จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 180

       วันสุดท้ายของการแข่งซาทิสฟายนานาชาติในปีแรก  ดันไปตรงกับวันหยุดประจำชาติของเกาหลีใต้พอดิบพอดี

       ณ เวลา 9 นาฬิกาในยามเช้า

       ในชั่วโมงเร่งด่วนเช่นนี้  ร้านขายไก่ทอดทั่วประเทศกำลังเริ่มทะยอยจัดส่งออร์เดอร์ตามปรกติ  

       เจ้าของร้านไก่ทอดแห่งหนึ่งซึ่งสมาชิกในครอบครัวทุกคนกำลังหัวปั่นอยู่กับการทอดไก่

       กริ๊ง! กริ๊ง!

       ทุกคนแทบไม่มีเวลาว่างไปทำอย่างอื่น  ร้านขายไก่ทอดเล็กๆ แห่งนี้กำลังถูกถล่มด้วยออร์เดอร์จำนวนมหาศาลมาพักใหญ่แล้ว

       >>  สั่งไก่ทอดกับเบียร์อย่างละที่  ส่งตอน 11 โมงนะ

       >>  ขอจองไก่ทอด 2 ที่  ส่งตอน 11 โมงนะ  และคูปองจากฟุตบอลโลกคราวก่อนที่ยังเหลือ  ขอใช้ให้หมดคราวนี้รวดเดียวเลยก็แล้วกัน

       >>  โซจูกับเบียร์อย่างละที่  ไก่ย่างหนึ่งตัว  รีบหน่อยนะ!  นำมาส่งให้ทันก่อน 11 โมง

       >>  ฉันขอสั่ง… อะไรนะ?  ไก่หมดแล้ว  เหลือแต่สลัด?  ไม่เป็นไร  เดี๋ยวฉันไปหาสั่งจากร้านอื่นก็ได้ 

       หลังจากนั้นพักใหญ่

       การแข่งขันลานประลองที่ทุกคนรอคอยมานานจะมีขึ้นตอน 11 โมงตรง    และเวลานั้นก็ใกล้มาถึงทุกทีแล้ว  

       ร้านขายไก่ทอดแห่งนี้ทำรายได้เป็นสิบเท่าของปรกติจากช่วงเทศกาลแข่ง  เจ้าของร้านรีบออกคำสั่งกับพนักงานส่งของจำนวนมากที่จ้างมาเป็นพิเศษเฉพาะวันนี้ทันที

       "ไปส่งได้!"
       
       บรื้นนน~

       ทุกเมืองในเกาหลีใต้  ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเพื่อหวังเข้าชมการแข่ง  ต่างกำลังตกตะลึงในภาพที่เห็นอย่างอย่างมาก  บนถนนล้วนเต็มไปด้วยรถจักรยานยนต์!  พนักงานส่งของเหล่านี้ด้านหลังจะมีกล่องขนาดใหญ่ติดไว้ท้ายรถ  บนกล่องจะมีธงและป้ายของร้านขายไก่ทอดติดอยู่  

       เป็นภาพที่ชวนทำให้ชาวต่างชาติไม่เข้าใจเอาเสียเลย

       "ไม่ใช่ว่าเกาหลีใต้กินข้าวเป็นอาหารหลักงั้นหรือ?"

       "ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นไก่ทอดแล้วล่ะมั้ง..."

       "ประชากรเกาหลีใต้มีรูปร่างที่ดีขึ้นเพราะได้กินเนื้อมากขึ้นนี่เอง"

       ณ เวลา 11 โมงตรง 

       『 นักกีฬาลงสนามแล้วครับ! 』

       "เอาแล้ว!  เริ่มแล้ว!"

       ครอบครัว  เพื่อนฝูง  และคู่รัก  ทั้งหมดต่างกำลังนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ  สองบุรุษผู้ตกเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกในสองสามวันที่ผ่านมา  กริดและฮูเร็น  ยามนี้ได้เข้ามาเผชิญหน้ากันบนสังเวียนปราสาทไลอ้อนแล้ว

       "หวังว่ากริดจะทำสำเร็จนะ"

       "ด้วยความสัตย์จริง  หากดูจากผลการดวลเมื่อครั้งแข่งทำลายวัตถุ  คงเป็นการยากที่กริดจะเอาชนะได้  แต่ฉันก็หวังให้เขาทำเต็มที่  ถึงจะต้องเป็นฝ่ายแพ้ก็เถอะ"

       "ใช่แล้ว  มาเชียร์กริดกันเถอะ"

       "ฉันไม่สนพวกผู้เชี่ยวชาญหรอกนะ  แต่ฉันคาดหวังในตัวกริดที่เป็นคลาสเลเจนดารีให้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้"

       ติ๊งต่อง~

       "ไก่ทอดมาแล้ว!"

       "จริงสินะ  11 โมงแล้วนี่  ตรงเวลาดีจัง"

       บ้านที่มีสมาชิกตัวเล็กๆ อยู่กับแม่บ้าน  บ้านที่มีเพื่อนฝูงรวมตัวกันสังสรรค์เฮฮา  บ้านที่มีคู่รักใช้ชีวิตอย่างหวานชื่น

       『และบัดนี้  ผมขอประกาศเริ่มต้นการแข่งขันประเภทลานประลองอย่างเป็นทางการ!  เริ่มได้!』
       
       สมาชิกของแต่ละบ้านรีบออกไปเปิดประตูในเมื่อที่ได้ยินเสียงผู้บรรยายดังขึ้น  พวกเขาจ่ายเงินและรับไก่ทอดมาจากพนักงานอย่างร้อนรน

       แต่เมื่อกลับมาเห็นภาพในจอทีวี  กล่องไก่ทอดที่ถวิลหามานานพลันหลุดออกมามือทันที

       『 ฮ--ฮูเร็น…  ถูกล็อกเอาต์แล้วครับ!! 』

       "...?"

       แมทช์หยุดโลกระหว่างผู้เล่นอันดับ 8 และคลาสเกรดเลเจนดารี  จะมีสักกี่คนที่คิดว่ากริดสามารถชนะได้?  และจะมีสักกี่คนที่กริดว่ากริดทำสำเร็จภายใน 30 วินาทีตามที่ได้ประกาศไว้?  

       แต่แล้วทำไม...

       『ห--ห้าวินาที…! 』 

       "..."

       『เพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้นครับ!  กริดจัดการกับหนึ่งในเต็งแชมป์อย่างฮูเร็นลงได้แล้ว!』

       ผู้บรรยากำลังตกตะลึงกับภาพดังกล่าว  พวกเขาจึงได้แต่นิ่งอึ้ง  ไม่รู้จะบรรยายสิ่งใดออกมาเป็นคำพูด 

       ผู้ชมนับร้อยล้านคนทั่วโลกต่างมีท่าทีตอบสนองแตกต่างกันออกไป

       "เฮ~~~~!!"

       เสียงเชียร์จากชาวเกาหลีใต้ดังกระหึ่มจากทั้งในสนามและหน้าจอทีวี

       "เป็นไปได้ยังไง...!"

       สีหน้าอันตกตะลึงสุดขีดราวกับเห็นผี  ได้เผยอยู่บนใบหน้าของบรรดาผู้ชมชาวต่างชาติทั่วโลก

       ทั้งโลกกำลังเข้าสู่ภาวะความปั่นป่วน

===  (ข่าวด่วนมาก)  กริดชนะใน 5 วินาที
       
===  ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าทำได้!!  ผู้เล่นอันดับ 8 ของโลกถูกล็อกเอาต์ใน 5 วินาทีเท่านั้น!

===  สิ่งที่เคยลั่นวาจาไว้  กริดทำมันสำเร็จ!

===  เกิดแรงกระเพื่อมอย่างใหญ่หลวงในสหรัฐแน่นอน

===  กริดจะคว้าเหรียญทองที่สองให้เกาหลีใต้ได้รึไม่?

===  ตำนานการล็อกเอาต์ใน 5 วินาที!

       5 วินาที! 5 วินาที! 5 วินาที!  คำๆ นี้ถูกใช้เป็นพาดหัวใหญ่ของทุกบทความที่กำลังจะมีขึ้น 

       คำค้นยอดนิยมทั่วโลกถูกเปลี่ยนเป็น <5 วินาที> <กริด> <ชัยชนะของกริด>  <กริดขี้โกง> <ชินยองวู> <เหรียญทองที่เป็นไปได้ของเกาหลีใต้>

       โดยผู้ชมในประเทศเกาหลีใต้เองก็ไม่ต่างกัน

       >>  ก… ก็อดกริด 

       >>  ก็อดกริด!  ได้โปรดยกโทษให้พวกเราที่บังอาจลบหลู่ไปเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนด้วย! ㅠ0ㅠ

       >>  โว้ว  นี่มันอะไรกัน?  ตัวเกมมีข้อผิดพลาดรึเปล่า?

       >>  อันดับ 8 ของโลกถูกฆ่าซะแล้ว  ㅡㅡ;;

       >>  มันบ้ามาก… ฉันนี่ขนลุกซู่ไปหมด 

       >>  ครอบครัวของฉันเอาแต่ทำหน้าแบบนี้ ㅇ0ㅇ

       >> ㅇ0ㅇ?  ขนาดนั้นเลย?

       >>  เว็บบอร์ดของอเมริกาคงกำลังลุกเป็นไฟแน่นอน ㅋㅋㅋㅋㅋㅋ

       >>  เว็บบอร์ดจีนกำลังอิจฉาพวกเรา ㅋㅋ

       >>  เว็บบอร์ดญี่ปุ่นกำลังหาข้อพิสูจน์ว่าเกิดจากข้อผิดพลาดของเกม

       >>  เจ๋งเป้ง!  ไอ้พวกแยงกี้ที่กล้ามาฉีกธงชาติเกาหลีใต้ของเรา  ป่านนี้มันคงกำลังร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดอยู่ล่ะมั้ง?  ㅋㅋㅋ ชาบูก็อดกริด!

       >>  ดีใจด้วยกับเจ้าบ้า 4 ล้านวอนนั่น!  3.2 เท่าเชียวนะ!  ㅠㅠ

       >>  ที่จริง  ฉันเองก็แทงไป 6 ล้านวอนเหมือนกัน ㅋㅋㅋ…ㅠㅠ  แต่เป็นข้างฮูเร็นนะ… ไอ้บัดซบนั่น 

       >>  ฉันลงไป 3 ล้านวอนข้างฮูเร็น  เฮ่อ… เงินเดือนฉัน 

       >>  เกาหลีใต้ก็ต้องเชียร์เกาหลีใต้กันเองอยู่แล้ว…^^ ฉันพนันไว้ 15 ล้านวอนข้างก็อดกริด… และหลังจากนี้ต่อไป  ฉันจะแทงข้างก็อดกริดเท่านั้น...

       >>  ไอ้พวกผีพนัน ㅉㅉ

       >>  ฉันก็ลงไป 3แสนวอนเหมือนกัน  ถูกหวย! ㅎㅎ อยู่ได้สบายๆ ไปอีกสามเดือดเต็ม ㅎㅎㅎ

       เงินสะพัดในธุรกิจการพนันนับหมื่นล้าน  แม้จะดูเหมือนมากสำหรับใครบางคน  แต่กับบางคนอาจเป็นเพียงเศษเงินที่เก็บไว้ซื้อหมากฝรั่งเคี้ยวเล่น  

       ตัวอย่างเช่นเจ้าของบริษัทใหญ่  ฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จ  หรือแร้งเกอร์ในซาทิสฟายก็ตาม  พวกเขาล้วนลงเงินเดิมพันหลักร้อยล้าน หรือแม้กระทั่งหลักพันล้าน  และมีไม่น้อยที่เป็นฝ่ายสูญเสีย

       "ไม่น่าไปหลงเชื่อไอ้พวกผู้เชี่ยวชาญบัดซบนั่น...!"

       "เรียกทีมกฏหมายมา  ฉันจะดำเนินการฟ้องร้อง"

       มหาเศรษฐีบางคนไม่อาจมองว่าเงินแค่นี้เป็นเพียงจำนวนเล็กน้อย

       แต่อีกด้านหนึ่ง

       "วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  เยี่ยม!  เยี่ยมมาก~!"

       "วู้ววว~!  กริด!  ฉันรักนาย!"

       ความโชคร้ายของใครบางคน  ย่อมหมายถึงความโชคดีของคนอีกกลุ่มหนึ่ง!  

       เป็นกิลด์เซกาด้าห์  แม้ผู้เล่นกิลด์นี้จะทำเงินจากซาทิสฟายมาเป็นพันล้านวอนแล้ว  แต่คราวนี้โชคเกิดหล่นทับลงมาอีกครั้ง  คนพวกนี้เชื่ออย่างหมดใจอยู่แล้วว่ากริดจะชนะ  ดังนั้นสิ่งที่ลงเดิมพันจึงไม่ใช่แค่ทรัพย์สินทั้งหมดที่มี  แต่รวมไปถึงเงินกู้ที่หยิบยืมมาจากสถาบันการเงินล่วงหน้าด้วย

       อัตราต่อรองคือ 3.2 เท่า  จากที่รวยมากอยู่แล้ว  ทั้งหมดจึงกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีในพริบตา  เงินหลายหมื่นล้านวอนเข้ากระเป๋ามาในคราวเดียว  พวกเขาสามารถซื้อเรือยอร์ช  เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว  หรือท่องเที่ยวกับสาวสวยทั่วโลก  ชีวิตอันเลิศหรูราวกับดาราดังของโลก!

       แต่พื้นฐานของพวกเขาก็ยังเป็นแร้งเกอร์ในซาทิสฟายอยู่วันยังค่ำ  ดังนั้น  ย่อมไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าซาทิสฟายอีกแล้ว

       "ฮิฮิ… ฉันจะเก็บเงินส่วนนี้ไว้ให้กริดสร้างสุดยอดไอเท็มให้"

       "ฉันจะลงทุนกับกริดไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะสร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารีให้ฉันสำเร็จ!"

       ผีพนันเหล่านี้คิดจะนำเงินไปสร้างตึกสักหนึ่งหรือสองแห่งเพื่ออนาคตก่อน  ส่วนเงินที่เหลือก็จะถูกนำมาลงทุนกับกริดเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้ตนเองในซาทิสฟาย

       ***

       『ไม่เพียงแต่เขาจะมีคลาสเกรดเลเจนดารีเท่านั้น  แต่ยังมีท่าไม้แต่ที่รุนแรงอีกหนึ่งถึงสองทักษะ  โดยท่า <สังหาร> ช่างมีอานุภาพทรงพลังสมกับชื่อ และสมกับเป็นทักษะเกรดเลเจนดารีจริงๆ   ความรุนแรงของมัน  หากรับเข้าไปเต็มๆ  ความตายก็ราวกับถูกกำหนดไว้แล้ว』

       『ก็จริงอยู่ที่ทักษะมีความรุนแรงในตัวมันเอง  แต่ผมสนใจดาบใหญ่สีน้ำเงินเล่มนั้นมากกว่า  หากลองย้อนกลับไปในวันที่แข่งทำลายเป้าหมาย  กริดเคยใช้ดาบเล่มนี้สังหารแร้งเกอร์หัวแถวนับสิบคนในพริบตามิใช่หรือ?  มันจะต้องเป็นสุดยอดไอเท็มในบรรยาเกรดเลเจนดารีทั้งหมดแน่』

       『ผมก็คิดเช่นนั้น  คงไม่ผิดนักหากจะยกดาบเล่มนั้นให้เป็นอาวุธที่ดีที่สุดในเกมตอนนี้  ถ้าเจ้าของอาวุธอย่างกริดยอมเปิดเผยรายละเอียดให้พวกเราก็คงจะดีไม่น้อย』

       คำวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญล้วนถูกต้อง  แม้จะเป็นไอเท็มเกรดเลเจนดารีด้วยกัน  แต่อาวุธที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่านั้นจะอยู่คนละมิติกับอาวุธที่ดรอปจากบอส

       <+9 ความผิดพลาด> มีพลังโจมตีอยู่ที่ 1,768~3,682 หน่วย  

       แค่เพียง <+0 ความผิดพลาด> ก็มากพอจะเป็นอาวุธอันดับ 1 ของเกมได้สบายแล้ว  นับประสาอะไรกับระดับเสริมแกร่งที่สูงถึง +9   ซึ่งพลังโจมตีเพิ่มขึ้นจาก +0 มากถึง 70%   

       นับเป็นอาวุธสุดโกงของเกมไปโดยปริยาย

       หากนำมาเปรียบเทียบกับอาวุธเกรดเลเจนดารีในระดับเดียวกัน  ดาบใหญ่สองมือจะมีพลังโจมตีอยู่ราว 1,000 หน่วย  หมายความว่า <+9 ความผิดพลาด> จะมีพลังโจมตีสูงสุดที่มากกว่านั้นถึง 3 เท่า  

       แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากเสริมเข้าไปด้วยทักษะที่มีความรุนแรง 1,800% อย่าง <สังหาร เลเวล 2>

       ไม่มีผู้เล่นคนใดในเกมที่ทนไหวแน่นอน  ความตายคือทางเลือกเดียวที่มีให้

       แต่ภายในใจของกริดกลับต้องเย็นสันหลังวาบ

       'ขนาดมอสเตอร์ระดับบอสยังโดน <สังหาร> สร้างความเสียหายได้หลักแสน  แต่ฮูเร็นกลับโดนแค่ 68,000 เท่านั้นเองหรือ… หมอนี่มีพลังป้องกันสูงในระดับน่าเหลือเชื่อ  มันไม่ได้เป็นแค่ไอ้ขี้โม้สินะ'       
       
       คลาสออร่ามาสเตอร์นั้นไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธ  ด้วยเหตุนี้  ฮูเร็นจึงมีเงินเหลือไปลงทุนกับชุดเกราะมากกว่าผู้เล่นคนอื่น  และเซ็ตที่เขากำลังสวมอยู่  คือชุดเกราะเกรดยูนีคที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในท้องตลาดแล้ว

       แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องตายในดาบเดียวงั้นหรือ?

       "เชี่ย...!"

       ฮูเร็นที่ถูกส่งล็อกเอาต์ได้ลุกออกจากแคปซูลด้วยสีหน้าซีดเผือดประหนึ่งนอนฝันร้ายมาทั้งคืน  ตามร่างกายมีเหงื่อออกอย่างชุ่มฉ่ำ

       'เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?'

       ลอเอลยื่นผ้าขนหนูให้กับฮูเร็นที่กำลังสับสนสุดขีด

       "นายแพ้แล้ว"

       "..."

       "..."

       ฮูเร็นไม่อยากจะเชื่อ  เขาไม่เคยมีความคิดที่จะพ่ายแพ้ให้กริดอยู่ในหัวเลยสักนิด  สายตาของเขาหม่อลอยและย้อนนึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นบนลานประลอง  

       หลังจากนั้นก็ยิ้มเจื่อนออกมาเล็กน้อย

       "นั่นสินะ… อีกฝ่ายเป็นถึงคลาสเลเจนดารี"

       ต่อหน้าพลังอำนาจเบ็ดเสร็จ  การควบคุมก็กลายเป็นสิ่งไร้ค่า  

       ฮูเร็นอยากรู้ใจจะขาดว่าทักษะที่พันธนาการตนไว้คืออะไรกันแน่?  แม้จะรักษะระยะห่างไว้ 5 เมตรแล้วเนี่ยนะ?  มันคือต้นตนทั้งหมดของสิ่งที่ส่งให้เขาเข้าสู่ความตาย
       
       ฮูเร็นถูกบดขยี้ด้วยพลังอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด  

       ประหนึ่งเป็นเพียงแมลงวันตัวหนึ่งเท่านั้น

       "ทักษะเกรดเลเจนดารีงั้นหรือ..."

       เป็นสิ่งที่ตัวเขายังไม่มีในตอนนี้  ฮูเร็นจำต้องเร่งฝึกฝนตัวเองเพื่อเลื่อนระดับของออร่าโดยเร็ว  ความหงุดหงิดผิดหวังเมื่อครู่สลายไปจนหมดสิ้น  สีหน้ากำลังเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาคืนอย่างเต็มเปี่ยม  ฮูเร็นยิ้มเล็กน้อยไปพร้อมกับการใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อ

       "ในเมื่อฉันกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ไปแล้ว  นักข่าวคงไม่มายุ่งกับฉันไปอีกสักพัก  ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ทิ้งทุกอย่างเพื่อกลับไปพัฒนาตนเองให้เร็วที่สุด"

       มีแต่การฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้นได้

       ลอเอลแสดงความคิดเห็นส่วนตัวออกมา
       
       "ปัญหาหลักคือดาบสีน้ำเงินทรงฉลามนั่น  ดูเหมือนพลังโจมตีของมันจะเหนือกว่าอาวุธทุกชนิดในเกม  และอาจเหนือกว่าหลายเท่าตัวด้วย"

       "ใช่..."

       ฮูเร็นได้แต่ยอมรับ  เพราะไม่ว่าทักษะจะมีเปอร์เซ็นต์การโจมตีที่รุนแรงขนาดไหน  แต่มันก็จะไร้ค่า  ถ้าหากผู้เล่นไม่มีพลังโจมตีที่สูงมากพอ  อาวุธของกริดจะต้องยอดเยี่ยมอย่างไม่มีใครเทียบได้  

       ทว่า… ทำไมอยู่ดีๆ ลอเอลถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา?  

       เมื่อฮูเร็นรีบหันไปมอง  มันก็ต้องพบว่า  ยามนี้ลอเอลกำลังมีสีหน้ามุ่งมั่นราวกับตัดสินใจบางอย่างได้

       "หรือว่านาย… คิดจะไปอยู่กับกริด?"

       ลอเอลไม่ปฏิเสธ

       "ใช่แล้ว"

       เขาเบื่อฉายารุคกี้เต็มทน  ลอเอลอยากก้าวขึ้นไปเป็นแร้งเกอร์หัวแถวให้ได้โดยเร็วที่สุด  แต่ด้วยจุดเริ่มต้นที่ช้ากว่าคนอื่น  เรื่องนั้นจึงทำได้ยากยิ่ง  

       ในตอนที่ลอเอลเลเวล 1  บรรดาแร้งเกอร์หัวแถวก็ปาไปถึงเลเวล 180 กันหมดแล้ว  แค่เพียงพรสวรรค์ไม่อาจกลบระยะห่างนี้ได้แน่  

       หากจะไล่ให้ทันล่ะก็...

       "ฉันเข้าใจถึงพลังแห่งไอเท็มอย่างถ่องแท้ได้จากแมทช์เมื่อครู่"

       ลอเอลคือหนึ่งในสิบรุคกี้ชื่อดังของโลก  แถมยังถูกยกให้เป็นอันดับหนึ่งจากทั้งสิบคนนั้นด้วย  แม้กระทั่งไอเบลลิน  รุคกี้อันดับสองแห่งกิลด์เซดาก้าห์ก็ยังยกย่องให้ลอเอลเป็นคู่แข่ง

       "ฉันจะเข้ากิลด์เซดาก้าห์"

       "..."

       อันดับ 2 ของโลก  ซีบาล  เขามีความทะเยอทยานที่จะยึดครองดินแดนทั้งหมดของซาทิสฟาย  และกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดในซาทิสฟายให้ได้สักวันหนึ่ง  แต่การจะทำเช่นนั้นให้สำเร็จ  ผู้เล่นที่แข็งแกร่งคือสิ่งจำเป็นที่ต้องรวบรวม  

       ลอเอลคือหนึ่งในเป้าหมายของซีบาล  

       ซีบาลได้มอบข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธให้กับลอเอล  

       ทว่า...  ดูเหมือนลอเอลตัดสินใจปัดมันทิ้งไปแล้วเมื่อครู่

       "ลอเอล  ไม่ใช่ว่ากิลด์ <สเน็ค> สัญญาว่าจะมอบเงินให้นายหลายล้านเหรียญทองงั้นหรือ?  แต่นายกลับปฏิเสธเงินมากมายขนาดนั้นและเลือกติดตามคนอย่างกริดเนี่ยนะ?"

       ลอเอลพยักหน้าโดยปราศจากความลังเลแม้เพียงเศษเสี้ยว

       "นายเองก็รู้ดีกว่าใคร  คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า  ทักษะการควบคุมและไหวพริบไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับ 1 ของการต่อสู้อีกแล้ว  แต่เป็นพลังแห่งไอเท็มต่างหาก"

       เงินหลายล้านเหรียญทอง?  เขาจะเอาไปใช้อะไรได้ล่ะ?  ไม่ว่าจะมีเงินมากมายเพียงใด  ก็ไม่มีทางซื้อไอเท็มที่ยอดเยี่ยมที่สุดได้อยู่ดี  

       และในซาทิสฟาย  กริดคือผู้เล่นเพียงคนเดียวในเกมที่สามารถรังสรรค์สิ่งนั้น  กริดคือความจำเป็นที่จะส่งให้ลอเอลก้าวขึ้นไปเป็นแร้งเกอร์แถวหน้า  

       แล้วโดยส่วนตัว  ลอเอลก็รู้สึกชื่นชอบกริดไม่น้อย

       "พึ่งพาไอเท็มมากกว่าการควบคุมสินะ… ฉันรู้สึกอิจฉากริดนัก  เป็นเพราะกริด  ฉันถึงตาสว่างและรู้ถึงความสำคัญของไอเท็ม  พลังอำนาจเบ็ดเสร็จที่สามารถส่งให้นายออกจากการแข่งขันภายใน 5 วินาที  ในโลกนี้  นายคิดว่าจะมีใครทำได้อีกรึเปล่าละ?  มันคงสนุกดีที่ได้เล่นเกมไปพร้อมกับเขา  แล้วนายจะเอายังไงต่อไป?"

       "..."

       ซีบาลเองก็ยื่นข้อเสนอเชิญชวนฮูเร็นเช่นกัน  ทว่าฮูเร็นนั้นมีความทระนงในศักดิ์ศรีสูง  ตัวเขาที่เป็นถึงผู้ท้าชิงตำแหน่งอริยะดาบ  คงเป็นการยากที่จะต้องไปอยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร  เขาจึงไม่สนใจคำชวนของซีบาลเลยสักนิด

       แต่ตอนนี้ล่ะ?

       พลังเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของอำนาจคือสิ่งที่ทำให้ใจของเขาสั่นคลอน  และยิ่งมีคำพูดของลอเอลเมื่อครู่แล้วด้วย

       ในการจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม  ปฏิเสธไม่ได้ว่าไอเท็มคือสิ่งสำคัญ  

       และคนที่สามารถมอบไอเท็มเกรดดีกว่าเดิมให้มันได้...

       'นอกจากกริดก็ไม่มีใครอีกแล้ว'

       แต่อย่าได้ดูถูกความหยิ่งทระนงของผู้ท้าชิงตำแหน่งอริยะดาบ

       "...ฉันคือออร่ามาสเตอร์  สุดยอดอาวุธงั้นเหรอ?  ของแบบนั้นไม่มีค่ากับฉันหรอก"  ในอนาคต  ออร่าของเขาเองก็จะไปสิ้นสุดที่เกรดเลเจนดารีเช่นกัน

       "เมื่อถึงวันนั้น  ฉันจะสะบั้นหัวของกริดไปพร้อมกับดาบสีน้ำเงินเล่มนั้นให้ดู"

       ครั้งหน้าที่สู้กัน  เขาจะต้องล็อกเอาต์กริดให้ได้ก่อนที่กริดจะมีโอกาสใช้ทักษะใดๆ   ฮูเร็นลั่นวาจาในใจอย่างเจ็บแค้น 

       หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากสนามกีฬาและตรงไปยังสนามบินอึนชอนทันที  มีแต่ต้องฝึกฝนอย่างหนักเท่านั้น  ฮูเร็นคิดเช่นนี้

       ***

       "เจ๋งแฮะ"

       ตัวแทนทีมชาติฝรั่งเศส  บองเดร  ผู้เล่นอันดับ 11 ของโลกกำลังชื่นชมในความรุนแรงของทักษะกริด  ไม่สิ  เขารู้สึกประหลาดใจมากกว่า  

       ล็อกเอาต์ฮูเร็นภายใน 5 วินาทีงั้นหรือ?  เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครทำได้มาก่อน  แต่ถึงกระนั้น  บองเดรก็หาได้หวาดกลัว

       "หน่วงกับมายาร่ายรำค่อนข้างจะน่าคำราญอยู่ไม่น้อย"

       คลาสของบองเดรคือ <จอมอาคมน้ำแข็ง>  จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาใช้พลังเวทย์มหาศาลเพื่อแช่แข็งลานประลองน่ะหรือ?  กริดจะไม่อาจรำดาบได้ดั่งใจนึก  ซึ่งวิชาดาบแพ็กม่าจำเป็นจะต้องก้าวเท้าอย่างน้อง 4 จังหวะ

       จะมีใครสามารถรำดาบขนาดใหญ่บนพื้นน้ำแข็งที่ลื่นไถลได้?  ไม่ล้มก้นจ้ำเบ้าก็ดวงดีมากแค่ไหนแล้ว

       'หากดูจากสงครามไบรัน  หมอนั่นสามารถใช้ทักษะบินได้จากไอเท็มบางชิ้น'

       และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากกริดบินขึ้นบนท้องฟ้า?  บองเดรกลับยิ่งชอบใจมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

       สถานที่ตั้งของลานประลองนั้นเป็นเกาะสันโดด  ความชื้นในบรรยากาศย่อมมีสูง  บองเดรสามารถใช้ <ใยแมงมุมน้ำแข็ง> เพื่อขังกริดเอาไว้ได้  

       ทักษะใยแมงมุมน้ำแข็งนั้นไม่ใช่ทักษะที่สร้างอาการผิดปรกติ  แต่จะเป็นทักษะจำพวก <กีดขวาง>  เมื่อผู้เล่นถูกกีดขวางรอบตัว  กริดจะไม่ต่างอะไรกับการถูกพันธนาการไว้กับที่

       'ลานประลองประเภทเกาะนั้นเหมาะกับเราเป็นที่สุด  กริด  นายไม่มีวันล้มฉันได้แน่'

[ ศูนย์องศาสัมบูรณ์ เลเวล 2 (76.0%) ]
* แช่แข็งเป้าหมายและสร้างความเสียหายตายตัวที่ 42,000 หน่วย
_____
มานาที่ใช้ : 50% ของมานาปัจจุบัน
ระยะเวลาร่าย : 7 วินาที
ระยะหน่วงหลังใช้ : 20 นาที

       สุดยอดทักษะที่บองเดรได้รับมาจากหนังสือเวทย์มนต์เกรด S   

       เวทย์ของยูร่าที่ชื่อ <เทวะลงทัณฑ์> ซึ่งเธอใช้ออกมาในตอนแข่งทำลายวัตถุจะดูด้อยลงไปทันทีหากถูกนำมาเทียบกับ <ศูนย์องศาสัมบูรณ์> ของบองเดร

       แต่ด้วยเวลาร่ายเวลาที่ค่อนข้างนาน  ทำให้บองเดรไม่มีโอกาสใช้มันบ่อยนัก

       ทว่า  การดวลเดี่ยวนั้นคนละเรื่อง  ถ้าบองเดรสามารถจำกัดการกระทำอีกฝ่ายไว้ได้  เวทย์นี้คือไพ่ตายสำหรับชัยชนะอย่างไม่ต้องสงสัย  

       การที่มันมีพลังทำลายสูงกว่า <เทวะลงทัณฑ์> ก็เพราะ <ศูนย์องศาสัมบูรณ์> เป็นเวทย์มนต์ที่โจมตีเพียงเป้าหมายเดียว

       และด้วยทักษะนี้  ทำให้ทั้งยูร่าและฮูเร็นจึงพากันหวาดกลัวที่จะดวลกับบองเดร  

       'สมมติให้กริดมีเลเวล 290   พลังชีวิตก็จะอยู่ที่ประมาณ… ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรอดแน่  ต่อให้เราคิดในกรณีที่อาจเลวร้ายที่สุด'
       
       พลังชีวิตของกริดไม่มีทางสูงกว่า 35,000 หน่วยไปได้

       "คงถึงตานายถูกล็อกเอาต์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวบ้างแล้ว… หึหึหึ...!"

       บองเดรหัวเราะอย่างชอบใจ  เขาคงได้พบกับกริดในรอบ 16 คนสุดท้าย  และจะต้องแสดงให้ทั้งโลกเห็นว่า  ตนคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกโดยการโค่นกริด  ผู้ซึ่งล็อกเอาต์ฮูเร็นภายใน 5 วินาที

       บองเดรกำลังเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเกินร้อย

       แบบเดียวกับฮูเร็นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังไงยังงั้น...

• Next
• Previous