จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 551



    ณ บอร์เนียว

    ผู้เล่นฝ่ายเก๊าส์เริ่มแสดงสีหน้าตื่นเต้น

    'อะไรนะ... เก้าล้านดอลล่าส์  เพียงแค่สร้างอาการบาดเจ็บให้ซิวรอน!'

    'เก้าร้อยล้านสำหรับการฆ่า...!'

    ผู้คนทั่วไปมีโอกาสทองเช่นนี้มากน้อยแค่ไหน
    น้อยมากเสียจน  ชั่วชีวิตหนึ่งอาจไม่เคยประสบพบเจอเลยสักครั้ง  
    คำประกาศของแค็ทซ์ทำให้ทุกคนตาลุกวาว

    'เงิน!'

    'เราจะรวย!'

    เงิน!  เงิน!  เงิน!
    พลังแห่งทุนนิยมได้สร้างปีศาจกลุ่มใหม่ขึ้น  เป็นภาพที่น่าพึงพอใจสำหรับแค็ทซ์มาก

    "ซิวรอน  ฉันขอฟันครั้งเดียว!  ได้โปรด!"

    "ไม่สิ!  ช่วยตายไปเลยได้ไหม  ฉันขอร้อง!"

    แววตาของผู้เล่นฝ่ายเก๊าส์เปลี่ยนไป  พวกมันแผ่จิตสังหารรุนแรงใส่แร้งเกอร์ระดับสูงที่ตนเองไม่เคยคิดหาญเอื้อมมาก่อน  
    ซิวรอนกลายเป็นเหยื่อทันใด  ราวกับลูกไก่ที่ถูกขังอยู่ในฟาร์มปศุสัตว์  
    เมื่อถูกผู้เล่นเก๊าส์จำนวนมากล้อมไว้  มันทำได้เพียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่

    "พวกนายเชื่อคำพูดหมอนั่นรึไง!  เสียสติกันไปหมดแล้วหรือ!"

    เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นฝ่ายเก๊าส์อยู่ในช่วงกลาง 100  แถมยังไม่มีแร้งเกอร์เลยสักคนเดียว  
    หากซิวรอนหลบอยู่หลังป้อมปราการเหมือนแค็ทซ์  มันคงไม่ต้องหวั่นวิตกกับจำนวนคนมากมายเหล่านี้  แต่ซิวรอนไม่ใช่  มันกำลังถูกล้อมจากทุกทิศทางด้วยผู้เล่นจำนวนมหาศาล
    แม้แต่นักล่าวิญญาณที่เก่งกาจในสนามรบ  ยามนี้ยังเกิดอาการเสียวสันหลังวาบ

    ซิวรอนพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นที่สุด  เพื่อหวังระงับสัตว์ป่าที่กำลังหน้ามืดตามัวเพราะหิวกระหายเงิน
    "มันไม่ใช่เงินแค่ 90,000 ดอลล่าส์หรือ 900,000 ดอลล่าส์  แต่เป็นเงินมากถึง 9 ล้านหรือ 900 ล้านดอลล่าส์เชียวนะ!  พวกนายคิดว่าหมอนี่จะยอมทำตามที่พูดจริงรึไง"

    นั่นเทียบเท่าหนึ่งพันล้านวอนเลยทีเดียว
    ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยมาจากไหน  แต่ก็ไม่มีทางยอมจ่ายเงินมากขนาดนี้เพียงเพื่อให้ทำร้ายผู้เล่นในเกมแน่
    จะต้องเป็นการบลัฟแน่นอน  ซิวรอนแสดงสีหน้ามั่นใจ  และมันก็ประสบความสำเร็จมากทีเดียว

    "นั่นก็จริง  นี่เป็นจำนวนเงินที่มากไปหน่อย  ถึงแค็ทซ์จะร่ำรวย  แต่ก็ไม่มีทางยอมจ่ายขนาดนี้แน่"

    "เรื่องนั้น... ฉันคงยอมเชื่อถ้าหากแค็ทซ์บอกจำนวนเงินที่สมเหตุสมผลกว่านี้"

    เงินทองจำนวนมหาศาลตรงหน้า  ชีวิตของผู้เล่นที่คว้ามันย่อมพลิกผันในพริบตา  
    มันอลังการเกินไปจนเหล่าผู้เล่นต่างเคลือบแคลง  ข้อเสนอทุกหรูของแค็ทซ์กลายเป็นดาบสองคม
    ซิวรอนแสดงสีหน้าโล่งใจ

    "คุคุ!  คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
    แค็ทซ์เงยหน้าหัวเราะจนไหล่สั่นอยู่ด้านบนกำแพงป้อม
    "พวกแกนี่ตลกจังนะ  เพียงเพราะจำนวนเงินมากกว่าจิตนาการของตัวเองไปมาก  ก็เลยเลือกที่จะไม่เชื่อ  จิตนาการของพวกแกช่างกระจอกเหลือเกิน"

    หากนั่นเป็นปัญหาเดียวของอีกฝ่ายล่ะก็
    เช่นนั้นคงต้องเปลี่ยนเงื่อนไขเล็กน้อย    

    "ถ้าพวกแกต้องการ  ฉันจะลดจำนวนลงก็ได้  ขอเปลี่ยนเป็น  100 ล้านเยนสำหรับผู้ที่ทำให้ซิวรอนบาดเจ็บ  และหนึ่งหมื่นล้านเยนสำหรับผู้ที่สังหารซิวรอน  ฉันขอเอาเกียรติของ JIN กรุ๊ปเป็นเดิมพัน  แบบนี้เป็นไง  พวกแกเริ่มเชื่อขึ้นมาบ้างรึยัง"

    ผู้คนมักไม่รู้ถึงความน่ากลัวของคนบ้าที่ร่ำรวย
    ทำไมน่ะหรือ
    เพราะโลกนี้  มีคนบ้าไม่มากที่ร่ำรวย

    "รออะไรกันอยู่  ถ้าอยากได้เงินก็สังหารไอ้ขอทานนั่นซะ!"
    แค็ทซ์กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา

    เหตุการณ์บานปลายราวกับไฟลามทุ่ง

    "เฮ~~!!"

    ผู้เล่นฝ่ายเก๊าส์  ไม่มีใครคิดลังเลอีกแล้ว
    รางวัลจากแค็ทซ์มีมูลค่าสูงยิ่งกว่ารางวัลภารกิจหลายท่า  ทุกคนพุ่งโจมตีใส่ซิวรอนโดยปราศจากความลังเลในแววตา  
    ซิวรอนได้แต่ยืนสั่นสะท้านท่ามกลางบรรยากาศที่ลุกฮือ

    "ชิ...!  บัดซบ!!  ไอ้พวกโอเวอร์เกียยยยร์!"

    โอเวอร์เกียร์เป็นราวกับฝันร้ายอันยาวนานของซิวรอน  
    มันเคยถูกชาวนาสังหารหน้าเมืองเรย์ดันอย่างอับอาย  
    ในงานแข่งนานาชาติ  ซิวรอนถูกสมาชิกโอเวอร์เกียร์บดบังรัศมีจนมิดชิด  นักกีฬาที่สวมใส่ไอเท็มจากกริด  ทุกคนล้วนแสดงผลงานได้เป็นที่ประจักษ์จนความโดดเด่นของซิวรอนต้องจืดจาง
    สิ่งเหล่านี้เป็นจุดด้ายพร้อยในชีวิตมันเสมอมา  ทั้งหมดมีต้นตอจากกริดและโอเวอร์เกียร์  ซิวรอนต้องการล้างแค้นให้สาสม
    
    แต่ตอนนี้  ตนกำลังตกที่นั่งลำบากจากพลังเม็ดเงินจำนวนมหาศาล
    เหตุใด  เรื่องราวน่าอับอายทั้งหมดในชีวิตของมัน  ต้องมีจุดเริ่มต้นมาจากสมาชิกโอเวอร์เกียร์อยู่ร่ำไป
    ซิวรอนคลุ้มคลั่งทันที

    "พวกแกคิดว่าจะสร้างรอยขีดข่วนให้ฉันคนนี้ได้รึไง!"

    "ฆ่า!  ฆ่าซิวรอน!"

    "แม้พวกเราอาจไม่แข็งแกร่ง  แต่ถ้าโจมตีพร้อมกันล่ะก็  ต้องมีสักคนที่สร้างบาดแผลให้ซิวรอนได้แน่  และนั่นหมายถึงเงินก้อนโต!"

    "ต้องเป็นของฉัน!"

    การปะทะระหว่างซิวรอนที่กำลังเดือดดาลกับกลุ่มผู้เล่นหน้ามืดตามัวเพราะหิวเงิน
    แค็ทซ์ยืนหัวเราะชอบใจอยู่ด้านบนกำแพง
    พลังเงินของแค็ทซ์ที่แปรเปลี่ยนให้ศัตรูกลายเป็นมิตร  สิ่งนี้กำลังทำให้ทั่วทั้งโลกหวาดผวา

    ***

    สงครามปิดล้อมของไบรันนั้นแตกต่างจากปรกติสักหน่อย  เพราะหน้าที่ของผู้ปิดล้อมและผู้ถูกล้อมได้สลับกันโดยสิ้นเชิง

    ครืนนน!

    ประตูเมืองไบรันถูกเปิดออกอีกครั้ง

    "อึ๋ย!  อีกแล้วหรือ!"

    "ย--แย่ล่ะสิ!  รีบใช้ทหารเป็นกำบัง!"

    ผู้เล่นฝ่ายอีเทอนัลเริ่มล่าถอยหนีตาย  ขบวนรบพังทลายทันทีที่ประตูเปิดออก  เกิดความปั่นป่วนสถานหนัก  แม่ทัพไม่อาจออกคำสั่งให้เป็นระบบ  เพราะผู้เล่นจำนวนมากกำลังเบียดเสียดขวางทางเดิน NPC ทหาร
    สนามรบฝั่งอีเทอนัลไม่ค่อยสู้ดีนัก

    ขณะเดียวกัน

    "คราวนี้ถึงตาฉันแสดงฝีมือบ้างแล้ว"

    ป็อนปรากฏตัวบนหลังอาชาสีขาว  ทันทีที่ประตูเปิดออก  ท่าไม้ตายของเขาก็พุ่งออกจากปลายท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ
    หอกแม่เหล็กไฟฟ้า

    ฟ้าวววว!  เปรี้ยะ!  เปรี้ยะ!

    หอกสายฟ้าแหวกอากาศปะทะใส่กลุ่มทหารอีเทอนัลประหนึ่งเทพสายฟ้าลงมาจุติ  ผู้เล่นและทหารรวมกันกว่าร้อยคนถูกเปลี่ยนเป็นเสาแสงสีเทาในพริบตา

    "ย่าห์!"

    ป็อนชักหอกเล่มใหม่ออกมาควง  ก่อนจะควบม้าตะลุยใส่ทัพอีเทอนัลอย่างห้าวหาญ  
    ทุกครั้งที่หอกในมือถูกกวัดแกว่ง  จักต้องมีทหารล้มตายระเนระนาดหลายสิบ  เป็นการล้างสังหารอยู่ฝ่ายเดียวที่เกิดจากส่วนต่างของเลเวลและไอเท็ม
    แต่ความดุดันนี้ก็คงอยู่ไม่นาน
    
    แค่ 100 ศพ
    ป็อนสังหารศัตรูได้ราว 100 ศพ  จากนั้นก็รีบเก็บหอกและวิ่งกลับเข้าประตูเมืองอีกครั้ง

    "ไอ้พวกโง่!  บอกแล้วว่าอย่าเสียกระบวน!"

    "ตั้งแถวใหม่!  การโจมตีถัดไปจากศัตรูกำลังจะมา!"

    เมื่อแม่ทัพเห็นป็อนกลับเข้าไป  มันจึงเริ่มออกคำสั่งใหม่กับเหล่าทหาร
    อันที่จริง  พวกมันจำเป็นต้องพึ่งพารถศึกชิงปราสาทจำพวกเครื่องกระทุ้งและเครื่องยิงหินสำหรับการบุก  แต่อุปกรณ์ดังกล่าวกลับติดตั้งได้เชื่องช้ากว่าปรกติ  แถมเวลาก็ยังกระชั้นชิดเข้ามาทุกที
    เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นอีเทอนัลคือ 140   มีคนที่แข็งแกร่งจนโดดเด่นไม่มาก  ที่เหลือเป็นพวกใช้การไม่ได้  ไร้ระเบียบวินัย  และไม่เคยผ่านการฝึกทหารมาก่อน  
    แม่ทัพพยายามออกคำสั่งปากเปียกปากแฉะ  แต่ขบวนรบทางฝั่งผู้เล่นกลับห่วยแตกไม่เปลี่ยน

    ขณะเดียวกัน  ถึงคราวยูร่าปรากฏตัวบ้าง

    "คงปล่อยให้ใช้รถศึกชิงปราสาทไม่ได้หรอกนะ"

    บึ้ม!

    นักล่าอสูรจะได้รับพลังเวทมืดทุกครั้งที่สังหารเผ่าอสูร  เธอสามารถใช้พลังดังกล่าวในการร่ายเวทมนตร์พิเศษบางชนิด  หนึ่งในนั้นคือเวทมืด
    ยูร่าคืออดีตจอมเวทมืดอันดับหนึ่งของโลก  สิ่งนี้คืองานถนัดของเธอ  ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีก  ยูร่าเริ่มเสกบอลมนตร์ดำเพื่อยิงเปิดทาง  จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่กลุ่มทหารที่กำลังลำเลียงรถศึกชิงปราสาทเข้ามาใกล้กำแพง  เป้าหมายหลักคืออุปกรณ์ชิงปราสาททั้งหลายแหล่  และไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถหยุดเธอได้

    ทหารระดับหัวกะทิของอีเทอนัลในกองทัพชุดนี้มีเลเวลเพียง 180  พวกมันต่างเป็นขยะไร้ค่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความดุดันว่องไวของยูร่า  
    กองทัพทั้งหมดตกอยู่ในความสิ้นหวัง

    บึ้มบึ้มบึ้ม!

    เคร้ง!

    "บัดซบ!  จะปล่อยให้เธอทำตามใจชอบไปอีกนานแค่ไหน!"

    ผู้เล่นฝ่ายอีเทอนัลตระหนักถึงความย่ำแย่ของสถานการณ์ได้ทันที  ตอนนี้รถศึกชิงปราสาทหลายคันกำลังพังพินาศอย่างต่อเนื่อง  ทุกคนหันมาโจมตียูร่าอย่างพร้อมเพรียง  แม้เลเวลจะน้อยยิ่งกว่าทหารเลว  แต่พวกมันก็มีจิตใจมุ่งมั่นต้องการผ่านภารกิจนี้  ก่อเกิดเป็นฝนธนูและเวทมนตร์กลุ่มใหญ่ลอยตกใส่จุดที่ยูร่ายืนอยู่  
    ยูร่าในปัจจุบันกำลังอ่อนล้า  เธอต่อสู้เช่นนี้มานานห้าวันแล้ว
    
    บึ้มบึ้มบึ้ม!

    "อึก"

    ยูร่าเริ่มถูกโจมตีเข้าไปบ้าง  
    เธอออกจากประตูเมืองโดยเตรียมใจเจ็บตัวไว้ก่อนแล้ว  แม้สภาพร่างกายและจิตใจกำลังอ่อนล้าสุดขีดก็ตาม
    ข่าวดีคือผู้เล่นและทหารของอีเทอนัลมีเลเวลต่ำ  แถมยังมีความต่างชั้นทางด้านอุปกรณ์สวมใส่  ยูร่าจึงไม่ถึงกับเจ็บหนัก  
    หลังจากสังหารไปครบกำหนด 100 คนตามแผน  ยูร่ารีบกลับเข้าไปด้านในประตูอีกครั้ง  

    ตึง!

    ทันทีที่ประตูปิดลง  ยูร่าคุกเข่าทรุดลงกับพื้น  เหงื่อไคลชุ่มชะโลมกายจนเปียกแผ่นหลัง  
    ป็อนหันมาพูดกับเธอ

    "เสบียงใกล้หมดแล้ว  พลธนูบนกำแพงแทบไม่เหลือกระสุน  แถมโพชั่นพวกเราก็เริ่มหมด  คงทนได้อีกแค่สองวันเท่านั้น"

    ยูร่า  ทูน  ป็อน  และขุนพลหัวกระทิโอเวอร์เกียร์อีกหลายคนถูกส่งมาประจำการที่ไบรัน  
    แผนการตั้งรับก็คือ  ทุกคนจะสลับกันเปิดประตูออกไปโจมตีศัตรูคราวละ 100 ศพ  วิธีการนี้ทำไปเพื่อมิให้เสียไพร่พลอย่างสูญเปล่า  แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แผนที่กระทำได้ตลอดรอดฝั่ง  ค่าเรี่ยวแรงทุกคนมีจำกัด  รวมถึงความคงทนอาวุธและโพชั่นก็เริ่มหมด

    ไบรันกำลังสิ้นหวังสุดขีด  แต่ถึงกระนั้น  ยูร่าก็ไม่คิดถอดใจปล่อยมือ

    "ฉันจะ... ปกป้องมันให้ได้  ถ้าที่นี่แตกพ่าย  แพเทรี่ยนจะตกอยู่ในอันตราย"

    พวกเขาจะทนได้อีกนานแค่ไหนกันนะ
    ยูร่า  ป็อน  ทูน  และขุนพลที่เหลือ  พวกเขาสู้ถวายหัวอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อยตลอดห้าวันที่ผ่านมา  แต่โชคชะตาก็ยากจะพลิกพลันด้วยกำลังคนเพียงน้อยนิด  หากเป็นเช่นนี้ต่อไป  หากยังคงไร้กำลังเสริม  ไบรันจะรักษาไว้ได้อีกสองวันเท่านั้น

    ***

    เคร้ง!  เคร้งงงง!

    "กิ๊กิ๊!"

    ฉึก

    "กิ๊~"

    ป่าตะวันแดง  หรือป่าที่ผู้เล่นเกาหลีที่เรียกมันว่า 'ป่าแห่งภาพหลอน'  บรรยากาศมีแต่ความพิสดารไม่คุ้นเคย  มอนสเตอร์จำพวกนักซิ่งหัวขาดหรือผีสางชนิดอื่นล้วนมีความว่องไวสูง  ว่ากันกว่าพวกมันไม่มีวันถูกมนุษย์ล่า  
    แต่บัดนี้  สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นกำลังใกล้สูญพันธ์ด้วยฝีมือของนักดาบเพียงคนเดียว

    ฉัวะ!

    ฉัวะฉัวะฉัวะ!

    เป็นความเร็วที่ยากจะหลบพ้น  ดาบสีขาวของครอเกลปัดป้องการโจมตีของนักซิ่งหัวขาดที่รวดเร็วกว่ามนุษย์สามเท่า  มอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าเขาถึง 60 ระดับกลับถูกกำราบอย่างง่ายดาย
    ครอเกลปาดเหงื่อออกจากผิวหนังที่ขาวนวลราวกับหิมะ  เขารวบผมที่ยาวสลวยไปด้านหลังจนเผยเห็นใบหู  
    ดั้งสูงโด่ง  แววตาลุ่มลึก
    ชายคนนี้มีเสน่ห์เหลือล้น  ใบหน้าหล่อเหลาจนดึงดูดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง

    "ครอเกล"

    เฮ่าเดินเข้ามาหา  
    หลังจากทราบว่ามือขวาของอาเรสคอยตามก่อกวนครอเกล  เฮ่าก็ปักหลักคุ้มกันข้างกายไม่ห่าง  
    คราวนี้เฮ่าเปิดปากถามอย่างเป็นกังวล
    
    "จะดีจริงหรือที่นายไม่ไปช่วยโอเวอร์เกียร์ในเวลาเช่นนี้"

    ครอเกลชื่นชอบกิลด์โอเวอร์เกียร์มาก  เขามิอาจเก็บซ่อนความกังวลใจได้  ครอเกลหมั่นตรวจสอบสถานการณ์ด้วยสีหน้าตึงเครียดอยู่เสมอ
    ราวกับต้องการจะออกไปช่วยเหลือตลอดเวลา
    ทว่า  แม้สีหน้าจะหวั่นวิตกเช่นไร  แต่การกระทำของครอเกลกลับสวนทาง  เขายังคงมุ่งมั่นเก็บเลเวลต่อไปโดยไม่สนใจจะเดินทางไปยังอีเทอนัล

    "ถ้ามีสิ่งใดทำให้นายไม่อาจไปช่วยพวกเขา...  ได้โปรดบอกกับฉัน  ฉันจะรีบจัดการให้ทันที"    

    ครอเกลสามารถเปิดอกพูดทุกเรื่องกับเฮ่าได้  เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่คนทั้งสองใกล้ชิดสนิทสนมกัน  
    ครอเกลยื้มอย่างขมขื่น  จากนั้นก็กล่าวว่า
    "กริดคงพยายามหลีกเลี่ยงความช่วยเหลือจากฉันให้มากที่สุด"

    "ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น"

    "นอกจากจะเป็นเพื่อนสนิท  พวกเรายังเป็นคู่แข่งซึ่งกันและกัน"

    ***

    ณ แพงเจีย  ทวีปตะวันออก

    "วันที่สามแล้วสินะ..."

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    ช่างตีเหล็กค้อนขาวเริ่มแสดงสีหน้ากังวล  กริดกระหน่ำทุบค้อนไม่หยุดมาสามวันเต็มแล้ว
    มนุษย์คนหนึ่งสามารถกระทำสิ่งเดิมโดยไม่พักผ่อนหรือทานอาหารได้นานขนาดนี้เชียวหรือ
    โดยเฉพาะการทุบค้อนที่ต้องใช้สมาธิ  พลังใจ  และค่าเรี่ยวแรงจำนวนมหาศาล  ทุกคนต่างเป็นห่วงสุขภาพของกริด

    "หัวหน้าไวท์  ถ้าคุณกริดสลบไป  พวกเราจะทำอย่างไรกันดี  ไปบอกให้เขาพักผ่อนก่อนไหม"

    ไวท์ส่ายศีรษะให้กับเหล่าช่างตีเหล็กที่เป็นกังวล  
    ตัวเขาเองก็มีสีหน้าอ่อนเพลีย  ไวท์เฝ้ามองการตีเหล็กของกริดมาสามวันสามคืนแล้วเช่นกัน

    "อย่าได้รบกวนสมาธิของดยุคแห่งคุณธรรมของแพงเจียเด็ดขาด"

    กริดต้องเป็นระดับช่างฝีมือแน่นอน  เมื่อเริ่มลงมือสร้างไอเท็มใด  เขาจะไม่หยุดพักหรือทานอาหารจนกว่าสิ่งนั้นจะเสร็จสิ้น  งานตรงหน้าคือสิ่งสำคัญที่สุดในชั่วขณะนั้น
    ไวท์ตระหนักถึงจุดนี้เป็นอย่างดี  เพราะกริดไม่ต่างอะไรกับบิดาผู้ล่วงลับของตน  ดาไวท์  เลยสักนิด
    ด้วยเหตุนี้  เขาไม่ต้องการให้ใครรบกวนกริด  
    และนับว่าตัดสินใจที่ถูกต้อง

    เป็นเพราะไวท์  กริดจึงมีโอกาสทำงานในบรรยากาศเงียบสงบไร้การรบกวน  ส่งผลให้เขาถลุงลมหายใจฟินิกซ์แดงเสร็จเร็วกว่าปรกติหนึ่งวัน

    "นี่จะต้องเป็น... ผลงานชิ้นเอกของเรา"

    พรึบ!

    กริดเร่งอุณภูมิเตาหลอมทันที  
    ทักษะความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนานแสดงผลเป็นครั้งที่สี่  ความเหนื่อยล้าของกริดหายเป็นปลิดทิ้งอีกครั้ง

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    ขณะที่ชายหนุ่มเริ่มลงมือสร้างคันศรฟินิกซ์แดง  เขาพลันเกิดลางสังหรณ์แปลกประหลาด
    
    'มันจะต้องเป็นสุดยอดผลงานแน่นอน'

    เป็นความมั่นใจที่มีเหตุผลรองรับอย่างเต็มเปี่ยม

Comments

  1. จงออกมาสิ Item เกรด mystic

    ReplyDelete
  2. สู้ๆ ก็อดกริด สู้ๆ โอเวอร์เกีย

    ReplyDelete
  3. เกรดmyth เถอะ สาธุ

    ReplyDelete
  4. ถ้าได้เกรดเเรร์ก็5555

    ReplyDelete
  5. ทักษะความอดทนออกบ่อยขนาดนี้เกรดไม่ต่ำกว่าตำนานเเน่นอน

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00