จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 504



       19 วินาที
       นี่คือเวลาที่อัศวินหลักเดียวกระโดดลงมาจากกำแพง  จัดการอัศวินแปดคน  และประชิดตัวลอเอล

       กึก!

       ดาบรูปทรงตัว Y กำลังส่องแสงวูบวาบและเล็งฟันมายังลำคอลอเอล  
       เร็วมาก…  ดูเหมือนความตายของลอเอลจะมิอาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว
       แต่ความเป็นจริง  ลอเอลยังคงมีชีวิตรอด  ก้อนกรวดปริศนาได้พุ่งมาจากฝั่งทหารเรย์ดันและหยุดดาบของอัศวินหลักเดียวไว้ได้ 

       'บ้าน่า...!'

       อัศวินหลักเดียว  นี่คือฉายาที่ผู้คนเรียกขานเก้าสุดยอดอัศวินสีชาด  หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ  เก้าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปตะวันตก  
       มีการประเมินไว้ว่า  พวกมันได้ก้าวข้ามปิอาโร่สมัยอดีตไปเรียบร้อยแล้ว  เพราะทั้งเก้าคนล้วนได้รับสมญานามมหาจอมดาบ

       อัศวินลำดับเก้า  นอติลุส  มันฉงนหนักเมื่อดาบของตนถูกหยุดไว้ได้ด้วยก้อนหินขนาดเล็ก

       'มีคนที่สามารถหยุดดาบเราได้โดยการขว้างหินด้วยหรือ'

       แถมยังในอาณาจักรกระจอกเช่นนี้

       'จะใช่ดยุคกริดรึเปล่า...'

       ไม่มีทาง  นอติลุสเคยเห็นจุดอ่อนจุดแข็งของกริดอย่างทะลุปรุโปร่งมาแล้วในสงครามกับองค์ชายเร็น  กริดแข็งแกร่งก็จริง  แต่ยังต่ำกว่านอติลุสหลายระดับ  ชายคนนั้นไม่มีทางก้าวมาทัดเทียมกับนอติลุสได้แน่  แม้จะฝึกฝนอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งชีวิตที่เหลือ

       'หรือว่า… ปิอาโร่'

       ข้อมูลสุดท้ายของคนทรยศปิอาโร่  มีการระบุไว้ว่าชายคนนั้นหลบหนีมายังอีเทอนัล  
       โอกาสเป็นปิอาโร่สูงมากทีเดียว

       'ไม่สิ… ไม่ใช่ปิอาโร่แน่'

       ปิอาโร่ไม่มีทางกลับไปสู่จุดสูงสุดเดิมของตนได้  
       และไม่มีทางหยุดดาบของนอติลุสด้วยก้อนกรวดสำเร็จแน่นอน  ในเมื่อฝีมือของชายคนนั้นลดระดับลงกว่าแต่ก่อนหลายเท่า
       
       'แล้วใครกัน'

       หนึ่งวินาที… นี่คือเวลาที่นอติลุสใช้ขบคิดในหัวสมอง

       "ลอเอล  ปกป้อง"

       จู๊ดพุ่งตัวพรวดเข้ามาพร้อมกับเหวี่ยง +8 ดาอินสเลฟ (จำลอง) เข้าใส่ศีรษะนอติลุส
       ดาบใหญ่สีดำฟาดฟันรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าฟาดผ่า

       เคร้งงง!

       "ชิ!"

       แขนขาของมันสั่นระริกเล็กน้อยเมื่อรับดาบจากจู๊ด

       'พละกำลังช้างสารอะไรเช่นนี้'

       ไม่ใช่พลังที่เกิดจากกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว  แต่ชายตรงหน้าผู้นี้  คงจะมีเทคนิคที่ใช้สำหรับเพิ่มพลังกำลังทางกายภาพได้สองถึงสามเท่า

       ฟุ่บ!

       เคร้ง!  เคร้ง!

       หลังจากรับดาบสองจู๊ดไปสองครั้ง  นอติลุสก็ตระหนักได้ว่า

       'หมอนี่ไม่กลัวตายเลยสักนิด'

       วิธีการต่อสู้ที่ใช้  ราวกับตนเองมีสิบชีวิตก็มิปาน  ชายคนนี้ไม่กลัวว่าจะถูกสวนกลับจนถึงแก่ความตาย  การเหวี่ยงดาบมีเพียงจุดประสงค์เดียวเท่านั้น : ทำลายศัตรูให้สิ้นซาก
       นอติลุสค่อนข้างตึงเครียด  เพราะคู่ต่อสู้เช่นนี้จะน่ากลัวราวกับสัตว์ป่าที่พึ่งพาเพียงสัญชาติญาณ

       'เป็นคนของดุริม่ารึไง...'

       ชนเผ่าหนึ่งซึ่งปลุกปั้นหุ่นเชิดที่มีชีวิตอยู่เพื่อสังหารผู้คนเท่านั้น

       'ช่างเถอะ  หมอนี่ไม่แข็งแกร่งเท่าไร'

       นอติลุสกลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง  มันหลบดาบฟันเฉียงของจู๊ดด้วยการย่อเข่าลง
       หลังจากนั้นก็โจมตีตอบโต้ด้วยการฟันงัดเสยขึ้นไปอย่างจัง

       ฉัวะ!

       ออร่าสีขาวสว่างวาบ  บาดแผลบนหน้าอกของจู๊ดลึกและฉกรรจ์มาก  
       นอติลุสถีบตัวขึ้นไปในอากาศพร้อมกับแทงซ้ำเข้าไปที่หัวไหล่

       "อึก!  เจ็บ!"

       "จู๊ด!"

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่กำลังรีบตามมาสมทบ  ทุกคนต่างหน้าถอดสี
       พวกเขากลัวว่าจะต้องเสียจู๊ดไป  และนั่นอาจทำให้กริดเสียใจมาก  
       แต่การเคลื่อนที่ผ่านกองทัพ 3,000 นายไม่ใช่เรื่องง่าย  แม้แต่คนที่เร็วที่สุดอย่างเฟคเกอร์ซึ่งกำลังเหยียบศีรษะของทหารและวิ่งมาด้วยความเร็วสูง  บัดนี้ก็ยังห่างไกลอยู่มาก
       
       "แกจบสิ้นแค่นี้แหละ"

       ในขณะที่ดาบของนอติลุสเล็งตัดหัวจู๊ด

       เคร้งงง!

       เป็นอีกครั้งที่นอติลุสถูกหยุดไว้ด้วยก้อนกรวด

       "บ้าน่า...!"

       ราวกับเป็นภูติผี  นอร์ติลุสหน้าซีด  มันหันกลับไปตะโกนสั่งเอิร์ลอัชเชอร์ที่อยู่บนกำแพงเมือง

       "สั่งให้ทหารโจมตีเร็วเข้า!  ฉันจะรีบช่วยบลันด์ออกมาจากช่องว่างนั้น!"

       'คงต้องสลัดคำพูดลอเอลออกไปจากหัวก่อน  รีบจบสงครามนี้โดยเร็ว'

       นอติลุสเริ่มหน้าเสีย  เพราะภายในกองทัพเรย์ดัน  มีปีศาจร้ายกำลับหลบซ่อนตัวอยู่  
       แต่เอิร์ลอัชเชอร์เป็นคนฉลาด  ก่อนจะลงมือทำสิ่งใดทุกครั้ง  เขาจะคิดให้ถี่ถ้วนเสมอ

       'กริดได้อะไรจากการสังหารองค์ชายเร็น...'

       ไม่เลย  ในทางกลับกัน  เป็นกษัตริย์อัสลันเสียอีกที่ขึ้นครองราชย์ได้เพราะการเสียชีวิตขององค์ชายเร็น  
       ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่า  ลอเอลพูดโกหก

       'แถมเมื่อครู่  เขาคิดจะให้บลันด์เป็นคนยืนยันจากปาก...'

       หรือกริดจะถูกป้ายสีจริง       
       เอิร์ลอัชเชอร์ครุ่นคิด

       'แต่บลันด์คือเชลย...'

       บางทีอาจถูกทรมาณและสอบสวนอย่างทารุณในเรย์ดัน  เอิร์ลอัลเชอร์ไม่อาจเชื่อใจคำพูดบลันด์ได้อีกแล้ว  ตอนนี้ทั้งดวงวิญญาณและร่างกายของบลันด์คงแหลกหลายไม่เหลือชิ้นดี  
       กริดอาจขู่เข็ญให้บลันด์เล่าความเท็จก็เป็นได้

       'ก่อนอื่นก็ต้องช่วยบลันด์ออกมาให้ได้  หลังจากนั้นค่อยไต่ถามความจริง'

       ในที่สุด  เอิร์ลอัชเชอร์ก็ได้ข้อสรุป

       "ยิง!"

       ฟุ่บ!

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

       พลธนูทั้ง 2,000 นายบนกำแพงต่างปล่อยสายอย่างพร้อมเพรียง  
       พลูธนูของแพเทรี่ยนมีอีกฉายาหนึ่งว่า 'หัวใจแห่งอีเทอนัล'  ฝีมือการยิงธนูของพวกเขาล้วนเก่งฉกาจ  ลูกธนูหลายพันดอกถูกยิงขึ้นฟ้าและตกลงมาเป็นเส้นโค้ง
       แต่เวทมนตร์ของเอิร์ลอัชเชอร์กลับยอดเยี่ยมกว่านั้น  ลูกศรทั้งหมดที่กำลังลอยตกใส่ทัพศัตรู  บัดนี้พลันลุกโชนด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรง  ความเร็วในการพุ่งตกกลับยิ่งสูงขึ้นจนยากรับมือ

       กองทัพเรย์ดันพลันแตกตื่นเมื่อห่าฝนธนูกำลังโปรยปรายประหนึ่งฝนดาวตก

       "อึ๋ย...!  ป--ป้องกัน!"

       "ยกโล่!"

       "ถ้าอยากรอดก็รีบลงมือเร็วเข้า!  พวกเราต้องกลับไปพบหน้าครอบครัวในเรย์ดัน!"

       วลีปลุกใจได้ทำให้ทหารเรย์ดันที่แตกตื่นกลับมามีสมาธิ  ต้องขอบคุณการฝึกฝนอย่างหนักของอัสโมเฟล  ทหารเรย์ดันจึงเคลื่อนทัพรับมือกับฝนธนูได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
       ทว่า… สงครามย่อมต้องมีการสูญเสีย… การโจมตีชุดแรกได้คร่าชีวิตทหารโชคร้ายไปไม่น้อย  

       "อั่ก!"

       "แค่ก!"

       ลูกธนูบางส่วนเล็ดลอดผ่านช่องว่างระหว่างโล่เข้ามาได้  ทหารที่ถูกธนูปักเข้า  หากไม่เสียชีวิตทันทีก็ต้องพิการไปตลอดชีวิต

       "เลโอ!!  ฟรัง!!"

       กลุ่มทหารต่างตะเบ็งเสียงจนคอแทบแตกเมื่อเห็นภาพโลหิตไหลรินจากร่างของพวกพ้อง  เป็นอีกครั้งที่ไฟในการเอาชีวิตรอดกำลังลุกโชน  พวกเขาพยายามใช้โล่บังฝนธนูของศัตรูอย่างสุดความสามารถ

       เคร้ง! เคร้ง!

       ฉึก!

       "อ๊ากกกก!"

       สนามรบเปี่ยมไปด้วยเสียงโลหะกระทบและเสียงร้องคร่ำครวญจากทหาร  มันคือบ่อแห่งความโศกเศร้าและโกรธแค้นอย่างแท้จริง  
       อัสโมเฟลยกโล่ขึ้นพร้อมกับขยับไปตามจังหวะเดียวกับทหารคนอื่น

       'นี่คือสิ่งที่ทหารในสนามรบต้องพบเจอ...'
       
       อัสโมเฟลเกิดมาในตระกูลขุนนางชั้นสูง  เขาได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทันทีที่เข้าร่วมกับกองทัพ  ถึงกระนั้น  อัสโมเฟลคือคนที่ดูแลเอาใจใส่และเป็นห่วงทหารอยู่เสมอ  แม้อาจต้องการชัยชนะในการศึกก็ตาม
       แต่นี่คือหนแรกที่ต้องกลายมาเป็นทหารเสียเอง  
       เขากำลังรู้สึกสนุกไหมน่ะหรือ
       แน่นอนว่าไม่  บรรยากาศทั้งเลวร้ายและเปี่ยมไปด้วยความหดหู่  
       อัสโมเฟลไม่เคยตระหนักถึงความจริงข้อนี้มาก่อน  แม้ในอดีตจะเคยกุมชีวิตทหารในบังคับบัญชาไว้นับหมื่นนับแสนก็ตาม

       'สิ่งสำคัญที่สุดของทหารมิใช่การชนะศึกหรือได้เพิ่มยศ...'

       แต่เป็นการเอาชีวิตให้รอด  พวกเขาคือมนุษย์ที่อ่อนแอซึ่งกลัวแม้กระทั่งลูกธนูเพียงดอกเดียว
       อัสโมเฟลโยกศีรษะหลบลูกธนูที่พุ่งลอดช่องว่างของโล่เข้ามา  แต่การหลบครั้งนี้กลับทำให้จมูกของเขากระแทกกับโล่ของทหารอีกคน  ส่งผลให้เลือดกำเดาไหลริน  
       ทว่าบัดนี้  บนท้องฟ้าเหนือโล่ของกลุ่มทหาร  หินก้อนมหึมากำลังพุ่งตกลงมาจากเครื่องยิงหินบนกำแพงปราสาท

       "ว๊ากกกก!"

       "ห--หนีเร็ว!"

       เสียงหวีดร้องของทหารเรย์ดันดังกึกก้อง  พวกเขาพยายามวิ่งหนีให้พ้นจากก้อนหินยักษ์  ระหว่างทางก็ผลักผู้อื่นโดยรอบไปทั่ว  ไม่เว้นแม้แต่อัสโมเฟล

       'แต่ไหนแต่ไรมา… ทุกสงครามที่เราเคยร่วม… ทุกประสบการณ์ที่เคยลิ้มรส  เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความจริงทั้งหมด'

       ตอนนี้เขาตระหนักแล้ว       

       'ดยุคกริดเรียกเราว่าเป็นทหาร  เพราะเขาต้องการให้เราลองสัมผัสประสบการณ์ที่น่าหดหู่เช่นนี้ดูสักครั้ง'

       อันที่จริง  กริดเรียกอัสโมเฟลเป็นทหารเพราะต้องการเล่นมุกตลกเท่านั้น
       แต่ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด  อัสโมเฟลก็ได้เลือกเดินบนเส้นทางนี้  และได้บรรลุสัจธรรมเพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อ  ซึ่งนับเป็นผลดีกับกองทัพกริดในอนาคตอย่างมาก

       'เราจะเป็นแม่ทัพที่เข้าถึงหัวใจพลทหาร  เราจะไม่ออกคำสั่งให้สละชีวิตอย่างสูญเปล่า  เราต้องคิดค้นกลศึกใหม่ที่ทำให้ทหารเสียชีวิตน้อยลง'

       แต่ก่อนอื่น

       'เราต้องทำหน้าที่พลทหารให้ดีที่สุด!'

       อัสโมเฟลรีบหยิบหอกในมือขว้างใส่หินยักษ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ 

       เปรี้ยงงงง!

       ครืนน!

       หอกดังกล่าวทำให้หินก้อนใหญ่แตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

[ อัสโมเฟลได้รับทักษะใหม่ ]
[ อัสโมเฟลได้รับทักษะใหม่ ]
[ อัสโมเฟลได้รับสมญานามใหม่ ]

       ***

       "ทำไมทหารพวกนี้ถึงอึดนัก!"

       "ไม่ว่าฉันจะยิงธนูออกไปมากแค่ไหน  แต่พวกเขาก็ไม่ยอมตายสักที..."

       บนกำแพงแพเทรี่ยน  ทหารของเอิร์ลอัชเชอร์เริ่มเสียขวัญ  เป็นเพราะชุดศึกของทหารเรย์ดันคุณภาพสูงเกินไป  ไม่ว่าจะโจมตีไปมากเพียงใด  ความเสียหายที่เกิดขึ้นกลับมีเพียงน้อยนิด

       "ชุดเกราะของทหารพวกนั้น… เป็นระดับเดียวกับชุดเกราะที่อัศวินชั้นสูงสวมใส่… เรย์ดันเป็นเมืองมั่งคั่งขนาดนั้นเชียวหรือ"

       "เมืองทะเลทรายเนี่ยนะมั่งคัง  ไม่มีทาง!  นั่นเป็นเพราะลอร์ดของเรย์ดันใส่ใจกับทุกชีวิตของพลทหารยังไงล่ะ  ดูเหมือนดยุคกริดจะเป็นชายที่น่านับถือ  เขามอบชุดเกราะที่ดีที่สุดให้ทหารเรย์ดันสวมใส่  แม้ว่าบ้านเมืองจะยากจนก็ตาม"

       "ช่างเป็นเจ้านายที่… ฉันอิจฉาทหารเรย์ดันจริงๆ"

       เอิร์ลอัชเชอร์เริ่มหวั่นวิตกเมื่อขวัญกำลังใจทหารฝ่ายตนลดลง

       'ต้องพลิกสถานการณ์'

       กองทัพบอร์เนียวกำลังเคลื่อนพลมายังประตูเมือง  ส่วนกองทัพเรย์ดันมีหน้าที่คอยปกป้องฝนธนูให้

       ตึง!

       ตึง!

       กำแพงแพเทรี่ยนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงทุกครั้งที่เครื่องกระทุ้งของกองทัพบอร์เนียวกระแทกใส่ประตูหลัก  ลงเอยด้วย  เอิร์ลอัลเชอร์ไม่อาจทนดูได้อีก  
       ถึงเวลาต้องสำแดงพลังอำนาจของจอมเวทสงครามบ้างแล้ว

       "ฉันจะแสดงพลังของหนึ่งในสิบมหาจอมเวทย์ให้พวกแกได้เห็น!"

       ซู่ววววว!

       เสียงตะเบ็งของเอิร์ลอัชเชอร์ก้องกังวาลไปทั่วสนามรบ  
       ในขณะเขาเริ่มร่ายเวท  บรรยากาศโดยรอบพลันร้อนระอุขึ้นทันที  นี่คือสัญญาณของเวทมนตร์ทำลายล้างขนาดยักษ์  พายุอัคคี
       ลอเอลที่คืนสติจากอาการอัมพาต  บัดนี้รีบหันไปตะโกนบอกบลันด์

       "มัวทำอะไรอยู่!  รีบไปหยุดพ่อของนายเร็วเข้า!"

       "...ฉันลงมือได้ตามใจได้งั้นหรือ"

       บลันด์มึนงงกับคำพูดลอเอล

       "แล้วฉันเคยจำกัดอิสระของนายสักครั้งรึยัง!"

       "..."

       ไม่มีสิ่งใดให้ต้องพูดกันอีก  บลันด์ใช้เวทบินเพื่อลอยขึ้นไปบนอากาศ  หลังจากนั้นก็ส่งเสียงเรียกผู้เป็นบิดาเมื่อลอยเข้าไปใกล้

       "ท่านพ่อ!  ที่เอิร์ลลอเอลพูดล้วนเป็นความจริง!"

       "...!"

       นัยน์ตาของเอิร์ลอัลเชอร์สั่นระริก  
       เหตุใดบุตรชายตนที่เป็นเชลย  ถึงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในสนามรบ

       'หรือว่า...'

       ในขณะที่เอิร์ลอัชเชอร์หยุดร่ายเวท  ลอเอลชิงถามจากด้านล่างทันที

       "เรื่องที่ว่า  กษัตริย์อัสลันเป็นผู้สังหารองค์ชายเร็นและป้ายสีดยุคกริด  หากสิ่งนี้เป็นความจริง  คุณจะละทิ้งราชวงศ์อีเทอนัลและรับใช้ดยุคกริดรึไม่!"

       "ฉันสามารถละทิ้งอาณาจักรได้  แต่ก็ไม่คิดรับใช้ดยุคกริด  ฉันไม่ต้องการรับใช้ผู้ปกครองที่ไร้ความสามารถ"

       แสยะ

       ลอเอลแสยะยิ้มชั่ว
       ถึงเวลาใช้เหยื่อแล้ว
       "เช่นนั้นก็แปลว่า  หากดยุคกริดมีความสามารถ  คุณจะยอมรับใช้ดยุคกริดแต่โดยดีใช่ไหม… ตกลง  ผมจะแสดงให้คุณได้เห็นว่าดยุคกริดคู่ควรกับคำนั้น!"

       "..."

       ราวกับลอเอลคาดเดาคำตอบเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า
       คำประกาศกร้าวของลอเอลทำให้เอิร์ลอัชเชอร์เกิดความฉงน

       "เมืองป้อมปราการบอร์เนียวที่ไม่เคยถูกอีเทอนัลยึดครองสำเร็จในช่วงเวลาร้อยปีให้หลัง… บัดนี้ตกอยู่ในมือดยุคกริดเรียบร้อยแล้ว!"

       เมื่อสิ้นเสียงลอเอล  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่เหลือซึ่งลอเอลกำชับให้รั้งท้ายอยู่กับหน่วยเสบียง  บัดนี้เริ่มลงมือสังหารทัพบอร์เนียวทั้งหมื่นคนซึ่งยืนรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเมือง

       บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

       กองทัพบอร์เนียวพลันแตกฮือทันที  เมื่อฝูงเวทมนตร์ถูกกระหน่ำจากด้านหลังโดยที่ไม่ทันตั้งตัว  ความเสียหายเกิดขึ้นเป็นวงกว้างในพริบตา

       "ก--เกิดอะไรขึ้น"

       มาร์ควิสวาลตินและกองทัพกำลังสับสนอลหม่าน  ส่วนเอิร์ลอัชเชอร์นั้นยืนมองด้วยความประหลาดใจ  
       ลอเอลยังมีกะจิตกะใจอธิบายเหตุการณ์ให้คนทั้งสองได้ฟัง

       "อาณาจักรอีเทอนัลและเก๊าส์  ทั้งคู่จะกลายเป็นของดยุคกริดในอีกไม่ช้า"

       "...!"

       ในขณะที่เอิร์ลอัชเชอร์กำลังสั่นคลอน

       "เอิร์ลอัชเชอร์!  อย่าถูกหลอก!  มันกำลังโกหก!"

       นอติลุสตะโกนขึ้นท่ามกลางการรุมโจมตีของเรกัส  ป็อน  และเฟคเกอร์  
       มันรีบสลัดคนทั้งสามให้หลุดอย่างยากลำบาก  หลังจากนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปหาลอเอลด้วยความเร็วสูง  นอติลุสหวังปิดปากลอเอลเพื่อไม่ให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าเดิม

       "หลีกไปซะ!"

       พลทหารที่ขวางทางล้วนไร้ความหมาย  พวกเขาหลายสิบถูกสังหารในพริบตาด้วยฝีมือนอติลุส  
       ในที่สุดมันก็ประชิดตัวลอเอลสำเร็จอีกครั้ง

       เคร้งง!

       ทันใดนั้น  หนึ่งในทหารที่ยืนอยู่ข้างกายลอเอลได้ปัดป้องการโจมตีของนอติลุสด้วยหอกยาว

       "แกเป็นใคร!"

       ชายปริศนาคนดังกล่าวชี้ปลายหอกไปยังนอติลุสพร้อมกับกล่าวแนะนำตัว

       "ฉันคือพลทหารอาส!"

Comments

  1. มามาดใหม่อย่างเท่ พลทหารอาส

    ReplyDelete
  2. อาส....อาสโมเฟล55555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00