จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 173
พรสวรรค์ ทักษะ รูปลักษณ์ ความมั่งคั่ง และปูมหลัง ยูร่าคือคนที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง และไม่มีสิ่งใดด้อยเลยสักนิด ทำให้ผู้คนต่างพากันคิดไปว่า เส้นทางของเธอที่ผ่านมาจะต้องโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบเสมอ ทว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด
พวกเขาไม่เคยรู้ถึงความยากลำบากที่ยูร่าเคยต้องฟันฝ่า ไม่เคยรู้ว่าเธอพยายามหนักกว่าคนอื่นมากแค่ไหน หากจะเรียกว่า ยูร่าคือคนที่ล้มเหลวมากกว่าคนอื่นนับสิบเท่าก็ไม่ผิดนัก เธออดทนต่อบททดสอบที่เข้ามาในชีวิตและเรียนรู้จากมัน เธอดูสุขุมเยือกเย็นเพราะเธอไม่เคยสนใจว่าจะต้องล้มลงไปสักกี่ครั้ง
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกซาทิสฟาย และนั่นคือสาเหตุที่เธอกลายเป็นผู้เล่นอันดับ 5 ของโลกซึ่งผู้คนต่างพากันอิจฉา
'บทเรียนในวันนี้ จะทำให้เราเติบโตขึ้นได้สินะ?'
เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ศาสตราวุธมากมายพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเธอ ยูร่าหลับตาลงและรอรับความตายอย่างสงบนิ่ง ทว่า...
แคร้งงงง!
มีบางสิ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
'นี่มัน...'
ยูร่าลืมตาขึ้นและได้เห็นมีดทั้งเจ็ดเล่ม หลังจากนั้นก็เป็นเสียงที่เคยคุ้นเคยดังขึ้นท่ามกลางความมืด
"วายร้ายปรากฏตัวแล้ว"
เป็นสำเนียงการพูดที่ทรงพลังและมั่นใจ ทั้งที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เสียงของชายคนนี้ยังอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรงอยู่เลยแท้ๆ จะมีใครเชื่อบ้างไหมถ้าหากเธอเล่าความจริงออกไป?
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ชายหนุ่มผมดำกำลังกวัดแกว่งดาบพร้อมกับอวดเบ่งพละกำลังมหาศาลนั่นต่อหน้าสายตาทุกคน เขาเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกริด ชายเพียงคนเดียวในโลกที่เคยทำให้ยูร่าต้องตกที่นั่งลำบาก ยามนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
'ในที่สุดนายก็มา นายยอมรับฟังความเห็นแก่ตัวของฉันแล้วสินะ'
ด้วยพรสวรรค์อันมากล้น ยูร่าจึงต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยต้องพึ่งพาใคร และยิ่งเมื่อพ่อกับแม่ตายไป เธอก็ต้องจมอยู่กับความเดียวดายมากขึ้นเป็นทวีคูณ การที่เธอมีหัวใจเหล็กกล้าและเยือกเย็นเช่นนี้ได้ เป็นเพราะยูร่าต้องเผชิญโลกใบนี้คนเดียวมาโดยตลอด
ทว่าในตอนนี้ หัวใจอันแข็งกร้าวและเย็นชานั่น กำลังค่อยๆ ละลายลงราวกับหิมะต้องแสงแดด
"...ขอบคุณมาก"
ยูร่าพลันหน้าแดงและอมยิ้มอย่างมีความสุขเป็นครั้งแรก ใบหน้าของเธอยามนี้กำลังเปล่งประกายความน่าหลงใหลออกมาอย่างสุดขีด
***
ณ เกาะทีร่า
ความสนใจของผู้ชมทั่วโลกกำลังมุ่งมายังเกาะเล็กๆ แห่งนี้ เพราะที่นี่กำลังถูกใช้เป็นสนามจัดแข่งขันทำลายวัตถุ
'เปิดตัวได้ยอดมาก'
เป็นความรู้สึกจากใจจริงของนักกีฬาตัวแทนทีมชาติตุรกี บูบัต ชายหนุ่มที่ชื่อกริดคนนี้ปรากฏตัวออกมาช่วยยูร่าในจังหวะสุดท้ายก่อนที่เธอจะสิ้นลม เขากวาดบรรดาแร้งเกอร์ให้กระเด็นไปคนละทิศละทาง และใช้ใบมีดแปลกประหลาดสีทองทำลายวัตถุเพื่อเพิ่มคะแนน
ราวกับเป็นฉากเด็ดในหนังโรแมนติกก็มิปาน ณ ตอนนี้ โลกภายนอกคงกำลังแตกตื่นกันอยู่แน่ และชื่อของกริดก็จะถูกค้นหาในอินเทอเน็ตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์
โดยคนทั้งโลกเองก็คงมีคำถามแบบเดียวกันอยู่ในหัว
"นายเป็นใครกัน?" บูบัตเอ่ยปากถามในสิ่งที่ผู้คนทั้งโลกอยากรู้
ทว่า กริดกลับตอบอย่างประชดประชัน
"มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไง? ฉันเพิ่งจะช่วยยูร่าไป ก็ต้องเป็นตัวแทนจากเกาหลีใต้สิ"
เมื่อบูบัตได้ยินก็พลันขมวดคิ้ว
'แม้จะถูกรายล้อมโดยแร้งเกอร์ แต่กลับไม่มีความกดดันเลยงั้นรึ? เป็นคนที่มั่นใจอะไรขนาดนี้'
กริดจะต้องเป็นแร้งเกอร์ที่ไม่ลงทะเบียนแน่นอน
'คนที่เอาแต่หลบอยู่หลังม่าน ย่อมไม่มีวันล่วงรู้ถึงความโหดร้ายของโลกแห่งซาทิสฟายที่แท้จริง เขาคิดว่าตนเองคือคางคกอันดับหนึ่งในบ่อน้ำแล้วจะยิ่งผยองยังไงก็ได้งั้นรึ… คนแบบนี้ฉันเจอมาเยอะแล้ว'
แร้งเกอร์ไม่ลงทะเบียนล้วนมีหนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน คือมักไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้ดี พวกเขาเอาแต่ถากถางแร้งเกอร์ที่แข่งขันกันอยู่หน้าฉากด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีว่า เป็นเพียงพวกที่แยกแยะไม่ออกระหว่างโลกความจริงและภาพมายา บูบัตเคยพบเจอคนเช่นนี้มาไม่น้อย
'นายอย่าประมาทก็แล้วกัน'
ตุ้บ... ตุ้บ
บูบัตจ้องเขม็งไปยังกริดและขยับตัวตามจังหวะฟุตเวิร์ค หลังจากนั้นเขาก็ย่นระยะระหว่างกริดได้ 3 เมตรและรีบใช้ทักษะทันที
"กระทิงโขก!"
ทักษะ <กระทิงโขก> นั้นเป็นสิ่งที่มีเฉพาะคลาส <จอมบดขยี้> เท่านั้น หลักการของมันคล้ายกับการคลื่นที่ข้ามมิติ แต่ยอดเยี่ยมกว่า เขาจะหายตัวไปโผล่ยังเป้าหมายในพริบตาโดยไม่มีทางถูกขัดขวาง
ปั้ง!
บูบัตโผล่มาปรากฏตัวตรงหน้ากริดและใช้ทักษะคอมโบต่อเนื่องทันที เขาย่อตัวลงและใช้ศีรษะโขกใส่กริดอย่างแรง ยูร่าสามารถสลายคอมโบนี้ได้ด้วยการควบคุมเหนือมนุษย์ของเธอ ทว่ากริดย่อมทำแบบนั้นไม่ได้ เขาจึงต้องรับมันไปตรงๆ
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 1,730 หน่วย ]
[ เป้าหมายจะตกอยู่ในอาการ <ชะงัก> เป็นเวลา 0.3 วินาที ]
[ เป้าหมายต้านทานอาการชะงัก ]
'ต้านทาน?'
บูบัตย่อมประหลาดใจเมื่อคอมโบเสียจังหวะ
"พรแห่งดวงดาว!"
ปัง!
ค้อนเล็กในมือบูบัตกระแทกใส่ขมับของกริดอย่างแรง เกิดเป็นเอฟเฟครูปดาวขึ้นเหนือศีรษะชายหนุ่มทันที
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 2,280 หน่วย ]
[ เป้าหมายจะตกอยู่ในอาการ <มึนงง> เป็นเวลา 2.5 วินาที ]
บูบัตทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ นี่คืออำนาจของจอมบดขยี้ที่ทำให้ศัตรูนิ่งเป็นท่อนไม้
"เจ๋งมากบูบัต!"
นักกีฬาที่เหลืออีก 10 คนพลันขยับตัวพร้อมกัน โดยทั่งหมดมุ่งหวังจะสังหารกริดให้ได้ในพริบตา
'ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร!'
'แต่ฉันจะทำให้ใบหน้าของแกต้องบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส!'
ทุกคนล้วนอยากส่งกริดล็อกเอาต์ออกไป พวกมันอยากให้การปรากฏตัวทำเท่ของกริดต้องสูญเปล่า แร้งเกอร์ที่ไม่ลงทะเบียนเช่นนี้จะต้องถูกสั่งสอนว่าโลกแห่งความจริงโหดร้ายเพียงใด บรรดาแร้งเกอร์หน้าฉากอย่างพวกมันจึงปรี่เข้าไปหากริดด้วยความเร็วสูง
"อันตราย!"
บูบัตพลันส่งเสียงเตือน เพราะข้อความระบบที่ไม่ควรจะมีขึ้น ดันปรากฏต่อหน้าเสียได้
[ เป้าหมายต้านทานอาการมึนงง ]
เขาเคยเห็นผู้เล่นบางคนสามารถลดระยะเวลาของอาการผิดปรกติได้จากไอเท็มที่สวมใส่ ทักษะติดตัว และค่าสถานะบางชนิด ดังนั้นเขาจึงไม่คิดอะไรมากเมื่อกริดต้านทาน <กระทิงโขก> ที่มีผลเพียง 0.3 วินาที แต่นั่นย่อมเป็นหนังคนละม้วนหากกริดสามารถต้านทานทักษะมึนงง 2.5 วินาทีที่ถูกใช้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบได้
'หรือเขาจะต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิด?'
หากใช่ ก็นับว่าโกงกันเกินไป บูบัตมิอาจรู้สึกอย่างอื่นได้ นอกจากอาการเย็นสังหลังวาบในตอนนี้ แต่ตรงกันข้าม แร้งเกอร์คนอื่นที่โถมเข้าไปกำลังเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ จะมีใครไปคิดได้ว่า กริดจะต้านทานต่ออาการผิดปรกติทั้งมวล คำเตือนของบูบัตจึงเป็นแค่ลมปาก ทุกคนรีบกวัดแกว่งอาวุธในมือออกไปสุดแรง
ฟุ่บ!
ฟุ่บ!
การรุมโจมตีใส่ศัตรูที่ติดอาการผิดปรกติจะมีจุดอ่อนร้ายแรงอยู่อย่างหนึ่ง : พวกมันไม่คิดว่าจะถูกโจมตีสวนกลับ
ฟุ่บ!
กริดหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเบี่ยงตัวหลบไปมา
ฟุบฟุบฟุบ!
ประการแรก เขาจะเก็บบูบัตไว้สังหารเป็นคนสุดท้าย
"อะไรกัน...?"
เมื่อหลบการโจมตีทั้งหมดได้ การโต้กลับก็เริ่มขึ้น
ฉัวะ!
ฉึก!
"อ๊ากกก!"
"แค่ก!"
เป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ที่ทักษะการควบคุมของกริดยังด้อยกว่าที่แร้งเกอร์ควรจะเป็น ทว่าเขาก็เติบโตขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก หลังจากการล่าบอสอันแข็งแกร่งมานักต่อนัก กริดมีฝีมือก้าวข้ามผู้เล่นธรรมดาไปไกลแล้ว ย่อมหมายความว่า กริดไม่มีทางหลบการรุมโจมตีที่เข้ามาอย่างประมาทนี้พลาดแน่ และเขาก็สามารถสวนกลับเข้าเป้าได้ทุกดาบ
"เรื่องบ้าอะไรกัน… แค่ก!"
กริดผู้ซึ่งไม่ควรจะขยับตัวได้ แต่กลับหลบทุกการโจมตีอย่างฉิวเฉียดและตอบโต้กลับทันควัน บรรดาแร้งเกอร์ที่ไม่ได้ตั้งตัวจึงต้องรับความเจ็บปวดเข้าไปเต็มๆ พวกมันรีบดื่มโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตด้วยแววตาอันแสนตกตะลึง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 6,230 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 6,100 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 6,450 หน่วย ]
ตอนนี้ทิ้งเรื่องต้านทานอาการผิดปรกติไปก่อน แค่การโจมตีธรรมดาจากชายที่ชื่อกริด สามารถขนาดความเสียหายเป็นตัวเลขมหาศาลได้ขนาดนี้เชียวหรือ?
"เขาเป็นใครกันแน่...?"
หากคนพวกนี้ถูกผู้เล่นสายดาเมจที่มีเลเวลประมาณ 250 โจมตีใส่โดยไม่ใช้ทักษะ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะอยู่ราว 3,000 หน่วยเท่านั้น แต่นี่กลับมากถึงเท่าตัว? โดยที่ไม่ได้ใช้ทักษะเนี่ยนะ?
"แก...! บอกมานะว่าแกเป็นใคร!"
กริดแตกต่างจากแร้งเกอร์ที่ไม่ลงทะเบียนทุกคนที่พวกมันเคยพบพาน ชายคนนี้คือปีศาจที่ไม่ต่างจากยูร่า เหตุไฉนทีมเกาหลีใต้จึงมีคนแบบนี้ซ่อนอยู่ได้? พวกมันทุกคนพลันเผยความตึงเครียดขึ้นบนใบหน้า และในเวลาเดียวกัน ใครบางคนที่เห็นมีดสีทองไล่โจมตีวัตถุก็เริ่มนึกบางสิ่งออก
"มีดพวกนั้น… ฉันว่ามันเหมือนกับแผ่นจานสีทองที่ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าใช้ในสงครามไบรันเลยนะ คิดงั้นไหม?"
"...อย่าบอกนะว่า?"
"เป็นไปไม่ได้..."
ทุกคนต่างขมวดคิ้ว และในเวลานั้นเอง ผู้บรรยายก็วิเคราะห์ออกมาในทิศทางเดียวกัน
『มีดสีทองทั้งเจ็ดเล่มที่เคลื่อนไหวเองได้! ทั้งสี วัสดุ และการกระทำ ทั้งหมดล้วนคล้ายคลึงกับแผ่นจานสีทองที่ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าใช้เลยนะครับ!』
『ลองมาดูกันที่ดาบใหญ่สีดำบ้างครับ! ดาบเล่มนี้มีออร่าสีส้มสว่างดุจดั่งดวงอาทิตย์บดบังไว้ จึงทำให้ตอนแรกผมเองก็จำไม่ได้ แต่หากลองดูให้ดี มันคือดาบเล่มเดียวกันกับที่ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าโยนให้ทูนใช้ในสงครามไบรันทุกประการ!』
"มาลองคิดๆ ดูแล้ว..."
"ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า...?"
"ใช่แล้ว ชายที่ชื่อกริดคนนี้..."
ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่างั้นหรือ? ผู้ชมนับล้านทั่วโลก รวมไปถึงนักกีฬาในสนามเองก็สงสัยไม่ต่างกัน
ส่วนอีกด้านหนึ่ง กริดกลับกำลังขมวดคิ้วอย่างผิดหวัง
'พลังชีวิตลดลงไปแค่หนึ่งในห้าเองหรือ? แม้จะโดนฟันด้วยดาอินสเลฟแล้วเนี่ยนะ? สมกับเป็นแร้งเกอร์หัวแถวจริงๆ'
[ +8 ดาอินสเลฟ (แบบจำลอง) ]
เกรด : ยูนีค
ค่าความคงทน : 500/500
พลังโจมตี : 703~991
ความเร็วในการโจมตี: -8(+2)%
_______
* สร้างความเสียหายเพิ่มเติมเท่ากับ 10% ของพลังป้องกันเป้าหมาย
* ยิ่งมีศัตรูอยู่ในรัศมีการโจมตีมาก พลังโจมตีก็จะยิ่ง รุนแรงขึ้น
(เพิ่มพลังโจมตีเป้าหมายละ 15 (+3) หน่วย)
* ผู้สวมใส่จะได้รับทักษะ <ประกายสีทอง>
อาวุธชิ้นนี้ถูกเสริมแกร่งถึงระดับ +8
หากเทียบกับตอน +0 ล่ะก็ พลังโจมตีดาอินสเลฟจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 56% และออปชั่นก็ส่งผลมากขึ้น 20%
ณ ตอนนี้ ดาอินสเลฟมองว่ามีศัตรูอยู่ในระยะจำนวน 11 คน หมายความว่าพลังโจมตีที่แท้จริงของดาอินสเลฟคือ 901~1,189 (รวมไปถึงการนำพลังป้องกัน 10% จากศัตรูมาเพิ่มให้กับค่าโจมตี) เพียงเท่านี้มันก็นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว กริดจึงคิดว่า ตนคงไม่จำเป็นต้องนำ <ความผิดพลาด> ออกมาใช้งาน
'พวกแร้งเกอร์นี่ประมาทไม่ได้เลยแฮะ'
คราวนี้กริดเปิดกระเป๋าสัมภาระ เขารีบสลับอาวุธในมือไปเป็น <ความผิดพลาด>
[ +9 ความผิดพลาด ]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 1,090/1,090
พลังโจมตี : 1,768~3,682
พลังป้องกัน : 80 (+24)
_______
* ความว่องไว +50 (+15)
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะปัดป้องการโจมตีของศัตรู
* มีโอกาสปานกลางที่จะแสดงผลทักษะ <โจมตีรุนแรง 5 เท่า> เมื่อทำการโจมตี
* มีโอกาสสูงที่จะแสดงผลทักษะ <เฉือน> เมื่อทำการโจมตี
* มีโอกาสเกินผลทักษะ <ผ่าสองซีก> ในขณะโจมตี
* ศัตรูที่มีเลเวลต่ำกว่าผู้ใช้งานเกินกว่า 20 ระดับจะตกอยู่ในอาการ <หวาดกลัว>
* พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 20(+6)% ในความมืด
ไอเท็ม +9 นั้นอยู่คนละมิติกับไอเท็ม +8 หากเทียบกับ +0 แล้ว ไอเท็ม +9 จะมีพลังโจมตีมากกว่าถึง 70% และออปชั่นจะเพิ่มขึ้นอีก 30% ด้วยการที่ <ความผิดพลาด> มีพื้นฐานพลังโจมตีสูงกว่าดาอินสเลฟอยู่แล้ว ความน่าเกรงขามของ <+9 ความผิดพลาด> จึงเรียกได้ว่าอยู่คนละมิติกับ <+8 ดาอินสเลฟ> อย่างสิ้นเชิง
'ลงท้ายด้วย เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งนานาชาติจนได้สินะ...'
เป็นวินาทีที่เรารู้ตัวว่าคงไม่อาจปิดบังตัวตนได้อีก ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงดีล่ะ?
'ก็ต้องเปิดตัวให้กระหึ่มโลกไปเลย'
เราไม่อยากเป็นคนดังเพราะไม่ชอบความน่ารำคาญในการตามติดของแฟนคลับไปทุกที่ แต่ในทางตรงกันห้าม หากเราทนได้ล่ะ? ประโยชน์ที่ตามมาก็จะเรียกได้ว่ามหาศาลอย่างมาก เราจะกลายเป็นคนดังในหมู่สาวๆ… เดี๋ยวก่อน… กลายเป็นคนดังในหมู่สาวๆ งั้นหรือ?
'ใช่แล้ว เราจะกลายเป็นคนดังในหมู่สาวๆ!'
หลังจากเหตุการณ์อาฮยอง เขาก็เริ่มไม่เชื่อใจผู้หญิงอีกต่อไป และไม่คิดมีความรักกับใครได้ง่ายๆ อีกแล้ว ทว่านั่นมันในตอนที่เขาไม่ใช่คนดัง หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ? ใครจะรู้? บางทีอาจมีแฟนคลับสาวๆ รุมล้อมก็เป็นได้
"หึหึหึ...!"
กริดอมยิ้มอย่างมีความสุข ทว่า หากมองในมุมศัตรูตอนนี้ รอยยิ้มของกริดช่างชั่วร้ายเป็นที่สุด
"วิชาดาบแพ็กม่า..."
"พ--แพ็กม่า...!"
"เขาคือของจริง!"
บรรดาแร้งเกอร์ต่างขบคิดจนหัวปั่น คลาสลับเกรดเลเจนดารี ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ชายผู้ที่เพิ่งจะทำให้โลกสั่นสะเทือนได้ไม่นานคนนั้น แท้จริงแล้วคือชาวเกาหลีใต้หรอกหรือ? แล้วแสงออร่าสีขาวนั่นคืออะไร?
'นั่นมันอาวุธ +9...!'
"มายาร่ายรำ!"
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าหลังจากสงครามไบรัน และการโจมตีนี้ก็รุนแรงกว่าเมื่อครั้งโจมตีใส่เนบีเรียสเสียอีก
[ ท่านได้รับความเสียหาย 18,050 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 19,900 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 18,410 หน่วย ]
"อ๊ากกกก!"
พวกมันต่างได้รับบาดเจ็บเป็นทุนเดิมอยู่แล้วระหว่างที่สู้กับยูร่า และโพชั่นฟื้นพลังชีวิตก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก ในตอนนี้จึงยากที่จะต้านทานต่อรัศมีดาบสีน้ำเงินอมขาวที่โหมกระหน่ำเข้าใส่ได้ ลำแสงสีเทาพลันสว่างวาบขึ้นทีละจุด
บางคนที่ใจเย็นพอจะเรียกทักษะป้องกันขึ้นมาทัน ก็สามารถยื้อชีวิตให้อยู่รอดต่อไป ทว่าจำนวนคนที่เหลือนั้นมีเพียงน้อยนิด มีผู้รอดชีวิตอยู่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือได้ถูกรัศมีดาบกลืนกินไปจนหมด ตัวละครถูกส่งออกนอกสนามด้วยอารมณ์ฉุดเฉียว
'ทักษะโจมตีหมู่มีความรุนแรงขนาดนี้ได้ยังไงกัน?'
'ทำไมหมอนี่ถึงไม่ติดอาการผิดปรกติ?'
ผู้เหลือรอดทั้งสี่ยังคงสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากโจมตีเสร็จ กริดก็มิได้นิ่งเฉย
"พริ้วไหว!"
เขาหยิบมีดสั้นอุดมคติออกมา เพื่อใช้พริ้วไหวไล่ตามคนที่ยังไม่ตาย หลังจากนั้นก็สลับกลับไปเป็น <+9 ความผิดพลาด> ต่อด้วยโทสะช่างตีเหล็กเพิ่มความแรงและความเร็ว
ดาบใหญ่อันเปี่ยมไปด้วยโทสะถูกฟันกวาดออกไปด้านหน้า
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
[ ความคงทนของ <ดาบซิลรอน> ลดลง 32 หน่วย ]
[ ความคงทนของ <โล่เรเกล> ลดลง 19 หน่วย ]
[ ความคงทนของ <เกราะทูฮอน> ลดลง 9 หน่วย ]
ฉัวะ! ฉึก! ฉับ!
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,820 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 12,030 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 10,550 หน่วย ]
"อั่ก! นี่มันอะไรกัน...?"
"ยิ่งป้องกัน ความคงทนของอาวุธก็ยิ่ง...!"
"บ้าเอ้ย! เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? อ๊ากกก!"
พลังโจมตีของชายคนนี้มีเท่าไรกันแน่นะ? เทียบได้กับมอนสเตอร์ระดับบอสเลยไม่ใช่รึไง? เวทย์ของยูร่าว่าแข็งแกร่งแล้ว แต่พวกมันยังพอทนได้บ้าง ทว่าไอ้บัดซบนี่เป็นใครกัน? พละกำลังของมัน แล้วความเร็วนั่นอีก ดาบใหญ่ขยับได้รวดเร็วแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ฉัวะ!
"อ๊ากกก!"
ไม่มีทางที่จำนวนคนเพียงแค่ 4 จะรับมือกริดไหว แม้จะมีการโจมตีสวนกลับมาบ้าง แต่พลังโจมตีของพวกเขาก็ไม่ได้มากมายอยู่แล้ว กริดซึ่งมีพลังป้องกันระดับเดียวกับคลาสสายแทงค์ ความเสียหายที่ได้รับจึงมีเพียงน้อยนิด
"แก...!"
บูบัตมีพลังชีวิตที่สูง เขาจึงพยายามใช้ทักษะคอยขัดจังหวะกริดไว้ให้เพื่อนที่เหลือ ทว่าด้วยความที่กริดต้านทานต่อทุกสิ่ง ทำให้การดิ้นรนของบูบัตสูญเปล่า จอมบดขยี้อาจเก่งกับทุกคน แต่ไม่ใช่กับผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า
'จะสู้ยังไงล่ะเนี่ย...!'
คลาสเกรดเลเจนดารีนั้นต่างออกไป ถึงจะไม่ได้มีทักษะควบคุมอันเก่งกาจ แต่ด้วยค่าพลังล้วนๆ ก็มากพอจะทำให้เป็นปีศาจได้แล้ว แถมยังมีไอเท็มสวมใส่ที่เสริมเข้าไปอีก
"มันจะโกงเกินไปแล้ว… แค่ก!"
"อ๊ากกก!"
ท้ายที่สุด ผู้เหลือรอดทั้ง 4 คน รวมถึงบูบัต ยามนี้ถูกกริดทำให้ล็อกเอาต์ไปจนหมดสิ้น
"แถวนี้หมดแล้วสินะ"
กริดจัดการกับแร้งเกอร์ทั้ง 11 คนที่เป็นตัวแทนประเทศเรียบร้อย เขาดื่มโพชั่นเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตและลอยตัวขึ้นเพื่อกวาดสายตามองไปรอบเกาะ
"..."
ฝั่งหนึ่ง เรกัสกับเม็ธกำลังเชิญหน้ากันอยู่ ส่วนนาตาชาก็ทิ้งเรกัสไว้ตามลำพังและเก็บแต้มของเธอไปเรื่อยๆ จิสึกะกับซามูลเอลคอยซ่อนตัวในป่า
ทางด้านสหรัฐ ฝรั่งเศส จีน และญี่ปุ่นต่างก็เก็บคะแนนไปพลาง ระแวงกันเองไปพลาง
ไม่ว่าใครก็ตาม หากสบตากับกริดเข้าเป็นต้องเสียวสันหลังวาบ แม้แต่จิสึกะกับเรกัสก็ไม่มีข้อยกเว้น ยามนี้พวกเขาคือศัตรู ทุกคนบนเกาะต่างนิ่งเงียบและไม่ส่งเสียงใดออกมา กริดจึงทำได้เพียงยักไหล่เบาๆ
"ก็ดี เกมนี้สามารถชนะได้โดยไม่ต้องสู้กัน"
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
ด้านบนท้องฟ้า มีดสีทองทั้งเจ็ดเล่มตามกระหน่ำไล่ระเบิดวัตถุเป้าหมายไปเรื่อยๆ ด้วยตัวมันเอง ยามนี้เกาหลีใต้มีมากถึง 110 คะแนนแล้ว ขาดอีกเพียง 40 คะแนนก็จะคว้าเหรียญทองไป ส่วนประเทศอื่น ค่าเฉลี่ยของแต้มจะอยู่ที่ 70 คะแนนเท่านั้น
ถ้าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ชัยชนะก็จะตกเป็นของเกาหลีใต้อย่างแน่นอน
『 … 』
ผู้บรรยากำลังนิ่งอึ้งในความสุดยอดของคลาสเลเจนดารี เขาไม่อาจตั้งสติเพื่อกล่าวสิ่งใดออกมาได้เลย
"..."
ผู้ชมเรือนแสนบนอัฒจันทร์พลันเงียบสงัด บรรยากาศภายในโซลโอลิมปิกสเตเดี้ยมไร้การขยับเขยื้อนราวกับหนูตาย
"..."
แม้กระทั่งผู้ชมทางบ้านนับล้านต่างก็พูดอะไรไม่ออก นับตั้งแต่ที่มนุษย์เกิดขึ้นบนโลก จะมีวันไหนที่โลกเงียบเท่าวินาทีนี้บางไหม? หลายคนต่างพากันสงสัย
"นายคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าจริงๆ"
ยูร่าพูดพลางอมยิ้มอย่างมีความสุข แม้เธอจะได้รับบาดเจ็บ แต่บาดแผลก็ไม่อาจกลบความงดงามนั้นไปได้ ทว่า ยามนี้ร่างกายเธออ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง เรือนร่างอันผอมเพรียวมิอาจพยุงลุกขึ้นมาได้ด้วยตนเอง กริดจึงร่อนลงมายืนข้างกาย
"รีบลุกขึ้นเถอะ อย่าทำสำออยไปนักเลย คนอย่างเธอล้มลงนานๆ แบบนี้จะดีหรือ?"
"นายก็ช่วยฉันหน่อยสิ" ยูร่าพูดขึ้นพร้อมกับยื่นแขนออกไป
"ชิ!"
กริดพ่นลมเล็กน้อยก่อนจะคว้ามือของเธอไว้และดึงขึ้น ภาพดังกล่าวถูกฉายออกไปทั่วทั้งโลกทันที
และหลังจากนั้น...
"เฮ~~~~~~~~~!!"
"กริด! กริด! กริด!"
"ยูร่า! ยูร่า! ยูร่า!"
ผู้ชมชาวเกาหลีใต้ต่างส่งเสียเชียร์คนทั้งสองจนดังกระหึ่ม
ณ ตอนนี้ เกาหลีใต้ ประเทศซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าอ่อนแออย่างมากในซาทิสฟาย ชายหญิงทั้งสองกำลังจะทำให้คำดูถูกอันยาวนานเหล่านั้นมลายหายไปจนหมดสิ้น
และตำนานที่แท้จริงก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
แบบนี้จิสึกะก็นกสิ
ReplyDeleteThis comment has been removed by a blog administrator.
ReplyDeleteคุณพี่อย่าพึ่งไปสปอยล์เค้าสิครับ -..-
Deleteไหน ๆ ก็จะแพ้แล้ว งานนี้เจอศรฟินิกส์แถมท้ายแน่ ๆ ข้อหาหึงหวง
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteค้างไปตามๆกัน
ReplyDelete