จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 514


       
       'ไม่ใช่เวลาที่นายมัวเหม่อสักหน่อย'
       เสียงบราฮัมดังก้องในศีรษะ
       'บัฟอมตะอยู่ได้แค่ห้าวินาทีไม่ใช่รึไง...'
       
       ทองงั้นหรือ
       ไม่เลย  เวลามิได้มีค่าดั่งทองอีกแล้ว  ตอนนี้เวลามีค่ายิ่งกว่าเพชร!  
       กริดจำต้องกอบโกยให้ได้มากที่สุด  ในช่วงเวลาอันแสนสำคัญห้าวินาที

       "ขอบคุณ"

       ชายหนุ่มได้สติกลับมาเพราะบราฮัม  เขารีบลงมือ  กริดต้องการพิสูจน์บางสิ่ง

       'ก่อนอื่น'

       เคร้ง! เคร้งเคร้ง!

       สิ่งแรกที่ลองทำ  กริดฟันและแทงใส่ฟอสฟอรัสขาวต้นเดิมที่เคยระเบิด  โดยเล็งไปยังจุดที่เปลือกนอกซึ่งได้รับความเสียหายเมื่อครู่  เขาต้องการรู้ได้ให้  ว่าต้นไม้ชนิดนี้จะยังแข็งและระเบิดอยู่หรือไม่  หลังจากเกิดระเบิดใหญ่ไปแล้วหนหนึ่ง  
       ผลก็คือ  มันยังแข็งเหมือนเดิม  แต่การโจมตีที่ไม่เกิดความเสียหาย  จะไม่เกิดระเบิดใดขึ้น

       'มันสงบลงรึยังนะ...  แล้วถ้าเรานำไปเผาไฟ  มันจะยังระเบิดอยู่ไหม'
       
       ต้นฟอสฟอรัสขาวนั้นแข็งมาก  แต่กริดเดาว่าสามารถนำไปเผาไฟได้  เพราะเนื้อหาภารกิจระบุไว้ชัดเจน  ว่าต้นไม้ชนิดนี้สามารถใช้ทำฟืน

       'แต่ไม่เข้าใจเลยสักนิด  เหตุใดต้องใช้ฟืนจากต้นไม้ที่โค่นได้ยากเย็นเช่นนี้'
       
       มันมีผลพิเศษยังไงบ้างนะ

       'ต้องมีแน่'

       ชักอยากรู้แล้วสิ

       'ไม่ช้าก็เร็ว  เราจะทดลองด้วยตัวเอง'

       สวบ

       กริดย่างกรายพร้อมกับแทง 'สังหาร' ใส่ต้นฟอสฟอรัสขาวต้นเดิม

       เคร้งงงง!

[ ความคงทนของ <+9 ความผิดพลาด> ลดลง 6 หน่วย ]
[ ข้อมือของท่านบาดเจ็บรุนแรง  ท่านเป็นอัมพาตชั่วคราว ]
[ ท่านต้านทาน ] 
[ ท่านอยู่ในสภาวะอมตะ  ท่านไม่ได้รับความเสียหาย ]

[ ท่านไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนให้ต้นฟอสฟอรัสขาว ]

       "ชิ... แม้แต่สังหารก็ยัง..."

       พลังป้องกันของต้นฟอสฟอรัสขาวอยู่ในระดับมหาศาล  หากการโจมตีอันทรงพลังของ 'สังหาร' ยังไม่เกิดรอยขีดข่วน  หมายความว่า  ทักษะที่ไม่มองข้ามพลังป้องกัน  จะไม่สามารถใช้กับต้นฟอสฟอรัสขาวได้เลย

       "แล้วนี่ล่ะ"

       ฉัวะ!

       คราวนี้เป็น 'ทำลายล้าง'
       +9 ความผิดพลาดพันเฉือนใส่ลำต้นอย่างจัง

[ ท่านสร้างความเสียหายใส่ต้นฟอสฟอรัสขาวเล็กน้อย ]
[ เปลือกฟอสฟอรัสขาวทำการพ่นไฟใส่ท่าน ]

       เมื่อเทียบกับทำลายล้างสังหาร  ความรุนแรงของทำลายล้างจะเบาลงหลายส่วน  มันมิได้มองข้ามพลังป้องกัน 100% 
       ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลำต้นฟอสฟอรัสขาวไม่รุนแรงมาก  มีเพียงเปลือกเสี้ยวเดียวที่กะเทาะหลุด  
       แต่ข้อดีก็คือ  มันไม่เกิดระเบิดกัมปนาทขึ้น  แค่เปลวเพลิงลูกหนึ่งพุ่งใส่

       'แบบนี้เข้าท่า...'

       ซู่วววว!

       เปลวเพลิงพุ่งจากลำต้นใส่ร่างกริด  ความร้อนกระจายไปทั่วบริเวณ  เปลวเพลิงชนิดนี้ทั้งร้อนแรงและเกรี้ยวกราด  ดุจดั่งกรงเล็บสีแดงฉานพุ่งปะทะร่าง  แต่กริดกำลังมีบัฟอมตะ  เขาจึงไม่ได้รับความเสียหายใดจากเปลวเพลิง  
       ท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนแรงลุกท่วมกาย  ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงสุขุมเยือกเย็น

       "คงใช้ได้แค่ทำลายล้างสินะ"       

       ทำลายล้างสังหารสร้างความเสียหายมากเกินไป  ส่งผลให้ลำต้นฟอสฟอรัสขาวเกิดระเบิดกัมปนาท  ทำลายทุกสิ่งในรัศมีสี่เมตรจนสิ้นซาก  แม้แต่กริดก็ไม่มีวิธีรับมือกับระเบิดดังกล่าว
       กลับกัน  เปลวเพลิงที่เกิดจากทำลายล้าง  สิ่งนี้อยู่ในชอบเขตที่หลบพ้น  หากมีความช่วยเหลือจากผ้าปิดตาเพชฆาตและบัฟพลิ้วไหว

       บราฮัมเอ่ยปากถาม
       'ทำไมนายถึงไม่ลองศรเวท'

       บัดนี้บัฟอมตะหมดลงแล้ว  พร้อมกับเปลวเพลิงที่สงบลง  กริดเดินถอยห่างจากลำต้นและทำหน้าครุ่นคิด

       "ศรเวทเป็นการโจมตีชนิดระเบิดจุดเล็ก  ฉันคิดว่าไม่เหมาะจะใช้ผ่าฟืน"

       'เล็งไปที่กิ่งสิ  ในเมื่อนายต้องใช้ทำลายล้างตัดออกทีละกิ่งอยู่แล้ว  การยิงศรเวทจะไม่เร็วกว่าหรือ'

       "แต่ศรเวทของฉันเบามาก..."

       กริดมั่นใจหลายส่วนว่าศรเวทตนมิอาจสร้างรอยขีดข่วน  ถึงมันจะมองข้ามพลังป้องกันเวทโดยสมบูรณ์ก็ตาม

       'ลองใช้ดูก่อน  นั่นดีว่านั่งจินตนาการเอาเอง'

       "ก็ได้..."

       เมื่อบราฮัมเซ้าซี้  เขาจึงยิงศรเวทใส่กิ่งบางสุดบนต้นฟอสฟอรัสขาว

       บึ้ม!

       "..."

       อย่างที่คิด  ศรเวทกริดไม่สร้างรอยขีดข่วน  
       ชายหนุ่มกัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ

       "คงมีแค่ทำลายล้าง"

       ระยะหน่วงของทำลายล้างคือสองนาที  หมายความว่า  กริดตัดไม้ได้ทุกสองนาทีเท่านั้น

       'คงต้องใช้เวลาทั้งวัน  กว่าจะรวมรวบได้ครบตามที่ภารกิจต้องการ'

       เป็นเวลานานเกินไปสำหรับค่าประสบการณ์ 12%
       เก็บเลเวลกับแวมไพร์ยังเร็วกว่านี้  กริดขมวดคิ้วพร้อมกับครุ่นคิดในหลายสิ่ง

       'ใช้ผสานวิญญาณดีไหม'

       ศรเวทระดับสิบของบราฮัมอาจตัดไม้ได้เร็วกว่าเดิมมาก

       '...แต่ว่า'       

       กริดไม่ต้องการ  
       มันมากเกินไป  ที่ต้องใช้พลังมหาจอมเวทในตำนานเพียงเพื่อตัดไม้

       'การยืมพลังของนายทำเรื่องแบบนี้...'

       อีกหนึ่งเหตุผลที่กริดไม่ต้องการใช้ผสานวิญญาณพร่ำเพรื่อ  เขาไม่รู้ว่าทวีปตะวันออกมีภัยอันตรายใดบ้าง  ชายหนุ่มไม่ต้องการเสียไพ่ตายไปกับสิ่งไร้สาระ

       'กริด  ให้ฉันช่วยไหม  ไม่ได้ออกไปสูดอากาศนานแล้ว--'

       บราฮัมพยายามพูดบางสิ่ง  แต่ยังไม่ทันจบประโยค  กริดก็รีบตัดบทอย่างไม่ใยดี

       "ตอนนี้แหละ!"

       เมื่อเห็นว่าระยะหน่วงของทำลายล้างวนมาครบ  ชายหนุ่มรีบกลับไปยังต้นฟอสฟอรัสขาวต้นเก่า  และใช้ทำลายล้างใส่อีกหนึ่งครั้ง

       ฉัวะ!

       พรึ่บ!

       เปลวเพลิงพวยพุ่งใส่เมื่อกิ่งเล็กถูกตัด  กริดอาศัยพลังผ้าปิดตาเพชฆาตเพื่อหลบหลีก  แต่ปัญหาคือ  สปีดการพุ่งของเปลวเพลิงรวดเร็วเกินไป

       'ชิ!'

       กริดประเมินว่าตนหลบไม่พ้นแน่  เขารีบบัฟพลิ้วไหวและเบี่ยงตัวหลบอย่างฉิวเฉียด

       "ฟู่ว..."

       ชายหนุ่มเก็บกิ่งฟอสฟอรัสขาวเข้าช่องสัมภาระพร้อมกับกัดฟันกรอด
       ช่างตีเหล็กในตำนานและดยุคแห่งอาณาจักร  กลับต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนเพียงเพื่อตัดไม้  ความจริงแสนโหดร้ายได้ทำให้กริดอยากหลั่งน้ำตา
       
       "บัดซบ!  ภารกิจบ้านี่จะยากเกินไปแล้ว!  เจ้าไวท์นั่นคิดอะไรอยู่--  เดี๋ยวนะ... เดี๋ยวก่อน!"

       กริดผุดไอเดียใหม่

       "ช่างตีเหล็กลูกมือไวท์...  พวกเขาใช้ค้อนเหล็กเพื่อขึ้นรูปเหล็ก  และใช้ค้อนมิธริลเพื่อขึ้นรูปมิธริลสินะ..."

       บางสิ่งแล่นเข้ามาในหัว

       'เพชรตัดเพชร!'

       หัวตัดที่ทำจากเพชร  คือสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมเจียระไนเพชร  
       อาจมีหลายสิ่งบนโลกที่สามารถทำลายเพชร  แต่มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ตัดเพชรได้เรียบเนียน  นั่นคือเพชรด้วยกันเอง

       'บางที  ต้นฟอสฟอรัสขาวเหล่านี้...'

       พวกมันมีคุณสมบัติผิวแข็ง… เหมือนกับเพชร
       กริดกำลังเปี่ยมด้วยไอเดีย  เขาไม่รีรอ  ชายหนุ่มรีบรวบรวมเศษไม้ฟอสฟอรัสขาวที่กระจัดกระจายตามพื้น  จากนั้นก็พิจารณารายละเอียดและคุณสมบัติการตีเหล็กของพวกมัน

       'ขึ้นรูปและอบคืนตัวพอเป็นไปได้  แต่การหลอมล่ะ  จะไหวรึเปล่านะ'

       กริดครุ่นคิดพักใหญ่  
       ชายหนุ่มหมายมั่นจะเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด  สมาธิสำหรับขบคิดแก้ไขปัญหาถูกรวบรวมมาไว้จุดเดียว
       จากนั้นไม่นาน

       "...ดีล่ะ  ลองดูสักตั้ง"

       กริดอมยิ้มพร้อมกับเปิดสูตรการผลิต  เป็นสูตรหมวดหมู่ 'ขวาน' ซึ่งมีรายชื่อเรียงติดกันยาวเป็นพรืด
       เขาเพ่งความสนใจไปยังขวานตัดไม้

[ ขวานตัดไม้ ]
เกรด : ทั่วไป ~ เลเจนดารี
       ขวานที่ถูกออกแบบสำหรับตัดไม้
       ขวานในอดุมคติของช่างตัดไม้ทุกคน
เงื่อนไขสวมใส่ :
- เลเวลตัดไม้  100 หรือมากกว่า
- ทักษะตัดไม้ขั้นต้นเลเวล 7 หรือสูงกว่า

       ภารกิจตรงหน้ามีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน
       ช่างตีเหล็กในตำนานมิอาจยอมแพ้ต่อต้นไม้  ไฟต่อสู้ในตัวกริดลุกโชน  เขานำเตาหลอมขนาดพกพาออกมาและเตรียมลงมือ
       บราฮัมส่งเสียงเสนอะแนะ

       'ไม่ว่านายคิดจะทำสิ่งใด  แต่อย่าลืมอัญเชิญโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ให้บ่อยครั้งที่สุด'

       "ทำไมต้องพวกมัน"

       'จากที่ฉันสำรวจดู  พวกมันมีศักยภาพเรียนรู้ทักษะและเวทมนตร์'

       กริดพลันชะงัก

       "เอ๋!  เจ้าพวกงั่งนั่นเรียนรู้ทักษะได้ด้วยหรือ"

       เช่นนั้นแล้ว  คลาสหมอผีจะไม่โกงเกินไปหน่อยรึไง  
       บราฮัมอธิบายต่อ

       'ไม่เลย  โครงกระดูกทั่วไปมิอาจเรียนรู้  แต่โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์นั้นมีสติปัญญา  พวกมันเป็นตัวตนพิเศษ  โดยทั่วไป  โครงกระดูกของหมอผีจะเป็นสิ่งมีชีวิตใหม่ในการอัญเชิญแต่ละครั้ง  ทว่าโครงกระดูกของนายกลับเป็นตัวเดิมเสมอ  แม้จะถูกทำลายย่อยยับแค่ไหนก็ตาม  เหมือนกับอัศวินความตายและลิช'

       "แต่ค่าสติปัญญาพวกมันมีหลักเดียวเองนะ..."

       'ลองดูก็ไม่เสียหาย  เชื่อฉัน  บางทีพวกมันอาจเรียนรู้เวทหรือทักษะพื้นฐานได้'

       "หืม… ก็ได้  ไม่มีปัญหา  พวกมันอาจดูเหมือนขยะ  แต่ถ้าเรียนรู้ทักษะได้จริง  อาจมีประโยชน์กับฉันในบางสถานการณ์"

       กริดลืมคิดไปหนึ่งเรื่อง
       บราฮัมผู้เย่อหยิ่งและดูแคลนทุกสรรพสิ่งบนโลก  กลับกล่าวยกย่องชื่นชมพวกมัน

       ***

       "บัดซบ!  แบบนี้ไม่ดีแน่!  ฉันต้องการเปลวไฟที่ทรงพลังกว่านี้!"

       ณ โรงตีเหล็กค้อนขาว
       ไวท์และเหล่าลูกมือกำลังตึงเครียด  ลอร์ดของแพงเจียจะจัดแข่งตีเหล็กขึ้นทุกปี  ผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์สร้างอาวุธส่งกองทัพแพงเจียตลอดหนึ่งปีเต็ม  โรงตีเหล็กค้อนขาวกระหายชัยชนะเป็นอย่างมาก  
       แต่ความจริงมักโหดร้ายเสมอ  ผลิตภัณฑ์ของโรงตีเหล็กค้อนขาวยังด้อยกว่าโรงตีเหล็กใหญ่อีกสามแห่งเล็กน้อย
       
       "ดูจากผลงานที่พวกเราสร้างขึ้น  ปีนี้คงต้องบอกลาแชมป์อีกหน..."

       "พวกเราไม่ชนะมาห้าปีติดต่อกันแล้ว  นับตั้งแต่ท่านอาจารย์เสียไป..."

       ลูกมือของโรงตีเหล็กค้อนขาวล้วนมีอาจารย์คนเดียวกัน
       บิดาของไวท์  ดาไวท์
       เมื่อหมดยุคสมัยดาไวท์  โรงตีเหล็กค้อนขาวก็ถึงคราวขาลง  จนมีใครบางคนพูดว่า  โรงตีเหล็กค้อนขาวไม่มีสิทธิ์อ้างตัวเป็นสี่โรงตีเหล็กใหญ่อีกแล้ว

       ทั้งที่ไวท์พยายามอย่างหนักแล้วก็ตาม

       ฝ่ามือของเขาสั่นระริกอย่างโมโห

       'เป็นความผิดของเรา  เราไม่ยอมเชื่อคำพูดท่านพ่อ  เราละเลยความสำคัญของเทคนิคเป่าลม'

       ไวท์เชื่ออย่างสุดหัวใจ  ว่าการขึ้นรูปคือปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งของคุณภาพไอเท็ม  ในฐานะผู้สืบทอดโรงตีเหล็กค้อนขาว  ไวท์มุ่งมั่นเอาเป็นเอาตายฝึกฝนทุบค้อน  
       สมัยวัยเด็ก  เขาเคยไม่ตระหนักเลยสักครั้ง  ว่าความร้อนเตาหลอมที่ต่างกันเพียงองศาเดียว  จะสร้างความแตกต่างในประสิทธิภาพไอเท็มมากเพียงนี้

       "เปลวเพลิง… ถ้าฉันควบคุมเปลวเพลิงได้ดีกว่านี้ล่ะก็..."

       ไวท์และช่างตีเหล็กลูกมือต่างคอตก  สีหน้าสิ้นหวังสุดขีด
       ทันใดนั้น  เสียงของชายที่ไม่คุ้นหูก็ดังขึ้น

       "ฟืนมาส่งแล้วคร้าบ~"

       "ฟืนอะไร..."

       ช่างตีเหล็กทุกคนนอกจากไวท์ต่างพากันฉงน

       "พวกเราได้ฟืนมาตอนรุ่งเช้าแล้วนี่  แล้วหมอนี่มาส่งอะไรอีก"

       ชายหนุ่มผมดำผู้นี้บอกว่าตนมาส่งฟืนก็จริง  แต่กลับไม่มีลูกมือไวท์คนใดเลยที่รู้สึกคุ้นหน้า  ชายคนนี้ไม่เหมือนกับช่างตัดไม้ซึ่งเคยค้าขายกันประจำ  
       ขณะที่ทุกคนมองกริดด้วยสายตางุนงง...

       "ฟ--ฟืน… นายตัดพวกมันมาได้งั้นหรือ..."

       สีหน้าของไวท์กำลังหวาดผวาสุดขีด
       ยิ่งว่าตอนที่รู้ว่าภรรยามีชู้เสียอีก

Comments

  1. เมพมาก กริด

    ReplyDelete
  2. เพชรตัดเพชร ในที่สุด กริดก็ทำสำเร็จ ร้านของนายรอดแล้วไวท์ เพราะกริดคือตำนานบทใหม่ ในโรงตีเหล้กค้อนขาว

    ReplyDelete
  3. ไวท์หมวกเขียวนี่หว่า555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00