จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 114
กริดที่กำลังยืนตกตะลึงอยู่กับโลหะเหลวสีทองตรงหน้า… ในเวลาเดียวกันก็มีร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นจากกลุ่มหมอกควันสีขาวที่อยู่บนกล่อง…
จิสึกะที่รู้ตัวเป็นคนแรกพลันง้างธนูยิงด้วยความฉับไว
ฟุ่บ!
นับตั้งแต่ที่ง้างและยิ่งออกไป เธอใช้เวลาไม่ถึง1วินาทีด้วยซ้ำ… คนแปลกหน้าผู้นี้จะรับมือกับการโจมตีที่รวดเร็วปานสายฟ้าแล่บนี้ยังไงกันนะ
พรึ่บ!
"เอ๋..."
"เฮ้ย!"
จิสึกะและแวนท์เนอร์ต่างพากันตกตะลึง... เงาปริศนาดังกล่าวเพียงเหยียดนิ้วออกมาด้านเล็กน้อย... ศรของนักธนูอันดับ1ผู้นี้ก็ถูกเผาเป็นเพียงเศษขี้เถ้าได้อย่างง่ายดาย
[ ผ่านเพียงไป 300 ปี… แต่โลกนี้กลับไม่ต้อนรับฉันแล้วงั้นหรือ… ช่างน่าเศร้า ]
เงาลึกลับดังกล่าวมีผมยาวสลวย… หน้าตาหล่อเหลา… ดวงตาที่หลบอยู่หลังผมปรกหน้ามีความคมกริบ… เขาชำเลืองมองแวนท์เนอร์และจิสึกะเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันมาจ้องกริดอย่างสนใจ
'แข็งแกร่ง… อย่างต่ำก็ระดับเดียวกับมาลาคัส'
เขาสามารถสลายการโจมตีในพริบตาของจิสึกะได้… ทั้งแวนท์เนอร์และจิสึกะต่างรู้ดีกว่านี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ตนจะรับมือไหว… โชคยังดีที่เขาไม่สนใจจะทำร้ายคนทั้งสอง
แต่กริดนั้นต่างออกไป ชายหนุ่มกำลังโมโหอย่างเดือดดาลจากสาเหตุที่ต้องเกือบตาย
"ไอ้ระยำเอ้ย! ทำไมอยู่ดีๆ ถึงจ้องจะฆ่าฉัน!! แกคิดจะรับผิดชอบยังไงว่ามา... หือ... ว๊ากก!"
กริด ผู้ที่ชักดาบอินสเลฟออกมาถือในมือได้สักพักแล้ว… พล้นต้องผงะถอยหลังกลับไป เมื่อสังเกตเห็นว่าชายปริศนาคนดังกล่าวมีร่างกายโปร่งแสง… ฝ่าเท้าลอยอยู่บนอากาศ… เป็นลักษณะที่ตรงกับผีทุกประการ
"ผ--ผะ..."
ในตอนแรก… เขาคิดว่าคนที่ซ่อนอยู่ในกล่องคงจะมีความยืดหยุ่นร่างกายสูง… แต่กลับกลายเป็นผีซะได้
กริดเคยผ่านการรับใช้ชาติในฐานะทหารรั้วของประเทศมาแล้ว… ทว่าเขามีจุดอ่อนสำคัญอยู่ประการหนึ่ง… ใช่แล้ว ผีนั่นเอง… เพียงได้เห็นตัวเป็นๆ ก็อาจทำให้ฉี่ราดได้เลย… ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังมีใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ
ในขณะกริดกำลังผงะสุดขีด ผีตนนั้นก็พูดขึ้นว่า
[ นายสามารถรอดพ้นจากกับดักเวทย์มนต์… เปิดกล่องได้ทั้ง3ใบ… แถมพาเฟรเนี่ยมก็ยังพุ่งเข้ามาปกป้องอีก… หรือว่านายจะเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ]
"ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า… มันคืออะไร"
"ชู่ว! ดูเหมือนกริดจะได้รับภารกิจใหม่… เงียบก่อน อย่าเพิ่งไปขัด"
จิสึกะรีบถอยหลังออกไปชิดผนังถ้ำ… เธอพาแวนท์เนอร์ออกมาด้วยกัน… เมื่อได้เห็นผีตำนั้นเริ่มบทสนทนากับกริด ดวงตาพลันเปล่งประกายอย่างใคร่รู้สุดขีด
'เป็นโอกาสดี ที่จะได้รู้ว่ากริดคือคลาสอะไรกันแน่'
ส่วนอีกฝั่ง กริดที่กำลังกลัวผีขึ้นสมอง ก็กอบกู้สติกลับมาได้อีกครั้ง
'เขาพูดถึงผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า… หรือว่าภารกิจประจำคลาสของเราจะมีความคืบหน้าแล้ว'
กริดพยายามระงับความตื่นตระหนก... เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับไป
"ใช่… ฉันคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า… แล้วนายเป็นใคร"
ผีตนนั้นตอบกลับมาว่า
[ ผู้คนจะรู้จักฉันในนามสุดยอดจอมเวทย์บราฮัม… นายเข้ามาที่นี่เพื่อหาแร่ใช่ไหม… แต่ถ้าหากนายคือผู้สืบทอดที่แท้จริง ควรจะให้ความสนใจสถานที่แห่งนี้ตั้งนานมาแล้ว… ดูเหมือนนายจะไม่ค่อยใส่ใจกับแร่สักเท่าใดเลยนะ… ไม่เหมือนกับแพ็กม่า ]
จากที่กริดจับใจความได้ ผีตนนี้บอกว่าตัวเองคือสุดยอดจอมเวทย์บราฮัม… หากกริดเข้าใจไม่ผิด หมายความว่าวงกตโกเล็มแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าโดยเฉพาะ… กริดเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้หลงไหลในสถานที่แห่งนี้นัก… เพราะทุกที่คือแร่… ทุกหนทุกแห่งคือขุมทรัพย์ของช่างตีเหล็ก
'ถ้าเรารู้ว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่… ก็คงรีบมาตั้งนานแล้ว… แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะ'
มันไม่น่าขันไปหน่อยหรอ
"นายสร้างวงกตแห่งนี้เพื่อรอการมาถึงของฉันสินะ… แล้วถ้าหากชั่วชีวิตที่เหลืออยู่ ฉันไม่ได้ย่างกรายเข้ามาที่นี่เลยสักครั้งล่ะ"
[ ฉันสร้างสถานที่คล้ายแบบนี้ไว้ทั้งหมด28แห่งทั่วทั้งทวีป… ถึงจะช้าไปหน่อย แต่สักวันเราก็ต้องได้พบกันแน่… ความจริงฉันคาดหวังว่าจะเร็วกว่านี้นะ ]
"...แล้วนายอยากพบฉันไปทำไม"
บราฮัมชี้นิ้วไปยังโลหะสีทองที่ลอยอยู่หน้ากริด
[ ชื่อของมันคือ 'พาเฟรเนี่ยม'… มันเป็นโลหะที่อยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้… สร้างขึ้นจากทักษะของแพ็กม่าและเวทย์มนต์ของฉัน... มันมีความคงทนที่สูงกว่าโลหะแห่งเทพอย่าง 'อดามันเที่ยม' เสียอีก… แถมยังเข้ากันได้ดีมากกับพลังเวทย์มนต์… และความยืดหยุ่นก็ยังสูงกว่าโลหะยัฟฟ่าด้วย ]
"อะไรนะ..."
โลหะที่รวมข้อดีของสุดยอดโลหะบนโลกเอาไว้ทั้งหมด… แถมยังมีคุณสมบัติสูงกว่า… ถ้าหากเป็นเรื่องจริง มันคือสมบัติล้ำค่า!
[ ...แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่… มันจะเคลื่อนไหวตามความต้องการของตนเองเท่านั้น ]
'โลหะที่สร้างขึ้นโดยฝีมือแพ็กม่า'
กริดไม่ได้สนใจในสิ่งที่บราฮัมพูดอีก… เขาถูกสะกดด้วยความสุดยอดและงดงามของพาเฟรเนี่ยมที่กำลังลอยไปมาตรงหน้า
กริดจะสามารถใช้งานโลหะของแพ็กม่าได้รึเปล่านะ… เขาอยากลองดูสักตั้ง… ถึงจะมีโอกาสล้มเหลวก็ตามที
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง… ถ้าหากเขาสร้างไอเท็มด้วยโลหะชนิดนี้… เป็นโอกาสดีที่จะได้ซึมซับความยอดเยี่ยมของแพ็กม่าไปในตัว
สมาธิทั้งหมดของกริดตกไปอยู่กับพาเฟรเนี่ยมทันที… บราฮัมไม่ค่อยชอบใจนัก เขาอยากให้กริดตั้งใจฟังเขาก่อน… ทันใดนั้นเปลวเพลิงก็ถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง… เป็นเพลิงชนิดเดียวกับที่ผลาญศรจิสึกะในพริบตา
ลูกไฟดังกล่าวพุ่งใส่กริดและระเบิดออกที่ด้านหน้า
บึ้มมม!
เป็นอีกครั้งที่พาเฟรเนี่ยมเข้ามาปกป้องกริดไว้… กริดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยกลับกัดฟันอย่างโกรธแค้น
"ทำไมถึงโจมตีใส่ฉันอีกแล้ว!"
คราวนี้สายตาของบราฮัมจ้องเขม็งไปยังพาเฟรเนี่ยม ไม่ใช่กริด
[ ไอ้เศษโลหะบ้านี่… แกเอาแต่เข้าข้างช่างตีเหล็กอยู่เรื่อย ]
"เฮ้! ตกลงว่ายังไง… ทำไมถึงโจมตีใส่ฉันอีกแล้ว"
กริดที่ยังคงหัวเสียได้ตะโกนขึ้น… บราฮัมจึงหันกลับมามองและกล่าวตักเตือน
[ ตั้งใจฟังสิ่งที่ฉันพูดให้จบก่อน ]
"..."
ท่าทีแบบนี้คืออะไรกัน… เหมือนกับพวกติวเตอร์ราคาแพงที่บอกให้ตั้งใจเรียนไม่มีผิดเพี้ยน! กริดจำยอมต้องฟังแต่โดยดีเพื่อให้ภารกิจลุล่วง
[ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต… ฉันหวังจะให้แพ็กม่าช่วยหนึ่งเรื่อง… เหตุผลเดียวที่ฉันช่วยแพ็กม่าสร้างพาเฟรเนี่ยม คือการเติมเต็มความฝันอันสูงสุดของตนเอง… เราสองคนใช้เวลานานถึง9ปีกับอีก11เดือนในการสร้างพาเฟรเนี่ยมจนสำเร็จ… แต่นั่นคือขีดจำกัด… แม้แพ็กม่าจะได้ชื่อว่าเป็นตำนานของโลกใบนี้ แต่เขาก็เอาชนะความแก่ชราไม่ได้… หลังจากสร้างพาเฟรเนี่ยมเสร็จไม่นานแพ็กม่าก็เสียชีวิตลง ]
"..."
[ มันเจ็บปวดมาก… ทุกสิ่งที่ฉันลงแรงไปราวกับสูญเปล่า… ฉันนำพาเฟรเนี่ยมไปให้ช่างตีเหล็กคนแคระชื่้อดังสร้างไอเท็ม… แต่เขาก็มิอาจขึ้นรูปพาเฟรเนี่ยมได้… ตัวฉันพลันต้องสิ้นหวังสุดขีด ]
บราฮัมแสดงสีหน้าเจ็ดปวดก่อนจะเดินเข้ามาหากริด… ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย… ทั้งโกรธแค้น… ดีใจ… และบ้าคลั่ง
[ แต่ตอนนี้… ฉันได้พบนายแล้ว! ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า! ฉันต้องการให้นายทำสิ่งที่แพ็กม่าทำค้างไว้! จงสร้างมันให้ฉัน! จงสร้าง 'ภาชนะดวงจิต' ขึ้นมา! จงตอบแทนฉันในฐานะผู้ที่คอยปกป้องพาเฟรเนี่ยมตลอด300ปีแม้ตัวจะตายไปแล้ว! ]
"ภาชนะดวงจิตงั้นหรอ"
หน้าต่างข้อความระบบได้เด้งขึ้น
[ ภารกิจของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ]
ระดับความยาก : ภารกิจประจำคลาส
...
แม้ว่าท่านจะมีทักษะการตีเหล็กอันยอดเยี่ยมของแพ็กม่าอยู่ แต่ท่านรู้จริงๆ น่ะหรือ ว่าแพ็กม่าเป็นใครกันแน่ ท่านสามารถแบกรับเจตนารมณ์ของเขา เอาไว้บนบ่าตลอดเวลาได้รึไม่ ตัวจริงของแพ็กม่าคือใครกัน ถ้าหากแพ็กม่าเป็นเพียงช่างตีเหล็กที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง ตำนานของเขา คงไม่มีทางขจรขจายไปทั่วทั้งทวีปเช่นนี้แน่
ประการแรก เริ่มด้วยการตามหาเบาะแสวิถียอดดาบแห่งแพ็กม่าตามตำนาน ถ้าหากท่านสามารถเก็บรวมรวบตำนานของแพ็กม่าได้ครบเมื่อใด เมื่อนั้น ท่านก็จะเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าที่แท้จริงได้
แล้วตำนานบทใหม่ก็จะถือกำเนิดขึ้น...
...
* ไม่จำกัดเวลาในการทำภารกิจ
* ถ้าหากท่านรับทำภารกิจนี้แล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นคลาสอื่นได้อีก
* ภารกิจคลาสระดับเลเจนดารีมีพลังมากพอจะพลิกโลกแห่งซาทิสฟายได้ ถ้าหากท่านมีความพยายามที่มากพอ
เงื่อนไขการสำเร็จภารกิจ : สำเร็จภารกิจต่อเนื่องทั้งหมด
รางวัลภารกิจ : ไม่เปิดเผย
[ ภารกิจคลาสลำดับที่2: การคืนชีพของสุดยอดจอมเวทย์ ]
สุดยอดจอมเวทย์ในตำนานอย่างบราฮัมคืออัจฉริยะตัวจริง… เขารั้งตำแหน่งจอมเวทย์ที่เก่งที่สุดในโลกตั้งแต่สมัยที่เริ่มฝึกฝนเวทย์มนต์ได้เพียงไม่นาน… เคยมีตำนานกล่าวว่า บราฮัมสามารถรอดชีวิตจากการปะทะกับมังกรไฟทราวก้าอันดุร้ายมาได้… แต่เมื่อยิ่งอายุมากขึ้น… เขาก็ยิ่งค้นพบว่าตนเองเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา… ด้วยร่างกายและจิตใจที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว… บราฮัมจึงปรารถนาความเป็นนิรันดร์
จากการค้นคว้าอย่างหนัก… ในที่สุดเขาก็ออกแบบวิธีการสร้าง 'ภาชนะดวงจิต' ได้สำเร็จ… ทว่าภาชนะดวงจิตคือสิ่งที่แหกกฏเกณฑ์ของโลกใบนี้… การจะสร้างมันจึงเป็นเรื่องยากมาก
บราฮัมพยายามสืบหาโลหะชนิดใหม่ที่จะนำมาเป็นภาชนะดวงจิต… และบังเอิญได้รู้ว่า… แพ็กม่า… สหายเก่าแก่ของเขาเองก็กำลังหาวิธีสร้างโลหะชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีอยู่บนโลกมาก่อนเช่นกัน… บราฮัมจึงเดินทางไปหาแพ็กม่าและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่… ทั้งสองร่วมแรงร่วมใจกันจนสามารถสร้างสุดยอดโลหะของโลกที่มีชื่อว่า 'พาเฟรเนี่ยม' ได้สำเร็จ
บราฮัมเชื่ออย่างสุดใจว่าพาเฟรเนี่ยมคือโลหะที่สามารถใช้สร้างภาชนะดวงจิตได้… แต่คนเดียวในโลกที่สามารถขึ้นรูปพาเฟรเนี่ยมสำเร็จคือแพ็กม่า… ผู้ซึ่งจากโลกนี้ไปแล้วด้วยความชรา
ทำให้บราฮัมยังคงไม่สมหวัง...
เขาได้แต่เฝ้ารอการถือกำเนิดขึ้นของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า… โดยหวังว่าคนๆ นั้นจะมาสานต่อเจตนารมณ์แพ็กม่าและสร้างภาชนะดวงจิตให้เขา… บราฮัมสร้างเหมืองไว้ทั้งหมด28แห่งทั่วทั้งทวีปก่อนที่จะตาย… และหวังว่าจะมีสักแห่งหนึ่งที่ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าให้ความสนใจ
ผ่านมาแล้ว300ปี… ในที่สุด... 1ใน28เศษเสี้ยวดวงจิตของบราฮัมที่หลับไหลอยู่ภายในวงกตก็ได้พบกับท่าน
บราฮัมต้องการให้ท่านสร้างภาชนะดวงจิตให้… ด้วยภาชนะดวงจิตใบนี้… เขาจะสามารถพื้นคืนชีพกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้งและมีชีวิตที่นิจนิรันดร์
...
เงื่อนไขภารกิจ : สร้างภาชนะดวงจิต
ของรางวัลภารกิจ : พาเฟรเนี่ยมจำนวนมาก
"พาเฟรเนี่ยมจำนวนมาก… ยังมีพาเฟรเนี่ยมอยู่อีกงั้นหรอ"
[ ฉันบอกนายไปแล้วว่ายังมีวงกตอื่นอีกทั้งหมด27แห่งทั่วทั้งทวีป… และทุกแห่งก็จะมีพาเฟรเนี่ยมที่เหมือนกับเจ้านี่ซ่อนอยู่… ถ้าหากนายสร้างภาชนะดวงจิตด้วยพาเฟรเนี่ยมให้ฉันได้… พาเฟรเนี่ยมทั้งหมดที่เหลือฉันยกให้เป็นรางวัล ]
อดามันเที่ยมคือโลหะแห่งดินแดนเทพ… มนุษย์มีโอกาสได้ครอบครองอดามันเทียมจำนวนเพียงหยิบมือเท่านั้น… ทำให้มันคือโลหะที่หายากที่สุดในบรรดาทั้งหมด… เพราะอดามันเที่ยมที่อยู่ในดินแดนเทพจะไม่มีวันตกมาถึงโลกมนุษย์
ในทางกลับกัน…พาเฟรเนี่ยมคือโลหะที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์… ทว่าสูตรการผลิตพาเฟรเนี่ยมได้สาปสูญจากโลกนี้นานแล้ว… ปริมานของมันจึงจัดว่ามีน้อยและหายากกว่าอดามันเที่ยมเสียอีก… ยังไม่รวมไปถึงเรื่องที่มันมีคุณสมบัติสูงกว่าทุกประการ
โอกาสที่จะได้ครอบครองสุดยอดโลหะของโลกไม่ใช่เรื่องง่าย กริดตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี… เขาจึงไม่คิดปฏิเสธภารกิจในครั้งนี้
ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยและตอบตกลง
"ได้! ฉันจะสร้างภาชนะดวงจิตให้นาย!"
แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหา
"แล้วจะให้ฉันสร้างเป็นรูปทรงอะไร… เอาแบบชามข้าวได้ไหม"
[ ชามข้าว… ]
ภาชนะที่จะใช้บรรจุดวงจิตที่รวมกันจากเศษเสี้ยวทั้ง28ส่วน… กลับถูกกริดมองเป็นเพียงชามข้าว… บราฮัมทั้งโกรธแค้นและโมโห… เขาอยากจะฆ่ากริดทิ้งซะเดี๋ยวนี้… แต่สุดท้ายก็ต้องข่มอารมณ์เหล่านั้นไว้ในใจ และทำการอธิบายต่อไป
[ เทพแห่งสุขภาพและปัญญา... ยูดาห์… เทพแห่งสงคราม… โดมิเนี่ยน… เทพธิดาแห่งแสงสว่าง… รีเบคก้า… เทพแห่งความมืดและโรคระบาด… ยาธาน… นายจงนำพาเฟรเนี่ยมไปให้เทพทั้ง4อวยพร… หลังจากนั้นพาเฟรเนี่ยมของนายก็จะกลายเป็นโลหะเทวะพาเฟรเนี่ยม… นายจะใช้มันสร้างภาชนะเป็นรูปทรงใดก็ได้ ตามแต่ที่ต้องการเลย… ขอเพียงให้มันบรรจุสิ่งของได้ก็พอ ]
กริดพลันไม่เห็นด้วยทันที
"ต้องให้เทพถึง4องค์อวยพรเลยเนี่ยนะ… แถมฉันก็เป็นศัตรูกับวิหารยาธานอยู่ด้วย"
[ หากเป็นในอดีต… ฉันสามารถใช้กำลังทำให้พวกมันทั้ง4ยอมจำนนได้ไม่ยาก… แต่หากนายทำแบบนั้นไม่ได้… ก็ลองหาวิธีอื่นดูก็แล้วกัน… จะประจบประแจง… ติดสินบน… หรือกราบขอร้อง… ฉันไม่เกี่ยง ขอให้พวกมันอวยพรพาเฟรเนี่ยมให้ก็พอ ]
ดูเหมือนหากกริดทำไม่สำเร็จ… คงได้ถูกเชือดทิ้งเป็นแน่
ไม่นานนัก เศษเสี้ยวดวงจิตของบราฮัมก็เริ่มสลายไป… แน่ล่ะ นี่เป็นเพียง1ใน28เศษเสี้ยวเท่านั้น ย่อมมิอาจคงร่างกายไว้ได้นาน
[ ผู้… สืบทอด… แห่งแพ็ก… ม่า… ฉันเชื่อใจ… ในตัวนาย ]
ราวกับเป็นภาพในหนัง… บราฮัมใช้พละกำลังเฮือกสุดท้ายเพื่อกล่าวคำอำลากับเรา
สมองของกริดพลันขบคิดอย่างวุนวายทันที
'ต้องขอบคุณมาลาคัส ความสัมพันธ์กับโบสถ์รีเบคก้า โดมิเนี่ยน และยูดาห์จึงไม่เลว… ถึงไม่รู้ว่ามันจะเพิ่มมากแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็คงไม่ถูกฆ่าทิ้งล่ะนะ… ทว่าปัญหาก็คือวิหารยาธาน… เราจะใช้วิธีไหนให้เทพยาธานอวยพรได้บ้าง'
อีกฝั่งหนึ่ง… จิสึกะที่ยืนมองทุกสิ่งอย่างเงียบงันเป็นเวลานาน ได้ส่งความส่วนตัวไปหาลาเอลล่า… 1ใน2จอมเวทย์ของเซดาก้าห์
>> เธอรู้จักจอมเวทย์ที่ชื่อบราฮัมรึเปล่า
ลาเอลล่าตอบกลับทันที
>> แน่นอนอยู่แล้ว บราฮัมคือจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์… เวทย์มนต์ทุกชนิดในซาทิสฟายสร้างขึ้นโดยฝีมือของบราฮัม… เขาคืออาจารย์ของจอมเวทย์ทุกคน… ไม่มีจอมเวทย์คนใดที่ไม่รู้จักบราฮัมหรอกนะ
>> เห… ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอ… แล้วแพ็กม่าล่ะ… แพ็กม่าคือใคร
>> หืม… แพ็กม่าหรอ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย
แพ็กม่ากับบราฮัมนั้นคือสุดยอดช่างตีเหล็กและจอมเวทย์ตลอดกาลของซาทิสฟาย… มีตำนานเล่าขานถึงวีรกรรมของพวกเขามากมาย… จึงไม่แปลกที่เอ็นพีซีทุกคนจะรู้จักทั้งสองเป็นอย่างดี เพราะเรื่องราวเหล่านั้นมีเขียนไว้ในหนังสือเรียนของซาทิสฟาย
แต่กับผู้เล่นนั้นไม่ใช่… บรรดาผู้เล่นจะสนใจเฉพาะสิ่งที่ตนเองอยากรู้เท่านั้น… จิสึกะที่เป็นนักธนูจึงไม่รู้จักทั้งบราฮัมและแพ็กม่า… ส่วนลาเอลล่าที่เป็นจอมเวทย์จึงรู้จักบราฮัมเพียงคนเดียว… แต่ไม่มีใครในเซดาก้าห์ที่รู้จักแพ็กม่าเลยสักคน
จิสึกะออกคำสั่งกับแวนท์เนอร์ทันที
"ฉันอยากให้นายไปสืบมาว่าแพ็กม่าคือใคร"
ถ้าพวกเขารู้จักตัวตนของแพ็กม่า… บางทีอาจรู้ได้ไม่ยากว่าคลาสของกริดคืออะไรกันแน่
'เราก็ไม่คิดจะก่าวก่ายเรื่องส่วนตัวหรอกนะ… แต่ว่า...'
กริดคือผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคลาสเกรดเลเจนดารีเพียงคนเดียวในเกม… ดังนั้นจิสึกะต้องรู้ได้ให้ว่าตัวตนของเขาคืออะไรกันแน่
"เห..."
ดวงตาจิสึกะพลันเบิกโพลงอย่างตกตะลึงจนสลัดความคิดทุกอย่างทิ้งไป… เพราะตอนนี้… ร่างกายของกริดกำลังลอยอยู่ในอากาศ
"อ๊ะ! รองเท้านั่น... เป็นไปไม่ได้"
แวนท์เนอะถึงกับผงะเมื่อได้เห็นกริดสวมรองเท้าบราฮัม… ไม่ใช่ว่าจำกัดเลเวลไว้ที่240งั้นหรอ… แต่กริดเพิ่งจะ144เท่านั้น… เขาไม่ควรใส่มันได้
'ทว่าหากลองมองดูให้ดี… ผ้าคลุมที่กริดสวมอยู่ก็คือผ้าคลุมมาลาคัส… เราจำได้ว่ามันจำกัดเลเวลไว้ที่200เหมือนกัน' จิสึกะย้อนถึงไปถึงตอนที่กริดแย่งหนามแห่งความเคียดแค้นของไอเบลลินมาถือ
'บางทีกริดอาจสวมใส่ไอเท็มได้ทุกชนิดในเกมโดยไม่สนใจเงื่อนไข… อย่างนั้นหรอ'
ยิ่งได้รู้จักกริด... จิสึกะก็ยิ่งพบกับปริศนามากขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนี้… กริดกำลังลอยตัวขึ้นไปด้านบนสูงมากแล้ว... เขาตะโกนลงมาบอกกับทั้งสองคนว่า
"ฉันจะกลับไปรอที่โรงตีเหล็กก็แล้วกัน"
ฟิ้วววว!
กริดบินขึ้นไปจนสุดเพดาน ก่อนจะพุ่งตัวหายลับไปในพริบตา… ทั้งจิสึกะและแวนท์เนอร์ต่างก็อุทานออกมาอย่างชื่นชม
"วู้ววว! ยอดเลยแฮะ..."
"...ยอดเยี่ยมกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก… สงสัยเกมนี้คงต้องพึ่งพาพลังของไอเท็มมากกว่าที่คิดซะแล้ว"
ทั้งสองจินตนาการถึงความเท่ห์ของกริดที่โบยบินไปมาบนท้องฟ้าพร้อมกับกวัดแกว่งดาบยักษ์ในมือ… มันจะต้องสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลกได้แน่นอน… และพาดหัวข่าวคงจะประมานว่า…
'นักรบคนแรกที่บินได้ปรากฏตัว!… หลบไปจอมเวทย์! ถึงเวลาแห่งการบินของเหล่านักรบ!'
แต่จะมีใครรู้บ้างไหม… ว่าแท้จริงแล้วเขาคือช่างตีเหล็ก...
สนุกมากมายครับ
ReplyDeleteจัดว่าโกงเลยทีเดียว
ReplyDeleteอยากรู้แทนที่จัถาม
ReplyDelete