกม  ก่อนที่บองเดรจะสร้างคุกน้ำแข็งหรือใยแมงมุมน้ำแข็งสำเร็จ'

       ยูร่าต้องการจะบอกสิ่งเหล่านี้กับยองวู  แต่เขากลับไม่ยอมรับโทรศัพท์  และตอนนี้ก็หายไปไหนไม่รู้  คำแนะนำจึงยังส่งออกไปไม่ถึง

       'ถ้าเขาประมาทล่ะก็...'

       ในขณะที่ยูร่ากำลังเป็นกังวล...

       ยองวูได้แอบไปพบกับคนๆ หนึ่งในสถานที่ลับตา

       "สวัสดี  ชื่อของฉันคือ <เรล สมิธ>  ส่วนชื่อตัวละครในเกมคือ <ลอเอล>"

       ชายที่กำลังแนะนำตัวในตอนนี้  เขาดูเด็กเกินกว่าจะเรียกผู้ใหญ่  และดูแก่เกินกว่าจะเรียกเด็กหนุ่ม  อายุคงอยู่ในช่วงใกล้ยี่สิบปี  ผมสีบลอนด์  ผิวพรรณขาวเนียน  ดวงตาสุขุมเยือกเย็น  ริมฝีปากเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ  หน้าผากกว้างได้สัดส่วน  คางเรียวแหลม  

       เป็นชายหนุ่มรูปงามที่ราวกับหลุดออกมาจากภาพยนต์วัยรุนของอังกฤษ

       เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก  ก็มากพอจะทำให้ยองวูเกลียดขี้หน้าได้ทันที

       "แล้วมีอะไร?  เรียกฉันมาที่นี่ทำไมกัน?"

       ลอเอลพลันตกใจกับท่าทีมุ่งร้ายของกริดทั้งแต่แรกเห็น  เขาจึงรีบอธิบายจุดประสงค์

       "รับฉันเข้ากิดล์เซดาก้าห์… ไม่สิ  รับฉันเป็นลูกน้องของนายด้วย"

       กริดย่อมรู้ดีกว่าลอเอลคือใคร  เพราะเป็นชื่อที่ไอเบลลินเอ่ยถึงบ่อยครั้งมาก

       'อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ'

       ผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ไอเบลลินยกให้เป็นคู่แข่ง  ชายคนนั้นกลับอยากมาเป็นลูกน้องยองวูงั้นหรือ?  ยองวูเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะถามออกไปอย่างไม่เกรงใจ

       "ทำไมถึงอยากมาเป็นลูกน้องฉัน?  หรือนายอยากให้ฉันสร้างไอเท็มให้?"

       "ถูกต้อง"  ลอเอลตอบอย่างซื่อตรง

       ยองวูพยักหน้าทันที

       "ก็ได้"

       "หืม?"

       ลอเอลถึงกับไปไม่เป็นเมื่อยองวูรับเขาเป็นลูกน้องอย่างง่ายดาย  อันที่จริง  ลอเอลคิดว่ายองวูจะลีลากว่านี้  ทุกสิ่งที่เตรียมมาโน้มน้าวใจพลันไร้ค่าไปในทันที

       "ยิ่งมีทาสเยอะ  นั่นก็ยิ่งดีกับฉัน"

       "..."  ลอเอลฟังภาษาเกาหลีใต้ไม่ถนัดนัก  เขาจึงไม่แน่ใจว่า <ทาส> ที่ยองวูพูดหมายถึงอะไร  แต่หากจับใจความเอาจากรูปประโยค  คำๆ นั้นจะต้องมีความหมายในลักษณะเดียวกับ <ลูกน้อง> แน่นอน

       "ขอบคุณที่รับฉันเป็นลูกน้อง  ตราบใดที่นายมอบสิ่งที่ฉันต้องการให้ได้  ฉันสบานว่าจะจงรักภักดีกับนายคนเดียวตลอดไป"
  
       "เข้าใจแล้วน่า"

       ลอเอลพูดพร่ำเพ้อมากพิธีการจนยองวูรำคาญ  คนแบบนี้เขาเคยเจอมาก่อน  ไม่ใช่ใครอื่น  แต่เป็นฮิวรอยนั่นเอง

       'ไม่เลว'

       ระยะหลังมานี้  <เครื่องมือหาแร่อเนกประสงค์> อย่างไมเนอร์ชักจะแนะนำสถานที่ขุดแร่ยากๆ มาให้  

       อย่างเช่นเกาะคอร์กเป็นต้น

       'ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องรับมือกับเฮลกาโอไปด้วย  ขุดแร่ไปด้วยในเวลาเดียวกัน  เราจำเป็นจะต้องมีคนคุ้มกันให้มากขึ้นเพื่้อรับมือกับสิ่งเหล่านี้'

       ที่จริงกริดก็มีอัศวินรับใช้ที่ชื่อ <จู๊ด> อยู่แล้ว  ทว่าจู๊ดเป็นเอ็นพีซี  เขามีชีวิตเดียว  คงเป็นการเสี่ยงเกินไปหากจะพาจู๊ดไปยังสถานที่อันตราย

       ดังนั้น  ลอเอลที่เป็นผู้เล่นจึงเหมาะสมอย่างมาก  ในขณะที่ยองวูยิ้มอย่างพึงพอใจ  ลอเอลก็ได้ให้คำแนะนำแรกในฐานะลูกน้องทันที

       "นายต้องระวังบองเดรให้ดี  อย่าให้เขามีโอกาสสร้างคุกน้ำแข็งหรือใยแมงมุมน้ำแข็งสำเร็จ"

       "ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ  ว่าทั้งคุกและใยแมงมุมน้ำแข็งคืออะไร  แต่ในเมื่อเป็นเวทย์มนต์  มันก็ต้องใช้เวลาร่าย  ฉันเข้าใจถูกรึเปล่า?"

       "...ก็ใช่  แต่นายจะเข้าถึงตัวเขาได้ลำบากหน่อย"

       บองเดรสามารถสร้างบาเรียที่มีขนาดราว 1 เมตรได้ภายใน 1.5 วินาที   ถึงกริดจะเข้าประชิดตัวได้เร็วเพราะไม่ติดอาการ <เชื่องช้า> <น้ำแข็งกัด> และ <แช่แข็ง>   แต่ก็จะถูกบาเรียน้ำแข็งถ่วงไว้เป็นเวลานาน

       "และกว่านายจะทำลายบาเรียได้  บองเดรก็คงร่ายเวทย์ของเขาเสร็จพอดี"

       แล้วยังไงกันล่ะ?  ใช้ทักษะระยะไกลก็หมดเรื่อง

       "ถ้าเป็นฉันล่ะก็..."

       ยองวูพลันโบกไม้โบกมือทันทีที่ลอเอลพยายามจะแนะนำจังหวะการใช้มายาร่ายรำ

       "ฉันจัดการได้น่า"

       "เข้าใจแล้ว"

       ให้ลิ้มรสความผิดหวังสักหน่อยจะเป็นอะไรไป  ลอเอลคาดว่ายองวูที่หัวรั้นจะต้องแพ้บองเดรแน่นอน  และนั่นก็จะทำให้ความโอหังลดลงไปหลายส่วน  ลงท้ายด้วยการยมอมเชื่อฟังผู้อื่นมากขึ้น  

       แต่ลอเอลคงไม่มีวันรู้  กว่ายองวูจะมีวันนี้ได้  เขาต้องพ่ายแพ้มามากเท่าไร

       'ช่างเถอะ  เราคงล้มบองเดรได้ใน 5 วิเหมือนเดิม'

       ณ ตอนนี้  ยองวูไม่ได้กำลังโอหัง  แต่เขาคือคนที่รู้จักความแข็งแกร่งของตนเองดีที่สุดต่างหาก

       'เราเจ๋งที่สุดอยู่แล้ว'

       ฮูเร็นเคยเหยียดหยันว่ากริดเป็นเหมือนกับมอนสเตอร์บอส  เป็นแค่ไอ้งั่งที่มีแต่พละกำลัง  การเคลื่อนไหวเชื่องช้าและเดาทางได้ง่าย  

       แต่รู้อะไรไหม?  พวกมอนสเตอร์บอสไม่ใช่สิ่งที่จะล้มได้คนเดียวง่ายดายขนาดนั้น  ทั้งสันตะปาปา  ผู้พิทักษ์พงไพรร่างจริง  และมาถึงเฮลกาโอ  ฮูเร็นเคยล้มบอสเหล่านี้ตามลำพังบ้างแล้วรึยัง?  ถึงจะเคยต่อสู้มามากมาย  แต่ฮูเร็นคงไม่เคยเอาชนะได้ด้วยตัวคนเดียวแบบกริดแน่

       'เจ้าบ้าฮูเร็นนั่นไม่ได้เข้าใจอะไรเลย'

       ยองวูไม่สนใจคนแบบนั้นอีก  จอมโม้เหม็นอย่างฮูเร็นถูกเขาบดขยี้ภายใน 5 วินาทีไม่ใช่รึไง?  เมื่อยิ่งคิด  ยองวูก็ยิ่งอดขำไม่ได้

       "ฮุฮุฮุ"  ยองวูพยายามกลั้นขำ

       『หลังจากนี้อีกไม่นาน  การแข่งในรอบ 16 คนสุดท้ายคู่แรกก็จะเริ่มขึ้น  ขอเชิญนักกีฬาที่เข้าแข่งไปรอที่ห้องแคปซูลได้เลยครับ』       

       ยองวูเดินไปตามเสียงของผู้บรรยาย

       "ฉันอยู่คนละมิติกับพวกนาย"

       ตำนานเพียงคนเดียว  เขาต้องการจะแสดงให้โลกเห็นว่า

       ทำไมตำนาน  ถึงถูกเรียกว่าตำนาน

       『กริดผู้ซึ่งล็อกเอาต์ออร่ามาสเตอร์อย่างไฮูเร็นภายใน 5 วินาที  ปะทะกับ  บองเดรผู้ไร้พ่าย! ผู้ชมทั่วโลกนับร้อยล้านและผู้ชมในสนามกว่าสองแสนคน!  แมทช์หยุดโลก!  เริ่มขึ้น ณ บัดนี้! 』

       ซู่ววว!

       ตัวละครของกริดและบองเดรถูกส่งออกมา ณ ลานต่อสู้อันว่างเปล่าใจกลางปราสาทไลอ้อน

       "เขตแดนน้ำแข็ง!"

       บองเดรไม่รีรอ  เขารีบเปลี่ยนบรรยากาศโดยรอบให้ตนเองถือไพ่เหนือกว่า

       แกร่ก แกร่ก แกร่ก!

       พื้นดินในรัศมี 50 เมตรกลายเป็นน้ำแข็งในพริบตา  หากกริดทำการก้าวขาล่ะก็  รับรองได้ว่าต้องล้มหัวคะมำแน่นอน  

       กริดยังคงยืนอยู่ที่เดิม  ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายแม้แต่นิดเดียว

       บองเดรหัวเราะอยู่ภายในใจ

       'เราผนึกการโจมตีของหมอนี่ได้แล้ว'

       กริดจำเป็นต้องก้าวขาอย่างน้อย 4 ครั้งเพื่อรำดาบ  แต่ตอนนี้เขามิอาจเคลื่อนไหวไปบนพื้นน้ำแข็งได้สะดวกนัก  

       แต่ถ้าหากกริดไม่ลื่นล่ะ?

       'แท่งน้ำแข็งที่ยื่นออกมาจะขัดขวางไม่ให้กริดรำดาบได้แน่นอน'

       มีเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้น  ในเมื่ออยู่บนพื้นแล้วทำอะไรไม่ได้  กริดก็ต้องใช้ทักษะเพื่อบินขึ้นท้องฟ้า  และนั่นคือกับดักที่บองเดรวางไว้เพื่อเตรียมใช้ใยแมงมุมน้ำแข็ง

       'ฉันจะจบมันด้วยศูนย์องศาสัมบูรณ์'

       ในขณะที่กำลังรอดูท่าทีของกริด  บองเดรก็แสยะยิ้มอย่างผู้มีชัยไปพร้อมกัน  

       ทว่า  กริดกลับตอบโต้ด้วยการเหวียงดาบใหญ่สีดำในมือออกมาด้านหน้าเพียงเบาๆ  

       "ประกายสีทอง!"
       
       ซู่ววววว!

[ ประกายสีทอง ]
       ทักษะที่ติดมากับดาอินสเลฟ (แบบจำลอง)
_______     
* สร้างความเสียหายให้กับศัตรูทุกเป้าหมายในเส้นทางที่ลำแสงสีทองพุ่งผ่านไป
* ความรุนแรง 1,000% ของพลังโจมตีเวทย์มนต์
_______
มานาที่ใช้ : 500 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 1 ชั่วโมง

       ประกายสีทองคือทักษะที่ไม่ต้องร่ายเวทย์หรือรำดาบให้เสียเวลา  แถมความเร็วในการพุ่งเข้าหาเป้าหมายก็จัดว่ายอดเยี่ยมเมื่อใช้ในสถานที่โล่งกว้างเช่นนี้ 

       เพียงแต่ว่า...

       กริดซึ่งแต่เดิมเป็นคลาสนักรบ  เขาจึงไม่อยากใช้ประกายสีทองที่เป็นเวทย์มนต์มากนัก  

       แต่กริดในปัจจุบันนั้น...

ชื่อตัวละคร : กริด
เลเวล : 253 
ค่าประสบการณ์ :  11,090/39,556,900
คลาส : ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
* เมื่อสร้างไอเท็ม  มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น
* เมื่อเสริมพลังไอเท็ม  มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
* สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข  แต่จะมีผลข้างเคียงขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ
_______
สมญานาม :  ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน
* สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร
* เมื่อพลังชีวิตหมดลง   ท่านจะยังไม่ตายในทันที
* เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น
_______
สมญานาม : ผู้สร้างไอเท็มเกรดยูนีคคนแรก
* ค่าความชำนาญ +200 แต้ม
_______
สมญานาม : ผู้รังสรรค์ไอเท็มเกรดเลเจนดารีหนึ่งเดียวของโลก
* ค่าความชำนาญ +350 แต้ม
_______
สมญานาม : ผู้สังหารอัศวิน
* ค่าความอดทน +100 แต้ม,  ค่าพละกำลัม +30 แต้ม
_______
สมญานาม : สาวกเที่ยงธรรม
* ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 แต้ม
* ทักษะติดตัว 'ความกล้าหาญที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ'
_______
สมญานาม : ผู้สัมผัสกับขุมนรก
* พลังชีวิต +3,000
* ท่านมีสิทธิ์ลงไปในขุมนรกได้อย่างชอบธรรม
_______
พลังชีวิต:   48,778/48,778 (+9,000) 
มานา: 5,118/5,118
พละกำลัง:  2,314(+40)
ความอดทน: 1,182(+110)
ความว่องไว:  647(+10)
สติปัญญา: 643(+210)
ความชำนาญ: 1,384(+560)
ความพากเพียร: 808(+10)
ความเยือกเย็น: 594(+10)
ความทรหด: 675(+10)
ความเกรงขาม: 594 (+10)
วิสัยทัศน์:  907(+10)
ความกล้าหาญ: 538 (+10)
พลังอสูร : 2(+10)
แต้มสถานะคงเหลือ : 230
น้ำหนักสัมภาระ:  45,019/110,520

        ค่าสติปัญญาของกริดจะสูงถึง 853 เมื่อสวมใส่ผ้าคลุมมาลาคัส  ด้วยการลืมตาตื่นของค่าสถานะในช่วงเลเวล 200  พลังโจมตีเวทย์มนต์จะเพิ่มขึ้น 2 หน่วยในทุกๆ 1 แต้มสติปัญญา

       ทั้งหมดทั้งมวลส่งผลกริดมีพลังโจมตีเวทย์อยู่ที่ 1,706 หน่วย  แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากใช้ทักษะที่มีความรุนแรง 1,000% ของพลังโจมตีเวทย์?  

       "อะไรกัน...?"

       ไม่ใช่ว่ากริดต้องรำดาบทุกครั้งก่อนใช้ทักษะงั้นรึ?  แล้วนี่มันหมายความว่ายังไง?  บองเดรคาดไม่ถึงมาก่อน

       "บาเรียน้ำแข็ง!"

       บองเดรลนลานใช้เวทย์ป้องกันตัวออกมาทันที  

       <บาเรียน้ำแข็ง> คือเวทย์ที่มี <พลังป้องกันกายภาย> สูงสุดเท่าที่บองเดรจะร่ายออกมาได้  

       ทว่ามันกลับต้องไร้ค่า  เมื่ออยู่ต่อหน้าประกายสีทองที่สร้างความเสียหายเป็นเวทย์มนต์

       เพล้ง!

       "เฮ้ย...!"

       ประกายสีทองทะลวงผ่านชั้นบาเรียเข้ามาได้อย่างง่ายดาย  ด้วยพลังอำนาจอันรุนแรง  ส่งผลให้บาเรียน้ำแข็งแตกละเอียดในพริบตา

[ ท่านได้รับความเสียหาย 12,530 หน่วย ]

       และแน่นอน  หากผู้เล่นได้รับความเสียหายเกิน 40% ของพลังชีวิตสูงสุดในการโจมตีเดียว  เขาคนนั้นจะต้องตกอยู่ในอาการ <มึนงง> เป็นเวลา 3 วินาที  

       การโจมตีเมื่อครู่ทำให้บองเดรสูญเสียพลังชีวิตไปถึง 80%

[ ท่านยังไม่ได้สติ ]

       "บ--บ้าน่า...!"

       ร่างกายของมันพลันเย็นเฉียบ  หลังจากนั้นก็ตามด้วยรัศมีดาบนับสิบสายที่พุ่งเข้ามาปะทะใบหน้าอย่างรุนแรง

       "...!"

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

       เกิดเสียงระเบิดดังเป็นทางยาวจนทำให้ซากปรักหักพังของปราสาทไลอ้อนต้องสั่นสะเทือน  และเมื่อผู้บรรยายเห็นลำแสงสีเทาจางๆ ส่องสว่างขึ้น  เขาจึงรีบประกาศให้ทุกคนรับรู้

       『น--นักกีฬาบองเดร… ถูกล็อกเอาต์แล้วครับ...! 』

       คราวนี้คือ 4 วินาที  

       และแน่นอน  คำค้นหาอันดับ 1 ถูกเปลี่ยนเป็น <4 วินาที> แทนทันที  เป็นอีกครั้งที่ทั่วโลกต่างต้องตกตะลึง

       ซีบาลรีบลุกพรวดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา

       "ทำลายบาเรียน้ำแข็งได้ยังไง?  หรือว่านั่นจะเป็นเวทย์มนต์...!"

       ซีบาลไม่ได้สูญเสียความเยือกเย็นในตอนที่ฮูเร็นพ่ายแพ้  

       เพราะฮูเร็นนั้นติดประมาทและมั่นใจตนเองเกินไป  จึงถูกกริดสนองจุดอ่อนนั้นกลับมา  ไม่ใช่เพราะว่ากริดเก่งอย่างที่ทุกคนเข้าใจ

       แต่ความคิดของมันได้เปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้
       
       'ปีศาจ'

       กริดใช้ลุกไม้ตุกติกงั้นหรือ?  เปล่าเลย  เขาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น  มีเพียงพลังอำนาจที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด  พลังในระดับที่ซีบาลคาดไม่ถึง  

       เป็นพลังที่วัดค่าไม่ได้

       ใช่แล้ว  เหมือนกับครอเกล  ผู้ซึ่งจะยิ่งไร้คู่แข่งเมื่อก้าวขึ้นไปเป็นคลาสระดับ 3 ได้ก่อนใคร

       หลังจากนั้น  ผู้คนทั้งโลกต่างพากันสรรเสริญกริด

       เป็นครั้งแรกในรอบ 100ปี  ที่คนในชาติเกาหลีใต้สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวและตะโกนคำว่า <ก็อดกริด!>  

       ทางฝั่งผู้เชี่ยวกไชาญเองก็ไม่กล้าดูถูกเขาอีกแล้ว

       『คำพูดที่ว่า <สรรเสริญก็อดกริด> กำลังแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกอินเทอเน็ต  แม้แต่ตัวผมเองก็ยังอยากสรรเสริญก็อดกริดด้วยเหมือนกัน』

       『เรื่องนั้น… ผมก็ด้วย...』

       『 … 』

       ในเกมซาทิสฟาย

       ณ  แม็พเก็บเลเวลทั่วไป  เมื่อพีคซอร์ดเห็นว่าผู้เล่นร่วมปาร์ตี้เป็นชาวต่างชาติ  เขาจึงรีบถามขึ้นทันทีด้วยสำเนียงอังกฤษอันพังพินาศ

       "พวกคุณรู้จักกริดไหม?"

Comments

  1. ยังเหลือทักษะที่ไม่ได้ใช้อยู่อีก รายต่อไปคงไม่ใช่ 3 วนาทีนะ

    ReplyDelete
  2. 5555 .4วิ โหดสราดดดดด ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. โห เราก็นึกว่าผลัดกันรุกรับสักครึ่งนาที ที่ไหนได้ เร็วกว่าเดิมอีก

    ReplyDelete
  5. เจอแต่ตัวท๊อปๆ ต่อไปเจอคริสป่าวนะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00