จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 121
"นายพาตัวปัญหามาที่นี่ทำไม"
เชย์ส่งสายตาตำหนิตงเพา
เป็นความจริงที่ยิ่งเหยื่อเลเวลสูง ค่าไถ่ก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย… ทว่ามันก็มีเส้นบางๆ แบ่งอยู่… เหยื่อที่แข็งแกร่งเกินไปย่อมไม่ใช่การล่าที่ดี… เพราะนอกจากจะลงมือไม่สำเร็จแล้ว สถานการณ์ยังอาจกลับตาลปัดอีกด้วย
ตงเพาคิดว่าไม่เป็นธรรมเลยสักนิด ที่มันจะถูกตำหนิอยู่ฝ่ายเดียว "ใบหน้าและชื่อของ <จอมเชือด> ไม่เคยมีการเปิดเผยมาก่อน… แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าหมอนี่คือจอมเชือด"
เหยื่อที่ดันบังเอิญไปพบเข้ากลับกลายเป็นจอมเชือดผู้โด่งดังไปเสียได้… ตงเพาพลันเย็นสันหลังวาบ… เขาอยู่กับชายคนนี้มาครึ่งค่อนวันแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกเอะใจเลยแม้แต่นิดเดียว
'ถ้าดูจากวิดีโอ หมอนี่คือคนที่โหดเหี้ยมและป่าเถื่อนมาก… โชคดีแค่ไหนกันที่ไม่โดนเอามีดเสียงหลังในระหว่างการล่า'
'เฮ่อะ… ไอ้ขี้ขลาด'
เชย์ส่ายหัวเบาๆ ให้กับตงเพาที่กำลังตื่นกลัว… มันชักอาวุธที่มีความยาวราว80เซนติเมตรออกมาหมุนควงเล่นอย่างช่ำชอง
"ในเมื่อมันมาอยู่ที่นี่แล้ว… ก็แปลว่าเรามีโอกาสได้รู้สักทีว่าจอมเชือดผู้โด่งดังคนนั้นเก่งกาจขนาดไหนกันแน่"
ท้ายที่สุด พวกมันก็ตัดสินใจที่จะสู้
ตงเพาพลันหวาดผวาขึ้นมา
"ฮ--เฮ้! เชย์! นายไม่เห็นวิดีโอต่อสู้ของหมอนั่นรึไง.… อย่าลืมสิว่ามันมีทักษะโจมตีหมู่ที่รุนแรงขนาดไหน… หมอนี่เป็นคลาสลับเชียวนะ! ฉันว่าพวกเราหนีไปไม่ดีกว่าหรอ… ตอนนี้ก็ยังทันนะ… พวกเราถอนตัวไปอย่างสันติเถอะ!"
"สันติงั้นหรอ… คนที่หิวเงินจนล่อลวงผู้เล่นมาฆ่ารายแล้วรายเล่าแบบนาย ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้อยากสันติขึ้นมาได้!" เชย์แสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันก่อนจะอธิบายสถานการณ์ออกไป
"ก็ถูกของนาย หมอนี่มีทักษะโจมตีหมู่ที่รุนแรงมาก… ถ้าหากเป็นสถานที่อื่นฉันคงเลี่ยงที่จะสู้ด้วย… แต่ในถ้ำแห่งได้ผนึกทักษะเอาไว้ทุกชนิด… ย่อมมีโอกาสสูงมากที่คนเยอะกว่าจะได้รับชัยชนะ"
เชย์มั่นใจว่าพวกมันสามารถเอาชนะได้แน่… พอพูดจบจึงพุ่งโจมตีใส่กริดทันที
ฟุ่บ!
ประกายดาบสว่างวาบขึ้นในถ้ำอันมืดมิด… แต่ปลายทางที่มันฟันออกไป กลับมีดาบยักษ์สีดำคอยรอรับอยู่แล้ว
เคร้งงง!
เมื่ออาวุธทั้งสองปะทะกัน พลันเกิดเป็นประกายสว่างขึ้นในถ้ำครู่หนึ่ง… ในยามที่ประกายไฟถูกจุดขึ้น… ผู้คนทั้ง4จึงเห็นรูปทรงของหมวกกระโหลกอันอัปลักษณ์เต็มสองตา… เชย์จึงกล่าวว่า
"หากเป็นคนทั่วไป… คงไม่กล้าสวมหมวกใบนี้เดินออกไปไหนมาไหนเป็นแน่… ฉันล่ะสงสัยนัก ว่าแกกล้าใส่หมวกน่ากลัวแบบนี้ลงได้ยังไง… แต่ฉันก็ไม่คิดจะทำความเข้าใจกับพวกวิกลจริตหรอกนะ"
กริดตะโกนขึ้นอย่างโมโห "คิดว่าฉันชอบใส่นักรึไงวะ! ฉันไม่มีทางเลือกเท่านั้นหรอกโว้ย! ออปชั่นของหมวกมันเจ๋งมากจนหาใบอื่นมาแทนไม่ได้! บ้าฉิบ! แล้วอย่ามาเรียกฉันว่าพวกวิกลจริต!"
เคร้ง! เคร้ง!
เคิร์บและสนิฟเฟอร์กำลังยืนชื่นชมในการต่อสู้ของคนทั้งสอง
"เจ้าบ้านั่น… มันเร็วขนาดรับดาบของเชย์ไว้ได้ทุกครั้ง"
นักลอบสังหารย่อมมีค่าความว่องไวสูง… ดังนั้นความเร็วโจมตีจึงว่องไวตามไปด้วย… แล้วเชย์ก็เป็นถึงนักลอบสังหารอันดับ5ของโลก… ดังนั้นทั่วทั้งซาทิสฟาย จึงมีผู้เล่นไม่มากที่จะตามความเร็วโจมตีของเชย์ทัน
แต่กริดที่กำลังถือดาบใหญ่อยู่ในมือกลับสามารถปัดป้องเชย์ได้ทั้งหมด… ตงเพาทำได้เพียงอ้าปากค้าง
"หมอนั่นเชี่ยวชาญการต่อสู้จนคาดเดาการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเชย์ได้งั้นหรอ"
เคิร์บส่ายหัว "ไม่… ไม่ใช่อะไรแบบนั้น… มันแค่เร็วมาก"
"อะไรนะ"
สนิฟเฟอร์จุ๊ปากอย่างหงุดหงิดใส่ตงเพา
"พวกคนจีนนี่มันมีอะไรบังลูกกะตาไว้รึไงฟะ… ก็ดูเอาเองสิ! ความเร็วที่กริดใช้เหวี่ยงดาบ เท่ากับความเร็วที่เชย์โจมตีเข้าไปพอดิบพอดี"
ตงเพาแทบไม่เชื่อสายตา… ดาบใหญ่ในมือกริดมีความยาวมากกว่า3เมตร ดูแล้วน่าจะหนักราว20กิโลกรัมเลยทีเดียว… แต่ทางฝั่งเชย์… ดาบเชย์มีน้ำหนักเบาและยาวเพียง80เซนติเมตรเท่านั้น… หากเทียบในด้านนี้… เชย์ควรถือครองความได้เปรียบมิใช่หรือ… แล้วเกิดอะไรขึ้น
เคิร์บอธิบายต่อไป "คงเป็นเพราะค่าพละกำลังและความว่องไวของกริดมีสูงมาก… มากจนพวกเราคาดไม่ถึง… ยังไม่ต้องพูดถึงทักษะหรอก… เพียงแค่ค่าพลัง… หมอนั่นก็ถือเป็นปีศาจแล้ว"
เคร้ง!
"อั่ก!"
หลังจากประดาบกันไปสิบกว่าเพลง… เชย์ก็เป็นฝ่ายเริ่มถอยออกมาก่อน
'แข็งหยั่งกะฟันใส่ก้อนหิน… พอโดนฟันเข้ามาก็เหมือนกับถูกภูเขาถล่มใส่'
แขนขวาของเชย์เริ่มออกอาการชา… มันเริ่มทนการโจมตีอันหนักหน่วงของกริดไม่ไหว
"กริด… ชื่อของนายไม่ติดแม้แต่ท็อป3,000ของโลก… แต่นายกลับแข็งแกร่งกว่าฉันมาก… ถึงจะเป็นเพราะคลาสลับก็เถอะ แต่นี่มันไม่เกินไปหน่อยงั้นหรอ ที่ช่องว่างระหว่างเลเวลจะไร้ค่าขนาดนี้… เกมต้องเสียสมดุลย์ไปแล้วแน่"
กริดพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหยียดหยัน "นายเคยมีคลาสลับเป็นของตัวเองมาก่อนรึเปล่าล่ะ… ของแบบนี้ ไม่มาสัมผัสเองก็คงไม่มีทางรู้… ทั้งดวงและความเพียรพยายามเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้! นายคิดว่าคลาสลับของฉันได้มายังไงงั้นหรอ… นายคิดว่าการซื้อหวยตลอด100ปีจะทำให้นายได้กลายเป็นคลาสลับรึยังไงกัน!"
"ติดกับแล้ว"
เชย์ส่งสัญญานออกไป… นักลอบสังหารสองคนที่เหลือพลันหายตัวมาโผล่ในแต่ละข้างของกริดอย่างว่องไว
"ประการแรกก็ต้องซัดให้น่วม! หลังจากนั้นก็ค่อยเรียกค่าไถ่ชีวิตให้หนำใจ!"
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
สนิฟเฟอร์ที่คันไม้คันมือมานานได้โพล่งขึ้นและปาลูกดอกใส่กริดจำนวน3นัด… ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เคิร์บยังคงตั้งท่าป้องกันด้วยมีดคู่โดยไม่โจมตีเข้าไป
"คิดจะทำอะไร"
กริดที่มีประสบการณ์ต่อสู้โชกชน อาวุธขว้างประเภทนี้จึงไม่เป็นปัญหา… ชายหนุ่มหมุนตัวพร้อมกับใช้คมดาบปัดลูกดอกทั้งหมดให้กระเด็นออกไป… ระหว่างนี้กริดก็รู้สึกได้ว่าน้ำหนักของลูกดอกจากสนิฟเฟอร์ไม่ธรรมดา
'เล่นสายอาวุธขว้างงั้นหรอ'
ถึงจะเป็นคลาสนักลอบสังหารเหมือนกัน แต่ก็จะมีความถนัดและสายการเล่นที่แตกต่างออกไป… บางคนอาจชำนาญพรางตัว ส่วนอีกคนอาจว่องไว… บ้างก็เชี่ยญชาญกับดัก และมีบางส่วนที่เชี่ยวชาญอาวุธขว้าง… ในสถานการณ์3รุม1 สนิฟเฟอร์จึงมีโอกาสทำตัวเป็นสไนเปอร์คอยลอบโจมตี… กริดมองว่าหมอนี่คือตัวน่ารำคาญอันดับ1… ดาบใหญ่สีดำในมือจึงพลันฟาดใส่สนิฟเฟอร์เข้าไปในแนวนอนทันที
"ฮึบ!"
สนิฟเฟอร์เอี้ยวตัวหลบไปด้านหลังอย่างฉิวเฉียด พร้อมกันนั้นมันก็ลอบซัดลูกดอกชุดใหม่เข้ามาในท่ายาก… ขณะที่กริดกำลังพุ่งเป้าอยู่กับสนิฟเฟอร์… เคิร์บจึงฉวยโอกาสนี้ลอบเข้าข้างหลังกริดและฟันมีดสั้นคู่ในมือออกไป… เป็นเวลาเดียวกันกับที่เชย์วิ่งไต่ขึ้นผนังและกระโดดโจมตีใส่กริดลงมาจากด้านบน
การโจมตีประสานอันสมบูรณ์แบบ
'เสร็จล่ะ!'
เชย์ เคิร์บ และสนิฟเฟอร์ ต่างคิดว่าพวกตนคงได้รับชัยชนะแน่แล้ว… ทว่ากริดกลับอยู่เหนือจินตนาการของพวกมันไปอีกขั้น
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
"......"
เป็นภาพที่บ้าบอสิ้นดี… แผ่นจานสีทองอร่าม1ใบปรากฏขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและบล็อคลูกดอกสนิฟเฟอร์ไว้ทั้งหมด… หลังจากนั้นก็บินขึ้นไปปัดป้องการโจมตีจากเชย์ที่ด้านบน… ส่วนจานอีกแผ่นก็พุ่งไปรับมีดของเคิร์บไว้ได้จากด้านหลัง
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"
ทำไมแผ่นจานพวกนี้ถึงพุ่งมาบล็อคการโจมตีของพวกเขา… ในขณะที่กลุ่มนักลอบสังหารกำลังอยู่ในอาการสับสน… กริดก็ฉกฉวยโอกาสนี้ตั้งท่าวิชาดาบ
"วิชาดาบแพ็กม่า… คลื่น!"
เปรี้ยงงง!!
ปราณดาบสีดำพวยพุุ่งออกจากดาอินสเลฟเข้าใส่พวกมันทั้งสามในพริบตา… ภายในถ้ำอันคับแคบพลันเกิดเสียงอึกทึกทันทีที่ร่างนักลอบสังหารกระเด็นไปติดผนัง
"แค่ก… แค่ก! บ้าจริง! นี่มันเกิดอะไรขึ้น… ทำไมนายถึงใช้ทักษะได้"
นักลอบสังหารจะมีทักษะติดตัวที่มีโอกาสยกเลิกความเสียหายที่ได้รับทั้งหมด… อัตราการแสดงผลอยู่ในเปอร์เซ็นต์ต่ำ… แต่ทักษะนี้ก็ถูกผนึกไว้โดยพลังของแมรี่โรส… พวกมันจึงไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อเห็นกริดสามารถใช้ทักษะได้
"ในโลกนี้... มีดวงดาวที่เจิดจรัสอยู่นับไม่ถ้วนไม่ใช่รึไง"
กริดพูดไปพลาง เข้าโจมตีใส่พวกมันไปพลาง… ท่าทีอันลนลานและตื่นกลัวมาพร้อมกับการตั้งท่าป้องกันอย่างลวกๆ
"อั่ก! บ้าฉิบ!"
ความเร็วของเชย์ตกลงไปอย่างมาก เนื่องจากถูกผลข้างเคียงของ <คลื่น> เข้าไป
เคร้ง! เคร้ง!
กริดหาวเล็กน้อยพร้อมกับใช้ดาบปัดป้องการโจมตีสวนกลับของเชย์ด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายสุดขีด
"แกนะแก!!"
ผู้เล่นท็อป1,000ทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีในตนเอง
"ย๊ากกกก!"
ฉัวะ...!
กริดเบี่ยงตัวหลบดาบของเชย์ พร้อมกับซัดดาอินสเลฟเข้าใส่เคิร์บที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง
ร่างของเคิร์บถูกตัดขาดเป็น2ท่อนในพริบตา
"ไอ้ปีศาจ!"
สนิฟเฟอร์ไม่ตลกอีกต่อไป… มันซัดลูกดอกทั้งหมดที่มีออกไปอย่างลนลาน… แต่ก็ล้วนไร้ค่า… ไม่มีนัดไหนที่แผ่นจานสีทองปัดป้องไม่ได้… แม้แต่ชายผ้าคลุมก็ยังมิอาจสัมผัส
"เป็นอย่างที่คิด… พวกนายเทียบไม่ได้แม้แต่เสี้ยวขี้เล็บของเฟคเกอร์เลยสักนิด"
ฉึบ! ฉึบ!
การโจมตีของกริดได้ประทับลงบนร่างของทั้งเชย์และสนิฟเฟอร์ในเวลาไม่ห่างกันมาก… พวกมันค่อยๆ กลายเป็นแสงสีเทาในที่สุด… เมื่อมีตัวเปรียบเทียบ กริดจึงรู้ได้ในทันทีว่าเฟคเกอร์แข็งแกร่งขนาดไหน… หลังจากนั้นชายหนุ่มก็หันไปมองตงเพาที่อยู่ไม่ไกล
"น--นี่มัน..."
ไล่สังหารอยู่ฝ่ายเดียว… กริดซึ่งใช้ทักษะออกมาเพียง1ครั้งเท่านั้น… แต่ก็มากพอจะล้มนักลอบสังหารแร้งเกอร์อันดับต้นๆ ของโลกได้ถึง3คนพร้อมกัน
'ได้ยังไง'
ตงเพาเหลือบไปมองเลเวลกริดอีกครั้งเพราะทั้งสองยังคงอยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน
150… เลเวลของกริดคือ150เท่านั้น… เดิมทีเขามีเลเวล147 แต่จากครึ่งวันที่ผ่านมา การล่ามอนสเตอร์ทำให้กริดเลเวลอัพขึ้นมา3เลเวล… ใช่แล้ว ผู้เล่นที่มีเลเวลเพียง150 กลับสามารถสังหารเชย์ผู้มีเลเวล200 และเคิร์บกับสนิฟเฟอร์ที่มีเลเวล180ลงได้
'เป็นเพราะคลาสลับงั้นหรอ...'
คิวต่อไปคงเป็นมัน… ตงเพาผู้ที่พยายามสูบเงินจากกริด
"อ--อึก...!"
ไม่มีใครอยากพบกับความตาย… ไม่มีใครต้องการเสียค่าประสบการณ์… แต่เหนือสิ่งอื่นใด… ไอเท็มดรอป! ตงเพาอยากจะเลี่ยงความตายให้ได้มากที่สุด… แม้กระทั่งต้องเลียรองเท้ากริดก็ยอม
"ว--ไว้ชีวิตฉันด้วย! น้องชาย!"
ตงเพาก้มลงกราบแทบเท้า… กริดเดินเข้าไปใกล้และนั่งยองลงกระซิบข้างหู
"เคยมีคนร้องขอชีวิตจากนายด้วยความรู้สึกแบบนี้มากี่คนแล้ว"
"..."
ตงเพาไม่เคยนับมาก่อน… เมื่อลองย้อนนึกดู ในที่สุดตงเพาก็สำนึกได้ถึงความสิ้นหวังสุดขีด ตนที่เคยมอบให้ผู้คนมานับไม่ถ้วน
"ฉันขอโทษ! ฉันเสียใจจริงๆ… ฉันมันเลว! น้องชาย… ฉันสัญญาว่าจะไม่เรียกค่าไถ่คนอื่นอีกแล้ว! ฉันจะไม่ทำชั่วอีก… ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย"
"หืม… นายจะเรียกค่าไถ่ต่อไปยังไงก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย"
"แต่เมื่อครู่น้องชายถามว่า ฉันทำไปทั้งหมดกี่ครั้งแล้ว"
"ก็แค่สงสัยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก… ก่อนหน้านี้ฉันเคยรู้สึกขอบคุณนายจากใจจริง… ครึ่งค่อนวันที่ผ่านมา นายถือเป็นฮีลเลอร์ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง… ฉันคิดจะแบ่งไอเท็มแบบหารสอง… แต่นายก็หมดสิทธิ์นั้นไปแล้ว… ถูกไหม"
ตงเพาพยักหน้า "ช--ใช่แล้ว! น้องชายพูดถูกต้อง! ฉันคือไอ้ขยะที่พยายามหลอกนายเพื่อเอาเงิน… ดังนั้นน้องชายไม่ต้องแบ่งไอเท็มให้ฉันก็ได้… แต่ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้--"
ตงเพาร้องขอชีวิตจนวินาทีสุดท้าย… แต่มันก็หนีความตายไม่พ้น
ฉึก!
"อ--อั่ก!!"
ใบหน้าตงเพาขาวซีดในบันดลราวกับเสียเลือดจำนวนมาก... หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของมันก็แห้งกรังราวกับมัมมี่… แต่คนลงมือคราวนี้ไม่ใช่กริด
"อย่าบอกนะว่าเธอ..."
กริดกำลังยืนกอดอกอย่างสงสัย… หญิงสาวปริศนาได้โผล่ขึ้นมาด้านหลังตงเพาและสูดเลือดมันไปจนหมด
"ยินดีที่ได้พบกันนะ"
หญิงสาวปริศนาเผยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยคราบเลือด… ทันทีที่กริดสบตาเข้ากับดวงตาสีแดงก่ำคู่นั้น ข้อความระบบจำนวนมากก็แสดงขึ้น
[ ท่านเผชิญหน้ากับ <แวม์ไพรเค้าท์เตส แมรี่โรส> ]
[ พลังอันชั่วร้ายของ <แมรี่โรส> ส่งผลให้พลังเวทย์ของท่านปั่นป่วน… ท่านจะไม่สามารถใช้ทักษะและเวทย์มนต์ได้ ]
[ ท่านต้านทานต่ออาการผิดปรกติ ]
[ แววตาของแวมไพร์จะสะกดข่มสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่า… ท่านจะสูญเสียพลังใจและการควบคุมร่างกายตนเอง ]
[ ท่านต้านทานต่ออาการผิดปรกติ ]
[ เสน่ห์ดึงดูดของ <แมรี่โรส> ถือเป็นที่สุด… สามารถดึงดูดได้แม้กระทั่งผู้ที่มีความอดกลั้นสูงจากทั้งสองเพศ ]
[ ท่านต้านทานต่ออาการผิดปรกติ ]
กริดพยายามรักษาระห่างกับแมรี่โรสให้มากที่สุด… หลังจากนั้นสักพักเขาก็พูดขึ้น
"ทั้งที่ผนึกยังไม่ถูกคลาย… ทำไมเธอถึงตื่นจากการหลับไหลกว่าร้อยปีได้… พวกเราเสียงดังเกินไปงั้นหรือ"
แมรี่โรสชี้นิ้วไปยังชายผ้าคลุมมาลาคัส
"กลิ่นคาวเลือด… ของผู้คนนับพัน… ไม่สิ... นับหมื่น… แผ่ออกมาจากผ้าคลุมที่นายสวม… สิ่งนี้มากพอจะทำให้ฉันตื่นขึ้นมาได้หรือเปล่า"
มาลาคัส นักบวชระดับสูงของวิหารยาธาน… ได้บูชายันสาวพรมจรรย์ทั้งเป็นตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา… กลิ่นคาวเลือดสาวพรมจรรย์จึงยังติดอยู่กับผ้าคลุมและปลุกแวมไพร์ตนนี้เข้า
"แต่นายจะไม่แปลกไปหน่อยหรอ… ทั้งที่ไม่ได้มีพลังเทวะแบบบุตรีแห่งรีเบคก้า… ไม่ได้มีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งเหมือนบราฮัม… แต่ทั้งจิตสังหารและแววตาของฉันมิอาจสะกดนายได้… แปลกจังเลยน้า~"
แมรี่โรสนั้นมีรูปลักษณ์ของหญิงสาวอายุ20ต้นๆ… หากเสน่ห์ของจิสึกะอยู่ที่ความเซ็กซี่เย้ายวน… และของยูร่าอยู่ที่ความปราณีตงดงาม… แต่แมรี่โรสเหนือกว่านั้นมาก… ความงามของเธอสมบูรณ์แบบเหนือคำบรรยาย… เป็นใบหน้าที่ไม่ควรจะมีจริงในโลกใบนี้
ทว่ามันสมบูรณ์แบบเกินไป… สมบูรณ์แบบจนกริดแทบไม่รู้สึกอะไรกับหล่อนเลย… เขาไม่ถูกรบกวนจิตใจเลยสักนิด จึงยังรักษามาดสุขุมเยือกเย็นไว้ได้
"ความแปลกมันก็น่าค้นหาดีใช่ไหมล่ะ… ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไว้ชีวิตฉันได้รึเปล่า… ในฐานะที่เป็นคนปลุกเธอให้ตื่นจากผนึก… ถือว่าฉันขอแล้วกัน"
แมรี่โรสนั้นมีเวทย์ที่สร้างอาการผิดปรกติได้รุนแรงมาก… ยังรวมไปถึงความสามารถในการควบคุมร่ายกายเป้าหมายได้อีก… ถ้าหากทักษะเหล่านี้ส่งผลเป็นวงกว้าง… รับรองได้เลยว่าไม่มีใครต่อกรกับเธอได้แน่… ต่อให้ผู้เล่นอันดับ1ถึง200ของโลกร่วมมือกัน… แต่แร้งเกอร์เหล่านั้นก็ไม่มีทางเอาชนะแมรี่โรสได้
จึงไม่แปลกที่กริดจะรู้สึกกลัว… แต่นั่นก็ถูกใจแมรี่โรสอยู่ไม่น้อย
"น่ารักดีนี่… ฮิฮิ… ไว้เจอกันนะสุดหล่อ"
ซ่าา!
เรือนร่างอันงดงามของแมรี่โรสกลายเป็นเพียงเศษละอองสีดำที่ถูกสายลมพัดพาไป… หลังจากนั้น กริดผู้ที่กลัวว่าแมรี่โรสจะกลับมาอีก จึงตัดสินใจถอดผ้าคลุมมาลาคัสออก… แต่ในขณะที่กำลังจะมุ่งหน้าไปวาติกัน เขาก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นไอเท็มดรอปอยู่บนพื้น
"ครั้งนี้ก็ไม่ได้แย่เท่าไร"
กลุ่มนักลอบสังหารและตงเพาได้ดรอปไอเท็มบางชิ้นหลังจากที่ตายไป… กริดพลันลืมแมรี่โรสในบันดัล เขาเดินก้มไปหยิบไอเท็มเหล่านั้นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี
เดี๋ยวๆ เห็นไอเทมละดันลืมเรื่องใหญ่เลยเรอะ
ReplyDeleteเดี่ยวมีข่าวจอมเชือดปล่อยตัวอันตรายสู่เซิฟเวอร์แหงมๆ โดนล่าทั้งเกมชัวร์
ReplyDeleteหรือไม่ก็อาจได้แมรี่โรสมาเข้าร่วม555
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDeleteความรู้สึกแรกที่อ่านจบ 555555+
ReplyDeleteได้แตตัวแปลกๆแถมระดับสูงทั้งนั้นเลยมาเข้าข้างในอนาคตคงได้ใช่งานซักคนบ้างละ
ReplyDelete