จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 169
ขุมนรก? ชายหนุ่มไม่ต้องการไปยังที่นั่นเลยสักนิด
'ไม่ใช่ว่า ในนรกมีอสูรจำพวกเฮลกาโออยู่เต็มไปหมดงั้นหรือ?'
พวก <อสูร> ล้วนแข็งแกร่งมากทุกตน กริดไม่อยากสู้กับพวกมันอีก เพราะไอเท็มดรอปที่ดรอปมานั้นห่วยแตกจนไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป
'ไม่สิ เดี๋ยวก่อน เราคิดไปเองว่าไอเท็มดรอปไม่ดี'
กริดยืนจ้องมองเมมฟิสที่กำลังเลียขนด้วยลิ้นสีแดง ท่าทางของมันน่ารักน่าเอนดูเหนือคำบรรยาย
'เราดรอปได้สุดยอดสัตว์เลี้ยงมาเลยไม่ใช่รึไง? ไม่เคยเจอบอสตัวไหนเก่งเท่าเฮลกาโอมาก่อน แม้จะได้รับศิลาอัคคีมาแค่สองก้อน แต่ไอเท็มดรอปของมันก็จัดว่าไม่เลวนัก'
[ เมมฟิส ]
สิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในขุมนรก
หากโตเต็มวัย พลังต่อสู้ของมันจะเหนือกว่า <ครึ่งอสูร> ระดับสูงเสียอีก ทำให้เป็นที่รักใคร่ของบรรดาจอมอสูรทั้ง 33 ตน
แต่เมมฟิสคือสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที เนื่องด้วยความสามารถในการสืบพันธุ์ที่ต่ำ
ที่อยู่อาศัยหลักคือขุมนรก
'เราได้รับสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แต่เกือบมองข้ามไปซะได้'
กริดตำหนิตนเองก่อนจะเปิดหน้าต่างสถานะของสัตว์เลี้ยง
ชื่อ : ยังไม่ได้ตั้ง
เลเวล : 1 (0/200)
ความชื่นชอบ : 0/100
พลังชีวิต : 5,000/5,000
พลังโจมตี : 60
พลังโจมตีเวทย์ : 30
พลังป้องกัน : 50
พลังป้องกันเวทย์ : 60
ธาตุ : มืด
สถานะ : กำลังหลงตัวเอง
_______
( ฉันทำการกลืนกินวิญญานของมนุษย์ทันทีที่เกิดมา ฉันคือสัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรก! เนี้ยววว! )
_______
<ทักษะปัจจุบัน>
- กลายเป็นของเหลว
- กลืนวิญญาน
- ข่วน
[ กลายเป็นของเหลว ]
เมื่อถูกโจมตี ร่างกายของเมมฟิสสามารถกลายเป็นของเหลวเหมือนกับสไลมเพื่อลดทอนความเสียหาย ทว่า การโจมตีจากบางธาตุอาจส่งผลรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
[ กลืนวิญญาน เลเวล 1 ]
สามารถดูดกลืนค่าสถานะสูงสุดของเป้าหมายครึ่งหนึ่งและเปลี่ยนให้เป็นค่าสถานะของผู้ใช้ได้ชั่วคราว
_______
ระยะหน่วงหลังใช้ : แล้วแต่เมมฟิสจะตัดสินใจ
[ ข่วน เลเวล 1 ]
ท่านจะโจมตีด้วยอุ้งเท้าและทำให้เป้าหมายติดพิษ
_______
ระยะหน่วงหลังใช้ : แล้วแต่เมมฟิสจะตัดสินใจ
'แม้จะฆ่าโยชิมุระไปแล้ว แต่ค่าประสบการณ์ก็ยังเป็น 0 งั้นหรือ? หมายความว่า ไม่สามารถได้รับค่าประสบการณ์จากการฆ่าคนสินะ? ขนาดเลเวล 1 ยังมีทักษะน่ากลัวขนาดนี้ โดยเฉพาะทักษะที่ชื่อว่า <กลืนวิญญาน> นั่นค่อนข้างจะโกงเลยไม่ใช่รึไง?'
แต่ความจริงที่ว่า ระยะหน่วงหลังใช้ขึ้นอยู่กับอารมณ์เมมฟิสนั้น มันออกจะน่ารำคาญไปสักนิด ทว่ากริดก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป เขาหัวเราะเบาๆ ในใจอย่างมีความสุข
"เจ้านายชอบฉันไหม? เนี้ยววว!"
เมมฟิสจัดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมมาก กริดแสดงสีหน้าพึงพอใจสุดขีดเมื่อได้เห็นมัน
'เซฮีชอบของน่ารักแบบนี้ เราค่อนข้างจะเป็นห่วงเพราะเธอไม่มีงานอดิเรกอะไรเลยนอกจากการเรียน… ซื้อแคปซูลให้สักเครื่องดีไหมนะ'
ณ ตอนนี้ เจ้าเมมฟิสกำลังทำปากคล้ายกับ (ㅅ) ซึ่งดูน่ารักมาก แม้แต่กริดเองก็อดคิดเช่นนั้นไม่ได้ เหตุผลที่กริดต้องการซื้อแคปซูลให้น้องสาว เพียงเพราะเขาต้องการให้เธอได้เห็นเมมฟิสตัวนี้เท่านั้น กริดรีบพยักหน้าตอบรับมันอย่างดีใจ
"ใช่ ฉันชอบแก"
"แน่นอนอยู่แล้ว! เพราะฉันทั้งสง่า งดงาม และแข็งแกร่ง ฉันคือสัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรก! เนี้ยววว!"
ฟุดฟิด...
ดวงตาอันกลมโตของเมมฟิสหรี่ลง หลังจากนั้นมันก็ยื่นจมูกมาดอมดมและพูดถ้อยคำที่ทำให้กริดสะเทือนใจออกมา
"แต่ฉันไม่ชอบเจ้านาย"
"เอ๋? ทำไมกัน?"
"เจ้านายอัปลักษณ์! ฉันไม่ชอบ!"
"..."
"ดูอีกทีก็ยังเหมือนเดิม~ เจ้านายอัปลักษณ์จริงๆ ด้วย~ เนี้ยว!"
ช่วงหลังมานี้ กริดไม่ได้ยินใครเรียกตนเองว่าน่าเกลียดมานานมากแล้ว เขามีความมั่นใจเพิ่มขึ้น จึงไม่มีใครที่ต้องรู้สึกป่วยไข้และวิ่งหนีไปเมื่อได้เห็นรอยิ้มของกริด เขาจึงอดผงะไปไม่ได้เมื่อได้ยินสิ่งนี้ออกมาจากปากของแมว
แต่เมมฟิสก็พยายามปลอบประโลม
"ไม่ต้องห่วง! ฉันไม่ทอดทิ้งเจ้านายเพียงเพราะอัปลักษณ์หรอกนะ! เจ้านายจะอัปลักษณ์ก็ไม่เป็นไร! ขอเพียงเจ้านายทำให้ฉันมีความสุขก็เพียงพอแล้ว! เนี้ยว!"
"..."
แมวตัวนี้ควรเทิดทูนและรับใช้ผู้เป็นนายสิ แต่แล้วทำไมมันถึงบอกให้เจ้านายคอยเอาใจกันล่ะ?
'ไอ้แมวบัดซบ มันรู้จักคำว่าเจ้านายจริงๆ รึเปล่าเนี่ย?'
ในขณะที่กริดมีใบหน้าบูดบึ้ง พีคซอร์ดกลับกำลังหัวเราะชอบใจ
"แม้จะดูเหมือนแมวก็จริง แต่นิสัยไม่เหมือนแมวเลยสักนิด ในอนาคตนายคงลำบากไม่น้อย คิดงั้นไหม?"
"นั่นสินะ… ฉันคงต้องยอมอดทนสักหน่อย ถ้าหากอยากให้เจ้านี่เป็นสัตว์เลี้ยง"
การสร้างความพึงพอใจหนแรกย่อมเป็นการตั้งชื่อ กริดเองก็กังวลว่าจะตั้งชื่อเจ้าเมมฟิสตัวนี้ว่าอย่างไรดี
'ถ้าหากมันเป็นหมาที่มีปีก ไม่ใช่แมวล่ะก็ เราคงตั้งชื่อมันว่า <เจ้าหมา> แน่นอน ช่างเป็นชื่ออันสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ...'
ชื่อที่เหมาะสมของเจ้าแมวหลงตัวเองตนนี้คืออะไรดีนะ? กริดครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอ่ยออกไป
"เจ้าทาส"
"เนี้ยว?"
"ชื่อของแกคือเจ้าทาส"
"แง่งงงง!"
พับพับพับ!
เมมฟิสตัวแสบรีบกระพือปีกบินขึ้นมาอยู่ข้างๆ ใบหน้ากริด
"เจ้านายไม่มีศิลปะการตั้งชื่อเอาซะเลย! เหตุไฉนสัตว์อสูรชั้นสูงของขุมนรกถึงมีชื่อว่าเจ้าทาสได้ เจ้านายเสียสติไปแล้ว! เนี้ยว!"
กริดพลันตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่า ยามนี้เจ้าเมมฟิสทำการกางเล็บที่อุ้งเท้าออกมาแล้ว
'เจ้าบ้านี่ไม่รู้จักความหมายของเจ้านาย แต่ดันรู้ความหมายของเจ้าทาสงั้นหรือ?'
ถ้าหากค่าความชื่นชอบของสัตว์ติดลบ มีโอกาสสูงมากที่มันจะหนีไป กริดจำเป็นต้องเลี่ยงสถานการณ์เลวร้ายซึ่งอาจเกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ
"แกได้ยินผิดแล้ว ไม่ใช่เจ้าทาสสักหน่อย ฉันพูดว่าโนเอะ! โนเอะต่างหาก"
(ผู้แปล : คำว่า <ทาส> ในภาษาเกาหลีออกเสียงว่า โนเย )
"โนเอะ?" เมมฟิสพลันมึนง
"มันแปลว่าอะไรงั้นหรือ? เมี๊ยว?"
กริดรีบแถอย่างลวกๆ
"ทาสก็คือทาส… โนเอะก็แปลว่าแกไม่ใช่ทาสยังไงล่ะ… นั่นล่ะ ความหมายของมัน!"
"โอ้...! โอ้ววว!"
ดวงตาอันกลมโตของเมมฟิสพลันลุกวาวประหนึ่งโคมไฟอีกครั้ง ในฐานะสัตว์อสูรแห่งขุมนรก มันย่อมมีความรู้พื้นฐานเป็นจำนวนมาก ทว่าเด็กเล็กก็ยังเป็นเด็กเล็กวันยังค่ำ ราวกับเมื่อครู่มันได้ยินคำพูดสุดเจ๋งจากกริด ทันใดนั้น...
"เยี่ยม! ฉันคือโนเอะ! เมี๊ยว!"
โนเอะที่รู้สึกดีได้เอาแก้มมาถูกับใบหน้ากริดอย่างคลอเคลีย ชายหนุ่มพลันหัวเราะให้กับสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพชตัวนี้เงียบๆ ในใจ
"ตกลง! นับแต่นี้ไป ชื่อของแกคือโนเอะ!"
[ ท่านต้องการจะตั้งชื่อเมมฟิสตนนี้ว่า <โนเอะ> กรุณายืนยัน ]
"ยืนยัน"
[ ชื่อของเมมฟิสเปลี่ยนเป็น <โนเอะ> ]
[ ความชื่นชอบของ <โนเอะ> เพิ่มขึ้น 5 แต้ม ]
เมมฟิสขยับอุ้งเท้าอันเล็กน่ารักของมันไปลูบท้องที่อ้วนกลมเบาๆ และพูดขึ้น
"เจ้านายคือเจ้านาย และฉันคือโนเอะ!"
"ถูกต้อง"
กริดแสดงสีหน้าจริงจังก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้น ทำให้เมมฟิส ไม่สิ โนเอะ รู้สึกพึงพอใจมาก! กริดหัวเราะอย่างชอบใจ ส่วนพีคซอร์ดทำได้เพียงจุ๊ปากและส่ายศีรษะ
'ดันตั้งชื่อแบบนั้นให้สัตว์อสูรซะได้...'
กริดไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่พีคซอร์ดคิดจริงๆ
หลังจากนั้นทังคู่ก็ออกจากดันเจี้ยนและตรงไปยังปราสาทคอร์ก
"โอ้! วีรบุรุษกลับมาแล้ว!"
"พวกนายจัดการกับทั้งเฮลกาโอและโยชิมุระเลยหรือ?"
สมาชิกกิลด์ต่างพากันชื่นชมกริดและพีคซอร์ดที่สามารถล้มเฮลกาโอกับกิลด์ซากุระได้ พวกเขาพยายามยิ่งคำถามใส่กริด แต่พีคซอร์ดก็รีบห้ามไว้เสียก่อน
'เขาไม่ได้ลงทะเบียนแร้งเกอร์ หมายความว่าไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า'
พีคซอร์ดทั้งเฉลียวฉลาดและมีทักษะบริหารจัดการเป็นเลิศ เขาจึงไม่แพร่งพรายตัวตนกริดออกไป พีคซอร์ดเอาแต่เน้นย้ำว่า การที่ทั้งคู่สามารถล้มเฮลกาโอได้ เป็นเพราะการขุดศิลาอัคคีทำให้มันอ่อนแอลง
ณ ค่ำคืนนั้น
กริดสนุกสนานกับงานเลี้ยงอย่างเต็มที่ เขาสานสัมพันธ์กับพีคซอร์ดและสมาชิกกิลด์ซิลเวอร์ไนท์เล็กน้อย บางคนก่อความวุ่นวายเมื่อเหล้าเข้าปาก ทว่าค่ำคืนก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น
ในยามเช้าตรู่วันถัดมา พีคซอร์ดได้เอ่ยปากถามอย่างระมัดระวัดต่อกริดที่กำลังจะจากไป
"นายจะไม่เข้าร่วมงานแข่งนานาชาติในปีนี้หรือ?"
กริดพยักหน้า
"ผู้หญิงประหลาดบางคนใส่ชื่อของฉันไปในรายชื่อผู้เข้าแข่ง ทว่าฉันไม่มีความคิดเช่นนั้นเลย ฉันไม่อยากเปิดเผยตัวตน และการเข้าแข่งก็ไม่ได้ให้รางวัลตอบแทนที่ดีนัก"
"เข้าใจล่ะ แต่ฉันอยากให้นายเปลี่ยนใจในปีหน้า ในฐานะลูกผู้ชาย การได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาตินั้นเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า… ปีถัดไปฉันเองก็จะเข้าร่วมด้วย มาเป็นทีมเดียวกันเถอะ"
"ฉันจะลองกลับไปคิดดูนะ แต่ในฐานะกำลังพลสำรอง ฉันคิดว่าภารกิจรับใช้ชาติที่ทำอยู่ก็มากเกินพอแล้ว"
กริดเดินมายืนที่ระเบียง เขาสูดลมทะเลอย่างเต็มปอดเข้าไปเป็นฟอดสุดท้ายก่อนจะหันมาพูดกับพีคซอร์ดว่า
"ถ้าเฮลกาโอกลับมาเกิดตามปรกติเมื่อไร ช่วยรีบติดต่อฉันทันทีนะ ฉันยังต้องการศิลาอัคคีอีกหนึ่งก้อน"
"เข้าใจแล้ว แต่จากที่มันพูดเมื่อวาน เฮลกาโอคงไม่มาเกิดอีกสักพักใหญ่ คงถูกแทนที่โดยการส่งพวกครึ่งอสูรระดับสูงออกมา"
"ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น แล้วฉันจะรอนะ ต้องไปล่ะ"
กริดพลันใช้ทักษะบินออกมา หลังจากนั้นเขาก็หายลับขอบฟ้าไปต่อหน้าพีคซอร์ด
'ดาบใหญ่ที่มีพลังโจมตีอันน่าตื่นตะลึง มีดสีทองลอยได้ทั้งเจ็ดเล่ม ผ้าคลุมล่องหน แล้วยังมีรองเท้าบินได้อีกงั้นหรือ… ยอดมาก เกมนี้ขึ้นอยู่กับไอเท็มจริงๆ'
ด้วยความสัตย์จริง ยามนี้พีคซอร์ดกำลังรู้สึกอิจฉากริดอย่างมาก
'ฉันเองก็ต้องรีบหาไอเท็มแบบนั้นมาบ้าง'
ทันใดนั้น เสียงของกริดก็ดังเข้ามาภายในหัว
>> ถ้าหากนายต้องการให้ใครสักคนสร้างไอเท็มให้ ได้โปรดติดต่อฉันอย่าได้เกรงใจ ฉันจะเพิ่มชื่อของนายเข้าไปในคิว แต่ต้องจ่ายเงินด้วยนะ
"โอ้ว...!"
เขาสามารถร้องขอให้ช่างตีเหล็กในตำนานสร้างไอเท็มได้งั้นหรือ? พีคซอร์ครู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เขาดีใจจนร่างกายสั่นระริกไปทุกส่วน
>> ขอบใจนะ กริด
หลังจากแบ่งปันความลับกันและกัน คนทั้งสองก็ดูเหมือนจะสนิทกันมากขึ้น
***
"กริด!"
โทบันกำลังรอการกลับมาของกริดอยู่ที่โรงตีเหล็กข่าน และในที่สุด กริดก็กลับมาในหกวันให้หลัง ใบหน้าของกริดที่ช่วงหลังมานี้อมยิ้มไม่หุบเพราะได้โนเอะมาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ยามนี้ เมื่อได้เห็นหน้าโทบัน เขาพลันหุบยิ้มด้วยสีหน้าหมองหม่นทันที
"เป็นยังไงบ้าง! นายได้ศิลาอัคคีรึเปล่า?"
กริดจ้องมองสีหน้าอันแสนคาดหวังของโทบันด้วยความเศร้าสร้อย หลังจากนั้นจึงหยิบศิลาอัคคีจำนวนสองก้อนออกมา
"...ขาดไปหนึ่งน่ะ"
"อึก...!"
โทบันได้เตรียมใจยอมรับกับลางร้าย <เชื่อมือฉัน> ของกริดไว้แล้ว ทว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกผิดหวังในใจเมื่อสิ่งนั้นเป็นความจริง กริดรีบขอโทษขอโพยโทบันที่หวั่นวิตกทันที
"ฉันขอโทษ ฉันพยายามทำเต็มที่แล้ว แต่เฮลกาโอแข็งแกร่งเกินไป ไม่อาจสู้กับมันไปพร้อมกับขุดแร่ไปด้วยได้"
โทบันพลันลนลานทันที
"นายขอโทษฉันทำไม? มันไม่ใช่ความผิดของนายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉันดีใจต่างหากที่นายพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฉัน"
การขอโทษเมื่อครู่ ทำให้โทบันอดคิดไม่ได้ว่ากริดนั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาแตกต่างจากกริดที่โทบันพบครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง
'คนเราเติบโตในเกมได้ขนาดนี้เชียวหรือ?'
การอัพเลเวลทำให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นได้ก็จริง แต่ระบบเลเวลนั้นไม่ได้ส่งผลถึงจิตใจภายในผู้เล่น แล้วเหตุไฉนกริดถึงเปลี่ยนแปลงไปได้คนละขั้วเช่นนี้?
โทบันพูดพร้อมกับคิดในใจว่านี่มันปาฏิหารย์ชัดๆ
"สี่เดือนที่ผ่านมา แวนเนอร์เองก็ใช้แต้มทั้งหมดไปกับการเพิ่มค่าความอดทน ดังนั้นตอนนี้เขาเองก็เป็นแทงค์เต็มตัวเช่นกัน ถึงจะไม่มีโล่อัคคี แต่พวกเราก็มีโอกาสเอาชนะบอสฟินิกซ์ได้อยู่ นายไม่ต้องกังวลไปนะ"
"ได้ยินแบบนั้นก็ดี งั้นฉันจะเก็บศิลาอัคคีสองก้อนนี้เอาไว้สร้างโล่ให้นายนะ"
"ไม่มีปัญหา ขอบคุณมาก จริงสิ… ทำไมนายถึงเมินข้อความส่วนตัวของจิสึกะล่ะ?"
"จิสึกะ?" กริดพลันสับสน
"จิสึกะไม่เคยส่งข้อความส่วนตัวมาหาฉัน"
"วันที่นายออกเดินทางไปยังเกาะคอร์ก เธอเอาแต่ส่งข้อความหานายทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ"
กริดพยายามรื้อค้นความทรงจำ ทันใดนั้นก็ทำท่านึกออก
"จริงด้วย วันนั้นฉันต้องบินทั้งวัน ก็เลยไม่ได้สนใจข้อความส่วนตัวเท่าไร หนึ่งในนั้นคงมีของจิสึกะด้วยแน่ ว่าแต่เธอจะติดต่อฉันเรื่องอะไร?"
"เธอบอกว่าต้องการที่อยู่บ้านนาย..."
"บ้านฉัน?"
"ตอนนี้เธออยู่เกาหลีใต้ เธอต้องการพบนายให้ได้"
"เห~~..."
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น กริดพลันเสียใจที่พลาดโอกาสสำคัญไป สมาชิกที่เดินทางมายังเกาหลีใต้เพื่อร่วมแข่งขันมีทั้งจิสึกะ ป็อน และเรกัส นี่เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้พบทั้งสามคน
'ฉันอยากพบพวกเขา… ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ก็อาจจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว'
กริดคงมานึกเสียใจเอาทีหลังแน่ หากต้องพลาดการได้เห็นหุ่นของเซ็กซี่สตาร์ระดับโลกตัวเป็นๆ ในระยะประชิด เธอคนนี้เพียงถ่ายแบบไม่ก็ชั่วโมงก็รับเงินหลายร้อยล้านวอนแล้วมิใช่หรือ? กริดรีบสำรวจเวลาอีกครั้ง
"ตอนนี้เป็นวันที่สองของการแข่งใช่ไหม? จิสึกะลงแข่งรายการไหนบ้าง?"
"ทำลายวัตถุกับชิงปราสาท ส่วนอันสุดท้ายดูเหมือนจะเป็นล่าสมบัติล่ะมั้ง?"
"วันที่สอง… วันนี้จะมีแข่งทั้งทำลายวัตถุและชิงปราสาทเลยสินะ"
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติมีการประโคมข่าวทุกวัน ทุกช่องทาง ถึงกริดจะไม่อยากรับรู้รายละเอียด แต่เขาก็ต้องได้ทราบข่าวเข้าสักช่องทางหนึ่งอยู่ดี
"บางที เราควรไปที่นั่น"
เขารีบบอกลาโทบันและล็อกเอาต์ทันที
นาบกริดดูหล่อขึ้น
ReplyDelete