จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 478



[ กำลังอัญเชิญอสูรดาบยารุกต์ ]

       ซู่วววว!

       ในวินาที่กริดใช้ทักษะ  ดาบยารุกต์ได้ส่งเสียงดังระงมจนทุกคนแสบแก้วหู  
       แสงสีแดงโลหิตอันเจิดจ้าได้สาดส่องไปทั่วห้องท้องพระโรง  โดยมาพร้อมกับพลังงานลึกลับที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ  ส่งผลให้แม้แต่กริดก็ไม่อาจทนถือดาบยารุกต์ต่อไปได้

       "ชิ...!  ไอ้ดาบเลี้ยงไม่เชื่อง!"

       หมอนี่คิดจะทำให้ผู้เป็นนายบาดเจ็บรึไง  กริดคิดว่าตนต้องสังสอนดาบให้ดีกว่านี้ในอนาคต  
       ถึงกระนั้นขั้นตอนก็ยังไม่จบ  ยารุกต์ที่หลุดจากมือกริดได้พุ่งสูงขึ้นไปด้านบนเพดาน  ใบดาบสีแดงโปร่งแสงของศิลาโลหิตเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม  
       ดำสนิทยิ่งกว่าท้องฟ้ายามวิกาล

       "สวยจัง..."

       ยูเฟอมิน่าอดชื่นชมไม่ได้  อักขระโบราณสีทองที่สลักอยู่บนใบดาบยารุกต์สีดำนั้นดูลึกลับและงดงาม  
       ทั้งกริด  ลอเอล  และมาซงต่างก็เฝ้ามองเป็นตาเดียว

       ซู่วววว--

       ดาบยารุกต์ไม่เคลื่อนไหวอีก  แสงที่เปล่งออกมาก็เริ่มบรรเทาความเจิดจ้าลง 
       บรรยากาศเข้าสู่ความเงียบงัน

       "..."

       ทุกสิ่งหยุดนิ่ง  ราวกับเวลาถูกหยุดเอาไว้ตลอดกาล

       ซู่ววว!

       ความเงียบงันถูกทำลายลง
       ดวงวิญญาณสีแดงขนาดเท่าไข่มุกกำลังลอยออกมาจากดาบยารุกต์
       นักดาบอันดับหนึ่งของขุมนรก  อสูรดาบ  คู่ปรับตลอดกาลของจอมอสูรเซปาร์  และอื่นๆ อีกมากมาย  
       นี่คือวินาทีที่ดวงวิญญาณของยารุกต์ซึ่งมีสมญานามมากมายติดตัวได้ถูกอัญเชิญออกมาบนโลกมนุษย์

       'โฮ่… ยอดเยี่ยม'

       แม้แต่บราฮัมที่อยู่ในร่างกริดก็ยังประหลาดใจ  ไม่ใช่ความสนใจธรรมดา  แต่เป็นน้ำเสียงประหลาดใจแกมชื่นชม   
       ต้องเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน  คนอย่างบราฮัมถึงออกปากขนาดนี้  
       กริดทวีความคาดหวังมากขึ้น  
       ในขณะเดียวกัน  ดวงวิญญาณของยารุกต์ที่กำลังส่องแสงราวกับดวงดาวยามค่ำคืน  บัดนี้เริ่มเปลี่ยนรูปร่างให้ดูคล้ายมนุษย์

       ซู่ววว

       ชายชราผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น

       เปรี้ยะเปรี้ยะ...

       ชายชราคนนี้มีเปลวเพลิงสีเลือดลุกโชนรอบร่างกายตลอดเวลา  เส้นผมสีขาว  ใบหน้าแก่ชรา  กึ่งกลางศีรษะมีเขาแหลมคมงอกออก  กล้ามเนื้อบึกบึนสมส่วนไปทั้งตัว  ดวงตาคมกริบ
       เขาคือนักดาบอันดับหนึ่งของขุมนรก 'ยารุกต์'  ชายคนนี้มีพลังเวทย์อยู่ในระดับต่ำกว่าอสูรทั่วไป  ชั่วชีวิตจึงทุ่มเทกายใจให้กับการฝึกฝนดาบ  จนกระทั่งมีฝีมือทัดเทียมสูสีกับจอมอสูร  
       มาร์บัส  หนึ่งในขั้วอำนาจที่ทรงพลังของขุมนรกเคยพูดถึงยารุกต์ไว้ว่า
       'ชายคนเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงลำดับจอมอสูรได้'

       "...สดชื่น"

       เป็นการสูดลมหายใจครั้งแรกในรอบ 300 ปี  ลมหายในอันหอมหวลของไซเรนกำลังชุ่มปอดและปลุกเร้าทุกเซลล์ในร่างกายให้ลืมตาตื่นขึ้น

       ***

       "เป็นไปได้ยังไง"

       กษัตริย์มาซงอดประหลาดใจไม่ได้
       อสูรที่มนุษย์ไร้ยางอายคนนี้เรียกออกมา  รอบกายกำลังอัดแน่นไปด้วยพลังลึกลับ
       มาซงพลันสัมผัสได้ถึงภัยอันตราย

       'ใช่พลังของจอมอสูรรึเปล่านะ'

       ไซเรนเป็นอาณาจักรโดดเดี่ยว  แต่องค์ความรู้ของที่นี่ก็มิได้ตื้นเขิน  
       โดยเฉพาะมาซงที่เป็นกษัตริย์  เขาย่อมมีความรู้สูงกว่าใคร  จึงไม่แปลกที่จะเคยได้ยินเรื่องราวของจอมอสูรมาบ้าง  
       ยารุกต์ดูราวกับเป็นหนึ่งใน 33 จอมอสูรที่มาซงเคยได้ยิน

       'มนุษย์ธรรมดาจะอัญเชิญจอมอสูรออกมาได้ยังไง  ไม่ใช่ว่าทั้งสองเผ่าพันธุ์มีความบาดหมางกันงั้นหรือ'

       ความรู้ของมาซงไม่สามารถคี่คลายความสงสัยของตนได้  เขาไม่รู้ว่าจอมอสูรเก่งกาจระดับใดกันแน่  และไม่รู้ว่ามนุษย์กับจอมอสูรมีการทำพันธะสัญญาบ่อยครั้งแค่ไหน

       "ฮะฮะ..."

       มาซงเข้าใจผิดคิดว่ายารุกต์เป็นจอมอสูร  เขาเริ่มส่งเสียงหัวเราะแห้ง  
       ถัดมา  มาซงจ้องมองไปยังแมวสีดำที่นั่งอยู่บนหัวไหล่กริด  
       รวมไปถึงเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่กำลังจูงมือกริดอยู่

       'นั่นก็หาใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาสามัญ...'

       สิ่งมีชีวิตเหล่านี้แผงออร่าความแข็งแกร่งไว้อย่างน่าประหลาด  เป็นออร่าที่พบได้ในขุมนรกเท่านั้น  ดูเหมือนกริดจะไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาเสียแล้ว  
       แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  มาซงกำลังสนใจมนุษย์เพศชายที่กริดอัญเชิญออกมา

       'หมอนี่เป็นใคร...'

       มนุษย์คนนี้มีความมั่นใจไม่แพ้ตนเลยสักนิด  
       ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ชนิดที่กริดอัญเชิญออกมา  มีเพียงมนุษย์เพศชายเท่านั้นที่ทำให้มาซงเกิดอาการสั่นคลอนอย่างหนัก  หนักยิ่งกว่าจอมสูรเสียอีก  
       เหตุผลนั้นง่ายมาก

       "ทำไมหมอนี่ถึงกำลังล่อนจ้อนอยู่!!"

       "..."

       ใช่แล้ว  มนุษย์เพศชายที่กริดอัญเชิญออกมา  อัศวิน 'จู๊ด' กำลังล่อนจ้อน
       การปราศจากเสื้อผ้าทำให้จู๊ดเผยสัดส่วนกล้ามเนื้ออันสมบูรณ์แบบสู่สายตาทุกคน

       "กรี๊ดดดด!"

       เมื่อยูเฟอมิน่าเห็นของลับจู๊ดลางๆ  เธอจึงรีบเบือนหน้าหนีอย่างเขินอายสุดขีด
       แต่ดูเหมือนดวงตาอันกลมโตของเธอยังคงเหลือบมามองอย่างชื่นชมเป็นระยะ

       "เชี่ย..."

       กริดและลอเอลพลันตกตะลึงกับขนาดของลับจู๊ดที่ใหญ่มหึมา    
       เกิดเป็นความเงียบงันไปชั่วขณะหนึ่ง

       "ทำไมนายถึงไม่ใส่เสื้อผ้า!"  
       กริดที่ดึงสติกลับมาได้ไวกว่าใคร  เขารีบเค้นเสียงถามอย่างไม่พอใจ

       จู๊ดยังคงยืนหน้ามึนอยู่ที่เดิมและตอบกลับอย่างเรียบง่าย
       "จู๊ด  ฝึกเสร็จ  อาบน้ำ"

       หมายความว่า  จู๊ดตอบรับคำอัญเชิญของกริดขณะที่กำลังอาบน้ำ

       "บ้าบอสิ้นดี"

       ปัญหาก็คือ  ซาทิสฟายมีความสมจริงเกินไป   
       เอ็นพีซีทุกคนมีอารมณ์และชีวิตประจำวันที่คล้ายกับมนุษย์  พวกเขาอาบน้ำบ่อยครั้ง  จนเกิดเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในวันนี้

       "ทำไมนายถึงไม่สวมอาวุธกับชุดเกราะก่อนจะตอบรับคำอัญเชิญ"

       "นายท่านเรียก  จู๊ดไป"

       "เป็นความจงรักภักดีที่น่าซาบซึ้งมาก  ทำเอาฉันน้ำตาไหลเลยล่ะ"

       หนึ่งสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเอ็นพีซีและผู้เล่น  คือการมีหรือไม่มีช่องสัมภาระ
       เอ็นพีซีนั้นไม่มีช่องสัมภาระ  หรือก็คือ  ชีเปลือยจู๊ดในตอนนี้อยู่ในสภาวะ 'ไร้ไอเท็ม'  แม้เขาจะมีเลเวลสูงเกินกว่า 300   แต่จะแสดงฝีมือที่แท้จริงได้อย่างไรหากไม่มีไอเท็ม

       'เราควรทำยังไงดี'

       จู๊ดคงช่วยสู้ได้ไม่มาก  และที่แย่กว่านั้น  จู๊ดอาจถึงแก่ชีวิต  
       ในขณะที่กริดกำลังเป็นกังวล

       "อสูร  ฆ่า"

       ผัวะ!

       จู๊ดเหวี่ยงหมัดอย่างดุดัน  เป้าหมายครั้งนี้ไม่ใช่มาซงหรือเผ่าวารี  แต่เป็นชายชราผมขาวที่ร่างกายกำลังลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงอสูร  อสูรดาบยารุกต์  
       ยารุกต์หน้าสั่นเมื่อถูกกำปั้นของมนุษย์ปริศนาเข้าไปอย่างจัง  มนุษย์ที่ตนเคยคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน  
       ยารุกต์คืออสูรที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วขุมนรก  จนกระทั่งพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับจอมอสูรเซปาร์จนเสียชีวิต  
       นี่ตนถูกมนุษย์อันแสนต่ำต้อยโจมตีใส่งั้นหรือ

       "แกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงสินะ"

       เขาสูดลมหายใจเข้าลึก  เป็นเวลากว่า 300 ปีแล้วที่ไม่ได้สูดอากาศ  เขาต้องการดื่มด่ำออกซิเจนให้ชุ่มปอดมากกว่านี้  แต่ความตื่นเต้นทั้งหมดกลับต้องพังทลายลง
       ยารุกต์โกรธจัด  สีหน้าบึ้งตึง  และกำลังมองว่าจู๊ดเป็นศัตรู

       ซู่ววว!

       'ดาบอสูรยารุกต์' ตอบรับคำเรียกขานของ 'อสูรดาบยารุกต์'    
       มันเมินเฉยต่อนายที่แท้จริงอย่างกริด  และพุ่งเข้าไปอยู่ในมือยารุกต์ด้วยความรวดเร็ว  กริดรีบส่งเสียงห้ามทันทีเมื่อดาบในมือยารุกต์กำลังฟันใส่จู๊ด

       "หยุด!"

       แต่การกระทำของกริดล้วนสูญเปล่า 
       หลังจากยารุกต์พัฒนาไปเป็นเกรดเลเจนดารี  เขาก็ได้รับพลังที่แท้จริงกลับมาหลายส่วน  รวมไปถึงความทระนงตนอันสูงเสียดฟ้าไม่เข้าท่าด้วย  
       ยารุกต์ไม่คิดฟังคำสั่งของกริด

       ฉัวะ!

       "อั่ก!"

       ดาบโลหิตฟาดฟันใส่หน้าอกอันเปลือยเปล่าของจู๊ดอย่างจัง  
       พลังชีวิตจู๊ดลดลงราว 40% ในพริบตา  กริดพลันสั่นระริก

       'รุนแรงขนาดนี้เชียว...'

       แม้จู๊ดจะไม่ได้สวมเกราะ  แต่พลังป้องกันพื้นฐานจากค่าพละกำลังและค่าความอดทนนั้นมีสูงลิบ  มิใช่สิ่งที่จะมองข้ามได้เลย
       การโจมตีเดียวจากยารุกต์ทำให้จู๊ดถึงกับบาดเจ็บสาหัส  แถมยังเป็นเพียงการโจมตีธรรมดาเท่านั้น  มิใช่ทักษะ
       รุนแรงเทียบเท่ากริดโจมตีใส่จู๊ดด้วย +9 ความผิดพลาดเลยทีเดียว

       "จู๊ด  เจ็บ  อดทน  ฆ่า  อสูร"

       โงนเงน

       จู๊ดมิได้เกรงกลัวเลยสักนิดแม้จะมีบาดแผลใหญ่กลางอก
       เขานำร่างที่บาดเจ็บเดินดุ่มเข้าหายารุกต์อย่างองอาจ  ยารุกต์มองว่าภาพตรงหน้าช่างบ้าบอสิ้นดี  ตนใช้ชีวิตอยู่มานานกว่า 500 ปีในร่างอสูร  และ 300 ปีในร่างวิญญาณ  แต่กลับไม่เคยพบเห็นใครไม่รักตัวกลัวตายเหมือนจู๊ด  
       ไม่สิ  เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่ผิดแผกพิสดารขนาดนี้มาก่อน

       "ไม่กลัวตายเลยรึไง...!  แกมีสิบชีวิตงั้นหรือ  แม้แต่ไฮดร้าก็ยังไม่กล้าลงมือกับฉันคนนี้!"

       ยารุกต์เหวี่ยงดาบอีกครั้ง  
       กริดรีบส่งเสียงตะโกนด้วยใบหน้าซีดเผือด

       "จู๊ด!"

       ชีวิตของจู๊ดกำลังตกอยู่ในอันตราย  
       อัศวินคนแรกของตน  จู๊ดเป็นคนพิเศษเพราะกริดเลือกเฟ้นและฝึกฝนเขาด้วยตนเอง  กริดไม่อาจมองดูจู๊ดตายไปต่อหน้าได้  แถมอีกฝ่ายที่ลงมือยังเป็นพวกเดียวกันด้วย
       จู๊ดที่ได้ยินเสียงตะโกนของกริดพลันชะงักไปครู่หนึ่ง  หลังจากนั้น  สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น  จู๊ดใช้มือคว้าคมดาบยารุกต์ไว้อย่างสิ้นคิด  แต่เขากลับบิดข้อมือและแย่งชิงยารุกต์มาถือได้ในพริบตา  
       นี่คือคอมโบผสานของสองทักษะติดตัว 'ฉันไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร' และ 'แย่งชิงอาวุธจากศัตรู'

       "บ้าน่า..."

       ยารุกต์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ  ตลอดชีวิตของเขา  เคยมีบ้างที่ฟันพลาดเป้า  แต่นี่คือครั้งแรกที่มีใครสักคนสามารถแย่งดาบไปจากมือได้  
       อสูรดาบถูกขโมยดาบด้วยมือเปล่า  ช่างเป็นความจริงอันโหดร้ายที่ยากทำใจยอมรับ

       'ชายคนนี้… แท้จริงแล้วคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่สินะ!'

       ยารุกต์เคยคิดว่าจู๊ดเป็นพวกเสียสติเพราะไม่ยอมใส่เสื้อผ้า
       ในขณะเดียวกัน  กริดได้พุ่งเข้าถึงตัวคนทั้งสองทันเวลา

       "พวกนายไม่ใช่ศัตรูกัน!  หลังจากนี้  ถ้ายังมีใครคิดโจมตีพวกพ้องอีก  ฉันจะลงโทษสถานหนัก!"

       "กล้าออกคำสั่งกับฉันคนนี้เชียว..."
       ยารุกต์แสดงท่าทีต่อต้าน

       "ขอรับ"  
       จู๊ดรีบพยักหน้าโดยไม่คิดเยอะ

       เหตุใดตนถึงโจมตีใส่อสูรเฒ่าตรงหน้า  จู๊ดลืมไปแล้ว   ค่าสติปัญญาของเขามีเพียง 20 แต้มเท่านั้น
       มาซงที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่นาน  เขาไม่อาจทนปล่อยผ่านไปได้อีก  
       "พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน!"

       ศัตรูกำลังเล่นสนุกต่อหน้าตนงั้นหรือ  ยอมไม่ได้เด็ดขาด!
       อันที่จริง  มาซงต้องการโจมตีเข้าไปในขณะที่อีกฝ่ายกำลังต่อสู้กันเอง  แต่ด้วยฐานะของกษัตริย์ผู้สูงศักดิ์  เขาไม่อาจกระทำสิ่งน่าละอายเช่นนั้นได้

       "พวกแกกล้าเมินเฉยเราผู้นี้!  จงรับการลงทัณฑ์ไปซะ!"

       มาซงใช้ 'ความพิโรธของกษัตริย์เผ่าวารี' อีกหนพร้อมกับเสกคลื่นยักษ์สึนามิ 
       ในขณะเดียวกัน  ยารุกต์ก็กำลังยืนจ้องหน้าจู๊ดอย่างโกรธแค้น  แต่จู๊ดกลับยืนนิ่งด้วยสีหน้าเฉยเมย  ราวกับไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
       ยูเฟอมิน่าไม่มีกะจิตจะใจจะสู้ต่อเพราะไอ้จ้อนของจู๊ด  ส่วนลอเอลยังคงมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่หาย

       "ก่อนอื่น  ช่วยกันหุบปากคนที่เอาแต่พล่ามเสียงดังที่สุดกันเถอะ"

       "ความคิดดี"

       ทุกคนหันไปโจมตีมาซงด้วยทักษะท่าไม้ตายอย่างพร้อมใจ

       ครืนนน!

       สายฟ้าของลอเอลผ่าเข้าใส่มาซงอย่างจังจนเขาชะงักไป  หลังจากนั้นเวทย์เกรด S จากยูเฟอมิน่าได้สร้างความเสียหายใส่มาซงอย่างรุนแรง    
       ลอเอลคืออันดับหนึ่งแห่งสิบรุคกี้  ส่วนยูเฟอมิน่าคือผู้เล่นคลาสอีปิกคนแรกของโลก  
       ทั้งสองกำลังสวมใส่ไอเท็มชั้นยอดและเป็นภัยร้ายแรงต่อมาซง

       แต่มาซงทั้งถึกและสู้รบได้เก่งกาจ  เขาปกปิดจุดอ่อนด้วยเกล็ดหนาพร้อมกับปลดปล่อยการโจมตีครั้งถัดไปอย่างรวดเร็ว
       เป้าหมายแรกย่อมเป็นมนุษย์เพศชายล่อนจ้อน  มาซงเคยผ่านการต่อสู้มาหลายครั้ง  เขาจึงรู้ว่าควรรีบจัดการคนที่อ่อนแอที่สุดออกไปก่อน

       แต่เป็นการคาดเดาที่ผิด  
       เป้าหมายคราวนี้จัดการไม่ง่ายเลย  จู๊ดคือชายที่ถือครองสุดยอดทักษะติดตัวอย่าง 'ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร' ซึ่งมีเกรดสูงถึง SS 
       เหตุใดทักษะดังกล่าวถึงมีเกรดสูงขนาดนี้ได้
       แม้แต่กริดก็ไม่รู้คำตอบ  แต่เกรดสูงย่อมหมายถึงประสิทธิภาพที่สูงตามไปด้วย  
       จู๊ดไม่ลังเลเลยที่จะโจมตีสวนมาซงกลับไป  เพราะเขาไม่มีความคิด  และการกระทำเช่นนี้เหนือความคาดหมายของมาซงมาก

       แทนที่จะหลบกระแสคลื่น  จู๊ดกลับเลือกโจมตีซึ่งหน้าและทำลายเวทย์คลื่นน้ำไปได้  หลังจากนั้นก็ใช้ฝ่ามือคว้าใบหน้ามาซงไว้  จู๊ดนั้นมีค่าพละกำลังสูงถึง 2,000 แต้มซึ่งเหนือกว่าทหารทั่วไปหลายเท่า  แต่แค่นี้ไม่มีทางระคายผิวมาซงแน่นอน  ฝ่ามือของจู๊ดไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด  ราวกับแมลงวันบินตอมเท่านั้น  
       ทว่าปัญหาก็คือ  นั่นกำลังทำให้มาซงมองอะไรไม่เห็น

       "ดาบพิสุทธิ์"

       ฉึก!

       ยารุกต์ฉกฉวยโอกาสนี้เล็งแทงดาบเข้าไปยังหัวใจมาซงอย่างแม่นยำ  
       มาซงออกอาการสะดุ้งทันทีที่ได้รับความเสียหายรุนแรง

       "กลิ่นดีมาก!  เมี๊ยว!"

       โนเอะกำลังดีใจเพราะเผ่าวารีส่งกลิ่นเหมือนปลา  เจ้าแมวอ้วนเขมือบมาซงเข้าไปเต็มคำด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย  
       ในขณะเดียวกัน  กริดที่ได้รับค่าสถานะมหาศาลจาก 'กลืนวิญญาณ' ของโนเอะ  ชายหนุ่มกำดาบในมือแน่นพร้อมกับแทง 'ร่ายรำสังหาร' ใส่มาซงด้วยจิตสังหารอำมหิต         
       ทางด้านแรนดี้ก็กำลังโจมตีแบบเดียวกับกริดทุกประการ

       "อ๊ากกกก!"

       มาซงส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด

Comments

  1. 55555'''''' จู๊ด นายนี้เป็นตัวแปลสำคัญในสนามรบเลยก็ว่าได้

    ReplyDelete
  2. คอมโบได้สวย

    ReplyDelete
  3. ไอจู๊ดเล่นไอรีนไปแล้วกริดเอ้ยยย5555

    ReplyDelete
    Replies
    1. Ntrก็มา แต่ข้อดีไอ้กริดคือ ความชำนาญมือนะ55

      Delete
  4. คอมโบดึงอาวุธสุดโกง55555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00