จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 483
"กริดดดดด!"
"หือ"
หลังจากผ่านช่วงเวลาอันเร่าร้อนกับไอรีนและคุยกับเฟคเกอร์เสร็จ กริดก็หมกตัวอยู่ภายในโรงตีเหล็กข่าน
เสียงเรียกขานของใครบางคนดังขึ้น
เป็นยูเฟอมิน่า
"มีอะไรน่ายินดีรึไง ถึงเอะอะโวยวายเสียงดังขนาดนี้"
ทันใดนั้น กริดพลันเอะใจบางสิ่ง
'หรือการใช้หนังสือเวทมนตร์มูมัดจะได้ผลลัพธ์ดีกว่าที่คิดไว้'
กริดไม่คาดหวังมากนัก
เขาคงรู้สึกผิดหวังมากกว่าหากหนังสือเวทมนตร์มูมัดมีประสิทธิภาพต่ำ กริดตัดสินใจไม่รีบนับจำนวนลูกเจี๊ยบก่อนที่ไข่ไก่จะฟัก
ทันใดนั้น ยูเฟอมิน่าได้พุ่งเข้ามาประชิดตัวอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวร่างเล็กหุ่นสมส่วนที่ดูราวกับเป็นกระรอกตัวน้อย เธอช่างเหมาะสมกับแผ่นอกอันใหญ่และบึกบึนของกริด
ชายหนุ่มพลันออกอาการลนลานเมื่อถูกยูเฟอมิน่าสวมกอดอย่างแนบแน่นโดยไม่ทันตั้งตัว
"น--นี่! เกิดอะไรขึ้น"
แม้เขาจะเป็นชายที่ผ่านการสมรสแล้ว แต่กริดก็ยังไม่คุ้นชินกับการถูกเนื้อต้องตัวหญิงสาวอื่นที่ไม่ใช่ไอรีน ผิวหนังอันอ่อนนุ่มของยูเฟอมิน่าทำให้หัวใจของเขาเต้มโครมคราม
กริดรีบดันตัวยูเฟอมิน่าออก แต่เธอก็โผกอดกริดอีกครั้งอย่างดื้อรั้น
"ขอบคุณมาก...! ขอบคุณมากจริงๆ!"
"...ฮะฮะ"
ยูเฟอมิน่าดีใจจนถึงขั้นหลั่งน้ำตา แม้แต่กริดเองก็ดีใจตามไปด้วย
"ไม่ต้องขอบคุณฉัน ยินดีด้วยนะ"
กริดอมยิ้มพร้อมกับลูบเส้นผมสีบลอนของยูเฟอมิน่าอย่างทะนุถนอม
ยูเฟอมินรู้สึกชื่นชอบในฝ่ามือที่ใหญ่และอบอุ่นของกริด ทั้งห่วงใยและพึ่งพาได้ เป็นชายที่อยู่ด้วยแล้วอุ่นใจอย่างแท้จริง
หากเธอมีพี่ชายสักคน ก็คงจะรู้สึกเช่นนี้สินะ
"ช--เชี่ย..."
กริดพลันตกตะลึงจนเหงื่อแตกพลั่กในยามที่กำลังลูบหัวและกอดกลมอยู่กับยูเฟอมิน่า
เป็นเพราะตอนนี้ เขากำลังสบตาอยู่กับลอร์ด บุตรชายที่กำลังหันมามองตนด้วยสายตาใคร่รู้
"ล--ลูกดูอยู่ตั้งแต่เมื่อไร"
ฉากนี้อาจทำให้บ้านแตกได้!
กริดกำลังสั่นระริกอย่างหวาดผวาและรู้สึกผิดสุดขีด
ลอร์ดตอบกลับอย่างไร้เดียงสา
"ผมเห็นตั้งแต่ที่ท่านพ่อเริ่มกอดกับพี่สาวสุดสวยคนนี้"
"พ่อไม่ได้กอดเธอ!"
กริดโพล่งขึ้นอย่างลนลานพร้อมกับดันตัวยูเฟอมิน่าออกไป
หลังจากนั้นเขาก็รีบปรี่หาลอร์ดและก้มลงกระซิบข้างหู
"อ--อย่าบอกแม่เด็ดขาด! เข้าใจรึเปล่า!"
กริดขอร้องเพื่อความสงบสุขของโลก
ลอร์ดอมยิ้มเล็กน้อยอย่างเอ็นดูพร้อมกับกล่าวว่า
"พี่สาวสุดสวยคนนี้เป็นคนรักของพ่อสินะ!"
"อ--อะไรนะ..."
ผู้ชายแต่งงานแล้วอย่างตนกำลังแอบนอกใจภรรยางั้นหรือ
ได้ยินถึงไหนอายถึงนั่น
แต่เจ้าลอร์ดตัวน้อยคือคาสโนว่าระดับบอสที่มีคนรักมากถึง 200 คน มีหรือจะมองว่าของเล็กน้อยเช่นนี้เป็นเรื่องใหญ่
"ไม่ใช่แบบนั้น! อย่าพูดให้แม่ได้ยินเด็ดขาด! ลอร์ดลูกพ่อ พี่สาวคนนี้ไม่ใช่คนรักของพ่อ แต่เป็น..."
"เป็นอะไร... คนรักคนแรก รึว่าคนที่สอง... ท่านพ่อสุดยอด!"
"สุดยอดงั้นหรือ..."
ในฐานะผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ลอร์ดเข้าใจผิดว่าบิดาของตนกำลังนอกใจ ถึงกระนั้นกลับยังบอกว่าเป็นเรื่องที่สุดยอด ดูเหมือนลอร์ดจะมีมุมมองต่อเพศตรงข้ามที่ผิดแผกพิสดาร
กริดเริ่มเป็นกังวลแทนว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคต
"จะมีใครยอมแต่งงานกับลูกบ้างล่ะเนี่ย..."
ใช่แล้ว ภรรยาในอนาคตของลอร์ดคงน่าสงสารมากแน่ กริดเริ่มเป็นกังวลกับบุตรชายคนนี้
***
"เหนือว่าที่คิดไว้มากทีเดียว"
ณ โรงตีเหล็กข่าน
กริดประหลาดใจมากเมื่อได้อ่านรายละเอียดภารกิจลับของยูเฟอมิน่าจนหมด
คลาสเกรดเลเจนดารีชนิดเติบโต
ต่อให้กริดรวบรวมองค์ความรู้ของแพ็กม่าและบราฮัมไว้ เขายังมีข้อมูลเพียงเศษเสี้ยวของคลาสเกรดมิธ แต่ผู้สืบทอดแห่งมูมัดกลับเป็นคลาสชนิดเติบโตที่สามารถพัฒนาเป็นเกรดมิธได้โดยตรง
ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ
'มูมัดอัจฉริยะระดับเดียวกับลอร์ดเลยสินะ'
เขาคือตัวตนที่ยอดเยี่ยมขนาดบราฮัมยังมองเป็นภัยคุกคาม
ในขณะที่กริดกำลังชื่นชม ดวงวิญญาณของบราฮัมก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา
'ไม่มีสิ่งใดที่ต้องประหลาดใจ ถ้าหากมูมัดมีอายุขัยนานกว่านี้อีกสักหน่อย เด็กคนนั้นสามารถก้าวข้ามมุลเลอร์ได้แน่'
"..."
อริยดาบมุลเลอร์ที่ผนึกจอมอสูรชื่อดังตัวแล้วตัวเล่า
มูมัดคือตัวตนที่มีพรสวรรค์เหนือกว่านั้น
'สุดยอดเลยแฮะ'
พวกพ้องของตนมีโอกาสได้รับคลาสที่ดีที่สุดของเกม กริดรู้สึกยินดีมากกว่าริษยา
'นายมันใจอ่อน'
'ก็ยังดีกว่าเป็นคนใจแคบที่คิดริษยาพวกพ้องแหละน่า'
สำหรับกริดแล้ว ยิ่งพวกพ้องแข็งแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งดีต่อเขามากเท่านั้น
'ไม่ดีรึไงที่มีคนพึ่งพาได้เพิ่มขึ้น'
'ไร้สาระ'
หากผู้หญิงตรงหน้ากลายเป็นผู้สืบทอดแห่งมูมัดจริง เธอคนนี้จะแข็งแกร่งกว่ากริดได้หรือ
บราฮัมไม่กล้าถามคำนี้ออกไป เขาเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ บราฮัมจะไม่ชื่นชมในศักยภาพของกริดออกมาตรงๆ เด็ดขาด
"ยินดีด้วยยูเฟอมิน่า!"
ยูเฟอมิน่าอมยิ้มอย่างเขินอายเมื่อกริดแสดงความยินดีจากใจ
"ฉันอยากเป็นกำลังที่สำคัญให้นายในอนาคต"
'ชิ! หล่อนคิดว่ามันง่ายนักรึไง!'
บราฮัมเริ่มหงุดหงิด เขาพยายามยั่วยุกริด
'ลืมอะไรไปรึเปล่า นายยังไม่รู้จักความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลด้วยซ้ำ แม้กระทั่งอริยดาบมุลเลอร์ก็ไม่อาจสู้กับแพ็กม่าที่ครอบครองพลังผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลได้ นายควรรู้ไว้ว่า การสู้กับคนผู้นั้นให้ชนะและปลดปล่อยดวงวิญญาณมูมัดเป็นอิสระ โอกาสสำเร็จแทบเป็นศูนย์'
'หยุดพูดเรื่องไม่จำเป็นสักที'
ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
หรือก็คือ มนุษย์ที่ทำพันธสัญญากับจอมอสูรลำดับหนึ่ง 'บาเอล'
ข้อมูลจากหมู่เกาะเบเฮ็นทำให้กริดได้รู้ว่า ในอดีต ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคือแพ็กม่า
'แต่แพ็กม่าตายไปแล้ว... เช่นนั้นใครคือผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคนปัจจุบัน'
บราฮัมตอบกริดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
'ลูกน้องของนายรู้จักเป็นอย่างดี ลองถามพวกเขาดูสิ'
"เอ๋...!"
กริดที่แสดงสีหน้าครุ่นคิดและยืนนิ่งเงียบในโรงตีเหล็กมานาน บัดนี้หลุดปากโพล่งขึ้นต่อหน้าทุกคน
"มีอะไรงั้นหรือ"
ยูเฟอมิน่าถามอย่างสงสัย
"ใครคือผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินอะไรแบบนี้"
"หืม"
ไม่แปลกที่ข้อมูลของขุมนรกจะไม่เป็นที่รู้จักโดยผู้เล่นส่วนใหญ่ และยูเฟอมิน่าคือหนึ่งในกลุ่มนี้
ลงเอยด้วย กริดตัดสินใจถามลงในช่องสนทนากิลด์
{ พวกนายมีใครรู้จักผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลรึเปล่า }
{ ฉันไม่รู้ }
{ มันคืออะไร }
ไม่มีใครรู้เลยสักคน กริดขมวดคิ้วพร้อมกับถามย้ำบราฮัม
'พวกนั้นไม่รู้... นายอุตส่าห์ยอมบอกใบ้ แต่นั่นกลับเป็นเรื่องโกหกงั้นหรือ'
'ลองเปลี่ยนคำถามดู ให้ถามพวกเขาเกี่ยวกับผู้เล่นคลาสหมอผีที่เคยพบในเมืองแวมไพร์'
'เมืองแวมไพร์...'
ลอเอล จิสึกะ ป็อน เรกัส แวนเนอร์ และอีกหลายคนได้พบแอ็กนัสโดยบังเอิญที่เมืองแวมไพร์ แต่กริดไม่รู้เรื่องนี้
กริดเปลี่ยนคำถาม
{ ผู้เล่นคลาสหมอผีที่พวกนายพบในเมืองแวมไพร์... มันเป็นใคร }
{ ... }
ลอเอลและจิสึกะพลันสะดุ้งเมื่อรู้ว่าคนที่กริดถามหาคือแอ็กนัส
ทุกคนในกิลด์ ไม่มีใครต้องการให้กริดเผชิญหน้ากับแอ็กนัสตอนนี้
เมื่อกริดเห็นว่าหน้าต่างข้อความกิลด์เงียบกริบ เขาจึงถามอีกครั้ง
{ ไม่มีใครรู้เลยรึไง }
{ กริด นายอยู่ไหน }
หลังจากนั้นไม่นาน ลอเอลก็รีบเดินทางมายังโรงตีเหล็ก
"ทำไมนายถึงถามเรื่องผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล"
กริดหันไปมองยูเฟอมิน่าเพื่อส่งสัญญาณ เธอจึงแชร์รายละเอียดภารกิจให้ลอเอล
หลังจากอ่านจบ ลอเอลก็แสดงความชื่นชม
"ไม่น่าเชื่อ...! คลาสชนิดเติบโตที่มีเกรดเริ่มต้นคือเลเจนดารี...!"
ทว่า
'ในการจะสำเร็จภารกิจนี้ เธอต้องกลายเป็นศัตรูกับแอ็กนัสโดยปริยาย... โชคชะตากำลังเล่นตลกรึไงนะ หรือความชั่วในชาติก่อนของเราทำให้พวกพ้องต้องพบชะตากรรมเช่นนี้... ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแล้วแท้ๆ'
สีหน้าลอเอลพลันหมองหม่น
กริดถามอีกครั้ง
"ทำไมนายถึงมีสีหน้ากังวลมากกว่าดีใจ ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคือใครกันแน่ ทำไมนายถึงต้องหวาดกลัวขนาดนี้"
เฮ่อ...
ลอเอลสูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งครั้ง
ก่อนจะพ่นชื่อของผู้เล่นที่เขาไม่ต้องการเอ่ยถึงที่สุดออกมา
"...แอ็กนัส"
"เป็นแอ็กนัสงั้นหรือ"
กริดรู้จักชื่อนี้ดี ผู้เล่นอันดับห้าของโลกหลังจากยูร่าและครอเกลสละตำแหน่ง
ผู้เล่นที่ได้รับคลาสเกรดอีปิกในยุคบุกเบิกซาทิสฟายร่วมกับแค็ทซ์และยูเฟอมิน่า
ยูร่าเคยกล่าวไว้นานแล้วว่า แม้แต่เธอก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้แอ็กนัส
"เรื่องใหญ่ทีเดียว"
กริดเดาได้ทันทีว่าแอ็กนัสแข็งแกร่งขนาดไหน ไม่เพียงเป็นหนึ่งในสามคลาสอีปิกแรกของโลก แต่เมื่อครู่บราฮัมเพิ่งจะบรรยายสรรพคุณว่าคลาสของแอ็กนัสยอดเยี่ยมเพียงใด
ใช่แล้ว แอ็กนัสต้องเก่งกาจมากแน่ ระดับต่ำสุดคือเทียบเท่าครอเกล
"แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องหวั่นเกรง พลังอำนาจของกิลด์โอเวอร์เกียร์นั้นยิ่งใหญ่จนไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวผู้เล่นเพียงคนเดียว รีบหาแอ็กนัสให้พบและรุมจัดการให้เสร็จภารกิจ"
คิดโจมตีอีกฝ่ายโดยไม่มีความบาดหมางต่อกันมาก่อน สิ่งนี้ผิดศีลธรรมไม่น้อย ซึ่งกริดก็ตระหนักได้เป็นอย่างดี
แต่ถึงกระนั้นเขาก็มิได้ลังเล การพัฒนาตนเองเพียงอย่างเดียวไม่มีวันทำให้ตนเป็นกษัตริย์ได้แน่ เพื่อการนั้น เขาต้องก่อสงครามและเป็นศัตรูกับอีกหลายฝ่าย กริดเตรียมใจไว้กับเรื่องนี้นานแล้ว
ลอเอลรู้สึกดีที่กริดมีความมุ่งมั่น แต่เขามีหน้าที่ต้องสงบสติอารมณ์กริด
"ยังเร็วเกินไปที่จะเป็นศัตรูกับแอ็กนัสตอนนี้ เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด แอ็กนัสมิได้ตัวคนเดียว มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบในความบ้าคลั่งและเสียสติของมัน กิลด์ขนาดน้อยใหญ่มากมายได้ลั่นสัตย์สาบานว่าจะรับใช้และจับมือเป็นพันธมิตร พวกเราต้องเตรียมรับมือกับสงครามเต็มรูปแบบขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้ไม่พร้อมเลยสักนิด"
กษัตริย์อัสลันแห่งอีเทอนัลมีจักรวรรดิซาฮารันอยู่เบื้องหลัง และอัสลันคือผู้ที่ป้ายสีว่ากริดคือคนฆ่าองค์ชายเร็น แน่นอนว่ามันย่อมจับตามองเรย์ดันและโอเวอร์เกียร์อยู่ตลอดเวลา
"หากเราก่อสงครามกับแอ็กนัส เราจะถูกอีเทอนัลลอบโจมตี"
"หืม... นายไม่ปอดแหกเกินไปหน่อยหรือ อย่าลืมว่ากำลังรบของพวกเราจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าเมื่อยูเฟอนิม่ากลายเป็นผู้สืบทอดแห่งมูมัด ถ้าเราปลุกปั้นเธอด้วยทุกสิ่งที่มี รับรองได้เลยว่าทั้งทัพของอีเทอนัลและทัพแอ็กนัสจะถูกถล่มราบคาบในพริบตา"
"นายคิดผิดตั้งแต่ต้น อย่าลืมว่าแอ็กนัสแข็งแกร่งเพียงใด แม้พวกเราทุกคนจะรุมสังหาร แต่ก็มีโอกาสไม่สำเร็จอยู่มาก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรากลายเป็นศัตรูกับแอ็กนัสโดยที่เธอทำภารกิจไม่สำเร็จ ดินแดนของพวกเราทุกหนแห่งจะลุกเป็นไฟ"
กริดไม่อาจยอมรับได้
"นายกำลังพูดเรื่องอะไร พวกเราไม่สามารถเอาชนะผู้เล่นเพียงคนเดียวได้ แม้ขุนพลหัวกะทิโอเวอร์เกียร์ทุกคนจะร่วมมือกันงั้นหรือ"
"แอ็กนัสก้าวข้ามขีดจำกัดของ 'ผู้เล่นเพียงคนเดียว' ไปไกลมากแล้ว"
ในยามที่พวกเขาเผชิญหน้ากับแอ็กนัสในเมืองแวมไพร์ ชายคนนั้นครอบครองลิชและอัศวินความตายที่แข็งแกร่งไว้มากมาย ภายหลังก็ไม่ได้เข้าร่วมในงานแข่งนานาชาติหรือกิจกรรมภายนอกอื่นเลย
หมายความว่า แอ็กนัสกำลังพัฒนาตนเองด้วยสปีดที่ไม่มีใครจินตนาการออก
"ต้องขอโทษที่พูดแบบนี้ หากมองในด้านพลังต่อสู้เพียงอย่างเดียว แอ็กนัสจะแข็งแกร่งกว่านายหรือครอเกลหลายเท่าตัว และพวกเราก็ไม่สามารถส่งขุนพลหัวกะทิของโอเวอร์เกียร์ทุกคนออกไปทำภารกิจพร้อมกันได้ ความปลอดภัยของเรย์ดันลดต่ำลงมากแล้วในยามที่พวกเราไปช่วยไซเรน ทุกคนกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อกู้คืนกลับมา และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ถ้านายไม่อยากถูกทิ้งไว้ด้านหลัง จงรีบเก็บเลเวลตามคนอื่นให้ทันซะ"
"..."
กริดได้ยินเช่นนี้จึงขมวดคิ้ว
เขาเชื่อมั่นในคำแนะนำของลอเอลยิ่งกว่าใครก็จริง
แต่ครั้งนี้...
'แข็งแกร่งกว่าฉันคนนี้... หลายเท่า'
บราฮัมก็เคยพูดว่าไว้ เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเอาชนะผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลและปลดปล่อยวิญญาณมูมัดสำเร็จ
แต่บราฮัมส่วนบราฮัม ลอเอลส่วนลอเอล
ลอเอลเป็นใคร เขาไม่มีใครทางรู้ปูมหลังของขุมนรก ไม่รู้จักบาเบล ไม่รู้จักแม้กระทั่งการทำพันธสัญญา ถึงกระนั้นลอเอลกลับพูดแบบเดียวกับบราฮัมทุกประการ
จึงไม่แปลกที่ความทรนงของกริดกำลังถูกระคายเคือง
ลอเอลยังคงพูดต่อโดยไม่สนใจว่ากริดกำลังเจ็บใจมากเพียงใด
"แอ็กนัสเป็นพวกเสียสติและหลุดโลก ไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะเป็นศัตรูกับคนแบบนี้ พวกเราอาจทุกข์ทรมาณไปทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่อยากให้กิลด์โอเวอร์เกียร์ต้องพังทลายลงเพียงเพราะพวกเราตัดสินใจผิดพลาด..."
แต่ลอเอลก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภารกิจของยูเฟอมิน่าคือสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จในสักวัน
แอ็กนัสคือศัตรูที่ต้องโค่นไม่ช้าก็เร็ว
"ก่อนอื่น พวกเราต้องจัดการกับปัญหาฝั่งอีเทอนัลให้เรียบร้อยเสียก่อน หากทุกสิ่งมั่นคงและพวกเราพร้อมรบเต็มที่ ฉันจะช่วยวางแผนว่าเราควรทำยังไงกับแอ็กนัส"
"...เข้าใจแล้ว"
กริดเชื่อใจลอเอล นั่นคือสาเหตุที่เขามอบหมายหน้าที่ตัวแทนลอร์ดให้ลอเอลจัดการ
กริดจะไม่มองข้ามการตัดสินใจหรือคำแนะนำของลอเอลเด็ดขาด ยกเว้นเรื่องการตั้งชื่อ
"ฉันจะพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจกับเวทย์ชนิดใหม่ไปก่อนก็แล้วกัน เพราะไม่ว่ายังไง นี่ก็เป็นภารกิจของฉัน ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้ได้"
เมื่อการสนทนาจบลง ยูเฟอมิน่าก็ลุกยืนขึ้น สีหน้าของเธอตอนนี้กำลังแสดงออกอย่างชัดเจนว่า 'ฉันจะไม่เป็นตัวถ่วงให้พวกพ้อง' ยูเฟอมิน่าก้มศีรษะลงเล็กน้อยและเดินออกจากโรงตีเหล็กเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอฝึกเวทมนตร์
เธอต้องรีบทำความเข้าใจพลังใหม่ที่ได้รับมาโดยไว
ส่วนลอเอลก็แยกย้ายกลับไปทำงาน
กริดถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหน้าเตาหลอม
สำหรับเขาที่มีเป้าหมายเป็นครอเกลมาตลอด การปรากฏตัวของแอ็กนัสได้ส่งผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างมาก
"แข็งแกร่งกว่าเราหลายเท่า... ก้าวข้ามขีดจำกัดของ 'ผู้เล่นเพียงคนเดียว' ไปไกลมากแล้ว"
กริดไม่ยอมรับเด็ดขาด
เขานำโลหะแห่งเทพ 'อดามันเที่ยม' ที่ได้รับจากเหรียญทองซาทิสฟายนานาชาติออกมาถือไว้ในมือ
ตนจะนำสิ่งนี้มาสร้างเป็นไอเท็มใดเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น
กริดเคยคิดเรื่องนี้มานานแล้ว
ระดับสมาธิของเขากำลังเข้าสู่ภาวะจดจ่อ ตนมั่นใจมากว่าจะสร้างสุดยอดไอเท็มขึ้นมาได้
เปลี่ยนเป้าหมายแล้ว ....ขนาดมีตำนานอยู่ข้างกายมากมายยังสู้ไม่ได้ ......แล้วต่อไปจะเป็นยังไง .........รอลุ้น ต่อไปสิครับ "_"
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ
ReplyDeleteไอเท็มระดับมิธ จะบังเกิดตอนไหนเนี้ย
ReplyDeleteน่าจะตอนไปทวีปตะวันออก
Deleteผมว่าไอ้ที่กำลังจะสร้างอาจจะเป็นก็ได้ ยังมีศิลาสายฟ้าที่ได้จากธนูอีกยังไม่ได้ใช้เลย
Delete