จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 554
ซู่ว ซู่ว ซู่ว ซู่ว ซู่ว ซู่ว ซู่ว!
บอลเวทมนตร์สีขาวหลายสิบลูก พวกมันงดงามประหนึ่งดวงจันทร์ยามค่ำคืน กำลังลอยเรียงรายอยู่ด้านหลังกริดอย่างน่าเกรงขาม
ทันใดนั้น บอลเวทมนตร์แปรเปลี่ยนเป็นหอกลำแสงสีขาว กระหน่ำปกคลุมสนามรบจนทั่วทุกบริเวณ
"นั่นมันอะไร"
เป็นเวมมนตร์โจมตีวงกว้างซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
ขณะที่ผู้เล่นฝ่ายอีเทอนัลกำลังสับสน ใครบางคนร้องตะโกนขึ้น
"ศรเวท! นั่นคือศรเวท!"
ศรเวทคือเวทมนตร์พื้นฐานของพื้นฐาน ข้อดีคือการมีระยะหน่วงน้อย มีเวลาร่ายเวทสั้น แถมยังใช้มานาเพียงเศษเสี้ยว แต่นั่นก็ทำให้ประสิทธิภาพความรุนแรงของมันถูกจำกัด
ทว่า กริดเคยแสดงให้เห็นมาแล้วในงานแข่งนานาชาติ ว่าศรเวทของเขานั้นไม่ธรรมดาเพียงใด แม้แต่แร้งเกอร์ระดับสูงของโลกก็ยังต้องบาดเจ็บสถานหนักหากถูกเสียบเข้า
"กำลังมาทางนี้แล้ว!"
"ห--หลบเร็วเข้า!"
ผู้เล่นอีเทอนัลต่างถอยหนีอย่างโกลาหล ทุกคนหวังจะหลบการถล่มจากฝูงศรเวทให้พ้น แต่มีหรือที่สงครามจะง่ายดายขนาดนั้น กองทัพทหารเกือบหมื่นนายยืนเบียดเสียดกัน ไม่มีใครถอยได้โดยง่าย
ท่ามกลางความโกลาหล บางคนลงและกลายเป็นแสงสีเทาทั้งที่ยังไม่ถูกศรเวทของกริดเลยด้วยซ้ำ
ใช่แล้ว ผู้เล่นบางส่วนถูกเหยียบตายโดยฝีมือฝ่ายเดียวกัน
บึ้มบึ้ม!
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
ผู้เล่นฝ่ายอีเทอนัลนับร้อยต้องจบชีวิตลงในพริบตา
บึ้มมมมม!
ห่าฝนศรเวทกระหน่ำใส่พื้นดินอย่างไม่หยุดหย่อน
เวทลำแสงอันทรงพลังของกริดได้พุ่งเสียบหัวใจของทหารทีละคนงั้นหรือ
ไม่เลย กริดมิได้เล็งสิ่งนั้นไว้
ศรเวททั้งหมดบ้างกระหน่ำใส่พื้นดินที่มีโล่หนาบดบัง บ้างกระหน่ำใส่รถศึกฝ่ายศัตรู บ้างกระหน่ำใส่เนินเขาที่พลธนูซุ่มอยู่ และบ้างกระหน่ำใส่เสาจ่ายมานาที่ช่วยพื้นฟูมานาให้กับพันธมิตรรอบข้าง
ทุกหนแห่งที่กริดเล็งไปต่างมิอาจทนทานไหว สภาพแวดล้อมพังทลายและเกิดระเบิดเป็นวงกว้าง เมื่อบูบัตเห็นภาพทหารและสิ่งก่อสร้างจำนวนมากพังพินาศในพริบตา มันก็เริ่มตื่นตัว
"ไอ้บัดซบนั่น คราวนี้อะไรอีก!"
หยุดศรเวทไว้กับที่ จากนั้นก็ปล่อยออกมาทีพร้อมกันหมดงั้นหรือ
"หมอนี่จะโอเวอร์เกียร์เกินไปแล้ว!"
ถูกต้อง บูบัติเข้าใจมาตลอดว่า สาเหตุที่ช่างตีเหล็กใช้เวทมนตร์ได้ จะต้องเป็นเพราะของวิเศษบางอย่างที่กริดสวมอยู่ นี่คือการคาดเดาตามหลักพื้นฐานว่าด้วยเหตุและผล
ขณะเดียวกัน เสียงของสมาชิกกิลด์ยัคได้ดังลอยมาในหู
"เขาเล็งโจมตีใส่เสามานาเพื่อหวังระเบิดจากมันสินะ"
"แถมยังเล็งไปที่รถศึกเพื่อสร้างระเบิดจัดการทหารโดยรอบ"
"กริดคนนั้น เขาต่อสู้โดยใช้สมองแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร"
เดิมที ศรเวทคือเวทมนตร์ชนิดโจมตีเป้าหมายเดียว มันไม่สามารถก่อระเบิดเป็นวงกว้างด้วยความที่เป็นการโจมตีชนิดทะลุทะลวง แต่เรื่องราวจะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อโจมตีใส่สิ่งก่อสร้างให้ระเบิด
เจฟฟ์ที่เห็นกิลด์ยัคเริ่มชื่นชมกริด มันจึงโพล่งขึ้นอย่างหงุดหงิด
"น่าชื่นชมตรงไหน นั่นคือพื้นฐานที่แม้แต่เด็กอนุบาลก็ยังรู้!"
ทุกคนรู้ดีว่ากริดแข็งเกร่ง แต่อย่าลืมว่า ความเก่งกาจของกริดนั้นมีรากฐานมาจากไอเท็มสุดโกงต่างหาก
"มันไม่ได้เก่งขนาดนั้น! ไม่ต้องไปหวาดกลัว!"
เจฟฟ์หันไปมองบูบัต
"รออะไรอยู่ รีบดับลมหายใจมันเร็วเข้า!"
เจฟฟ์หมายถึงเรกัสที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
ขณะที่บูบัตพยักหน้าและกำลังจะใช้ค้อนในมือทุบใส่เรกัส
กรี๊~!
เกิดเสียงประหลาดดังกังวาลไปทั่วท้องฟ้าสนามรบ คลื่นความร้อนแผ่กระจายเป็นวงกว้างทุกทิศทาง
"นั่นมันอะไร..."
บูบัต เจฟฟ์ และราล์ฟ
เมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า ทั้งสามคนพลันหน้าซีดเผือด เหงื่อไคลไหลชุ่มชะโลมกาย
ภาพของวิหคอัคคีขนาดยักษ์ กำลังสะท้อนให้เห็นจากนัยน์ตาที่กำลังสั่นระริกอย่างหยุดไม่ได้ของพวกมัน
***
"ขอแสดงความยินดีด้วย จิสึกะ นับแต่นี้ไป เธอจะกลายเป็นผู้เล่นโอเวอร์เกียร์ที่แท้จริงแล้ว"
[ ท่านแลกเปลี่ยน <คันศรฟินิกซ์แดง> สำเร็จ ]
"ผู้เล่นโอเวอร์เกียร์ที่แท้จริง..."
ผู้เล่นโอเวอร์เกียร์
คำๆ นี้หมายถึงการสวมใส่สุดยอดยุทธภัณฑ์สู้รบที่เหนือกว่าผู้เล่นอื่น
สมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์ส่วนใหญ่จัดเป็นผู้เล่นโอเวอร์เกียร์กันถ้วนหน้าด้วยฝีมือของกริด
แต่บัดนี้ กริดกำลังหมายถึงสิ่งใด
อะไรคือผู้เล่นโอเวอร์เกียร์ที่แท้จริง
จิสึกะขมวดคิ้วอย่างสับสน จากนั้นเธอพลันขนลุกซู่ราวกับนึกบางสิ่งขึ้นได้
'อย่าบอกนะว่า'
หรือจะเป็นธนูที่เธอใฝ่ฝันมานานนับตั้งแต่แรกเริ่มเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์
ธนูสีแดงอมส้มตรงหน้า สีของมันดูคล้ายกับเปลวเพลิงอันร้อนแรงซึ่งบ่งบอกลักษณะของธาตุอาวุธได้เป็นอย่างดี จิสึกะใช้สายพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จากนั้นก็ลองคาดเดา
"เป็นธนูเลเจนดารีใช่ไหม"
โอกาสที่กริดจะสร้างไอเท็มออกมาเป็นเกรดเลเจนดารีนั้นมีน้อยนิด ยากพอๆ กับการหวังให้ไอเท็มเกรดเลเจนดารีดรอปจากบอส ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ค่อยมีสมาชิกโอเวอร์เกียร์มากนักที่สวมใส่ไอเท็มเกรดเลเจนดารีจากกริด
จิสึกะคือหนึ่งในนั้น
เมื่อได้เห็นแววตาใคร่รู้ของจิสึกะ กริดฉีกยิ้มกว้าง
"ลองดูเองสิ"
เป็นคำตอบที่ยิ่งทำให้ผู้ฟังกระหายอยากรู้มากกว่าเดิม
ตึกตัก! ตึกตัก!
หลังจากกริดปรากฏกายอย่างอลังการ หัวใจของจิสึกะก็ยิ่งเต้นโครมครามแรงขึ้นทุกขณะ เธอบรรจงอ่านรายละเอียดคันศรฟินิกซ์แดงด้วยสีหน้าคาดหวัง
จากนั้นไม่นาน จิสึกะก็ยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหิน
"อ--เอ๋...!"
เกรดของธนูคันนี้คืออะไร...
"ม--ไม่ใช่...เลเจนดารี"
[ คันศรฟินิกซ์แดง ]
เกรด : มิธ
ความคงทน : 1,203/1,203
พลังโจมตี : 3,190
* ความแม่นยำเพิ่มขึ้น 60%
* ความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น 80%
* ค่าต้านทานไฟเพิ่มขึ้น 50%
* ทักษะโจมตีธาตุไฟทุกชนิดรุนแรงขึ้น 30%
* ระยะหน่วงทักษะธาตุไฟทุกชนิดลดลง 20%
* ทุกการโจมตีจะกระจายความเสียหาย 12% ของพลังโจมตีกายภาพออกไปในรัศมี 1 เมตรรอบเป้าหมาย หากมีฝ่ายพันธมิตรอยู่ในรัศมีดังกล่าว พวกเขาจะได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิตในความรุนแรงที่เท่ากัน
* ลูกธนูจะอัดแน่นไปด้วยพลังแห่งเปลวเพลิง การโจมตีธรรมดาจะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมแบบคงที่จำนวน 4,000 หน่วย ส่งผลให้เป้าหมายติดอาการถูกเผาเป็นระยะเวลาหนึ่ง หากเกิดการโจมตีแบบคริติคอล ความเสียหายคงที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
* หากง้างคันศรไว้เกิน 3 วินาที ผู้ใช้จะได้รับบาเรียคุ้มกาย สามารถต้านอาการผิดปรกติได้อย่างน้อย 1 ชนิด ทักษะนี้มีระยะหน่วง 2 นาที และมีโอกาสต่ำที่จะส่งผลต่อสมาชิกในปาร์ตี้รอบข้าง
* ทุกการโจมตี มีโอกาสที่ท่านจะฟื้นฟูพลังชีวิต 1,000 หน่วย
* ได้รับทักษะ <โบยบิน>
* ได้รับทักษะติดตัว <เป็นหนึ่งเดียวกับไฟ>
ธนูที่มีระดับเหนือตำนาน มันคือมหาตำนาน
เจ้าของธนูคันนี้จะจารึกชื่อเสียงอย่างยิ่งใหญ่ไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ชื่อของเขาจะถูกเขียนลงในบทกลอนและเพลงพื้นเมือง ที่ชนรุ่นหลังใช้ขับขานสืบสานต่อไปตราบชั่วนิรันดร์
สร้างโดยช่างตีเหล็กในตำนาน 'กริด' ผู้ก้าวข้ามขีดกำจัดของตัวเองได้อีกครั้ง
เป็นโครงคร้างธนูในอุดมคติ มันคือรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่ธนูคันหนึ่งจะมีได้ ท่านสามารถยิงได้ไกลกว่า แรงกว่า และเร็วกว่าเดิม
ลมหายใจฟินิกซ์แดงที่ผสานลงไปจะทำการอวยพรผู้ใช้ด้วยพลังลึกลับ
เงื่อนไขการสวมใส่ : ผู้เล่นท็อป 3 ของอันดับรวมคลาสนักธนู
น้ำหนัก : 930
[ โบยบิน เลเวล 1 ]
อัญเชิญร่างวิญญาณของเทพฟินิกซ์แดง
ร่างวิญญาณของเทพฟินิกซ์แดงจะสร้างความเสียหายรุนแรง 800% ของพลังโจมตีกายภาพ ใส่ทุกเป้าหมายที่ผู้ใช้งานมองเห็นในระยะสายตา
* ทักษะผูกติดไอเท็มเกรดมิธสามารถพัฒนาระดับได้
มานาที่ใช้ : 2,000
ระยะหน่วงหลังใช้ : 12 ชั่วโมง
[ เป็นหนึ่งเดียวกับไฟ เลเวล 1]
ทักษะติดตัวชนิดเสริมความอดทน
ท่านจะมีร่างกายใกล้เคียงกับการเป็นอมตะ เนื่องจากได้รับความรักและการอวยพรจากเทพฟินิกซ์แดง
พลังชีวิตและค่าเรี่ยวแรงฟื้นฟูตามธรรมชาติเร็วขึ้น 90%
ค่าเรี่ยวแรงของท่านจะไม่มีวันลดลงต่ำกว่า 5 หน่วย
* ทักษะผูกติดไอเท็มเกรดมิธสามารถพัฒนาระดับได้
"อ--อะ..."
ไม่มีสิ่งใดน่าประหลาดใจ จิสึกะเป็นหญิงสาวการศึกษาสูง หนึ่งในงานอดิเรกของเธอคือการอ่านหนังสือ ทำให้มีทักษะการอ่านอยู่ในระดับดีเยี่ยม มองกวาดประโยคเพียงรอบเดียวก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง
ในระยะเวลาอันนั้น จิสึกะสามารถอ่านรายละเอียดคันศรฟินิกซ์แดงทวนซ้ำไปหลายหน
"ฉันกำลังฝันไปรึเปล่า"
"..."
เป็นสีหน้าตกตะลึงอย่างแท้จริง เธอไม่อาจทำใจเชื่อลง
ก่อนหน้านี้ กริดเคยสร้างอาวุธมาแล้วหลายชิ้น โดยแต่ละชิ้นก็กลายเป็นระดับสูงสุดของอาวุธสายนั้น
แต่กับคันศรฟินิกซ์แดงนั้นต่างออกไป มันคือที่สุดของที่สุด เธอไม่เชื่อว่าจะมีธนูใดสามารถก้าวข้ามมันได้อีกแล้ว
"เธอไม่ได้ฝันไป"
"ไม่ได้… ฝันไป"
เมื่อได้ยินคำตอบจากกริด จิสึกะก็ได้สติกลับคืนมา เธอเดินเข้าไปหากริดอย่างเหม่อลอยพร้อมกับใช้ศีรษะแนบอิงแผ่นอกอันบึกบึน
"ขอบคุณสำหรับความตั้งใจที่นายใส่ลงไป"
จิสึกะมีโอกาสเห็นกริดสร้างอาวุธหลากหลายชนิดมานานแรมปี
ทุกชิ้น เขาจะบรรจงผลิตมันอย่างพิถีพิถัน หากเป็นการตีเหล็ก กริดทำงานหนักกว่าใครในโลกเสมอ
"นายเติบโตอย่างก้าวกระโดด แถมยังพัฒนาฝีมือด้านตีเหล็กขึ้นอีกขั้นในทวีปตะวันออก"
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
จิสึกะอมยิ้มอย่างอบอุ่นเมื่อได้ยินเสียงหัวใจกริดเต้นโครมครามอยู่ข้างหู
อึก...
กริดหน้าแดงก่ำ เขารีบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
เบื้องหน้า หนึ่งในสาวงามของโลก หญิงสาวที่ตรงสเป็คของตนทุกประการกำลังซุกไซร้แผ่นอก ชายหนุ่มอยากดื่มด่ำช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ให้นานที่สุด
แต่นั่นคงจะผิดที่ผิดเวลาไปสักหน่อย
"ช่วยเรกัสก่อน"
ฉึบ!
จิสึกะรีบผละจากกริดและโก่งคันศรเล็งลงไปยังสนามรบด้านล่าง
พรึ่บ!
หัวลูกศรยัฟฟ่าถูกเปลวเพลิงอันร้อนแรงห่อหุ้ม
จิสึกะจดจ้องสนามรบเบื้องล่างทั้งหมดด้วยสายตาอันคมกริบดุจดั่งพญาเหยี่ยว
"โบยบิน!"
ชั่วขณะที่สิ้นเสียงตะโกนของจิสึกะจากบนกำแพง...
กรี๊~!
เสียงคำรามของเทพฟินิกซ์แดงกำลังก้องกังวาลไปทั่วสนามรบ
ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!
ไฟบอลนับหมื่นลูกถูกยิงจากร่างวิญญาณเทพฟินิกซ์แดงที่โบยบินเด่นตระหง่านท่ามกลางท้องฟ้า เป้าหมายคือศัตรูทุกคนที่บังอาจรุกรานดินแดนอันแสนศักดิ์สิทธิ์ของพวกตน
เป็นหายนะอย่างแท้จริง มันคือปรากฏการณ์คล้ายวันสิ้นโลก
แม้แต่กริดผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดงก็ยังรู้สึกขนลุกซู่
***
ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!
"แฮ่ก..."
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีก"
บูบัต เจฟฟ์ ราล์ฟ และสมาชิกกิลด์ของพวกมันอีกหลายร้อยคน ทั้งหมดล้วนใบหน้าขาวซีดราวกับเห็นผี
วิหคอัคคีขนาดยักษ์ปรากฏตัวท่ามกลางท้องฟ้า ทุกครั้งที่มันกระพือปีก จักต้องมีไฟบอลนับพันลูกถูกยิงลงมายังพื้นดินเบื้องล่าง
พวกมันกำลังเห็นภาพหลอนหรือความเป็นจริงกันแน่
แม้จะไม่น่าเชื่อมากเพียงใด แต่ความจริงย่อมเป็นความจริง
ไฟบอลกว่าหมื่นลูกได้ทำลายสนามรบให้พังพินาศในพริบตา กระแสสงครามกลับตาลปัดทันใด เสาแสงสีเทาแห่งความตาย ส่องสว่างพุ่งเสียดฟ้าจำนวนมหาศาลประหนึ่งทะเลหมอก
"เวทมนตร์บ้าบออะไรกัน!"
ปาร์ตี้บูบัตกำลังตกอยู่ในความสับสน แต่พวกมันก็ไม่ใช่กระจอก แม้จะเกิดเครื่องหมายคำถามในใจ ทว่าก็ไม่ลืมที่จะปัดป้องไฟบอลที่พุ่งลงมาใส่ตนเอง พวกมันล้วนใช้งานทักษะป้องกันตัวระดับสูงสุดที่มีเพื่อตั้งรับ
"ไฟบอลพวกนี้จะโจมตีหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคน! แค่บล็อคให้ได้ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว!"
บึ้มบึ้ม!
ครืนนน!
เปรี้ยงง!
เวทมนตร์ทุกชนิดถูกกระหน่ำยิงขึ้นฟ้าเพื่อตอบโต้ ใครก็ตามที่ได้เห็นเป็นต้องออกปากชมว่างดงาม
กลุ่มของบูบัตรอดพ้นวิกฤติมาได้อย่างฉิวเฉียด
"แฮ่ก แฮ่ก… แฮ่ก"
ไฟบอลทางฝั่งพวกตนถูกขจัดจนหมดสิ้นอย่างเต็มกลืน
แต่เมื่อหันไปมองรอบสนามรบ สีหน้าของบูบัตก็ต้องขาวซีดอีกครั้ง
ทหารและผู้เล่นฝ่ายอีเทอนัลต่างล้มตายระเนระราดไปมากกว่า 20,000 ศพ ส่วนใหญ่ถูกไฟบอลปะทะจนไหม้เกรียมคาที่ ผู้เล่นที่มีเลเวลอยู่ในช่วง 100 หมดโอกาสรอดชีวิตโดยสิ้นเชิง ไฟบอลที่พุ่งตกลงมาไม่ต่างอะไรกับอุกกาบาต
"ไม่น่าเชื่อ..."
"ใครกันที่ใช้เวทมนตร์สุดโกงขนาดนี้ได้… อย่าบอกนะว่า!"
แม้คนที่ตายไปจะเป็นทหารและผู้เล่นเลเวลต่ำ แต่คนเหล่านั้นก็สวมใส่ไอเท็มอยู่ มิใช่ตัวเปล่าที่จะตายไปเพราะลมบางเบาพัดผ่าน
แม้แต่ผู้เล่นระดับครอเกล แอ็กนัส หรือกริดก็ยังทำเช่นนี้ไม่ได้
บูบัตจึงมั่นใจมาก ว่าคนก่อเหตุต้องเป็นเอิร์ลอัชเชอร์แน่นอน มหาจอมเวทที่อยู่ฝ่ายกริดมาตั้งแต่ต้น ในที่สุดเขาก็เริ่มลงมือแล้วงั้นหรือ
"ชิ! ถอยก่อน! รีบเพิ่มค่าต้านทานเวทมนตร์!"
ผู้เล่นกิลด์ยัคพากันเปลี่ยนอุปกรณ์สวมใส่เป็นชุดเกราะและเครื่องประดับต้านทานเวทมนตร์ ทางด้านกิลด์ของเจฟฟ์และราล์ฟเองก็รีบทำตาม
นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ของพวกมัน
ฟุ่บ!
ธนูไฟหนึ่งดอกถูกยิงลงมาจากกำแพงป้อม
"จิสึกะ!"
บูบัตเหลือบไปเห็นธนูไฟดอกนี้เข้าพอดี
นังผู้หญิงสารเลวที่ตายยากยิ่งกว่าแมลงสาป!
บูบัตไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าจิสึกะจะเสียงแรงยิงธนูดอกเดียวลงมาทำไม มันจะทำอะไรได้มากมายนักเชียว
"เลิกขัดขืนอย่างไร้ประโยชน์สักที!"
บูบัตหงุดหงิดการปรากฏตัวของกริดและเอิร์ลอัชเชอร์มาก มันยิ่งโมโหหนักเมื่อพลาดโอกาสทองในการสังหารเรกัส
แล้วยังมีธนูดอกนี้อีก จิสึกะช่างน่ารำคาญฉิบ!
ชิ้ง!
"แค่ธนูดอกเดียวจะไปทำอะไรได้!"
บูบัตหวังใช้โล่ขนาดเล็กที่ติดอยู่กับข้อมือเป็นเครื่องปัดป้อง
มันไม่คิดจะใช้ทักษะใดเพื่อเพิ่มพลังป้องกันตนเองทั้งสิ้น เดิมที จอมบดขยี้ก็มีพื้นฐานเป็นคลาสสายแทงค์อยู่แล้ว แถมมันยังสวมใส่ชุดเกราะกษัตริย์ไร้พ่าย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ธนูดอกเดียวไม่มีทางสร้างรอยขีดข่วนให้มันได้แน่
บูบัตตั้งใจจะบดขยี้ความมั่นใจของจิสึกะและหัวเราะใส่เธออย่างสะใจ
แต่ความจริงที่เกิดขึ้น… มันพลันหุบยิ้มในพริบตา
[ ท่านได้รับความเสียหาย 7,390 หน่วย ]
[ เกิดการลุกไหม้เป็นวงกว้างรอบจุดที่ถูกโจมตี ท่านจะได้รับความเสียหายจากอาการถูกเผา 2,500 หน่วยเป็นระยะเวลา 12 วินาที ]
"อ๊ากกกก!"
บูบัตกรีดร้องเจ็บปวด ทันทีที่ธนูไฟปะทะกับโล่ พลันเกิดระเบิดขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ท่วมร่าง
'นังนี่! หล่อนมีค่าเรี่ยวแรงมากพอที่จะใช้ทักษะแล้วรึไง!'
จิสึกะฉีกยิ้มกว้างให้กับบูบัตที่กำลังลนลานรักษาแผลลุกไหม้
"นี่แค่การโจมตีธรรมดา"
"อะไรนะ..."
ตอนนี้จิสึกะโอเวอร์เกียร์สุดๆเลย
ReplyDeleteแบน
ReplyDeleteเป็นเทพตามไปอีกหนึ่ง
ReplyDeleteนะ.. นี่มัน!! เทพเจ้ายอร์น
ReplyDeleteใช่มองข้ามพลังป้องกันเหมือนกันด้วย
Deleteความมันส์จะบังเกิด
ReplyDeleteลืมความเสียหายคงที่ 4000 ระบุให้ครบด้วย 555
ReplyDeleteจอมวง จอมเวท ไม่ต้องมีแล้ว
ReplyDeleteเชี่ยย อ่านไปขนลุกไป.....หยุด...ตรูไม่ได้ปวดขี้ ไม่ต้องเล่นมุกนี้นะ
ReplyDelete555
Deleteช็อคจนไม่รู้จะเม้นไรแล้ว...
ReplyDeleteมีโอกาสที่ปอนจะได้อาวุธเทพอีกคน 555+ ช็อคฉากตายราวหมื่นคนมาก 55+
ReplyDelete