จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 165
ฉึก! ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก! ฉึก!
คมมีดสีทองทั้ง 7 พุ่งไปยังจุดต่างๆ บนศีรษะของเฮลกาโอ มีทั้งดวงตา แก้ม และคาง ความเร็วของพวกมันเทียบได้กับ <เมมฟิส> อสูรที่มีความว่องไวสูงสุดของขุมนรก โดยแม้แต่พวก <ครึ่งอสูร> ก็ยังหลบจากโจมตีจากเมมฟิสไม่พ้น
ทว่าเฮลกาโอนั้นเป็นถึงหนึ่งใน 33 สุดยอดอสูร ความเร็วระดับนี้จึงไม่ใช่ภัยอันตรายอะไร
'มนุษย์คนนี้ซัดอาวุธขว้างได้ดี แต่มันก็เท่านั้นแหละ'
เฮลกาโอวาดวงกลมเล็กๆ ขึ้นกลางอากาศด้วยไม้เท้า
แคร้งงงง!
คมมีดทั้ง 7 ไม่อาจเข้าถึงเป้าหมายได้ พวกมันถูกผลักให้กระเด็นออกมาพร้อมกัน ทว่าถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ร่วงหล่นลงไปบนพื้น แต่กลับพลิกตัวโจมตีเข้าหาเฮลกาโออีกครั้งอย่างไม่ลดละ
'หือ'
เฮลกาโอย่อมตื่นตะลึง เพราะมันคิดว่าคมมีดทั้ง 7 นี้ถูกขว้างออกมาโดยมนุษย์ที่สวมเกราะแดง แต่กลายเป็นว่าตอนนี้พวกมันกลับเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ
เคร้ง แคร้งงง!
คมมีดทั้ง 7 สร้างความรำคาญให้เฮลกาโอได้ไม่น้อย จ้าวแห่งเพลิงโลกันต์ผู้นี้จึงตัดสินใจทำลายพวกมันด้วยการกวัดแกว่งไม้เท้าในมือเข้าปะทะโดยตรง ทว่าบนใบมีดกลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเกิดขึ้น มีเพียงการชะงักไปเล็กน้อยและเริ่มขยับตัวใหม่อีกครั้ง
'เป็นความทนทานที่ไม่น่าเชื่อ อดามันเที่ยมงั้นเหรอ แต่ทำไมถึงขยับได้เองล่ะ'
เป็นคมมีดสีทองที่ทั้งเร็วและแข็งแกร่ง! ในเมื่อพวกมันไม่ได้ถูกควบคุมโดยเวทย์มนต์ แล้วมันขยับเขยื้อนเองได้อย่างไรกัน คมมีดทั้ง 7 เล่มยังคงกระหน่ำโจมตีใส่เฮลกาโออย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย สิ่งนี้เริ่มทำให้มันเริ่มวิตกกังวล
ลงท้ายด้วย
"ออกไปซะ!"
เฮลกาโอปลดปล่อยสายลมอันร้อนระอุปกคลุมทั่วห้อง คมมีดสีทองถูกแรงลมผลักจนกระเด็นออกมาไกลและไม่อาจเข้าไปใกล้ร่างของเฮลกาโอได้อีก
"กลับมา"
เมื่อมนุษย์ในเกราะสีแดงออกคำสั่ง คมมีดทั้ง 7 ก็กลับไปหาชายคนนั้นอย่างง่ายดายและหมุนวนอยู่รอบตัวเขา
'เป็นของวิเศษที่แปลกมาก'
เฮลกาโอตัดสินใจเปิดปากขึ้น
"ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวข้าที่อยู่มานานถึงหนึ่งพันปี ยามนี้จะต้องบังเกิดความสงสัยใครรู้ในตัวมนุษย์ คมมีดพวกนั้น มันคืออะไรกันแน่ ความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกับโลหะแห่งเทพอย่างอดามันเที่ยม แต่กลับเคลื่อนไหวไปมาได้ดั่งใจนึก ทำไมมนุษย์ธรรมดาอย่างแกถึงมีมันได้!!"
"มนุษย์ธรรมดางั้นหรือ" ชายในเกราะสีแดง กริด แสยะยิ้มให้เฮลกาโอ
"แกยังคิดว่าฉันเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาอยู่อีกรึไง"
"อะไรนะ" เฮลกาโอยังคงกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน
"ฮ่าฮ่าฮ่า! แม้ร่ายกายของข้าในตอนนี้จะอ่อนแอราวกับเศษขยะ แต่แกกลับสร้างได้แค่รอยขีดข่วนเท่านั้น! ฉันไม่เห็นว่าแกจะพิเศษตรงไหนเลย!"
เฮลกาโอคืออันดับ 9 แห่ง 33 สุดยอดอสูร ทว่านั้นเป็นพลังในขุมนรก หลังจากถูกอริยะดาบมุลเลอร์ทำการผนึกร่างไปเมื่อ 150 ปีก่อน ในการจะกลับมาโลกมนุษย์แต่ละครั้ง มันจำเป็นต้องยืมร่างของครึ่งอสูรเพื่อใช้ในการปรากฏตัวบนโลกนี้
ในอีกความหมายหนึ่ง นี่ไม่ใช่ร่างจริงของเฮลกาโอ ทำให้มันมิอาจสำแดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ แล้วการที่กริดทำเป็นจองหอง ทั้งๆ ที่ยังไม่อาจทำให้ร่างของครึ่งอสูรเกิดรอยขีดข่วน จึงไม่แปลกที่เฮลกาโอจะรู้สึกเหยียดหยัน
"แกก็แค่เก่งกว่ามนุษย์ทั่วไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้พิเศษขนาดนั้น" เปลวเพลิงทมิฬรอบกายเฮลกาโอพลันสว่างวาบขึ้น
"มนุษย์คนเดียวที่ฉันยอมรับคือมุลเลอร์ แกมันก็แค่สิ่งมีชีวิตอันแสนอ่อนแอที่ไม่อาจเทียบกับมุลเลอร์ได้แม้แต่ปลายเล็บ!"
กริดทำทีเป็นนึกออก
"อ๋อ อริยะดาบมุลเลอร์นั่นเอง คนที่ฉีกร่างของแกเป็นชิ้นๆ เมื่อสมัยอดีตใช่ไหม"
เฮลกาโอหรี่ตาลง
"มีอะไรน่าขันรึไง"
กริดที่กำลังแสยะยิ้มได้อธิบายต่อไป
"ฉันเองก็อยู่ในระดับเดียวกับมุลเลอร์ ช่างน่าขันที่แกไม่ได้รู้ถึงเรื่องนั้นเลย และเช่นเดิม วันนี้จะเป็นวันตายของแก!"
แต่เฮลกาโอกลับคิดว่าถ้อยคำของกริดทั้งเหลวไหลและน่าขบขัน
"วะฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าบ้านี่ช่างไม่เจียมตัว!"
อริยะดาบมุลเลอร์ ชายคนนี้คือตัวตนที่อยู่เหนือจินตนาการของเฮลกาโอซึ่งมีอายุหลายพันปีไปมาก เขาคือมนุษย์ธรรมดาเพียงคนเดียวที่สามารถก้าวข้ามสุดยอดอสูรอย่างมันได้ วิชาดาบของมุลเลอร์นั้นคมกริบจนสามารถตัดผ่านเพลิงโลกันต์ให้ขาดเป็นสองท่อนในพริบตา
หากจะเปรียบเทียบกัน กริดก็แค่มนุษย์ดาษดื่น แม้จะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย แต่ยังห่างชั้นกับมุลเลอร์ราวท้องฟ้ากับหุบเหว
"มนุษย์อวดดีที่กล้ายกตนขึ้นเทียบมุลเลอร์งั้นรึ ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย… เห!"
เฮลกาโอพลันหยุดหัวเราะทันทีที่สายตาของมันชำเลืองไปยังมุมหนึ่งของห้อง ต้องขอบคุณคมมีดสีทองทั้ง 7 ที่รุมกระหน่ำโจมตีก่อนหน้านี้ เฮลกาโอจึงลืมนึกถึงมนุษย์อีกคนหนึ่งไปเสียสนิท ชายคนดังกล่าวกำลังขะมักเขม้นใช้จอบสองหัวขุดศิลาอัคคีอย่างไม่ลดละ เป็นพีคซอร์ดนั่นเอง อันดับ 16 ของโลก พีคซอร์ด ชายผู้ซึ่งมีวิชาดาบที่น่ากลัวจนผู้คนต่างยำเกรงและให้ความเคารพ ยามนี้เขากำลังท้ายทายประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างการขุดแร่เป็นครั้งแรก
เฮลกาโอโกรธเป็นฟืนไฟทันที
"ฉันล่ะเกลียดพวกแกนัก!"
การมาปรากฏตัวบนโลกมนุษย์ครั้งนี้ เฮลกาโอได้นำศิลาอัคคีซึ่งเป็นแหล่งพลังของมันติดตัวมาด้วยทั้งหมด 4 ก้อน ดังนั้นเมื่อถูกกริดขุดออกไปแล้ว 1 ก้อน พลังของมันจึงสูญหายไปมากถึง 1 ใน 4 ส่วน คราวนี้มันจึงไม่ยอมให้ศิลาอัคคีถูกขุดออกไปอีกแล้ว
โฮกกกก!
เฮลกาโอพุ่งตัวอย่างรวดเร็วโดยมีเปลวเพลิงสีดำห่อหุ้มร่างกายไว้ราวกับผ้าคลุม เป้าหมายของมันย่อมเป็นพีคซอร์ด มันต้องการจะป่นกระโหลกของพีคซอร์ดให้แหลกละเอียดในพริบตาและทำลายจอบนั่นให้สิ้นซาก ทว่ากลับถูกขวางไว้โดยกริดอีกครั้ง
"จะรีบไปไหน แกกับฉันยังคุยกันไม่เสร็จ!"
กริดพูดไปพลาง โจมตีไปพลาง
แคร้ง!
แขนของเฮลกาโอสั่นระริกทันทีที่ใช้ไม้เท้ารับดาบใหญ่สีน้ำเงินของกริดไว้
'ไม่ใช่แค่เราที่อ่อนแอลง เจ้านี่มันก็เก่งขึ้นด้วย'
กริดได้พูดอะไรบางสิ่งกับเฮลกาโอที่กำลังหวั่นวิตก
"ก็จริงอยู่ที่ตัวฉันในตอนนี้ยังมีทักษะไม่ถึง 1 ใน 100 ของอริยะดาบมุลเลอร์ด้วยซ้ำ ทว่าฉันก็ไม่ได้โกหกหรอกนะ ที่พูดว่าตนเองอยู่ในระดับเดียวกับเขาน่ะ เพราะฉันเองก็เป็นตำนานเหมือนกัน!"
"ตำนานงั้นรึ"
เฮลกาโอทวนคำพูดของกริดด้วยน้ำเสียงสับสน กริดพูดพร้อมกับฟาดฟันอาวุธหลักในมือที่เสริมแกร่งไปถึงระดับ+9 หลังจากหลายเดือนที่ฝึกซ้อมมันมานาน เขาก็สามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วดังใจนึก
เปรี้ยงงง!
<วิชาดาบแพ็กม่าโหมดปรกติ (เลเวล 2)> นั้นเพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพสูงถึง 30% อัตราคริติคอลอีก 20% และความแรงคริติคอลอีก 10% เมื่ออาวุธสุดโกงอย่าง<+9 ความผิดพลาด> ได้ผสานเข้ากับอานุภาพของวิชาดาบแพ็กม่าโหมดปรกติ พลังทำลายจึงอยู่เหนือจินตนาการของมันไปมาก ตัวกริดในตอนนี้ย่อมทำให้เฮลกาโอไม่เชื่อสายตาตนเอง
'เจ้านี่ พลังโจมตีมหาศาลขนาดนี้ในดาบเดียวได้ยังไงกัน...!'
ฟุ่บ!
"อึก!"
เฮลกาโอบล็อคการโจมตีจากกริดอย่างยากลำบากไว้ด้วยไม้เท้า และเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกทำให้กระเด็นถอยไปด้านหลังเล็กน้อย เกิดเป็นแสงสีแดงสว่างขึ้นวูบวาบท่ามกลางเปลวเพลิงสีดำ สิ่งนั้นทำให้กริดอดแสยะยิ้มจนเห็นฟันขาวๆ ออกมาไม่ได้
"เป็นยังไงบ้างล่ะ มันสุดยอดจนกลบส่วนต่างของความสามารถได้มิดชิดเลยใช่ไหม"
"แก...!"
ในที่สุดเฮลกาโอก็เข้าใจ ชายหนุ่มตรงหน้าตอนนี้ เขาไม่ได้มีวิชาดาบที่คบกริบเหมือนกับมุลเลอร์ และการเคลื่อนไหวร่างกายก็แย่กว่ามุลเลอร์อย่างมาก
ทว่า
'รุนแรง'
ทำไมถึงได้รุนแรงนัก เฮลกาโอจ้องมองกริดด้วยสีหน้าครุ่นคิด
'ดาบใหญ่เล่มนั้น'
แม้จะมีชีวิตอยู่มานานหลายพันปีแล้ว แต่มันก็ไม่เคยเห็นอาวุธใดที่เหมือนกับดาบสีน้ำเงินเล่มนี้มาก่อน เฮลกาโอทำได้เพียงสั่นระริก ทั้งคมมีดสีทองทั้ง 7 เล่มที่ขยับเองได้ และยังมีดาบใหญ่อันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้อีก เหตุใดไอเท็มสุดยอดของโลกถึงได้มาอยู่รวมกับที่ชายคนนี้
'เจ้านี่มีสมบัติของเทพรึยังไงกันนะ'
เฮลกาโอไม่อาจต่อสู้อย่างดูแคลนได้อีก คราวนี้มีแต่ต้องเอาจริงเท่านั้น มันตัดสินใจเริ่มยิงเพลิงโลกันต์ออกไป
บึ้มมมม!
เพลิงที่ไม่มีวันดับได้กระแทกเข้าใส่หน้าอกของกริดอย่างจัง เมื่อเห็นดังนั้น เฮลกาโอพลันหัวเราะร่าอย่างสะใจ
"วะฮ่าฮ่าฮ่า! ต่อให้แกกระโดดลงทะเลตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์! ตราบใดที่เพลิงโลกันต์เริ่มมอดไหม้ มันก็จะไม่มีวันดับลงจนกว่าเป้าหมายจะกลายเป็นเพียงซากขี้เถ้า!"
เฮลกาโอมั่นใจว่ากริดจะต้องถูกเผาจนเหลือเพียงเศษธุลีในอึดใจ ทว่า...
"มันดับลงได้ยังไง"
กริดใช้มือปัดไปมาตามลำตัวเบาๆ เพียงครู่เดียว เพลิงโลกันต์ก็ดับสนิท
"บ--บ้าน่า!"
ทำไมถึงได้ดับเป็นหัวไม้ขีดเช่นนั้น นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ประสบการณ์นับพันปีของมันคาดไม่ถึง ใช่แล้ว ครั้งก่อนหน้าที่มันคาดไม่ถึงก็คือ ยามที่มุลเลอร์ฟาดฟันร่างของมันจนเสียหายยับเยินเมื่อ 150 ปีก่อน
'หรือมันจะพูดความจริง เรื่องที่ว่าอยู่ในระดับเดียวกับมุลเลอร์...!'
เฮลกาโอพลันเย็นสันหลังวาบ มันถึงกับผงะถอยหลังไปเล็กน้อย
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,800 หน่วย ]
[ เพลิงโลกันต์จากนรกได้ลุกโชนบนตัวท่าน เพลิงจะไม่ดับลงจนกว่าร่างกายของท่านจะกลายเป็นเพียงขี้เถ้า ]
[ ท่านจะได้รับความเสียหาย 2,000 หน่วยต่อวินาทีจนกว่าจะตายไป ]
[ ท่านต้านทานต่ออาการผิดปรกติ ]
กริดรู้สึกโล่งใจเมื่อได้เห็นข้อความระบบที่ต้องการจะเห็น ชายหนุ่มเริ่มรำดาบอีกครั้ง ออร่าแสงสีขาวกำลังเคลื่อนไหวอย่างงดงามไปรอบๆ ดาบใหญ่สีน้ำเงิน ประหนึ่งฉลามยักษ์กำลังเวียนว่ายอยู่ในท้องทะเล
"วิชาดาบแพ็กม่า… ร่ายรำ!"
กล้ามเนื้อทุกมัดที่เกร็งอยู่ในท่ารำดาบได้ถูกปลดปล่อยในชั่วพริบตา และในเวลาเดียวกัน ดาบใหญ่ในมือก็ถูกฟันไปด้านหน้าอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงสีขาวอมน้ำเงินจำนวน 17 เส้น ได้พุ่งเข้าไปหาเฮลกาโอด้วยความเร็วสูงและพลันหายไปจากการมองเห็นอย่างน่าฉงน
"..."
ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
เคร้ง!
ในห้องมีเพียงเสียงของพีคซอร์ดกำลังเหวี่ยงจอบเท่านั้น
'หมายความว่ายังไง'
โจมตีพลาดงั้นเหรอ
แต่ทันใดนั้นเอง
ซู่ววว
ลำแสงทั้ง 17 เส้นได้ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่ารอบตัวเฮลกาโอ หลังจากนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าใส่ร่างจ้าวแห่งเพลิงโลกันต์อย่างพร้อมเพรียง
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม...!
อากาศโดยรอบพลันระเบิดออก เกิดเป็นแผลตามตัวเฮลกาโอทั้งหมด 17 แห่งในทันที
"อ๊าาาาก!"
เฮลกาโอส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด นี่ไม่ใช่การโจมตีที่ผิดพลาด แต่มันคืออำนาจที่แท้จริงของดาบแห่งแสง ร่ายรำ เป็นช่วงเวลาที่กริด ผู้ซึ่งมีเลเวล 246 และจำนวนแต้มสถานะที่เหนือมนุษย์ทุกคนไปแล้ว ตลอดสี่เดือนแห่งการฝึกฝนที่จบลง เขาจึงสามารถสำแดงพลังของวิชาดาบแพ็กม่าที่แท้จริงออกมาได้ในวินาทีนี้
"ฉันบอกแกไปแล้ว ฉันเองก็เป็นตำนานเหมือนกัน!"
ตัวกริดเองก็ประทับใจเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่น้อยไปกว่าใคร
"เจ้านี่...!"
ร่างของเฮลกาโอโซซัดโซเซ ก่อนที่จะถูกขุดศิลาอัคคีก้อนแรกออกไป เฮลกาโอนั้นอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อม การโจมตีเมื่อครู่คงไม่อาจทำให้พลังชีวิตของมันลดลงไปได้ แต่ความจริงก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น วิชาดาบร่ายรำได้ทำให้พลังชีวิตของมันลดลงไปถึง 1 ใน 10 ส่วนเลยทีเดียว
ฝั่งกริดเองก็เริ่มมั่นใจ
'ถ้าเป็นตอนนี้ก็คงพอสู้ได้'
เคร้ง! เคร้ง!
เสียงจอบสองหัวจากพีคซอร์ดที่ดังขึ้นไม่หยุดจากด้านหลัง ทำให้กริดรู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหลายเท่า ทันใดนั้น ที่มุมหนึ่งของวิสัยทัศน์จากหางตา ไม้เท้าของเฮลกาโอก็พุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง
เปรี้ยงง!
[ ท่านถูกการโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 7,930 หน่วย ]
"...อั่กก!"
กริดถูกไม้เท้าของเฮลกาโอพุ่งกระแทกใส่ โดยผ่านช่องว่างที่มีเพียงเล็กน้อยของคมมีดสีทองทั้ง 7 เล่มเข้ามา เฮลกาโอพลันตะโกนขึ้นและรีบร่ายเวทย์
"แกไม่ใช่มุลเลอร์!"
ถูกต้อง เขาไม่ใช่มุลเลอร์ หนึ่งวิชาดาบจากมุลเลอร์สามารถฟันเฉือนแขนขาเฮลกาโอให้หลุดขาดออกจากกันได้ทันที แม้กริดจะมีอาวุธที่ทรงพลัง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากนำไปเทียบกับมุลเลอร์แล้วยังห่างชั้นอีกมาก
เคร้ง! เคร้ง!
คมมีดสีทองทั้งได้พุ่งเข้าไปยับยั้งการร่ายเวทย์ของเฮลกาโอส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คอยปกป้องกริดไว้ ทว่ายามนี้ เฮลกาโออยู่ในโหมดรบพุ่งเต็มขั้น มันทั้งเร็วและแข็งแกร่งกว่ายามปรกติ
เปรี้ยงง!
คมมีดสีทองที่ถูกเฮลกาโอซัดเข้าไป พลันชะงักและร่วงลงพื้นไปนานกว่า 2 วินาที
หลังจากนั้น
ผลั่ก!
ไม้เท้าของเฮลกาโฮจู่โจมอย่างพริ้วไหว มันสามารถตวัดหลบคมมีดได้ทุกเล่มและกระแทกใส่ท้องกริดอย่างจัง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,550 หน่วย ]
'มันเจ็บนะโว้ย!'
ชุดเกราะของกริดถูกเสริมแกร่งจนถึงระดับ +6 ทุกชิ้น เขาใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับการ +9 ความผิดพลาด ทำให้ต้องฝืนใจยอมรับว่าแค่ +6 ก็ยอดเยี่ยมมากแล้วสำหรับชุดเกราะ ทว่าหลังจากการทดสอบจริงอยู่หลายครั้ง กริดก็รู้สึกว่าพลังป้องกันเท่านี้นั้นเพียงพอแล้ว
ราวหนึ่งเดือนก่อน เขาไปได้ทดสอบพลังป้องกันตนเองกับผู้พิทักษ์พรไพรร่างจริงอีกครั้ง และพบว่าความอึดค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจทีเดียว แต่เฮลกาโอที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้มีพลังโจมตีที่รุนแรงเกินไปต่างหาก
'ขนาดเราทำให้มันอ่อนแอลงด้วยการขุดศิลาอัคคีออกไปก้อนหนึ่งแล้วนะ...!'
ผลั่ก! ผัวะ!
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,590 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,480 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,900 หน่วย ]
[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 7,700 หน่วย ]
โอกาสคริติคอลมีสูงมาก ในทุก 3 การโจมตีจะกลายเป็นคริติคอล 1 ครั้ง ค่าพลังโจมตีพื้นฐานของเฮลกาโอก็นับว่ามหาศาล ท่วงท่าอันเกรี้ยวกราดของมันได้สะกดข่มกริดไว้จนทำอะไรไม่สะดวก ชายหนุ่มพยายามเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยพลังชีวิต 1 ใน 3 ของหลอดที่เหลือ และเขาพยายามสวนกลับไปด้วย <ความผิดพลาด>
เคร้ง!
กริดอาศัยแรงผลักที่เกิดจากการปะทะกันของความผิดพลาดและไม้เท้าเพื่อสร้างช่องว่าง หลังจากนั้น หนึ่งในวิชาดาบแพ็กม่าก็ถูกใช้ออกไป
"คลื่น!"
คลื่นสีขาวปนน้ำเงินได้กระจายออกไปทุกทิศทาง
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 18,500 หน่วย ]
[ ความเร็วของเป้าหมายลดลง ]
กึก...
กระแสของการดวลที่ตกอยู่กับเฮลกาโออยู่ฝ่ายเดียวในตอนแรกค่อยๆ ลดลงอย่างน่าตกใจ กริดเริ่มสวนกลับไปได้ในบางครั้งและฉวยโอกาสนั้นตะโกนบอกพีคซอร์ด
"เฮ้ นายน่ะ! ยังไม่เสร็จขุดศิลาอัคคีก้อนแรกอีกรึไงฟะ!"
พีคซอร์ดตอบกลับอย่างลนลาน
"ฉันบอกนายไปแล้วว่านี่คือการขุดแร่ครั้งแรก! ฉันไม่รู้เทคนิคเสียหน่อย!"
"เฮ่อ… น่าหงุดหงิดจริง!"
"..."
เฮลกาโอคือจ้าวแห่งเพลิงโลกันต์ ในขณะที่กริดคือคลาสเลเจนดารีคนแรกของโลก ตัวตนของสองคนนั้นทำให้พีคซอร์ดดูตัวเล็กลงไปถนัดตา เขาย่อมหงุดหงิดที่ไม่อาจแสดงศักภาพในความเป็นอันดับ 16 ของโลกได้เลย
กริดค่อยๆ อธิบายพีคซอร์ดต่อไป
"มองไปรอบๆ ศิลาอัคคีให้ดี มันจะมีบางจุดที่ยึดเกาะอยู่กับพื้นซึ่งดูแล้วอ่อนแอกว่าปรกติ ให้ใช้จอบขุดลงไปตรงนั้น...!"
"หุบปากซะ!"
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
เฮลกาโอเสกบอลไฟนับร้อยพุ่งเข้าใส่ กริดรีบหยิบโล่เทวะออกมาบังไว้พร้อมกับเรียกคมมีดสีทองกลับมาป้องกันตัว
บึ้ม!
เฮลกาโอกระแทกไม้เท้าลงบนพื้นอย่างแรง มันใช้คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นเพื่อส่งตัวกระโจนใส่บริเวณหัวไหล่ของกริด
ฉึกฉึก! ฉึก!
คมมีดสีทองรุมกระหน่ำเสียบร่างเฮลกาโออย่างไม่ลดละ ทว่านั่นก็ไม่อาจหยุดความบ้าบิ่นของมันได้ เฮลกาโอใช้สองมือตะปบศีรษะของกริดไว้และตะโกนขึ้น
"ถ้าเผาแกไม่ได้ ฉันก็จะบดขยี้แกเอง!"
"...!"
พรึบ!
เพลิงทมิฬลุกโชนขึ้นบนท่อนแขนทั้งสองข้างและหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง
ซู่ววว!
"วะฮ่าฮ่าฮ่า!"
แม้แต่ก้อนหินยังแหลกเป็นเม็ดทรายด้วยความร้อนระดับนี้ แล้วกริดจะเหลืออะไร! เฮลกาโอหัวเราะอย่างสะใจพร้อมกับคาดหวังว่าศีรษะของกริดจะถูกป่นเป็นเศษเนื้อเละเทะกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ทว่า สิ่งเหล่านั้นกลับไม่เกิดขึ้น เพราะกริดได้หยิบแหวนวงสีฟ้าออกมาและสวมเข้าไปที่นิ้ว
"เมื่อกี้นายว่าไงนะ"
"ฮ่าฮ่าฮ่า...! หือ!"
เสียงของมนุษย์ที่น่าจะตายไปแล้วกลับดังขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่เฮลกาโอกำลังตกตะลึง กริดได้ใช้ <โทสะช่างตีเหล็ก> และตัดข้อมือทั้งสองข้างของมันด้วย <+9 ความผิดพลาด>
[ คริติคอล! ]
[ เอฟเฟคของ <ความผิดพลาด> แสดงผล เกิดผลทักษะ <ผ่าสองซีก> โดยอัตโนมัติ ]
ฉับ!!
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 46,940 หน่วย ]
[ ท่านตัดข้อมือทั้งสองข้างของ <เฮลกาโอ จ้าวแห่งเพลิงโลกันต์> ส่งผลให้ <เฮลกาโอ> ขาดอิสระในการเคลื่อนไหว พลังโจมตีและความเร็วโจมตีขะลดลงอย่างมหาศาล ]
"อ๊ากกกก!"
เสียงร้องอันโหยหวนของเฮลกาโอได้ดังกึกก้องไปทั่วทั้งดันเจี้ยน
กริดแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ยกที่สองเริ่มได้!"
กริดผ่านการต่อสู้อย่างโชกโชนและเรียนรู้วิธีการใช้แหวนโดรันให้เต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น เขาจะสวมมันในตอนที่โดยศัตรูโจมตีด้วยท่าใหญ่เท่านั้น
นี่ถือเป็นการใช้แหวนโดรันและเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มค่ามากที่สุด ส่วนอีกฝ่าย เฮลกาโอสูญเสียพลังชีวิตไปราว 30%หลังจากที่กริดใช้ทักษะ <สังหาร> <มายาร่ายรำ> <ร่ายรำ> <และคลื่น> ออกไปอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น
และตอนนี้นี่เอง
เคร้ง!
"เยี่ยม! ฉันทำได้แล้ว! ฉันขุดศิลาอัคคีได้แล้ว!"
พีคซอร์ด ชายผู้ที่เล่นซาทิสฟายมานานกว่าหนึ่งปีครึ่ง ยามนี้เป็นครั้งแรกซึ่งเขาได้สัมผัสถึงความรู้สึกอันยอดเยี่ยมที่ขุดแร่ล้ำค่าออกมาได้
"อั่ก...! พวกแก...!"
เพลิงทมิฬที่รายล้อมร่างกายเฮลกาโอได้อ่อนแอลงหลายเท่า กริดไม่สงสัยเลย การโจมตีชุดต่อไปจะต้องเป็นการปิดฉากอย่างแน่นอน
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteพลังแห่งไอเทม ฮูเร่~
ReplyDelete