จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 483



       "กริดดดดด!"

       "หือ"

       หลังจากผ่านช่วงเวลาอันเร่าร้อนกับไอรีนและคุยกับเฟคเกอร์เสร็จ  กริดก็หมกตัวอยู่ภายในโรงตีเหล็กข่าน  
       เสียงเรียกขานของใครบางคนดังขึ้น         
       เป็นยูเฟอมิน่า

       "มีอะไรน่ายินดีรึไง  ถึงเอะอะโวยวายเสียงดังขนาดนี้"

       ทันใดนั้น  กริดพลันเอะใจบางสิ่ง

       'หรือการใช้หนังสือเวทมนตร์มูมัดจะได้ผลลัพธ์ดีกว่าที่คิดไว้'

       กริดไม่คาดหวังมากนัก  
       เขาคงรู้สึกผิดหวังมากกว่าหากหนังสือเวทมนตร์มูมัดมีประสิทธิภาพต่ำ  กริดตัดสินใจไม่รีบนับจำนวนลูกเจี๊ยบก่อนที่ไข่ไก่จะฟัก  
       ทันใดนั้น  ยูเฟอมิน่าได้พุ่งเข้ามาประชิดตัวอย่างรวดเร็ว  
       หญิงสาวร่างเล็กหุ่นสมส่วนที่ดูราวกับเป็นกระรอกตัวน้อย  เธอช่างเหมาะสมกับแผ่นอกอันใหญ่และบึกบึนของกริด       

       ชายหนุ่มพลันออกอาการลนลานเมื่อถูกยูเฟอมิน่าสวมกอดอย่างแนบแน่นโดยไม่ทันตั้งตัว

       "น--นี่!  เกิดอะไรขึ้น"

       แม้เขาจะเป็นชายที่ผ่านการสมรสแล้ว  แต่กริดก็ยังไม่คุ้นชินกับการถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาวอื่นที่ไม่ใช่ไอรีน  ผิวหนังอันอ่อนนุ่มของยูเฟอมิน่าทำให้หัวใจของเขาเต้มโครมคราม
       กริดรีบดันตัวยูเฟอมิน่าออก  แต่เธอก็โผกอดกริดอีกครั้งอย่างดื้อรั้น

       "ขอบคุณมาก...!  ขอบคุณมากจริงๆ!"

       "...ฮะฮะ"
       ยูเฟอมิน่าดีใจจนถึงขั้นหลั่งน้ำตา  แม้แต่กริดเองก็ดีใจตามไปด้วย
       "ไม่ต้องขอบคุณฉัน  ยินดีด้วยนะ"

       กริดอมยิ้มพร้อมกับลูบเส้นผมสีบลอนของยูเฟอมิน่าอย่างทะนุถนอม  
       ยูเฟอมินรู้สึกชื่นชอบในฝ่ามือที่ใหญ่และอบอุ่นของกริด  ทั้งห่วงใยและพึ่งพาได้  เป็นชายที่อยู่ด้วยแล้วอุ่นใจอย่างแท้จริง
       หากเธอมีพี่ชายสักคน  ก็คงจะรู้สึกเช่นนี้สินะ

       "ช--เชี่ย..."

       กริดพลันตกตะลึงจนเหงื่อแตกพลั่กในยามที่กำลังลูบหัวและกอดกลมอยู่กับยูเฟอมิน่า  
       เป็นเพราะตอนนี้  เขากำลังสบตาอยู่กับลอร์ด  บุตรชายที่กำลังหันมามองตนด้วยสายตาใคร่รู้

       "ล--ลูกดูอยู่ตั้งแต่เมื่อไร"

       ฉากนี้อาจทำให้บ้านแตกได้!
       กริดกำลังสั่นระริกอย่างหวาดผวาและรู้สึกผิดสุดขีด  
       ลอร์ดตอบกลับอย่างไร้เดียงสา
       "ผมเห็นตั้งแต่ที่ท่านพ่อเริ่มกอดกับพี่สาวสุดสวยคนนี้"

       "พ่อไม่ได้กอดเธอ!"
       กริดโพล่งขึ้นอย่างลนลานพร้อมกับดันตัวยูเฟอมิน่าออกไป
       หลังจากนั้นเขาก็รีบปรี่หาลอร์ดและก้มลงกระซิบข้างหู
       "อ--อย่าบอกแม่เด็ดขาด!  เข้าใจรึเปล่า!"

       กริดขอร้องเพื่อความสงบสุขของโลก  
       ลอร์ดอมยิ้มเล็กน้อยอย่างเอ็นดูพร้อมกับกล่าวว่า

       "พี่สาวสุดสวยคนนี้เป็นคนรักของพ่อสินะ!"

       "อ--อะไรนะ..."

       ผู้ชายแต่งงานแล้วอย่างตนกำลังแอบนอกใจภรรยางั้นหรือ
       ได้ยินถึงไหนอายถึงนั่น
       แต่เจ้าลอร์ดตัวน้อยคือคาสโนว่าระดับบอสที่มีคนรักมากถึง 200 คน  มีหรือจะมองว่าของเล็กน้อยเช่นนี้เป็นเรื่องใหญ่

       "ไม่ใช่แบบนั้น!  อย่าพูดให้แม่ได้ยินเด็ดขาด!  ลอร์ดลูกพ่อ  พี่สาวคนนี้ไม่ใช่คนรักของพ่อ  แต่เป็น..."

       "เป็นอะไร... คนรักคนแรก  รึว่าคนที่สอง...  ท่านพ่อสุดยอด!"

       "สุดยอดงั้นหรือ..."

       ในฐานะผู้ชายที่แต่งงานแล้ว  ลอร์ดเข้าใจผิดว่าบิดาของตนกำลังนอกใจ  ถึงกระนั้นกลับยังบอกว่าเป็นเรื่องที่สุดยอด  ดูเหมือนลอร์ดจะมีมุมมองต่อเพศตรงข้ามที่ผิดแผกพิสดาร  
       กริดเริ่มเป็นกังวลแทนว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคต

       "จะมีใครยอมแต่งงานกับลูกบ้างล่ะเนี่ย..."

       ใช่แล้ว  ภรรยาในอนาคตของลอร์ดคงน่าสงสารมากแน่  กริดเริ่มเป็นกังวลกับบุตรชายคนนี้

       ***

       "เหนือว่าที่คิดไว้มากทีเดียว"

       ณ โรงตีเหล็กข่าน

       กริดประหลาดใจมากเมื่อได้อ่านรายละเอียดภารกิจลับของยูเฟอมิน่าจนหมด  
       คลาสเกรดเลเจนดารีชนิดเติบโต
       ต่อให้กริดรวบรวมองค์ความรู้ของแพ็กม่าและบราฮัมไว้  เขายังมีข้อมูลเพียงเศษเสี้ยวของคลาสเกรดมิธ  แต่ผู้สืบทอดแห่งมูมัดกลับเป็นคลาสชนิดเติบโตที่สามารถพัฒนาเป็นเกรดมิธได้โดยตรง

       ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ

       'มูมัดอัจฉริยะระดับเดียวกับลอร์ดเลยสินะ'

       เขาคือตัวตนที่ยอดเยี่ยมขนาดบราฮัมยังมองเป็นภัยคุกคาม  
       ในขณะที่กริดกำลังชื่นชม  ดวงวิญญาณของบราฮัมก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา

       'ไม่มีสิ่งใดที่ต้องประหลาดใจ  ถ้าหากมูมัดมีอายุขัยนานกว่านี้อีกสักหน่อย  เด็กคนนั้นสามารถก้าวข้ามมุลเลอร์ได้แน่'

       "..."

       อริยดาบมุลเลอร์ที่ผนึกจอมอสูรชื่อดังตัวแล้วตัวเล่า  
       มูมัดคือตัวตนที่มีพรสวรรค์เหนือกว่านั้น

       'สุดยอดเลยแฮะ'

       พวกพ้องของตนมีโอกาสได้รับคลาสที่ดีที่สุดของเกม  กริดรู้สึกยินดีมากกว่าริษยา

       'นายมันใจอ่อน'

       'ก็ยังดีกว่าเป็นคนใจแคบที่คิดริษยาพวกพ้องแหละน่า'

       สำหรับกริดแล้ว  ยิ่งพวกพ้องแข็งแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งดีต่อเขามากเท่านั้น

       'ไม่ดีรึไงที่มีคนพึ่งพาได้เพิ่มขึ้น'

       'ไร้สาระ'

       หากผู้หญิงตรงหน้ากลายเป็นผู้สืบทอดแห่งมูมัดจริง  เธอคนนี้จะแข็งแกร่งกว่ากริดได้หรือ
       บราฮัมไม่กล้าถามคำนี้ออกไป  เขาเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ  บราฮัมจะไม่ชื่นชมในศักยภาพของกริดออกมาตรงๆ เด็ดขาด

       "ยินดีด้วยยูเฟอมิน่า!"
       
       ยูเฟอมิน่าอมยิ้มอย่างเขินอายเมื่อกริดแสดงความยินดีจากใจ

       "ฉันอยากเป็นกำลังที่สำคัญให้นายในอนาคต"

       'ชิ!  หล่อนคิดว่ามันง่ายนักรึไง!'

       บราฮัมเริ่มหงุดหงิด  เขาพยายามยั่วยุกริด

       'ลืมอะไรไปรึเปล่า  นายยังไม่รู้จักความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลด้วยซ้ำ  แม้กระทั่งอริยดาบมุลเลอร์ก็ไม่อาจสู้กับแพ็กม่าที่ครอบครองพลังผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลได้  นายควรรู้ไว้ว่า  การสู้กับคนผู้นั้นให้ชนะและปลดปล่อยดวงวิญญาณมูมัดเป็นอิสระ  โอกาสสำเร็จแทบเป็นศูนย์'

       'หยุดพูดเรื่องไม่จำเป็นสักที'

       ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล  
       หรือก็คือ  มนุษย์ที่ทำพันธสัญญากับจอมอสูรลำดับหนึ่ง 'บาเอล'  
       ข้อมูลจากหมู่เกาะเบเฮ็นทำให้กริดได้รู้ว่า  ในอดีต  ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคือแพ็กม่า

       'แต่แพ็กม่าตายไปแล้ว... เช่นนั้นใครคือผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคนปัจจุบัน'

       บราฮัมตอบกริดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

       'ลูกน้องของนายรู้จักเป็นอย่างดี  ลองถามพวกเขาดูสิ'

       "เอ๋...!"

       กริดที่แสดงสีหน้าครุ่นคิดและยืนนิ่งเงียบในโรงตีเหล็กมานาน  บัดนี้หลุดปากโพล่งขึ้นต่อหน้าทุกคน
       
       "มีอะไรงั้นหรือ"
       ยูเฟอมิน่าถามอย่างสงสัย

       "ใครคือผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล"

       "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินอะไรแบบนี้"

       "หืม"

       ไม่แปลกที่ข้อมูลของขุมนรกจะไม่เป็นที่รู้จักโดยผู้เล่นส่วนใหญ่  และยูเฟอมิน่าคือหนึ่งในกลุ่มนี้  
       ลงเอยด้วย  กริดตัดสินใจถามลงในช่องสนทนากิลด์

       { พวกนายมีใครรู้จักผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลรึเปล่า }

       { ฉันไม่รู้ }

       { มันคืออะไร }

       ไม่มีใครรู้เลยสักคน  กริดขมวดคิ้วพร้อมกับถามย้ำบราฮัม

       'พวกนั้นไม่รู้...  นายอุตส่าห์ยอมบอกใบ้  แต่นั่นกลับเป็นเรื่องโกหกงั้นหรือ'
       
       'ลองเปลี่ยนคำถามดู  ให้ถามพวกเขาเกี่ยวกับผู้เล่นคลาสหมอผีที่เคยพบในเมืองแวมไพร์'

       'เมืองแวมไพร์...'

       ลอเอล  จิสึกะ  ป็อน  เรกัส  แวนเนอร์  และอีกหลายคนได้พบแอ็กนัสโดยบังเอิญที่เมืองแวมไพร์  แต่กริดไม่รู้เรื่องนี้
       กริดเปลี่ยนคำถาม

       { ผู้เล่นคลาสหมอผีที่พวกนายพบในเมืองแวมไพร์... มันเป็นใคร }

       { ... }

       ลอเอลและจิสึกะพลันสะดุ้งเมื่อรู้ว่าคนที่กริดถามหาคือแอ็กนัส  
       ทุกคนในกิลด์  ไม่มีใครต้องการให้กริดเผชิญหน้ากับแอ็กนัสตอนนี้
       เมื่อกริดเห็นว่าหน้าต่างข้อความกิลด์เงียบกริบ  เขาจึงถามอีกครั้ง

       { ไม่มีใครรู้เลยรึไง }

       { กริด  นายอยู่ไหน }

       หลังจากนั้นไม่นาน  ลอเอลก็รีบเดินทางมายังโรงตีเหล็ก

       "ทำไมนายถึงถามเรื่องผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล"

       กริดหันไปมองยูเฟอมิน่าเพื่อส่งสัญญาณ  เธอจึงแชร์รายละเอียดภารกิจให้ลอเอล
       หลังจากอ่านจบ  ลอเอลก็แสดงความชื่นชม

       "ไม่น่าเชื่อ...! คลาสชนิดเติบโตที่มีเกรดเริ่มต้นคือเลเจนดารี...!"

       ทว่า
       
       'ในการจะสำเร็จภารกิจนี้  เธอต้องกลายเป็นศัตรูกับแอ็กนัสโดยปริยาย... โชคชะตากำลังเล่นตลกรึไงนะ  หรือความชั่วในชาติก่อนของเราทำให้พวกพ้องต้องพบชะตากรรมเช่นนี้... ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแล้วแท้ๆ'

       สีหน้าลอเอลพลันหมองหม่น

       กริดถามอีกครั้ง
       "ทำไมนายถึงมีสีหน้ากังวลมากกว่าดีใจ  ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคือใครกันแน่  ทำไมนายถึงต้องหวาดกลัวขนาดนี้"

       เฮ่อ...

       ลอเอลสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งครั้ง
       ก่อนจะพ่นชื่อของผู้เล่นที่เขาไม่ต้องการเอ่ยถึงที่สุดออกมา

       "...แอ็กนัส"

       "เป็นแอ็กนัสงั้นหรือ"

       กริดรู้จักชื่อนี้ดี  ผู้เล่นอันดับห้าของโลกหลังจากยูร่าและครอเกลสละตำแหน่ง  
       ผู้เล่นที่ได้รับคลาสเกรดอีปิกในยุคบุกเบิกซาทิสฟายร่วมกับแค็ทซ์และยูเฟอมิน่า  
       ยูร่าเคยกล่าวไว้นานแล้วว่า  แม้แต่เธอก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้แอ็กนัส

       "เรื่องใหญ่ทีเดียว"

       กริดเดาได้ทันทีว่าแอ็กนัสแข็งแกร่งขนาดไหน  ไม่เพียงเป็นหนึ่งในสามคลาสอีปิกแรกของโลก  แต่เมื่อครู่บราฮัมเพิ่งจะบรรยายสรรพคุณว่าคลาสของแอ็กนัสยอดเยี่ยมเพียงใด  
       ใช่แล้ว  แอ็กนัสต้องเก่งกาจมากแน่  ระดับต่ำสุดคือเทียบเท่าครอเกล

       "แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องหวั่นเกรง  พลังอำนาจของกิลด์โอเวอร์เกียร์นั้นยิ่งใหญ่จนไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวผู้เล่นเพียงคนเดียว  รีบหาแอ็กนัสให้พบและรุมจัดการให้เสร็จภารกิจ"

       คิดโจมตีอีกฝ่ายโดยไม่มีความบาดหมางต่อกันมาก่อน  สิ่งนี้ผิดศีลธรรมไม่น้อย  ซึ่งกริดก็ตระหนักได้เป็นอย่างดี
       แต่ถึงกระนั้นเขาก็มิได้ลังเล  การพัฒนาตนเองเพียงอย่างเดียวไม่มีวันทำให้ตนเป็นกษัตริย์ได้แน่  เพื่อการนั้น  เขาต้องก่อสงครามและเป็นศัตรูกับอีกหลายฝ่าย  กริดเตรียมใจไว้กับเรื่องนี้นานแล้ว

       ลอเอลรู้สึกดีที่กริดมีความมุ่งมั่น  แต่เขามีหน้าที่ต้องสงบสติอารมณ์กริด

       "ยังเร็วเกินไปที่จะเป็นศัตรูกับแอ็กนัสตอนนี้  เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  แอ็กนัสมิได้ตัวคนเดียว  มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบในความบ้าคลั่งและเสียสติของมัน  กิลด์ขนาดน้อยใหญ่มากมายได้ลั่นสัตย์สาบานว่าจะรับใช้และจับมือเป็นพันธมิตร  พวกเราต้องเตรียมรับมือกับสงครามเต็มรูปแบบขนาดใหญ่  ซึ่งตอนนี้ไม่พร้อมเลยสักนิด"

       กษัตริย์อัสลันแห่งอีเทอนัลมีจักรวรรดิซาฮารันอยู่เบื้องหลัง  และอัสลันคือผู้ที่ป้ายสีว่ากริดคือคนฆ่าองค์ชายเร็น  แน่นอนว่ามันย่อมจับตามองเรย์ดันและโอเวอร์เกียร์อยู่ตลอดเวลา

       "หากเราก่อสงครามกับแอ็กนัส  เราจะถูกอีเทอนัลลอบโจมตี"

       "หืม... นายไม่ปอดแหกเกินไปหน่อยหรือ  อย่าลืมว่ากำลังรบของพวกเราจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าเมื่อยูเฟอนิม่ากลายเป็นผู้สืบทอดแห่งมูมัด  ถ้าเราปลุกปั้นเธอด้วยทุกสิ่งที่มี  รับรองได้เลยว่าทั้งทัพของอีเทอนัลและทัพแอ็กนัสจะถูกถล่มราบคาบในพริบตา"

       "นายคิดผิดตั้งแต่ต้น  อย่าลืมว่าแอ็กนัสแข็งแกร่งเพียงใด  แม้พวกเราทุกคนจะรุมสังหาร  แต่ก็มีโอกาสไม่สำเร็จอยู่มาก  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรากลายเป็นศัตรูกับแอ็กนัสโดยที่เธอทำภารกิจไม่สำเร็จ  ดินแดนของพวกเราทุกหนแห่งจะลุกเป็นไฟ"

       กริดไม่อาจยอมรับได้

       "นายกำลังพูดเรื่องอะไร  พวกเราไม่สามารถเอาชนะผู้เล่นเพียงคนเดียวได้  แม้ขุนพลหัวกะทิโอเวอร์เกียร์ทุกคนจะร่วมมือกันงั้นหรือ"

       "แอ็กนัสก้าวข้ามขีดจำกัดของ 'ผู้เล่นเพียงคนเดียว' ไปไกลมากแล้ว"       

       ในยามที่พวกเขาเผชิญหน้ากับแอ็กนัสในเมืองแวมไพร์  ชายคนนั้นครอบครองลิชและอัศวินความตายที่แข็งแกร่งไว้มากมาย  ภายหลังก็ไม่ได้เข้าร่วมในงานแข่งนานาชาติหรือกิจกรรมภายนอกอื่นเลย
       หมายความว่า  แอ็กนัสกำลังพัฒนาตนเองด้วยสปีดที่ไม่มีใครจินตนาการออก  

       "ต้องขอโทษที่พูดแบบนี้  หากมองในด้านพลังต่อสู้เพียงอย่างเดียว  แอ็กนัสจะแข็งแกร่งกว่านายหรือครอเกลหลายเท่าตัว  และพวกเราก็ไม่สามารถส่งขุนพลหัวกะทิของโอเวอร์เกียร์ทุกคนออกไปทำภารกิจพร้อมกันได้  ความปลอดภัยของเรย์ดันลดต่ำลงมากแล้วในยามที่พวกเราไปช่วยไซเรน  ทุกคนกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อกู้คืนกลับมา  และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  ถ้านายไม่อยากถูกทิ้งไว้ด้านหลัง  จงรีบเก็บเลเวลตามคนอื่นให้ทันซะ"

       "..."

       กริดได้ยินเช่นนี้จึงขมวดคิ้ว 
       เขาเชื่อมั่นในคำแนะนำของลอเอลยิ่งกว่าใครก็จริง  
       แต่ครั้งนี้...

       'แข็งแกร่งกว่าฉันคนนี้... หลายเท่า'

       บราฮัมก็เคยพูดว่าไว้  เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเอาชนะผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลและปลดปล่อยวิญญาณมูมัดสำเร็จ  
       แต่บราฮัมส่วนบราฮัม  ลอเอลส่วนลอเอล
       ลอเอลเป็นใคร  เขาไม่มีใครทางรู้ปูมหลังของขุมนรก  ไม่รู้จักบาเบล  ไม่รู้จักแม้กระทั่งการทำพันธสัญญา  ถึงกระนั้นลอเอลกลับพูดแบบเดียวกับบราฮัมทุกประการ  
       จึงไม่แปลกที่ความทรนงของกริดกำลังถูกระคายเคือง  
       ลอเอลยังคงพูดต่อโดยไม่สนใจว่ากริดกำลังเจ็บใจมากเพียงใด

       "แอ็กนัสเป็นพวกเสียสติและหลุดโลก  ไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะเป็นศัตรูกับคนแบบนี้  พวกเราอาจทุกข์ทรมาณไปทั้งชีวิตที่เหลืออยู่  ด้วยความสัตย์จริง  ฉันไม่อยากให้กิลด์โอเวอร์เกียร์ต้องพังทลายลงเพียงเพราะพวกเราตัดสินใจผิดพลาด..."
       แต่ลอเอลก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า  ภารกิจของยูเฟอมิน่าคือสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จในสักวัน
       แอ็กนัสคือศัตรูที่ต้องโค่นไม่ช้าก็เร็ว
       "ก่อนอื่น  พวกเราต้องจัดการกับปัญหาฝั่งอีเทอนัลให้เรียบร้อยเสียก่อน  หากทุกสิ่งมั่นคงและพวกเราพร้อมรบเต็มที่  ฉันจะช่วยวางแผนว่าเราควรทำยังไงกับแอ็กนัส"

       "...เข้าใจแล้ว"

       กริดเชื่อใจลอเอล  นั่นคือสาเหตุที่เขามอบหมายหน้าที่ตัวแทนลอร์ดให้ลอเอลจัดการ
       กริดจะไม่มองข้ามการตัดสินใจหรือคำแนะนำของลอเอลเด็ดขาด  ยกเว้นเรื่องการตั้งชื่อ

       "ฉันจะพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจกับเวทย์ชนิดใหม่ไปก่อนก็แล้วกัน  เพราะไม่ว่ายังไง  นี่ก็เป็นภารกิจของฉัน  ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้ได้"

       เมื่อการสนทนาจบลง  ยูเฟอมิน่าก็ลุกยืนขึ้น  สีหน้าของเธอตอนนี้กำลังแสดงออกอย่างชัดเจนว่า  'ฉันจะไม่เป็นตัวถ่วงให้พวกพ้อง'   ยูเฟอมิน่าก้มศีรษะลงเล็กน้อยและเดินออกจากโรงตีเหล็กเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอฝึกเวทมนตร์       
       เธอต้องรีบทำความเข้าใจพลังใหม่ที่ได้รับมาโดยไว  
       ส่วนลอเอลก็แยกย้ายกลับไปทำงาน

       กริดถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหน้าเตาหลอม 
       สำหรับเขาที่มีเป้าหมายเป็นครอเกลมาตลอด  การปรากฏตัวของแอ็กนัสได้ส่งผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างมาก

       "แข็งแกร่งกว่าเราหลายเท่า... ก้าวข้ามขีดจำกัดของ 'ผู้เล่นเพียงคนเดียว' ไปไกลมากแล้ว"

       กริดไม่ยอมรับเด็ดขาด
       เขานำโลหะแห่งเทพ 'อดามันเที่ยม' ที่ได้รับจากเหรียญทองซาทิสฟายนานาชาติออกมาถือไว้ในมือ
       ตนจะนำสิ่งนี้มาสร้างเป็นไอเท็มใดเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น
       กริดเคยคิดเรื่องนี้มานานแล้ว  
       ระดับสมาธิของเขากำลังเข้าสู่ภาวะจดจ่อ  ตนมั่นใจมากว่าจะสร้างสุดยอดไอเท็มขึ้นมาได้

Comments

  1. เปลี่ยนเป้าหมายแล้ว ....ขนาดมีตำนานอยู่ข้างกายมากมายยังสู้ไม่ได้ ......แล้วต่อไปจะเป็นยังไง .........รอลุ้น ต่อไปสิครับ "_"

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete
  3. ไอเท็มระดับมิธ จะบังเกิดตอนไหนเนี้ย

    ReplyDelete
    Replies
    1. น่าจะตอนไปทวีปตะวันออก

      Delete
    2. ผมว่าไอ้ที่กำลังจะสร้างอาจจะเป็นก็ได้ ยังมีศิลาสายฟ้าที่ได้จากธนูอีกยังไม่ได้ใช้เลย

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00