จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 487-488



       กริดซื้อหินเสริมแกร่งติดตัวมากมาย  เขาเดินทางกลับมาหมกตัวในโรงตีเหล็กเรย์ดันอีกครั้ง
       เมื่อบราฮัมเห็นหินเสริมแกร่งในมือกริด  จึงเอ่ยปากถามขึ้น
       'คราวนี้ถึงเวลาเสริมแกร่งแล้วสินะ'

       กริดผงกศีรษะเล็กน้อย

       "ถูกต้อง"

       ยิ่งระดับเสริมแกร่งสูง  ไอเท็มก็ยิ่งมีประสิทธิภาพพื้นฐานและออปชั่นสูงขึ้น 
       ระบบเสริมแกร่งคือสิ่งที่ผู้เล่นระดับสูงขาดไม่ได้
       แต่ปัญหาคือ  โอกาสเสริมแกร่งสำเร็จนั้นต่ำมาก

       'สำหรับนาย  สิ่งนี้ไม่น่าเป็นปัญหา  แพ็กม่าขึ้นชื่อในด้านเสริมแกร่งยิ่งกว่าใคร  นายที่สืบทอดทักษะของเขามา  คงง่ายราวพลิกผ่ามือ'

       "..."

       กริดไร้คำพูด  สำหรับตน  การเสริมแกร่งไม่เคยเป็นเรื่องง่าย
       แม้จะมีทักษะติดตัว 'เพิ่มโอกาสเสริมแกร่งสำเร็จ'  แต่ด้วยความอับโชคที่ติดตัวราวกับพรสวรรค์  กริดจึงไม่เคยมีดวงในการเสริมแกร่งเหมือนคนอื่น

       "บราฮัม  นายยังมองโลกใบนี้ได้ตื้นเขินนัก  จะมีสิ่งใดง่ายดายขนาดนั้น  โดยเฉพาะการเสริมแกร่ง  สิ่งนี้ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยความเพียรพยายาม  หากแต่เป็นโชค...  เฮ่อ  ตอนนี้ฉันมีหินเสริมแกร่งไม่มากเสียด้วย"

       ราคาหินเสริมแกร่งพุ่งพรวดขึ้นจากครึ่งปีก่อนหลายเท่า  ตอนนี้มีราคาก้อนละ 250 เหรียญทองเข้าไปแล้ว  หากแปลงเป็นสกุลเงินเกาหลีใต้  ก็ตกราวก้อนละ 300,000 วอน
       หินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรจะมีราคาสูงกว่าหินทั่วไปสิบเท่า  
       แม้กริดจะได้รับเงินจำนวนสองหมื่นล้านวอนจากโคเม็ตกรุ๊ป  แต่เขาก็ไม่หน้ามืดตามัวขนาดที่  ต้องทุ่มเงินทั้งหมดไปกับหินเสริมแกร่งอย่างไม่นึกเสียดาย
       
       "บริษัทเกมเจ้าเล่ห์สิ้นดี..."

       แรกเริ่มเดิมที  ตั้งแต่สมัยเกมเปิดตัวใหม่ๆ   ราคาหินเสริมแกร่งก็พุ่งทะยานอย่างไรเหตุผล  สูงถึงก้อนละ 100 เหรียญทองเลยทีเดียว
       ในช่วงเวลานั้น  เกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากผู้เล่น  พวกเขาต้องการให้ทางเอส-เอ-กรุ๊ปเพิ่มโอกาสดรอปหินเสริมแกร่งขึ้นอีก  ไม่อย่างนั้น  ผู้เล่นธรรมดาจะหมดสิทธิ์ลิ้มรสระบบเสริมแกร่งโดยปริยาย

       แต่เอส-เอ-กรุ๊ปกลับทำนิ่งเฉย  พวกเขาไม่ปรับเปลี่ยนอัตราการดรอปหินเสริมแกร่งให้เหมาะสม  นำพามาสู่สถานการณ์ในปัจจุบัน  ยิ่งจำนวนผู้เล่นเลเวลสูงมีมากขึ้น  ความต้องการก็ยิ่งสูงลิบ  ราคาจึงเพิ่มขึ้นตามเป็นเงา  แต่สินค้ากลับมีจำนวนเท่าเดิม

       'ผู้เล่นระดับสูงส่วนใหญ่ทุ่มเม็ดเงินลงไปในเกม'

       โลกยุคใหม่  คือโลกที่เกมเมอร์สามารถนั่งเล่นเกมอยู่บ้าน  และรอรับเงินก้อนโตจากการถ่ายทอดสด  รายได้อาจสูงถึงหลักร้อยล้านวอนต่อเดือน  ขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละคน  
       เงินส่วนใหญ่มาจากผู้ชมที่กด (บริจาค) บอลลูนจันทร์เพื่อเป็นกำลังใจ  ผู้ชมส่วนใหญ่ชอบที่จะดูแร้งเกอร์ระดับสูงเล่น  เพราะคนเหล่านั้นสามารถก้าวไปยังจุดที่น่าตื่นเต้นของซาทิสฟาย  ซึ่งผู้เล่นทั่วไปไม่อาจเข้าถึงได้ด้วยตนเอง  
       ด้วยเหตุนี้  แร้งเกอร์ระดับสูงจึงมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับซาทิสฟายเป็นบ้าเป็นหลัง  พวกเขายอมทำทุกสิ่งเพื่อให้ตัวละครพัฒนา  รวมไปถึงการลงทุนด้านเงินทอง  ทั้งหมดก็เพื่อเพิ่มฐานคนดูให้มากขึ้น

       "เป็นเพราะพวกบ้านั่น  ราคาของหินเสริมแกร่งถึงแพงหูฉี่ขนาดนี้... เกินไปจริงๆ  ผู้เล่นธรรมดาอย่างฉันต้องเจ็บหลังเพราะพวกนายแท้ๆ"

       โดยพื้นฐานของกริด  เขาเป็นพวกชอบกล่าวโทษผู้อื่นอยู่แล้ว  
       คราวนี้กริดกัดฟันซื้อหินเสริมแกร่ง 50 ก้อน  และหินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรอีก 10 ก้อน
       หลังจากนั้นก็เอาแต่สวดภาวนา

       'หลักๆ ขอแค่  วิญญาณดาบและมโยลเนียร์เสริมแกร่งให้ถึง +8 ก็พอ'

       สำหรับกริด  การเสริมแกร่งจะสำเร็จเกือบ 100% จนถึงระดับ +5  
       แต่หลังจาก +6 เป็นต้นไป  โอกาสล้มเหลวมีสูงมาก  และหากล้มเหลว  ค่าระดับเสริมแกร่งก็จะลดลง 
       ถ้าหินที่ใช้เสริมแกร่งเป็นแบบธรรมดา  ค่าเสริมแกร่งจะลดลงมากถึง 3 ระดับ  นี่คือสาเหตุที่ไอเท็ม +7 หรือสูงกว่า  ถูกพบเห็นได้น้อยมาก  
       คนที่มีเงิน  มักใช้หินเสริมแกร่งแบบอวยพรเพื่อลดการสูญเสียให้มากที่สุด  แต่ผู้เล่นทั่วไปทำแบบนั้นพร่ำเพรื่อไม่ได้

[ หินเสริมแกร่งอาวุธที่ถูกอวยพร ]
       หินเวทมนตร์ที่ใช้เสริมแกร่งอาวุธ
       อาวุธที่เสริมแกร่งสำเร็จจะมีค่าเสริมแกร่งเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1 ถึง 3 ระดับ
       อาวุธที่เสริมแกร่งล้มเหลวจะมีค่าเสริมแกร่งลดลง 1 ระดับ
น้ำหนัก : 20

       "เฮ่อ... เอาล่ะ"

       วัตถุดิบทั้งหมดถูกเตรียมพร้อมแล้ว  ที่เหลือคือช่วงเวลาวัดดวง
       ด้วยความสัตย์จริง  ฝีมือหรือความพยายามจะไม่ส่งผลกับการเสริมแกร่งแม้แต่เศษเสี้ยว
       มีเพียงโชคชะตาล้วนๆ 

       "ไปถึง +8 ให้ได้ในครั้งเดียว!"
       กริดมีแผนจะเสริมแกร่งวิญญาณดาบและมโยลเนียร์ทั้งสี่อันให้ถึง +5 ก่อน
       หลังจากนั้นก็หวังจะใช้หินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรเพื่อให้ไอเท็มทุกชิ้นกลายเป็น +8 ในครั้งเดียว
       "มาเริ่มกันเลย!"

       ชายหนุ่มลงมือเสริมแกร่งทีละชิ้น
       การ +5 เป็นไปอย่างราบรื่นไร้ปัญหา  กริดตรวจสอบออปชั่นไอเท็มอีกครั้ง
       'ออปชั่นยังคงเหมือนเดิม'

       ออปชั่นบางชนิดจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ +1
       ในขณะที่บางออปชั่นจะเพิ่มขึ้นเมื่อถึง +7 ขึ้นไป 
       ออปชั่นบางชนิดถึงกับต้องเสริมแกร่งไปให้ได้ +8 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

       "ทั้งหมดก็เพื่อความสมดุล  สมดุล  สมดุล"

       กริดบ่นอุบอิบพร้อมกับกดใช้งานหินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพร  
       สีหน้าของเขากำลังสิ้นหวัง

       "ได้โปรด... ได้โปรดด้วยเถิด!"

       ได้โปรดเพิ่ม 3 ระดับในหนเดียว!
       กริดอ้อนวอนต่อพระเจ้าทุกองค์  ทั้งในชีวิตจริงและซาทิสฟาย  
       เขานำหินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรใช้งานกับ +5 วิญญาณดาบ

[ ท่านใช้งานหินเสริมแกร่งที่ถุกอวยพรกับ <+5 วิญญาณดาบ> ]

       ชิ้ง~

[ ท่านเสริมแกร่งสำเร็จ!  ค่าเสริมแกร่งเพิ่มขึ้น +1  ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <+6 วิญญาณดาบ> ]

       "เอ๋...!"

       เป็นไปได้ยังไง

       "ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม"

       ด้วยความสัตย์จริง  กริดจะไม่ใช้ไอเท็มที่มีระดับเสริมแกร่งต่ำกว่า +7 เด็ดขาด  
       แต่นี่กลับติดแค่ +6… หมายความว่ายังไงกัน  
       หินเสริมแกร่งราคาสูงกว่าสามล้านวอน  กลับให้ผลลัพธ์เสริมแกร่งแค่หนึ่งระดับเนี่ยนะ  มันสมควรแล้วหรือ

       "บ้าบอสิ้นดี... มันต่างจากการใช้หินเสริมแกร่งธรรมดายังไง"

       กริดเริ่มสั่นระริกอย่างโมโห  เขากำลังโกรธมาก
       กริดรู้อยู่แล้วว่าตนอับโชค  แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้

       'นายเป็นอะไรไป'

       กริดนั่งลง  เขาจ้องมองกำแพงด้วยสายตาเหม่อลอย  เงินสามล้านวอนปลิวหายไปกับสายลมเรียบร้อยแล้ว
       บราฮัมไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิด

       'นายจะยอมแพ้  เพียงเพราะความล้มเหลวแค่หนเดียวเนี่ยนะ  น่าสมเพช!  ด้วยจิตใจอ่อนแอเช่นนี้  นายไม่มีทางเสริมแกร่งไอเท็มถึงระดับสูงได้แน่'

       "...นั่นสินะ  นายพูดถูก  ฉันจะยอมแพ้แค่นี้ไม่ได้!  ยังเหลือหินที่ถูกอวยพรอีกเก้าก้อน!"

       เมื่อกริดถูกกระตุ้นโดยบราฮัม  เขาจึงลุกยืนขึ้น  หลังจากนั้นก็ใช้หินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรหนึ่งก้อนไปกับ +5 มโยลเนียร์

       ชิ้ง~!

[ ท่านเสริมแกร่งสำเร็จ!  ค่าเสริมแกร่งเพิ่มขึ้น +1 ]

       "บัดซบ..."

       ลงเอยด้วย  กริดสบถสาดเสียเทเสีย  
       อุปนิสัยด้านลบที่ผนึกไว้นาน  บัดนี้ถูกเผยออกมาให้เห็นอีกครั้ง

       "เป็นไปได้ยังไง!  ไอ้พวกเจ้าหน้าที่เกมหัวค--@#$%!!  เชี่ย!"

       ผู้เล่นต้องการสิ่งใดเวลาเล่นเกมน่ะหรือ
       คำตอบนั้นง่ายมาก  คนส่วนใหญ่ต้องการให้ความพยายามอย่างหนักของตน  เกิดเป็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ  
       แต่บริษัทเกมบัดซบกลับมีระบบ 'สุ่ม' ซึ่งทำให้ความพยายามล้วนสูญเปล่า  

       'หากผู้เล่นมีหินเสริมแกร่งมากพอ  ถ้าไม่ลดละความพยายาม  สักวันต้องเสริมแกร่งได้ถึงระดับ +10 แน่นอน'

       ราวกับกริดได้ยินเสียงของประธานลิมชอลโฮดังก้องขึ้นในหัว       

       "ระบบสุ่มหน้าส้นตี--$#@%!"

       เขาล้มเหลว(?)สองครั้งติดต่อกัน  ไม่แปลกที่กริดจะเดือดดาลฉุนเฉียว  เงินหกล้านวอนปลิวไปต่อหน้าต่อตา  ไม่ว่าใครก็สมควรโมโห
       กริดอยากร้องไห้  
       แต่บราฮัมนั้นเป็นเอ็นพีซี  ไม่มีทางที่ชายคนนี้จะเข้าใจได้  ว่าทำไมกริดถึงรู้สึกผิดหวังมากขนาดนี้

       'ยังมีหินอีกตั้งมากมาย  ความล้มเหลวเพียงสองครั้ง  จะไปใส่ใจทำไมนัก'

       "...นายพูดถูก  ใช่แล้ว  เพิ่งจะแค่สองครั้งเท่านั้น"

       กริดยังเหลือหินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรอีกแปดก้อน  ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด  เขาพยายามทำให้หัวเย็นลง  หลังจากนั้นก็ใช้งานหินเสริมแกร่งอวยพรใส่มโยลเนียร์

       ชิ้ง~

[ ท่านเสริมแกร่งสำเร็จ!  ค่าเสริมแกร่งเพิ่มขึ้น +1 ]

       "..."

       +1 สามครั้งติด!

       ตุ้บ...

       กริดแข้งขาอ่อนแรง  เขาทรุดตัวล้มลงเมื่อได้เห็นผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
       ชายหนุ่มจ้องมองไปยังความว่างเปล่าเบื้องหน้า  สายตาเหม่อลอยไร้วิญญาณ
       บราฮัมทนไม่ไหวจึงพูดขึ้น
       'นายคาดหวังสูงเกินไปรึเปล่า  ในการจะเป็นที่หนึ่ง  นายต้องพบพานอุปสรรค์มากมายกว่าการเสริมแกร่งจิ๊บจ้อยนี้หลายเท่า  นายจะไปถึงความฝันได้หรือ  ถ้าหากมีสภาพจิตใจอ่อนแอเช่นนี้'

       "ใช่แล้ว... บราฮัม  นายพูดถูก..."
       ในการจะเป็นที่หนึ่ง  สภาพจิตใจอันแข็งแกร่งคือสิ่งที่ขาดไม่ได้
       กริดไม่ควรถูกสั่นคลอนเพราะเรื่องแค่นี้  
       "ฉันยังไหว... ต้องไหว!"

       กริดพูดกรอกหูตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ประหนึ่งมันคือบทสวดของเวทมนตร์สุดขลัง  
       ชายหนุ่มนำหินเสริมแกร่งอวยพรไปใช้กับมโยลเนียร์อันต่อไป

[ ท่านใช้งานหินเสริมแกร่งที่ถูกอวยพรกับ <+5 มโยลเนีย(3)> ]

       ชิ้ง~

[ ท่านเสริมแกร่งสำเร็จ!  ค่าเสริมแกร่งเพิ่มขึ้น +2 ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <+7 มโยลเนียร์(3)> ]

       "เจ๋ง...!"

       เขาข้ามผ่านมันได้แล้ว!

       "เรากำลังจะรวย!"

       ชายหนุ่มเอาชนะความอับโชคได้สักที  เขาจะร่ำรวยบนกองเงินกองทอง!
       กริดถึงขนาดคิดซื้อหินเสริมแกร่งมาเพิ่ม  เพื่อทำธุรกิจเสริมแกร่งไอเท็มขาย 
       เขาตะโกนขึ้นอย่างสะใจ  เป็นเวลาเดียวกับที่กริดลงมือใช้หินเสริมแกร่งก้อนที่ห้า

       '+1 ไปแล้ว  +2 ไปแล้ว  ต่อไปต้อง +3 แน่!'

       ผลลัพธ์ในฝันต้องปรากฏออกมาแน่นอน

[ ท่านเสริมแกร่งสำเร็จ!  ค่าเสริมแกร่งเพิ่มขึ้น +1 ]

       "ว๊ากกก!"

       ชายหนุ่มกรีดร้องอย่างสิ้นสติ  
       จิตใจที่แข็งแกร่งคืออะไร  ลืมไปได้เลย

       "บัดซบ!!"

       กริดแทบเป็นบ้า
       ผ่านไปห้าก้อน  ผลลัพธ์ที่ได้คือ +6 วิญญาณดาบ  +6 มโยลเนียร์สามอัน  และ +7 มโยลเนียร์หนึ่งอัน
       ถึงจะประสบความสำเร็จทั้งหมด  แต่เขาก็ไม่พึงพอใจเลยสักนิด
       ทว่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว  กริดต้องเดินหน้าลุยต่อไปเท่านั้น!

[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว!  <+6 ดาบวิญญาณ> กลายเป็น <+5 ดาบวิญญาณ> ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว!  <+6 มโยลเนียร์(1)> กลายเป็น <+5 มโยลเนียร์(1)> ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว!  <+6 มโยลเนียร์(2)> กลายเป็น <+5 มโยลเนียร์(2)> ]
[ ท่านเสริมแกร่งล้มเหลว!  <+6 มโยลเนียร์(4)> กลายเป็น <+5 มโยลเนียร์(4)> ]

       "ฮะฮะ...!  วะฮ่าฮ่าฮ่า!  เอาเซ่!  แล้วมาดูกัน  ว่าสุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายชนะ!"

       คราวนี้กริดมิได้สบถหยาบคายอีก
       เขาเพียงหัวเราะแห้งๆ ราวกับคนเสียสติ

       "หึหึฮ่าฮ่าฮ่า!"

       กริดที่จิตหลุดไปแล้วได้ใช้หินเสริมแกร่งก้อนสุดท้ายไปกับ +7 มโยลเนียร์(3)
       หากมีสติดีหน่อยก็คงรู้ว่าไม่ควรทำเช่นนี้  โอกาสสำเร็จมีต่ำมาก  และที่จริงอาวุธ +7 ก็เพียงพอให้หัตถ์เทวะใช้งานแล้ว  
       แต่กริดในปัจจุบันกลับไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้น  เขาไม่สามารถระงับมือตนเองไว้ได้  
       หากจะพัง  กริดก็อยากเห็นว่ามันจะพังยับเยินแค่ไหน!
       นี่คือความน่ากลัวของการพนัน  สิ่งนี้ทำคนหมดตัวมานักต่อนักแล้ว  ไม่ใช่ระบบที่คนอับโชคอย่างกริดควรยุ่งเกี่ยวตั้งแต่ต้น       

[ ท่านใช้งานหินเสริมแกร่งอาวุธที่ถูกอวยพรกับ <+7 มโยลเนียร์(3)> ]

       ชิ้ง~

[ ท่านเสริมแกร่งสำเร็จ!  ค่าเสริมแกร่งเพิ่มขึ้น +3  ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <+10 มโยลเนียร์(3)> ]

[ ขอแสดงความยินดี!  ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่เสริมแกร่งถึงระดับสูงสุด!! ]

[ ท่านได้รับสมญานาม <ผู้มากับดวง> ]
[ ค่าสถานะพิเศษ <ความโชคดี> ถูกเปิดใช้งาน ]

       "..."

       เป็นผลลัพธ์ที่เขาไม่เคยคาดฝัน
       กริดได้แต่ยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้นอยู่นมนาม

       "นี่เรา... กำลังฝันอยู่หรือ"

       กริดไม่อยากหยิกแก้ม  เพราะเขากลัวว่าจะไปทำลายความฝันอันหอมหวานนี้
       ในขณะนั้นเอง  บราฮัมได้ส่งเสียงชื่นชมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น

       'นายเสริมแกร่งได้ถึงระดับสูงสุด...  สมกับเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า'

       ใช่แล้ว  นี่ไม่ใช่ความฝัน

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 487 - จบตอน

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 488
       
       "สุดยอด... +10!"

       เป็นระดับสูงสุดของค่าเสริมแกร่ง  กริดไม่เคยฝันถึงมาก่อน  
       ไม่สิ  เขาไม่กล้าฝันมากกว่า
       มันคงงี่เง่าไปสักหน่อย  ที่จะคาดหวังให้ไอเท็มกลายเป็น +10  ซึ่งแม้แต่ทายาทอภิมหาเศรษฐีของโลกยังไม่มีโอกาสครอบครอง

       "เรา... +10 ติดได้ยังไง"

       จากคำบอกเล่าของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง  ผู้ซึ่งทุ่มเงินกว่าพันล้านวอนไปกับการซื้อหินเสริมแกร่ง
       หากผู้เล่นโชคดี  เสริมแกร่งได้ถึงระดับ +7 ในครั้งแรก  โอกาสที่จะติด +1 และกลายเป็น +8  จะอยู่ราว 0.01% เท่านั้น  ในทางกลับกัน  โอกาสล้มเหลว -1 จึงมีสูงถึง 99.9% เลยทีเดียว
       
       การ +2 แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย  ไม่ว่าจะทุ่มเงินมหาศาลลงไปมากเพียงไหน
       แน่นอนว่าไอเท็ม +8 และ +9 จะยิ่งมีโอกาสสำเร็จต่ำกว่านี้  
       ดังนั้น  หากได้ไอเท็มตั้งแต่ +7 ขึ้นไป  คนส่วนมากเลือกที่จะหยุดมือไว้เพียงเท่านี้
       การ +9 จึงมักเกิดจากการที่ไอเท็ม +6 โชคดีมหาศาลติด +3 ในครั้งเดียว

       แต่คนแรกที่ +10 ติดกลับเป็นกริด  มิใช่ทายาทมหาเศรษฐีที่ไหน  
       เป็นครั้งแรกที่เขาตระหนักได้ว่า  ทักษะติดตัว 'ช่วยเพิ่มโอกาสเสริมแกร่งสำเร็จ' ของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า  มีบทบาทสำคัญมากในการเสริมแกร่ง

       "นั่นสินะ... เราเสริมแกร่งถึง +5 ได้ตลอด  โดยที่อัตราความสำเร็จเกือบ 100%"

       ผู้เล่นคนอื่นเองก็คิดว่า  การเสริมแกร่งให้ถึงระดับ +5 เป็นเรื่องไม่ยากนัก
       อัตราการเสริมแกร่งสำเร็จจะสูงมากจนกระทั่งถึงระดับ +6  
       แต่ระหว่างทางมาถึง +6  ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ที่ล้มเหลวเลย  และคนที่ล้มเหลวก็มักเจ็บใจยิ่งกว่าปรกติเสมอ
       ทว่ากริดไม่เคยลิ้มรสความรู้สึกนั้น  เขาเสริมแกร่งติด 100% จนถึง +5 ทุกครั้ง
       แม้จะบ่นอุบอิบมาตลอด  แต่กริดก็รู้ตัวนานแล้วว่า  ทักษะติดตัว 'เพิ่มโอกาสเสริมแกร่งสำเร็จ'  ส่งผลอย่างใหญ่หลวงมาตั้นแต่ต้น

       "อึก..."

       กริดรีบจับหน้าอกตนเอง

       ตึกตัก!  ตึกตัก!

       ทันทีที่รู้ว่าเป็นความจริง  มิใช่ฝัน  หัวใจกริดก็เริ่มเต้นเสียงดังโครมคราม  
       เหงื่อไคลเม็ดเป้งผุดทั่วร่าง  หายใจเหนื่อยหอบ  กระเส่าและไม่เป็นจังหวะ
       นี่เขากำลังตื่นเต้นดีใจ  ที่ได้เป็นคนแรกที่เสริมแกร่งถึง +10 งั้นหรือ
       เปล่าเลย  กริดไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วในตอนนี้  ศีรษะของเขากำลังขาวโพลน  
       นี่ไม่ใช่ความตื่นเต้นแน่นอน

       'หืม...'

       บราฮัมเฝ้ามองอย่างเงียบงัน  
       การเสริมแกร่งระดับสูงสุด  แพ็กม่าเคยทำสำเร็จมาแล้วสองสามครั้ง 
       แต่บราฮัมก็มิได้พูดสิ่งใดออกไปเพื่อขัดคอกริด  เขาปล่อยให้กริดดีใจ 
       และหลังจากนั้นไม่นาน

       "ฮะฮะ... ฮะฮะ..."
       กริดเริ่มคืนสติกลับมา  ห้วงลมหายใจกลับเป็นปรกติอีกครั้ง
       ดวงตาชายหนุ่มกำลังเปล่งประกาย
       "ฉันทำได้!  ฉันทำได้แล้ว!!"

       กริดดีใจจนกระโดดโลดเต้น  เขารู้สึกมีความสุข  ที่ตนสามารถเอาชนะคำสาปความอับโชคที่ดิ้นรนต่อสู้มาทั้งชีวิต
       ราวกับความซวยในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด  เขาต้องยอมเสียสละเพื่อให้เกิดเรื่องราวดีๆ ในวันนี้ขึ้น
       แต่หลังจากนี้  ตนอาจต้องจมอยู่กับความอับโชคต่อไปอีกพักใหญ่

       'ช่างปะไร'

       เดี๋ยวเขาก็เอาชนะมันได้อีก  กริดกำหมัดแน่นอย่างสะใจ  ชายหนุ่มเริ่มเปิดอ่านรายละเอียดไอเท็มของ +10 มโยลเนียร์
       
[ เสริมแกร่งระดับสูงสุด  มโยลเนียร์ - โลกมนุษย์ ]
ความคงทน : 689/689
พลังโจมตี : 1,333~2,363
* ความแม่นยำ +50%
* จะพุ่งได้เร็วมากเมื่อขว้าง
* เมื่อเป้าหมายถูกโจมตีจะตกอยู่ในอาการ 'ชะงัก' เป็นเวลา 0.3 วินาที
* ความคงทนของทุกสิ่งที่ถูกทุบจะลดลง 
( ยกเว้นไอเท็มของผู้ใช้งาน )
* ความเสียหายคงที่จำนวน 3,800 หน่วยจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่โจมตีใส่เผ่าอสูรและเผ่าอันเดด
* มีโอกาสสูงที่จะทำให้ 'ศัตรู' ตกอยู่ในอาการ 'หวาดกลัว' 
* ทักษะที่เกี่ยวกับการตีเหล็กทุกชนิดจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นมาก
* เวทมนตร์ตรวจจับ (พัฒนา) ถูกฝังไว้ด้านใน  เพิ่มค่าความแม่นยำ 50%

       การเสริมแกร่งระดับสูงนั้นยากมาก  โอกาสล้มเหลวมีสูงกว่าโอกาสสำเร็จหลายเท่า
       และหากโลภเกินไป  เงินจำนวนหลายล้านวอนสามารถละลายหายไปในพริบตา  เป็นระบบที่ผู้เล่นทั่วไปยากจะเข้าถึง
       แต่ก็มีเหตุผลที่ทำให้แร้งเกอร์ระดับสูงเสพติดการเสริมแกร่ง  เพราะหากสำเร็จ  ประสิทธิภาพพื้นฐานของไอเท็มจะสูงขึ้น 5~7% ต่อหนึ่งระดับเลยทีเดียว

       "สุดยอดเกินไปแล้ว..."

       พลังโจมตีและประสิทธิภาพของออปชั่นเพิ่มขึ้นมาก
       ปัจจุบัน  พลังโจมตีขั้นต่ำกลายเป็น 1,333 หน่วย  สูงกว่าอาวุธเกรดเลเจนดารีเกือบทุกชนิดที่อยู่ในช่วงเลเวล 300  แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงไอเท็มที่เสริมแกร่งไม่เกิน +6

       "ในที่สุด  ฉันก็กลบจุดอ่อนอาวุธประเภททุบได้สำเร็จ!"

       กริดไม่สนอีกแล้วว่าการโจมตีจะออกมาเป็นค่าต่ำสุด  เพราะต่อให้ต่ำสุด  มันก็รุนแรงมากพอจะเป็นภัยอันตรายกับศัตรู  
       ไม่น่าเชื่อว่า  ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของมโยลเนียร์จะถูกกลบด้วยการทุ่มเม็ดเงินลงไปเสริมแกร่ง

       'แต่ก็คุ้มค่ามาก'

       การหมกตัวอยู่ในโรงตีเหล็กตลอด 29 วันไม่ใช่สิ่งสูญเปล่า
       ที่กริดต้องใช้เวลานานขนาดนี้  ก็เพื่อให้มโยลเนียร์ทั้งสี่อันกลายเป็นเกรดเลเจนดารีทั้งหมด  สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางน่าปวดใจเกินกว่าจะบราฮัมทนดูจบ  แต่ท้ายที่สุด  ความพยายามของกริดก็สัมฤทธิ์ผล  
       หลังจากการสร้าง  ทำลาย  สร้าง  ทำลาย  นับครั้งไม่ถ้วน  กริดก็ได้มโยลเนียร์เกรดเลเจนดารีสี่อันสมใจ  ระหว่างนั้น  มีเขี้ยวเดรกถูกทำลายไปชิ้นหนึ่ง  เนื่องจากค่าความคงทนของวัสดุหมดลง  แถมอดามันเที่ยมที่เหลือก็ใกล้ถึงขีดกำจัดเต็มที

       หนึ่งในมโยลเนียร์กลายเป็น +10 อย่างน่าอัศจรรย์
       กริดกำลังดีใจมาก
       
       'เราต้องตั้งใจเล่นเกมนี้ให้มากขึ้น  เพื่อที่มันจะได้ไม่สูญเปล่า'

       ชายหนุ่มกำลังลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความมุ่งมัน  
       ทันใดนั้น  ข้อความระบบหนึ่งก็แสดงขึ้น

[ ทักษะ <อัญเชิญอสูรดาบยารุกต์> พร้อมใช้งานแล้ว ]

       "...ดีล่ะ"

       เป็นโอกาสอันเหมาะสม  ที่จะทดสอบประสิทธิภาพการเสริมแกร่ง  
       กริดแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย  เขารีบมุ่งหน้าไปยังลานฝึกทหารทันที

       ***

       ท่ามกลางความมืดมิด

       ดวงวิญญาณของยารุกต์กำลังหงุดหงิด

       'นักดาบอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกอย่างเรา  พ่ายแพ้ให้กับมนุษย์ได้ยังไงกัน...'

       ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด  ยารุกต์รีบหาข้อแก้ตัวทันที  คงเป็นเพราะพลังส่วนใหญ่ของตนยังถูกพันธนาการอยู่  และตนประมาทอีกฝ่ายเกินไป
       ยารุกต์ต้องการพลังที่แท้จริงกลับคืนมาโดยเร็ว  แต่ก่อนอื่น  เขาต้องทำให้กริดกลายเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์เสียก่อน  เพื่อจะได้ใช้งานกริด  และออกคำสั่งให้กริดอัญเชิญออกมาบ่อยครั้งมากขึ้น  เพื่อรีบเคลียร์เงื่อนไขในการได้รับพลังเดิมกลับมา
       แต่ปัญหาก็คือ

       'หมอนั่นเองก็คิดทำให้เรากลายเป็นทาสรับใช้เหมือนกัน'

       เมื่อวาน  ในจุดที่ยารุกต์ถูกอัญเชิญ  รอบข้างไม่มีศัตรูคนอื่นอยู่อีกเลย
       หมายความว่า  กริดอัญเชิญเขาออกไปเพื่อทำการท้าดวลตัวต่อตัว

       'เจ้ามนุษย์ไร้ยางอาย'

       ชายคนนั้นเล่นทีเผลอด้วยอาวุธที่ตนไม่คาดคิดมาก่อน
       หมายความว่า  กริดเตรียมอาวุธชนิดใหม่เพื่อรับมือกับยารุกต์โดยเฉพาะ

       'นายคิดจะทำให้ฉันเป็นทาสมาตั้งแต่ต้นแล้วสินะ...'

       บัดซบ!  เจ้ามนุษย์ผู้แสนอ่อนแอ!
       ยารุกต์สาบานกับตนเอง  วันใดที่ได้พลังกลับคืนมาล่ะก็
       ถึงตอนนั้น  กริดก็กริดเถอะ  เข้ามาได้ทุกเมื่อ...

       กรรร!

       ความเดือดดาลของยารุกต์กำลังปะทุ  
       ยิ่งคิดเรื่องนี้  เขาก็ยิ่งโมโหร้าย  มันน่าอับอายเกินไป  ที่ตนดันตกหลุมพรางของมนุษย์เจ้าเล่ห์เอาได้
       
       'มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่'

       ยารุกต์ต้องเตรียมตัวให้ดีในการถูกอัญเชิญรอบหน้า

       'เราชนะแน่ถ้าไม่ประมาท...!'

       แต่ทันใดนั้น  ยารุกต์เกิดเปลี่ยนความคิด

       'ไม่สิ  ยังมีสิ่งที่น่ากังวลอยู่'

       นั่นคือค้อนทองทั้งสี่อัน

       'พลังเทพที่อัดแน่นอยู่ในค้อน  สิ่งนั้นน่ากลัวเกินไป'

       ถือเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างน่าประหลาด  หากมันแข็งแกร่งกว่านี้  เกรงว่าแม้แต่จอมอสูรก็มิอาจรับมือได้

       'ในปัจจุบัน  ตัวเรายังทนรับอาวุธชนิดนั้นไม่ไหว'

       ไม่ว่ายังไง  ยารุกต์ก็ต้องสู้ให้ชนะกริด  และทำให้กริดตกเป็นทาสให้จงได้
       เขาคือปีศาจที่บูชาความแข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  จะให้รับใช้มนุษย์ที่แสนอ่อนแอ  เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

       'การจะสู้ให้ชนะ  เราต้องทำให้ค้อนสีทองใช้การไม่ได้...'

       ปัญหาก็คือ  ค้อนเหล่านั้นยากจะหลบหลีกเหลือเกิน
       ค้อนสีทองทั้งสี่  ดูเผินๆ อาจเหมือนถูกกวัดแกว่งอย่างมั่วซัว  แต่ผลกลับเข้าเป้าทุกครั้งอย่างน่าประหลาด  
       มีวิธีใดบ้าง  ที่จะทำให้กริดไม่ใช้ค้อนสีทองออกมา
       ทันใดนั้น  ยารุกต์เกิดความคิดที่น่าสนใจ

       'แม้อาจเสื่อมเสียเกียรติ์ไปบ้าง  แต่ก็ต้องยอม...'

       คงต้องแสร้งทำเป็นก้มหัว  เพื่อทำให้กริดเกิดช่องว่าง  หลังจากนั้นค่อยจู่โจมในจังหวะไม่คาดฝัน  นี่คือวิธีการต่อสู้ที่เหมาะสมที่สุดในยามนี้

       'ดีล่ะ  เราจะแก้แค้นเรื่องเมื่อวาน  หลังจากนี้  ทุกครั้งที่กริดอัญเชิญเรา  หมอนั่นจะต้องกลายเป็นทาสของเรา  หึฮ่าฮ่า!'

       ในขณะที่ยารุกต์กำลังตื่นเต้นอยู่ตามลำพัง

       ชิ้ง~

       อุโมงแสงสีขาวแหวกออกท่ามกลางความมืดมิด  
       นี่คือสัญญาณการอัญเชิญ

       'ดีล่ะ!  ลุยกันเลย!'

       ดวงวิญญาณของยารุกต์มุดออกไปทางอุโมงแสง  หลังจากนั้น  ยารุกต์ได้สร้างร่างเนื้อลวงตาขึ้นบนโลกมนุษย์  พร้อมกับดาบอสูรสีโลหิตที่ลอยเข้าสู่มือ

       "...สดชื่น"

       ยารุกต์กล่าวคำบังคับที่ตนต้องพูด  หลังจากนั้น  เขาตัดสินใจก้มศีรษะให้กริดที่กำลังจ้องมองตนอย่างไม่กระพริบตา

       "กระผมขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวาน  กระผมบังอาจล่วงเกินท่านโดยไม่ใช้สมองไตร่ตรองให้รอบคอบ"

       นี่คือคำขอโทษจากนักดาบอันดับหนึ่งของขุมนรกเชียวนะ
       ยารุกต์ไม่เคลือบแคลงสงสัยเลยว่า  กริดจะต้องน้อมรับมันไว้แต่โดยดี

       'เอาล่ะ  หลังจากนี้  หมอนั่นคงยกโทษให้  และขอเข้ามาจับมืออย่างสุภาพแน่'

       แต่ยารุกต์ไม่มีวันรู้เลยว่า  กริดไม่เคยสุภาพ

       'เมื่อแสร้งเป็นจับมือ  เราก็จะถีบและ...'

       เป็นแผนการอันแยบยลสมบูรณ์แบบ  เขาจะได้แก้แค้นเรื่องเมื่อวานสักที

       "หึหึหึ--! อ--เอ๋"

       ยารุกต์ที่หัวเราะด้วยน้ำเสียงพิลึก  ยามนี้พลันต้องตกตะลึงอย่างหนัก
       ภาพตรงหน้า  หัตถ์เทวะทั้งสี่ข้างกำลังลอยอยู่ด้านหลังกริด  ทั้งหมดกำลังถือค้อนสีทองเหมือนกับเมื่อวาน
       กริดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์

       "ฉันไม่ชอบใจท่าทางของนายเวลาขอโทษ"

       ยารุกต์โพล่งขึ้นอย่างโมโห
       "อะไรกัน...!  นี่นายต้องการให้ฉันคุกเข่าด้วยรึไง!  อย่าได้ลืมเชียว  ว่าฉันคือนักดาบอันดับหนึ่งของขุมนรก!  นายจะให้คนอย่างฉันคุกเข่าต่อหน้ามนุษย์เนี่ยนะ!"

       "ฉันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา  แต่ยังเป็นเจ้านายของนายด้วย"

       และทันทีที่กริดพูดจบ

       ฟ้าวววว!

       หัตถ์เทวะพุ่งไปล้อมยารุกต์จากทุกทิศทาง  พวกมันทั้งสี่กวัดแกว่งค้อนในมือเข้าใส่  หากดูเผินๆ จะเหมือนกับการโจมตีอย่างมั่วซั่ว

       "หึ!  ไร้ประโยชน์!"

       ยารุกต์ขบกรามแน่น  เขากำลังเดือดดาลสุดขีด
       หัตว์เทวะมิได้โจมตีอย่างมีแบบแผน  ซึ่งนั่นทำให้ยารุกต์ไม่อาจอ่านทางได้เลย
       เขาพยายามหลบหลีกอย่างสุดความสามารถ  แต่ก็ทำไม่สำเร็จ  ลงเอยด้วยการต้องใช้ดาบตั้งรับปัดป้อง
       ทว่า...       

       เคร้ง!

       "เอ๋...!"

       ยารุกต์ร้องเสียงหลงเมื่อใช้ดาบโลหิตในมือบล็อคมโยลเนียร์อันหนึ่ง
       เพราะพลังที่อัดแน่นอยู่ในมโยลเนียร์  รุนแรงเกินกว่าที่เขาจะต้านรับไหว

       'อ--อะไรกัน… เมื่อวานเรายัง...'

       ใช่แล้ว  มโยเนียร์ที่ยารุกต์ใช้ดาบบล็อค  คืออันที่ถูกเสริมแกร่งถึงระดับ +10
       ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเลวร้ายมาก

[ ดาบอสูรยารุกต์ไม่อาจทนทานต่อพลังโจมตีอันหนักหน่วง  ความคงทนลดลง 80 หน่วย ]
[ แรงปะทะที่เกิดจากค้อนมีมากเกินไป  ท่านจะตกอยู่ในอาการชะงัก 0.3 วินาที! ]
[ แรงปะทะที่เกิดจากค้อนมีมากเกินไป  ท่านจะตกอยู่ในอาการชะงัก 0.1 วินาที! ]
[ ท่านจะตกอยู่ในอาการชะงัก 0.1... ]

       มโยลเนียร์เสริมแกร่งระดับสูงสุด  จะมีความแม่นยำอยู่ที่ 100%  ทุกครั้งที่โจมตีโดนเป้าหมาย  อีกฝ่ายจะตกอยู่ในอาการชะงัก 0.3 วินาที  
       ส่วนมโยลเนียร์อีกสามอันที่เหลือจะส่งผลชะงัก 0.1 วินาที  
       ใช่แล้ว  หากมโยลเนียร์ทั้งสี่ผลัดเปลี่ยนโจมตีต่อเนื่องเป็นจังหวะ  ยารุกต์ต้องเผชิญหน้ากับนรกของอาการ 'ชะงัก' ไปจนกว่าจะตาย
       ยารุกต์ในวันนี้  เสียชีวิตอย่างรวดเร็วและน่าสมเพชยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก
       
       "ค--แค่ก… ทำไม... กัน..."

       เมื่อวาน  ยารุกต์สามารถใช้ข้ออ้างว่าตนเองประมาท  เนื่องด้วยไม่เคยพบเจอกับดาบแยกส่วนมาก่อน  
       แต่วันนี้ใช้ข้ออ้างนั้นไม่ได้อีกแล้ว  สาเหตุการตายน่าสมเพชกว่าเดิมหลายเท่า  
       กริดไม่ใช่ใช้ดาบเลยด้วยซ้ำ  เขาแทบไม่ต้องขยับตัว  ยารุกต์พ่ายแพ้ต่ออาวุธของกริด!
       
       "ต--ตัวข้า… ยารุกต์… พ่ายแพ้ต่ออาวุธงั้นหรือ...!"

       ยารุกต์กำลังคับแค้นใจสุดขีด
       เมื่อกริดเห็นร่างของยารุกต์เริ่มสลายไป  เข้าจึงเปิดปากพูดขึ้น

       "ฉันชนะ  นายไม่อาจเอาชนะได้แม้กระทั่งอาวุธของฉัน  แล้วเช่นนี้จะมีปัญญาชนะฉันได้หรือ"

       "อย่าได้ใจไป...!  ก็แค่อาวุธของนายแข็งแกร่ง  ไม่ใช่นาย!"

       "ทำไมจะไม่ใช่  ก็ฉันเป็นคนสร้างพวกมันขึ้นมา  ดังนั้น  ฉันแข็งแกร่ง"

       "...!"

       ยารุกต์เถียงไม่ออก  คำพูดของกริดไม่มีสิ่งใดที่เข้าใจยาก  เพียงแต่ยารุกต์หาเหตุผลโต้เถียงไม่ได้  
       กริดแสยะยิ้มอย่างโล่งใจ  เป็นรอยยิ้มของผู้ชนะ

       "ไว้พบกันใหม่พรุ่งนี้  หวังว่านายคงสร้างบาดแผลให้ฉันได้บ้างล่ะนะ"

       "ชิ...!"
       
       ยารุกต์พ่ายแพ้โดยสมบูรณ์  ดวงวิญญาณของเขาถูกส่งกลับไปในดาบ
       กริดกำลังดีใจ  อารมณ์อันหลากหลายไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้

       'สุดยอดกว่าที่คิดไว้เสียอีก'

       เอาชนะคู่ต่อสู้ได้โดยไม่ต้องขยับแม้แต่ปลายนิ้ว
       กริดต้องการดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดโกงให้มากกว่านี้ 
       เป้าหมายต่อไปของเขา  เมืองแวมไพร์ที่ยังเหลือ

       "ในขณะที่บัฟค่าประสบการณ์ยังคงอยู่  เราไปสร้างสถิติใหม่สักหน่อยดีกว่า"
       
       กริดเคยได้รับรายงานมาว่า  สมาชิกกลุ่มหัวกะทิของโอเวอร์เกียร์จำนวนเจ็ดคน  ได้สร้างสถิติใหม่ในการเคลียร์ดันเจี้ยนเมืองแวมไพร์
       ห้าชั่วโมง  นั่นคือเวลาที่ขุนพลอัจฉริยะเจ็ดคนร่วมกันสร้างขึ้น
       แล้วจะเป็นเช่นไร  หากกริดทำลายสถิติดังกล่าวได้ตามลำพัง
       นี่คือวินาทีที่  มหาตำนานการเก็บเลเวลของกริด  จะถูกกล่าวข่านไปทั่วโลกในภายหลัง

Comments

  1. ขอบคุณครับ สนุกมาก ถึงแม้จะรอหลายวันก็ตาม....ยังติดตามตลอดนะครับ

    ReplyDelete
  2. แมร่งโกง สตั้นรัวๆ

    ReplyDelete
  3. คิดถึงเกมที่เคยเล่นเลย อัดสตั๊นรัวๆ นักดาบก็นักดาบเถอะ สู้ไม่ได้ 5555

    ReplyDelete
  4. ว่าจะเก็บใว้อ่านพรุ่งนี้สักตอน....สุดท้ายก้ออ่านหมดจนได้ขอแบบนี้ทุกวันมะได้เหยออออ

    ReplyDelete
  5. สืบทอดเจตนารมณ์ของ วีดแน่นอน ซ้อมจนกว่ามันจะเชื่อฟัง

    ReplyDelete
  6. ทำไมไม่มีเหตุการพิเศษอะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่งง น่าจะเกิน 15 แล้วด้วย

      Delete
    2. มีครับ แต่ยังไม่เปิดเพยพบังที่ได้

      Delete
  7. ทำไมคนเม้นตอนนี้เยอะจัง

    ReplyDelete
  8. สงสารยารุกมากกก โดนเรียกออกมาเป็นตัวทดลองให้กริดลองอาวุธใหม่

    ReplyDelete
  9. ได้ความโชคดีมาแล้ว หวังว่ากริดจะไม่อับโชคอีกต่อไป5555

    ReplyDelete
    Replies
    1. อย่าลืมว่ากริดคือคนที่ดวงซวยบรรลัย แค่ค่าโชคนิดหน่อยไม่มีผลหรอก

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00