จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 556



    "รีบไปไบรันกันเถอะ"

    "แล้วคุณจิสึกะต้องมากับพวกเราด้วยไหม"

    เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิตินับเป็นเวทมนตร์ชั้นสูงและซับซ้อน  การจะวาดวงเวทแต่ละครั้งต้องระบุจุดหมายปลายทางและจำนวนคนที่จะส่งไป  ทำให้วงเวทไม่เหมือนเดิมเลยสักครั้งที่วาด  
    เป็นเหตุผลให้สติกส์ถามกริดก่อนเริ่มส่งไปไบรัน
    ชายหนุ่มตอบกลับ
    "ไม่ต้อง  พวกเราแค่สองคน"

    เหตุผลที่ต้องรักษาไบรัน  หนึ่งในนั้นก็เพื่อมิให้แพเทรี่ยนถูกโจมตีตลบสองด้าน  
    แพเทรี่ยนคือปราการสำคัญที่จะเสียไม่ได้เด็ดขาด  และจิสึกะคือกุญแจสำคัญของปราการแห่งนี้  เธอมิอาจไปไหนได้  จิสึกะเข้าใจดียิ่งกว่าใครทั้งหมด  

    'น่าเสียดายที่เราไปไบรันกับกริดไม่ได้...'

    พลังที่กริดมอบให้  เธอต้องการใช้มันเพื่อทำประโยชน์ต่อกริดให้มากที่สุด
    จิสึกะโบกมืออำลา

    "ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง  แพเทรี่ยนจะไม่มีวันแตกพ่ายแน่นอน  ส่วนเรื่องเงิน  พวกเราค่อยตกลงกันเมื่อมีโอกาส"

    "ตามนั้น"

    กริดตอบกลับพร้อมกับอมยิ้ม  เขาโล่งใจที่พวกพ้องของต้นพันภัยอันตรายไปแล้วส่วนหนึ่ง

    'เกือบนับลูกเจี๊ยบแล้วสิ*'

    ในอดีต  กริดคือจ้าวแห่งการนับลูกเจี๊ยบ  ทุกครั้งที่มีผู้หญิงมาทำดีหรือคุยด้วย  เขาจะเข้าใจผิดว่าพวกหล่อนชอบตน  กริดใส่ใจเพศตรงข้ามจนมองเจตนาผิดไปหลายหน  ไม่ว่าหญิงสาวเหล่านั้นจะมีปฏิสัมพันธ์กับเขาเพียงน้อยนิดแค่ไหนก็ตาม

( *นับลูกเจี๊ยบ '김칫국 마실' 
มาจากสำนวนเต็ม '김칫국부터 마시지 말라'  อย่านับเพิ่งลูกเจี๊ยบจนกว่าไข่ไก่จะฟักครบ  
แปลว่าอย่าเพิ่งคิดเองเออเองจนกว่าผลลัพธ์จะออกมา )

    แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์อาฮยองขึ้น  กริดก็ตระหนักถึงความจริงได้หนึ่งข้อ
    การที่คนเราจะคบกันได้  ฐานะและปัจจัยต่างๆ ควรมีอยู่ในระดับเท่าเทียมหรือใกล้เคียง  
    กริดคิดว่า  สาวงามระดับโลกอย่างจิสึกะไม่มีเหตุผลที่ต้องสนใจคนอย่างเขา  รอบกายเธอคงรายล้อมด้วยมหาเศรษฐีหนุ่มหล่อคารมดีคอยตามจีบไม่ขาดสาย  
    คนวิเศษอย่างเธอ  ไม่มีทางตกมาถึงตนแน่นอน

    'แล้วคงไม่มีผู้หญิงที่ไหนเป็นฝ่ายขอผู้ชายแต่งงานแน่'

    เขาเกือบมองไม่ออกว่านั่นคือมุกตลกและคิดว่าเป็นเรื่องจริง  
    ทว่า  ภาพของอาฮยองพลันลอยขึ้นในหัวจนทำให้เขาตาสว่างและรอดพ้นมาได้    

    'เกือบไปแล้วสิ  เกือบแยกไม่ออกมาระหว่างมุกตลกกับความจริง'

    เขาพัฒนาเป็นผู้ชายที่สามารถอ่านใจผู้หญิงออกแล้ว!
    ท่ามกลางแสงสีขาวเจิดจ้าตรงหน้า  กริดภาคภูมิใจในสติปัญญาที่สูงขึ้นของตัวเอง
    เมื่อจิสึกะถูกทิ้งไว้ตามลำพัง  ใบหน้าของเธอพลันแดงก่ำทันที

    "ร--เราถูกปฏิเสธ..."

    จะมีผู้หญิงกี่คนบนโลกกัน  ที่ถูกปฏิเสธหลังจากเป็นฝ่ายขอผู้ชายแต่งงานเสียเอง
    จิสึกเจ็บแปลบที่หน้าอก  นี่คือหนแรกที่เธอรู้สึกรักใครสักคนจากใจจริง  แต่ลงเอยด้วยการถูกปฏิเสธเสียได้

    "นายมันไอ้งั่ง!"

    ปัญหาคือ  เธอขอเขาแต่งงานโดยที่ยังไม่ได้คบกันเลยด้วยซ้ำ
    กริดต้องคิดว่าตนเป็นผู้หญิงประหลาดแน่  จิสึกะหน้าแดงอย่างเขินอายในการกระทำของตน
    
    "ฮึก… ฮือ..."

    จิสึกะปาดน้ำตาพร้อมกับส่งเสียงสะอื้น  
    ไม่เหมือนตัวตนแข็งกร้าวที่ทุกคนเห็นภายนอก  จิสึกะเองก็โสดสนิทมาทั้งชีวิต  แทบมิเคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามเลยสักนิด  
    ขณะเดียวกัน  ด้านล้างกำแพงแพเทรี่ยนในจุดที่สงครามกำลังร้อนระอุ...

    "ทุกคนลืมเราไปแล้วหรือ"

    เรกัสฝืนคลานด้วยสภาพร่างกายร่อแร่  
    เขากำลังเศร้าใจสุดขีด

    ***

    ณ  ย่านกังนัม  กรุงโซล  เกาหลีใต้

    แมนชั่นสุดหรูที่ถูกประเมิณราคาห้าหมื่นล้านวอนในปีที่แล้ว  ยูร่ากำลังนั่งพักผ่อนท่ามกลางสวนขนาดใหญ่พร้อมกับชำเลืองสายตามองลงไปยังแม่น้ำฮาน  ผิวพรรณอันงดงามของเธอกำลังส่องประกายรับแสงแดงอันเจิดจ้า

    'ร่างกายหนักอึ้งไปหมด'

    หลายวันที่ผ่านมา  ยูร่าออนไลน์ซาทิสฟายจนถึงขีดจำกัดของแคปซูลมาโดยตลอด  เพื่อคอยปกป้องไบรันให้รอดพ้นจากการถูกยึดครอง  เธอต้องลดเวลาส่วนตัวทั้งหมดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้  สิ่งนี้ก่อให้เกิดอาการเหนื่อยล้าสะสม

    ตารางชีวิตยุ่งเหยิงปั่นป่วน  จำนวนเวลาออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกลดทอน  และปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ  เธอไม่อาจรู้ได้เลยว่า  การรุกรานจากศัตรูจะจบลงตอนไหน  
    ว่ากันว่า  กองทัพอีเทอนัลมีไพร่พลสูงสุดราวห้าแสน  
    หากเส้นทางเสบียงไม่ถูกตัดขาด  ขีดจำกัดของไบรันน่ารับมือศัตรูได้ราวหนึ่งแสน

    เธอจะทนไหวถึงตอนนั้นรึเปล่านะ 
    ยูร่าส่ายศีรษะ

    'แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  เราก็ต้องอดทนไว้'

    เพื่อกริด  เธอยินดีทำงานหนักกว่าใคร
    เธอจะปล่อยให้การดิ้นรนที่ผ่านมาสูญเปล่ามิได้  ยูร่าข่มให้ใจสงบและหันไปมองนาฬิกา  ยังเหลืออีก 30 นาทีก่อนเธอจะเข้าเกมได้อีกครั้ง  ยูร่าเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นและเปิดโทรทัศน์  จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกเตรียมอาบน้ำ
    ผิวพรรณอันงดงามและเรือนร่างที่สมส่วนนั่น... 
    ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ

    『 ข่าวด่วน!  มีข้อมูลเข้ามาว่า  กองทัพของอีเทอนัลที่แพเทรี่ยนถูกทำลายพังพินาศแล้วครับ! 』

    ยูร่าชะงักทันทีระหว่างกำลังเดินไปห้องน้ำ  เธอหยุดฝีเท้าและหันมามองภาพข่าวในโทรทัศน์  
    แพเทรี่ยนเป็นป้อมปราการที่เอื้ออำนวยแก่การป้องกันก็จริง  แถมเลเวลของทหารอีเทอนัลที่แพเทรี่ยนก็ยังต่ำกว่าที่ถูกส่งมายังไบรัน
    
    แต่การตั้งรับก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย  กองทัพอีเทอนัลที่ปิดล้อมแพเทรี่ยนมีมากถึง 20,000 นาย  แถมมีกิลด์ผู้เล่นที่นำโดยบูบัต  เจฟฟ์  และราล์ฟคอยสมทบ  
    แล้วกองทัพของอีเทอนัลพ่ายแพ้ได้อย่างไรกัน

    'เป็นไปได้ยังไง...'

    ภาพในจอทีวีกำลังฉายให้เห็นบางส่วนของสงครามไบรัน  สิ่งนี้ได้ไขปริศนาในใจยูร่าและผู้ชมทั่วโลก

    『 ก็อย่างที่เห็นนะครับ   หน่วยจอมเวทของเรย์ดันเป็นแกนหลักในการทำลายรถศึกของอีเทอนัลจนราบคาบ  ด้วยเหตุนี้  การบุกป้อมปราการจึงทำได้ยากลำบากยิ่งกว่าเดิม 』

    『 หน่วยจอมเวทเกือบทั้งหมดล้วนเป็น NPC กลุ่มชนเผ่าที่พบเห็นได้ยากในทวีปตะวันตก  สีผิวและรอยสักของพวกเขามีเอกลักษณ์โดดเด่นมากทีเดียวครับ 』

    『 ผมได้รับข้อมูลเสริมจากทีมวิจัยซาทิสฟายมาว่า  พวกเขาคือมนุษย์ชนเผ่าหนึ่งที่ชื่อว่าชนเผ่าอัล  คนเหล่านี้จะมีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์สูงตั้งแต่เกิด 』

    『 ทำไมถึงมีชนเผ่าอัลอยู่ในโอเวอร์เกียร์ได้ครับ 』

    『  ได้ยินมาว่า  เมื่อไม่นานมานี้  ชนเผ่าอัลกำลังถูกจักรวรรดิซาฮารันไล่กวาดล้าง  พวกเขาไร้บ้านจนต้องเร่ร่อน  กริดน่าจะทำภารกิจบางอย่างจนกุมหัวใจพวกเขาได้ครับ 』

    『  ฮะฮะ... สมกับเป็นกริดครับ  ทักษะในการกุมหัวใจ NPC  บนโลกนี้คงไม่มีใครเกินอีกแล้ว 』

    『 ดูเหมือนกริดจะเพิ่มค่าความสัมพันธ์ NPC ได้ง่ายกว่าผู้เล่นปรกตินะครับ  ในมุมมองของผม  เขาน่าจะมีทักษะติดตัวหรือสมญานามที่ช่วยให้สนิทสนมกับ NPC ได้ง่ายขึ้น 』
    
    ในวิดีโอดังกล่าว  ชนเผ่าอัลปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังกองทัพอีเทอนัลด้วยเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติ  จากนั้นก็ระดมยิงเวทมนตร์อันทรงพลังเข้าใส่รถศึกจนพังพินาศ  เมื่อเสร็จภารกิจ  พวกเขาทั้งหมดก็หายตัวไปด้วยเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติอีกครั้ง

    『 ถึงจะเป็นชนเผ่าที่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์สูงก็ตาม  แต่การใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติได้ง่ายดายเช่นนี้  มันไม่เกินไปหน่อยหรือครับ  ผมได้ยินมาว่า  มีผู้เล่นจอมเวทระดับท็อปเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ใช้ได้  และในหมู่ NPC ก็มีเพียงสิบมหาจอมเวทย์เท่านั้น 』

    『 ไม่ใช่ครับ  ลองดูในวิดีโอให้ดี  ผู้ร่ายเวทเคลื่อนย้ายมิติไม่ใช่ชนเผ่าอัล  ขณะที่ชนเผ่าอัลเริ่มระดมยิงเวทมนตร์ใส่รถศึก  มีคนผู้หนึ่งเริ่มลงมือวาดวงแหวนเวทลงบนพื้นครับ 』

    วิดีโอซูมภาพเข้าไปจนเกือบสุด  เผยให้เห็นใบหน้าของจอมปราชญ์สติกส์อย่างชัดเจน  
    บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างตกตะลึงทันที

    『 น--นั่นมันเอลฟ์!   กริดมีเอลฟ์เป็นพวกครับ! 』

    เนื้อเรื่องหลักของซาทิสฟายยังอยู่ในบทแรกเริ่ม  ทำให้เผ่าพันธ์สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นยังไม่ปรากฏมากนัก  จากผู้เล่นกว่าสองพันล้าน  มีเพียงหยิบมือเดียวที่เคยพบพานสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่นนอกจากมนุษย์
    แต่กริดกลับเป็นพวกพ้องกับเอลฟ์สำเร็จแล้ว

    『 ดูเหมือนทักษะในการกุมหัวใจ NPC จะมีผลกับทุกเผ่าพันธ์เลยสินะครับ  ยอดเยี่ยมมาก 』

    『 สมกับเป็นก็อดกริด... 』    

    『 นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้เห็นเอลฟ์ในซาทิสฟาย  แต่น่าเสียดายมากครับที่ดันเป็นเอลฟ์เพศชาย 』

    ผู้เชี่ยวชาญบางคนมักรู้สึกภูมิใจที่ได้พูดเรื่องไร้สาระ  แต่นั่นย่อมไม่ใช่ปัญหา  เพราะถือว่าเขาได้พูดแทนใจผู้ชมฝ่ายชายทั่วโลก
        
    『 อะแฮ่ม  ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด  แต่ตอนนี้  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่อยู่บนกำแพงป้อมแพเทรี่ยนคงได้พักหายใจหายคอเพราะความช่วยเหลือจากหน่วยจอมเวทเรย์ดัน  ถึงกระนั้น  ความตื่นเต้นก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้  ทัพอีเทอนัลยังมีบูบัต  เจฟฟ์  และราล์ฟที่เป็นแร้งเกอร์แถวหน้าของโลก  หากพวกเขาลงมือพร้อมกัน  แม้แต่สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่แข็งแกร่งก็อาจต้านไม่อยู่ 』

    ถึงตอนนี้  ภาพตัดมายังกลุ่มของบูบัต  
    เรกัสแสดงสีหน้าเหนื่อยหอบชัดเจน  และพลังต่อสู้ทางฝั่งบูบัตก็ไม่ใช่กระจอก  ผลการตะลุมบอนถูกปิดฉากลงในพริบตา  เจฟฟ์  และราล์ฟสังหารสมาชิกโอเวอร์เกียร์หน่วยเรกัสไปไม่น้อย  สมกับเป็นแร้งเกอร์ระดับสูง
    แต่กระแสสงครามก็ดุเดือดได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น

    『 ผู้ชมทางบ้านอาจคิดว่าแพเทรี่ยนคงเสียท่าแล้วสินะครับ  แต่ขณะที่สมาชิกโอเวอร์เกียร์กำลังสิ้นหวัง  กริดก็ปรากฏตัวขึ้น  』

    ความน่าเกรงขามของบูบัต  เจฟฟ์  และราล์ฟงั้นหรือ  ช่างน่าขัน
    พวกมันหมองหม่นทันทีเมื่อกริดปรากฏกายอย่างเด่นตระหง่านท่ามกลางท้องฟ้าแพเทรี่ยน  
    บอลเวทสีขาวงดงามราวดวงจันทร์นับร้อยด้านหลัง  จะมีผู้เล่นคนใดในโลกที่สร้างภาพอลังการเช่นนี้ได้อีก
    ในวินาทีที่กริดเริ่มกระหน่ำยิงศรเวทลงมาด้านล่าง  ทัพอีเทอนัลก็พบพานกับความพังพินาศย่อยยับ

    "เท่จัง..."

    เมื่อได้เห็นกริดเฉยฉายในจอทีวี  ดวงตาของยูร่าพลันเปล่งประกายดุจดั่งอัญมณี

    『  กริดกำลังมอบธนูคันหนึ่งให้จิสึกะครับ 』

    ยูร่าและผู้ชมทางบ้านต่างเห็นเต็มสองตาว่ากริดมอบธนูสีแดงเพลิงคันหนึ่งให้จิสึกะ  จากนั้น  เมื่อเธอโก่งคันศรเล็งมาด้านหน้า  วิหคอัคคีขนาดมหึมาพลันปรากฏตัวบนท้องฟ้า  ไฟบอลหลายหมื่นลูกถูกยิงลงไปด้านล่างคร่าชีวิตทหารฝ่ายศัตรู  เสาลำแสงสีเทาซ้อนทับกันหนาทึบราวกับหมอกยักษ์  สนามรบแปรเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงในพริบตา
    ไม่เพียงเท่านั้น  จิสึกะยังคงกระหน่ำยิงใส่บูบัต  เจฟฟ์  และราล์ฟอย่างต่อเนื่อง  พวกมันทำได้เพียงรอความตายอย่างน่าสมเพช

    "ธนูนั่น… เกรดอะไรกันแน่"

    ธนูปริศนาที่ยกระดับผู้สวมใส่ให้กลายเป็นตำนาน  
    มันยอดเยี่ยมเกินกว่าจะเป็นประสิทธิภาพของไอเท็มเกรดเลเจนดารี  เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างรีบออกความเห็น

    『 พลังโจมตีของมันมหาศาลมาก  แถมยังเหมาะกับคลาสนักธนูสีชาดของจิสึกะ  ด้วยการโจมตีเป็นวงกว้างราวกับเกิดมาเพื่อเป็นเทพสงครามเช่นนี้  ผมจึงคิดว่า  ธนูที่จิสึกะใช้น่าจะเป็นไอเท็มที่ใช้ได้แค่ในภารกิจเท่านั้นครับ 』

    ไอเท็มที่ใช้ได้แค่ในภารกิจ
    สิ่งนี้คือไอเท็มที่ระบบมอบให้ผู้เล่นเพื่อลดระดับความยากของภารกิจลง  ไอเท็มเฉพาะภารกิจส่วนมากจะมีประสิทธิภาพอลังการเกินความเป็นจริง  นั่นก็เพื่ออำนวยให้ผู้เล่นสามารถผ่านภารกิจสุดหินได้ง่ายขึ้น

    『  ผมขอเดาว่า  หากผู้เล่นอีเทอนัลได้รับภารกิจให้โจมตีโอเวอร์เกียร์  ทางกิลด์โอเวอร์เกียร์ก็น่าจะมีภารกิจสำหรับป้องกันเช่นกัน  และกริดก็สำเร็จเงื่อนไขภารกิจบางส่วน  จนได้รับธนูสำหรับใช้ในสงครามป้องกัน  เมื่ออยู่ในมือจิสึกะ  ราวกับเทพอัคคีจุติลงมาในร่างเธอยังไงยังงั้น 』

    『 เห็นด้วยครับ  และนั่นยังอธิบายเหตุผลที่กริดหายตัวไปอย่างยาวนานระหว่างสงครามได้ด้วย  』

    『  ยอดเยี่ยมมากครับ  พวกคุณคิดว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์จะรับมือกับการรุกรานจากอีเทอนัลสำเร็จรึไม่ 』

    『 คงยากครับ  แค่ไอเท็มชิ้นเดียวไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสงครามโดยรวมได้แน่  หากอีเทอนัลตัดเส้นทางเสบียงโอเวอร์เกียร์ได้เมื่อไร  ถึงตอนนั้นคงเปิดฉากถล่มด้วยรถศึกพิสัยไกลแน่นอนครับ  กิลด์โอเวอร์เกียร์คงทำได้เพียงรอรับความพ่ายแพ้ 』

    『  แต่ถึงจะเสียดินแดนทั้งหมดไป  กิลด์โอเวอร์เกียร์จะมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นหลายเท่าหลังจากศึกหนนี้  ความเกรียงไกรของกิลด์ผู้เล่นเพียงกิลด์เดียวที่สามารถรับมือกับสงครามเต็มรูปแบบจากอาณาจักรได้  มันจะกลายเป็นตำนานตลอดไปของซาทิสฟายครับ  และนั่นจะเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมากกับพวกเขา 』

    เมื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ  พวกเขาก็ต้องออกความเห็นด้วยการคาดเดา
    การคาดเดาของผู้เชี่ยวชาญมักเกิดจากเหตุผลที่เหมาะสมและสามัญสำนึกพื้นฐาน  ทว่ากริดเป็นใครกัน  ชายคนนี้คือนักทำลายสามัญสำนึก  
    น่าเสียดายที่การคาดเดาของผู้เชี่ยวชาญต้องผิดพลาดอีกครั้ง

    ***

    "บารอนดูก้าและเอิร์ลแคร์เรี่ยนเข้าร่วมทัพ!"

    "มาร์ควิสเบล่าและเอิร์ลเรดเข้าร่วมทัพ!"

    ณ ตอนนี้  ทหารกว่า 100,000 นายกำลังรวมตัวกันรอบไบรัน  เป็นผลพวงมาจากความร่วมมือของขุนนางน้อยใหญ่มากมายที่ได้รับคำสั่งตรงจากกษัตริย์  
    แม่ทัพสูงสุด  ดยุคลูซิลิฟ  มันแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ 

    "ต้องขอบคุณทัพหน้าที่รุดมาถึงก่อน  ตอนนี้พวกกบฏคงกำลังอ่อนแรงอย่างมาก  วันนี้พวกเราจะยึดครองไบรัน  จากนั้นก็เป็นแพเทรี่ยน!"

    "แด่อีเทอนัล!"
    
    "แด่กษัตริย์อัสลัน!"

    "เฮ~~!!"

    ขวัญกำลังใจทหารกำลังฮึกเหิม  ภาพการเคลื่อนทัพช่างยิ่งใหญ่อลังการ  บรรดาสัตว์ป่าและมอนสเตอร์ต่างหวาดกลัวจนรีบหนีไป

    "พวกเราจะจบสงครามครั้งนี้โดยเร็ว!  ชาวเมืองจะได้อยู่อย่างสงบสุข!"

    เหล่าทหารจากทุกสารทิศที่มาเข้าร่วมกองทัพต่างกำลังยิ้มแย้มแจ่มใส
    กริด  ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นวีรบุรุษอาณาจักร  บัดนี้กลับทรยศราชวงศ์และก่อกบฏ  
    บรรดาทหารต่างดีอกดีใจ  ในที่สุด  ต้นตอที่สร้างความวุ่นวายทั้งหมดกำลังจะถูกกำจัดเสียที  ความสงบสุขจะกลับสู่อีกเทอนัลอีกครั้ง  
    ทุกคนเคลื่อนทัพอย่างอารมณ์ดีปรีดาราวกับมาปิกนิก

    มีเพียงทหารคนเดียวเท่านั้นที่ยังแสดงสีหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา  เขาคือทหารใหม่ที่เพิ่งถูกเกณฑ์เข้าร่วมกับกองทัพของเมืองพาร์ตู
    
    "นี่อาส... นายกำลังประหม่างั้นหรือ"

    "..."

    "ฮะฮะ  ไม่แปลกที่จะประหม่า  นี่คือสงครามครั้งแรกสินะ  แต่อย่าได้กังวลเกินไป  พวกเรามีมากถึง 100,000 คน  กลุ่มกบฏคงถูกทำลายในพริบตาแน่  อีกประเดี๋ยวสงครามก็จบแล้ว"

    อันที่จริง  ทหารรุ่นพี่ของเมืองพาร์ตูนั้นไม่ค่อยสบายใจนัก  ทหารเกณฑ์เหล่านี้มาจากร้อยพ่อพันแม่  บ้างก็ถูกเกณฑ์จากดินแดนยากจนทุรกันดาร  บ้างก็เป็นขอทานที่หวังมีอาหารกินไปวันๆ   เมื่อทหารถูกเกณฑ์จากประชากรด้อยคุณภาพ  ระเบียบวินัยจึงหละหลวม  ไม่เพียงทหารของเมืองพาร์ตูเท่านั้น  แต่ยังรวมถึงทหารของทุกหัวเมือง  ทั้งหมดล้วนเป็นเช่นนี้

    จำนวนที่มากกว่าไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพเสมอไป
    แต่แล้วยังไงล่ะ  กับแค่กลุ่มกบฏ  ใช้คนจำนวนมากกว่าถล่มเข้าใส่ก็เพียงพอแล้ว

    "พวกกบฏไม่มีทางรับมือคลื่นมนุษย์ได้แน่"    

    อาสรับฟังคำเพ้อเจ้อของทหารรุ่นพี่อย่างเงียบงัน
    จากนั้นก็พึมพำกับตนเอง

    "นั่นก็ใช่… แต่หากระบบสั่งการของคนหมู่มากเกิดปั่นป่วนล่ะก็"

    อาสจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของดยุคลูซิลิฟอย่างไม่ละสายตา  แม่ทัพใหญ่ผู้นำกองทหาร 100,000 นาย  ดยุคลูซิลิฟ  มันมิได้ตระหนักถึงสายตาเพชฆาตนี้เลยสักนิด

    ขณะเดียวกัน  ที่ไบรัน

    "ทหาร 100,000 นายกำลังเคลื่อนทัพตรงมาจากพาร์ตู!"

    "อะไรนะ!  หนึ่งแสน!"

    บ้าบอสิ้นดี  
    ป็อนพลันเหงื่อท่วม  สมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นที่ได้ยินก็เช่นกัน  พวกเขาแสดงสีหน้าถอดใจทันที

    "ทำไมพวกมันถึงเคลื่อนพลเร็วขนาดนี้  ลอเอลคำนวณพลาดงั้นหรือ"

    ลอเอลกล่าวว่า  กองทัพอีเทอนัลมีจุดบอดใหญ่หลวงด้านการระดมพล  ไม่มีทางที่พวกมันจะรวมรวบทหารหลักแสนได้ก่อนสองสัปดาห์แน่  
    แต่ลอเอลคิดผิด  ดูเหมือนระบบจัดการทัพของอีเทอนัลจะยอดเยี่ยมกว่าที่เขาวิเคราะห์

    "พักหลังมานี้  ลอเอลคำนวณพลาดบ่อยนะ"

    "เขาต้องบริหารบ้านเมืองไปพร้อมกับวางกลศึก  งานในมือล้นเกินกว่าจะทำทุกสิ่งให้สมบูรณ์แบบได้"

    "พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก  แม้กระทั่งอัจฉริยะก็ยังผิดพลาดกันได้… ที่นี่คงไม่ไหวแล้วล่ะ  กลับไปสมทบแพเทรี่ยนกันเถอะ"

    สมาชิกโอเวอร์เกียร์อดคิดไม่ได้ว่า  จะดีแค่ไหนกันหากมีอัสโมเฟลอยู่ที่นี่ด้วย  
    ถ้าจ้าวแห่งกลศึกคอยนำพากองทัพเข้าสู้รบล่ะก็

    '...เฮ่อ  แต่หมอนั่นคงกำลังทำหน้าที่ในฐานะพลทหารอยู่ที่ไหนสักแห่ง'

    สักแห่งในดินแดนโอเวอร์เกียร์  พลทหารอาสคงกำลังสวมบทบาทโดดเด่นในสงคราม  นี่คงเป็นสาเหตุที่กิลด์โอเวอร์เกียร์สามารถต้านทานทัพอีเทอนัลได้นานขนาดนี้  ป็อนคิดเช่นนั้น

    ***

    >> ทุกอย่างเตรียมการเรียบร้อยแล้ว  สมาชิกที่เหลือเริ่มรับมือไม่ไหว  ฉันเองก็จะเข้าร่วมสงครามนี้ด้วย

    ณ เรย์ดัน

    เมื่อลอเอลได้รับข้อความที่น่ายินดี  เขารีบลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง

    'ปิอาโร่และกองทัพเผ่าวารีตามมาสมทบเรียบร้อยแล้วสินะ'

    ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ลอเอลแอบส่งคนกระจายออกไปทุกซอกมุมของอีเทอนัล  เพื่อรับข่าวสารและทิศทางการเคลื่อนไหวของกองทัพฝ่ายศัตรู  

    'เริ่มผมร่วงแล้วสิ'

    มันเป็นงานที่ยากและตึงเครียด  ส่งผลให้ลอเอลในชีวิตจริงเริ่มออกอาการผมร่วง  
    เส้นผมกระจุกใหญ่จะร่วงหล่นทุกครั้งที่เขานำมือไปลูบหัว 
    แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามัวกังวลเรื่องศีรษะล้าน  มันคือเวลาที่เขาต้องลงมือทำบางสิ่ง  ลอเอลต้องจัดการโปรเจคขึ้นครองราชย์ของกริดส่วนสุดท้ายให้เสร็จสมบูรณ์

    "ก่อนฉันจะไป  คาซิม  คงต้องรบกวนนายหนึ่งเรื่อง  ได้โปรดทำตามแผนที่ฉันกำลังจะบอก  เพื่อเตรียมรับมือกับการลอบตลบหลังจากจักรวรรดิ"    

    ลอเอลคิดนำทัพเสริมด้วยตนเอง  เขาจึงเรียกคาซิมมาหาและมอบหมายภารกิจลับให้ทำ
    
    คาซิมรู้สึกชื่นชมทันทีเมื่อฟังจนจบ
    "เป็นแผนที่สุดยอดมาก  เข้าใจแล้ว"

Comments

  1. พลทหารอาสมาแล้ว

    ReplyDelete
  2. สงสารเรกัสต้องคลานเข้ามาในประตูเมือง

    ReplyDelete
  3. เรกัสผู้ถูกลืม

    ReplyDelete
  4. เรื่องนี้ต้องโทษรักแรกของกริดสินะ สงสารจิสึกะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00