จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 175



       เมื่อสมัยยังเป็นนักเรียนมัธยม  ลีจุนโฮจะเชื่อมั่นในกำปั้นของตนเพียงอย่างเดียว  และกำปั้นนั้นมักถูกใช้เพื่อรังแกคนที่อ่อนแอกว่าอยู่เสมอ  ไม่เพียงแค่สร้างบาดแผลทางร่ายกายกับจิตใจเท่านั้น  ลีจุนโฮยังทำการไถเงินเหยื่อไปอย่างไม่ใยดีด้วย  หากอยู่ในรั้วโรงเรียน  เขาคือราชา

       ไม่มีใครกล้าต่อต้าน  มีแต่ต้องเชื่อฟังอย่างนอบน้อมเท่านั้น  และหนึ่งในเหยื่อก็คือชินยองวู  ชายหนุ่มจะสั่นเป็นเจ้าเข้าเมื่อถูกทำให้หวาดกลัว  และจะแสดงสีหน้าบูดบึ้งทุกครั้งที่ศักดิ์ศรีถูกย่ำยี  ยองวูไม่เคยเปลี่ยนไปเลย  แม้ว่าจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและฝึกฝนร่างกายในค่ายทหารแล้วก็ตาม

       ลีจุนโฮจะคอยกลั่นแกล้งเขาในงานรวมรุ่นทุกปี  แต่แล้วนี่มันอะไรกัน?  คนที่ปรากฏตัวในงานรวมรุ่นปีนี้กลับเปลี่ยนไปคนละคน  เขากลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินและมีความมั่นใจในตนเองอย่างเต็มเปี่ยม

       ในทางกลับกัน  ลีจุนโฮไม่ได้เปลี่ยนไปจากสมัยเรียนเลยสักนิด  เขาไม่อาจสลัดนิสัยนักเลงนั่นออกไปได้  ทำให้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคม  แม้จะอยู่ในวัยย่างเข้า 30 ปีแล้วก็ตาม  ทว่างานที่หาได้กลับเป็นเพียงงานพาร์ตไทม์เท่านั้น

       ลีจุนโฮเริ่มเกิดความละอายใจ  เขาจำเป็นต้องทิ้งศักดิ์ศรีที่ไม่เข้าท่าและเผชิญหน้ากับความจริงให้ได้

       'เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง  เหมือนกับยองวู'

       ลีจุนโฮมุ่งมั่นเด็ดเดียว  ต้องทำให้ได้แบบยองวู  เขาจะก้าวข้ามอดีตของตนเพื่อให้มีชีวิตใหม่ที่ประสบความสำเร็จ

       เริ่มแรกด้วยการละทิ้งศักดิ์ศรีไม่เข้าท่านั่นทิ้งไป  เขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้ทำงานที่ปั๊มน้ำมัน  ร้านสะดวกซื้อ  ร้านเน็ต  และไซต์ก่อสร้าง  เขาไม่บ่น  ไม่ย่อท้อ  เขาไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเหมือนแต่ก่อน  ลีจุนโฮเริ่มเก็บเงินทีละเล็กทีละน้อย  และในที่สุดก็ได้รับรู้ถึงคุณค่าของบางสิ่ง

       มันเป็นเรื่องแย่แค่ไหนกันที่ไปขโมยเงินซึ่งคนอื่นได้มาอย่างยากลำบาก?   และเขายังได้เรียนรู้อีกว่า  ทุกครั้งที่ถูกสายตาดูหมิ่นของลูกค้าเหยียดหยามว่าเป็นพนักงานพาร์ตไทม์  ภายในใจมันรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน  เขาพลันเกิดความรู้สึกที่ว่า  การรังแกคนที่ด้อยกว่า  ควรเป็นบาปร้ายแรงที่ไม่น่าให้อภัย

       '...ฉันขอโทษ  ชินยองวู'

       ในระหว่างทางกลับบ้านหลังเลิกงานพาร์ตไทม์  ลีจุนโฮกำลังสูบบุหรี่อยู่ในเขตที่จัดไว้และกล่าวขอโทษยองวูในใจ  บนใบหน้าของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มอันแสนขมขื่นเล็กน้อย

       "ฉันอยากมีโอกาสอีกสักครั้งเพื่อพบนายและขอโทษ  หากทำได้  ฉันจะไม่เสนอหน้ามาไปให้นายเห็นอีกเป็นหนที่สอง"

       ณ ตอนนี้  การแข่งซาทิสฟายนานาชาติกำลังถูกฉายอยู่บนป้ายบิลด์บอร์ดขนาดยักษ์บนตึกระฟ้า  เขาสามารถมองเห็นตัวละครของยองวูได้จากที่นั่น  ทั้งสองอยู่บนโลกคนละใบกันแล้ว

       ผู้คนมากมายต่างหยุดมองดูการกระทำของยองวูที่อยู่บนป้ายบิลด์บอร์ด  และหนึ่งในบรรดาฝูงชนเหล่านั้น  น้องสาวของยองวู  ชินเซฮี

       "เท่จังเลย"

       เยริมเองก็อยู่กับเซฮีด้วย  เธอรู้สึกชื่นชมเขาจากใจจริง  และฉากที่ปรากฏขึ้นบนจอภาพก็ยิ่งทำให้เธอคลั่งไคล้ยองวูมากขึ้นไปอีก  ชายหนุ่มปรากฏตัวออกมาช่วยชีวิตยูร่าไว้ในจังหวะสำคัญ  และจัดการล้างบางศัตรูที่หมายจะฆ่าเธอไปจนหมดสิ้น

       "เขาพึ่งพาได้  แข็งแกร่ง  และเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ  พี่ชายของเธอสุดยอดไปเลย"

       "ในเกมกับโลกความจริงมันต่างกัน  ฉันชื่นชมพี่ก็จริง  แต่เขาไม่ได้สุดยอดขนาดนั้น"

       เซฮีพยายามลากเยริมให้กลับมาสู่โลกความจริง  ทว่าดูเหมือนจะไม่สำเร็จ

       "เธอเองก็รู้ไม่ใช่เหรอ?  ว่าซาทิสฟายไม่เหมือนกับเกมทั่วไป  แต่มันคือโลกเสมือนอีกใบหนึ่ง  และพี่ชายของเธอคือคนที่สุดยอดในโลกใบนั้น"

       เยริมนั้นเจนโลกกว่าเซฮีมาก  และเธอก็มีรูปลักษณ์เซ็กซี่ที่ไม่เข้ากับอายุเลยสักนิด  เยริมพลันหัวเราะคิกคักและประกาศตัวออกไปอย่างชัดเจนว่า

       "ฉันจะต้องทำให้พี่ชายเธอมาเป็นของฉันให้ได้"

       อึก...

       ชายหนุ่มที่ยืนอยู่โดยรอบต่างถูกสเน่ห์ของเยริมสะกดไว้  พวกเขาแทบถูกดูดกลืนวิญญานออกไปจนหมดสิ้น  เสียงกลืนน้ำลาย <เอื๊อก> ดังขึ้นจากจุดนั้นจุดนี้  ผู้ชายหลายคนที่สภาพเหมือนกับนังเลงหัวไม้ได้เดินเข้ามาใกล้เด็กสาวทั้งสอง  เซฮีพลันกวาดสายตาไปโดยรอบเล็กน้อย  ก่อนจะหันมายืนกรานกับเยริมด้วยเสียงหนักแน่นว่า

       "เธอไม่ใช่สเป็คพี่ฉัน"

       "เห๋?"  ดวงตาเยริมเบิกโพลง  เธอจ้องมองใบหน้าอันบูดบึ้งของเซฮีและหัวเราะออกมาเบาๆ

       "ฮะฮะ!  ขอโทษ  ขอโทษ  เซฮี  ฉันลืมไปว่าเธอรักพี่ชายมากขนาดไหน  ขอโทษที่ทำให้หึงนะ"

       "ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น  แต่เธอไม่ใช่สเป็คพี่ฉันจริงๆ"

       "หืมมม~?  มีผู้ชายคนไหนไม่สนใจฉันด้วยเหรอ?"

       เยริมถูกยกให้เป็นราชินีสาวมัธยมปลายเทียบเคียงมากับเซฮี  ดังนั้นความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาจึงมีสูงมาก  แต่เซฮีก็ตอกกลับทำลายความมั่นใจนั้นทันที

       "พี่ฉันชอบผู้หญิงหน้าอกใหญ่ๆ"

       เยริมได้ฟังก็เอียงคอเล็กน้อย

       "แต่ของฉันก็ใหญ่อยู่น๊า~  ไม่ใช่เหรอ?"

       "อย่างน้อยก็ต้องคัพ D"

       บนบิลด์บอร์ด  เป็นฉากที่ยองวูช่วยจิสึกะจากฮูเร็นไว้ได้ทันพอดิบพอดี   การช่วยยูร่าย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก  เพราะพวกเขาคือทีมเกาหลีใต้เหมือนกัน  แต่จิสึกะเป็นนักกีฬาจากชาติอื่นไม่ใช่หรือ?  แล้วเขาช่วยเธอทำไม?  เมื่อเยริมมั่นใจแล้วว่าหน้าอกของจิสึกะอยู่ในระดับใด  เธอก็พลันเบ้ปากเล็กน้อย

       "น--นั่นคือสเป็คพี่เธองั้นเหรอ?"

       "ก็แค่สุนัขติดสัดเท่านั้นแหละ  ไม่ต้องไปสนใจหรอก"

       เซฮีพลันหงุดหงิดขึ้นมาทันใด  เธอไม่ชอบเวลาที่มีผู้หญิงคนไหนมาเข้าใกล้พี่ชายสุดที่รัก

       "ฉันไปก่อนนะ"

       ลงท้ายด้วย  เซฮีหันหลังให้บิลด์บอร์ดและรีบเดินตรงไปยังห้องสมุด  แม้เยริมยังต้องการจะดูถ่ายทอดสดต่ออีกสักหน่อย  ทว่าเธอก็ไม่มีทางเลือก  มีแต่ต้องเดินตามเซฮีไปเท่านั้น  หลังจากนั้นก็เอาแต่ขบคิดอยู่ในใจว่า

       'อายุเรายังไม่ถึง 20 เลย  จะลองหน้าอกคัพ D ดูสักหน่อยดีไหมนะ?'

       เธอคิดจะทำมันจริงๆ...

       *** 

       ฮูเร็นจ้องมองไปทางจิสึกะและกริด

       เขาดื่มโพชั่นและยาถอนพิษเข้าไปก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้น

       "นี่ไม่ใช่ยาถอนพิษทั่วไปนะ… พิษบนลูกธนูของเธอมันไม่โหดไปหน่อยเหรอ?"

       ฮูเร็นตรวจสอบตารางคะแนนอีกครั้ง

       'เกาหลีใต้ 131 คะแนน  สหรัฐ 82  บราซิล 73  สหราชอาณาจักร 60  และสเปน 0'

       ตอนนี้เหลือนักกีฬาบนเกาะอยู่เพียงแค่ 5 ประเทศเท่านั้น  ส่วนสเปนตัดทิ้งไปได้เลย  เพราะเม็ธกำลังจะถูกเรกัสส่งออกจากสนาม  ฮูเร็นอ่านสถานการณ์สนามรบอย่างละเอียดถี่ถ้วนและส่งข้อความส่วนตัวกลับไปหาลอเอลที่อยู่ด้านหลัง

       >>  นายรีบออกไปจากที่นี่และตั้งใจทำลายวัตถุเพื่อเก็บคะแนนซะ  พวกเรายอมทิ้งเหรียญทองแล้วก็จริง  แต่จะพลาดเหรียญเงินไม่ได้เด็ดขาด

       >>  นายเจ็บหนักเลยไม่ใช่รึไง?  ด้วยสภาพแบบนี้  จะรับมือกับผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าไหวหรือ?

       มีดสีทองยังคงพุ่งทำลายวัตถุเป้าหมายอย่างไม่หยุดพัก  ฮูเร็นมองมันแล้วก็อมยิ้ม  เป็นรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายที่ถูกแสยะออกมาทางใบหน้า

       >> ทำไมจะไม่ไหว?

       ฮูเร็นหันกลับมาจ้องกริด
       
       "ในเมื่อสถานการณ์ก็เป็นแบบนี้แล้ว  ฉันขอเล่นสนุกสักหน่อยจะได้มั้ยนะ?"

       นี่คือการยั่วยุอย่างไม่ต้องสงสัย!  กริดที่เติบโตขึ้นย่อมไม่มีทางหลงกลนี้แน่นอน

       "เลิกเล่นไร้สาระได้แล้ว"

       อันดับ 1 ครอเกล  อันดับ 2 ซีบาล  อันดับ 3 คริส  อันดับ 7 แอ็กนัส  อันดับ 8 ฮูเร็น  อันดับ 11 บองเดร  และสุดท้าย  อันดับ 14 เฮ่า  ทั้งหมดคือคนที่ยูร่าเกรงกลัว

       กริดจำชื่อทุกคนได้อย่างแม่นยำ  ทว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด  แม้ฮูเร็นจะเป็นหนึ่งในรายชื่อนั้นก็ตาม  เขาคือคนที่ปราบมอนสเตอร์บอสอันแข็งแกร่งลงด้วยตัวคนเดียวมานับไม่ถ้วนแล้ว!  กริดมั่นใจมากว่า  ต่อให้เป็นแร้งเกอร์ระดับสูงขนาดไหน  แต่เขาก็สามารถเอาชนะได้ด้วยไอเท็ม  ทักษะ  และค่าสถานะที่เหนือกว่าได้

       "จิสึกะ  ทางนี้ฉันจัดการเอง  เธอรีบไปเก็บคะแนนเถอะ  อยากได้เหรียญเงินรึเปล่าล่ะ?"

       "ตกลง!  ขอบใจมาก!"

       จิสึกะกล่าวขอบคุณและรีบวิ่งหายเข้าป่าไปพร้อมกับซามูเอล  

       เมื่อได้อยู่ดวลเดี่ยวกับฮูเร็น  กริดก็เริ่มรำดาบออกมาทันที

       "วิชาดาบแพ็กม่า!"

       และเมื่อกริดเริ่มขยับได้สองก้าว

       ฉึก!

       ออร่าคมดาบสีแดงยาวกว่า 5 เมตรซึ่งยืดออกจากนิ้วชี้ของฮูเร็น  ได้เสียบเข้าที่หน้าอกกริดอย่างจัง

[ ท่านได้รับความเสียยหาย 4,600 หน่วย ]

       'เอ๋?'

       ฮูเร็นทำการโจมตีในจังหวะที่กริดไม่อาจหลบพ้น  เขากำลังยุ่งอยู่กับการรำดาบ  จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ถ้าหากจะถูกโจมตี

       'แต่ความเสียหายกลับรุนแรงขนาดนี้เชียว?  เราสวมเกราะเซ็ตเลเจนดารีอยู่ไม่ใช่รึไง?'

       หรือว่าออร่าสีแดงนี้จะสร้างความเสียหายแบบตายตัว?  กริดรู้สึกสับสนเล็กน้อย  ทว่าทักษะท่าไม้ตายของเขาก็พร้อมใช้งานแล้ว

       "สังหาร!"

       ซู่วววว!

       ดาบใหญ่สีน้ำเงินซึ่งอัดแน่นไปด้วยจิตสังหาร  ได้พุ่งเข้าใส่ศีรษะของฮูเร็นด้วยความรวดเร็ว

       ฟู่วววววว!

       ต้นไม้โดยรอบพลันโยกคลอนราวกับถูกลมพายุอันรุนแรงพัดโถมเข้าใส่  พลังงานที่อัดแน่นอยู่ในดาบนั้นทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย  กริดคิดจะส่งฮูเร็นให้ออกจากสนามไปในดาบเดียว  

       ทว่า...

       ฮูเร็นเพียงโยกตัวหลบเบาๆ ในจังหวะสำคัญที่สุด  

       ส่งผลให้ <สังหาร> พลาดเป้าไปอย่างง่ายดาย  และหลังจากนั้นมันก็ฉวยโอกาสที่ดาบใหญ่เสียจังหวะ  ทำการกระหน่ำโจมตีใส่กริดด้วยออร่าดาบอีกครั้ง

[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,600 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,600 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,600 หน่วย ]

       'เป็นความเสียหายคงที่จริงๆ ด้วย  ออร่าของหมอนี่ไม่คิดค่าพลังป้องกันเป้าหมายงั้นหรือ?' 

       เมื่อเริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง  เขาจึงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้  พลังอันรุนแรงจาก <สังหาร> ค่อยๆ สลายไปในอากาศอันว่างเปล่า  

       ฮูเร็นพลันจุ๊ปากเบาๆ และเย้ยหยันว่า

       "หากจะใช้ทักษะที่ไม่ได้ล็อคเป้าหมาย  นายต้องหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูก่อนสิ  หรือถ้าทำไม่ได้  นายก็ควรอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูให้ออก  นี่มันเรื่องพื้นฐานไม่ใช่รึไง?"

       กริดดื่มโพชั่นเพื่อชดเชยพลังชีวิตที่เสียไป  หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น

       "นายคิดจะสอนฉันงั้นหรือ?"

       "สอน?  วะฮ่าฮ่า!  ไร้สานะน่า  ฉันจะทำแบบนั้นเพื่อช่วยนายไปทำไม?  ฉันก็แค่ผิดหวัง  นายมีคลาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเกม  แต่กลับใช้งานได้ห่วยแตกชะมัดเลยน้า~  ว่าไหมล่ะ?  ถามจริง...  นายเคยหัดต่อสู้มาก่อนรึเปล่าเนี่ย?" 

       กริดจ้องมองด้วยสีหน้ามุ่งร้าย

       "แน่นอน  ฉันเคยสู้มาเยอะแล้ว… นายคงคาดไม่ถึงแน่  ว่าฉันเคยล้มบอสตัวไหนตามลำพังมาบ้าง!"

       ฮูเร็นพลันหัวเราะคิกคัก

       "ฮะฮะฮ่า!  เคยสู้แต่กับบอสสินะ?  ว่าแล้วเชียว  พวกบอสน่ะแข็งแกร่งก็จริง  แต่มันจะโจมตีแบบตายตัวไม่ใช่รึไง?  พวกมันไร้สมองจะตาย  ใช่แล้ว  เหมือนกับนายไงล่ะ...  นายไม่เห็นจริงหรือ  ว่าประสบการณ์ของฉันกับนายต่างกันมากแค่ไหน?"

       "หลบได้แค่ครั้งเดียวทำปากดีไปได้"

       กริดที่กำลังเดือดพล่านได้กวัดแกว่งดาบอย่างงดงามราวกับผีเสื้อกระพือปีก  และครั้งนี้  เขาหมายมั่นจะซัดเข้าใส่ใบหน้าอันยียวนของฮูเร็นให้จงได้  ทว่าวิชาดาบแพ็กม่าก็มีจุดอ่อนอยู่หนึ่งข้อ :  การจะใช้ทักษะออกไป  จำเป็นจะต้องตะโกนชื่อทักษะเสียก่อน  และนั่นก็ทำให้เสียเวลาไปมากถึง 0.8-2 วินาที  กว่าทักษะจะใช้งานสำเร็จ 

       แน่นอนว่ามันเป็นเวลาที่ไม่เยอะนักสำหรับคนทั่วไป  และด้วยความสัตย์จริง  ไม่เคยมีใคร  หรือบอสตัวใด  สามารถนำจุดอ่อนตรงนี้ของกริดมาเล่นงานเขาได้มาก่อน  

       แต่อย่าลืมว่ายูร่าสามารถตอบโต้ช่วงเวลา 0.5 วินาทีของบูบัตได้  และฮูเร็นก็เหนือกว่ายูร่ามากในเรื่องนี้

       ฉึก!

       ทันทีที่กริดเริ่มรำดาบ

       ฉึก!

[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,600 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,600 หน่วย ]

       ฮูเร็นสามารถฟันกริดได้ 2 ครั้งก่อนที่มันจะถอยหลบไปไกลเพื่อสร้างระยะห่าง

       "ชิ!"

       เมื่อเห็นระยะทางที่เป็นไปไม่ได้  กริดจึงตัดสินใจยกเลิกการใช้ <ร่ายรำ>

       'น่ารำคาญฉิบ'

       เขายอมรับว่าฮูเร็นนั้นแข็งแกร่ง  โดยใช้บรรทัดฐานจากบอสที่เคยสู้มาทั้งหมด  ออร่าที่สร้างความเสียหายแบบคงที่  และสามารถเปลี่ยนเป็นรูปร่างใดก็ได้  สิ่งนี้น่ารำคาญอยู่ไม่น้อย  ทว่าเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจที่สุดคงหนีไม่พ้น  การที่ฮูเร็นไม่ยอมปล่อยให้กริดใช้ทักษะได้เลย

       แน่นอนว่ากริดเริ่มมีการเรียนรู้  ทว่า  เป็นการเรียนรู้หลังจากที่เสียไปแล้วอย่างสูญเปล่าถึง 2 ทักษะ

       "คิดจะใช้ทักษะอย่างมั่วซั่วส่งเดชอีกแล้วหรือ?  มีสมองไว้เรียนรู้บ้างรึเปล่าเนี่ย?"

       ฮูเร็นถอนหายใจราวกับว่ากริดนั้นน่าสมเพชอย่างมาก  

       ลงท้ายด้วย  กริดพุ่งตัวเข้าไปหาฮูเร็นด้วยความเดือดดาลแทน 

       "ย่อมได้!  ก็แค่โจมตีโดยไม่ต้องใช้ทักษะแค่นั้นเอง  มาดูกันว่านายจะหลบได้รึเปล่า?  หืม?  โทสะช่างตีเหล็ก!"

       แคร้งงง!!

       +9 ความผิดพลาดปะทะกับออร่าดาบ       สีแดง

       'แรงฉิบ!'

       เมื่อฮูเร็นเห็นออร่าสีแดงสั่นไหววูบวาบราวกับไฟต้องลม  มันก็จุ๊ปากขึ้นเบาๆ ทันที 

       มันต้องการจะสร้างระยะห่างระหว่างกริดให้ได้  ทว่าความเร็วพื้นฐานของมันไม่สูงพอที่จะทำเช่นนั้น

       กริดยังคงไล่ตามตื้อฮูเร็นด้วยการฟาดดาบใส่อย่างไม่หยุดหย่อน  ฮูเร็นกล้ำกลืนฝืนป้องกันไว้ได้อย่างอย่างลำบาก  และในที่สุด  ทักษะหนีของมันก็มีระยะหน่วงวนมาถึง

       "หลบหนี!"

       ฟุ่บ!

       เป็นทักษะพุ่งตัวอย่างฉับพลันในระยะใกล้ๆ ซึ่งคล้ายกับทักษะที่คลาสนักรบมี  ฮูเร็นสลัดกริดได้ 5 เมตรในพริบตา  หลังจากนั้นมันก็รีบเคลื่อนย้ายออร่าสีแดงลงไปเคลือบร่างกายส่วนล่างไว้ทันที

[ พลังโจมตีของท่านลดลง 30% ]
[ ความเร็วเคลื่อนที่ของท่านเพิ่มขึ้น 30% ]

       'หมอนั่นเร็วกว่าเดิมงั้นหรือ?'

       กริดไม่อาจลดระยะห่างระหว่างฮูเร็นที่กำลังวิ่งหนีตายอย่างไร้ศักดิ์ศรีได้เลยแม้แต่นิดเดียว  ลงท้ายด้วย  เขาต้องควีกมีดสั้นอุดมคติออกมาและใช้ <พริ้วไหว>  

       หลังจากนั้นก็ตะโกนใส่ฮูเร็นว่า

       "ได้เวลาปิดฉากแล้ว!"

       บึ้มบึ้มบึ้ม!

       ฮูเร็นวิ่งหนีไปในทิศทางที่มีวัตถุเป้าหมายรวมตัวอยู่มาก  เมื่อเคลื่อนย้ายตัวเองเข้าไปกลางดงวัตถุ  มันก็รีบปลดปล่อยออร่าสีแดงออกไปรอบตัวเพื่อทำลายจนหมดเกลี้ยง  เกิดเสียงระเบิดดังเป็นทางยาว  คะแนนทีมสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างพรวดพราด

       『สหรัฐอเมริกามี 109 คะแนนแล้วครับ!  ยอดมาก!  หลังจากจัดการกับผู้เล่นฝรั่งเศส  จีน  และญี่ปุ่นไปได้  ฮูเร็นยังคงโชว์ฟอร์มเยี่ยม  สามารถทำลายวัตถุได้ 16 อันในขณะที่กำลังวิ่งหนีจากผู้สืบทอดแพ็กม่าไปด้วย!』

       "คิดจะทำอะไรกันแน่?"

       กริดอยากช่วยจิสึกะและเรกัส  เขาอยากให้ประเทศทั้งสองได้เหรียญเงินและเหรียญทองแดงตามลำดับ  ดังนั้นกริดจึงจำเป็นต้องล่าฮูเร็นให้ได้เพื่อหยุดการเก็บคะแนนของทีมสหรัฐ  

       ต้องขอบคุณค่า <ความพากเพียร> ที่สูงส่งของเขา  หลอดเรี่ยวแรงจึงลดลงอย่างช้าๆ   ในขณะที่ฮูเร็นเริ่มออกอาการเหนื่อยหอบให้เห็น

       'เราคิดว่าหมอนี่จะนำแต้มส่วนใหญ่ไปทุ่มลงกับค่าพละกำลัง  ส่วนเศษที่เหลือก็แบ่งลงความว่องไวและความอดทน  แต่ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น  ค่าสถานะของเขาล้วนสูงทั้งหมด  นั่นสินะ  คลาสสายการผลิตสามารถเพิ่มค่าสถานะได้จากการสร้างไอเท็มอยู่แล้วนี่'

       แม้จะเกินขีดจำกัดร่างกายแล้ว  แต่อย่างน้อยฮูเร็นก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจของกริดมาไม่น้อย  

       ลมหายใจของมันเริ่มขาดห้วง  ส่งผลให้ความเร็วตกลงอย่างเห็นได้ชัด

       'เสร็จเราแน่!'

       ดวงตาของกริดลุกวาวเปล่งประกาย  จบสิ้นเสียทีกับการไล่ล่าอันยาวนาน  ในที่สุดตัวน่ารำคาญก็จะถูกจับกุมมาลงโทษ

       กริดพลันรู้สึกปีติยินดีอย่างบอกไม่ถูก  ทว่าเขาลืมคิดไปหนึ่งเรื่อง

       『 ทีมเกาหลีใต้ครับ!  ครบ 150 คะแนนแล้ว!! พวกเขาทำได้แล้ว!! 』

       "อะไรกัน...?"

       กริดเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนทำพลาด  เขาลืมไปว่าบนเกาะแห่งนี้ยังมียูร่าและพาเฟรเนี่ยมอยู่  เขาไม่ได้บอกยูร่าว่าจะขอจัดการกับทีมอเมริกาก่อน  และเขาก็ไม่ได้เรียกให้พาเฟรเนี่ยมที่คอยทำลายวัตถุกลับมา  ทั้งยูร่าและพาเฟรเนี่ยมจึงไล่เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่เขาไล่ล่าฮูเร็น  

       ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้

       "บ๊ายบาย~  ฮะฮะ!"

       ฮูเร็นหัวเราะชอบใจราวกับคำนวนไว้แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  ตัวละครของกริดถูกบังคับล็อกเอาท์ออกจากเกาะทันที  นี่เป็นกฏของการแข่งทำลายวัตถุตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  :  หากทีมชาติใดทำคะแนนครบ 150   นักกีฬาชาตินั้นจะถูกล็อกเอาต์ออกมาด้านนอกทันที

       และหลังจากนั้น

       ทีมสหรัฐเป็นฝ่ายคว้าเหรียญเงินไปได้ไม่ยากเย็น  ส่วนอันดับ 3 เป็นการชิงชัยระหว่างบราซิลและสหราชอาณาจักร  โดยผู้ชนะตกเป็นของสหราชอาณาจักร

       จิสึกะทำลายเป้าหมายได้ดีกว่านาตาชาก็จริง  แต่คู่หูของเธอคือปัญหา  ซามูเอลอ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องจิสึกะจากเรกัสได้  

       จบลงด้วยพิธีมอบเหรียญรางวัลต่อหน้าผู้ชมกว่าสองแสนคน  บนแท่นมอบรางวัลประกอบไปด้วยนักกีฬาจากเกาหลีใต้  สหรัฐ  และสหราชอาณาจักร

       "สนุกมากเลยล่ะ  เจ้าไก่อ่อน~"

       "ชิ...!"
       
       ภาพอันน่าขบขันถูกฉายออกไปทั่วโลก  กริดที่เป็นผู้ได้รับเหรียญทองกลับยืนหน้าบูดบึ้งอยู่บนแท่นอันดับ 1   และกลับกลายเป็นฮูเร็นอันดับ 2 ที่ยืนหัวเราะอย่างชอบใจราวกับเป็นผู้ชนะเสียเอง  หากดูแค่เพียงบรรยากาศ  ใครที่ไม่รู้เข้า  คงคิดว่าทีมสหรัฐเป็นฝ่ายคว้าเหรียญทองไปแน่

Comments

  1. เดี๋ยวค่อยไปเอาคืนในเกมส์ต่อ

    ReplyDelete
  2. งานนี้มีเอาคืน...

    ReplyDelete
  3. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  4. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  5. โห่จริงๆใช้เป็นคู่ซ้อมได้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00