จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 115
ณ จุดล่ามอนสเตอร์เลเวล100… ไม่ไกลจากวินสตันมากนัก
"เอ๋… นั่นอะไร"
ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังติดพันมอนสเตอร์อยู่… พลันเหลือบไปเห็นจุดดำบนท้องฟ้าที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้… หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มสนทนากัน
"ใหญ่เกินกว่าจะเป็นนก… หรือว่ากริฟฟอน"
"แถวนี้ไม่มีรังกริฟฟอนสักหน่อย… แต่ฉันก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ออกเหมือนกัน... ถ้าเป็นกริฟฟอนจริง… พวกเราลำบากแน่"
"หืม… คน… ผู้เล่น!"
จุดดำเริ่มเข้ามาใกล้... ซึ่งเป็นที่น่าประหลาดใจมาก... เพราะตัวตนของมันคือผู้เล่นด้วยกันเอง
"ว้าว… จอมเวทย์ระดับ2"
"เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นแร้งเกอร์ระยะใกล้แบบนี้… เท่โคตร!"
"สิ่งที่ส่องแสงสีทองอยู่รอบตัวเขาคืออะไร… สัตว์เลี้ยงงั้นหรอ"
ฟิ้ววววว!
ชายผ้าคลุมแดงกำลังบินพาดผ่านท้องฟ้า… โดยมีวัตถุชนิดหนึ่งที่เจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ตามไปไม่ห่าง… ชื่อตัวละครเขียนเหนือศีรษะว่า 'กริด'… ชายคนนี้บินเร็วมากเสียจนผู้คนยังไม่ทันจะได้ชื่นชม… พริบตาเดียวก็หายลับไปเสียแล้ว
ในที่สุดเขาก็ร่อนลงในผืนป่าอันกว้างใหญ่
'มานาหมดจนได้'
เขาดื่มโพชั่นมานาเข้าไปแล้วขวดหนึ่ง… แต่มานากลับหมดอีกรอบโดยที่ระยะหน่วงของโพชั่นยังมาไม่ถึง… กริดจำใจต้องเดินเท้าไปก่อน
"วินสตันอยู่ไม่ไกลนี่แล้ว… เราสามารถเดินไปพลาง ฟื้นฟูมานาไปพลางได้"
มันเป็นป่าที่ลึกมากทีเดียว
กริดคำนวนระยะทางคร่าวๆ ระหว่างจุดนี้กับวินสตัน… หลังจากนั้นก็จ้องมองหมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งในมือ... ถัดจากป่านี้ไป จะต้องมีผู้เล่นรวมตัวกันอยู่มากแน่… หมวกกระโหลกที่เป็นสัญลักษณ์ของ 'จอมเชือด' มีแต่จะทำให้ผู้คนแตกตื่นเสียมากกว่า
"ต้องหาหมวกใบใหม่มาใส่แทนเร็วๆ ซะแล้ว"
เป็นอีกครั้งที่กริดสาบานกับตัวเองว่าจะหาหมวกที่ดูเท่ห์เหมือนกับวีรบุรุษมาสวม
ยามนี้พาเฟรเนี่ยมกำลังบินวนเวียนอยู่รอบศีรษะชายหนุ่ม… ดูเหมือนมันจะอารมณ์ดีไม่น้อย
"แกตื่นเต้นสินะ ที่ได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกในรอบ300ปีหลังจากถูกขัง"
กริดถามไปพลาง เดินไปพลาง… แต่พาเฟรเนี่ยมก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา… ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว… แม้มันจะมีสตินึกคิดของตนเอง... ทว่ามันก็เป็นเพียงโลหะชนิดหนึ่ง ไม่สามารถสื่อสารอะไรกลับมาได้แน่นอน
กริดยังคงพูดต่อไป
"แต่ยอดเลยนะ… ความเร็วของแก… ฉันบินเร็วประมาน100เมตรต่อ7วินาที… ถึงอย่างนั้นแกก็ยังไล่ทันโดยไม่มีทีท่าจะเหน็ดเหนื่อย"
กริดจ้องมองพาเฟรเนี่ยมอย่างเอ็นดู… เป็นธรรมดาที่ช่างตีเหล็กจะเอ็นดูโลหะที่ดีที่สุดในโลก
"โฮกกก!"
"จงมอบมาให้ฉันซะ! ไอ้มนุษย์! ชีวิตของแก! กระดูกและเนื้อหนังของแก! ฉันจะฉีกเป็นชิ้นๆ!"
กริดผู้ซึ่งกำลังคุยกับพาเฟรเนี่ยมอย่างออกรส(?) แต่กลับต้องถูกขัดจังหวะโดยออร์คกล้ามโต… พวกมันสวมเกราะหนังหยาบสีแดง… แถมยังมีหมาป่าตัวใหญ่ตามมาไม่ห่าง… ดูจากการที่มันพูดภาษาคนได้ค่อนข้างดี… พวกมันจะต้องเป็นออร์คเขี้ยวหมาป่าแน่นอน… ออร์คเผ่าพันธุ์หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งมากในบรรดาหลากหลายชนิด
กรรรรร!
หมาป่าทำทีฟุดฟิดจมูก… จะต้องเป็นกลิ่นคาวเลือดจากผ้าคลุมมาลาคัสแน่นอน… มันคงดมเจอกลิ่นเลือด จึงนำทางพวกออร์คมาที่นี่
และไม่ได้มีแค่นี้...
กิ๊กิ๊! โฮกกก!
ซู่ววว!
มอนสเตอร์หลากหลายชนิด เช่นยักษ์… กอบลิน… และงู… ทั้งหมดต่างมารวมตัวกันที่จุดนี้… เพียงพริบตาเดียว กริดก็โดนมอนสเตอร์ล้อมไว้ร้อยกว่าตัว
"โว้ว… นี่มันหมายความว่ายังไง"
ผู้เล่นที่กำลังออกล่าอยู่ใกล้ๆ พลันต้องแปลกใจกับความโกลาหลที่เกิดขึ้น… หลายคนต่างวิ่งเข้ามาดูใกล้ๆ… เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่เคยเห็นมอนสเตอร์หลากหลายชนิดกำลังรุมล้อมผู้เล่นคนเดียวไว้
"เขาแย่แน่"
"ชายคนนั้นทำอะไรผิดงั้นหรอ… ทำไมมอนสเตอร์ต้องมารุมขนาดนี้ด้วย"
"จุ๊จุ๊~ เขาคงล่อมันออกมาเองนั่นแหละ~ เป็นวิธีการล่าตามปกติของพวกแร้งเกอร์ละมั้ง"
กลุ่มผู้คนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่… ต่างทำได้เพียงคาดเดาด้วยเหตุผลของตนเอง
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
กอบลินธนูด้านหลังฉวยโอกาสลอบยิงใส่กริด… เมื่อกลุ่มไทยมุงเห็นห่าฝนลูกธนูสีดำปกคลุมไปทั่วผืนป่า… พวกเขาต่างก็คิดว่า กริดคงไม่รอดแล้วแน่… แต่กริดนั้นมีค่าพลังสูงเทียบเท่าผู้เล่นคลาสต่อสู้เลเวล200… แถมเขายังเคยเห็นจิสึกะใช้ทักษะธนูต่างๆ มามาก… ดังนั้นการลอบโจมตีของกอบลินธนูเหล่านี้จึงไม่ต่างอะไรกับเด็กเล่นซน
"มีใครที่กระจอกถึงขนาดเสียท่าให้ธนูงี่เง่าพรรค์นี้ด้วยหรอ"
กริดแสยะยิ้มพร้อมกับชักมีดสั้นอุดมคติออกมายิงลมเฉือนใส่ห่าฝนธนู
ฟิ้ววว!
หลังจากสังหารผู้พิทักษ์วงกตได้จนมีเลเวล114… ทั้ง8เลเวลที่เพิ่มมา กริดนำแต้มสถานะไปอัพพละกำลังทั้งหมด… ทักษะลมเฉือนนั้นมีความรุนแรงขึ้นอยู่กับพลังโจมตี… ทำให้กอบลินธนูเลเวล100มิอาจต้านทานความรุนแรงนี้ได้
"กิ๊!"
"กิกิ๊!"
ห่าฝนธนูถูกลมเฉือนพัดผ่านจนสลายไป… กอบลินธนูที่ถูกโจมตีถึงกับแขนขาขาดและร้องออกมาอย่างโหยหวน… พลันเป็นสัญญานเริ่มโจมตีของมอนสเตอร์ทั้งหมดที่เหลือ… พวกมันกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มพร้อมกันอย่างไม่คิดชีวิต
"เป็นผ้าคลุมที่คุ้มค่าซะจริง!"
สามารถเพิ่มความเร็วในการล่าได้ถึงขีดสุด!
กริดหยิบดาอินสเลฟออกมาถือและซดโพชั่นมานา… กระบวนดาบคลื่นถูกใช้ออกไปทั่วทั้งบริเวณ… มอนสเตอร์ที่อยู่ระยะประชิดพลันสลายไปในทันที… ส่วนพวกยักษ์ที่มีความอึดมากหน่อยก็ร่อแร่ปางตาย… แถมยังโดนทำให้ติดอาการเชื่องช้า… ไม่มีทางที่จะเข้ามาทำร้ายกริดได้แน่นอน
ฉึก! ฉับ!
"กี๊!"
ฉัวะ!
"โฮกกก!"
กระบวนดาบคลื่นได้สังหารมอนสเตอร์ไปเกือบทั้งหมด… แต่ที่ส่วนเหลือ กริดก็ยังต้องไล่ฆ่าทีละตัว… ในขณะเดียวกัน กอบลินธนูที่ยังไม่ตาย ได้ฝืนยิงธนูออกมาด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี… จนกระทั่งมีบางศรดอกที่กริดหลบไม่พ้น
"ชิ!"
เขาที่ตั้งสมาธิอยู่กับไล่เก็บกวาด จึงไม่ทันระวังตัวมากนัก… เขาเตรียมเกร็งตัวรับอาการบาดเจ็บไว้แล้ว… ทว่าลูกธนูกลุ่มนั้นกลับเข้ามาไม่ถึงตัว
เคร้ง! เคร้ง!
พาเฟรเนี่ยมหมุนวนรอบตัวกริดพร้อมกับทำลายศรทั้งหมดทิ้ง
"ว้าว..."
เป็นเรื่องปรกติรึเปล่านะ… ที่จะมีคลาสใดเชี่ยวชาญทั้งการป้องกันและโจมตีควบคู่กันไปได้… นักดาบที่กำลังถือดาบยักษ์สีดำในมือผู้นี้… ได้ไล่ล่าสังหารมอนสเตอร์ด้วยพลังโจมตีเหนือพรรณนา… ในขณะเดียวกันก็มีสัตว์เลี้ยงโลหะคอยหมุนวนปกป้องการโจมตีอยู่รอบกาย
ช่างไม่ขี้โกงเลยสักนิดเดียว...
"โห! ยอดไปเลย… เอ่อ… ขอโทษนะ แต่ไม่ทราบว่าคุณคือคลาสอะไรงั้นหรอ"
กริดจัดการมอนสเตอร์ส่วนที่เหลือจนหมดด้วยความช่วยเหลือจากพาเฟรเนี่ยม… ยามนี้คือเวลาเก็บไอเท็ม… กลุ่มผู้เล่นที่มุงดูอยู่จึงถือโอกาสเดินเข้ามาคุยด้วย
"วัตถุสีทองที่บินวนอยู่รอบๆ นั่นคืออะไร… ใช่สัตว์เลี้ยงรึเปล่า… หรือเป็นเกราะเลเวลสูง"
"คุณคือแร้งเกอร์ใช่ไหม… ทำไมแร้งเกอร์ถึงมาเก็บเลเวลในแมพนี้ล่ะ… มีอะไรดีๆ ดรอปงั้นหรอ"
"คุณครับ..."
"นี่คุณหูหนวกหรอ… ตอบพวกเราบ้างสิ"
คนพวกนี้ทำเป็นเมินเฉยในตอนที่กริดถูกรุม… แถมกริดยิ่งไม่ชอบสุงสิงกับผู้คนอยู่แล้วด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเสวนากับผู้เล่นกลุ่มนี้
"น่ารำคาญจัง… บิน!"
กริดบ่นเล็กน้อยพร้อมกับบินหายขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความรวดเร็ว
"..."
กลุ่มผู้เล่นที่ถูกทิ้งไว้พลันต้องสับสนทันที… หลังจากนั้นไม่นาน… เวบบอร์ดทั่วโลกต่างปรากฏกระทู้ที่น่าสนใจขึ้น
< ฉันเห็นนักดาบบินได้ >
สถานที่แห่งนั้นมีชื่อว่า 'ป่าโปโป้' ซึ่งอยู่ใกล้กับวินสตัน… ในขณะที่ฉันกำลังออกล่ากับเพื่อนอยู่ดีๆ… ก็ได้เห็นแร้งเกอร์คนหนึ่งไล่ฆ่ามอนสเตอร์เป็นฝูง… พอจัดการเสร็จทั้งหมด เขาก็บินหายขึ้นท้องฟ้าไปเลย… นักดาบบินได้ด้วยงั้นหรอ
RnfkRk >> ㅋㅋㅋㅋㅋㅋ นักดาบบินไม่ได้หรอกนะ ㅋㅋㅋㅋㅋ
Durururubam >> นักดาบบินได้งั้นหรอ… ทั้งที่ฉันเป็นนักบวชแท้ๆ… แต่กลับยังใช้ทักษะฮีลไม่ได้ด้วยซ้ำ ㅂㅅ
หัตถ์ขวามังกรดำ >> หุหุ… นักดาบคนนั้นคือฉันเองแหละ… ฉันว่าฉันระวังตัวดีแล้วนะ ไม่คิดว่าจะมีคนมาเห็นเข้าได้… ว้าแย่จัง!
Zkxhfm >> ไอ้พวกขี้โม้เอ้ย
Admiral >> แม่ของพวกนายกินซุปสาหร่ายทุกวันตอนท้องรึเปล่า
เงินเดือน30,000วอน >> อย่ากุเรื่องขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจสิ
...
เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก... ทันทีที่ผู้เห็นเหตุการณ์โพสเรื่องนักดาบบินได้ลงไป… เขากลับต้องถูกต่อว่าจากผู้คนจำนวนมากทันที… ดังนั้นคนอื่นๆ ที่เป็นผู้ร่วมเห็นเหตุการณ์ จึงไม่มีใครที่กล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก… ทำให้หัวข้อสนทนาในอินเทอเน็ตมีขึ้นเพียงครู่เดียวและหายสาปสูญไป
ในเวลาเดียวกัน… เมื่อกริดกลับมาถึงโรงตีเหล็กข่าน เขาก็รีบเดินตรงไปยังเตาหลอมทันที… พาเฟรเนี่ยมถูกใส่ลงไปในเตาและค่อยๆ เร่งอุณหภูมิขึ้นทีละนิด… กริดต้องการจะรู้ว่าจุดเดือดของมันอยู่ที่เท่าใดกันแน่
"1,900องศา"
พาเฟรเนี่ยมที่มีขนาดเล็กพลันละลายทันทีที่ความร้อนถึงกำหนด
"จนกว่าจะสร้างภาชนะดวงจิตสำเร็จ… เราไม่อยากพกมันไปไหนมาไหนด้วยรูปทรงที่เหมือนกับไข่ไก่แบบนี้… คงต้องเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปก่อน"
แต่ปริมาตรของมันมีน้อยเกินกว่าจะใช้สร้างไอเท็ม… แม้กระทั่งมีดสั้นยังทำไม่ได้เลย… หากต้องการจะใช้เป็นไอเท็มจริง กริดจำเป็นต้องหลอมมันเข้ากับโลหะชนิดอื่น… ทว่านั่นก็จะทำให้สูญเสียความบริสุทธิ์ของพาเฟรเนี่ยมไป
"แค่เปลี่ยนรูปร่างก็พอแล้ว"
หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กับพาเฟรเนี่ยมมาได้สักพัก… เขาก็จับทางได้ว่า มันจะคอยอยู่ข้างกายเจ้านายเพื่อทำหน้าที่ปกป้อง… กริดจะต้องนำจุดนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์
"รูปร่างที่เหมาะสมในการปกป้อง… มากกว่าไข่ไก่… นั่นไง!"
กริดย้อนนึกถึงบาเรียสีดำของมาลาคัส
"มาลาคัสสร้างบาเรียสีดำทรงแผ่นจานขึ้นด้วยพลังเวทย์… และจะใช้เพื่อป้องกันในจุดที่โดนโจมตีเท่านั้น… เป็นทักษะป้องกันที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว"
เคร้ง! เคร้ง!
กริดบรรจงลงน้ำหนักค้อนอย่างระมัดระวัง… หลังจากนั้นไม่นาน… พาเฟรเนี่ยมไข่ไก่ก็กลายเป็นแผ่นจาน2ใบ… แต่ละใบมีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือของผู้ใหญ่ไม่มาก
"นี่แหละ"
เมื่อเสร็จเรียบร้อย… แผ่นจานสีทองก็ลอยขึ้นบนอากาศหมุนรอบตัวกริดอีกครั้ง… เขาพลันรู้สึกโล่งใจ… ดูเหมือนแผ่นจานทั้งสองนี้จะสามารถปกป้องการโจมตีได้ทุกชนิด
จิสึกะที่เปิดประตูโรงตีเหล็กเข้ามาพอดีจึงถูกใช้เป็นคู่ซ้อม
"ยิงธนูใส่ฉัน"
"หือ..."
"เร็วเข้า"
"หืม… ตกลง"
เมื่อจิสึกะเห็นแผ่นจานสีทอง2ใบกำลังหมุนรอบตัวกริด เธอก็เข้าใจเจตนาได้ทันที… คันธนูถูกง้างออกโดยไม่ลังเล
ฟุ่บ!
เคร้งงง!
เป็นภาพที่งดงามมาก… แผ่นจาน2ใบรีบพุ่งมาขวางลูกธนูเอาไว้ได้อย่างชะงักงัน
"สุดยอด..."
สีหน้าของจิสึกะไม่ค่อยสู้ดีนัก… ถึงปากจะพูดชมอยู่ก็เถอะ… แต่เธอก็มีศักดิ์ศรีของเทพีแห่งคันศรอยู่เหมือนกัน
"ป้องกันได้ง่ายๆ เลยหรอ… ฉันยิงเบาไปรึเปล่านะ"
"เฮ้! เดี๋ยวก่อน!!"
กริดถึงกับผงะ… แต่จิสึกะไม่รีรอให้กริดอนุญาต คราวนี้เธอง้างคันธนูไปด้านหลังจนสุดแรง
ฟรุ่ววว!
"ว๊ากก!"
ลูกธนูอันดุดันที่หมายจะคร่าชีวิตของกริดได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
และครั้งนี้...
แคร้ง~~~!
"...ห๋า"
ทั้งกริดและจิสึกะร้องออกมาพร้อมกัน… ทางฝั่งจิสึกะยิ้มเจื่อนอย่างไม่ปลื้มใจ… ส่วนกริดกำลังกระโดดโลดเต้น
"ศรดอกนี้เสียบทะลุแม้กระทั่งเหล็กกล้า… จานสองแผ่นนี้จะไม่ทนทานเกินไปหน่อยหรอ… เป็นอย่างที่บราฮัมบอกจริงๆ… มันคือโลหะที่ดีที่สุดของโลก"
ถูกต้อง… แผ่นจานสีทองบล็อคการโจมตีของลูกธนูจิสึกะได้ก็จริง… แต่แรงปะทะนั้นรุนแรงมาก… ถึงกับทำให้ชายหนุ่มไม่อาจขยับตัวไป2วินาที
'แรงปะทะทำให้เราขยับตัวไม่ได้ถึง2วิ...'
ข้อเสียอีกอย่างคือ… ถ้าหากจิสึกะกระหน่ำโจมตีเข้ามาด้วยสายฝนธนู… แผ่นจานเล็กๆ เพียง2ใบคงไม่พอจะป้องกันได้หมดแน่… กริดเริ่มรู้สึกว่าเขาต้องรีบทำภารกิจนี้ให้เสร็จ เพื่อที่จะได้นำพาเฟรเนี่ยมที่เหลือมาสร้างของชิ้นใหญ่ขึ้น
'แต่ว่า… ด้วยขนาดเพียงแค่นี้… ต่อให้มีอีก27อันก็ไม่เพียงพอจะสร้างชุดเกราะได้… ช่างเถอะ… เดี๋ยวเราก็คงหาทางใช้งานมันได้อยู่ดี'
กริดเริ่มมีการปรับตัว… แทนที่จะฝืนใช้พาเฟรเนี่ยมทั้งหมดมาสร้างเป็นไอเท็ม1ชิ้นใหญ่… เขาสามารถทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้โดยการแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
'ตัวอย่างเช่น… หากตีพาเฟรเนี่ยมให้เป็นรูปทรงคมดาบแล้วนำไปติดไว้กับชุดเกราะ… คมดาบนั้นก็จะเคลื่อนไหวด้วยตัวเองเพื่อปกป้องเราจากการโจมตีที่หลบไม่ทัน'
ไอเท็มที่ขยับเองได้งั้นหรอ… ถ้าหากเขาสำเร็จภารกิจนี้และได้ครอบครองพาเฟรเนี่ยมที่เหลือ… ประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งซาทิสฟายจะต้องถูกจารึกไว้แน่… พลังแห่งไอเท็มคือทุกสิ่งในเกมนี้
ในขณะที่กริดกำลังเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจ… มีใครบางคนได้เคาะประตูโรงตีเหล็กจากด้านนอก
จิสึกะจึงหันมาถามกริด
"จานสีทอง2แผ่นนี้… ควรซ่อนไว้ก่อนดีไหม"
"แน่นอน… เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว"
"อืม"
กริดเก็บมันไว้ในกระเป๋าสัมภาระทันที… เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูโรงตีเหล็กถูกเปิดออก… อัศวินคนหนึ่งพร้อมด้วยทหารอีกนับสิบเดินเข้ามาด้านใน
ทั้งหมดต่างทำความเคารพกริดอย่างนอบน้อมพร้อมกล่าวว่า
"ท่านกริด… เอิร์ลสไตมอยากพบคุณ"
"เอิร์ลสไตม… พ่อของไอรีนน่ะหรือ"
"ครับ"
"อ้อ ได้สิ… ไปกันเถอะ"
ทำไมผู้นำแห่งดินแดนตอนเหนือ… หนึ่งในขุนนางทรงอิทธิพลของอาณาจักรอีเทอนัลถึงอยากพบกริด… แล้วเดี๋ยวก่อน… ทำไมอัศวินที่ควรจะมีท่าทีหยิ่งผยองเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เล่น… ถึงได้ทำความเคารพกริดอย่างนอบน้อมขนาดนั้น
จิสึกะทำได้เพียงมองอัศวินและทหารนำทางกริดออกไป… เธอพลันถามขึ้นอย่างสงสัย
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"
ดูเหมือนชุดเกราะของแวนท์เนอร์คงต้องเลื่อนออกไปก่อนเสียแล้ว
ว้าวๆ ....พระเอกของเราเติมทรูแล้ว
ReplyDeleteสนุกมากมายครับ
ReplyDelete