จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 550



    "ให้ตายสิ"

    ณ ฟาร์มกว้างใหญ่ไพศาลรอบเรย์ดัน
    ชาวนาปริศนา  ฮูเร็น  ออร่ามาสเตอร์  กำลังรอคอยการกลับมาของปิอาโร่อยู่ทุกขณะ
    ความกังวลของเขายิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวี  เมื่อได้ยินว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์กำลังเข้าสู่ภาวะสงครามครั้งใหญ่  
    จากมุมมองของเขา  ข่าวนี้เป็นราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสก  
    ฮูเร็นกังวลว่า  ฟาร์มซึ่งตนใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อม  ฟาร์มที่ตนรักยิ่งชีพจะถูกทำลายลงจากผลพวงของไฟสงคราม  

    "พักพลังมานี้  เจ้าพวกนั้นยุ่งวุ่นวายกันน่าดู… คงเตรียมทำสงครามมาตั้งแต่แรกแล้วสินะ"

    ปิอาโร่พร่ำสอนให้ฮูเร็นรู้จักตนเอง(?) และอภัยตนเอง(?) หลังจากรุกรานเรย์ดันไม่สำเร็จ
    ทุกสิ่งที่ปิอาโร่สอนสั่งล้วนมีค่ามาก  ปิอาโร่คือผู้ชำนาญออร่าอย่างแท้จริง  เป็นอาจารย์ที่ฮูเร็นตามหามาทั้งชีวิต  
    ฮูเร็นอิ่มเอมใจเมื่อได้เห็นผลผลิตจากฟาร์มของตนเติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์  เมื่อชาวเมืองและทหารได้กินอาหารด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย  ฮูเร็นพลันอมยิ้ม

    "บ้าจริง  เราไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสักหน่อย"

    เหตุใดตนถึงกำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่
    ฮูเร็นส่ายศีรษะอย่างไม่ซื่อตรงต่อหัวใจ
    ถึงกระนั้น  เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า  ฟาร์มอันกว้างใหญ่แห่งนี้สำคัญกับตนมาก  ฮูเร็นอยากรักษามันไว้ทุกตารางนิ้ว  มิต้องการให้ถูกทำลาย  
    เขาชื่อว่า  นี่คือการตอบแทนปิอาโร่อย่างดีที่สุดแล้ว 
    เมื่อปิอาโร่กลับมาและได้เห็นว่าฟาร์มยังอุดมสมบูรณ์  เขาต้องดีใจแน่
    แต่ฮูเร็นจะปกป้องด้วยวิธีไหนกันล่ะ… 
    
    "คงไม่มีทางเลือก  นอกจากต้องร่วมสู้"

    ฮูเร็นกางแผนที่อาณาจักรอีเทอนัลออกมาดู
    เรย์ดันทางตะวันตก  ไบรันทางทิศเหนือ  แพเทรี่ยนทางตะวันตกเฉียงใต้  และไรน์ฮาร์ททางตะวันออก

     'ถ้าคิดจะบุกเรย์ดัน  หากเคลื่อนทัพจากไรน์ฮาร์ท  พวกมันต้องผ่านแพเทรี่ยนเท่านั้น'

    เรย์ดันและไรท์ฮาร์มไม่สามารถลัดตรงไปหากันได้ 
    เนื่องจากภูมิประเทศขวางกั้นไว้ด้วยป่าและเทือกเขาสูง  มีเพียงต้องผ่านแพเทรี่ยนสถานเดียว

    'เป็นจุดยุทธศาสตร์ชั้นเยี่ยม  คงมีการวางแผนมาตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรแล้ว'

    เดาได้ไม่ยาก  
    ทางตะวันตกของเรย์ดันติดกับชายแดนจักรวรรดิ  ส่วนทางใต้ของแพเทรี่ยนก็ติดกับอาณาจักรเก๊าส์  
    ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ  แพเทรี่ยนคือป้อมปราการที่อีเทอนัลจงใจสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับการรุกรานไม่คาดฝัน  ป้อมปราการเดียวที่สามารถรับมือได้สองอาณาจักรพร้อมกัน  
    และชายที่แข็งแกร่งที่สุดในอีเทอนัลก็ถูกเลือกให้เป็นผู้ปกครองแพเทรี่ยน

    'แพเทรี่ยนเป็นป้อมปราการโดยกำเนิด  แล้วกริดใช้วิธีไหนยึดครองมาได้กันนะ'

    อีเทอนัลคงเจ็บปวดไม่น้อย
    การจะปราบกบฏกริดให้สิ้นซาก  สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ  การทวงคืนป้องปราการแสนสำคัญอย่างแพเทรี่ยน
    แต่ด้วยความที่เป็นปราการแข็งแกร่ง  มันใช่เรื่องง่ายซะที่ไหนกัน

    'ป้อมแพเทรี่ยนถูกออกแบบให้รับการโจมตีจากสองอาณาจักร  มันคงไม่แตกพ่ายโดยเร็ว  อีเทอนัลน่าจะมุ่งไปโจมตีไบรันให้เรียบร้อยก่อน'

    วิธีการบุกแพเทรี่ยนที่ดีที่สุด  คือการบุกสองทางพร้อมกัน  ทั้งประตูฝั่งทิศตะวันออกและประตูฝั่งทิศเหนือ
    การจะทำเช่นนี้ได้  อีเทอนัลต้องยึดครองไบรันที่เป็นเสี้ยนหนามทางประตูฝั่งเหนือให้เรียบร้อยเสียก่อน

    "เราควรไปปกป้องไบรัน"

    เพื่อปกป้องฟาร์มอุดมสมบูรณ์ของเรย์ดัน  ฮูเร็นตัดสินใจเดินทางออกจากเรย์ดันทันที
    ครั้งหนึ่ง  ฮูเร็นเคยฝันถึงการเป็นอริยดาบ  
    แต่หลังจากค้นพบความน่าทึ่งของออร่าจากปิอาโร่  เขาก็อุทิศกายใจให้กับออร่าทั้งชีวิต  ฮูเร็นหวังจะไต่ไปให้ถึงจุดสูงสุดของคลาสออร่ามาสเตอร์
    ตอนนี้ฮูเร็นเก่งกาจกว่าสมัยงานแข่งนานาชาติครั้งแรกหลายเท่า  
    เขาก็กำลังเคลื่อนไหวอย่างลับๆ เพื่อประโยชน์ของโอเวอร์เกียร์

    นี่คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของสงคราม  ที่แม้แต่อัจฉริยะอย่างลอเอลก็คาดไม่ถึง

    ***

    กองทัพเรืออีเทอนัลส่งหน่วย R77 ลอบแทรกซึมเข้าไปในเกาะคอร์กผ่านทางอุโมงค์ลับ
    พวกมันไม่สงสัยเลยว่า  หน่วย R77 จะต้องประสบผลสำเร็จในการเด็ดหัวแม่ทัพฝ่ายศัตรูแน่นอน
    อีกไม่นาน  ระบบบัญชาการกองทัพเกาะคอร์กจะเกิดความระส่ำระสาย  และนั่นคือโอกาสทองของกองเรืออีเทอนัล  สำหรับบุกถล่มเกาะคอร์กให้ราบคาบ

    แต่บรรยากาศยามนี้กลับเงียบงันจนน่ากังวล
    เดิมที  พลุสัญญาณควรถูกยิงขึ้นฟ้าตั้งแต่สี่ชั่วโมงก่อนตามเวลาที่นัดหมายกันไว้  
    แต่ยามนี้  เวลาล่วงเลยมานาน  กลับยังไม่มีข่าวใดถูกส่งกลับมาจากหน่วย R77
    เกาะคอร์กเบื้องหน้ายังคงเงียบสงบตามปรกติ

    "หรือปฏิบัติการจะล้มเหลว"

    ใครบางคนอดถามขึ้นไม่ได้
    เจ้าของเสียงคือเลอบัค  พลเรือเอกแห่งของทัพเรือ
    บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างสะดุ้งเฮือก  พวกมันรีบแสดงความเห็น

    "จนกระทั่งสี่วันก่อน  ไม่มีใครสักคนนอกจากกษัตริย์ที่รู้ถึงการมีอยู่ของอุโมงค์ลับเกาะคอร์ก  กลุ่มกบฏไม่มีทางล่วงรู้ปฏิบัติการลอบแทรกซึมของหน่วย R77 แน่"

    "หน่วย R77 น่าจะลอบเข้าเกาะอย่างปลอดภัย  และพยายามทำตามแผนเดิมที่วางไว้  แต่อาจเกิดปัญหาขึ้นด้วยปัจจัยบางประการ  ทำให้ปฏิบัติการล่าช้าไปบ้าง"

    เลอบัคขมวดคิ้ว

    "มีโอกาสที่ R77 จะถูกสังหารทันทีเมื่อลงถึงเกาะรึเปล่า"

    "ท่านนายพล  หน่วย R77 คือทีมรบสุดแกร่งของกองทัพเรือเรา  ไม่มีทางถูกพบตัวได้ง่ายแน่"

    "ได้โปรดรออีกนิด  ข่าวดีจะต้องมาถึงแน่นอน"

    "...อืม"

    เลอบัคตัดสินใจไม่กังวลไปมากกว่านี้
    หากมองจากหลายปัจจัย  รวมถึงฝีมือเฉพาะตัวของหน่วย R77 และการใช้อุโมงค์ลับ  โอกาสที่ปฏิบัติการจะล้มเหลวแทบเป็นศูนย์  
    ทันใดนั้น  ความเชื่อมั่นของมันก็ได้รับผลตอบแทน

    บึ้มม!  บึ้ม!

    "โอ้!"

    พลุสัญญาณถูกยิงขึ้นฟ้าเหนือเกราะคอร์ก
    สีของพลุคือสีฟ้า  ย่อมหมายความว่า  แม่ทัพของศัตรูถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว  เป็นสัญญาณให้กองเรือเข้าบุกประจัญบาน

    เลอบัครีบออกคำสั่ง
    "อย่าทำให้สภาพเกาะเสียหาย  เพราะเดี๋ยวเกาะแห่งนี้จะกลับมาเป็นของพวกเราแล้ว!  งดยิงอาวุธพิสัยไกล  เคลื่อนพลด้วยเท้า!  ประจัญบานและแสดงให้พวกกบฏได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่!"

    ฝ่ายศัตรูย่อมมีแรงขัดขืนอ่อนแอกว่าปรกติ  เพราะยามนี้ไม่มีแม่ทัพใหญ่คอยบัญชาการอยู่อีกแล้ว  ส่วนปืนครกและเวทมนตร์ที่ยิงจากป้อมปราการก็ไม่น่ากลัวเลยสักนิด  
    การขัดขืดของพวกมันกำลังดำเนินมาถึงจุดจบ!

    "ยกพลขึ้นบก!"

    "ประจัญบาน!  ประจัญบาน!!"

    กองเรือบรรทุกเริ่มจอดเทียบท่าและปล่อยทหารที่ชายฝั่ง
    ขวัญกำลังใจของทัพกำลังพุ่งพล่าน  พวกมันล้วนคิดแต่เพียงชัยชนะที่รออยู่ตรงหน้า  
    พีคซอร์ดอมยิ้มอย่างขบขันอยู่บนป้อมเมื่อได้เห็นภาพ

    "เป็นพลุสีฟ้าตามที่นายบอกจริงๆ  ขอโทษที่เคยระแวง"

    "ผมอุทิศตนให้โอเวอร์เกียร์แล้ว  ไม่มีเหตุผลให้ต้องโกหก"

    "เป็นทัศนคติที่ดี  จงรักษามันไว้ตราบนานเท่านาน  และศึกษาเรียนรู้จากก็อดกริดให้มาก"

    "ขอบคุณที่ให้โอกาส"

    โซลเยอร์ที่ถูกพีคซอร์ดสังหาร  ทันทีที่ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง  เขาก็รีบกลับมายังเกาะคอร์กและยกธงขาวยอมจำนน  
    เหตุใดโซลเยอร์ถึงละทิ้งยศทางทหารที่ตนอุตส่าห์ไต่เต้าอย่างยากลำบากงั้นหรือ
    เป็นเพราะโซลเยอร์ได้ตระหนักว่า  อีเทอนัลไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว

    สองคืนก่อน
    โซลเยอร์ขนลุกซู่เมื่อปลายทางอุโมงค์ลับสุดยอดมีพีคซอร์ดดักรออยู่พร้อมตั้งท่าโจมตี  
    เขาตระหนักได้ทันที  ว่าเครือข่ายข้อมูลของโอเวอร์เกียร์กว้างไกลมากแค่ไหน  เหนือกว่าอีเทอนัลไม่รู้ตั้งกี่เท่า  
    โซลเยอร์มั่นใจมาก  ว่าฝ่ายที่ชนะสงครามครั้งนี้ต้องเป็นโอเวอร์เกียร์แน่นอน  มิใช่อีเทอนัล  และทันทีที่สงครามจบลง  โอเวอร์เกียร์จะก่อตั้งอาณาจักรขึ้นเองสำเร็จ

    เขารีบตัดสินใจโดยเร็ว  
    โซลเยอร์เลือกรับใช้กริดและโอเวอร์เกียร์  เขาหวังจะกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรใหม่ที่กำลังจะถือกำเนิด

    'โอกาสทองของเราแล้ว!  หากสร้างหนี้บุญคุณให้กับผู้ก่อตั้งอาณาจักรล่ะก็...  โชคหล่นทับของแท้!'

    หลังจากนี้  โซลเยอร์จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในอาณาจักรใหม่

    กลับกัน  พีคซอร์ดกำลังตื่นเต้น    

    'เรารอจนกระทั่งค่าเรี่ยวแรงทุกคนกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง  จากนั้นค่อยยิงพลุสัญญาณขึ้นฟ้า  และกองทัพเรือศัตรูก็จะส่งคนมาตายฟรีด้วยน้ำมือพวกเรา  บางทีว่า...'

    หรือตนจะสร้างปาฏิหาริย์นอกเหนือความคาดหมายของทุกคนสำเร็จ
    เกาะคอร์กที่ไม่มีทางตั้งรับได้นานเกินหนึ่งเดือน  บางทีพีคซอร์ดอาจปกป้องมันสำเร็จก็เป็นได้

    ***

    "โฮ่"

    ทัพเสริมฝ่ายเก๊าส์ได้เดินทางมาสมบทที่ป้อมปราการบอร์เนียว  
    แกนนำศึกนี้  เป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากซิวรอน  
    มันประหลาดใจไม่น้อยหลังจากยิงหอกวิญญาณขึ้นไปบนกำแพงป้อมปราการเพื่อหวังดับลมหายใจกลุ่มทหาร
    พลธนูที่ควรจะตายคาที่  กลับยังมีชีวิตรอดอย่างน่าตกตะลึง

    'เหลือหลอดพลังชีวิตมากถึง 20% เชียว'

    เฉกเช่นเกมออนไลน์ทั่วไป  ซาทิสฟายมีระบบส่วนต่างของเลเวลเพื่อตอบแทนผู้ที่ทำงานหนัก  
    ในทางทฤษฏี  สิ่งมีชีวิตเลเวล 100 ถึง 200 ไม่มีทางรอดชีวิตไปจากการโจมตีด้วยทักษะของผู้เล่นเลเวล 300 ได้  
    แค็ทซ์สามารถล้างสังหารทัพหน้าบอร์เนียวในวันแรกได้ด้วยสาเหตุนี้

    ว่ากันตามตรง  พลังด้านโจมตีของซิวรอนเหนือกว่าแค็ทซ์
    แต่ผลกลับออกมาอย่างค้านสายตา  ทหารที่ควรจะตายกลับรอดชีวิต
    ซิวรอนเป็นใครกัน  มันคือคลาสลับเกรดยูนีค  นักล่าวิญญาณ  ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้และเก่งกาจขึ้นหลายเท่าบนสนามรบ  
    ทักษะสายโจมตีเกรดยูนีคย่อมมีความรุนแรงมหาศาล  ไม่มีทางที่ทักษะทั่วไปเทียบติด
    แต่ทหารชั้นต่ำกลับรอดชีวิตได้อย่างไร

    "เป็นไปไม่ได้"

    "ถ้าทหารเลวยังถึกทนขนาดนี้  แล้วอัศวินจะขนาดไหนกัน"

    ผู้เล่นฝ่ายเก๊าส์เริ่มตื่นตระหนก
    ความหวาดกลัวในกิลด์โอเวอร์เกียร์ได้ฝักรากลึก
    กลับกัน  ซิวรอนยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม

    'โอเวอร์เกียร์สมชื่อกิลด์… แม้แต่ทหารก็ยังโอเวอร์เกียร์'

    ซิวรอนมิใช่ผลเมืองเก๊าส์
    มันเข้าร่วมสงครามครั้งนี้โดยไม่มีผลตอบแทนจากภารกิจเหมือนกับผู้เล่นคนอื่น  
    แต่ถึงกระนั้นก็เต็มใจ  ซิวรอนต้องการแก้แค้นกริด  จากทั้งในงานแข่งนานาชาติและเหตุการณ์รุกรานเรย์ดัน  
    มันเข้าร่วมศึกเพียงเพื่อต้องการเห็นความพังพินาศของกริด

    'กริด  นายใช้วิธีไหนฝึกให้ทหารแข็งแกร่งขนาดนี้'

    ซิวรอนเริ่มตั้งใจสู้มากขึ้น  จากนั้นก็แสยะยิ้มชั่วร้าย
    มันหวังจะสังหารกองทัพอันมีค่าของกริดจนราบคาบ  และดรอปไอเท็มมูลค่าสูงทั้งหมดมาขายเป็นเงินก้อนโต

    "หมอนั่นจะต้องหัวเสียมากแน่  ใช่ไหมล่ะ  คุคุ!  มาลองดูกันสักตั้งดีกว่า"

    ฉัวะ!

    ซิวรอนกวัดแกว่งอาวุธในมือ
    มันคือ +9 ดาบแห่งปัญญา  ดาบมือเดียวที่เพิ่มค่าพละกำลังและสติปัญญาของผู้สวมใส่  ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าดาบหนักป่าเถื่อนที่มันเคยใช้ก่อนหน้าเสียอีก
    ซิวรอนฝึกฝนให้ใช้งานอย่างคล่องแคล่วหลังจากจบการแข่งนานาชาติหนที่สอง  
    มันคือดาบที่ไม่ด้อยไปกว่าไอเท็มที่กริดสร้างเลยสักนิด  และอยู่ในระดับเดียวกับเขี้ยวขาวของครอเกล

    ซิวรอนยังมีทักษะติดตัวสุดโกงอีกหนึ่งชนิด 'หากโจมตีโดนเป้าหมายด้วยอาวุธ  วิญญาณบางส่วนจะถูกดูดกลืนมาเพิ่มพลังโจมตีให้อาวุธ'

    "อ๊ากกก!"

    "อ--อะไรกัน!  อั่ก!"

    ทั้งผู้เล่นและทหารฝ่ายเก๊าส์ค่อยๆ กลายเป็นแสงสีเทา
    พวกมันพลันสับสนหนัก  เพราะคนที่เคยคิดว่าเป็นมิตรอย่างซิวรอน  บัดนี้กลับลงมือโจมตีพวกเดียวกันเอง

    ฉัวะ!

    ฉึก! ฉึก!

    เพียงพริบตา  การกวัดแกว่งดาบของซิวรอนได้สังหารผู้เล่นและกองทัพฝ่ายเก๊าส์ไปเป็นจำนวนมาก  
    ฉากตรงหน้าสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก

    ===  ซิวรอนคิดจะทำอะไร

    ===  หมอนั่นฆ่าพวกเดียวกันทำไม  มาเพื่อบุกโจมตีป้อมปราการของโอเวอร์เกียร์ไม่ใช่รึไง

    อันที่จริง  จะใช้คำว่า 'พวกพ้อง' หรือ 'พันธมิตร' ก็ไม่ถูกนัก  
    ซิวรอนมิใช่พลเมืองเก๊าส์  ไม่ใช่คนฝ่ายเก๊าส์ตั้งแต่ต้น
    หากพิจารณาให้รอบคอบ  ซิวรอนคือฝ่ายที่สามของสงคราม  
    มันคิดโจมตีโอเวอร์เกียร์ด้วยเหตุผลส่วนตัวเท่านั้น  มิใช่เพื่อช่วยเก๊าส์

    "ซ--ซิวรอน  แกมัน!   อ๊ากกก!"
    
    ผู้เล่นอันดับเจ็ดของโลก  
    คลาสลับเกรดยูนีคสายโจมตี  แถมยังสวมใส่ไอเท็มชั้นยอดมากมาย  
    การลอบโจมตีโดยไม่ตั้งตัวของซิวรอนได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อกองทัพเก๊าส์  ทั้งทหารและผู้เล่นต่างมิอาจขัดขืน
    ซิวรอนแสยะยิ้มชั่วในยามจ้องมองสีหน้าอาฆาตแค้นของผู้เล่นที่ถูกฆ่า

    "มดปลวกอย่างพวกแก  สมควรดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพลังฉันนะ"

    ซู่วว!

    ซู่ววว!

    ดาบแห่งปัญญาเริ่มส่งเสียงร้อง
    ซิวรอนอาศัยดวงวิญญาณจำนวนมากบนสนามเพื่อสร้างหอกวิญญาณ
    แต่คราวนี้แตกต่างจากเดิมเล็กน้อย  มันคือหอกที่เปี่ยมไปด้วยพลังเวทอัดแน่นรุนแรง

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

    ฝูงหอกวิญญาณกระหน่ำโจมตีขึ้นไปบนกำแพงป้อมปราการอีกครั้ง
    แรงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว  กึงก้องกว่าคราวก่อนหลายเท่า
    ผู้ชมจำนวนมากต่างคาดว่า  พลธนูโอเวอร์เกียร์จะต้องล้มตายเป็นผักปลาแล้วแน่นอน
    ทว่า  แค็ทซ์ไม่ยอมให้มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น

    "บาเรียโลหิต"

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

    เฉกเช่นที่ซิวรอนชิงวิญญาณจากซากศพทหารเก๊าส์
    แค็ทซ์เองก็ชิงโลหิตมาใช้งาน  เขานำเลือดศัตรูมาก่อตัวเป็นม่านบาเรียโลหิตเพื่อปกป้องกำแพงป้อมปราการ  
    นี่คือวินาทีที่สองสุดยอดตัวตนในสงครามได้ปะทะกันซึ่งหน้าบนป้อมปราการอันแสนสำคัญ
    น่าล่าวิญญาณ  นักรบโลหิต
    
    ใครจะเป็นผู้ชนะ
    ทุกคนต่างคาดหวังการต่อสู้สุดมันที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ  
    แต่ซิวรอนกลับกล่าวเย้ยหยันแค็ทซ์ตั้งแต่เริ่มสู้

    "คลาสเกรดอีปิกกระจอกย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน  แถมเลเวลของนายก็ด้อยกว่ามาก  ฉันพูดถูกไหมเอ่ย"

    "...อะไรนะ"

    อันที่จริง  แค็ทซ์เริ่มตึงเครียดเมื่อซิวรอนปรากฏตัวบนสนามรบ
    แค็ทซ์เหนื่อยล้าจากการเข่นฆ่าทหารไปนับหมื่นตลอดสามวันที่ผ่านมา
    แถมยังต้องเผชิญหน้ากับซิวรอนที่แค็ทซ์ยอมรับว่าแข็งแกร่งกว่า
    ใช่แล้ว  แค็ทซ์ตระหนักดีว่าซิวรอนไม่ธรรมดา
    แต่ถึงกระนั้น  มันก็ไม่มีสิทธิ์เย้ยหยันเขาต่อหน้าคนทั้งโลกเช่นนี้
    ศักดิ์ศรีของแค็ทซ์ถูกระคายเคือง  ศักดิ์ศรีที่แค็ทซ์หวงแหนมาก

    เขากัดฟันกรอด  จากนั้นก็แสดงนิสัยที่แท้จริงออกมา
    "แกมันก็แค่ไอ้ขอทาน"

    "อะไรนะ  ขอทานงั้นหรือ"

    แร้งเกอร์อันดับท็อปของโลกกลับถูกเรียกว่าขอทานเนี่ยนะ
    ซิวรอนอมยิ้ม  มันแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

    "กล้าเรียกฉันว่าขอทาน  ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด… แกมีสมองระดับเด็กอนุบาลรึไง"

    ซิวรอนพ่นลมหายใจอย่างเย้ยหยัน
    แค็ทซ์จ้องมองลงมาจากด้านบนกำแพงพร้อมกับตะโกนสุดเสียง
    ไม่มีใครในสนามรบที่ไม่ได้ยินคำพูดแค็ทซ์

    "ใครก็ตามที่ทำให้ขอทานคนนี้บาดเจ็บได้  ฉันจะจ่ายค่าตอบแทนให้คนละหนึ่งพันล้านเยน  และใครก็ตามที่ฆ่ามันได้  ฉันจะจ่ายให้หนึ่งแสนล้านเยน"

    "..."

    หนึ่งพันล้านเยน
    หนึ่งแสนล้านเยน
    หากผู้พูดไม่ใช่แค็ทซ์  ทุกคนที่ได้ยินคงหัวเราะจนฟันร่วง
    แต่แค็ทซ์เป็นใครกัน  เขาคือทายาทของอภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งญี่ปุ่น  ทรัพสินตระกูลรวมติดท็อปสิบของโลก  แม้แต่เศษรฐีน้ำมันตะวันออกกลางก็ยังต้องอิจฉา  
    พันล้านเยนและแสนล้านเยนจากปากแค็ทซ์  สิ่งนี้เป็นไปได้มากทีเดียว

    ===  เข้าเกมแปป

    ===  ตั้งปาร์ตี้ถล่มซิวรอนกันเถอะ

    เรทติ้งถ่ายทอดสดสงครามบอร์เนียวลดลงถนัดตา  
    ผู้ชมส่วนมากเลิกดูและรีบล็อกอินเข้าเกม  
    สถานการณ์ในสนามรบก็ไม่ต่างกัน  ผู้เล่นฝ่ายเก๊าส์เริ่มหันคมดาบใส่ซิวรอนบ้างแล้ว
    เพียงพริบตา  ซิวรอนก็ถูกผู้เล่นจำนวนมากเข้ารุมล้อมจนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบหนัก

    "แกยังสติดีอยู่รึเปล่า...!"

    ซิวรอนเดือดดาล  ส่วนแค็ทซ์กำลังหัวเราะอย่างสะใจอยู่บนกำแพง

    "จงรู้ไว้ซะ  ต่อหน้าเงินทองมหาศาล  แกมันก็แค่ขี้หมาก้อนหนึ่ง"

    ปัญหาที่แก้ไม่ได้ด้วยไอเท็ม
    แค็ทซ์แก้มันด้วยเงิน

Comments

  1. สมน้ำหน้ามัน หยามต่อหน้าดีนัก คนมีเงินทำได้ทุกอย่างจริงๆ

    ReplyDelete
  2. เชี่ยยยยพ่อกูรวย

    ReplyDelete
  3. เชี่ยโครตเหนือ...บ้านกรูรวย

    ReplyDelete
  4. แบบนี้ก็ได้เหรอ

    ReplyDelete
  5. พี่เเค็ทเทพเกิ๊น

    ReplyDelete
  6. เงินตรา 1¥ = 0.29฿
    ฉะนั้น 100000000000¥ = 28572500000฿

    และ 1000000000000¥ = 285725000000฿

    ถือว่าพี่แก ป๋ามากกก

    ReplyDelete
  7. มีเงินก็ใช้ผีโม่แป้งได้

    ReplyDelete
  8. แค็ทแม่มเทพทรู ตัวจริง

    ReplyDelete
  9. มีสตังนี่มันชั่งดีเหลือเกินนน5555

    ReplyDelete
  10. ประมาณ3หมื่นล้านบาทเลยนะเว้ยนั่นนะ

    ReplyDelete
  11. อย่างชอบ555555 อำนาจเงินไงจ๊ะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00