จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 560
ภายใต้แสงอาทิตย์อันร้อนแรง เบื้องล่างเป็นมหกรรมหลั่งเลือดขนาดใหญ่ เสียงร้องโหยหวนดังระงมไปทั่วไบรัน
กริดสวมหน้ากากประหลาดไว้ครึ่งหน้า ดูไม่ออกว่ากำลังหัวเราะหรือร้องไห้ ทุกครั้งที่กวัดแกว่งความผิดพลาดเป็นครึ่งวงกลม ทหารอีเทอนัลสิบคนเสียชีวิตในพริบตา และบ้างก็มากถึง 20 คน เมื่อกริดทำการเหวี่ยงดาบเป็นวงกลมครบหนึ่งรอบ
ดาบใหญ่ทรงฉลามได้ฉีกทำลายชุดเกราะเก่าโทรมของพลหอกในการฟันครั้งเดียว
"เคยได้ยินมาว่า ชายคนนี้มีวิชาดาบกล้าแกร่ง"
แต่ไหนแต่ไร กริดมีเชื่อเสียงไปทั่วอีเทอนัลในด้านวิชาดาบที่แข็งแกร่ง ว่ากันว่าเทียบเท่ามหาจอมดาบเลยทีเดียว
แต่หนึ่งสิ่งที่ยังคาใจพวกมันมาก
"วงกลมสีขาวรอบตัวหมอนั่นคืออะไรกันแน่"
บารอนดูก้า มันคือมหาจอมดาบอีกหนึ่งคนของอีเทอนัล เฉกเช่นชักสเล่ย์
ด้วยความเก่งกาจที่มี ลูซิลิฟจึงชื่นชอบดูก้ามากเป็นพิเศษ มันสัญญาว่าจะมอบตำแหน่งเอิร์ลให้หลังจากจบสงครามนี้ แต่ด้วยเงื่อนไขที่ดูก้าแสดงฝีมือได้อย่างโดดเด่น
แน่นอนว่า ดูก้าไม่คิดนิ่งเฉย หากมันตัดศีรษะกริดได้ ยศขุนนางของมันไม่จบแค่เอิร์ลแน่ อาจไปถึงมาร์ควิส
ขณะบารอนดูก้ากำลังเฝ้าสังเกตกริด มือขวาของมันก็เดินเข้ามารายงาน
"จากการวิเคราะห์ของหน่วยจอมเวท สิ่งนั่นน่าจะเป็นศรเวทที่มาจากของวิเศษเหมือนกับเวทบิน"
"โฮ่… ศรเวทที่ไม่ยิงออกมาในทันทีงั้นรึ"
บอลเวทสีขาวรอบกายกริดมีทั้งสิ้น 113 ลูก
และค่อนข้างแน่ชัดแล้ว กริดคงเก็บมันไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เมื่อถึงตอนนั้น ศรเวททั้งหมดอาจถูกปล่อยพร้อมกันในคราวเดียว
'แถมยังมีฝ่ามือสีทองสี่ข้างที่ชื่อหัตถ์เทวะนั่นอีก'
มือทุกข้างทำการปกป้องสี่ทิศรอบกายกริด พวกมันยังถือค้อนแปลกประหลาด และที่น่าตกใจกว่านั้น ค้อนในมือหัตถ์เทวะสามารถสังหารพลหอกของอีเทอนัลได้ง่ายดาย
'แข็งแกร่งมาก'
เป็นการผสานอย่างลงตัวระหว่างวิชาดาบที่แข็งแกร่งและของวิเศษสุดอลังการ กริดมีพลังเหลือล้นสมกับเป็นตำนาน
'ถ้าชายคนนี้สวมใส่ชุดศึกธรรมดาทั่วไป ก็คงไม่น่ากลัวเท่าไรนัก ถึงกระนั้น เราก็ไม่ควรสู้กับมันตามลำพัง'
บารอนดูก้ามิได้หวั่นเกรงกริด ฝ่ายมันมีทหารมากถึงแสน กริดไม่รอดแน่หากฝูงทหารยังกรูกันเข้าไปเป็นโล่มนุษย์อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน กริดเริ่มถูกธนูและเวทมนตร์โจมตีใส่บ้างแล้ว เกิดเป็นบาดแผลเล็กน้อย แต่หากสะสมมากเข้า ทั้งค่าเรี่ยวแรงที่หมดลงและบาดแผลมากมายจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของกริดแน่นอน
'อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็คงหมดสภาพ'
เมื่อถึงตอนนั้น มันจะนำอัศวินออกไปเด็ดหัวกริด
"หึหึ..."
บารอนดูก้ายิ้มอย่างชั่วร้ายในยามครุ่นคิด
สวบ สวบ
มียินเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นจากขั้นบันได
บารอนดูก้ากำลังยืนอยู่บนยอดหอนาฬิกาจัตุรัสไบรัน
มันหวังจะมองเห็นสงครามโดยรอบได้ชัดเจน จึงออกคำสั่งแก่องครักษ์ด้านล่าง ห้ามมิให้ผู้ใดขึ้นมาบนยอดหอคอยเด็ดขาด
ถ้าเช่นนั้น นี่เป็นเสียงฝีเท้าของใคร
'มาร์ควิสเบร่าหรือ'
ไม่มีใครได้รับอนุญาตแน่ หากไม่ใช่ตัวตนระดับสูงกว่ามัน บารอนดูก้าจึงคิดว่านี่คงเป็นเสียงของมาร์ควิสเบร่า
หอนาฬิกาแห่งนี้มีทั้งหมดหกชั้น
ขณะมันกำลังยืนสนทนากับมือขวา พลทหารคนหนึ่ง เจ้าของเสียงฝีเท้า ได้เดินเข้ามาในจุดที่มันและมือขวายืนอยู่
ตรงหน้าดูก้าคือทหารสวมเกราะหนังเก่าชำรุด
ย่อมหมายถึง พลทหารระดับต่ำสุดที่ถูกเกณฑ์มารบ
'ทหารมาที่นี่ได้ยังไง'
มือขวาของดูก้ารีบหันไปส่งเสียงตวาด
"แกจะมีความผิดร้ายแรงหากละทิ้งหน้าที่ระหว่างสงคราม แกอยู่หน่วยไหน! ไม่สิ แล้วแกมาที่นี่ทำไม!"
พลทหารธรรมดาที่ไม่ธรรมดา อาส
เขาตอบกลับพร้อมกับยกปลายหอกขึ้นชี้
"ฉันคือทหารของดยุคกริด มาที่นี่เพื่อตัดหัวบารอนดูก้า"
"..."
โฮ่ง โฮ่ง
เหตุใดพวกมันถึงได้ยินเสียงหมาเห่า
การแนะนำตัวสุดแสนพิลึกของพลทหาร ทั้งบารอนดูก้าและมือขวาต่างพากันสับสน
"ฮะฮะ!"
เมื่อบารอนดูก้าได้สติกลับมา มันจึงหัวเราะกับตัวเองเล็กน้อย
แน่นอนไม่ใช่หัวเราะเพราะมีความสุข ความโมโหของมันในตอนนี้ มือขวาจะเป็นผู้ปลดปล่อยแทน
"แกคงเสียสติไปแล้ว"
มือขวาโกรธจัดจนหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็ชักดาบโดยไม่ลังเล
"สายลับของกริด! ฉันจะจบชีวิตแกที่นี่!"
มือขวาของบารอนดูก้าเองก็เชี่ยวชาญวิชาดาบเช่นกัน
แค่พลทหารเพียงคนเดียว สิ่งนี้ไม่เกินฝีมือแน่นอน
ฉัวะ!
คมดาบตวัดใส่ลำคอพลทหารอาสอย่างรวดเร็ว เป็นสปีดที่น่าชื่นชมสำหรับนักดาบ
มือขวาไม่คิดอะไรมาก ก็แค่ทหารกระจอกคนหนึ่งที่กำลังจะถูกตัดหัว อีกฝ่ายคงตายไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศีรษะตนหลุดจากบ่าเรียบร้อยแล้ว
แต่มีบางสิ่งที่แปลก...
'เอ๋!'
พลทหารทหารคนนั้นไปไหน
แลัวทำไมการมองเห็นของตนถึงค่อยๆ ร่วงหล่นสู่พื้น
ตุ้บ
ศีรษะของมือขวาตกถึงพื้นและกลิ้งเล็กน้อย
ใช่แล้ว มือขวามิได้ตระหนักเลยว่า มันเสียเองที่เป็นฝ่ายหัวขาดและจบชีวิตลง
"...แกเป็นใครกันแน่"
ลูกน้องของกริดใช้หอกเด็ดศีรษะมือขวามันได้ง่ายดายขนาดนี้เชียว
บารอนดูก้ายืนจ้องมองแสงสีเทาที่สว่างขึ้นสลับกับปลายหอกที่ชุ่มไปด้วยเลือด อาสเดินเข้ามาหยิบดาบของมือขวาและตอบกลับไปว่า
"ฉันคือทหารของกริด"
"เหลวไหล!"
ชายที่ทำให้มหาจอมดาบรู้สึกหวั่นวิตกได้ ไม่มีทางเป็นพลทหารธรรมดาที่แสนต่ำต้อยแน่! บารอนดูก้าแผ่จิตสังหารรุนแรงในพริบตา ปลายดาบของมันตวัดโจมตีใส่อาสทางซ้ายและขวาเกือบจะพร้อมกัน เป็นความเร็วที่น่าเหลือเชื่อในสายตาคนทั่วไป สมกับเป็นผู้ที่ได้รับสมญานามมหาจอมดาบ
เคร้งเคร้ง!
ทว่า อาสกลับใช้หอกเก่าโทรมรับการฟันทั้งสองครั้งอย่างง่ายดาย เขาแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นพร้อมกับหันไปมองบารอนดูก้า
"ฝีมือดาบของแกกระจอกกว่ามหาจอมดาบคนไหนทั้งหมด"
บารอนดูก้าเพิ่งจะได้เป็นมหาจอมดาบเมื่อไม่นานมานี้ ยังต่างชั้นกับอดีตมหาจอมดาบปิอาโร่สมัยอยู่จักรวรรดิหลายเท่า
ส่วนอาสก็พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องหลังจากอยู่ใต้บัญชากริด แน่นอนว่าบารอนดูก้าย่อมมิใช่คู่ต่อสู้
มันเย็นสันหลังวาบทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงความต่างชั้น
"แกคือ...! คิรินัส!"
มือหอกอันดับหนึ่งของทวีป คิรินัส
หมอนี่รับใช้กริดงั้นหรือ
"วิชาหอกเร์ยดันรูปแบบที่สาม หอกแยกเจ็ดสมุทร!"
เปรี้ยงงงง!
ดาบบารอนดูก้าถูกปัดออก หอกที่อาบแสงทองอร่ามได้พุ่งใส่มันเป็นเส้นตรงอย่างไร้ความปราณี นี่เป็นถึงทักษะที่สามารถจบชีวิตนอติลุส หลักเดียวแห่งอัศวินสีชาดลงได้ แน่นอนว่าบารานดูก้าย่อมไร้โอกาส
"อ๊ากกกก!"
บารอนดูก้าถูกแสงสีทองอาบร่างและสลายไป
อาสสำเร็จภารกิจของตนและเดินลงจากหอนาฬิกา เป้าหมายถัดไปคือเอิร์ลแคร์เรี่ยน เอิร์ลคนนี้ก็เป็นมหาจอมดาบ เก่งกว่าบารอนดูก้าเล็กน้อย
อาสต้องเก็บกวาดคนที่อาจเป็นภัยต่อกริดให้สิ้นซาก
***
'ง่ายกว่าที่คิดแฮะ หรือว่าเป็นเพราะนี่คือช่วงแรก'
ความตายในเกมเทียบเท่าความตายในชีวิตจริงไม่ได้ มันไม่ใช่จุดจบโดยสมบูรณ์ แต่หากเลือกได้ ผู้เล่นก็ไม่ต้องการเสียชีวิตในเกมเช่นกัน ทุกคนล้วนกลัวจะสูญเสียค่าประสบการณ์และไอเท็มล้ำค่า
ใช่แล้ว การกระทำของกริดจึงนับว่าบ้าบิ่นมาก เขาเสียสติขนาดนำตัวเองลงไปตะลุมบอนกับทหารนับแสน
แต่ยิ่งการต่อสู้ผ่านไป ความหวาดกลัวก็ยิ่งลดลง ด้วยความต่างชั้นหลายระดับ ทำให้กริดฆ่าฟันผู้คนอย่างสนุกนาน แทนที่จะรู้สึกหวาดกลัว
[ คริติคอล! ]
[ ออปชั่นของ <+9 ความผิดพลาด> แสดงผล ทักษะ <โจมตีห้าเท่า> ทำงาน ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 155,900 ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 149,540 ]
[ ท่านสร้าง... ]
ทั้งเลเวล ค่าสถานะ และไอเท็มของทหาร ทุกสิ่งน้อยนิดเกินไปหากนำมาเทียบกับกริด การโจมตีธรรมดาของกริดได้สร้างความเสียหายรุนแรงราวกับทักษะ ทหารทุกคนที่อยู่ในระยะฆ่าฟันล้วนจบชีวิตในพริบตา
"ศรเวท"
กริดไม่ใช้ทักษะ เพื่อรักษาค่าเรี่ยวแรงให้มากที่สุด เขาเลือกใช้ศรเวทแทน การใช้ศรเวทจะไม่สิ้นเปลืองค่าเรี่ยวแรง เนื่องจากมันเป็นเวทมนตร์ระดับต่ำสุด แถมตอนนี้กริดยังมีค่ามานาเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก
ในเวลาเดียวกัน เขากำลังเก็บเลเวลเพื่อเพิ่มระดับทักษะ 'ความชำนาญเวทมนตร์' ที่ได้เรียนจากหมู่เกาะเบเฮ็น
"ไอ้ปีศาจ!"
"ตายซะ!"
ฉึก! ฉึกฉึก!
กริดไม่ใช่ครอเกล เขามีฝีมือควบคุมระดับแร้งเกอร์ก็จริง แต่ไม่ใช่ระดับพระเจ้า ไม่อาจหลบการโจมตีจากทหารได้ทั้งหมด
ทว่า สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล
[ ท่านได้รับความเสียหาย 230 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 150 หน่วย ]
"เยี่ยมมาก! ต้องอย่างนั้น! โจมตีเข้ามาอีก!"
กริดได้รับผลประโยชน์มหาศาลเมื่อถูกทหารหลายคนโจมตีพร้อมกัน
[ ทักษะ <ความชำนาญอาวุธทุกชนิด> เพิ่มเป็นขั้นกลางเลเวล 5 ]
[ ค่าประสบการณ์ของ <เข็มขัดทีราเม็ท (ยูนีค)> เพิ่มขึ้น 0.01% ]
ทั้งค่าประสบการณ์ของทักษะและไอเท็มเพิ่มขึ้นรวดเร็วจนน่าตกใจ
กริดแข็งแกร่งขึ้นในทุกขณะ
'หากเป็นแบบนี้ต่อไป ทักษะชำนาญอาวุธคงเพิ่มได้อีกสักเลเวล และเข็มขัดทีราเม็ดคงสะสมได้สัก 30%'
ทักษะความชำนาญอาวุธทุกชนิดจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วให้กับทุกอาวุธที่สวมใส่ ส่วนความชำนาญเวทมนตร์คือทักษะติดตัวที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีเวท
เข็มขัดทีราเม็ทจะช่วยเพิ่มความถึกทนของร่างกาย และหากพัฒนาไปเป็นเกรดเลเจนดารีเมื่อใด กริดสามารถอัญเชิญแวมไพร์วิสเคาต์ทีราเม็ทออกมาช่วยต่อสู้
กริดพึงพอใจกับพัฒนาการของตนมาก ความเครียดที่พลังอสูรเพิ่มขึ้นจากการสังหารผู้คนพลันหายเป็นปลิดทิ้ง
ปัจจุบัน กริดมองสนามรบเป็นเหมือนกับห้องทำงาน ไม่มีความตึงเครียดแม้แต่นิดเดียว
ทำไมน่ะหรือ
'พวกมันทั้งหมดล้วนกระจอก'
ทัพหนึ่งแสนเป็นเพียงตัวเลข ไม่มีทางที่กริดจะเผชิญอันตรายได้เลย
'อัศวินไปไหนหมดนะ'
บราฮัมอธิบายเพื่อให้กริดกระจ่าง
'ศัตรูกำลังรอให้นายเหนื่อย จากนั้นค่อยลงมือเต็มกำลัง'
'ฉันรู้'
ตนจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด กริดตั้งสมาธิกับการต่อสู้ตรงหน้า
ทันใดนั้น ศัตรูกลุ่มใหม่ปรากฏตัวพร้อมกับโล่ในมือ
'เริ่มมีแผนการบ้างแล้วสินะ'
ใช้โล่เพื่อปัดป้องและให้พลหอกหลังโล่คอยโจมตี ดยุคลูซิลิฟใช้กลยุทธพื้นฐานตามตำรา เป็นวิธีที่ง่ายแต่ได้ผลดี
จุดประสงค์ของแผนนี้ กริดจะยิ่งหมดแรงเร็วขึ้นโดยที่ทหารฝ่ายศัตรูเสียหายน้อยลง
แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากกริดทำลายทุกสิ่งได้ในการโจมตีเดียว
"คิดว่าโล่กระจอกแบบนี้จะทำอะไรฉันได้รึไง"
ฉัวะ!
กริดมิได้แสดงสีหน้าหวาดหวั่นเมื่ออยู่ต่อหน้าโล่
ในสายตาคนทั่วไป ทหารที่มาพร้อมกับโล่ช่างดุดันน่าเกรงขาม แต่กริดกับฟาดดาบในมือใส่โดยไม่รีรอ
จากนั้น
"อ๊ากกก!"
ดาบใหญ่ฟันทะลวงผ่านโล่ ชุดเกราะ และคร่าชีวิตทหารในคราวเดียว
"เชี่ย..."
พลหอกที่อยู่ด้านหลังพลโล่ บัดนี้กำลังสั่นระริกอย่างหวาดกลัว ร่างกายมันไม่มีสิ่งใดกำบังอีกแล้ว เมื่อกริดหมุนตัวฟันซ้ำ พวกมันล้วนเสียชีวิตในพริบตา
ฉัวะฉัวะ!
"...!"
เพียงค่าพลังโจมตีอย่างเดียว ก็สามารถบดขยี้กลยุทธหอกและโล่ของฝ่ายอีเทอนัลได้ราบคาบ ขวัญกำลังใจทหารกำลังดำดิ่งหลังจากได้เห็นเหตุการณ์สยองขวัญเบื้องหน้า
[ ขวัญกำลังใจทหารเหลือเพียงน้อยนิด พลังโจมตีและพลังป้องกันของทหารลดลง 20% อัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติลดลง ]
"บ้าน่า"
ผู้เล่นฝ่ายอีเทอนัลต่างตกตะลึงกับข้อความระบบที่แสดงขึ้น พวกมันกำลังหาโอกาสโจมตีกริด ทว่า กลับยังกล้าๆ กลัว
แม้จะอยากได้รางวัลจากภารกิจ 'สู้กับผู้นำกลุ่มกบฏ' จนตัวสั่น
แต่นี่ใช่ภารกิจที่สามารถทำให้สำเร็จได้จริงหรือ
การไปสู้กับกริด คงไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตไปทิ้ง
ขณะความฮึกเหิมของกริดกำลังพลุ่งพล่าน
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
หน่วยจอมเวททำการกระหน่ำยิงลงมาจากหลังคาบ้านสองชั้นรอบจัตุรัส ดยุคลูซิลิฟใช้หน่วยโล่เป็นเครื่องดึงความสนใจของกริด จากนั้นก็ลอบโจมตีจากด้านบนด้วยหน่วยจอมเวทเมื่อสบช่องว่าง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 2,200 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 930 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,660 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,490... ]
...
...
"อึก"
กริดเริ่มตึงเครียดเป็นหนแรกนับแต่เริ่มสงคราม ความเสียหายจากเวทมนตร์ได้รบกวนจิตใจไม่น้อย ตอนนี้เขาสวมสามชั้น มิใช่เซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ กริดถูกเวทมนตร์ถล่มลงมาจากทุกทิศทางโดยแทบไม่หยุดพัก เป็นการยากที่จะหลบให้พ้นทั้งหมด
เช่นนั้นแล้ว กริดควรจะเปลี่ยนไปสวมเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์แทนดีไหม
ไม่เลย หากทำเช่นนั้น ความเสียหายจากฝนธนูของฝ่ายศัตรูก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น
คอมเมนต์จากผู้ชมทั่วโลกกำลังหลั่งไหลในทุกวินาที
=== เป็นการกระหน่ำโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่รุนแรงมาก
=== ต่อให้เป็นขุนพลของโอเวอร์เกียร์ แต่ถ้าโดนแบบนี้เขาไปคงไม่รอดแน่ ㅡㅡ; น่ากลัวฉิบ
=== กริดคงจบสิ้นแล้วสินะ
=== ใครบอกว่าเขาจะฆ่ามากถึง 5,000 ㅋㅋ แค่ 2,000 ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ ถ้าเป็นครอเกลคงฆ่าได้มากกว่านี้แน่
บึ้มบึ้มบึ้ม!
ท่ามกลางฝุ่นควันจากการถล่มด้วยเวทมนตร์
"เปลี่ยนรูปไอเท็ม"
หัตถ์เทวะสองในสี่ข้างที่กำลังปกป้องตน กริดเลือกเปลี่ยนให้เป็นธนู
ฝ่ามือสีทองสองข้างกลายเป็นคันศรฟินิกซ์แดงสองคัน
ธนูคันหนึ่งอยู่ในมือกริด ส่วนอีกคันหนึ่ง หัตถ์เทวะสองข้างที่เหลือช่วยกันถือ ข้างหนึ่งจับ ข้างหนึ่งง้าง
"โบยบิน!"
กรี๊~!
ด้านบนเหนือปราสาทไบรัน
วิญญาณวิหคอัคคีขนาดยักษ์สองตนกำลังสยายปีกกว้าง
สนุก และค้างหนักมาก
ReplyDeleteขอบคุณผู้แปลสนุกมากครับ
ReplyDeleteโกง..โกง
ReplyDelete