จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 517



       "เวทมนตร์ตรวจจับ"

       เวทมนตร์ตรวจจับ (พัฒนา) เลเวลสอง 
       ความเร็วการร่ายห้าวินาที  ระยะหน่วงแปดนาที  เวลาสั้นลงมากหากเทียบกับเมื่อสมัยเลเวลหนึ่ง

       "เวทมนตร์ตรวจจับ"

       หลังจากก้าวพ้นประตูทิศเหนือแพงเจีย

       ระหว่างทางไปยังรังมอนสเตอร์  ชายหนุ่มใช้งานเวทมนตร์ตรวจจับทุกครั้งเมื่อระยะหน่วงมาถึง  ด้วยความช่วยเหลือจากรองเท้าบราฮัมที่ลดระยะหน่วง  กริดสามารถใช้เวทมนตร์ตรวจจับได้ทุกห้านาทีครึ่ง  

       เหตุใดเขาถึงต้องใช้เวทมนตร์ตรวจจับถี่ยิบเช่นนี้
       สาเหตุหนึ่งก็เพื่ออัพเลเวลของมัน  ส่วนอีกสาเหตุคือระวังอันตรายรอบข้าง

       "เวทมนตร์ตรวจจับ"

       ทวีปตะวันออกคือแดนสวรรค์สำหรับการอัพเลเวลเวทมนตร์ตรวจจับ  
       เดิมที  เวทมนตร์ตรวจจับจะสิ้นเปลืองมานา 2,000 หน่วย  ไม่มีทางใช้งานได้บ่อยครั้งแน่นอน  แต่สภาพแวดล้อมทวีปตะวันออกส่งผลให้มานาฟื้นฟูตามธรรมชาติเร็วขึ้น  แถมแหวนแห่งความไร้เหตุผลก็ยังลดทรัพยากรลงครึ่งหนึ่ง 
       กริดคาดว่า  แม้แต่ระหว่างเก็บเลเวลกับมอนสเตอร์  ตนก็ยังใช้งานเวทมนตร์ตรวจจับได้ไม่ขาดตกบกพร่อง
       
       "แหวนวงนี้วิเศษมาก"

       แหวนแห่งความไร้เหตุผลดรอปจากแบล็ค  มันมีมูลค่าสูงกว่าไอเท็มอื่นหลายชิ้นกองรวมกัน  โดยทั่วไปแล้ว  ออปชั่นที่ติดดมากับแหวนจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพสูงนัก  แต่แหวนแห่งความไร้เหตุผลถือเป็นกรณีพิเศษ  มันคือจุดสูงสุดของแหวนทั้งปวง

       'คงดีไม่น้อยหากเราสร้างเครื่องประดับได้เอง...'

       แน่นอนว่ากริดสามารถสร้างเครื่องประดับแบบง่ายได้  
       แต่เหตุผลของเครื่องประดับในซาทิสฟายคือสิ่งใด...
       คือความงามและออปชั่นพิเศษที่ไม่อาจหาได้ในอุปกรณ์สวมใส่ชนิดอื่น  เครื่องประดับที่กริดสร้างขาดทั้งความงดงามและความสมบูรณ์  เป็นไอเท็มด้อยคุณภาพ  สิ้นเปลืองทั้งเวลา  วัสดุ  และกำลังคน  เฉกเช่นการทำอาหารของไอดาน

       "อุก… รู้สึกแย่ชะมัด  น่าแปลกมากที่พ่อครัวห่วยแตกแบบนั้นสามารถเปิดร้านอาหารให้อยู่รอดได้"

       กริดสงสัยจากใจจริง  ว่าเหตุใดร้านของไอดานถึงยังเปิดกิจการต่อ

       'คงต้องมีสักเหตุผล… หรือจะมีสิ่งพิเศษนอกจากอาหารซ่อนอยู่ในร้าน'

       ถนนทิศเหนือของแพงเจียมีสภาพทรุดโทรม  และไม่ได้รับการบำรุงนับตั้งแต่ถูกมอนสเตอร์บุกยึด  สีหน้าของกริดตึงเครียดในยามเคลื่อนผ่านถนนแสนอันตรายซึ่งเต็มไปด้วยวัชพืชและรอยแยก  ที่แห่งนี้คือดินแดนแปลกหน้า  ไม่มีแม้ข้อมูลพื้นฐาน  เป็นอีกครั้งที่กริดตระหนักได้ว่า  ตนจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดจากภายนอก

       'เรานำหน้าพวกเขาแล้ว'

       กริดมองว่าตนยังเป็นฝ่ายตามหลังเสมอเมื่อนำไปเปรียบกับครอเกล  ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนกับกำลังเดินตามเส้นทางที่ครอเกลเคยผ่าน  แต่หากลองพิจารณาให้ถี่ถ้วน  กริดในปัจจุบันถือว่านำหน้าครอเกลไปเรียบร้อยแล้ว

       'อีกไม่นาน  เราจะแซงครอเกลให้ได้'

       กริดตอนนี้แข็งแกร่งและรอบด้านกว่าครอเกลสมัยบุกเบิกทวีปตะวันออก  ชายหนุ่มมั่นใจมากว่า  ตนจะต้องไปไกลกว่าที่ครอเกลเคยมาแน่  เมื่อคิดเช่นนี้  เขาจึงรู้สึกภูมิใจมาก

       'เหล่าแร้งเกอร์ที่เราเคยใช้เวลาทั้งปีเฝ้ามองจากระยะไกล...'

       บัดนี้ตนแซงหน้าทุกคนก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด  แร้งเกอร์ที่กริดเคยรู้สึกอิจฉาและอยากเป็นสมัยอดีต  ปัจจุบัน  ส่วนมากมีระดับต่ำกว่าเขาไปแล้ว

       'เกมนี้คือของขวัญจากพระเจ้าอย่างแท้จริง'

       ธรรมชาติของมนุษย์คือการประสบความสำเร็จ  และวัฒนธรรมซึ่งกำลังส่งผลต่อโลกใบนี้อย่างใหญ่หลวงคงหนีไม่พ้นซาทิสฟาย  การเป็นที่หนึ่งในซาทิสฟาย  ย่อมหมายถึงการเป็นที่หนึ่งของโลก  กริดกำลังสั่นระริกอย่างดีใจ 
       เย็ส!!  ชายหนุ่มอยากตะโกนออกไปสุดเสียง

       ทวีปตะวันออก  กริดรู้สึกเป็นอิสระในสถานที่แห่งนี้  เอ็นพีซีเรียงรายมากมาย  ไม่ต้องพบพานผู้เล่นด้วยกันเอง  เป็นความรู้สึกราวกับค้นพบเกาะส่วนตัวอันแสนอุดมสมบูรณ์  ซาทิสฟายกลับยิ่งสนุกขึ้นเมื่อกริดไม่ต้องพะวงถึงการวางตัวในฐานะหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์  ชายหนุ่มวิ่งเข้าป่าสนพร้อมส่งเสียหัวเราะราวคนบ้า 
       ฮะฮ่าฮ่าฮ่า!  กริดหัวเราะอย่างเสียสติประหนึ่งคนบ้าที่มีอยู่ทุกเมือง

       'สุดยอดดดดดดด!'

       กริดวิ่งตะกุยดินราวกับสุนัขติดสัตว์  
       บราฮัมเฝ้ามองอย่างชื่นชม  
       แม้เขากำลังแสร้งทำตัวเหมือนคนบ้า  แต่กริดกลับไม่ลดระดับการป้องกันลงแม้แต่นิดเดียว

       'ยังคงระแวงรอบทิศแม้ภายในใจตื่นเต้นขนาดนี้...'

       ในอีกความหมายหนึ่ง  กริดตอนนี้ไม่มีช่องวางให้ลอบโจมตี

       'มีอีกหลายสิ่งที่ยังบกพร่อง  เพราะชายคนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา  แต่เขาก็มีคุณสมบัติพื้นฐานของตำนานครบถ้วนแล้ว'
       
       หากดูผิวเผินจากสภาพแสร้งเสียสติของกริด  
       อาจมีไอ้งั่งบางคนคิดลอบโจมตีเขา

       'และพวกมันจะเป็นฝ่ายเสียชีวิต'

       ขณะที่บราฮัมคิดเช่นนี้

       สวบ...

       เมื่อกริดย่างเข้าป่าสนที่เต็มไปด้วยหนามสน

       โฮกกกก!

       สัตว์ป่าตัวใหญ่ส่งเสียงคำรามใส่ชายหนุ่ม  
       ใช่แล้ว  เป็นสัตว์ป่า  มิใช่มอนสเตอร์
       มันคือเสือที่วิ่งหนีจากรังมอนสเตอร์ดุร้ายซึ่งตั้งถัดไปจากป่าแห่งนี้

       "ตายซะเถอะเจ้าเสือ... ขอหนังของแกก็แล้วกัน"

       กริดสัมผัสถึงเสือตัวนี้ด้วยเวทมนตร์ตรวจจับนานแล้ว  เขากำลังรอมันกระโจนใส่
       ชายหนุ่มดับลมหายใจเสือผู้โชคร้ายโดยปราศจากความลังเล  จากนั้นก็ลงมือแล่หนังของมัน

       "เงียบมาก  ทำไมแถวนี้ถึงไม่มีมอนสเตอร์เลยสักตัว  ทั้งที่รังมอนสเตอร์อยู่ห่างออกไปไม่ไกล"

       'เป็นเขตปลอดภัย  พวกมันเข้ามาไม่ได้  อย่าใช้พลังอสูรในบริเวณนี้ก็แล้วกัน'

       "อ้อ… เพราะแบบนี้เองสินะ"

       กริดอ่านข้อความระบบที่แสดงขึ้นเมื่อย่างกรายเข้ามาในป่าสน

[ ผืนป่าแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยพลังงานสดชื่น  พลังชีวิตและมานาจะฟื้นฟูตามธรรมชาติเร็วขึ้น 20% ]

       "หากตกอยู่ในอันตรายระหว่างเก็บเลเวลในรังมอนสเตอร์  ฉันสามารถหนีมาพักที่จุดนี้ได้สินะ"

       'ในที่สุดนายก็มีสติปัญญาระดับหมาแมวสักที  เป็นพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่มาก  ฉันหวังว่านายจะรักษามาตรฐานนี้ไว้นะ'

       กริดมิได้รู้สึกแย่กับคำพูดแสนโหดร้ายจากบราฮัม  เขาสัมผัสถึงอารมณ์ที่แฝงมาในประโยค  และไม่ใช่อารมณ์ด้านลบ  ชายหนุ่มรับรู้ว่าบราฮัมกล่าวด้วยความรู้สึกชื่นชม  
       แต่กริดก็มีนิสัยส่วนตัวบัดซบไม่แพ้กัน  เขาไม่มีทางปล่อยผ่าน

       "จุ๊จุ๊… ดูวิธีการพูดของนายสิ  ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงเคยถูกเพื่อนเพียงคนเดียวทรยศเอาได้"

       '...'

       บราฮัมถึงกับผงะ  ในอดีต  เขาเคยถูกเพื่อนเพียงคนเดียวหักหลังและฆ่าทิ้ง  
       ส่วนตอนนี้ก็กำลังถูกเพื่อนคนปัจจุบันกลั่นแกล้ง  ช่างน่าเศร้านัก  แต่เขาเป็นถึงมหาจอมเวทในตำนาน  ย่อมไม่ปล่อยให้คำพูดเหล่านี้สั่นคลอนจิตใจ  บราฮัมพยายามอย่างหนักในการกลับมาสุขุมเยือกเย็นอีกครั้ง

       'จ--เจ้านั่นไม่ใช่เพื่อนสักหน่อย!'

       "..."

       เมื่อได้ยินน้ำเสียสั่นเครือของบราฮัม  กริดรู้สึกผิดทันใด  เขาเสียใจและอยากขอโทษ  ชายหนุ่มรีบกระแอมกลบเกลื่อนพร้อมกับย่างกรายออกจากป่า  
       ป่าสนที่เพิ่งผ่านมา  ขนาดของมันไม่ใหญ่มาก  ทำให้เดินผ่านด้วยระยะเวลาเพียงครู่เดียว  ถัดจากป่าสนคือรังมอนสเตอร์ที่เป็นจุดมุ่งหมาย  
       เบื้องหน้ากริดคือชุมชนมอนสเตอร์ขนาดใหญ่  ที่มีเต็นท์โค้งตั้งเรียงรายสุดลูกหูลูตา  หากนับดูคร่าวๆ จะได้ราว 500 หลัง  สมมติให้แต่ละหลังมีมอนสเตอร์สองตัว  จำนวนของพวกมันจะมีมากถึง 1,000 ตัวเลยทีเดียว
       
       "มีทั้งเต็นท์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก  มอนสเตอร์เหล่านี้มีสติปัญญาสูงมาก  จะใช่มนุษย์กิ้งการึเปล่านะ"

       กริดเอ่ยถามหวังปรึกษาบราฮัม  แต่บราฮัมกลับนิ่งเงียบ  เขายังคงอยู่ในอาการตะลึงงันจากคำพูดเมื่อครู่  
       ด้วยฐานะมหาจอมเวทในตำนาน  บราฮัมจะมีจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าปรกติ  แถมเนื้อแท้เป็นคนหยิ่งทระนง  แต่ช่างน่าเศร้า  หากเป็นสิ่งที่บราฮัมชื่นชอบ  เขาจะอ่อนไหวกับมันเป็นพิเศษ

       กริดส่ายศีรษะเล็กน้อย
       "นายจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไร  นายไม่ใช่เด็กแล้วนะ  เป็นลุงแก่อายุหลายร้อยปี!"

       อันที่จริง  กริดเองก็ไม่มีเพื่อนมากนัก  เพื่อนส่วนใหญ่เป็นคนของโอเวอร์เกียร์  ทำให้ไม่รู้จักวิธีสื่อสารกับมนุษย์อย่างถูกต้อง  เขาจึงไม่รู้ตัวว่าได้พูดจาล่วงเกินบราฮัมไป
       อีกความหมายหนึ่งก็คือ  คำที่กริดพูดกับบราฮัม  'ปากแบบนี้ถึงไม่มีเพื่อน'  แท้จริงแล้วก็ใช้กับตัวเขาได้ด้วย
       กริดเลิกล้อบราฮัม  เขาเพ่งสมาธิสำรวจรังมอนสเตอร์ตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน
       
       'นี่มันหมู่บ้านมอนสเตอร์รึไง'

       เต็นท์ทั้ง 500 หลังมีระยะห่างจากกัน 50 เมตร  โดยแต่ละโซนจะมีรั้วเตี้ยแบ่งอีกชั้นหนึ่ง  ดูราวกับพวกมันให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนบุคคลมาก

       'หากดูจากเครื่องไม้เครื่องมือ  พวกมันน่าจะเป็นมอนสเตอร์กึ่งมนุษย์  ไม่ใช่มนุษย์กิ้งก่า  มอนสเตอร์ชนิดนี้ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง'

       มอนสเตอร์กึ่งมนุษย์ที่มาตรฐานการดำรงชีวิตสูงและต้องการพื้นที่ส่วนตัว 
       จะเป็นมอนสเตอร์ชนิดไหนกันนะ...
       กริดยังคงสับสน  ไม่ว่าเขาขบคิดจนหัวแทบระเบิดมากเพียงใด
       แต่ในที่สุดก็ตระหนักได้ 
       
       'นั่นสินะ… ที่นี่คือทวีปตะวันออก'

       เป็นเรื่องโง่เขลาที่จะใช้สามัญสำนึกของทวีปตะวันตกคิดหาคำตอบในทวีปตะวันออก

       'ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง'

       สวบ

       ร่างของกริดหายไป  เป็นผลของเสื้อคลุมหัวแบบมีซิป  ชายหนุ่มลอบเข้าใกล้รังมอนสเตอร์อย่างเงียบงัน  เขาเลือกเต็นท์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อตรวจสอบ

       'ไม่มีสัญญาณอะไรเลยรึไง'

       นี่ใช่รังมอนสเตอร์จริงหรือ  
       รึว่าตนมาผิดที่กันแน่
       รังมอนสเตอร์แห่งนี้เงียบเกินไป  ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตแม้แต่นิดเดียว

       'หรือพวกมันจะออกไปกันหมดแล้ว'

       แต่ถ้ามอนสเตอร์กว่าพันตัวมีการเคลื่อนไหว  ย่อมต้องเหลือร่องรอยทิ้งไว้บ้าง

       'อย่าบอกนะว่า...'

       ตอนนี้เป็นเวลานอนกลางวันของพวกมัน...
       เป็นไปไม่ได้ที่มอนสเตอร์นับพันจะนอนกลางวันพร้อมกัน  กริดระงับความสงสัยพร้อมกับชำเลืองสายตามองเข้าไปในเต็นท์  
       ทันใดนั้น  สีหน้าของเขาพลันตกตะลึง
       เป็นหนู… ไม่สิ  แฮมสเตอร์
       แฮมสเตอร์ตัวใหญ่คู่หนึ่งกำลังนอนกอดกันกลมภายในเต็นท์ 

       'มอนสเตอร์น่ารักได้ขนาดนี้เชียว'

       ไม่สิ  ความน่ารักคือประเด็นรอง  ประเด็นหลักอยู่ที่  พวกมันน่าจะมีทักษะติดตัว 'ซ่อน'   เป็นเพราะกริดไม่ได้รับข้อมูลเลยสักนิด  แม้กำลังมองด้วยตาเปล่า

       'โกงฉิบ'

       ขณะกริดกำลังสับสน

       "มู่วว!"

       ฟุดฟิดฟุดฟิด!  
       จมูกของคู่รักแฮมสเตอร์พลันกระตุก  พวกมันลืมตาขึ้น  จากนั้นก็กวาดศีรษะมองไปรอบห้องและชี้นิ้วมายังตำแหน่งของกริดอย่างถูกต้องแม่นยำ

       "โฮกกกกก!"
       
       แฮมสเตอร์พลันอ้าปากกว้างอย่างดุร้าย
       คู่รักน่าเอ็นดูเมื่อครู่  บัดนี้กลายเป็นมอนสเตอร์ดุร้ายน่าขยะแขยงในพริบตา

       "อึก!"

       กริดผงะไปพักใหญ่  เมื่อได้เห็นฟันแหลมคมนับร้อยซี่ในปากแฮมสเตอร์  ทุกซี่ยาวคมเหมือนใบเลื่อย  ทั้งสกปรกและน่าสะอิดสะเอียนจนแทบอ้วก

       "บราฮัม!  นายเห็นรึเปล่า  เศษอาหารเน่าติดคาซอกฟันพวกมัน… แหวะ!"

       กริดขมวดคิ้วพร้อมกับอุดจมูก

       แฮมสเตอร์  ไม่สิ  มอนสเตอร์ชนิดนี้มีชื่อว่า 'หนูใหญ่พิษ' 
       พวกมันส่งกลิ่นเหม็นเน่าทันทีเมื่อเปิดปาก  เป็นกลิ่นที่ทรงพลังจนทำให้ศัตรูตกอยู่ในอาการสับสนและติดพิษ  กริดรอดพ้นมาได้เพราะเขาเป็นตำนาน  แต่ความสะอิดสะเอียนยังคงอยู่เต็มเปี่ยม

       "มนุษย์!  มู่ว!  ฆ่า!  มู่ว!"

       หนูใหญ่พิษเริ่มเกรี้ยวกราดเมื่อพบผู้บุกรุก  สามง่ามในมือกวัดแกว่งมั่วซั่ว  บัดนี้ไม่หลงเหลือความน่ารักน่าชังในตอนต้น  ดวงตาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ  ฟันที่ยาวยืดมีของเหลวพิษสีดำไหลหยดย้อย

       'เร็วมาก!'

       ความเร็วโจมตีของหนูใหญ่พิษ  เทียบเท่าแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์เลยทีเดียว  ในบางครั้ง  หากของมันก็ฟาดใส่จุดอ่อนกริดอย่างแม่นยำ

       เคร้ง!

       ทันทีที่ถูกแฮมสเตอร์พบตัว  กริดรีบสับเปลี่ยนเป็นผ้าคลุมลันเทียร์  พื้นดินบริเวณที่ชายหนุ่มยืน  ถูกสามง่ามของหนูใหญ่พิษแทงทำลายในพริบตา
       หนูใหญ่พิษมีคอมโบสังหารผู้เล่นด้วยการอ้าปากเพื่อส่งกลิ่นนรก  หลังจากตกอยู่ในอาการสับสนและติดพิษ  จากนั้นมันจะโจมตีใส่ด้วยสามง่ามเพื่อปลิดชีวิต  พวกมันมีรูปแบบการต่อสู้คล้ายกับ 'มอนสเตอร์ระดับสูง' ของทวีปตะวันตก

       แล้วกริดล่ะ
       เขาคาดหวังให้มอนสเตอร์ทวีปตะวันออกแข็งแกร่งอยู่แล้ว  จึงกำลังตื่นเต้นยินดีมากกว่าประหม่าหวาดกลัว  ยิ่งมอนสเตอร์เก่งกาจ  ค่าประสบการณ์ที่มอบให้ก็ยิ่งมหาศาล

       "วิชาดาบแพ็กม่า  สังหาร!"

       เต็นท์แห่งนี้ใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะอาศัย  กริดใช้จังหวะเท้าเพื่อหลบหลีกและโจมตีสวนกลับไปพร้อมกัน

       เปรี้ยงงง!

       ดาบสังหารปะทะร่างคู่รักแฮมสเตอร์ทั้งสองตัวพร้อมกัน  
       หลังจากกริดดับลมหายใจพวกมันในพริบตา  ข้อความระบบที่น่าทึ่งได้แสดงขึ้นตรงหน้า

[ ท่านสังหารหนูใหญ่พิษ ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 35,970,411 หน่วย ]

       "เฮ้ย..."

       นับเป็นค่าประสบการณ์อันมหาศาล
       มากกว่าที่กริดหวังไว้หลายเท่าตัว

Comments

  1. สนุกมากครับ ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  2. ทำไมเป็ดแดงไม่มาเม้นแล้วอะ

    ReplyDelete
  3. อืมก็ดีนะแต่กริดขอโทษบราฮัมด้วย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00