จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 565

    ความหวั่นวิตกของกษัตริย์อัสลันและการปรากฏตัวขององค์ชายเบนัวต์!
    นี่คือเนื้อเรื่องภารกิจลับที่กำลังถูกเฝ้ามองโดยผู้เล่นคนหนึ่ง  
    เธอคือจอมเวทมืดที่ชื่อโรส
    โรสมีสิทธิเฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดในฐานะผู้ทำภารกิจ

[ องค์ชายเบนัวต์มอบไอเท็มอัญเชิญจอมอสูรสำเร็จ! ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับจากรางวัลภารกิจ ]
[ ท่านได้รับแต้มสถานะ 10 แต้มจากรางวัลภารกิจ ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <ไม้เท้ากัลบาส> จากรางวัลภารกิจ ]
[ ภารกิจ <อัญเชิญจอมอสูร (4)> ถูกเปลี่ยนเป็น <อัญเชิญจอมอสูร (บทสุดท้าย)> ]

[ อัญเชิญจอมอสูร (บทสุดท้าย) ]
ระดับความยาก : SS
    ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของยาธาน  ขอบคุณในความพยายามอย่างยากลำบากที่ผ่านมา  จอมอสูรตนหนึ่งใกล้ปรากฏกายบนโลกมนุษย์ในไม่ช้า
    เหลือเพียงเวลาเท่านั้น...
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : กษัตริย์อัสลันอัญเชิญจอมอสูร
รางวัลภารกิจ : ขึ้นอยู่กับจอมอสูรที่ถูกอัญเชิญ

    ใบหน้าของโรสสดใสทันทีเมื่ออ่านรายละเอียดภารกิจใหม่

    'เรื่องราวจบลงเท่านี้เองหรือ  เหตุการณ์นี้เกิดเร็วขึ้นเพราะกิลด์โอเวอร์เกียร์ก่อกบฏ  ขอบคุณมากโอเวอร์เกียร์'

    โรสก้าวขึ้นเป็นจอมเวทมืดอันดับหนึ่งของโลกหลังจากยูร่ากลายเป็นคลาสลับ  ไม่ต่างจากยูร่าในอดีต  โรสเองคือหนึ่งในข้ารับใช้ยาธาน  เธอต้องพัวพันกับภารกิจสุดชั่วร้ายมากมายที่ทำให้โลกตกอยู่ในความโกลาหล  
    จนกระทั่งวันหนึ่งได้รับภารกิจเกรด SS สุดโหดหิน  เป็นเวลากว่าสามเดือนแล้วที่เธอรู้จักกับองค์ชายเบนัวต์  ผู้มีงานอดิเรกสอดคล้องกับสิ่งที่โรสต้องการ

    "เครื่องเซ่นจะพอรึเปล่า"
    
    องค์ชายเบนัวต์หันมาถามโรส

    โรสพยักหน้า
    "แน่นอนค่ะ  ไรน์ฮาร์ทคือเมืองที่ร่ำรวยและสงบสุข  ย่อมต้องมีสาวพรมจรรย์อาศัยอยู่มากเพคะ"

    "งั้นก็ดี"

    องค์ชายเบนัวต์แสดงสีหน้าเปี่ยมสุข 
    ส่วนโรสยังเป็นกังวลเล็กน้อย

    "แต่ถ้ากษัตริย์อัสลันไม่ยอมอัญเชิญจอมอสูรล่ะ"

    เงื่อนไขการอัญเชิญจอมอสูร  สาวพรมจรรย์จำนวนมากต้องกลายเป็นเครื่องเซ่นสังเวย  
    กษัตริย์ของอาณาจักรที่เป็นศัตรูกับวิหารยาธานจะยอมสละชีวิตของชาวเมืองเพื่ออัญเชิญจอมอสูรจริงหรือ
    โรสยากจะทำใจเชื่อลง

    องค์ชายเบนัวต์ตอบกลับอย่างมั่นใจ

    "กษัตริย์อัสลันเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทยาน  คนแบบเขาไม่ต้องการลงเอยด้วยความตายแน่  ชายคนนี้มิอาจหลบเลี่ยงชะตาที่ต้องอัญเชิญจอมอสูรได้"

    "กระหม่อมได้ยินเช่นนี้ค่อยโล่งใจ"

    พวกเขาเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น 
    โรสตัดสินใจเอ่ยปากถามในสิ่งที่เธออยากรู้มานาน

    "กระหม่อมสงสัยมาตลอด  ว่าองค์ชายจะได้สิ่งใดจากการอัญเชิญจอมอสูร"

    องค์ชายเบนัวต์มิได้เป็นสาวกยาธาน  
    โรสจับตามองชายคนนี้มาพักใหญ่แล้ว  เขามิใช่คนจิตใจต่ำทรามที่ต้องการทำลายโลกมนุษย์  โรสจึงไม่เข้าใจเลยว่า  เบนัวต์ต้องการอัญเชิญจอมอสูรไปเพื่อสิ่งใด  
    เบนัวต์หันมามองแววตาใคร่รู้ของโรสครู่หนึ่ง  ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาเหม่อลอย

    "ฉันอยากพบใครบางคน"

    "ใครกันหรือเพคะ  ถึงขนาดต้องใช้จอมอสูรเพื่อพบหน้าเชียว"

    โรสมอง NPC เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ซับซ้อน  เฉกเช่นผู้เล่นทั่วไป  เธอไม่คิดว่า NPC จะมีอารมณ์หรือความรู้สึก  
    และสิ่งนี้คือความผิดพลาดมหันต์  เธออ่านบรรยากาศเบนัวต์ไม่ออกจนพลาดโอกาสเพิ่มค่าความสัมพันธ์อย่างน่าเสียดาย  
    โรสมิได้ตระหนักเลยจนกระทั่ง...

    "อย่าสอดรู้ให้มากนัก...  ไม่ต้องห่วง  ฉันยังต้องอัญเชิญจอมอสูรอีกหลายตน  เธอคือหนึ่งในผู้ช่วยชั้นยอด  ดังนั้น  หากเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากฆ่าเธอทิ้งหรอกนะ"

[ องค์ชายเบนัวต์แผ่จิตสังหารรุนแรง ]
[ สายเลือดชั้นสูงของจักรวรรดิฮาซารันปกครองทวีปตะวันตกมาช้านาน  ท่านตกอยู่ในอาการหวาดกลัวจนมิอาจขัดขืน  การกระทำทั้งหมดจะถูกห้ามเป็นเวลาห้าวินาที  พลังป้องกันและป้องกันเวทลดลง 23%  บางทักษะถูกห้ามใช้งาน ]

    "ข--ขออภัยเพคะ"

    จอมเวทมืดอันดับหนึ่งของโลก  
    ผู้เล่นอันดับรวมทุกคลาสท็อป 50 ของโลก  
    เธอถูก NPC กำราบง่ายดายขนาดนี้เชียว

    'พลังอะไรกัน  นี่หรือสายเลือดราชวงศ์ซาฮารันที่ยิ่งใหญ่'

    โรสถึงกับขนลุก
    ความทะเยอทยานที่จะทำให้วิหารยาธานกลายเป็นขุมพลังอันดับหนึ่งของทวีปตะวันตก  บัดนี้สลายไปในอากาศราวกับหมอกควัน

    ***

    ผลลัพธ์ที่เกิดจาก 'คลื่นร่ายรำสังหาร' สองครั้งซ้อนในสภาพมีบัฟร่างมืด  
    ปฏิกิริยาของทุกคนที่ได้เห็นย่อมเหมือนกัน

    ===  บ้าน่า...

    พลังทำลายล้างบ้าบอสิ้นดี...
    อัศวินข้างกายดยุคลูซิลิฟ  ผู้กำลังถูกกริดปองร้าย  โล่และชุดเกราะหนักของพวกมันต่างไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังของกริด  
    เหล่าจอมเวทที่กำลังร่ายมนตร์ทรงพลังเพื่อหวังดับลมหายใจกริด  ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ร่ายเสร็จทัน
    
    "อ๊ากกกก!"

    ดยุคลูซิลิฟส่งเสียงร้องทุกข์ทรมาณเมื่อถูกกริดโจมตีใส่อย่างรุนแรง  ชายหนุ่มตามประชิดตัวทันทีขณะมันกำลังแสดงสีหน้าเจ็บปวด  เป็นความเร็วที่แม้แต่กล้องจับภาพก็ยากจะตามทัน

    ===  สุดยอด... กริดเร็วขึ้นกว่าเดิมรึเปล่า

    ===  เขามีความเร็วเทียบเท่านักลอบสังหารระดับสาม...

    ===  นั่นเกิดจากค่าความว่องไวจริงหรือ  อาจเป็นเพราะไอเท็มบางชนิดที่ช่วยเพิ่มความเร็วก็ได้

    หลังจากพลังอสูรเพิ่มถึง 10,000 แต้ม  ทักษะร่างมืดก็ได้รับการอัพเกรด  ทั้งพลังโจมตี  พลังเวท  และค่าความว่องไวจะเพิ่มขึ้น 30% จากของเดิม 20%
    10% ที่เพิ่มขึ้นส่งผลอย่างมากกับกริดที่มีแต้มสถานะระดับปีศาจ  ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    
    "แกนะแก!"
    
    ดยุคลูซิลิฟกำลังโกรธจัด  โทสะของมันมิได้เกิดจากกริดเพียงสาเหตุเดียว  แต่ยังรวมถึงอัศวินรอบกายที่ไร้ประโยชน์  จอมเวทที่ใช้การไม่ได้  ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งกริดได้เลยสักคน
    มันจึงต้องชักดาบออกมาสู้ด้วยตนเอง

    คงเป็นการดิ้นรนเฮือกสุดท้าย  หลังจากบรรดาองครักษ์ล้วนไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้ากริด
    ดยุคลูซิลิฟเป็นเพียงขุนนางชั้นสูง  การหยิบดาบออกมาจะช่วยให้มันรอดชีวิตได้นานแค่ไหนนักเชียว
    ผู้ชมทางบ้านต่างคิดเช่นนี้  พวกเขาคาดว่ากริดคงดับลมหายใจดยุคลูซิลิฟได้ในพริบตา
    แต่กริดกลับเกิดความหวาดหวั่นภายในใจ

    'หมอนี่รอดชีวิตจากคลื่นร่ายรำสังหารสองครั้งมาได้'

    ดยุคแห่งอาณาจักร  NPC พิเศษย่อมมีค่าพลังป้องกันและพลังชีวิตสูงส่ง  บางทีอาจมีฝีมือต่อสู้ในระดับที่คาดไม่ถึง

    'ลองดูสักตั้ง'

    ชายหนุ่มพุ่งตัวผ่านกลุ่มองครักษ์และประชิดตัวดยุคลูซิลิฟได้สำเร็จ

    เคร้งง!
    
    'วิญญาณดาบ' มีความเร็วสูงกว่า 'ความผิดพลาด' หลายเท่า  ปลายดาบเล็งแทงไปยังหัวใจดยุคลูซิลิฟอย่างแม่นยำ

    "สามัญชนอย่างแกไม่มีทางฆ่าฉันได้!"

    ดยุคลูซิลิฟตะโกนพร้อมใช้ดาบของตนปัดป้องวิญญาณดาบ

    เคร้ง!    

    ขณะเดียวกัน  เกิดสายลมระลอกใหญ่พัดผ่าน

    ฟ้าวว

    ดยุคลูซิลิฟรีบหมุนตัววาดดาบในมือตน  ปัดให้ปลายวิญญาณดาบปักลงพื้น  จากนั้นก็แทงใส่หน้าอกกริดที่กำลังเผยจุดอ่อน

    "จงลิ้มรสความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์อีเทอนัลในนรกซะ!"

    วินาทีนี้  ดยุคลูซิลิฟกำลังแสดงสีหน้าโล่งใจ  มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้คร่าชีวิตกริดด้วยน้ำมือตนเอง  
    แต่สิ่งนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้
    ต้องยอมรับว่าดยุคลูซิลิฟมีฝีมือดาบไม่เลวนัก
    ทว่า

    ฉึก!

[ ท่านได้รับความเสียหาย 2,500 หน่วย ]

    ค่าสถานะของดยุคลูซิลิฟมิใช่ NPC ระดับบอส  ความรุนแรงมิอาจทะลวงผ่านเกราะสามชั้นของกริดได้มากนัก

    "หากฉันต้องตายจากการโจมตีสุดกระจอกเช่นนี้  ฉันคงไม่ถ่อมาถึงที่นี่ตั้งแต่แรก"
    
    กริดกระซิบข้างหูดยุคลูซิลิฟก่อนจะฟาดฟันวิญญาณดาบเข้าใส่

    "ชิ!"

    ดยุคลูซิลิฟหน้าซีด  มันรีบถอยหลังอย่างลนลาน

    "ปกป้องท่านดยุค!"

    กลุ่มจอมเวทอาวุโสหลายสิบคนรีบลงมือพร้อมกัน
    
    เคร้งง!

    บาเรียคุ้มกายซ้อนทับหลายชั้นรอบตัวดยุคลูซิลิฟ  ส่งผลให้วิญญาณดาบในมือกริด  แทงเข้าไปไม่ถึงร่างกายมัน

    "ตอนนี้แหละ!  รุมจัดการซะ!"
    
    กริดลงมือปลิดชีพล้มเหลว
    กลุ่มทหารและอัศวินจำนวนมากกรูเข้ามาล้อมกริดและดยุคลูซิลิฟไว้ทุกทิศทาง

    ===  คงจบสิ้นแล้วล่ะ

    ===  กริดสู้ได้ดีมากแล้ว

    ===  เขารับมือกับกองทัพนับแสนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ  กริดทำได้เหนือความคาดหมายทุกคนมาก

    ชายหนุ่มกำลังสิ้นหวังอย่างแท้จริง  ผู้ชมทางบ้านคิดว่ากริดไม่รอดแน่แล้ว  
    แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง

    "ทำลายล้างสังหาร"
    
    สุดยอดทักษะโจมตีหนึ่งเป้าหมายที่จะมองข้ามพลังป้องกันของศัตรู 100% 
    การฟันครั้งนี้ทะลวงผ่านบาเรียคุ้มกายรอบตัวดยุคลูซิลิฟอย่างง่ายดาย  คมดาบปะทะใส่ร่างมันอย่างจัง

    "อะ... อ๊ากกกกก!"

    "...!"

    เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
    เหล่าจอมเวทอาวุโสต่างหน้าถอดสีเมื่อดยุคลูซิลิฟเริ่มกลายเป็นแสงสีเทา
    ขณะเดียวกัน  อาวุธของเหล่าอัศวินและทหารต่างพุ่งถึงตัวกริดอย่างพร้อมเพรียง  ทั้งดาบ  หอก  ลูกธนู  และเวทมนตร์  ทุกสิ่งซัดโถมใส่ร่างกริดประหนึ่งคลื่นมหาสมุทร

    ฉึก!

    ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม

    "แค่ก!"

    กริดถูกโจมตีใส่นับครั้งไม่ถ้วนจนกระอักเลือด  ดยุคลูซิลิฟที่กำลังจะตายได้แสยะยิ้มเมื่อเห็นชายหนุ่มชุ่มชะโลมด้วยโลหิตสีแดงฉาน

    "ฮะฮะฮะ!  เพื่อนร่วมทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเยือนขุมนรก..."    

    แน่นอนว่า  ดยุคลูซิลิฟรู้ดีกว่ากริดเป็นอมตะและสามารถคืนชีพใหม่ได้  แต่มันก็มีคำสาปสำหรับเพิ่มโทษการคืนชีพให้รุนแรงมากกว่าเดิมสามเท่า  ดยุคลูซิลิฟต้องการให้กริดสิ้นหวังหดหู่ถึงขีดสุด
    แต่สิ่งที่เกิดขึ้น...

    "ฉัน... ยังไม่ตาย!"

    ใช่แล้ว  กริดยังไม่ตาย  เขาแสยะยิ้มชั่วพร้อมกับตัดศีรษะของลูซิลิฟจนหลุดจากบ่า  จากนั้นก็ใช้วิชาดาบแพ็กม่า  คลื่น  เพื่อทำให้อัศวินและทหารรอบข้างชะงัก  
    
    กริดหันมาตะเบ็งสุดเสียง

    "ศีรษะของดยุคลูซิลิฟอยู่ในกำมือฉัน!"

[ ศัตรูทุกคนตระหนักถึงการตายของดยุคลูซิลิฟ! ]
[ ท่านทวงคืนไบรันสำเร็จ! ]
[ ท่านได้รับทักษะ <เผชิญหน้าศัตรูนับแสน> จากสมญานามใหม่ ]

[ เผชิญหน้าศัตรูนับแสน ]
ชนิด : ติดตัว
    ยิ่งรอบกายมีศัตรูมาก  พลังป้องกันของท่านก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
    แต่พลังป้องกันที่เพิ่มขึ้นย่อมมีขีดจำกัด

    "ป--เป็นไปไม่ได้..."

    กริดฝ่าดงศัตรูจำนวนมากและตัดหัวดยุคลูซิลิฟได้สำเร็จ  บัดนี้  เขากำลังยืนเด่นตระหง่านท่ามกลางหมู่ทหารเกณฑ์กว่าหกหมื่นนาย  
    ผู้ปกครองที่แสนยิ่งใหญ่  ชายที่ยอมเสี่ยงชีวิตของตนเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองซึ่งกำลังตกอยู่ในอันตราย  
    แถมยังมีฝีมือเก่งกาจพอจะทำสำเร็จเสียด้วย
    เสียงตะโกนเชิดชูของชาวเมืองไบรันได้ทำให้หัวใจทหารเกณฑ์ทั้งหกหมื่นต้องสั่นคลอน
    พวกเขาอยากรับใช้กริดจากก้นบึ้งของหัวใจ

    "กระผมรอดชีวิตได้เพราะท่านกริด!"

    "ขอบคุณมากท่านกริด!"

    "ท่านกริดคือวีรบุรุษของพวกเราตลอดกาล!"

    "ลูกหลานของกระผมจะเทิดทูนบูชาท่านกริด!"

    "เฮ~!  ท่านกริด!"

    "ฮูเร่!  ดวงอาทิตย์แห่งเรย์ดัน!"
    
    ทั้งหมดคือคำยกย่องสรรเสริญ
    นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น  
    เมื่อได้เห็นชาวเมืองไบรันมีความสุขเปี่ยมล้น  ทันใดนั้น  เหล่าทหารเกณฑ์ทั้งหกหมื่นคนต่างแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงต่อกริด
    กองทัพขนาดหกหมื่นทำการคุกเข่าลงพร้อมกัน

    "พ--พวกเราขอติดตามท่านไปชั่วชีวิต"

    "ได้โปรดยอมรับพวกเราด้วย!"

    พวกเขาไม่อยากอาศัยในอาณาจักรที่เหยียดหยันชาวเมืองเป็นเพียงมดปลวก  บรรดาทหารเกณฑ์ต่างกล่าวขอร้องกริดจากใจ  
    อันที่จริง  ทุกคนล้วนเผื่อใจไว้แล้วว่ากริดอาจไม่ยอมรับ  
    เพราะไม่ว่าอย่างไร  ทั้งสองฝ่ายเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน  กริดอาจคิดว่าพวกเขาพูดไปเพียงเพราะไม่อยากตาย  

    แต่สิ่งที่กริดเลือกกลับตรงกันข้าม
    ด้วยคำแนะนำของอัสโมเฟล  กริดรีบปิดโหมดร่างมืด  สิ่งนี้ส่งผลให้มงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  
    ชายหนุ่มผายมือออกต่อหน้าทหารทุกนายที่รายล้อม

    "ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง"

    "...!"

    กริดอมยิ้มอย่างอบอุ่นประหนึ่งแสงแดดที่อ่อนโยนของดวงอาทิตย์ยามเช้า  
    มีขุนนางที่ห่วงใยชาวเมืองสามัญชนอยู่ด้วยหรือ  
    ทหารเกณฑ์ทั้งหมดต่างลั่นสัตย์สาบานขอติดตามกริดไปชั่วชีวิต

[ มีประชาชนติดตามท่านเพิ่มขึ้น 63,387 คน! ]
[ ขอแสดงความยินดี!  ท่านมีชาวเมือในปกครองเกินกว่า 100,000 คนแล้ว ]
[ ท่านบรรลุเงื่อนไขในการก่อตั้งอาณาจักร! ]

• Next
• Previous