จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 484



[ อดามันเที่ยม ]
       โลหะที่พบได้เฉพาะบนโลกแห่งเทพ 'แอสการ์ด'
       ทั้งความแกร่ง  ความแข็ง  และความเหนียวนั้นอยู่ในระดับไร้ที่ติ  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีขีดจำกัดอยู่
       เป็นโลหะที่ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุด  ทว่าการใช้งานอาจเกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงได้  เพราะมันถูกอัดแน่นไปด้วยพลังแห่งเทพ
เงื่อนไขการถลุง : ทักษะตีเหล็กขั้นสูงเลเวลเจ็ด
น้ำหนัก : 30

       'โฮ่  นี่คืออดามันเที่ยมสินะ  นอกจากพาเฟรเนี่ยมแล้ว  มันคือสุดยอดโลหะที่เคียงคู่มากับศิลาโลหิต'
       บราฮัมแสดงความสนอกสนใจ
       'นายจะใช้มันสร้างสิ่งใด'

       "อาวุธ"

       แรกเริ่มเดิมที  กริดมีแผนจะเสริมพลังป้องกันตนเองให้สูงยิ่งขึ้น 
       หากใช้อดามันเที่ยมเสริมเข้าไป  กริดสามารถดัดแปลงเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ให้มีค่าพลังป้องกันกายภาพสูงกว่านี้ได้  
       เดิมทีแล้ว  เซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นเพื่ออดีตสันตะปาปาฟรานซ์  แพ็กม่าจึงออกแบบให้เป็นเกราะเบาเพื่อความคล่องตัว  กริดสามารถเพิ่มสัดส่วนของอดามันเที่ยมเข้าไปและเปลี่ยนให้เซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเกราะหนักได้โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติเดิมในการต้านทานเวทมนตร์  
       เขาจะได้ไม่ต้องคอยสลับไปมาระหว่างสามชั้นและเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ให้วุ่นวาย  การสวมเกราะเดียวตลอดงานโดยมีพลังป้องกันสูงทั้งทางกายภาพและเวทมนตร์  ถือเป็นเรื่องในอุดมคติที่กริดใฝ่ฝันถึงมานานแล้ว

       แต่ชายหนุ่มเปลี่ยนใจกลางคัน
       หากลองมองย้อนกลับไป  เขาไม่มีความจำเป็นต้องยึดติดกับพลังป้องกันไปมากกว่านี้
       
       'คอยสลับสามชั้นกับเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เพียงพอแล้ว'

       แต่ไหนแต่ไร  สามชั้น  ถุงมือใหญ่พิเศษ  หมวกเหล็กมีเขา  และผ้าคลุมลันเทียร์  ไอเท็มเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อนทนรับการโจมตีอันมหาศาลจากลันเทียร์  นักลอบสังหารในตำนาน
       ศัตรูคนอื่นจะมีพลังโจมตีกายภาพมากมายถึงขั้นนั้นเชียวหรือ

       กริดตระหนักดีว่า  ปัจจุบันตนมีจุดอ่อนด้านพลังป้องกันอยู่หนึ่งข้อ  แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงนัก

       'นั่นก็คือการต้องสลับชุดเกราะไปมา  หากเราสู้กับศัตรูที่มีพลังโจมตีสูงทั้งกายภาพและเวทมนตร์ในคนเดียว  ถึงเวลานั้นคงต้องเดือดร้อนมากแน่  แต่คู่ต่อสู้ที่พิสดารเช่นนี้ย่อมพบเห็นได้ไม่บ่อย'

       เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  กริดมีบัฟอมตะห้าวินาที  ในช่วงเวลานี้  ไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าพลังโจมตีอีกแล้ว  เพราะต่อให้แก้ผ้าเปลือยเปล่าเขาก็ไม่มีวันตาย  
       การรีบดับลมหายใจศัตรูต่างหากที่ยังเป็นปัญหา
       
       'พลังโจมตีของยารุกต์เพิ่มมากขึ้นหลังจากพัฒนาไปเป็นเกรดเลเจนดารี  แต่ดาบเล่มนี้ก็มีจุดอ่อนอยู่'

       กริดจะสูญเสียการควบคุมดาบยารุกต์ในตอนที่เรียกอสูรดาบยารุกต์ออกมา  
       ปัจจุบัน  ยารุกต์เหมาะที่จะเป็นไอเท็มอัญเชิญอสูรดาบมากกว่า  กริดจึงต้องการอาวุธชนิดใหม่มาแทนที่ยารุกต์  
       แต่ปัญหาใหญ่หลวงก็คือ 'ร่างมืด'  หากตนสร้างอาวุธขึ้นมาใหม่ด้วยอดามันเที่ยมที่อัดแน่นไปด้วยพลังเทพ  
       ร่างมืดตนจะทนใช้งานมันได้จนจบหรือ
       กริดเคยมีประสบการณ์ใช้หอกไลฟาเอลในร่างมืดมาแล้ว  และนั่นก็ไม่น่าจดจำเท่าไรนัก
       
       'นายคิดจะทำอย่างไร'

       บราฮัมรับรู้ได้ถึงปัญหาของกริด  
       ชายหนุ่มจะจัดการอย่างไรเมื่อพลังเทพและร่างมืดขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง
       ชักน่าสนุกแล้วสิ

       'อาจมีโอกาสหากฉันผสานเข้ากับศิลาโลหิต'

       พลังอสูรในศิลาโลหิตอาจรักษาสมดุลพลังเทพของอดามันเที่ยมได้  
       กริดเคยคิดจะทำเช่นนี้  แต่เขาก็นึกเสียดายในคุณสมบัติพลังเทพ
       ทำไมน่ะหรือ  
       เพราะอาวุธที่สร้างขึ้นจากพลังเทพจะทำความเสียหายร้ายแรงต่อเผ่าอันเดดและเผ่าอสูร

       'หมู่เกาะเบเฮ็นระดับถัดไปคงมีแต่อัศวินความตายรออยู่  แถมแอ็กนัสก็ยังถือครองอัศวินความตายไว้มาก'

       คงน่าเสียดายไม่น้อยที่ต้องยอมละทิ้งพลังเทพไป  
       กริดเค้นสมองอย่างหนักเพื่อหาวิธีที่ใช้งานพลังเทพและร่างมืดได้พร้อมกัน
       จนกระทั่งเกิดเป็นไอเดียหนึ่งขึ้น

       "อาวุธที่จะสร้าง  ฉันไม่จำเป็นต้องใช้เองก็ได้นี่..."

       '...'

       ไม่ได้ใช้เอง...
       หากเป็นคนอื่นคงไม่เข้าใจความหมายของกริด
       แต่บราฮัมตระหนักได้ทันที

       'นายจะสร้างอาวุธให้หัตถ์เทวะสินะ'

       "ถูกต้อง"
       กริดเปลี่ยนเป้า  เขาเล็งสร้างอาวุธที่จะให้หัตถ์เทวะใช้งานแทน
       "อาวุธที่สร้างจากอดามันเที่ยมจะไม่ส่งผลต่อร่างมืดของฉันถ้าหากหัตถ์เทวะเป็นผู้ใช้งาน"

       'นั่นสินะ... น่าสนใจมาก'

       แต่ว่า

       'พาเฟรเนี่ยมเป็นโลหะที่สุดยอดมากก็จริง  แต่มันก็มีขีดจำกัด  หัตถ์เทวะมีความชำนาญดาบอยู่ในระดับต่ำ  ดังนั้นถึงจะใช้อาวุธดีเลิศขนาดไหน  เกรงว่ามันอาจโจมตีไม่โดยศัตรูเลยสักครั้งเดียว'

       ใช่แล้ว  หัตถ์เทวะเป็นได้แค่พลังเสริมเล็กน้อยเท่านั้น  
       ในตอนสู้กับครอเกล  พวกมันแทบไร้บทบาทโดยสิ้นเชิง  
       ไม่ใช่เพียงครอเกล  แต่หากศัตรูแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง  ทุกคนล้วนรับมือกับหัตถ์เทวะได้ไม่ยากเย็นทั้งสิ้น

       "นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องสร้างอาวุธให้พวกมัน"

       กริดเกิดไอเดียนี้ขึ้นระหว่างสู้กับครอเกล 
       จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากหัตถ์เทวะกำลังถือ 'อาวุธที่โจมตียังไงก็โดน' ไว้ในมือ
       พวกมันจะไม่ใช่พลังส่วนเสริมเล็กน้อยอีก  แต่จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ศัตรูต้องคอยระวัง

       "ศัตรูต้องเพ่งสมาธิทั้งฉันและหัตถ์เทวะ  นั่นจะทำให้อีกฝ่ายสิ้นเปลืองพลังใจและค่าเรี่ยวแรงอย่างมาก"

       'ฉันเข้าใจหลักการแล้ว  แต่มันมีด้วยหรือ  อาวุธที่โจมตีศัตรูโดน 100% น่ะ'

       ดาบ  ธนู  ปืน  ไม่ว่าจะมีค่าความแม่นยำในตัวอาวุธสูงขนาดไหน  แต่ก็ไม่มีอาวุธประเภทใดการันตีว่าโจมตีโดนเป้าหมายทุกครั้ง  การโจมตีชนิดไม่ล็อคเป้าจะถูกหลบหลีกได้ง่ายมาก

       'ในอีกความหมายหนึ่ง  ต้องสร้างอาวุธที่เป้าหมายไม่สามารถหลบได้'

       แสยะ

       กริดแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยและบอกกับบราฮัม

       "บราฮัม  ถ้ามีความสามารถของนายล่ะก็  สิ่งนี้เป็นไปได้แน่"
       เวทมนตร์ตรวจจับ (พัฒนา) ซึ่งสามารถเปิดเผยตำแหน่งของศัตรู
       "จะเกิดอะไรขึ้นถ้านายบีบอัดเวทมนตร์ให้อยู่ในรูปทักษะติดตัว  และฉันนำมันไปฝังไว้ในอาวุธ"
       
       ทั้งเป้าหมายที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนตาเปล่ามองไม่ทัน  และเป้าหมายที่เคลือนไหวพิสดารเพื่อหลอกหล่อให้อีกฝ่ายโจมตีไปยังทิศทางตรงกันข้าม  การกระทำทั้งหมดล้งนสูญเปล่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเวทมนตร์ตรวจจับ
       เวทมตร์ตรวจจับ (พัฒนา) สามารถจับสัญญาณของสิ่งมีชีวิตได้ทุกชนิดและระบุตำแหน่งอย่างไม่มีวันผิดพลาด       

       'อาวุธจะโจมตีใส่ตำแหน่งที่ตรวจจับได้โดยอัตโนมัติ...'

       วิธีการนี้แม้จะมีความแม่นยำในการโจมตีสูงมาก  แต่ก็มีผลเสียร้ายแรงเช่นกัน
       เวทมนตร์ตรวจจับมีกลไกลการทำงานด้วยหลักการ 'ตรวจจับมานา'
       ในอีกความหมายหนึ่ง  เวทมนตร์ชนิดนี้ไม่สามารถระบุได้ว่า 'แหล่งมานา' ที่ตรวจจับได้มีความอันตรายหรือไม่  หากผู้เล่นใช้อาวุธชนิดนี้เคลื่อนไหวไปตามจุดที่มานาระบุ  นั่นอาจนำพาไปสู่หายนะร้ายแรงได้โดยไม่รู้ตัว   
       ปลายทางมานาอาจเป็นเวทมนตร์อันทรงพลังรออยู่
       แต่มันจะแตกต่างโดยสิ้นเชิงหากผู้ใช้งานคือหัตถ์เทวะ  
       หัตถ์เทวะคือไอเท็มที่มีค่าความคงทนไร้ขีดจำกัด  ความเสียหายที่มันได้รับจะไม่ถูกส่งผ่านมาถึงกริด  หมายความว่าต่อให้หัตถ์เทวะตามเวทตรวจจับไปและพบกับอันตราย  กริดก็ไม่มีสิ่งใดให้กังวล

       "เป็นยังไงบ้าง  แต่มันจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อนายยอมร่วมมือล่ะนะ"       

       'นี่นาย...'

       บราฮัมเพียงอยากเห็นว่ากริดจะสร้างไอเท็มชนิดใด  แต่เขาไม่ได้ต้องการลงมือลงแรงสักหน่อย
       แม้บราฮัมอาจมีความชื่นชอบในตัวกริดมากเป็นทุนเดิม  ทว่าเขาก็ไม่ต้องการถูกใช้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว  
       ในขณะที่บราฮัมไม่พอใจและกำลังจะปฏิเสธ
       
       "ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร  การบีบอัดและเปลี่ยนรูปมานาไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว"

       กริดยั่วยุ

       'นายพูดว่าใครทำไม่ได้!  ก็แค่ของกล้วยๆ!'

       ความหยิ่งทระนงอันแรงกล้าย่อมทำให้ตกหลุมพรางคำยั่วยุได้ง่าย
       ไม่ใช่เพราะโง่  แต่เพราะต้องการเอาชนะ

       'ฮึ!'

       กริดเอ่ยปากขอร้องซ้ำ

       "ฉันต้องการพลังที่ยิ่งใหญ่ของนาย  ได้โปรดให้ฉันยืมมันด้วย"

       'แล้วทำไมฉันต้องทำให้...'

       "นายเองก็ตั้งตารอชมอยู่ไม่ใช่หรือ  ว่าอาวุธที่ช่างตีเหล็กในตำนานและมหาจอมเวทย์ในตำนานร่วมมือกัน  มันจะออกมายอดเยี่ยมแค่ไหน  ทั่วโลกต้องตกตะลึงแน่"

       "...อะแฮ่ม"

       บราฮัมเองก็เริ่มอยากรู้  ดูเหมือนการยื่นมือช่วยกริดก็น่าสนุกไม่น้อย

       'เวทมนตร์ของเราทำอะไรได้มากกว่าที่คิด  เฉกเช่นพาเฟรเนี่ยม  และการได้ลองทำสิ่งแปลกใหม่ก็ทำให้เราได้รับความรู้เพิ่มขึ้นเสมอ'

       บราฮัมพลันย้อนนึกกลับไปตอนที่ตนร่วมมือสร้างพาเฟรเนี่ยมกับแพ็กม่า
       ทันใดนั้น  อารมณ์ของเขาเริ่มแปรปรวน  
       บราฮัมกลัวว่าตอนนี้กริดอาจยังสนุกอยู่  แต่อนาคตล่ะ  กริดอาจทิ้งตนไปเหมือนแพ็กม่าก็ได้

       'เฮ่อ...'
       บราฮัมไรคำพูด  เขาได้แต่ถอนหายใจและรำพันกับตนเองอย่างเงียบงัน
       'ตัวเรา...  มหาจอมเวทบราฮัมผู้นี้... หวาดกลัวการถูกทิ้งมากที่สุด'

       ดูเหมือนตนและกริดจะสนิทสนมกันมานานแล้ว
       หากถูกกริดหักหลังล่ะก็  เกรงว่าคงจะเจ็บปวดมากแน่

       '...เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  ตัวเราในปัจจุบันช่างแสนอ่อนแอ'

       ดวงวิญญาณของตนจากร่างเนื้อมานานเกินไป
       จิตใจเริ่มไม่เข้มแข็งเหมือนเมื่อก่อน  ราวกับไม่มีแก่นสารให้ยืดเหนี่ยว

       'เหตุใดเราถึงถวิลหาชีวิตใหม่นักนะ...'

       กาลเวลาเปลี่ยนผันรวดเร็ว  คนรุ่นใหม่กำลังสยายปีกอย่างองอาจแทนที่รุ่นเก่า
       จะต้องมีสักวันที่ชื่อเสียงของตำนานในอดีตอย่างตนถูกลดค่าลง
       เมื่อบราฮัมได้รับชีวิตใหม่  บางทีเขาอาจไม่มีสิทธิ์ทระนงตนอย่างองอาจเหมือนในอดีตอีกแล้ว  บางทีอาจมีเพียงความอับอายรออยู่เบื้องหน้า

       'หรือต่อให้ไม่เป็นเช่นนั้น  เราก็คงถูกคุกคามด้วยฝีมือแมรี่โรสและจอมอสูรอยู่ดี… สมควรถึงเวลาปล่อยว่างแล้วรึยังนะ'

       บราฮัมพยายามข่มความรู้สึกอ่อนแอนี้ไว้  เขาได้แต่หวังว่ากริดจะไม่ได้ยินข้อความที่ตนรำพันอยู่ภายในใจคนเดียว  
       แต่บราฮัมอยู่กับกริดมานานแล้ว  ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร  กริดก็สามารถอ่านหัวใจบราฮัมได้ทะลุปรุโปร่ง
       "นายจะรีบปล่อยวางไปทำไม  นายยังปล่อยวางไม่ได้!  จนกว่าจะสอนเวทมนตร์ให้ฉันครบทุกชนิด!"

       '...นั่นสินะ'

       ในที่สุดบราฮัมก็ตระหนัก  
       กริดไม่เหมือนกับแพ็กม่า  แพ็กม่านั้นอัดแน่นไปด้วยอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่เพื่อมวลมนุษยชาติ  และเขาก็ซื่อตรงกับอุดมการณ์นั้นมาก  ทำให้สายสัมพันธ์ที่เปราะบางของคนสองคนถูกตัดขาดได้ง่ายเมื่อมองถึงภาพรวมเป็นสำคัญ  
       ในทางกลับกัน  กริดไม่ใช่นักบุญ  เรื่องการผดุงคุณธรรมเพื่อโลกใบนี้  เลิกคิดไปได้เลย  กริดทำทุกสิ่งก็เพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้องเท่านั้น  
       พ้องพ้องที่มีไม่มาก  แต่ทุกคนล้วนสำคัญต่อกริดยิ่ง
       บราฮัมจึงตระหนัก

       'ชายคนนี้ไม่มีวันทอดทิ้งเราสินะ'

       บราฮัมกำลังดีใจ  แต่เขาส่งเสียงพูดกับกริดอย่างเย็นชาเพราะต้องการเก็บซ่อนมันไว้

       'ไม่มีทางที่คนสมองทึบอย่างนายจะเรียนเวทมนตร์จากฉันได้ครบทุกชนิดก่อนตายแน่!  หากนายต้องการเรียนรู้เวทมนตร์ให้ได้มากที่สุดล่ะก็  ห้ามทรยศฉันเด็ดขาด!  เข้าใจรึเปล่า'

       กริดพลันอมยิ้มอย่างอบอุ่นหัวใจ
       ชายหนุ่มยักไหล่

       "เห็นทีคงต้องเป็นแบบนั้น"

       กริดกำลังสร้างมิตรภาพกับเพื่อนที่แปลกประหลาด  
       คนทั้งสองไม่มีสิ่งใดเหมือนกันเลยสักนิด
       ในขณะเดียวกัน  มีใครบางคนกำลังจ้องมองกริดจากอีกมุมหนึ่งของโรงตีเหล็ก
       เป็นข่าน       
       
       ข่านกำลังร่ำไห้

       "ถึงขั้นพูดโต้ตอบกับตัวเองแล้วหรือ… โรคร้ายของเขากำเริบถึงขั้นนี้แล้วสินะ"

       ข่านเข้าใจผิดมหันต์
       นี่คือความสำคัญของการรักษาภาพพจน์

       ***

       "การออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนาน"

[ การออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนาน ]
       จำนวนครั้งการออกแบบจะเพิ่มขึ้น 3 ครั้งเมื่อทักษะ 'การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน' เพิ่มขึ้น 1 ระดับ
จำนวนไอเท็มที่ออกแบบได้ : 11/24
* เมื่อไอเท็มถูกผลิตขึ้นด้วยสูตรการผลิตที่ออกแบบเอง  นามของผู้สร้างจะปรากฏอยู่บนไอเท็ม

       ในขณะที่กริดใช้ทักษะ

       ติ๊ง~!

       ทั้งเสียงและข้อความระบบปรากฏขึ้นพร้อมกัน

[ ท่านต้องการสร้างไอเท็มชนิดใด ]

       เขามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว  จึงปราศจากความลังเลโดยสิ้นเชิง
       "ค้อน...  ฉันจะสร้างค้อน"

Comments

  1. ค้อนสายฟ้า 555

    ReplyDelete
    Replies
    1. ค้อนโยเนียร์ของเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ สินะ เดาไม่ยาก

      Delete
  2. บุตรแห่งแอสการ์ด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00