จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 166
เคร้ง!
[ ท่านได้รับไอเท็ม <ศิลาอัคคี> จำนวน 1 ก้อน ]
ในขณะที่กริดรับมือเฮลกาโอไว้ให้ พีคซอร์ดก็ขุดศิลาอัคคีขึ้นมาได้สำเร็จ
'เราทำได้แล้ว!'
หินสีแดงที่ฝังลึกอยู่ใต้ดินเมื่อครู่ได้ปรากฏขึ้น พีคซอร์ดรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกประหนึ่งว่าได้ขจัดขี้มูกที่สั่งสมมานานแรมปีออกไปจากรูจมูก! นี่น่ะหรือ ความรู้สึกที่ได้ถอนรากถอนโคน
"เยี่ยม! ฉันทำได้แล้ว! ฉันขุดศิลาอัคคีได้แล้ว!"
เขาเล่นซาทิสฟายมานานกว่าปีครึ่ง ผ่านบททดสอบมาได้มากมาย ได้รับประสบการณ์มหาศาลจนก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 16 ของโลกสำเร็จ เขาสามารถเก็บเลเวลได้จากการออกล่ามอนสเตอร์ ล่าบอสที่แข็งแกร่ง และทำสงครามกับฝ่ายที่เป็นศัตรู และตอนนี้ ดวงตาของเขากำลังลุกวาวไปด้วยความรู้สึกแปลกใหม่
'เรารู้สึกพึงพอใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในวินาทีที่ดึงแร่ก้อนนั้นออกมาได้ หลังจากนี้เราควรไปเรียนขุดแร่ดีไหมนะ'
พีคซอร์ดรู้สึกถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม เขาหันไปโบกศิลาอัคคีให้กริดเบาๆ
"เป็นยังไงบ้าง ฉันทำได้ดีไหม"
กริดรับมือเฮลกาโอไปพลาง ฉวยจังหวะหันมายกนิ้วโป้งให้พีคซอร์ดไปพลาง
"ทำได้เยี่ยม"
"โอ้ว!"
สุดยอดไปเลย เขารู้สึกดีมากที่ถูกชายคนนี้กล่าวชื่นชม พีคซอร์ดหัวเราะอย่างมีความสุขได้ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาขมวดคิ้วด้วยสีหน้าบึ้งตึงอีกครั้ง
'ไม่สิ นี่เรากำลังทำอะไรอยู่'
เขาคือผู้เล่นอันดับ 16 ของโลกและหัวหน้ากิลด์ที่ยิ่งใหญ่อย่างซิลเวอร์ไนท์ แต่กลับมากระดิกหางดีใจให้กับคำชมของเด็กหนุ่มที่อายุแกกว่าเขาเป็นสิบปีงั้นหรือ
'ตื่นได้แล้ว!'
ในตอนแรก เขาได้ทวีความตื่นเต้นมากขึ้นหลายเท่า เมื่อรู่ว่าคลาสเกรดลีเจนดารีแรกของโลก ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า เป็นชาวเกาหลีใต้ พีคซอร์ดค่อยๆ ใจเย็นลงและเฝ้ามองการต่อสู้ของกริดกับเฮลกาโออย่างใกล้ชิด กริดค่อนข้างทำได้ดี เขาไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บมาก ในขณะที่เฮลกาโอนั้นเกิดบาดแผลเต็มตัว และข้อมือได้ถูกตัดออกไป
'ยอดเลยแฮะ'
มอนสเตอร์ดุร้ายที่คร่าชีวิตกิลด์ซิลเวอร์ไนท์กว่า 200 คนที่มีเลเวลเฉลี่ย 140 ได้ในพริบตา ยามนี้กำลังถูกผู้เล่นคนเดียวเป็นฝ่ายถือครองความได้เปรียบงั้นหรือ
'ความน่าเกรงขามของคลาสเลเจนดารี...'
ภาพสงครามไบรันลอยเข้ามาในหัวอีกครั้ง เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 4 เดือนก่อน และสร้างความฮือฮาไปได้ทั่วทั้งโลก
หนึ่งในกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกอย่างเซดาก้าห์ยังต้องถูกกองทัพอันยิ่งใหญ่ของวิหารยาธานกดดันจนหมดสภาพ
ในเวลานั้น พีคซอร์ดและสมาชิกกิลด์ที่เหลือต่างกำลังรวมตัวในผับเพื่อพูดคุย ทุกคนต่างคิดว่าเซดาก้าห์คงถึงจุดจบแล้ว ข้ารับใช้แห่งยาธานอย่างเนบีเรียสและบาลัคนั้นแข็งแกร่งเกินไป เซดาก้าห์เป็นรองทั้งจำนวนและคุณภาพ คงไม่มีปาฏิหารย์ใดให้รอดกลับไปได้อีกแล้ว
แต่ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเปลี่ยนกระแสของสงครามโดยการโยนเสื้อเกราะให้แวนเนอร์ และโยนดาบให้ทูน หลังจากนั้นก็ใช้สิ่งที่เรียกว่า <วิชาดาบแพ็กม่า> ต่อสู้กับเนบีเรียส พีคซอร์ดและกลุ่มเพื่อนพลันเลือดร้อนพร้อมส่งเสียงเชียร์ตามอย่างลุ้นระทึก อาจไม่เกินจริงเลยด้วยซ้ำ หากจะบอกว่าทั้งโลกเองก็คงไม่ต่างกันในวินาทีนั้น
หลังจากจบสงคราม
แม้ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าจะมียุทธภัณฑ์สวมใส่ที่แข็งแกร่ง แต่ผู้คนทั้งโลกต่างก็เย้ยหยันในทักษะการควบคุมอันย่ำแย่ของเขา ทว่าพีคซอร์ดมองต่างออกไป แม้ตัวแพ็กม่าจะเป็นนักดาบที่ยอดเยี่ยม ว่าคลาสพื้นฐานก็ยังเป็นช่างตีเหล็กอยู่วันยังค่ำ มันจึงไม่ใช่เรื่องผิดที่จะพึ่งพาไอเท็มเป็นหลัก แถมการใช้ทักษะต่อสู้ก็ยังทำได้ไม่แย่นักสำหรับคลาสตีเหล็กแบบนี้
และที่ตรงหน้า
ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าที่เขาได้พบนั้นกำลังดึงประโยชน์ของคลาสตนเองออกมาได้ถึงขีดสุด ทั้งชุดเกราะและอาวุธที่ดูเหมือนจะอยู่ในเกรดเลเจนดารี แถมยังมีคมมีดสีทองที่ขยับเองได้นั่นอีก และยังมีแหวนสีฟ้าซึ่งดูเหมือนจะฟื้นฟูพลังชีวิตได้มหาศาล แม้กริดจะยังมีการควบคุมที่ต่ำอยู่เหมือนเดิม ทว่าด้วยไอเท็มพวกนี้ สามารถทำให้เขาอยู่ในระดับเดียวกับแร้งเกอร์หัวแถวได้ไม่ยาก
ความแข็งแกร่งของเฮลกาโอไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้จะเสียข้อมือไปแล้วทั้งสองข้าง แต่มันกลับยังสามารถสร้างกระแสโจมตีเพื่อข่มกริดไม่ให้ได้เปรียบไปมากกว่านี้ พีคซอร์ดเห็นท่าไม่ดีสักเท่าไร เขาจึงลงมือเหวี่ยงจอบต่อไปอีกครั้ง
'ต้องเร่งมือแล้ว เราต้องขุดศิลาอัคคีอีกสองก้อนให้ได้'
กริดคือความหวังใหม่ของเกาหลีใต้ ประเทศซึ่งถูกตราหน้าว่าอ่อนแอในซาทิสฟาย พีคซอร์ดเองก็อยากเป็นหนึ่งในบันไดที่ช่วยให้กริดพัฒนาขึ้น เขาอยากให้กริดล่าเฮลกาโอสำเร็จและอัพเกรดตัวเองขึ้นไป เพราะวันข้างหน้า กริดจะต้องกลายเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่แสดงให้คนทั้งโลกเห็นว่า เกาหลีใต้ไม่ได้อ่อนแออีกต่อไปแล้ว ทว่ายังเหลือขุนเขาลูกใหญ่อีกหลายลูกให้กริดต้องฝ่าฟันข้ามไป
"เริ่มขุด!"
เคร้ง! เคร้ง!
พีคซอร์ดเจอแหล่งขุดศิลาอัคคีก้อนใหม่แล้ว ยามนี้ เขาได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดลงไปให้กับการขุดแร่ และเป็นวินาทีที่ผู้เล่นอันดับ 16 ของโลกขอเปลี่ยนชื่อตนเองชั่วคราว เขาไม่ใช่พีคซอร์ด(ดาบใต้หล้า)อีกแล้ว แต่เป็นพีคพิกแอ็กซ์(จอบสองหัวใต้หล้า)
***
"เครียด… ฉันเครียดมาก!"
ณ ห้องพักรับรองของปราสาทไบรัน
รองหัวหน้ากิลด์ โทบัน เขากำลังหวั่นวิตกสุดขีด สมาชิกกิลด์ที่เพิ่งจะกลับมาจากการล่าพลันต้องขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าว
"เกิดอะไรขึ้น นายดูไม่มีชีวิตชีวาเลยนะ"
โทบัน ผู้ซึ่งกำลังใช้สองมือกุมหัวแล้วขยี้เล่นได้พูดขึ้น
"กริดออกไปขุดศิลาอัคคี..."
"แล้วมันเป็นยังไง"
"...เขาพูดว่า <เชื่อมือฉันเถอะ> ถึง 2 ครั้ง"
ครั้งแรกคือตอนที่เดินออกจากโรงตีเหล็ก ส่วนอีกครั้งหนึ่งคือตอนที่กำลังจะเดินเข้าดันเจี้ยน กริดพูดมันออกมาอย่างชัดเจนถึงสองหน
แกร่ก!
โทบันหวั่นวิตกจนเล็บหัก ส่วนสมาชิกกิลด์ทีเหลือต่างก็หน้าซีดเผือดไปตามๆ กัน
"กริด..."
"เขาพูดว่า <เชื่อมือฉันเถอะ>… แล้วยังสองครั้งติดด้วยงั้นเหรอ"
"อึก… หายนะมาเยือนแน่นอน"
เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่เซดาก้าห์ปกป้องหมู่บ้านจากวิหารยาธานไว้ได้ ตลอดทั้ง 4 เดือนที่ผ่านมา กริดได้สร้างไอเท็มให้เพื่อนร่วมกิลด์มากถึง 142 ชิ้น โดยแบ่งเป็นเกรดทั่วไป 25 ชิ้น เกรดแรร์ 84 ชั้น เกรดอีปิก 30 ชิ้น และเกรดยูนีคอีก 3 ชิ้น
เป็นความโชคร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ จนแม้แต่สมาชิกกิลด์ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า คำพูดที่กริดพ่ำบ่นอยู่เสมออย่าง <มีเจ้าหน้าที่เกมคอยกลั่นแกล้งฉันอยู่> จะเป็นความจริง
ในช่วงแรกของการเข้ากิลด์ ไอเท็มที่กริดผลิตขึ้นนั้นมีเกรดที่น่าตกตะลึง เขาสามารถสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารีได้ถึง 2 ชิ้นให้ไอเบลลินกับแวนเนอร์ในระยะเวลาสั้นๆ แต่แล้ว ไอ้ซากเศษขยะที่เกิดขึ้นตลอด 4 เดือนที่ผ่านมามันหมายความว่ายังไงกันแน่
ไอเท็มที่กริดผลิตขึ้นจะมีคุณภาพที่ดีกว่าไอเท็มเลเวลและเกรดเดียวกันอยู่ราว 20% ก็จริง แต่เหล่าสมาชิกกิลด์ต่างก็เก็บซ่อนความผิดหวังเหล่านั้นไว้ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีบางคนได้รับไอเท็มเกรดทั่วไปกลับไปจากกริด พวกเขาทำได้เพียงร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ใครจะคิดว่าช่างตีเหล็กในตำนานจะสร้างไอเท็มเกรดทั่วไปออกมา
และพวกเขาก็จับทางได้อย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่กริดสร้างไอเท็มออกมาเป็นเกรดทั่วไป ก่อนสร้างเขามักจะพูดว่า <เชื่อมือฉันเถอะ> ทุกครั้ง โดยกริดบอกว่า ที่เขาพูดเพราะมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะออกมาเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารี ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่สมาชิกกิลด์ได้ยินกริดพูดว่า <เชื่อมือฉันเถอะ> พวกเขาจะรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที และเกือบทุกครั้งไอเท็มก็จะออกมาเป็นเกรดต่ำสุด
และคราวนี้ก็เป็นอีกครั้ง...
"เชื่อมือฉันเถอะ..."
ในการจะสร้างโล่อัคคี ศิลาอัคคีจำนวน 3 ก้อนคือวัสดุหลัก กริดจะสามารถหาได้ครบสามก้อนจริงหรือ มันฟังดูไม่น่าเป็นไปได้เลยสักนิด โทบันได้แต่นั่งกังวลจนฟุ้งซ่าน ลางร้ายของเขามักเกิดขึ้นจริงเสมอ
สีหน้าของสมาชิกกิลด์คนอื่นๆ เองก็เผยให้เห็นถึงความผิดหวัง
"ถ้าหากเขาสร้างโล่อัคคีไม่สำเร็จ… พวกเราคงต้องเลื่อนการล่าบอสฟินิกซ์ออกไปเป็นคราวหน้าสินะ"
"ก็คงต้องเป็นแบบนั้น พวกเราไม่มีทางล่าฟินิกซ์สำเร็จแน่ ถ้าหากแทงค์หลักยืนไม่ไหว"
เป็นบรรยากาศที่ตึงเครียดกดดันพอดู หลังจากที่สมาชิกเซดาก้าห์ได้สวมไอเท็มที่กริดสร้างขึ้น ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็พุ่งทะยานจนไม่มีใครฉุดอยู่ ผู้พิทักษ์แห่งพงไพรร่างจริงถูกกำจัดเรียบร้อยแล้ว กิลด์เซดาก้าห์กำลังท้าทายเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
***
ณ ชั้น 4 ของดันเจี้ยนเกาะคอร์ก
ซู่ววว
โลหิตยังคงพุ่งออกมาจากบาดแผลที่ข้อมือของเฮลกาโอไม่หยุด
ชี่~!
เกิดเป็นควันและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เมื่อเลือดอันร้อนระอุสัมผัสกับพื้นห้อง กริดรีบใช้นิ้วอุดจมูกก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ทำไมเลือดของนายถึงได้มีกลิ่นเหม็นนัก"
"หุบปาก!"
ร่างกายเฮลกาโอล้วนเต็มไปด้วยบาดแผล กายาของครึ่งอสูรระดับสูงตนนี้อ่อนแอกว่าที่เฮลกาโอคาดไว้มาก และด้วยศิลาอัคคีก้อนที่สองซึ่งถูกขุดออกไป ทำให้พลังเวทย์ของเฮลกาโออ่อนแอลงเหลือเพียงครึ่งเดียว เปลวเพลิงทมิฬที่แสดงถึงขุมพลังอันยิ่งใหญ่ของมัน ยามนี้กว่าครึ่งถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นเพลิงสีเขียวหยก
ท่าไม่ดีแล้ว
'หรือเราจะพ่ายแพ้ให้กับพวกมนุษย์ชั้นต่ำอีกหนกันนะ...!'
มันเคยคิดว่า อริยะดาบมุลเลอร์คือตัวตนพิเศษเพียงคนเดียวในบรรดามนุษย์ทั้งหมด ทว่ามุลเลอร์ก็ตายไปร้อยกว่าปีแล้ว จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ ในที่สุดก็มีตัวตนพิเศษปรากฏต่อหน้ามันอีกครั้ง เป็นอย่างที่อสูรตนอื่นในนรกเคยกล่าวไว้ จงอย่าดูถูกศักยภาพของเผ่ามนุษย์
'เราคงถูกเย้ยหยันในนรกแน่ ถ้าหากต้องพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์ชั้นต่ำเป็นหนที่สอง!'
เฮลกาโอไม่ยอมแพ้
"ฉันจะฆ่าแกให้ได้!"
เฮลกาโอตะโกนขึ้นพร้อมกับสะบัดแขนอย่างรุนแรง โดยมันพยายามเล็งให้เลือดที่พุ่งออกจากข้อมือกระเด็นไปโดนกริด
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,850 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,790 หน่วย ]
'ได้รับความเสียหายจากหยดเลือดเนี่ยนะ นี่มันปีศาจบ้อบออะไรกัน!'
ในขณะกริดกำลังตกตะลึง เฮลกาโอก็ใช้เปลวเพลิงแผดเผาข้อมือตนเองเพื่อปิดแผลไม่ให้เลือดไหล หลังจากนั้นก็พูดกับกริดด้วยสีหน้าและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นสุดขีด
"ฉันจะนำดวงวิญญานของแกลงไปอยู่ในนรกด้วยกันกับฉัน! แกจะต้องกลายเป็นทาสของฉันไปตลอดกาล!"
พรึ่บ!
เฮลกาโอเปลี่ยนวิธีสู้ ก่อนหน้านี้ในตอนที่ยังมีข้อมือ มันจะใช้ไม้เท้าเป็นอาวุธโจมตีหลัก และเพลิงโลกันต์เป็นการโจมตีรอง ทว่าในตอนนี้ในเมื่อไม่มีข้อมือแล้ว การโจมตีหลักจึงกลายเป็นเพลิงโลกันต์ไปโดยบริยาย มันจำต้องสู้แบบจอมเวทย์ สายลมร้อนๆ ไหลเวียนไปทั่วห้องพร้อมกับเพลิงโลกันต์ทันที
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
"อั่ก!"
กริดพยายามหลบเพลิงโลกันต์ด้วยความยากลำบาก เขาจึงไม่อาจเข้าใกล้เฮลกาโอได้เลยตอนนี้
'ใช่แล้ว เจ้านี่เป็นนักดาบ หากสู้โดยรักษาระยะไว้ เราย่อมได้เปรียบแน่'
เฮลกาโออ่อนแอลงไปครึ่งหนึ่งหากเทียบกับในตอนแรกที่ปรากฏตัวออกมา ทว่าในมุมมองของมนุษย์ พลังเวทย์ของมันก็ยังเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน มันสามารถสร้างบอลเพลิงโลกันต์ได้ทุกๆ 0.3 วินาทีและยิงใส่กริดได้อย่างอิสระ ประหนึ่งเป็นปืนเลเซอร์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งไม่มีวันหมด
"จงกลายเป็นขี้เถ้าไปซะ!"
บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
บอลไฟ 3 ลูกพุ่งตรงมาเป็นเส้นเดียว กริดซึ่งกำลังถูกล้อมรอบไปด้วยสายลมอันร้อนระอุ เขาจึงมิอาจขยับตัวได้ดั่งใจนึก แม้จะพยายามหลบอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
เป็นพาเฟรเนี่ยมที่เริ่มขยับตัว
ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!
คมมีดทั้ง 7 เรียงรายกันประกอบร่างที่ตรงหน้ากริด พวกมันค่อยๆ รวมตัวกันกลายเป็นบาเรียสีทองทรงสามเหลี่ยม
บึ้มมมม!
บาเรียสีทองปะทะกับเพลิงโลกันต์เข้าอย่างจังจนชะงักและหล่นลงไปบนพื้น ส่วนสายลมอันร้อนระอุที่เกิดจากการกระแทกได้เข้าปะทะกับร่างของชายหนุ่มด้านหลังอย่างจัง เฮลกาโอยังคงเล็งบอลไฟที่เหลือของมันตรงไปยังหัวใจของกริดและตะโกนขึ้น
"รีบตายไปซะ!"
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,900 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,150 หน่วย ]
[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 8,870 หน่วย ]
"อั่กกก!"
ตุ้บ!
หลังจากถูกกระหนำโจมตี กริดก็ทรุดลงกับพื้นในสภาพหัวสมองสับสนลนลาน
'เราเคยคิดว่ายกที่ 2 จะง่ายขึ้นหลังจากที่มันสูญเสียศิลาอัคคีไปแล้ว 2 ก้อน แต่เปล่าเลย เจ้านี่รับมือยากกว่าตอนที่มันใช้ไม้เท้าซะอีก'
เฮลกาโออ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัดในตอนที่พีคซอร์ดขุดศิลาอัคคีก้อนที่สองขึ้นมาได้ ความรุนแรงของเพลิงโลกันต์ลดลงก็จริง แต่ก็ยังเรียกได้ว่าแข็งแกร่งอยู่มาก กริดยังคงประเมินพลังของเฮลกาโอผิดไป
'เราต้องย่นระยะให้ได้...'
ที่จริงเขาจะใช้ <มายา> เพื่อเปลี่ยนการโจมตีให้เป็นระยะไกลก็ยังได้ ทว่ามันมีผลเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น กริดจำเป็นต้องเก็บมันไว้เป็นไพ่ตาย ดังนั้นการย่นระยะตอนนี้จึงควรทำด้วยฝีมือตนเอง
แต่เฮลกาโอก็ระดมยิงเพลิงโลกันต์พร้อมกับควบคุมสายลมร้อนในห้องไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ วิธีการเข้าประชิดตัวจึงไม่ง่ายเลยสำหรับกริด
พรึ่บพรึ่บพรึ่บ!
กริดซึ่งมีบาดแผลเต็มตัวไม่อาจเคลื่อนไหวร่างกายได้อิสระ ทันใดนั้น รอบกายของเฮลกาโอพลันปรากฏบอลไฟราว 30 ลูกขึ้นในพริบตา หลังจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยันออกมาจากปากของมัน
"วะฮ่าฮ่าฮ่า! แกจบสิ้นแล้ว!"
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม...!
บอลไฟทั้ง 30 ลูกพุ่งจู่โจมเข้าใส่จากทุกทิศทาง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่กริดจะป้องกันทั้งหมดด้วยคมมีดเพียง 7 เล่ม
'สงสัยต้องยอมเจ็บตัวแล้วล่ะมั้ง'
กริดตัดสินใจขว้างลูกดอกออกไปจากเข็มขัดจำนวน 3 นัด
ฉึกฉึกฉึก! ฟู่ว!
เกิดเป็นกลุ่มหมอกควันในจุดที่กริดยืนอยู่ และเป็นเวลาเดียวกันกับที่ลูกไฟทั้ง 30 พุ่งเข้าไประเบิดอยู่ภายในกลุ่มควันเหล่านั้น
บึ้มมมมมมมมม!
"บ้าน่า!"
พีคพิกแอ็กซ์ที่กำลังยืนเหวี่ยงจอบตรงมุมห้อง… ไม่สิ พีคซอร์ดต่างหาก เขาพลันล้มลงจากผลพวงของแรงระเบิดที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งดันเจี้ยน หลังจากนั้นก็รีบหันไปมองในจุดที่กริดยืนอยู่ โดยมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
เมื่อควันจางลงจนเผยให้เห็นถึงจุดที่เคยเป็นศูนย์กลางการระเบิด
กริดหายไปแล้ว...
"เป็นไปไม่ได้..."
เขากลายเป็นแสงสีเทาจากการโจมตีเหล่านั้นแล้วหรือ
"บ้าจริง...!"
พีคซอร์ดพลันหดหู่สุดขีด ส่วนทางด้านเฮลกาโอกำลังหัวเราะราวกับเสียสติไปแล้ว
"วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าแมลงสาปนั่น ในที่สุดก็กลายเป็นเพียงเศษขี้เถ้าสักที!"
ร่างกายของมนุษย์นั้นเปราะบาง ไม่มีทางที่จะรับบอลเพลิงทั้ง 30 ลูกไว้ได้โดยไม่เป็นอะไรแน่ แม้กริดจะมีชุดเกราะที่ยอดเยี่ยมและคมมีดทั้ง 7 เล่มคอยปกป้อง แต่มันก็ย่อมมีขีดจำกัด เฮลกาโอเชื่ออย่างเต็มอกว่ากริดได้ตายไปแล้ว
ทว่า...
"...บ้าน่า!!"
ทันใดนั้น เฮลกาโอที่กำลังยืนหัวเราะอย่างสะใจพลันต้องเหลียวหลัง ณ ใจกลางชั้นบนสุดของดันเจี้ยน หลังจากกริดกลายเป็นเศษขี้เถ้าไปแล้ว เฮลกาโอจึงเคยเป็นเพียงผู้เดียวที่ยืนอยู่ในจุดนี้
"...วิชาดาบแพ็กม่า"
กริดค่อยๆ รูดซิบของเสื้อคลุมลง ร่ายกายของชายหนุ่มค่อยๆ เผยออกมาอีกครั้ง จิตสังหารอันรุนแรงที่อัดแน่นไปด้วยสำนึกคิดฆ่าฟันได้ฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง และเป้าหมายในครั้งนี้คือ เฮลกาโอ หนึ่งใน 33 สุดยอดอสูรของขุมนรก กำลังตกเป็นเหยื่อการโจมตีของดาบใหญ่สีน้ำเงินเข้ม
สังหาร!"
เปรี้ยยงงงงง!
เกิดเป็นแผลใส่ขึ้นบนเรือนร่างที่เฮลกาโอหยิบยืมมาจากครึ่งอสูรในขุมนรก
จะกำจัดได้ไหม ค้างงงงง สิครับ
ReplyDeleteบอสพลังลดไปครึ่ง แถมโดนตัดมือ ก็ยังโหดอยู่ดี
ReplyDeleteตายชัว แร้วได้หินมาแค่2ก้อนแน่ๆ
ReplyDeleteสนุกมากมายครัย
ReplyDelete