จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 497
[ แวมไพร์ระดับกลางถูกสังหาร ]
[ แวมไพร์ซีเนียร์ถูกสังหาร ]
[ แวมไพร์ซีเนียร์ถูกสังหาร... ]
[ ท่านได้รับสมญานาม <ราชันย์นักล่าแวมไพร์> ]
[ การโจมตีทุกครั้งจะสร้างความเสียหายคงที่เพิ่มเติม 1,000 หน่วยต่อเป้าหมายเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ]
"สุดยอด...! วู้วววว!"
กริดส่งเสียงเป็นระยะ เปี่ยมไปด้วยหลากหลายอารมณ์
พลังของหัตถ์เทวะ ไอเท็ม และนักบุญหญิง เมื่อนำทั้งหมดมารวมกัน สิ่งนี้สร้างความตกตะลึงให้กริดได้ไม่น้อย
สวบ
ทุกครั้งที่ชายหนุ่มเริ่มก้าวเดิน
ผัวะ! ผัวะ!
บึ้มมมม!
หัตถ์เทวะที่มีบัฟ 'อาวุธศักดิ์สิทธิ์' และ 'พลังงานศักดิ์สิทธิ์' จะกระหน่ำทุบแวมไพร์ที่อยู่ภายในระยะด้วยมโยลเนียร์ ส่งผลให้แวมไพร์ราวสี่ถึงห้าตัวโดยรอบได้รับความเสียหายรุนแรงพร้อมกัน
กล่าวให้ง่ายก็คือ กริดเพียงเดินขยับเข้าไป แวมไพร์ก็จะถูกลบออกจากแผนที่ไปทีละหลายสิบตัว
'มันบ้ามาก! โกงสุดยอด!'
เป็นการเก็บเลเวลที่ง่ายดายอะไรเช่นนี้
ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่ออกอาการตื่นเต้นพลันมีสีหน้าพลันกังวล
'....ร--เรา จะโดนแบนรึเปล่า...'
โทษฐานใช้งาน 'มาโคร' ผิดกฏหมายที่ชื่อว่าหัตถ์เทวะ...
( มาโคร - โปรแกรมช่วยเล่นชนิดหนึ่ง ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องกดปุ่มควบคุมด้วยตัวเอง )
"ฮะฮะ!"
หัตถ์เทวะยอดเยี่ยมจนกริดรู้สึกผิด ของวิเศษที่สามารถสวมใส่ไอเท็มได้ทุกชนิด สามารถสังหารมอนสเตอร์ได้ด้วยตัวเอง ไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ไม่มีค่าความคงทน
กริดได้แต่สงสัยว่า บนโลกนี้จะมีไอเท็มที่ยอดเยี่ยมกว่าหัตถ์เทวะหรือไม่
"พี่ยองวูสร้างไอเท็มแบบนี้ได้ยังไง! เท่มากเลยค่า~"
เยริมส่งเสียงเชียร์
กริดไม่ต้องออกแรงขยับแม้แต่ปลายนิ้ว เพราะโนเอะ แรนดี้ และหัตถ์เทวะคอยจัดการเก็บกวาดทุกสิ่งจนหมด ไม่มีแวมไพร์ตัวใดย่างกรายเข้ามาใกล้ได้ ดูราวกับเป็นพระเอกในภาพยนตร์เรื่องดัง ใครก็ตามที่ได้เห็นเป็นต้องรู้สึกทึ่ง
แต่ในทางกลับกัน เซฮีคิดต่างออกไป
"เหมือนกับทัวร์จีนที่เคยเห็นในข่าวเลยแฮะ..."
ทัวร์จีน!
มันคือการที่ผู้เล่นชาวจีนจำนวนมากรวมตัวกันในสถานที่เก็บเลเวลสักแห่ง และออกล่ามอนสเตอร์ปริมาณมากด้วยสัตว์เลี้ยง พวกมันใช้งานสัตว์เลี้ยงอย่างทารุนเยี่ยงทาส
ไอเท็มที่ได้ทั้งหมดจะถูกนำมาขายและแปลงเป็นเงินจริง
"...พักสักหน่อยดีกว่า"
กริดเมินเฉยคำพูดเซฮีและนั่งลง นั่นก็เพื่อฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรงให้กลับคืนมา
ระหว่างนั้นโนเอะ แรนดี้ และหัตถ์เทวะก็ยังคงสังหารแวมไพร์อย่างต่อเนื่อง
[ แวมไพร์ระดับกลางถูกสังหาร ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ ]
[ แวมไพร์ระดับกลางถูกสังหาร ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ ]
กริดเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อเห็นค่าประสบการณ์อัพขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งยามที่ตนนั่งพัก
"ราวกับความฝันสมัยเด็กกลายเป็นจริงขึ้นมาเลยแฮะ..."
"พี่ยองวูฝันว่าอะไร"
คำถามนี้ของเยริม เซฮีเป็นผู้ตอบให้
"ประธานบริษัทชั่วช้า"
ใช้งานลูกน้องเยี่ยงทาส และใช้เงินที่พนักงานหามาอย่างยากลำบากตามใจชอบ
ครั้งหนึ่ง กริดเคยเป็นคนที่มีความคิดเลวทรามเช่นนั้น
"เมื่อลองมาคิดดูตอนนี้ มันก็น่าละอายใจอยู่เหมือนกัน..."
ชายหนุ่มเกาแก้มอย่างเคอะเขิน
"แน่นอนว่า ความฝันของพี่เปลี่ยนไปนานแล้ว"
หลังจากชีวิตประสบความสำเร็จ ระบบความคิดก็เปลี่ยนไป มุมมองต่อโลกใบนี้ค่อยๆ ต่างออกไปทีละนิด เขาไม่ต้องการรังแกคนอ่อนแออีกแล้ว ตรงกันข้าม กริดอยากยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้วยซ้ำ
เมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งจะบริจาคเงินให้กับมหาวิทยาลัย X เป็นเงินจำนวน 3,300 วอน
ใช่แล้ว อ่านไม่ผิด 3,300 วอน
'เราต้องได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน'
ตนคือพ่อพระผู้ยิ่งใหญ่ กริดคิดเช่นนั้น
เซฮีพูดแทรกขัดจังหวะ
"บอสใหญ่สุดอยู่ในตึกหลังนั้นใช่ไหม"
เมืองแวมไพร์ลำดับแปดจะมีอาคารเพียงเจ็ดหลัง แต่ละหลังก็มีจำนวนแวมไพร์ไม่มาก อาจจะน้อยที่สุดในบรรดาทุกเมืองที่กริดเคยเคลียร์
ทว่า... ค่าประสบการณ์โดยรวมที่ได้รับกลับน่าทึ่งมาก ดูราวกับแวมไพร์ที่นี่มีเลเวลเฉลี่ยสูงกว่าเมืองอื่นทั้งหมด
กริดอดเสียวสันหลังไม่ได้ ว่าบอสของเมืองลำดับแปดแห่งนี้จะเป็นแวมไพร์ระดับขุนนางที่แข็งแกร่งขนาดไหนกัน
"ถูกต้อง เหลือแค่บอสแล้วตอนนี้"
เมื่อเห็นว่าค่าเรี่ยวแรงกลับมาเต็มหลอดอีกครั้ง กริดจึงลุกขึ้นยืนและหันไปพูดกับสองสาว
"หลังจากนี้ พี่ขอลุยคนเดียว"
หากบอสใหญ่มีบรรดาศักดิ์ระดับบารอนถึงวิสเคาต์ กริดอาจล่าคนเดียวไหว ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว
ถึงกระนั้น ชายหนุ่มก็ยังไม่มั่นใจในการล่าแวมไพร์ชั้นเอิร์ลขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แวมไพร์ที่สืบสายเลือดโดยตรงจากชิโซ-เบริอาเช่ทั้งเก้าตน หากต้องพบพานเข้าล่ะก็ ทั้งเซฮีและเยริมต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน เขาไม่ต้องการให้พวกเธอตาย
เซฮีและเยริมพลันแสดงสีหน้างุนงงเมื่อกริดบอกว่าจะเข้าไปตามลำพัง
"ถ้าพี่ล้มเหลว พวกหนูก็ต้องตายอยู่ดี"
"นี่คือดันเจี้ยนที่ทางออกจะเปิดก็ต่อเมื่อ ไม่บอสตายก็พวกเราตายหมดใช่ไหม เช่นนั้นแล้ว การอยู่รวมกันจะมีโอกาสรอดมากกว่ารึเปล่า"
"นั่นสินะ..."
เหตุผลพวกเธอฟังขึ้นมาก
ลงเอยด้วย กริดเปิดประตูอาคารหลังสุดท้ายพร้อมกับเซฮีและเยริม
ในตอนนี้ บรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหมด เมื่อจัดการแวมไพร์จนราบคาบเรียบร้อย ทุกตัวก็รีบกลับมาประจำอยู่ข้างกายกริดโดยไว
'เราต้องเคลียร์ดันเจี้ยนให้ได้'
เขากำลังอยู่ในสภาพแข็งแกร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กริดมั่นใจว่า แม้แต่ครอเกลในสภาพสมบูรณ์พร้อมสมัยอดีต การจะสู้ให้ชนะตนตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกแล้ว
ในขณะที่กริดลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความมั่นใจ
[ ผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ลำดับแปด แวมไพร์วิสเคาต์ 'ลาทีน่า' ปรากฏตัว ]
ปลายสุดของพรมแดงยาวบนโถงทางเดิน มีหญิงสาวผมดำผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์
เธอคนนี้มีใบหน้างดงามหมดจด แต่ริมฝีปากสีฟ้าและผิวพรรณสีขาวซีดที่ดูราวกับน้ำแข็ง สองสิ่งนี้ได้มอบความรู้สึกแปลกประหลาดให้กริด
"ตายแล้ว... เป็นมนุษย์หรอกหรือ ไม่มีเหยื่อมาเยือนที่นี่นานแล้วสินะ"
ลาทีน่าแสยะยิ้มพร้อมกับการส่องสว่างของนัยน์สีแดงก่ำ
และเมื่อเธอโบกมือเบาๆ เพียงหนเดียว
ครืนนนน!
ครืนนนนนนนนนนน!
พื้นดินพลันแยกออก ซอมบี้จำนวนมหาศาลโผล่ขึ้นท่ามกลางรอยแยก
แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก!
เสียงข้อต่อของโครงกระดูกดังลั่นจนน่าปวดหู ฝูงซอมบี้โครงกระดูกเบื้องหน้ากำลังยืนโซซัดโซเซ
พวกมันจดจ้องมายังปาร์ตี้ของกริดด้วยเบ้าตาอันเปลือยเปล่า
ทั้งหมดมีราว 1,000 ตัวเห็นจะได้
"นี่มันอะไรกัน..."
แวมไพร์ที่เป็นหมอผีงั้นหรือ
ในขณะกริดกำลังเวียนหัวจากกลิ่นชวนอาเจียนของโครงกระดูก บราฮัมได้พูดในสิ่งที่กริดไม่อยากได้ยินที่สุด
'ลาทีน่าคือหนึ่งในเก้าทายาทที่ถือกำเนิดจากมารดาของฉัน'
"...!"
สถานการณ์เลวร้ายสุดขีด!
หัวใจของกริดกำลังดำดิ่งเหว
[ แวมไพร์วิสเคาต์ 'ลาทีน่า' ทำการปลดปล่อยพลังเวทมนตร์อันหอมหวล ]
[ ท่านตกอยู่ในอาการสับสน ]
[ ท่านยากจะอดใจไหว ความเร็วฟื้นฟูมานาตามธรรมชาติลดลง 80% ค่าต้านทานเวทมนตร์ลดเลง 50% มีโอกาสที่ท่านจะใช้งานทักษะล้มเหลว ]
[ แขนขาของท่านไร้เรี่ยวแรง ]
[ พลังโจมตีลดลง 50% ความเร็วทุกชนิดลดลง 30% ]
[ ท่านต้านทาน ]
'พวกเธอ...!'
กริดรีบขวับหันไปมองหลัง เขาเป็นห่วงเซฮีและเยริมเหนือสิ่งอื่นใด
ในสถานการณ์น่าขยะแขยงที่เต็มไปด้วยซอมบี้โครงกระดูกเช่นนี้ พวกเธอจะมีสภาพจิตใจย่ำแย่ขนาดไหนกันนะ
แต่ตรงกับข้ามกับสิ่งที่กริดจินตนาการ ทั้งเยริมและเซฮีต่างสบายดี
ไม่สิ พวกเธอกำลังตื่นเต้นด้วยซ้ำ
"พวกอันเดดล่ะ"
"โครงกระดูกพวกนี้น่ารักจัง"
"..."
สองสาวมิได้หวาดกลัวสักเลยนิดแม้จะเห็นโครงกระดูกนับพันตรงหน้า
แถมอาการผิดปรกติของลาทีน่าก็ไม่แสดงผล
ในขณะที่ทั้งกริดและลาทีน่าต่างสับสนไม่แพ้กัน
"แสงแห่งการสำนึกบาป"
ชิ้งงงงง~
เซฮีประสานมือทั้งสองไว้ที่ด้านหน้าและเริ่มสวดภาวนา เกิดเป็นแสงสว่างสีขาวเจิดจ้าแผ่ออกจากร่างกาย แสงดังกล่าวโอบล้อมฝูงกองทัพโครงกระดูกไว้อย่างอบอุ่น พวกมันทุกตนพลันคุกเข่าทรุดลงพร้อมกับหลั่งน้ำตาเล็กน้อย
เพียงพริบตา โครงกระดูกบางส่วนได้สลายกลายเป็นเศษธุลี
[ ท่านสังหารมอนสเตอร์ด้วยตนเอง ]
[ เลเวลของสมาชิกในปาร์ตี้แตกต่างเกินไป ท่านได้รับค่าประสบการณ์ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
"..."
อันเดดเหล่านี้มีเลเวลอย่างต่ำก็ 250
เซฮีสามารถทำให้ทั้งพันตัวคุกเข่าลง แถมยังสังหารบางส่วนอีกด้วย
กริดได้แต่ยืนทึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังอำนาจของนักบุญหญิงที่ตนไม่เคยรู้มาก่อน
ทางด้านเยริมเองก็เก่งฉกาจไม่น้อย เธอบัฟเพื่ออาบร่างกายไว้ด้วยพลังเทพ จากนั้นก็ไล่บดขยี้อันเดดที่ถูกเซฮีทำให้คุกเข่าลงทีละตัวสองตัว
"สุดยอด..."
กริดไร้คำพูด เป็นเวลาเดียวกับที่น้ำเสียงอันแสนสั่นเครือของบราฮัมดังขึ้นในหู
'นักบุญหญิงทำลายได้แม้กระทั่งดวงวิญญาณของจอมอสูร อันเดดต่ำต้อยเหล่านี้ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอแน่นอน'
"อา..."
สิ่งหนึ่งที่ทั้งบราฮัม ยารุกต์ และจอมอสูรเฮล-กาโอมีเหมือนกัน พวกเขาทุกคนแม้จะตายและสูญเสียร่างเนื้อไป แต่ดวงวิญญาณกลับยังคงอยู่
'ดวงวิญญาณของเผ่าอสูรเป็นอมตะงั้นหรือ'
มีเพียงนักบุญหญิงเท่านั้นที่สามารถทำลายดวงวิญญาณพวกเขาได้
กริดพลันขนลุกซู่เมื่อรับรู้คุณค่าที่แท้จริงของคลาสของเซฮี
'ลาทีน่า... หล่อนช่างน่าสงสาร'
บราฮัมรู้สึกเสียใจต่อพี่สาวตน
***
'นี่มันอะไรกัน'
ลาทีน่าคือหนึ่งในเก้าทายาทโดยตรงของชิโซ-เบริอาเช่
เธอมีบรรดาศักดิ์เพียงวิสเคาต์เพราะไม่ต้องการมีภาระวุ่นวาย งานบริหารปกครองช่างน่ารำคาญและเป็นภาระ แต่พลังที่แท้จริงของลาทีน่านั้นน่ากลัวสุดหยั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่เธอคือคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่สามารถปกครองอันเดด ซึ่งถือเป็นพลังอันหายากและแข็งแกร่ง คล้ายคลึงกับพลังของจอมอสูรอันดับหนึ่ง 'บาเอล'
ลาทีน่าจึงเย่อหยิ่งและทระนงตนมาตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนที่แมรี่-โรสจะปรากฏตัว เธอเคยคิดว่าในอนาคต ตนจะกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดของแวมไพร์ได้ในสักวัน
แต่ลาทีน่าผู้ยอดเยี่ยมคนนั้นกลับกำลังถูกมนุษย์ดูหมิ่น
มนุษย์ที่แวมไพร์มองเป็นเพียงเหยื่อเสมอมา
'อันที่จริง พวกมันควรทรุดลงตั้งแต่ที่ได้สบตากับเราแล้ว...'
หนึ่งชายสองหญิง
มนุษย์เหล่านี้ล้วนไม่ธรรมดา แทนที่จะตกอยู่ในอำนาจพลังมนตร์สะกด แต่พวกมันกลับสวดภาวนาทำให้อันเดดต้องคุกเข่าลง ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ลาทีน่าไม่อาจเข้าใจได้
'เคยได้ยินมาว่า ในบรรดามนุษย์ ก็ยังมีพวกที่แข็งแกร่งอยู่บ้าง'
เมื่อหลายร้อยปีก่อน มีมนุษย์พิเศษหลายคนถูกยกย่องให้เป็นตำนาน ลาทีน่าไม่เคยพบเห็นด้วยตาตนเองก็จริง แต่บางทีมนุษย์ตรงหน้าเธออาจอยู่ในระดับเดียวกัน
'วุ่นวายชะมัด'
แสยะ!
ลาทีน่าแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับตะโกนออกคำสั่งอันเดด
"จงลุกขึ้นสู้!"
กึกกึกกึก! กึกกึก!
โฮกกกกกกก!
ซอมบี้และโครงกระดูกที่กำลังคุกเข่า บัดนี้ค่อยๆ ฝืนลุกยืนขึ้นทีละนิด
ลาทีน่าทำการเพิ่มปริมาณพลังเวทเข้าไป ทำให้พลังเทพอันน้อยนิดของนักบุญหญิงไม่อาจสะกดพวกมันได้อีก
"โฮะโฮะโฮะ! ต้องอย่างนั้น!"
ลาทีน่าตะเบ็งเสียง
"ฆ่าพวกมันให้หมด!"
แกร๊ก! กึก! แกร๊ก!
ฝูงโครงกระดูกและซอมบี้ต่างกรูเข้าล้อมกริด
"พวกเราไร้ประโยชน์อย่างที่คิด พี่! สู้เค้านะ! อาวุธศักดิ์สิทธิ์ พลังงานศักดิ์สิทธิ์!"
ชิ้ง~
หัตถ์เทวะที่ลอยข้างกริดถูกแสงสีขาวโอบกอดอย่างอบอุ่น
ผัวะ!
ผัวะ!
บึ้ม! บึ้มมม!
หัตถ์เทวะบัฟเต็มสูบไล่ทุบอันเดดด้วยมโยลเนียร์อย่างไร้ความปราณี
ภาพตรงหน้าทำให้ลาทีน่าอึ้งไปพักใหญ่ บริวารอันซื่อสัตย์ของเธอกลับถูกฝ่ามือลอยได้จำนวนสี่ข้างบดขยี้อยู่ฝ่ายเดียว
"ทำไมถึงง่ายดายนัก"
ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด ลาทีน่าเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของมนุษย์เพศชาย ดูเหมือนคนๆ นี้จะเป็นผู้ควบคุมฝ่ามือสีทองทั้งหมด
'ถึงจะน่ารำคาญไปบ้าง แต่เราคงต้องลงมือเอง'
ลาทีน่าตัดสินใจพุ่งเข้าหากริด ร่างของเธอกลายเป็นควันและโผล่ตรงหน้ากริดอย่างเงียบเชียบ นับเป็นการลอบสังหารอันสมบูรณ์แบบ
เล็บอันแหลมคมถูกเล็งแทงในกริดด้วยความเร็วสูง
แต่วิญญาณดาบของชายหนุ่มกลับรวดเร็วกว่า
"เหยื่อติดเบ็ดแล้ว"
กริดแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยให้กับลาทีน่าที่กำลังอึ้ง
เส้นผมของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวหิมะ ชายหนุ่มวางมือลงไปบนใบหน้าที่ไร้การป้องกันของแวมไพร์สาวพร้อมกับยิงไฟบอล
ขอบคุณมากครับ สนุกมาก รอลุ้นต่อพรุ่งนี้
ReplyDeleteน้องตบพี่เอาวะ555
ReplyDelete