จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 119



       หลังจากข้ามเขาซูอาสมาได้ กริดก็เดินทางมาถึงยังหมู่บ้านโรลลิ่งในเวลาไม่นาน… แม้จะโรลลิ่งเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ… แต่หากเดินเท้าจากที่นี่ไปทางใต้ครึ่งวัน กริดก็จะถึงที่หมายปลายทางอย่างวาติกันได้  

       "มีเทวรูปรีเบคก้าเต็มไปหมดเลยแฮะ"

       บนถนนมีเทวรูปรีเบคก้าขนาดน้อยใหญ่วางเรียงราย… ไม่เพียงแค่บนถนน แต่ตามร้านค้าหรือบ้านเรือนต่างๆ เองก็ด้วย… ไม่ว่าจะเหลียวมองทางไหนก็ต้องปรากฏเทวรูปรีเบคก้าอยู่ในสายตาร่ำไป… ดูเหมือนโรลลิ่งจะเป็นหมู่บ้านที่เคารพบูชาเทพธิดารีเบคก้ามากทีเดียว

       'ก็ไม่แปลก เล่นตั้งอยู่ใกล้วาติกันซะขนาดนี้… การที่จะรีเบคก้าจะเป็นศาสนาประจำหมู่บ้านย่อมเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว'

       เฮ้อ~

       ชายหนุ่มเอนหลังพิงเทวรูป พร้อมกับดื่มด่ำแสงอาทิตย์อันอบอุ่น… โดยไม่ห่างนัก มีทั้งแมวที่กำลังอาบแดด พ่อค้ากำลังไปตลาด และชาวบ้านที่ออกมาทำกิจวัตรเหมือนทุกที… กริดพลันรู้สึกสงบใจ  

       'แตกต่างจากวินสตันเหลือเกิน… เหมือนกับเป็นรีสอร์ทพักร้อนเลยทีเดียว'

       กริดฮัมเพลงพร้อมกับเตร็ดเตร่ไปในหมู่บ้านอย่างสบายอารมณ์

       'เดี๋ยวก่อน… นี่เราคิดอะไรอยู่'

       ที่จริงเขาต้องรีบจบภารกิจให้เร็วที่สุด… การท่องเที่ยวเป็นเพียงเรื่องที่ทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

       'พักหลังมากนี่… รู้สึกเราจะเริ่มขี้เกียจมากขึ้น'

       กริดรู้เป็นอย่างดีว่าคนขี้เกียจมีจุดจบอย่างไร… เขาอาจกลับไปเป็นหนี้ได้ในพริบตา ถ้าหากไม่ขยันขันแข็งให้ตลอดรอดฝั่ง… ด้วยความฝังใจในอดีต กริดจึงสลัดมาดนักท่องเที่ยวทิ้ง และรีบตรงดิ่งไปยังโรงตีเหล็กประจำหมู่บ้านทันที  

[ ทักษะ <การผลิตของช่างตีเหล็ก> ขั้นสูงสุดแสดงผล… เอ็นพีซีช่างตีเหล็กขั้นกลางขึ้นไปจะต้อนรับท่านอย่างอบอุ่น  ]
[ เอฟเฟคคลาส <ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า> แสดงผล… เอ็นพีซีช่างตีเหล็กขั้นสูงขึ้นไปจะรู้จักท่าน และเคารพบูชาท่าน  ] 

       ข้อความระบบที่ไม่ได้เห็นมานาน พลันปรากฏขึ้นเมื่อเขาเดินเข้าไปในร้าน… กริดพักอยู่ที่วินสตันมานาน โรงตีเหล็กเพียงแห่งเดียวที่เหยียบย่าง ก็คือโรงตีเหล็กข่าน

       กริดได้แต่ลุ้นว่าช่างตีเหล็กของหมู่บ้านโรลลิ่งจะเป็นขั้นกลางขึ้นไปหรือไม่… เขาเองก็อยากจะเป็นที่นับหน้าถือตาบ้าง… ทว่า      

       "สวัสดีคร้าบ~"

       ช่างตีเหล็กคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับ… โชคไม่ดีนัก ช่างตีเหล็กผู้นี้ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มเท่านั้น… และดูเหมือนจะมีทักษะการตีเหล็กอยู่แค่ขั้นต้น… ดังนั้นจึงไม่มีทางแยกกริดกับลูกค้าทั่วไปออกแน่

       "มีอะไรให้ช่วยไหมครับ"

       กริดถอนหายใจอย่างผิดหวังและพูดออกไปว่า "ฉันต้องการจะซ่อมแซมไอเท็ม"

       "ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมจะซ่อมให้เอง"

       กริดไม่เชื่อหูตัวเอง

       "อะไรนะ… นายคิดจะซ่อมไอเท็มให้ฉันงั้นหรอ"

       น่าขัน… ช่างตีเหล็กขั้นต้นกำลังคิดจะซ่อมไอเท็มของช่างตีเหล็กในตำนาน!

       กริดกล่าวออกไปอย่างเหยียดหยัน "นายคงไม่โง่ก็บ้า… นี่ถึงกับไม่รู้จักฉันเชียวหรือ"

       "หือ..."

       "เฮ้เฮ้! ก็ได้… ฉันเป็นช่างตีเหล็กเหมือนกัน… ดังนั้นไอเท็มของฉัน ฉันก็จะซ่อมมันเอง… แต่ขอยืมเตาหลอมหน่อย แล้วจะจ่ายค่ายืมให้"

       ช่างตีเหล็กแห่งหมู่บ้านโรลลิ่ง… เร็กเตอร์… พลันถามขึ้นอย่างสงสัยทันที "คุณคือช่างตีเหล็กจริงหรือ"  

       กริดกำลังสวมถุงมือเหล็กกล้า… รองเท้าเหล็กนิล… และชุดเกราะหนัก… จะต้องเป็นช่างตีเหล็กประเภทไหนกัน ถึงสวมใส่อุปกรณ์ทั้งหมดนี่ได้… หากมองเผินๆ กริดจะดูเหมือนนักรบทั่วไปเท่านั้น… เป็นการยากที่จะทำใจเชื่อได้ลงว่าเขาคือช่างตีเหล็ก     

       กริดจุ๊ปากพร้อมกับส่ายหน้า "ไม่เชื่อสินะว่าฉันเป็นช่างตีเหล็ก… น่าสงสาร… นายเป็นพวกดูคนไม่เป็นเลยสักนิด"

       "อะไรนะ!"

       เร็กเตอร์คือเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง20ปีเท่านั้น… ด้วยความที่ยังเด็ก จึงไม่เข้าใจว่าทำไมกริดถึงต้องพูดจาแบบนี้… ในขณะที่เร็กเตอร์กำลังโกรธหน้าดำหน้าแดง… กริดก็เริ่มรู้สึกผิดและพูดปลอบใจออกไป   

       "แต่อนาคตใครจะบอกได้ล่ะ… แม้ตาของนายจะไม่มีแววเลย… แต่ของแบบนี้ฝึกฝนกันได้… ดูฉันไว้ให้ดีก็แล้วกัน นี่เป็นโอกาสที่มีไม่บ่อยนักหรอกนะ… นายต้องขอบคุณเทพธิดารีเบคก้า ที่ทำให้นายมีโอกาสได้เห็นฉันแสดงฝีมือในระยะใกล้"

       "..."

       กริดไม่ขออนุญาตจากเร็กเตอร์อีก… ชายหนุ่มเดินดุ่มเข้าไปยังเตาหลอมพร้อมกับจุดไฟขึ้นทันที 

       "เฮ้! เร่งไฟแรงแบบนั้นเดี๋ยวก็… เฮ้ย!!"

       ดวงตาของเร็กเตอร์พลันเบิกโพลง… เป็นเพราะกริดสามารถควบคุมเปลวไฟในเตาหลอมได้ดั่งใจนึก

       'ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน… เราไม่เคยเห็นใครใช้ไฟได้อิสระแบบนี้มาก่อน'

       แม้กระทั่งบิดาของเขา… ช่างตีเหล็กขั้นกลางที่เสียชีวิตลงเมื่อ2ปีก่อน… ก็ยังไม่อาจชำนาญการใช้ไฟได้เท่ากริดเมื่อครู่… ราวกับกริดหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับไฟ… ในขณะที่เร็กเตอร์กำลังชื่นชม… กริดก็หยิบค้อนตีเหล็กและทั่งเหล็กออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ… หลังจากนั้นก็เริ่มซ่อมแซมไอเท็มทีละชิ้น 

[ ความคงทนของ <มีดสั้นอุดมคติ> เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด ]
[ นี่คือไอเท็มที่ท่านสร้างขึ้น… ความเข้าใจในไอเท็มจึงมี 100% เต็ม  ]
[ ด้วยความที่เป็นไอเท็มที่ท่านสร้างขึ้นเอง… ทำให้แม้จะมีค่าความเข้าใจ 100% เต็ม… แต่ผลข้างเคียงที่เงื่อนไขสวมใส่ไม่ตรง ก็จะยังทำงานอยู่  ]

[ ความคงทนของ <ถุงมือยอดเยี่ยม> เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด ]
[ นี่คือไอเท็มที่ท่านสร้างขึ้น… ความเข้าใจในไอเท็มจึงมี 100% เต็ม  ]
[ ด้วยความที่เป็นไอเท็มที่ท่านสร้างขึ้นเอง… ทำให้แม้จะมีค่าความเข้าใจ 100% เต็ม… แต่ผลข้างเคียงที่เงื่อนไขสวมใส่ไม่ตรง ก็จะยังทำงานอยู่  ]

[ ความคงทนของ <ผลงานชิ้นเอกข่าน> เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด ]
[ ความเข้าใจใน <ผลงานชิ้นเอกข่าน> กลายเป็น 100% เต็ม… ท่านได้เรียนรู้วิธีการสร้าง และสามารถใช้มันได้อย่างไม่มีผลข้างเคียง  ] 

[ ความคงทนของ <ดาอินสเลฟ(แบบจำลอง)> เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด ]
[ ความเข้าใจใน <ดาอินสเลฟ(แบบจำลอง)> เพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 31%  ]

[ ความคงทนของ <หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง> เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด ]
[ ความเข้าใจใน <หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง> เพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 85%  ]

[ ความคงทนของ <รองเท้าบราฮัม> เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด ]
[ ความเข้าใจใน <รองเท้าบราฮัม> เพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 6%  ]

( ผู้แปล : ขอขยายความนิดหน่อย… ถ้าหากเป็นไอเท็มที่กริด 'สร้างขึ้นเอง' ต่อให้ค่าความเข้าใจกลายเป็น 100% ก็จะยังมีผลข้างเคียงอยู่… แต่ถ้าหากเป็นไอเท็มอื่นที่กริดไม่ได้สร้าง… เมื่อค่าความเข้าใจ 100% เต็ม กริดจะสามารถใช้มันได้อย่างไม่มีผลข้างเคียง )

       หลักการของ <ความเข้าใจในไอเท็ม> จะปรากฏเฉพาะในคลาสผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าเท่านั้น

       ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความเข้าใจไอเท็มได้จากการใช้งานไอเท็ม ใช้ทักษะตรวจสอบใส่ไอเท็ม ซ่อมแซมไอเท็ม และแยกส่วนไอเท็ม… เมื่อค่าความเข้าใจเพิ่มถึง100% กริดจะใช้มันได้โดยไม่มีผลข้างเคียง… แถมยังเรียนรู้วิธีการผลิตมาอีกด้วย     

       ถ้าหากดาอินสเลฟมีค่าความเข้าใจถึง100%เมื่อใด… เมื่อนั้นกริดก็จะสร้างดาอินสเลฟอีกเล่มขึ้นมาได้… ทว่ายิ่งไอเท็มมีระดับสูง ความเข้าใจในไอเท็มก็ยิ่งเพิ่มยากขึ้นตามไปด้วย… จึงไม่รู้ว่าต้องอีกนานแค่ไหนกริดถึงจะก้าวไปอยู่จุดนั้นได้      

       'แต่หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งใกล้จะครบ100%แล้ว… หรือเราควรทำให้มันเป็น100%ไปเลยดีไหม'

       เคร้ง!

       กริดวางหมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งที่เพิ่งซ่อมเสร็จหมาดๆ ลงบนทั่งเหล็กและใช้ค้อนทุบลงไป

       'เขาเสียสติไปแล้วหรอ'

       เร็กเตอร์ทั้งตื่นเต้นและตกตะลึงเมื่อได้เห็นกริดซ่อมแซมไอเท็มอย่างใกล้ชิด… ทว่าจู่ๆ กริดกลับใช้ค้อนทุบลงไปบนหมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งที่สมบูรณ์ ราวกับคนบ้า

       และทันใดนั้น

       เคร้ง! เคร้ง!

       ด้วยความกริดที่ไม่หยุดมือ หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งจึงถูกแยกส่วนออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

       'เขาทำลายหมวกที่ยอดเยี่ยมใบนั้นทำไมกัน… นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรอ'

       เร็กเตอร์กำลังเข้าใจผิด เขาคิดว่ากริดไม่อยากได้หมวกใบนั้นแล้ว จึงทำลายทิ้ง… ทว่าในความเป็นจริง กริดกำลังใช้ทักษะ <การแยกส่วนของช่างตีเหล็กในตำนาน> เพื่อทำให้มันกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย… ก่อนที่เขาจะประกอบมันกลับเข้าไปใหม่ในภายหลัง 

       "การใส่ลวดไว้ในตะเข็บตรงนี้ดูหยาบไปหน่อย… ฉันจะแก้ไขมันเอง"

       กริดเข้าใจในโครงสร้างทั้งหมดของหมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งได้ทันที… ชายหนุ่มประกอบมันกลับเข้าไปอีกครั้งพร้อมแก้ไขให้ดีขึ้น… การประกอบไปพลาง แก้ไขไปพลาง ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก… แต่เพียงไม่นาน เขาก็ทำมันจนเสร็จ 

[ ความเข้าใจในไอเท็ม <หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง> เพิ่มขึ้นเป็น 100% ]
[ นับแต่นี้ไป ท่านสามารถสวมใส่ <หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง> โดยไม่มีผลข้างเคียง ]
[ ท่านได้เรียนรู้วิธีการสร้าง <หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง> ]

       "เยี่ยม"
       
       กริดรีบหยิบหมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งขึ้นมาสวม ด้วยท่าทางตื่นเต้นยินดี 

[ ท่านสวมใส่ <หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง>... คลาสของท่านได้รับการยกเว้นเงื่อนไข ]
[ เงื่อนไขสวมใส่ไม่ตรง… แต่ท่านมีความเข้าใจในไอเท็ม 100% เต็ม… ดังนั้นจึงไม่ผลข้างเคียงในการสวมใส่ ]

[ หมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง ]
เกรด : ยูนีค (เซ็ต)
ความคงทน : 250~>290/290
พลังป้องกัน : 130~>190
* ลดอัตราการถูกคริติคอล 20~>25%
* พลังชีวิตเพิ่มขึ้น 10%~>15%
* มีโอกาสปานกลาง ที่จะทำให้ศัตรูตกอยู่ในอาการ 'หวาดกลัว'
...
ไอเท็มเซ็ตหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง :
- สวมใส่ 3 ชิ้น : พละกำลัง +50 ความอดทน +80
- สวมใส่ 5 ชิ้น : พละกำลัง +100 ความอดทน +200  ได้รับทักษะ 'แปลงกายเป็นหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง'
...
ทักษะแปลงกายเป็นหัวหน้าออร์คน้ำแข็ง
* สามารถออกคำสั่งกับออร์คน้ำแข็งได้
* ได้รับทักษะ 'หมุนตัวฟัน'
...
       หัวหน้าออร์คน้ำแข็งได้รับการขนานนามให้เป็น ผู้ปกครองแห่งทุ่งหิมะแดนเหนือ นี่คือหมวกที่เขารักมากที่สุด ทำมาจากกระโหลกของยักษ์หิมะ เป็นหมวกที่มีรูปร่างอัปลักษณ์อย่างมาก โดยเฉพาะเขาข้างซ้ายที่ยื่นออกมา ส่งผลให้รูปโฉมของมันน่าสะพรึง เพียงแค่สวมใส่ก็ทำให้ผู้พบเห็นเกิดอาการหวาดกลัวได้แล้ว
       เดิมทีหมวกใบนี้มีความบกพร่องอยู่เล็กน้อย… แต่ช่างฝีมือพรสวรรค์สูงได้ทำการแยกส่วนมัน และประกอบขึ้นใหม่อีกครั้งโดยแก้ไขในจุดที่ผิดพลาด… ทำให้หมวกใบนี้ได้รับการเสริมพลังอย่างก้าวกระโดด
* เงื่อนไขการสวมใส่ :
- เลเวล 150 หรือสูงกว่า
- พละกำลัง 400 แต้มหรือสูงกว่า
* น้ำหนัก : 800 หน่วย

        "โว้ว… เจ๋ง"

       กริดพลันต้องดีใจที่ได้เห็นไอเท็มมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น… เขารีบหันหาไปเร็กเตอร์ขณะที่กำลังสวมหมวกอยู่ 

       "เป็นยังไงบ้าง… นายคิดว่ามันดูเท่ห์บ้างรึเปล่า"

       "ห--หยึย..."

       ใบหน้าเร็กเตอร์ซีดเผือด… เป็นเพราะหมวกอัปลักษณ์ใบนี้ แฝงความน่ากลัวเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม 

       เมื่อกริดได้เห็นท่าทีเร็กเตอร์ เขาก็ต้องถอนหายใจอย่างผิดหวัง "เฮ่อ… ฉันผิดเองแหละ… บ้าจริง… ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาใบใหม่มาเปลี่ยนโดยเร็ว"

       กริดเดินเข้าไปหาเร็กเตอร์พร้อมกับยื่นเงินให้จำนวน10เหรียญเงิน… หลังจากนั้นก็พึมพำเล็กน้อยว่า 
       
       "ได้ตั้งใจดูรึเปล่า… นับแต่นี้ไปนายควรฝึกฝนให้มากเข้านะ… จงจดจำวิธีการเป่าลมและการใช้ค้อนของฉันไว้ให้ดี… ในอนาคตเราอาจได้พบกันอีก… ตอนนี้ทักษะของนายยังด้อยอยู่ก็จริง… แต่ถ้าหากฝึกฝนอย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา10ปี บางทีนายอาจได้เป็นช่างตีเหล็กขั้นกลางก็ได้… ใครจะรู้"

       ด้วยความสัตย์จริง คำพูดทั้งหมดของกริดเป็นเพียงการล้อเล่นเท่านั้น… ทว่าเขาไม่มีทางรู้เลย ว่าเร็กเตอร์จะเก็บไปคิดและทำตามอย่างจริงจัง 

       หลังจากนั้นไม่นาน เร็กเตอร์ก็ล็อคประตูโรงตีเหล็กและทำตามคำแนะนำของกริดทุกประการ(?)… เขาฝึกฝนการเป่าลมและการลงค้อนอยู่เช่นนั้น 

       และในภายหลัง… เร็กเตอร์ผู้ซึ่งมีพรสวรรค์สูงอยู่แล้วได้กลายเป็นช่างตีเหล็กขั้นสูงตัวแทนละแวกนี้… โดยไม่ว่าเขาจะมีศิษย์อีกกี่คน แต่เร็กเตอร์ก็จะเล่าเรื่องในวันที่ได้พบกริดให้ทุกคนฟังเสมอ… แต่กริดกลับไม่มีทางได้รู้เรื่องนี้เลย 

       ***

       ณ ใจกลางหมู่บ้าน
       
       กริดกำลังยืนตะลึงอยู่ด้านหน้าโบสถ์รีเบคก้าของหมู่บ้าน

       'ทองคำงั้นหรอ'

       โบสถ์แห่งนี้นับว่าค่อนข้างเล็ก ถ้าหากนำไปเทียบกับโบสถ์ในละแวกเดียวกัน… เพราะมันมีขนาดกว้างเพียงอาคาร1คูหา และมีความสูงไม่มากเท่านัก… แต่กำแพงด้านนอกของโบสถ์กลับถูกฉาบไว้ด้วยทองคำอร่าม 

       "มีวิธีไหนกะเทาะออกมาได้บ้างนะ"

       กริดเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นใคร เขาก็พยายามใช้เล็บขูดทองให้ออก… ทว่าไม่ว่าจะขูดแรงแค่ไหน แต่ก็ไม่มีแม้แต่เศษผงหลุดติดมา 

       "บ้าฉิบ"

       กริดยังคงไม่ยอมแพ้… โอกาสได้ทองคำฟรีมาอยู่ตรงหน้าทั้งที เขาไม่มีวันปล่อยไปง่ายๆ… การกระทำเช่นนี้ บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นคนหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเคยมาหมู่บ้านโรลลิ่งเป็นครั้งแรก… นักบวชวัยกลางคนผู้หนึ่งเห็นเข้าพอดี เขาจึงยืนมองและยิ้มอย่างเอ็นดู 

       'ไม่ได้เห็นคนพยายามทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ'

       นักบวชคนดังกล่าวมีชื่อตัวละครว่า <ตงเพา> … แน่นอนว่าเป็นผู้เล่นชาวจีน… เขาสามารถผ่านด่านทดสอบอันยากลำบากต่างๆ นาๆ ของโบสถ์รีเบคก้า จนได้เป็นนักบวชในที่สุด… และเลเวลในตอนนี้ก็สูงถึง160ทีเดียว   

       เขาฉีกยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปหากริด "น้องชาย… เพิ่งเคยมาที่โรลลิ่งเป็นครั้งแรกหรอ" 

       "...!"

       กริดพลันสะดุ้งเฮือกในขณะที่กำลังนั่งยองในท่าขูดทอง

       "อ่า… ช--ใช่แล้ว! นี่เป็นครั้งแรกของฉัน… โบสถ์สวยมากเลยนะ… ทำให้ย้อนนึกถึงเทพธิดารีเบคก้าเลยล่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!"

       คนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาทัก กำลังสวมชุดประจำโบสถ์รีเบคก้าอยู่… กริดลนลานสุดขีด เขากลัวว่าตนเองจะถูกกล่าวหาเป็นขโมย จึงไม่ทันสังเกตว่าชายคงกล่าวคือผู้เล่น มิใช่เอ็นพีซี

       'นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นผู้เล่นคลาสนักบวช'

       กริดได้ยินกิตติศัพท์ความยากของการเป็นคลาสนักบวชรีเบคก้ามามาก… เป็นสาเหตุที่ว่า เกือบทั้งหมดของนักบวชรีเบคก้าเป็นเอ็นพีซี ไม่ใช่ผู้เล่น… จึงเป็นเรื่องน่าแปลกมากที่นักบวชวัยกลางคนตรงหน้าเขาคือเป็นผู้เล่นทั่วไป  

       'ชื่อตงเพางั้นหรอ… คนจีนสินะ'

       แค่ชื่อตัวละครก็ทำให้หิวได้แล้ว… กริดลั่นวาจาขึ้นในใจทันที… วันนี้จะต้องพาครอบครัวเข้าร้านอาหารจีนให้ได้ และเมนูยอดฮิตก็คือ <หมูตงพอ> 

       "นายเป็นพระในชีวิตจริงด้วยรึเปล่า… ภารกิจเป็นคลาสนักบวชรีเบคก้า… นายผ่านมันมาได้ยังไง"

       ตงเพาหัวเราะอย่างชอบใจ

       "ผมเป็นเพียงคนธรรมดาในชีวิตจริง… ทว่าในซาทิสฟาย… ด้วยความต้องการที่จะรับใช้เทพธิดารีเบคก้าจากใจจริง ผมจึงสามารถข่มกิเลสไว้ได้อย่างน่าประหลาด … หลังจากนั้นจึงได้กลายเป็นนักบวชแห่งแสงสว่าง"

       "ว้าว… ที่จริงฉันเองก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก… แต่การสงบนิ่งยากมากเลยไม่ใช่หรอ… ส่วนเรื่องมีความรัก… เอ่อ ฉันคงไม่มีแฟนอยู่แล้ว… ไม่สิ ฉันไม่ได้ต้องการมีความรักเท่าไร… สิ่งที่ยากคงจะเป็นการสงบนิ่งและอดอาหารมากกว่า… นายทำได้ยังไงกับภารกิจสงบนิ่ง20วันเต็ม… ถ้าฉันได้ยินมาไม่ผิด นักบวชแห่งรีเบคก้าจะต้องมีภารกิจคอยทดสอบอยู่เรื่อยๆ เพื่อรักษาสถานภาพไว้… ผู้เล่นที่สามารถทนมาได้จนถึงตอนนี้ จึงมีจำนวนเพียงน้อยนิดเท่านั้น"

       ความจริงกริดก็ไม่ได้ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นสักเท่าใดนัก… แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้เล่นนักบวชรีเบคก้า… จึงไม่แปลกที่จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ

       ในยามที่ชีวิตกริดตกต่ำ… ทุกครั้งที่เห็นคนอื่นได้ดี… เขามักรู้สึกแย่และพาลอิจฉาอยู่เสมอ

       แต่ตอนนี้ กริดเปลี่ยนไปแล้ว… เขาคนใหม่ที่ประสบความสำเร็จ… เมื่อได้เห็นผู้อื่นได้ดิบได้ดี ก็กล่าวคำชื่นชมออกมาจากใจจริง        

       ตงเพายิ้มให้กริดเล็กน้อย

       "มันยากก็จริงที่จะสงบนิ่งได้นาน… แต่ในยามที่ฉันสวดภาวนาต่อเทพธิดารีเบคก้า เวลากลับผ่านไปเร็วมาก… แถมการสวดภาวนาก็ช่วยเพิ่มค่าพลังเทวะอยู่แล้ว... พอมาลองคิดดูให้ดี พวกวินัยเคร่งครัดก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายนัก… จริงสิ แล้วนายมาที่โรลลิ่งทำไมงั้นหรอ… ที่นี่ไม่มีจุดล่ามอนสเตอร์ที่น่าสนใจ… ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอื่นอีก… นอกเสียจากวาติกัน… ดังนั้นทุกคนที่มายังโรลลิ้ง ล้วนใช้เป็นทางผ่านต่อไปยังวาติกันทั้งนั้น"

       "ฉันเองก็กำลังจะไปวาติกัน… มีภารกิจที่ต้องไปพบกับสันตปาปานิดหน่อย"

       "เห… หลวงพ่อน่ะหรือ"

       ดวงตาของตงเพาพลันเปล่งประกาย

       'ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนของโบสถ์ แต่กลับมีภารกิจต้องไปพบกับสันตปาปาเชียวรึ… ขนาดเรายังทำได้เพียงมองดูองค์สันตปาปาจากระยะไกลเท่านั้น… ดูท่าคงจะเป็นภารกิจระดับ S ไม่ผิดแน่'

       ตกเพาค่อยๆ สำรวจร่างกายกริดทีละส่วน

       'ชุดเกราะกับถุงมือดูธรรมดา… ส่วนผ้าคลุม… อุ๊ฟ… เหม็น!… แหวนวงนั้นก็ดูธรรมดา… แต่รองเท้าเนี่ยสิ… จะต้องเป็นไอเท็มระดับสูงแน่… ใช่แล้ว เขาคือผู้เล่นเลเวลสูง'

       โรลลิ้งอยู่ห่างไกลจากความเจริญของทวีปมาก… หากไม่แข็งแกร่งพอก็แทบไม่มีโอกาสเดินทางมาถึงที่นี่ได้เลย… เพราะตามถนนหนทางล้วนเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ดุร้าย… ตงเพาพลันรู้สึกดีใจทันทีที่รู้ว่ากริดเป็นผู้เล่นเลเวลสูง   

       'เหยื่อชิ้นใหญ่เลยคราวนี้'

       ตงเพากล่าวกับกริดด้วยแววตาแฝงเลศนัย "ฉันเองก็กำลังจะไปวาติกัน… งั้นก็ไปพร้อมกันเลยไหม"

       ถ้าหากมีฮีลเลอร์ร่วมทางไปด้วย เรื่องความสะดวกสะบายไม่ต้องพูดถึง… สำหรับปาร์ตี้อื่น พวกเขาต้องเสียเงินเสียทองจำนวนมากเพื่อจ้างฮีลเลอร์ร่วมทาง

       ดังนั้นการที่กริดได้ฮีลเลอร์เข้าปาร์ตี้ฟรีๆ ยอมไม่มีเหตุผลให้เขาปฏิเสธ  

       "ตกลง ด้วยความยินดี!"

       ทั้งสองจึงสร้างปาร์ตี้ร่วมกัน… กริดพลันต้องตกตะลึงทันทีที่เห็นเลเวลของตงเพา 

       "160! ฉันได้ยินมาว่านักบวชอัพเลเวลยากมากเลยไม่ใช่หรอ… 160นี่ถือว่าเยอะทีเดียว"

       "ที่จริง ฉันต้องคอยทำภารกิจอยู่ตลอด จึงไม่ค่อยมีเวลาอัพเลเวลบ่อยนัก… แต่โชคดีที่คลาสของฉันเนื้อหอม ทุกครั้งจึงได้ออกล่ากับปาร์ตี้เลเวลสูง ทำให้เลเวลอัพได้ไว… แต่ว่ากริด… ไม่ใช่ว่าเลเวลของนายต่ำไปหน่อยงั้นหรือ...147เท่านั้นเอง"

       "ฮะฮะ… ฉันไม่ค่อยมีเวลาอัพเลเวลเหมือนกัน… เพิ่งจะมาว่างเอาช่วงนี้เอง"

       "อ่า… เข้าใจแล้ว"

       ตงเพารู้สึกผิดหวังทันที

       'หมอนี่มันข้ามเขาซูอาสมาได้ยังไงด้วยเลเวลเท่านี้… รอดพ้นจากพวกยักษ์กับกากอยล์มาได้ตลอดทางงั้นหรอ… ดวงจะตีเกินไปแล้ว... บ้าจริง! เรานึกว่าอย่างน้อยก็ควรจะเลเวล160'

       ตงเพามักใช้ความหายากของคลาสตน เป็นสิ่งล่อตาล่อใจนักเดินทางอยู่เสมอ… มันจะพาเหยื่อไปยังสถานที่ซึ่งล็อคเอ้าท์ออกจากเกมไม่ได้ หลังจากนั้นก็จะหาเงินโดยการข่มขู่… เรียกค่าไถ่… หรือไม่ก็ฆ่าทิ้งซะ   

       'เลเวล147งั้นหรอ'

       เป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งเหยื่อเลเวลสูง ตงเพาก็ยิ่งเรียกค่าไถ่ได้มาก… เลเวล147มันออกจะก้ำกึ่งไปหน่อย… ถึงจะสูงกว่าผู้เล่นทั่วไปก็จริง แต่สำหรับแร้งเกอร์ก็ยังถือว่าน้อยมาก  

       'ถ้าหากเลเวลแค่147… การตายไปสักครั้งคงเก็บค่าประสบการณ์คืนได้ไม่ยาก… คนอย่างหมอนี่ไม่มีทางจ่ายค่าไถ่ชีวิตราคาแพงแน่… ชิ! น่ารำคานฉิบ… สงสัยต้องทำเงินด้วยการฆ่าให้ตายและหวังให้รองเท้าดรอปซะแล้ว'

       หลังจากนั้นทั้งสองจึงเดินทางมุ่งหน้าไปยังวาติกัน… โดยมีกลุ่มคนบางพวกกำลังจับตาดูอยู่ไม่ห่าง 

       "ตงเพาเริ่มลงมือแล้ว"
       
       "ตกลง พวกเราจะตามไปกินเหยื่อเหมือนทุกที"

       พวกมันมีทั้งหมด3คน… โดยทุกคนล้วนเป็นคลาสนักสอบสังหารที่ทำงานร่วมกับตงเพาทั้งสิ้น… นักลอบสังหารอันดับที่5 <เชย์>… อันดับที่11 <เคิร์บ>… และอันดับที่13 <สนิฟเฟอร์>… ทั้งสามคนเคยรุมสังหารผู้เล่นอันดับ51ของโลกสำเร็จมาแล้ว… ดังนั้นพวกมันจึงไม่เคยเกรงกลัวเหยื่อแม้แต่รายเดียว

       กริดกำลังกลายเป็นเหยื่อชิ้นโตของพวกมิจฉาชีพ… ทว่าเขากลับยังไม่เอะใจเลยสักนิด… มัวแต่ตื่นเต้นดีใจที่ได้ฮีลเลอร์ร่วมทางไปฟรีๆ  

Comments

  1. ฮ่าๆ ใครจะโดนตบกันแน่

    ReplyDelete
  2. เอ็งพลาดแล้วไอ่หนุ่มมม 555+

    ReplyDelete
  3. เหมือนกรรมจะติดจรวดงานนี้ กริดรวยแน่งานนี้

    ReplyDelete
  4. สนุกมากมายครับ

    ReplyDelete
  5. สรุปว่ากริดไม่ใช่เหยื่อ แต่พวกมิจฉาชีพคือเหยื่อของกริด งานนี้กริดมีด่า แถมรวย

    ReplyDelete
  6. ใครจะโดนตบกันแน่ถ้ากริดตายจริง4คนนี้คงโดนไล่ฆ่าแบบไม่ต้องเล่นกันเลยที่เดียว

    ReplyDelete
  7. ช่างตีเหล็กนั้นมีบทในอนาคตนะครับ บอกไว้ก่อน ถึงจะนานก็เหอะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00