จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 171



       ยูร่ารักษาที่มั่นของเธอไว้ด้วยพายุทมิฬและเวทย์มนต์ผสานสองธาตุ

       "อัสนีทมิฬ!"

       ซู่ววว  เปรี้ยง!  เปรี้ยง!

       นี่มันระดับภัยพิบัติธรรมชาติแล้ว  กลุ่มเมฆสีดำก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า  อัสนีพลันโหมกระหน่ำฟาดผ่าลงมาจนทั่วบริเวณด้านล่าง  ต้นไม้เกิดไฟลุกไหม้  พื้นดินสั่นสะเทือนรุนแรง  ผู้บรรยายซึ่งกำลังตื่นเต้นรีบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างละเอียด

       『 38, 39, 40…! 45! 46! ทีมเกาหลีใต้!  46 คะแนนแล้วครับ!  เป็นความเร็วที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ!』

       "เฮ~~~!!"

       ผู้ชมต่างตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็นจนเกือบหยุดหายใจ  แต่เพียงไม่นานก็ลืมตาตื่นขึ้นจากภวังค์หลับลึก  พวกเขาล้วนตะโกนออกมาอย่างเสียงดังพร้อมเพรียงกัน  มันดังกระหึ่มเสียจนดูเหมือนได้ยินไปไกลถึงเกาหลีเหนือเลยทีเดียว

       จิสึกะส่ายศีรษะเล็กน้อย

       "ไม่ต่างอะไรกับเมื่อครั้งเนบีเรียสเลยสักนิด  ทั้งความรุนแรงและความเร็วในการร่าย  เธออยู่เหนือระดับผู้เล่นทั่วไปหลายขุมแล้วสินะ  ในฐานะข้ารับใช้ลำดับที่แปด  เธอเองก็คงไม่ต่างกับมอนสเตอร์บอสตัวหนึ่ง"

       ซามูเอลพลันพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล

       "ทีมอื่นกำลังรวมตัวกันโจมตียูร่า  พวกเราเองก็ควรไปด้วยรึเปล่า?  ถ้าหากมีการลอบยิงจากคุณ  รับรองได้เลยว่ายูร่าไม่รอดแน่  ใช่ไหมล่ะ?"

       จิสึกะพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยัน
     
       "นั่นคือการกระทำที่โง่เขลามาก"

       เมื่อพูดจบ  จิสึกะก็เล็งธนูขึ้นไปบนท้องฟ้า  สายรั้งธนูถูกปล่อยออกจากมือด้วยความเร็วสูง

       บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!

       วัตถุเล็กๆ ที่กำลังบินด้วยความเร็ว 40 เมตรต่อวินาทีได้ถูกลูกธนูเสียบเข้าอย่างพร้อมเพรียงกัน  กล้องตัดภาพจากยูร่ามายังจิสึกะทันที  ผู้ชมในสนามต่างส่งเสียงดังด้วยอาการตื่นเต้น  ฉากตรงหน้าคือการกระหน่ำยิงลูกธนูขึ้นฟ้าเพื่อระเบิดวัตถุเป้าหมายชิ้นแล้วชิ้นเล่า  สมกับเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจากเทพีแห่งคันศร

       『 ทีมบราซิล  13 คะแนน! 14 คะแนน! 15 คะแนน! พวกเขาฉวยโอกาสที่ทีมอื่นไล่ตามยูร่าเพื่อเก็บคะแนนไปแบบสบายใจ!  และในขณะที่ผมกำลังพูดอยู่นี้  ทีมสหรัฐ  ทีมฝรั่งเศส  ทีมจีน  และทีมญี่ปุ่นเองก็กำลังแอบทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาแล้วครับ 』

       จะต้องมีใครบางคนไปกดดันยูร่าไว้  แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นทีมตนเองก็ได้  ถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมากสำหรับบางประเทศ  ทั้งสหรัฐ  จีน  และบราซิลต่างก็กระทำแบบเดียวกันนี้  พวกเขาล้วนคิดในใจว่า  ทีมที่เข้าไปรับมือกับยูร่านนั้นเป็นพวกไอ้งั่ง  และจะกลายเป็นแพะรับบาปของเกมนี้ในภายหลัง

       "บ้าจริง!"  หนึ่งในผู้เล่นทีมชาติสเปน  เม็ธ  สถบพร้อมกับพุ่งตัวเข้าไปหายูร่าดังเช่นผู้เล่นทีมอื่น  ในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก  แต่กลับมีใครบางคนเก็บคะแนนอย่างสุขสบายงั้นหรือ?  ถึงคะแนนจะไม่ได้พุ่งพรวดจนตามไม่ทัน  ทว่ามันก็น่าหงุดหงิดไม่น้อย

       'หรือพวกเราควรจะไปจัดการกับวัตถุเป้าหมายมากกว่ากันนะ?'

       เหล่านักกีฬาตรงนี้ต่างเกิดปัญหาทันที  พวกเขาสายเกินกว่าจะถอยหลังแล้ว  ลงท้ายด้วย  ทีมนักกีฬาทั้งหมด 8 ทีม  รวมทั้งสเปน  ต่างบุกเข้าใส่ยูร่าเพื่อดับลมหายใจของเธอ

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

       การกระหน่ำโจมตีของเวทย์มืดยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง  ความอัจฉริยะในการควบคุมเวทย์มนต์ของยูร่า  ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งแล้วว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของคลาสจอมเวทย์ในซาทิสฟายอย่างไร้ข้อกังขา  ทั้งผู้ชมและผู้เล่นต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้างไปพร้อมกัน  ในขณะที่ผู้บรรยายก็กล่าวชื่นชนเธอจนแทบไม่พักหายใจ

       แต่เธอก็ไม่ใช่คนพิเศษเพียงหนึ่งเดียวบนเกาะนี้  ผู้เล่นที่เข้าร่วมการแข่งซาทิสฟายนานาชาติทุกคนต่างก็เป็นสุดยอดของแต่ละประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  บรรดาแร้งเกอร์ระดับสูงทั้งหลาย  พวกเขาย่อมมีทักษะในการต่อสู้กับผู้เล่นด้วยกันเองที่สูงมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ในการแข่งทำลายวัตถุนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน

       ผู้เล่นคนเดียวบนเกาะทีร่าที่มีอันดับเกินกว่า 80 ของโลก ณ ตอนนี้ไม่ใช่ใครอื่น  แต่เป็นซามูเอล  คู่หูของจิสึกะ

       เป๊ง!  บึ้ม!

       นักกีฬาจากทีมชาติอื่นๆ ต่างใช้ทักษะป้องกันตัวเพื่อลดทอนความเสียหายจากเวทย์ของยูร่าได้อย่างชำนิชำนาญ  พวกเขาย่นระยะที่มีต่อยูร่าได้ในพริบตา  ทำให้ยูร่าพลันรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

       'คนพวกนี้  เก่งกว่าที่เราคาดไว้มากทีเดียว'

       ในเมื่อแผนรีบทำคะแนนให้ครบ 150 ต้องพังลงไป  ยูร่าจึงเลี่ยงการต่อสู้พัวพันในระยะยาวไม่ได้  และตัวเธอที่อยู่ตามลำพังก็คงถึงจุดจบในไม่ช้า

       'ท้ายที่สุดแล้ว… เรามาได้แค่นี้หรือ?'

       ยูร่าเคยถูกสื่อนอกสัมภาษณ์ในนามตัวแทนของเกาหลีใต้อยู่บ่อยครั้ง

       พวกสื่อเหล่านั้นต่างเอาแต่เรียกว่าเธอเป็น <ความหวังสุดท้ายของเกาหลีใต้>  และคอยแต่ยิงถามว่า  จะมีใครในเกาหลีใต้ที่มีพรสวรรค์แบบเธอปรากฏตัวออกมาอีกไหม?  เท่านั้นยังไม่พอ  ยังมีคำถามที่น่ารังเกียจอย่าง <รัฐบาลเกาหลีใต้กับเอส เอ กรุ๊ป คอยหนุนหลังเธออยู่รึเปล่า?>

       ยูร่าไม่ชอบให้ชาวต่างชาติคนใดมาดูแคลนประเทศที่เธอเกิดและเติบโตขึ้น  มันเหมือนกับปฏิกริยาตอบสนองอัตโนมัติ  เธอไม่เคยคิดว่าความรักชาติของเธอนั้นสุดโต่ง  เพราะไม่ว่าใครก็ตาม  คงไม่ชอบให้ชาวต่างชาติมาว่าร้ายประเทศของตนแบบนี้เหมือนกัน  เธอต้องการกอบกู้ชื่อเสียงของเกาหลีใต้ด้วยเวทีการแข่งครั้งนี้  ทว่าดูเหมือนลำพังเธอคนเดียว  ความหวังลมๆ แล้งๆ เช่นนั้นคงมิอาจทำให้สำเร็จได้

       ในขณะที่ยูร่ากำลังมีสีหน้าหม่นหมองสุดขีด  ชายคนหนึ่งก็กระโดดลงมาและเอาตัวบังเธอไว้  การปรากฏตัวของเขานั้นเด่นผงาดขึ้นมาราวกับพระเอกขี่ม้าขาว  ชายคนดังกล่าวคือเรกัส  นักกีฬาจากสหราชอาณาจักร

       "ผู้ชาย 16 คนคิดจะทำรุมทำร้ายผู้หญิงเพียงคนเดียวงั้นหรือ?"

       "ฮ่า!  นายอย่าโง่ไปหน่อยเลยเรกัส"

       คู่หู่ของเรกัส  นาตาชา  เธอได้แต่แอบปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่เงียบๆ ในความมืด

       เม็ธขบกรามแน่น

       "เรกัส!  นายเข้าไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึไง?  ถ้าหากนายช่วยยูร่าในตอนนี้  เกาหลีใต้จะต้องคว้าเหรียญทองในการแข่งประเภทนี้ไปแน่!  ได้โปรดละทิ้งความยุติธรรมจอมปลอมนั่นชั่วคราวทีเถอะ!"

       "ความยุติธรรมจอมปลอม?"  สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มตลอดเวลาของเรกัสพลันเย็นยะเยียบ

       "นายกล้าดูถูกวิถีนักสู้ของฉันเชียวหรือ?"

       เมื่อหนึ่งเดือนก่อน  ในที่สุดเรกัสก็แซงจิสึกะและกลายเป็นอันดับ 12 ของโลกได้สำเร็จ  เขาไม่ได้มีฉายาเทควอนมาสเตอร์ไว้เป็นเพียงเครื่องประดับเท่านั้น

       ผัวะ! พลั่ก!!

       "อั่ก!"

       อดีตเหรียญทองเทควอนโดโอลิมปิกประเคนลูกเตะใส่เม็ธอย่างต่อเนื่อง  การโจมตีอันไร้จุดบกพร่องได้ทะลวงร่างเม็ธราวกับเป็นดอกสว่าน  ผู้ชมชาวเกาหลีใต้พลันส่งเสียงเชียร์ทันที

       "เทควอนโด!"

       "ต้องอย่างนั้น!  เรกัส!  ช่วยแสดงความน่าเกรงขามของเทควอนโดให้พวกมันได้เห็นทีเถอะ!"

       เรกัสคือผู้เล่นที่โด่งดังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  เขาปรากฏตัวออกมาในจังหวะที่เหมาะเหม็งและช่วยต่อชีวิตยูร่าไว้  ประหนึ่งเป็นฉากไคลแม็กซ์ในหนังที่พระเอกมาช่วยนางเอก  ทำให้ในตอนนี้  ไม่ใช่แค่เกาหลีใต้หรือสหราชอาณาจักร  แต่ผู้ชมจากหลายประเทศต่างก็ส่งเสียงเชียร์เรกัสไม่หยุดปาก

       กลุ่มของเม็ธรู้ดีว่าเรกัสแข็งแกร่งขนาดไหน  ทว่าเม็ธก็รู้ตัวเองเช่นกันว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด  เพียงแต่ต้องทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้น

       'เราทนได้น่า'

       เม็ธคือผู้เล่นอันดับ 1 ในคลาสมังก์ และอันดับ 33 ของโลก  เขาจึงไม่มีทางล้มให้กับหมัดของเรกัสง่ายๆ แน่  เม็ธพลันยืนปักหลักอย่างมั่นคงก่อนจะตะโกนขึ้นว่า

       "ฉันจะรับมือกับหมอนี่เอง  พวกนายรีบไปจัดการกับยูร่าซะ!  รีบปิดเกมให้ไวที่สุด  พวกเราจะได้มีเวลาไล่ตามสหรัฐและฝรั่งเศสทัน!"

       ทั้ง 8 ทีมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องร่วมมือกัน  พวกเขามีจำนวนรวมกัน 15 คนถ้าหากไม่นับเม็ธ  เรกัสเกรงว่ายูร่าจะเป็นอันตราย  เขาจึงรีบใช้ออร่าสายฟ้าออกมาเพื่อปิดเกม

       เปรี้ยงงงง!

       ออร่าสายฟ้าสีทองกระแทกใส่ร่างกายาเหล็กของเม็ธเข้าอย่างจัง

       "แค่ก!"

       เม็ธกระอักเลือดคำโตก่อนจะงอตัวและล้มฟุบลงไปกับพื้น
     
[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง! ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 10,900 หน่วย ]

       "อ--ไอ้หมอนี่...!"

       เม็ธรีบดื่มโพชั่นและกลับมาสู้ต่อ  ทว่าเรกัสก็เบี่ยงตัวหลบอย่างง่ายดายและเตะสวนกลับไป

       เปรี้ยงงงง!

       ลูกเตะที่เคลือบไว้ด้วยออร่าสายฟ้าสีทองพลันปะทะกับใบหน้าเม็ธด้วยความหนักหน่วง
     
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,800 หน่วย ]

       การโจมตีพัวพันยังคงตามมาหลังจากนี้ไม่หยุด

       เปรี้ยะ… เปรี้ยะ...

       ผลั่ก!

[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,350 หน่วย ]

       "ฝ่ามือคลื่นกระแทก!"

       ผัวะ!

[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,200 หน่วย ]

       "...!"

       คราวนี้เม็ธส่งเสียงร้องไม่ออกแล้ว  มันได้แต่กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง  หลังจากนั้นก็ทิ้งตัวกลิ้งลงจากหุบเขาเพื่อหลบเวทย์ของยูร่าที่ยังคงกระหน่ำอยู่ด้านบน

       "เจ้าบ้านั่น...!"

       แตกต่างจากพาลาดิน  มังก์นั้นไม่ได้เป็นผู้ศรัทธาของโบสถ์หลักทั้งสาม  แต่จะถวายตัวรับใช้เทพท้องถิ่นนามว่า <บอริส>  ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักมากนักหากนำไปเทียบกับสามเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่มีโบสถ์กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งทวีป  เนื่องด้วยเหตุนั้น  เม็ธจึงต้องดั้นด้นไปยังหมู่บ้านทุรกันดารชายขอบของทวีปเพื่อเปลี่ยนเป็นคลาสมังก์  และทุกครั้งที่ต้องการจะเรียนทักษะใหม่  เขาก็จะต้องกลับไปที่นั่นอยู่ร่ำไป

       นี่ไม่ใช่ข้อเสียเพียงข้อเดียวของคลาสมังก์  แตกต่างจากพาลาดิน  มังก์ไม่สามารถสวมชุดเกราะหนักได้  ไม่อาจใช้อาวุธมีคมได้  ชุดที่สวมจะต้องเป็นสิ่งที่ทำมาจากผ้าเท่านั้น  แม้แต่หนังสัตว์ก็ห้าม  ส่วนอาวุธก็ใช้ได้เพียงไม้กระบอง  ซึ่งทั้งพลังโจมตีและความเร็วโจมตีนั้นต่ำมาก
     
       ดังนั้น  มันจึงเป็นการทรมานแสนสาหัสที่จะอัพเลเวลด้วยคลาสมังก์  ผู้เล่นส่วนมากจึงเลี่ยงจะเล่นคลาสนี้

       "หวนกลับจุดเริ่มต้น!"

[ พลังชีวิตของท่านถูกฟื้นฟูจนเต็ม ]
[ ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่ถูกย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น ]
[ พลังชีวิตของท่านจะลดลงเรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือ 1 หน่วย ]

       "หวนกลับค่าสถานะ!"

 [ ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงค่าสถานะของตนได้ชั่วคราว  กรุณาตั้งค่า ]

       "ขอเปลี่ยนค่าสติปัญญา  ความทรหด  ความพากเพียร  และโชค  ไปเพิ่มให้กับความว่องไวทั้งหมด"

[ สติปัญญา  ความทรหด  ความพากเพียร และโชคลดลงเหลือ 1 แต้ม  ส่วนความว่องไวของท่านกลายเป็น 2,137 แต้ม ]

       มังก์เองก็เป็นคลาสหนึ่งที่ศรัทธาในศาสนา  ทว่าหลักการค่อนข้างจะแตกต่างกับพาลาดินหรือนักบวชสักหน่อย  พวกเขาคือผู้แสวงบุญที่เลือกทางเดินอันเจ็บปวด  พวกเขาจะต้องสูญเสียบางอย่าง  เพื่อให้ได้รับบางอย่างเป็นการตอบแทน  โดยยิ่งสิ่งที่สละมีมาก  สิ่งตอบแทนก็ยิ่งสูงตามไปด้วย

       "ย๊าาาากกก!"

       มังก์อันดับ 1 ของโลก  เม็ธ  ทำการปืนเขาขึ้นมาอีกครั้งด้วยท่าทีที่ต่างจากเดิม  ทั่งโลกต่างกำลังจับตาดูผู้เล่นคลาสมังก์ที่มีเพียงน้อยนิดคนนี้

       ผัวะ!

       กระบองอันทรงพลังถูกซัดใส่เทควอนมาสเตอร์

       เรกัสล้มลงและรีบตั้งตัวยืนขึ้น  เขาพูดด้วยสีหน้าตกตะลึงไม่น้อย

       "บาดแผลหายเร็วเหมือนกันนี่  ว่าไหม?"     

       "ถ้าหากนักสู้แข็งแกร่งได้ด้วยการฝึกฝนกระบวนท่าอย่างหนัก  มังก์อย่างฉันก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยการฝึกฝนร่างกายโดยไม่ย่อท้อเช่นกัน  ฉันค่อยๆ สร้างร่างกายอันแข็งแกร่งนี้ขึ้นมาอย่างใจเย็น  ดังนั้นมันไม่มีทางพังทลายลงง่ายๆ แน่  ฉันจะไม่มีวันล้มลงเด็ดขาด!"

       มันน่าอายไหมน่ะหรือ?  ที่ผู้ชายจำนวนมากต้องรุมทำร้ายผู้หญิงเพียงคนเดียว

       'อย่ามาทำให้ขำหน่อยเลย'

       ที่นี่คือสนามรบ  ไม่มีเหตุผลใดให้ต้องปราณีคู่ต่อสู้  ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม

       'ฉันเป็นตัวแทนทีมชาติสเปน  ฉันแบกรับความคาดหวังของคนสเปนเอาไว้บนบ่า!'

       สำหรับประเทศสเปนนั้น  เพียงแค่อีเวนต์เล็กๆ ก็มากพอจะทำให้ประชาชนทั่วประเทศตื่นตัวได้แล้ว  นับประสาอะไรกับซาทิสฟายที่มีประชากรหนึ่งในสามของโลกให้ความสนใจ  ภาระบนบ่าของเม็ธนั้นหนักอึ้ง  ในเมื่อเขาคือตัวแทน  เขามีแต่ต้องทำให้ดีที่สุดเท่านั้น

       เม็ธพลันเปี่ยมไปด้วยไฟแห่งการต่อสู้  เขาโหมโจมตีใส่เรกัสไม่หยุดมือ  แม้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งกว่า  แต่เขาจะต้องไม่เผยความอ่อนแอออกมาเมื่อต้องเป็นตัวแทนทีมชาติ  เม็ธคอยถ่วงเรกัสไว้ให้  ในขณะที่อีก 15 คนคอยรุมโจมตียูร่า

       'น่ารำคาญฉิบ'

       คู่หูของเรกัส  นาตาชา  คิดต่างจากทุกคน  เธอไม่อยากช่วยยูร่าเหมือนกับเรกัส  และเธอก็ไม่อยากโจมตียูร่าเช่นกัน  เพราะนาตาชาไม่ใช่คนที่มีนิสัยชอบละทิ้งหน้าที่  เธอจะคอยหลบอยู่ในมุมมืดและแอบโจมตีวัตถุเพื่อเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ

       ยูร่ากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งมากถึง 15 คนพร้อมกัน  สีหน้าผ่อนคลายในตอนแรกของเธอจึงไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว

       ***

       เป็นความจริงที่ตั๋วการแข่งซาทิสฟายนานาชาติถูกขายหมดเกลี้ยงไปตั้งแต่หลายเดือนก่อน  ทว่าชินยองวูกลับเดินเข้าไปภายในสนามได้โดยปราศจากสีหน้ากังวล

       "คุณผ่านเข้าไปไม่ได้  หากไม่ได้แสดงบัตร"

       เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยรีบขวางทางยองวูเอาไว้

       "คุณหมายถึงไอ้นี่เหรอ?"

       ยองวูหยิบไอดีการ์ดที่ได้รับมาจากจดหมายเมื่อไม่กี่วันก่อน  หลังจากนั้นเส้นทางเบื้องหน้าก็เปิดโล่ง  เขาสามารถเดินไปตามทางยาวและตรงไปยังห้องพักนักกีฬาได้โดยไม่ถูกขัดขวาง  หลังจากนั้นยองวูก็รีบเดินไปที่ห้องพักนักกีฬาบราซิล

       ทว่าจิสึกะไม่อยู่แล้ว  เธอกำลังปรากฏตัวอยู่บนหน้าจอฉายภาพขนาดยักษ์แทน

       'นี่คือการแข่งทำลายวัตถุใช่ไหม?'

       สีหน้าของยองวูพลันแย่ลงทันทีที่ภาพในมอนิเตอร์ฉายต่อไปเรื่อยๆ   โดยเฉพาะภาพของยูร่าที่กำลังโดดเดี่ยวตามลำพัง

       'ยัยบ้าเอ้ย'

       ทำไมเธอถึงต้องทำให้ฉันดูแย่ขนาดนี้ด้วย?

       'ทำไมต้องใส่รายชื่อของคนที่ไม่อยากลงแข่งด้วยนะ?  เฮ่อ  ยัยผู้หญิงเอาแต่ใจ  อ๊ะ...'

       ยองวูนั่งลงในกลุ่มนักกีฬาทีมบราซิลด้านนอก  ไม่มีใครสนใจการมาถึงเขา  เพราะทุกคนมัวแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับจอฉายภาพด้านบน

       『นักกีฬายูร่ากำลังแย่แล้วครับ!  ตัวแทนนักกีฬาจากทั้ง 8 ประเทศกำลังคิดจะโจมตีเธอเข้าไปพร้อมกันหลังจากนี้』

       『 ทั้ง 15 คนนับว่าไม่มีใครเป็นผู้เล่นโนเนม  อย่างน้อย 6 ใน 15 ก็เป็นถึงท็อป 30 ของโลก  ช่างน่าเศร้า  ความหวังเดียวของเกาหลีใต้คงจบลงแล้วครับ 』

       『 โอ้...!  ก่อนหน้านี้พวกเขายังรับมือกับสุดยอดการบังคับตัวละครของเธออย่างยากลำบาก  ทว่าตอนนี้ยูร่าได้ถูกโจมตีเข้าไปบ้างแล้วครับ...! 』
     
       『เป็นที่รู้กันว่าพลังป้องกันของจอมเวทย์นั้นต่ำมาก  หากโดนเข้าไป  คงได้ล้มลงในระยะเวลาอันสั้นแน่  เป็นภาพที่ทนดูไม่ได้จริงๆ ครับ  ยูร่าเป็นถึงตัวเต็งในการคว้าเหรียญทองของการแข่งทำลายวัตถุ… อาจจะเป็นอย่างที่ทุกคนคาดไว้ก็ได้  ว่าเกาหลีใต้คงจะไม่ได้เหรียญรางวัลใดติดมือกลับไปเลยในปีนี้  』

       『 นี่คือความจริงที่เกาหลีใต้ต้องยอมรับให้ได้  พวกเขาพยายามจะกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมาในเวทีนานาชาติ  แต่ดูเหมือนในปีนี้จะยังทำไม่สำเร็จนะครับ』

       『 ในระหว่างที่ผมกำลังบรรยายไปด้วย  ยูร่าก็ถูกโจมตีเข้าไปอีกครั้งแล้วครับ  ตอนนี้คงถึงขีดจำกัดแล้วจริงๆ   และเมื่อใดที่เธอล้มลง  นั่นจะเป็นจุดจบของเกาหลีใต้อย่างแน่นอน 』

       ยิ่งมองจอฉายภาพ  สีหน้าของยองวูก็ยิ่งหมองหม่นลงทุกขณะ  ในทางตรงกันข้าม  ทีมนักกีฬาบราซิลด้านนอกกลับเอาแต่หัวเราะเฮฮาอย่างสนุกสนาน

       'น่ารำคาญฉิบ'

       เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้เอาเสียเลย  ก่อนหน้านี้ยองวูเคยต้องถูกคนที่แข็งแกร่งกว่ารุมทำร้ายตามลำพังบ่อยครั้ง  ส่วนเพื่อนน่ะหรือ?  ของแบบนั้นเขาจะไปมีได้อย่างไร?  ทำให้ยองวูอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกอยากช่วยเหลือ  เมื่อต้องเห็นคนอ่อนแอถูกรุมทำร้ายโดยผู้แข็งแกร่งกว่าต่อหน้าต่อตา

       และ ณ ตอนนี้  คนอ่อนแอที่กำลังถูกรุมทำร้ายคือยูร่าและเกาหลีใต้

       มันเป็นเรื่องที่น่าสับสนอย่างมาก  ตั้งแต่เขายังเด็ก  ชินยองวูไม่เคยเข้าใจเลยว่า  พวกวีรบุรุษผดุงความยุติธรรมในทีวีทำไมถึงช่วยคนโดยไม่มีเหตุผล  เขารู้สึกอินตามการกระทำของพวกตัวร้ายเสียมากกว่า

       ทว่าในคราวนี้  ความรู้สึกของฮีโร่กลับกำลังพุ่งพล่านอัดแน่นอยู่ในหัวใจ

       'ไม่ใช่ว่าเราเคยสาบานกับตนเองไว้แล้วงั้นหรือ?  ว่าถ้าหากชีวิตประสบความสำเร็จ  จะขออยู่อย่างสันโดษเงียบๆ โดยไม่ถูกใครรบกวน  แล้วนี่มันอะไรกัน?  หืม?  ชินยองวู  นายคิดจะทำอะไรกันแน่?'

       ในตอนที่เขาตกระกำลำบาก  ไม่มีใครเลยสักคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย  ตรงกันข้าม  ทุกคนกลับยิ่งถอยห่างออกไปและแสดงท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์

       แต่ตอนนี้กำลังมีคนต้องการความช่วยเหลืออยู่ตรงหน้า  แล้วทำไมเขาต้องยื่นมือเข้าไปช่วยด้วย?

       "บ้าจริง… ทำไมมันถึงน่าปวดหัวขนาดนี้!"

       เขาเองก็ไม่ทราบว่าทำไม  แต่ยองวูไม่อาจนั่งติดพื้นได้อีกแล้ว  เขาค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นด้วยสีหน้าลังเล
     
       หลังจากนั้นก็สรรหาเหตุผลต่างๆ นาๆ มาสนับสนุนการกระทำของตนเอง

       'จริงสิ  หากได้เหรียญรางวัล  รัฐบาลเกาหลีใต้สัญญาว่าจะจ่ายเงินเป็นการตอบแทนใช่ไหม?  ถ้าจำไม่ผิด  เหรียญทองละ 200 ล้านวอนละมั้ง'

       ไม่เพียงเท่านั้น  รัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงให้คำมั่นสัญญาว่า  จะมอบสิทธิพิเศษให้นักกีฬา  ถ้าหากทีมเกาหลีใต้มีเหรียญรางวัลรวมติดท็อป 3

       'ใช่แล้ว  เราทำไปเพื่อเงินเท่านั้น'

       นี่แหละ  คือเหตุผลที่เราต้องออกไป  ไม่ใช่เพราะเราอยากเป็นวีรบุรุษ  ไม่ใช่เพราะเรารู้สึกสงสารที่ยูร่าถูกรุมทำร้ายตามลำพัง  ไม่เลยสักนิด  เราไม่ใช่คนแบบนั้น 

       แล้วมันเพราะอะไรกันล่ะ?  เราไม่ชอบให้ใครมาดูถูกเกาหลีใต้งั้นหรือ?

       เปล่าเลย  เราทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น

       คำพูดเหล่านี้คอยสะกดจิตของเราเอาไว้ให้ต้องลงมือ

Comments

  1. ก็ยังน้ำเหมือนเดิมตอนนี้ อือหือออ เอ็งรีบลงไปตบตีได้แล้ว ไอ่ชิ้นหมูหยอง! ค่าตัวแพงจังนะเอ็ง

    ReplyDelete
  2. หาเหตุผลได้แล้วก็รีบไปช่วยสาวสวยได้แล้ว

    ReplyDelete
  3. มันหยดติ๋ง จากมันต่อไปคงจะเนื้อล้วนๆละนะ ยาวไปๆ

    ReplyDelete
  4. กริดคงอดเข้าไปช่วยไม่ได้แน่ และกริดนี้และจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงให้เกาหลีใต้ชนะในซาทิสฟาย ส่วนลูกบอลทองที่เร็ว กริดก็คงจะให้ พามิเนียมที่เป็นเข็ม ไปทำลายลูกบอล แค่ลูกเดวก็ได้ 50 แต้มแล้ว รอลุ้น จะใช้ที่ คิดรึป่าว...... 5555 ยาวไปๆ

    ReplyDelete
  5. เข้าสนามหลังจากแข่งไปแล้วได้เหรอ เหมือนไปโกงเค้าเลย

    ReplyDelete
  6. น่าจะเข้าได้ยุนะ เพราะมีชื่อยุในการแข่งขัน คงไม่ถือว่าโกงหรอ เพราะยังไม่ได้เล่น แล้วยังไม่ได้ตายในการแข่ง

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00