จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 507



       "...แบบนี้นี่เอง"

       เอิร์ลอัชเชอร์ตระหนักได้ทันที  เมื่อเห็นลอเอลสั่งประหารเชลยกองทัพบอร์เนียวทุกคนด้วยสีหน้าเรียบเฉย

       "เหตุผลที่เจ้ากริดผู้ละโมบและสมองทึบ  สามารถรั้งตำแหน่งลอร์ดของเรย์ดันได้นานโดยที่เมืองไม่ล่มจม... เป็นเพราะชายคนนี้เองสินะ"

       ลอเอลไม่เพียงใช้งานกองทัพบอร์เนียวในการยืดครองแพเทรี่ยน  แต่เขายังทำลายพวกมันทิ้งทั้งหมด  จนทำให้ทัพเรย์ดันสามารถยึดครองบอร์เนียวได้เป็นของแถม  
       นับเป็นการกระทำที่ต่ำทรามและชั่วช้า  คำกล่าวหานี้  ลอเอลมิอาจปฏิเสธได้เลย  
       แต่ในเวลาเดียวกัน  นั่นก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะ  เขาเลือกใช้วิธีการอันแสนโหดเหี้ยมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ระดับสูงสุด  
       กริดจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้หรือไม่  หากไม่มีชายคนนี้คอยกุมบังเหียนอยู่ข้างกาย

       'เป็นไปไม่ได้แน่...'

       เอิร์ลอัชเชอร์ปฏิเสธอย่างมั่นใจ  
       บลันที่รู้ว่าบิดาตนกำลังคิดสิ่งใด  เขาจึงเปิดปากพูดขึ้น 

       "ท่านพ่อ  ด้วยความเคารพ  ดยุคกริดมิใช่คนไร้ความสามารถ  แม้จะเป็นเรื่องจริงที่เอิร์ลลอเอลคือมันสมองผู้คอยขับเคลื่อนทุกสิ่ง  แต่หากดยุคกริดไร้ความสามารถจริง  ลำพังมันสมองเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สามารถทำให้บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นแน่"

       "...!"

       เอิร์ลอัชเชอร์พลันรู้สึกว่า  บุตรชายของตนแปลกไปหลังจากไม่ได้พบกันนานสองปี
       ก่อนหน้านี้  บลันด์มีความสัมพันธ์กับกริดไม่ดีนัก  เพราะอีกฝ่ายแย่งคนรักไป  แถมในเวลาต่อมา  กริดยังจับบลันด์ไปเป็นเชลยที่เรย์ดันอีก  
       แล้วเหตุใดบลันด์ถึงเข้าข้างและยกย่องกริดถึงเพียงนี้

       'ทั้งที่กริดแย่งไอรีนไป... แต่ดวงตาของเขากลับสดใสไร้ความอาฆาตแค้น...'

       บลันด์คงถูกล้างสมองเรียบร้อยแล้วสินะ
       ลูกจะต้องเจ็บปวดทรมาณแค่ไหนกัน  
       เด็กคนหนึ่งถูกทารุณในคุกอันมืดมิด  ช่างมีชะตาชีวิตที่น่าอดสูนัก  เอิร์ลอัชเชอร์แสดงสีหน้าเจ็ดปวดรวดร้าว 
       ทว่า  บลันด์กลับอมยิ้มอย่างอ่อนโยน
       
       "ท่านพ่อ  ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด  ผมมีความสุขดีในเรย์ดัน"

       "บลันด์..."

       เอิร์ลอัชเชอร์ถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มนั่น
       บุตรชายของตน  บลันด์  เหตุใดเขาถึงเผยรอยยิ้มอ้นแสนอ่อนโยนเช่นนี้ออกมาได้  เอิร์ลอัชเชอร์ไม่เคยเห็นบลันด์ยิ้มอย่างอบอุ่นเช่นนี้มาก่อน  นับตั้งแต่เสียมารดาและพี่ชายไปในอดีต  
       แถมเด็กคนนี้ยังสูญเสียคนที่แอบรักให้กริด  เขาควรจะมีความทุกข์ระทมยิ่งกว่าใครทั้งหมด

       "ในเรย์ดัน  เจ้ามีชีวิตอย่างไรกันแน่  เหตุใดถึงแสดงสีหน้ามีความสุขเช่นนี้ได้"

       เมื่อเห็นเอิร์ลอัชเชอร์แสดงสีหน้าใคร่รู้
       บลันด์จึงเล่าความจริงออกไป

       "ทำนา"

       "อ--อะไรนะ!!"

       "กินมันฝรั่งทุกวัน"

       "อะไรนะ!!!"

       เอิร์ลอัลเชอร์พลันเดือดดาล  
       บุตรชายสุดที่รักของตน  ขุนนางระดับสูงคนหนึ่งของอีเทอนัล  กลับต้องทำนำเหมือนกับพวกทาสเนี่ยนะ
       แถมยังกินมันฝรั่งซึ่งเป็นอาหารสุกร!
       นี่เขาใช้ชีวิตอยู่ในขุมนรกมาตลอดเลยงั้นหรือ...

       "โธ่!  บลันด์...  ลูกคงเสียสติไปแล้วในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต!"
       เอิร์ลอัชเชอร์คร่ำครวญพร้อมกับโผกอดบลันด์อย่างแนบแน่น
       "พ่อขอโทษ!  ชีวิตของเจ้าต้องพังพินาศเพราะบิดาผู้โง่เขลาคนนี้!"
       ฮึก!  ฮืออออ~!

       บลันด์ตัดสินใจยื่นมันต้มให้กับบิดาที่กำลังเศร้าเสียใจ  
       มันต้มสีรุ้งอันโด่งดัง

       "ผมขี้เกียจอธิบายแล้ว  กินนี่ซะ  แล้วความเข้าใจผิดทั้งหมดของพ่อจะหายไปพริบตา"

       "นี่มัน..."

       บุตรชายของตนต้องเสียสติไปแล้วแน่!  จะมีบุตรคนใดบ้างที่ยื่นอาหารสุกรให้บิดาลองชิม
       เอิร์ลอัชเชอร์ทำได้เพียงตัดพ้ออย่างสิ้นหวัง
       เมื่อบลันด์เห็นว่าการเจรจาไม่ช่วยอะไร  เขาจึงต้องลงไม้ลงมือ  บลันด์ทำการยัดมันฝรั่งสีรุ้งใส่ปากเอิร์ลอัชเชอร์อย่างรวดเร็ว

       หมับ!

       "อ--เอ๋!"

       ดวงตาเอิร์ลอัชเชอร์พลันเปล่งประกายเมื่ออาหารสุกรเข้าไปในปาก

       'น--นี่มันอะไรกัน'

       เป็นการเปิดโลกใบใหม่  
       เป็นความรู้สึกตกใจและปลื้มปีติอย่างน่าประหลาด  ราวกับตนสามารถเปิดเส้นโคจรมานาวงใหม่ขึ้นได้สำเร็จ
       ทันทีที่สัมผัสกับลิ้น  รสของมันมีทั้งหวาน  เค็ม  เผ็ด  เปรี้ยว  และสดชื่น
       ราวกับรสชาติที่เอร็ดอร่อยทุกชนิดบนโลกได้อัดแน่นอยู่ในคำๆ นี้

       เมื่อเห็นเอิร์ลอัชเชอร์ทึ่ง  บลันด์จึงถามอย่างตื่นเต้น
       "เป็นยังไงบ้าง  อร่อยมากเลยใช่ไหม"
       
       "อร่อยอะไรกัน!"
       เอิร์ลอัชเชอร์โพล่งขึ้นด้วยใบหน้าตื่นเต้น
       "รสชาติราวกับสวรรค์ประทานเช่นนี้  ไม่ใช่แค่ 'อร่อย' แล้ว!  แต่มันคือรสชาติแห่งสวรรค์!  อาหารของเทพ!!"

       "..."

       เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ
       ดูเหมือนบลันด์และเอิร์ลอัชเชอร์จะมีต่อมรับรสที่เหมือนกันทุกประการ  
       'คนคลั่งมันฝรั่ง' หมายเลขสองถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

       ***

       "คุณจะรับใช้ดยุคกริดรึไม่"
       ลอเอลกล่าวถามในขณะที่บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยความชื่นมื่น

       เอิร์ลอัชเชอร์ตั้งคำถามอย่างเรียบเฉย  โดยในปากกำลังเต็มไปด้วยมันฝรั่งคำโต
       "นายคิดจะทำอย่างไรต่อไป  ตอนนี้ดยุคกริดได้กลายเป็นศัตรูของทั้งอีเทอนัลและเก๊าส์เรียบร้อย  ยากที่จะให้เชื่อว่า  ดยุคกริดสามารถรับมือการล้อมโจมตีจากสองอาณาจักรพร้อมกันได้  ต่อให้มีมาร์ควิสสไตมคอยสนับสนุนก็ตามที"

       ลอเอลชูขึ้นสามนิ้ว
       "คุณมองข้ามไปหนึ่งสิ่ง  ฝ่ายที่จะเป็นศัตรูกับดยุคกริดคือสาม  มิใช่สอง... จักรวรรดิซาฮารันจะต้องไม่อยู่เฉยแน่"

       "จักรวรรดิ..."
       
       พลังอำนาจของจักวรรดิซาฮารันผู้ปกครองทวีปตะวันตกนั้นมากมายเป็นล้นพ้น  
       พวกมันมีกองทัพหลักล้าน  มีอัศวินสูงกว่า 3,000 นาย  แถมยังมีมหาจอมเวทที่เก่งกาจระดับเอิร์ลอัชเชอร์อีกหลายคน  
       การเป็นศัตรูกับจักรวรรดิ  มิต่างอะไรกับรอรับความล่มจมที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า

       "ทำไมดยุคกริดถึงกลายเป็นศัตรูของจักรวรรดิไปได้"

       ลอเอลอธิบายด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

       "จักรวรรดิซาฮารันอยู่เบื้องหลังกษัตริย์อัสลัน"

       มีหลายปัจจัยที่บ่งชี้ว่า  กษัตริย์อัสลันยืมมือจักรวรรดิเพื่อให้ตนได้ครองราชย์
       ลอเอลมั่นใจมากว่า  สายพันธ์จะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นหลังจากอัสลันกลายเป็นกษัตริย์เต็มตัว

       เอิร์ลอัชเชอร์ครุ่นคิดครู่หนึ่ง  ก่อนจะผงกศีรษะตามเบาๆ
       "ก็มีเหตุผล... เมื่อไม่นานมานี้  ความสัมพันธ์ระหว่างอีเทอนัลกับจักรวรรดิดีขึ้นผิดหูผิดตา  มีกฏหมายบางข้อที่ถูกแก้ไขเพื่อเอื้อประโยชน์ให้จักรวรรดิ  ซึ่งมองดูผิวเผินอาจไม่สลักสำคัญ  นั่นจึงทำให้ขุนนางระดับสูงอย่างฉันไม่คิดว่ามีสิ่งผิดปรกติ"

       หรือก็คือ  เป็นการลอบทำอย่างลับๆ

       "เช่นนั้นแล้ว  ดยุคกริดจะมีอนาคตจริงหรือ  หากต้องกลายเป็นศัตรูกับอาณาจักรเข้า  ตัวฉันที่รับใช้ดยุคกริด  มิใช่ว่าต้องตายเหมือนกับสุนัขข้างถนนรึไง"

       "ไม่เลย  เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล  ตอนนี้จักรวรรดิกำลังวุ่นวายกับการปราบกบฏชนเผ่าทางทิศใต้  คงเป็นการยากที่จะส่งกำลังรบหลักมาทางทิศเหนือ  ผมมั่นใจว่า  พวกเราจะไม่ปะทะกับกองทัพจักรวรรดิโดยตรงไปอีกอย่างน้อยสองปี  และอันที่จริง  กษัตริย์อัสลันเองก็ไม่คิดขอกำลังสนับสนุนจากจักรวรรดิในเร็ววันนี้"

       อีเทอนัลคืออาณาจักรเป็นกลางที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี  แม้อาจต้องส่งบรรณาการไปยังจักรวรรดิเหมือนกับฝ่ายอื่น  แต่อีเทอนัลก็มีอิสระอย่างเต็มที่ในการบริหารบ้านเมือง  
       จะเกิดอะไรขึ้นหากมีข่าวหลุดออกไปว่า  กษัตริย์อัสลันหยิบยืมพลังจักรวรรดิเพื่อให้ตนเองได้ครองราชย์  แถมหลังจากนั้นยังแอบแก้ไขกฏหมายเพื่อเอื้อประโยชน์แก่จักรวรรดิอีก 
       แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือและผู้ให้การสนับสนุนจะลดลงฮวบฮาบ  ฝ่ายที่อาจเป็นใหญ่ขึ้นมาแทน  คือขั้วอำนาจเก่าองค์ชายเร็น

       เมื่อคิดเช่นนี้  ลอเอลจึงได้ข้อสรุป  
       กษัตริย์อัสลันไม่มีทางเผยตัวอย่างโจ่งแจ้งได้  ว่าตนเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิ

       "...นายคือคนที่สามารถอ่านสถานการณ์ทั่วทั้งทวีปอย่างทะลุปรุโปร่ง  และใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด"

       "นี่เป็นเรื่องพื้นฐานของกุนซือ"

       "แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้"

       เอิร์ลอัชเชอร์ครุ่นคิดเล็กน้อย

       "ตกลง  เมื่อได้รู้ว่าราชวงศ์กำลังตกต่ำและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  ฉันก็ไม่ต้องการรับใช้อีเทอนัลอีก  และพลังอำนาจส่วนตัวก็น้อยนิดจนไม่อาจแยกตัวไปก่อตั้งฝ่ายใหม่  คงมีแต่ต้องรับใช้ดยุคกริดเท่านั้น  แต่ขอบอกไว้ก่อน  คนอย่างฉันต้องถูกปฏิบัติอย่างสมฐานะ"

       "ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น  คุณคือหนึ่งในสิบมหาจอมเวทผู้ทรงเกียรติแห่งทวีป  เพียงแต่ว่า..."
       ลอเอลยิ้มอย่างเป็นมิตร  พร้อมกล่าวต่อไปด้วยสีหน้าอ่อนโยน
       "จงจำไว้ให้มั่นว่าคุณอยู่ใต้บังคับบัญชาของดยุคกริด  หากวันใดคิดหันคมดาบใส่เขาล่ะก็..."

       "ฉันรู้"

       เอิร์ลอัชเชอร์เริ่มเกิดความสงสัย
       กริดเติบโตขึ้นมากแค่ไหนกัน...  
       เหตุใดเด็กหนุ่มอัจฉริยะและพรสวรรค์ทางการเมืองสูงคนนี้ถึงยอมรับใช้ข้างกายอย่างซื่อสัตย์

       'เราอยากเห็น...'

       เมื่อได้รับรู้ว่าบลันด์ใช้ชีวิตอย่างอิสระและมีความสุขในฐานะเชลย  ความคับแค้นในใจเอิร์ลอัชเชอร์ที่เคยมีต่อกริด  พลันสลายไปจนหมดสิ้น  เขากำลังคาดหวังในตัวกริด
       แต่ทันใดนั้นก็เกิดคำถาม

       "ตอนนี้ดยุคกริดอยู่ไหน"

       ไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่า  ผลของสงครามกับแพเทรี่ยนถือเป็นสิ่งที่กำหนดชะตาชีวิตครั้งใหญ่ของเรย์ดัน
       แต่เอิร์ลอัชเชอร์กลับพบว่ากริดมิได้เข้าร่วมสงครามนี้  ตัวตนที่สำคัญที่สุดอย่างเขา  เหตุใดถึงได้ละเลยการศึก

       ลอเอลตอบกลับ
       "ดยุคกริดกำลังออกล่า"

       "..."

       เอิร์ลอัชเชอร์แทบไม่เชื่อหู
       แต่เพียงครู่เดียวก็แสดงสีหน้าเข้าใจ

       "เป็นเช่นนั้นเองสินะ  เขาคงกำลังต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยตามลำพัง  เพื่อปกป้องดินแดนที่รักยิ่งใช่ไหม"       

       "เอ่อ... ก็ไม่ผิดจากนั้นสักเท่าไร"

       พัฒนาการของกริดถือเป็นอาวุธลับไพ่ตายโอเวอร์เกียร์  ยิ่งกริดแข็งแกร่ง  โอเวอร์เกียร์ก็ยังมีไม้เด็ดไว้รับศึกใหญ่
       แต่ลอเอลก็ไม่อยากขัดจินตนาการเอิร์ลอัชเชอร์  อยากคิดเช่นไรก็ปล่อยไป  
       ลอเอลยิ้มอย่างอบอุ่นก่อนจะส่งข้อความส่วนตัวหาเฟคเกอร์

       >>  เส้นทางสู่แดนเหนือเปิดออกแล้ว  ทำตามแผนเดิม  จงไปหามาร์ควิสสไตมและรายงานเรื่องการแยกตัวของกริด

       เมื่อใดก็ตามที่มาร์ควิสสไตมประกาศว่าจะสนับสนุนกริด

       >> พวกเราจะสถาปนากริดเป็นกษัตริย์

       ณ ปัจจุบัน  ไม่ใช่เวลาที่ดีนักในการสถาปนากริดเป็นกษัตริย์  
       หากทำ  กริดต้องทุกข์ทรมาณแสนสาหัสแน่  กับการถูกล้อมโจมตีจากทุกทิศ  ไม่ว่าจะเป็นอีเทอนัล  เก๊าส์  หรือซาฮารัน  
       หากเลวร้ายที่สุด  อาณาจักรใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นอาจพังทลายลงในเวลาอันสั้น
       ถึงกระนั้นลอเอลก็มิได้แยแส  เพราะไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น  แต่สมญานาม 'กษิตริย์คนแรก' ต้องตกเป็นของกริดเท่านั้น
       
       'เราไม่อาจปล่อยให้อาเรสตัดหน้าไปได้'

       ลอเอลเดิมพันว่า  สมญานามนี้จะต้องมีเกรดเลเจนดารีแน่นอน  และมันต้องส่งผลยอดเยี่ยมกว่าวีรบุรุษอาณาจักรหลายเท่า

       ***

       "แพเทรี่ยนถูกยึดครองแล้วหรือ"

       "ไม่เพียงเท่านั้น  ยังมีรายงานมาว่า  เอิร์ลอัชเชอร์ทำการทรยศและเข้าเป็นพวกดยุคกริดเรียบร้อยแล้ว"

       "น--นั่นมัน..."

       ณ ไรน์ฮาร์ท  เมืองหลวงอาณาจักรอีเทอนัล 
       กษัตริย์อัสลันไม่เคยคิดมาก่อนว่าแพเทรี่ยนจะแตกพ่าย  มันทรุดนั่งลงบนบัลลังก์อย่างไร้เรี่ยวแรงด้วยสายตาเหม่อลอย
       จนผ่านไปครู่หนึ่ง  มันเอ่ยปากถาม

       "ล--แล้วอัศวินที่ส่งไปช่วยเอิร์ลอัชเชอร์ล่ะ"

       "อัศวินผู้นั้นเสียชีวิตในสงคราม  เขาถูกพลทหารคนหนึ่งของเรย์ดันฆ่าตาย"

       เหตุใดอัสลันถึงส่งกำลังเสริมเป็นอัศวินที่อ่อนแอยิ่งกว่าพลทหาร  
       สายตาเคลือบแคลงสงสัยของทุกคนกำลังมองตำหนิมายังอัสลัน

       มันทำได้เพียงสับสน
       'ทำไมอัศวินหลักเดียวถึงถูกพลทหารจัดการเอาได้'

       ต้องไม่ใช่แน่  ข่าวคงถูกบิดเบือนเสียมากกว่า  อัสลันมั่นใจ

       'หรือดยุคกริดจะรู้ว่านอติลุสคืออัศวินหลักเดียว  จึงแสร้งปลอมตัวเป็นพลทหารและจัดการเขา'

       กริดต้องปลอมเป็บทหารอย่างแนบเนียน  ก่อนลงมือสังหารอัศวินสีชาดแน่นอน

       'จักรวรรดิไม่มีทางยอมเปิดเผยแน่  ว่านอติลุสเป็นถึงอัศวินหลักเดียว  พวกเขาไม่ต้องการให้กริดมีชื่อเสียงไปมากกว่านี้'

       ในมุมมองจักรวรรดิ  พวกมันคงไม่ป่าวประกาศว่าอัศวินหลักเดียวอันแสนภาคภูมิใจถูกสังหารโดยพลหาร  
       ไม่สิ  นอกจากต้องการหลีกเลี่ยงความอับอายแล้ว  ความจริงที่นอติลุสถูกส่งมาช่วยอัสลัน  ก็มิใช่เรื่องที่สามารถเปิดเผยได้เช่นกัน

       'ดยุคกริด...'

       ยิ่งมองให้ลึก  ชายคนนี้ก็ยิ่งน่ากลัว
       ใช่แล้ว  กษัตริย์อัสลันไม่มีทางรู้เลยว่า  กริดไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เลยสักนิด  และอาจไม่ได้เข้าร่วมในสงครามหลังจากนี้ด้วย  
       ลอเอลต้องการให้กริดเร่งเก็บเลเวลอย่างสบายใจ  ระหว่างนั้น  สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนจะทำสงครามอย่างเหน็ดเหนื่อย  เพื่อก่อตั้งอาณาจักรใหม่ให้กริด
       
       'เฉกเช่นแอ็กนัส'

       แอ็กนัสสามารถเล่นซาทิสฟายได้อย่างอิสระ  โดยมีกิลด์ซึ่งนำโดยแร้งเกอร์คลาสหมอผีแถวหน้าของโลกคอยหนุนหลัง  พวกเขาคอยสร้างชื่อเสียงในนามแอ็กนัสอยู่เสมอ
       แล้วทำไมกริดถึงจะทำเช่นนั้นบ้างไม่ได้ล่ะ  
       ลอเอลเป็นคู่ปรับตลอดกาลกับเวอราดินผู้เป็นมือขวาให้กับแอ็กนัส  เขาหมายมั่นจะสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กริด  มากกว่าที่เวอราดินสร้างให้กับแอ็กนัส

       นี่คือก้าวแรกของโปรเจกต์
       <กริด : จักรพรรดิผู้ครอบครองทุกสิ่ง>

Comments

  1. กริดไม่ได้รู้เรื่องอะไร ในเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์เลย มีเพื่อนดีๆ คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด ขอบคุณที่แปลครับบบบ

    ReplyDelete
  2. [สมญานาม คนที่ถูกเข้าใจผิดบ่อยที่สุดในทวีป]

    ReplyDelete
  3. ความรู้สึกเหมือนดู Overlord เาอร์ชั่นเกาหลี+เกมออนไลน์ เรดันมันโรงงานผลิตกาวชัดๆๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เหมือน'มิโมรุ'น้องสไลมสีฟ้ามากกว่า 555+ กริด:มิโมรุ บราฮัม:ราฟาเอล ลอเอล:เดียโบร เฟคเกอร์:โซเอ เซฮี:ชูนะ

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00