จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 117



       นี่ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของกริด       

       'ขุมทรัพย์ทางการเงินชั้นยอดเลยไม่ใช่รึไง...'

       หากได้เป็นสวามีของแม่เมือง… หมายความว่าเขาอาจมีเอี่ยวกับการเก็บภาษีของเมืองด้วย… วินสตันได้กลายเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของอาณาจักรอีเทอนัลเมื่อไม่นานมานี้… ดังนั้นภาษีที่เก็บได้จะต้องมีมูลค่ามหาศาลแน่นอน… หากแบ่งเปอร์เซ็นต์ส่วนนั้นมาได้ รับรองว่าคงได้รวยไม่รู้เรื่อง… ยิ่งไปกว่านั้น ไอรีนคือทายาทของขุนนางชั้นสูง… หากเราแต่งกับเธอ… ตัวเราเองก็จะกลายเป็ขุนนางชั้นสูงด้วยเช่นกัน… ไม่ใช่แค่ความร่ำรวยอีกแล้ว        

       'ได้ทั้งเงินทองพร้อมอำนาจในเวลาเดียวกัน… และเหนือสิ่งอื่นใด'

       ไอรีนเป็นผู้หญิงที่สวยมาก… เส้นผมสีเงินยาวพราวประกาย… ดวงตากลมโต… ริมฝีปากยิ้มแย้มตลอดเวลา… จมูกเล็กน่ารักได้สัดส่วน… ในสายตากริด เธอคือผู้หญิงที่อ่อนโยนมาก… ไอรีนเป็นที่โด่งดังในด้านกริยามารยาทอันสง่างามและความเป็นกุลสตรีเต็มเปี่ยม… จุดที่ขัดใจเรามีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น… หน้าอกของเธออยู่ในระดับมาตฐานเกินไป   

       กริดไม่มีเหตุให้ต้องปฏิเสธก็จริง… แต่ยังมีบางสิ่งที่ต้องนำมาคิดคำนึง 

       "จนถึงเมื่อครู่… ท่านเอิร์ลยังกล่าวหาว่าฉันเป็นพวกต้มตุ๋นอยู่เลยมิใช่หรือ… แล้วเหตุไฉนจู่ๆ ถึงยกลูกสาวมาให้ง่ายดายแบบนี้... นี่ล้อกันเล่นรึเปล่า"

       เอิร์ลสไตมอธิบายกริดที่กำลังสงสัย

       "ในประวัติศาตร์อันยาวนานนับตั้งแต่อดีต… มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นทั้งช่างตีเหล็กและนักดาบที่ยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน… ชื่อของเขาคือแพ็กม่า"

       "..."

       "วิชาดาบที่นายแสดงให้ฉันดูเมื่อครู่นั้น เหมือนกับวิชาดาบของแพ็กม่าในตำนานมาก… นายต้องไม่ใช่นักต้มตุ๋นแน่… นายคือผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าใช่ไหม"

       "เพียงแค่นั้นก็บอกได้เลยหรือ… ว่าฉันคือผู้สืบทอดแพ็กแห่งม่า"

       "ถูกต้อง! แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว… และมันคือเหตุผลหลักที่ฉันยกไอรีนให้นาย"

       กริดชำเลืองสายตาไปมองไอรีนเล็กน้อย… กริยาท่าทีของเธอ… ตอนนี้กำลังอมยิ้มแก้มแดงอย่างเขินอาย… แน่นอนว่าไอรีนเองก็มีใจให้ไม่น้อย   

       'หึหึหึ!'

       กริดน้ำลายสอทันที… หลังจากจบกับอาฮยองรักแรกในชีวิตจริงได้ไม่ค่อยสวยนัก… เขาก็คิดว่าชั่วชีวิตนี้คงมิอาจสานสัมพันธ์กับผู้หญิงได้อีก… แต่ตอนนี้กลับได้รับโอกาสอีกครั้งกับไอรีน! ถึงใครบางคนจะหัวเราะเยาะว่าเป็นเพียงแค่เอ็นพีซีในเกม… แต่ซาทิสฟายไม่ใช่เกมธรรมดา นี่ที่คือโลกเสมือนจริงใบที่สอง… เอ็นพีซีทุกตัวเหมือนกับมนุษย์ทุกประการ… ทั้งอารมณ์… ความคิด… ร่างกาย และจิตใจ    

       กริดดีใจมากจนเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

       'ในที่สุดก็ได้สละความบริสุทธิ์สักที...'

       เป็นโอกาสดีที่จะได้สลัดความซิงที่ไม่ต้องการ ซึ่งสั่งสมมาถึง27ปีเต็ม… และในเวลาเดียวกัน สถานะทางสังคมจะสูงขึ้น และเงินทองก็จะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย… กริดไม่มีทางพลาดโอกาสนี้ไปแน่

       แต่ก็ยังติดอยู่เรื่องหนึ่ง   

       'ใจจริงเราก็อยากจะแต่งงานซะเดี๋ยวนี้เลย… แล้วรีบๆ เริ่มคืนแรกเพื่อสละความบริสุทธิ์ไปให้เร็วที่สุด… ทว่าเราเองก็ยังต้องรีบทำภารกิจประจำคลาส… แถมยังต้องกลับไปทำงานที่โรงตีเหล็กข่านด้วย'

       กริดตัดสินใจอธิบายออกไป

       "ป--เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้สมรสกับหญิงสาวสมบูรณ์พร้อมอย่างไอรีน… ทว่า… ฉันคงจะแต่งงานทันทีเลยไม่ได้ เพราะยังมีธุระด่วนที่ต้องรีบไปจัดการ… แล้วก็อีกเรื่อง… ฉันยังต้องทำงานอยู่ที่โรงตีเหล็กข่านต่อไปถึงแม้จะแต่งงานแล้ว… แล้วท่านเอิรล์จะรับได้หรือ ที่บุตรเขยของขุนนางระดับสูงเป็นเพียงแค่ช่างตีเหล็กธรรมดาสามัญ"

       "ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า ก็ต้องทำงานช่างตีเหล็กอยู่แล้วมิใช่หรือ! มันไม่ใช่ความผิดของนายเสียหน่อยที่เป็นช่างตีเหล็ก… ตรงกันข้าม มันคือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ… ส่วนพิธีสมรสไว้ค่อยจัดขึ้นในวันที่นายสะดวกก็แล้วกัน"

       "ยอมไม่ได้เด็ดขาด!"

       บลันด์… ผู้ที่เพิ่งจะลุกขึ้นมาอย่างลากลำบากหลังจากถูกกริดสั่งสอน… ยามนี้มันมิอาจทนฟังต่อไปได้อีก  
       
       "ท่านลอร์ด! ชายคนนี้เป็นพวก 'ถูกสาป'!… คนอย่างมันถูกองค์เทพสาปส่ง!… ถึงจะตายไปพวกมันก็ยังฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้… ไม่แก่ชรา… หรืออีกความหมายหนึ่ง… พวกมันไม่ใช่มนุษย์! แล้วท่านจะรับมันเป็นบุตรเขยจริงรึ!"

       'ถูกสาป' เป็นอีกคำหนึ่งที่เอ็นพีซีใช้เรียกผู้เล่นในซาทิสฟายด้วยอารมณ์โกรธแค้น… ในสายตาของเอ็นพีซีบางจำพวก… ผู้เล่นที่ไม่แก่เฒ่า… ตายแล้วฟื้น… คนพวกนี้ไม่สมควรถูกนับว่าเป็นมนุษย์… พวกเขาจึงคิดว่าน่าจะกลุ่มคนที่ถูกสาปโดยองค์เทพ… ทว่าก็ยังมีเอ็นพีซีอีกมากที่คิดในแง่ดี… หนึ่งในนั้นคือเอิร์ลสไตม      

       "การมีชีวิตนิรันด์จะเป็นการถูกสาปได้อย่างไร… ต้องเรียกว่าได้รับการอวยพรถึงจะถูก… พวกเขาได้รับความรักจากองค์เทพ… ฉันดีใจที่สวามีของบุตรสาวคือผู้ที่องค์เทพชื่นชอบ"

       แต่บลันด์ก็ยังคงขบกรามแน่นอย่างไม่ยอมรับ

       "มันเป็นการอวยพรที่ไหนกัน! ท่านลอร์ดกำลังเข้าใจผิด!… ท่านลองคิดถึงวันที่ไอรีนแก่ชราตามลำพัง… เธอจะรู้สึกเศร้าเสียใจขนาดไหนกัน! ท่านลอร์ด… ตัวท่านในตอนนี้กำลังหน้ามืดตามัวจนไม่สนใจความสุขของไอรีนเลยสักนิด!"

       "มันเป็นเรื่องที่พวกเขาทั้งสองคนตัดสินใจกันเอง… พวกเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวมิใช่หรือ"

       ไอรีนพยักหน้า "ใช่แล้ว… เซอร์บลันด์ ฉันรักคุณกริด… ต่อให้รูปลักษณ์ของเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง… แต่ฉันก็เต็มใจยอมรับเรื่องนั้นไว้แล้ว… และเตรียมพร้อมรับมือกับความโดดเดี่ยวลำพังที่อาจต้องพบเจอ… แต่ถึงยังไงฉันก็ยังอยากอยู่กับคุณกริด"

       อันที่จริง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บลันด์ได้สารภาพรักกับไอรีนอยู่หลายครั้งหลายหน... แต่ไอรีนก็ไม่เคยมองบลันด์ในแง่นั้นเลย… มันจึงทำได้เพียงยอมรับชะตากรรม… บลันด์ถึงกับเลือกที่จะมาเป็นอัศวินประจำตระกูลของเธอ… เพียงเพื่อได้เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ก็เกินพอ          

       มันคิดจากใจจริง ว่าอยากให้ไอรีนได้พบรักและแต่งงานกับผู้ชายที่เพียบพร้อม… ทว่าคนที่ไอรีนเลือก… กลับกลายเป็นพวกถูกสาป!  

       'ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร… แต่เพียงแค่สถานะผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า… มันมากพอจะทำให้มองข้ามตัวตนการเป็นพวกถูกสาปได้เชียวหรือ'

       แพ็กม่าคือตำนาน…บลันด์รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี… แต่กริดคือผู้ที่สืบทอดทักษะความสามารถของแพ็กม่ามาเท่านั้น… หาใช่ตัวแพ็กม่าเองไม่… บลันด์มั่นใจมากว่า กริดไม่มีทางยอดเยี่ยมได้อย่างแพ็กม่าแน่… มันต้องการจะแสดงให้ทุกคนเห็น… ถ้าหากมันเอาชนะกริดได้… ก็มีโอกาสตัดขาดความเป็นผู้สืบทอดออกจากตัวตนแพ็กม่าได้…และบางทีเอิร์ลสไตมอาจเปลี่ยนใจ 

       บลันด์หยิบดาบขึ้นอีกครั้ง

       "กริด! ฉันขอท้านายอีกรอบ!"

       การพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นเพียงเพราะตนประมาท บลันด์คิดเช่นนั้น… ถ้าหากได้สู้กันอีก ผลลัพธ์ต้องไม่เหมือนครั้งก่อนแน่… มันเชื่อมั่นในวิชาดาบและเวทย์เสริมพลังของตนมากกว่าสิ่งอื่นใด… คราวนี้มันทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อใช้วิชาดาบของเอิร์ลสไตมโดยผนวกเข้ากับเวทย์วายุ 
       
       ซู่ววววววววว!

       เกิดลมพายุสลาตันขึ้นภายในโถงงานรับรองอย่างฉับพลัน… พลังเวทย์ของบลันด์ได้ทำให้พรมและเครื่องตกแต่งรอบห้องสั่นไหว… ท่ามกลางความวุ่นวาย ดาบของมันกำลังเปี่ยมไปด้วยพลังอันรุนแรงหนักหน่วงสุดขีด… ลมพายุเกรี้ยวกราดเสียจนไอรีนของผงะถอยหลังไปพร้อมกับได้รับบาดเจ็บ

       "เซอร์บลันด์! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" ไอรีนพลันตะโกนขึ้น… แต่มีหรือที่บลันด์ในตอนนี้จะรับฟัง 

       'เราต้องฆ่ามันให้ได้!'

       นี่คือหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์… ไม่ว่ายังไง…  บลันด์ก็ต้องทำลายทุกสิ่งที่อาจทำให้ไอรีนเจ็บปวดให้ได้

       ฟุ่บ!       

       "ย๊ากกกกก!"

       ร่างกายของบลันด์ที่ใช้พายุสลาตันเป็นแรงขับเคลื่อนได้พุ่งเข้าหากริดอย่างรวดเร็ว… ใบหน้าของกริดพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย 

       'จะต่ออีกยกงั้นหรอ… ไอ้เด็กนี่สงสัยจะไม่รู้ตัวว่ากำลังสู้อยู่กับใคร'
       
       กริดมีวิธีมากมายในการรับมือ… ไม่ว่าจะใช้วิชาดาบหน่วงเพื่อหยุดบลันด์… ใช้เวทย์บินเพื่อหลบไปด้านบน… หรือแม้กระทั่งการเรียกพาเฟรเนี่ยมออกมาป้องกัน… แต่คราวนี้กริดกลับเลือกเผชิญหน้า… เขาจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความต่างชั้น… ไอ้เด็กโง่นี่จะได้ไม่กล้ากำแหงอีกเป็นครั้งที่สาม   

       "วิชาดาบแพ็กม่า… สังหาร!"

       เปรี้ยงงง!

       ความเคียดแค้นได้ถูกรวบรวมไว้ที่คมดาบดาอินสเลฟอย่างเต็มเปี่ยม… ปลายดาบยักษ์ทิ่มแทงออกไปใส่พายุสลาตันอันบ้าคลั่งของบลันด์ที่อยู่ตรงหน้า 

       ในเวลาเดียวกัน… แรงปะทะอันดุดันที่เกิดขึ้นได้พุ่งกระจายออกไปทั่วทั้งห้อง... เสาต้นหลักที่คอยค้ำเพดานห้องไว้ ได้แตกกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ… เพดานพลันพังทลายลงมาในทันที  
       
       "บลันด์! แกกล้าดียังไง!"

       การกระทำของบลันด์ทำให้ไอรีนบาดเจ็บหนัก… เอิร์ลสไตมต้องโกรธกริ้วทันทีที่ช่วยไอรีนออกมาได้อย่างฉิวเฉียด 

       "แกกล้าทำให้ไอรีนต้องบาดเจ็บเชียวรึ! ลืมหน้าที่ของตัวเองไปแล้วรึไง! ลูกสาวของฉันเกือบจะ..."

       เอิร์ลสไตมต้องหยุดพูดกลางคันเพราะเหลือบมาเห็นว่าบลันด์หมดสภาพไปแล้ว… แต่กลับกัน กริดนั้นแทบจะไร้รอยขีดข่วน… มีแต่เสื้อผ้าเท่านั้นที่เป็นรอยเล็กน้อย… เมื่อกริดหันมามองไอรีนที่กำลังบาดเจ็บหนักในอ้อมอกเอิร์ลสไตม… เขาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าใจ 

       "ท่านหญิงของฉัน… เธอต้องได้รับบาดเจ็บเพราะฉันแท้ๆ"

       เอิร์ลสไตมส่ายศีรษะเล็กน้อย "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย… เป็นความผิดของฉันเอง…  เป็นเพราะฉันสงสัยในตัวนาย ก็เลยเกิดเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ขึ้น… ฉันเสียมารยาทเกินไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยจริงๆ"

       เอิร์ลสไตมกล่าวขอโทษ

       เดิมทีนั้น พวกขุนนางมักจะทระนงตนในศักดิ์ศรี… โดยปรกติแล้ว พวกเขาจะไม่ยอมก้มหัวให้กลับใครที่ต่ำต้อยกว่า… ทว่าเอิร์ลสไตมกับกล่าวขอโทษออกมาจากใจจริง เป็นเพราะเขาเห็นความถูกต้องสำคัญกว่าคนในสักกัดของตน  

       'เป็นพ่อตาที่ดีกว่าที่คาดแฮะ'

       กริดที่กำลังรู้สึกดีได้เอ่ยปากขอร้องเอิร์ลสไตมออกไป "ถ้าหากท่านเอิร์ลรู้สึกผิดจากใจจริง… เช่นนั้นฉันขอรบกวนบางสิ่งจะได้ไหม"

       เอิร์ลยิ้มรับคำขอของกริด

       'รู้จักต่อรองเสียด้วย… เขาคือผู้สืบทอดของบุคคลในตำนานจริงๆ'

       เอิร์ลสไตมชื่นชอบในความทะเยอทะยานของกริด

       เขาพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับตอบกริดกลับไป "อันที่จริง นายก็คู่ควรจะได้รับรางวัลตอบแทนอย่างยิ่งใหญ่อยู่แล้ว… ทั้งเรื่องดาบตื่นรู้และการช่วยไอรีนออกมา… อ่า… เช่นนั้นก็พูดออกมาได้เลย… หากไม่เกินกำลัง ฉันจะทำอย่างสุดความสามารถ"

       "ฉันได้ยินมาว่า... ท่านเอิร์ลมีความสัมพันธ์อันดีกับโบสถ์รีเบคก้า… ฉันต้องการเข้าพบสันตะปาปาแห่งโบสถรีเบคก้า… ท่านเอิร์ลช่วยเขียนจดหมายแนะนำให้หน่อยได้รึเปล่า… เรื่องทุกอย่างคงจะง่ายขึ้นถ้ามีจดหมายแนะนำตัวจากท่านเอิร์ล"

       เอิร์ลสไตมพยักหน้าอีกครั้ง

       "ไม่มีปัญหา… แต่นายคือผู้ที่สังหารมาลาคัสมิใช่หรือ… เพียงเท่านี้ก็มากพอจะทำให้โบสถรีเบคก้าให้การต้อนรับอย่างดีแล้ว"

       หลังจากนั้น งานเลี้ยงก็ต้องเลิกลาไปเพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้น… กริดออกจากปราสาทมาโดยตกปากรับคำว่าจะแต่งงานกับไอรีน… ก่อนออกมาเขายังนำจดหมายแนะนำตัวของเอิร์ลสไตมติดตัวมาด้วย… แต่ทันทีที่กลับมาถึงโรงตีเหล็ก… ดูเหมือนจะมีใครบางคนที่เฝ้ารอเขาอยู่    

       "นายคือกริดงั้นหรอ"

       คนๆ นั้นคือชายรูปร่างกำยำและมีรอยสักสองข้างแก้มเป็นรูปกรงเล็บสัตว์… เส้นผมสีเงินของเขาตั้งชันขึ้นข้างบนราวกับคนถูกไฟดูด… ดวงตาดุดันน่าดึงดูด… ชื่อตัวละครเหนือศรีษะเขียนไว้ว่า 'ทูน'… ชายคนนี้คือ1ใน6แร้งเกอร์ที่เพิ่งจะเข้าร่วมกิลด์เซด้าก้าห์มาใหม่ 

       แต่เขากลับออกคำสั่งกริด

       "ฉันได้ยินมาว่า นายเป็นช่างตีเหล็กฝีมือเยี่ยมงั้นหรอ… งั้นก็สร้างอาวุธให้ฉันซะ… แล้วก็… นายรู้จักจอมเชือดที่จัดการกับคนของไจแอนท์รึเปล่า… ฉันอยากจะสู้กับมันสักหน่อย… แต่ก่อนอื่นคงต้องมีอาวุธดีๆ ก่อนล่ะนะ… ดังนั้นรีบสร้างให้ฉันเร็วเข้า… ฉันจะได้มีของดีๆ ไว้สู้กับจอมเชือดนั่นบ้าง… ข๊ากกก~ ถุ้ย!"

       ทูนถุยน้ำลายไปพลาง พูดไปพลาง… ดูราวกับเป็นพวกนังเลงท้องถิ่นไม่มีผิดเพี้ยน… ทำให้กริดพลันย้อนนึกไปถึงพนักงานทวงหนี้ของบริษัทมาเธอร์ฮาสอีสแฮปปี้ทันที… กริดจ้องเขม็งไปที่ทูนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อให้ได้    

       "นายรู้รึเปล่าว่ากำลังถุยน้ำลายใส่โรงตีเหล็กของใคร"

       "ห๋า… ฮ่าฮ่า!"       

       ตูนพลันหัวเราะขึ้นอย่างขบขัน… เขาตัดสินใจเปิดหน้าต่างสนทนากิลด์อีกครั้งและยืนยันว่าช่างตีเหล็กคนนี้มีเลเวลแค่100ต้นๆ เท่านั้น… ทูนจึงอดขำออกมาไม่ได้

       "เฮ้… ฉันรู้ว่าทักษะตีเหล็กของนายยอดเยี่ยมมากจนมีแต่คนตามง้อ… แต่ฉันไม่เหมือนคนพวกนั้นหรอกนะ… เหตุผลที่ฉันเข้าร่วมกิลด์นี้ก็เพื่อหวังจะพบกับจอมเชือดคนนั้น! เมื่อสู้เสร็จแล้วฉันก็จะออกจากกิลด์ทันที… เข้าใจสถานการณ์บ้างรึเปล่า… ฉันไม่ใจดีกับนายหรอกนะ… ถ้าไม่อยากตายก็รีบสร้างอาวุธให้ฉันซะ!  ข๊ากกก~ ถุ้ย!"

       "..."

       แน่นอนว่า6สมาชิกใหม่ไม่มีใครรู้ว่ากริดคือจอมเชือดที่ไล่ฆ่ากิลด์ไจแอนท์… เป็นเพราะสมาชิกเดิมไม่ต้องการจะเปิดเผยข้อมูลของกริดให้กับคนที่ยังไม่เชื่อใจ 

       "เฮ้… แล้วนายรู้จักชื่อของจอมเชือดคนนั้นรึเปล่า… สมาชิกคนอื่นไม่ยอมตอบฉันเรื่องนี้เลยไม่ว่าจะถามยังไง… ทำไมต้องเก็บเป็นความลับด้วยนะ... น่ารำคานชะมัดที่ต้องมานั่งหาเอง... ข๊ากกก~ ถุ้ย!"

       ความอดทนของกริดพุ่งขึ้นถึงขีดสุด

       อา… วันนี้ทั้งวันเขาต้องเหน็ดเหนื่อยมาหลายเรื่อง… รวมทั้งเรื่องที่ต้องแสร้งทำดีต่อหน้าพวกขุนนางด้วย… จนกระทั่งมีตัวน่ารำคานแบบหมอนี่มาอยู่ตรงหน้า 

       "เฮ้… แกน่ะ… ไอ้หน้าส้น@!#"   

       โรงตีเหล็กแห่งนี้คือสถานที่อันแสนสำคัญของกริด

       เป็นจุดแรกที่ทำให้เขาได้พบกับข่าน… เพื่อนคนสำคัญ… และยังเป็นสถานที่ซึ่งใช้ขัดเขลาทักษะตีเหล็กมาโดยตลอด… ความทรงจำดีๆ มากมายอัดแน่นอยู่นับไม่ถ้วน… และวันข้างหน้าก็ยังต้องใช้มันเป็นที่ทำมาหากิน… หากจะพูดให้ดูเวอร์วังสักเล็กน้อย… สถานที่แห่งนี้มีอนาคตอันเจิดจรัสของเขารออยู่… ไม่มีทางที่กริดจะทนได้ เวลาเห็นใครสักคนมาถุยน้ำลายใส่       

       กริดที่โกรธจัดพลันชักมีดสั้นในอุดมคติออกมา

       "แกจะต้องถูกลงโทษที่ทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ต้องมัวหมอง!"

       "พรวด!" ทูนกุมท้องไว้พร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง "วะฮ่าฮ่าฮ่า! เฮ้… ช่างตีเหล็กโกรธเข้าจนได้… สถานที่ศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ… วะฮ่าฮ่า! งั้นฉันจะฆ่าแกให้ดูสักครั้งเป็นไง"

       ชิ้ง!

       ทูนสะบัดข้อมือเบาๆ หนึ่งครั้ง… ทันใดนั้นก็มีใบมีดอันแหลมคมจำนวน3เล่มเด้งออกมาจากปลอกข้อมือที่มันสวมอยู่… ดูราวกับเป็นวูฟเวอรีนที่เรียกกรงเล็บอดามันเที่ยมออกมา… ทูนจ้องมองกริดด้วยสายตาที่ชั่วร้าย  

       "แกกล้าชักอาวุธต่อหน้าฉันงั้นหรอ… ตายซะเถอะ!"

       ทูนเอาจริง มันหวังจะฆ่ากริดให้ตายไปก่อนสักรอบ กริดจะได้ไม่กล้าขัดขืนมันอีก

       เคร้งงง!

       ทูนเหวี่ยงกรงเล็บในมือเข้าใส่กริดดุจดั่งสัตว์ป่าตะปบเหยื่อ… เป้าหมายของการโจมตีคือบริเวณหน้าอก… กริดรีบยกมีดสั้นอุดมคติขึ้นมาบล็อคไว้อย่างยากลำบาก  

       '3ถึง4เท่าเลยงั้นหรอ'

       กริดพลันเกิดอาการสับสน… หลังจากฆ่ามาลาคัส… ค่าพละกำลังของกริดก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการสร้างไอเท็มขึ้นหลายชิ้น รวมไปถึงแต้มสถานะที่ใช้ไปจากการเลเวลอัพ… ตอนนี้เขาจึงมีค่าพละกำลังเกิน1,000แต้มแล้ว… จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่แพ้ใครในการประลองกำลัง

       ทว่าตอนนี้กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับพละกำลังของทูน

       หงึกหงึก! หงึกหงึก!

       มัดสั้นอุดมคติกำลังสั่นหงึกหงัก… ในที่สุดกริดก็ต้องยอมก้าวถอยหลังเมื่อคมมีดเล่มที่ยาวที่สุดถูกดันเข้ามาสัมผัสกับหน้าอก… กริดตัดสินใจบิดมีดสั้นในมือและปัดกรงเล็บออก… เป็นการหลบการโจมตีและสร้างช่องว่างไปพร้อมกัน  

       'วัดพลังด้วยไม่ไหวแน่'

       ในระยะหลัง…  กริดเริ่มรู้ว่าตนเองแข็งแกร่ง… โดยมั่นใจว่าตัวเขาเก่งกว่าไอเบลลินที่เคยอ่อนแอสุดในกิลด์แน่นอน… เพราะก่อนที่ไอเบลลินจะได้หนามแห่งความเคียดแค้น   เขาไม่สามารถรับมือกับพวกไจแอนท์ทั้ง12คนได้… ทว่ากริดกลับไล่เชือดพวกมันเป็นผักปลา 

       แต่กริดก็ยังไม่เคยวัดฝีมือกับสมาชิกกิลด์คนอื่นโดยตรง จึงยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถสู้กับพวกแร้งเกอร์ได้ไหม… เพราะทูนคือผู้เล่นอันดับ40ของโลกในตอนนี้ 

       ทูนถึงกับผิวปาก "เห๋… นายหยุดการโจมตีจากฉันได้ด้วยหรอ… เจ๋งเป้ง!"

       มุมปากทูนกระตุกเล็กน้อย… มันเริ่มรู้แล้วว่ากริดไม่ใช่ช่างตีเหล็กธรรมดา จึงให้ความสนใจมากขึ้น 

       "น่าสนใจดีนี่!"

       ฟุ่บ!

       ดวงตาของทูนกลายเป็นสีแดงก่ำ… เส้นผมสีเทาเงินได้งอกออกมาตามร่างกายอันกำยำ... แรงปะทะอันมหาศาลพุ่งเข้าใส่กริดในพริบตา

       'แรงบ้าอะไรกันเนี่ย...'

       กริดเริ่มคิดจะสู้อย่างจริงจังขึ้นมาบ้างแล้ว… คราวนี้ไอเท็มทั้งหมดเตรียมที่จะถูกนำออกมาใช้… รวมทั้งดาอินสเลฟและหมวกหัวหน้าออร์คน้ำแข็งด้วย  

       เปรี้ยงงง!

       ทันใดนั้น… มีใครบางคนได้เตะเสยจากด้านข้างจนทำให้ทูนกระเด็นไป 

       "อั่ก!"

       กร๊อบ!

       เป็นเสียงกระดูกหัก… ดวงตาของทูนกลับมาเป็นสีขาวอีกครั้งเมื่อร่างมันตกถึงพื้น 

       "ไอ้ระยำเอ้ย!" หลังจากสถบเสร็จ ทูนก็หันไปมองว่าใครคือผู้ลอบโจมตี… ไม่ใช่ใครอื่น… เรกัสนั่นเอง "เรกัส หมายความว่าไงกัน… นายเป็นพวกขี้ขลาดที่จู่โจมคนอื่นด้านหลังตั้งแต่เมื่อไร… ไม่ใช่ว่านายคือเทควอนมาสเตอร์หรอกหรอ"  

       ทูนหันไปส่งใส่เรกัสอย่างประชัดประชัน

       "ทูน… ถ้านายคิดจะทำร้ายกริดอีกแม้เพียงครั้งเดียว… ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้ในเกมนี้อีกต่อไป!!"

       เรกัสที่ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา… ยามนี้กลับเดือดดาลขึ้นมาอย่างสุดขีด... ทูนเองถึงกับชะงัก

       'ชายคนนี้… ไม่ใช่ข่าวลือว่าเป็นพวกอารมณ์ดีตลอดเวลาหรอกหรอ… พอโมโหแล้วน่ากลัวฉิบ'

       ทูนค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างเงียบงัน… ข้อมือที่เคยบิดเบี้ยวผิดรูปจนน่ากลัว ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นดังเดิมแล้ว… เป็นการรักษาตัวเองด้วยความเร็วที่น่าตื่นตะลึงมาก… ในที่สุดมันก็เก็บกรงเล็บเข้าไปในปลอกข้อมือ

       "เทควอนมาสเตอร์เรกัส… สักวันหนึ่งฉันก็คิดจะท้าสู้กับนาย… แต่ไม่ใช่ตอนนี้… ช่างตีเหล็กคนนั้นน่าสนใจมากทีเดียว… ด้วยความสัตย์จริง ฉันว่า2ต่อ1มันยากเกินไปหน่อย… แล้วพบกันใหม่นะ"

       "เฮ้ย! ไอ้บัดซบ! กลับมาทำความสะอาดก่อนสิโว้ย!"

       เรกัสรีบห้ามกริดที่ฉุนเฉียวเอาไว้ "ชายคนนั้นรับมือยากมากในร่างสัตว์… เขาเป็นคนที่สู้ด้วยลำบาก"

       "ไม่! ฉันจะไปเชือดแม่งเดี๋ยวนี้! ทำไมจิสึกะถึงรับคนแบบนี้เข้ากิลด์มาได้! หมอนี่มันเสียสติไปแล้วชัดๆ… ทำไมถึงรับมาไม่ดูตาม้าตาเรือบ้าง"

       "วิธีการคิดของเขาไม่ซับซ้อน… อยากได้อะไรก็พูดออกมาตรงๆ ไม่มีลูกเล่น… จิสึกะบอกว่าคนประเภทนี้ควบคุมง่าย… แล้วก็มีเรื่องอื่นที่นายต้องสนใจมากกว่า… ฉันหาเบาะแสของโล่เทวะพบแล้ว"

       "...!!"

       เรกัสคือชายเพียงคนเดียวที่ออกตามหาโล่เทวะอย่างไม่หยุดหย่อนนับตั้งแต่ที่กริดขอร้อง… และสุดท้ายเขาก็ได้เบาะแสมา… กริดพลันลืมเรื่องทูนไปในพริบตาพร้อมกับถามต่อไป  

       "อยู่ไหน… โล่อยู่ที่ไหน"

       แต่เรกัสกลับอธิบายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก "เอ่อ… อยู่กับหนึ่งในบุตรีแห่งรีเบคก้า… ฉันลองนัดพบเธอดูแล้ว แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา… ดูเหมือนเธอไม่ต้องการจะคืนโล่มาให้"

       "บุตรีแห่งรีเบคก้างั้นหรอ"

       กริดพลันย้อนนึกไปถึงสาวสวยในเดรสสีฟ้า… ผู้ที่พังกำแพงเข้ามาขัดขวางสาวกยาธานที่พยายามขโมยโล่เทวะไป 

       'ชื่ออะไรแล้วนะ… อิสซาเบลละมั้ง… หากจำไม่ผิด สาวกแห่งยาธานต้องอึ้งไปทันทีที่รู้ว่าเธอคือบุตรีแห่งรีเบคก้า'

       กริดถามต่อไป

       "แล้วบุตรีแห่งรีเบคก้าคืออะไร"

       เรกัสอธิบายออกมาเท่าที่เขารู้

       "เป็นสมญานามที่มอบให้กับ1ใน3พาลาดินที่แข็งแกร่งที่สุดของโบสถ์รีเบคก้า… พวกเธอจะได้รับอาวุธศักดิ์สิทธิ์จากเทพธิดารีเบคก้าไว้ใช้งานคนละชิ้น… มีบางคนกล่าวว่า บุตรีแห่งรีเบคก้าเก่งกาจระดับเดียวกับสาวกแห่งยาธานลำดับ2และลำดับ3… ถึงแม้โบสถรีเบคก้าจะมีกำลังรบไม่มาก แต่การที่ผู้คนไม่กล้ามีเรื่องกับโบสถ์ ก็เพราะการมีตัวตนอยู่ของบุตรีแห่งรีเบคก้า"

       "...สรุปสั้นๆ ก็คือ… ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมคืนโล่มาให้สินะ"

       "ก็ประมาณนั้น"

       "..."

       กริดถึงกับปวดกระหม่อม… เขาต้องการให้สันตะปาปาของโบสถ์รีเบคก้าอวยพรพาเฟรเนี่ยมให้… แต่คราวนี้กลับต้องมีปัญหาค้างคาอยู่กับบุตรีแห่งรีเบคก้า… เริ่มจะลางไม่ดีอีกแล้วสิ  

       เรกัสยิ้มอย่างอ่อนโยน

       "ไม่ต้องกังวลไป… นายอย่าลืมว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของเซดาก้าห์… ถ้าหากต้องการความช่วยเหลือ คนที่ว่างก็พร้อมจะช่วยทุกเมื่ออยู่แล้ว… โดยเฉพาะหน้าใหม่6ทั้งคนนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ"

       "...ฉันได้ยินมาว่า ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาทุกคนเป็นพวกสติไม่สมประกอบ… พอดูจากทูนแล้วก็น่าจะจริง… พวกน้ันช่วยอะไรฉันไม่ได้หรอก"

       "ฮะฮะ"

       หลังจากนั้น… กริดได้ส่งข้อความส่วนตัวไปหาจิสึกะพร้อมกับอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง… จิสึกะก็ไม่ใช่พวกงี่เง่า เธอย่อมเข้าใจถึงความสำคัญดี  

       >> แน่นอน ภารกิจของนายต้องมาก่อน… ถ้าอย่างนั้น นายยังไม่ต้องสร้างไอเท็มให้ใครจนกว่าภารกิจจะเสร็จก็แล้วกัน… แล้วถ้าต้องการความช่วยเหลือ… สามารถติดต่อมาได้ทุกเมื่อ… ฉันจะรีบไปทันที    

       และในค่ำคืนนั้น กริดก็รีบออกเดินทาง โดยมีเป้าหมายคือโบสถ์ใหญ่แห่งรีเบคก้า

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00