จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 475
พวกมันเคยถูกล่าไหมน่ะหรือ
หากมีใครสักคนถามคำถามนี้กับสมาชิกบลัดคาร์นิวัล คำตอบก็คงจะเป็น 'ไม่'
พวกมันยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในซาทิสฟายมานานมาก
จนกระทั่งเมื่อวานล่ะนะ
"แฮ่ก… แฮ่ก...! ปีศาจพวกนี้มันอะไรกัน"
ใบหน้าของ 'มาร์ตี้' แห่งบลัดคาร์นิวัลเริ่มขาวซีด เป็นเพราะมันกำลังรักตัวกลัวตาย ยามนี้ค่ากรรมพุ่งสูงถึงเพดานจากการไล่สังหารชาวเมืองบริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก
และตอนนี้กำลังเป็นฝ่ายถูกล่าเสียเอง
'ต้องรีบหนี'
การต้องเสียไอเท็มนั้นน่ากลัวว่าการเสียค่าประสบการณ์มาก ไอเท็มที่มาร์ตี้ถือครองอยู่มีมูลค่าสูงลิบ ความตายอาจทำให้เงินที่หามาตลอดครึ่งปีต้องสูญเปล่าในพริบตา
"...ตอนนี้แหละ!"
ตรงหน้าของมาร์ตี้มีเด็กหนุ่มนามว่าไอเบลลินยืนอยู่
ไอเบลลินที่ถูกกลุ่มทหารรับจ้างแสนแพงรุมล้อมกำลังหันไปสนใจฝนธนูที่พุ่งใส่จากด้านหลัง
สวบ!
มาร์ตี้กะจังหวะขว้างระเบิดอย่างแม่นยำ ระเบิดที่มาร์ตี้สร้างขึ้นเองนั้นมีพลังทำลายรุนแรงยิ่งกว่าเวทมนต์เกรด A เสียอีก แถมมันยังมีทักษะ 'ความชำนาญขว้างระเบิดขั้นกลาง' สูงถึงเลเวลเก้า ทำให้ความรวดเร็วและแม่นยำอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ
บึ้มมม!
เกิดระเบิดในจุดที่ไอเบลลินยืนอยู่พอดิบพอดี ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมิอาจถูกมองข้ามได้ ถึงขนาดทำให้บาเรียโปร่งใสของเมืองไซเรนที่อยู่ด้านบนเกิดการกระเพื่อมเล็กน้อย
'สมบูรณ์แบบ!'
มันลงมือได้เฉียบขาด ป่านนี้ไอเบลลินคงกำลังตกอยู่ในอาการมึนงงจากแรงระเบิด
'ออกไปปิดบัญชีดีไหม'
มาร์ตี้ครุ่นคิดเล็กน้อย
'ไม่ดีกว่า เราไม่ควรเสียเวลาไปกับการจับเด็กคนเดียว'
การลังเลเพียงชั่วครู่อาจทำให้ตนถูกสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นสังหาร มาร์ตี้จึงตัดสินใจรีบหนี
แต่ในขณะที่มันวิ่งออกไปได้เพียงสองก้าว
"เจ็บเอาเรื่อง มีพลังโจมตีสูงไม่เลวเลยนี่"
เสียงของไอเบลลินดังมาจากทางขวามือซึ่งไม่ห่างมันนัก
'บัดซบ...!'
หมอนี่หลุดจากอาการมึนงงและตามมาทันได้ยังไง
มาร์ตี้รีบหันหน้าไปมองสำรวจเครื่องประดับไอเบลลินเล็กน้อย ก่อนที่มันจะถุยระเบิดขนาดเล็กซึ่งซุกซ่อนอยู่ระหว่างฟันกรามใส่ไอเบลลิน
ระเบิดขนาดเล็กประมาณเมล็ดถั่วเขียวพุ่งตรงไปยังใบหน้าไอเบลลินอย่างแม่นยำ
แต่ก่อนที่มันจะกระทบกับเป้าหมาย
ฉึก!
แฟลมเบิร์จของไอเบลลินเสียบเข้าหว่างคิ้วมาร์ตี้ด้วยสปีดอันน่าเหลือเชื่อ
"แค่ก...! ชิ!"
การต่อสู้ระยะใกล้เป็นสิ่งที่มาร์ตี้ไม่ถนัดเลยสักนิด
นี่มันต้องตายเช่นนี้จริงหรือ
'แต่เราจะไม่ยอมตายคนเดียวแน่!'
มาร์ตี้แสยะยิ้มอย่างมีพึงพอใจ
'เพราะระเบิดที่พ่นออกไปก่อนหน้านี้กำลังจะ-- อะไรกัน!'
สีหน้ามาร์ตี้พลันบิดเบี้ยว
ระเบิดขนาดเล็กที่มันพ่นออกไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันได้ถูกผ่าออกเป็นสองซีกและกลิ้งอยู่บนพื้นอย่างไม่มีพิษมีภัย
'หมอนี่แทงเราโดยเล็งตัดระเบิดให้ขาดเป็นสองซีกไปพร้อมกันงั้นหรือ'
ฉึก! ฉึกฉึก!
แฟลมเบิร์จของไอเบลลินแทงใส่มาร์ตี้อีกหลายครั้ง
มันส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดทรมาณ
"ไอ้เด็กเวร...! แกเอาแต่เล่นเกมโดยไม่ไปโรงเรียนรึไงวะ! ทำไมถึงมีฝีมือควบคุมสูงขนาดนี้ได้...! แค่ก! แค่ก!"
"นี่นายไม่รู้จริงหรือว่าเด็กส่วนมากจะเล่นเกมเก่ง แถมฉันก็อายุ 18 แล้วนะ"
ไอเบลลินลงมือเฉือนลำคอมาร์ตี้จนถึงแก่ความตาย
หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงไปเก็บกระดาษหนึ่งแผ่นที่ดรอปมาพร้อมกับเกาหัว
"สูตรการผลิตระเบิดเกรดยูนีค… แพงเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ… หืม… นำไปให้โรงแปรธาตุดีกว่า"
เด็กหนุ่มที่ใฝ่ฝันจะก้าวข้ามครอเกลในสักวัน ยามนี้เขาเติบโตขึ้นเป็นนักดาบฝีมือฉกาจของโลกเรียบร้อยแล้ว อดีตสิบรุคกี้คนนี้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เขาจะกลายเป็นขุมกำลังที่สำคัญของโอเวอร์เกียร์ในอนาคต
***
"เกิดเรื่องบ้าแบบนี้ได้ยังไง"
'น็อกซ์' กวาดสายตามองสนามรบด้วยแววตาเหม่อลอย
กองทหารรับจ้างที่จ้างมานั้นไม่ต่างอะไรกับกระสอบทรายเมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์
"จำนวนไม่มีผลเลยรึไง"
กองทัพหลักพันเหลือเพียง 700 ในเวลาอันสั้น
สก็อตต์อธิบายให้กับน็อกซ์ที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์
"แค่แค็ทซ์คนเดียวก็สังหารไปเกินกว่าร้อยศพแล้ว"
"แค็ทซ์... นักรบโลหิตน่ะหรือ"
"ใช่"
"มันมาที่นี่ทำไม"
"ดูเหมือนจะเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์แล้วล่ะนะ"
"เฮ่อ… น่ากลัวฉิบ"
ไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่าโอเวอร์เกียร์จะเติบโตไปถึงระดับไหน
โดยเฉพาะชาวนาของเรย์ดัน คนพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตระดับปีศาจ
แถมยังมีเอ็นพีซีที่ชื่ออัสโมเฟลนั่นอีก
"พวกเราควรบอกหัวหน้าให้รีบจัดการโอเวอร์เกียร์ไม่ดีกว่าหรือ หากพวกมันพัฒนาไปมากกว่านี้ ถึงตอนนั้นอาจสายไปแล้ว"
"ท่านพี่ไม่ต้องการทำแบบนั้น สงครามกิลด์แตกต่างจากสงครามชิงเมืองเต็มรูปแบบ เขาสนใจการครอบครองเอ็นพีซีที่เก่งกาจมากกว่า"
"นั่นสินะ… ในขณะที่โอเวอร์เกียร์พัฒนา พวกเราเองก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ดังนั้นไม่ต้องกลัวไป การครอบครองเอ็นพีซีพิเศษไม่ใช่เรื่องยากเหมือนก่อนแล้ว"
"ถูกต้อง แถมชาวนาก็เป็นเพียงเอ็นพีซีระดับไพร่ที่พัฒนาได้ไม่มากกว่านี้แล้ว พวกเราไม่ต้องหวั่นเกรงจนเกินพอดี เมื่อการต่อสู้ยกระดับไปเป็นสงครามทวีป ชัยชนะก็จะตกเป็นของพวกเรา"
สก็อตต์และน็อกซ์
สองคนนี้คือลูกน้องของ 'อาเรส' จ้าวแห่งสนามรบที่เล็งจะเป็น 'จักรพรรดิ' ของทวีปตะวันตก เหตุผลที่ทั้งสองถูกส่งมาร่วมกับบลัดคาร์นิวัล ก็เพื่อมาให้เห็นกับตาว่าฝาแฝดไวท์และแบล็คเก่งกาจสมคำร่ำรือรึไม่
"ตอนนี้พวกเราก็ได้ข้อมูลมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก รีบกลับไปหาท่านพี่กันเถอะ"
"เดี๋ยวสิ ขอสู้กับสมาชิกโอเวอร์เกียร์ก่อนได้ไหม ฉันอยากดวลกับคนที่ชื่อเฟคเกอร์"
"กริด ปิอาโร่ และอัสโมเฟล สามคนนี้คือปีศาจที่หากเข้าถึงตัวพวกเราเมื่อไร พวกเราจะหมดสิทธิ์หนีทันที แถมยังมีโอกาสที่ลอเอลจะวางแผนปิดทางหนีไว้ล่วงหน้า"
"ชิ! เข้าใจแล้ว"
สก็อตต์และน็อกซ์รีบหนีโดยพลัน
แม้พวกมันจะถูกทหารเผ่าวารีขวางทางไว้ แต่ทั้งสองก็ทำเพียงให้ทหารหมดสภาพต่อสู้ มิได้ฆ่าฟันเอาชีวิต เส้นทางที่อาเรสเลือกไม่ใช่การนองเลือดโดยเเปล่าประโยชน์
***
"บาเรียเพลิง!"
ลาเอลล่ากำลังกระหน่ำโจมตีเวทย์ใส่บลัดคาร์นิวัลโดยมีแวนเนอร์คอยคุ้มกาย
ในฐานะจอมเวทย์อัคคีอันดับหนึ่งของโลกและหัวหน้าหอฝึกเวทมนต์เรย์ดัน เมื่อลาเอลล่าเห็นพายุลมเฉือนกำลังพุ่งแหวกอากาศเข้าหาตน เธอจึงรีบเสกบาเรียเปลวเพลิงอันทรงพลังขึ้นมาป้องกัน
บึ้มมมม!
เกิดคลื่นกระแทกรุนแรงเมื่อเวทย์สองชนิดปะทะกัน
จอมเวทย์ของอีกฝ่ายคือหญิงสาวที่ชื่อ 'ไมก้า'
"ฮิฮิ น่าสมเพชที่เห็นนักร้องระดับโลกติดเกมถึงเพียงนี้ เธอกำลังทำอะไรอยู่ ไม่ไปร้องเพลงให้แฟนๆ ฟังรึไง"
ลาเอลล่าตอบกลับไมก้าอย่างใจเย็นด้วยถ้อยคำประชดประชัน
"นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่ซาทิสฟายเป็นโลกอีกใบที่สนุกและสำคัญกับฉัน แน่นอนว่าฉันไม่ได้ทิ้งแฟนๆ ไป แม้อาจไม่ได้ออกทีวีบ่อยครั้งเหมือนเมื่อก่อน แต่ฉันก็ยังจัดคอนเสิร์ทอยู่เป็นระยะ อ้อจริงสิ! ปลายมกราปีหน้าจะออกซิงเกิ้ลใหม่ด้วยนะ รอติดตามชมได้เลย!"
"เฮ่อะ! ใครบอกว่าฉันเป็นแฟนเพลงเธอ"
ไมก้าพลันหงุดหงิดที่คำยั่วยุไม่เป็นผล เธอเริ่มร่ายเวทย์ทอร์นาโดอีกชนิดหนึ่งทันที
ไมก้ามีแผนจะทะลวงผ่านลาเอลล่าเพื่อเปิดทางหนี เพราะดูเหมือนลาเอลล่าจะอ่อนแอที่สุดแล้วในบรรดาสมาชิกโอเวอร์เกียร์
อาจจะจริงที่ถ้าหากเทียบกับคนอื่น ลาเอลล่าดูไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก แต่เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เคี้ยวได้ง่ายแน่นอน ตำแหน่งจองเวทย์อัคคีอันดับหนึ่งของโลกไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
ลาเอลล่าอ่านทิศทางของทอร์นาโดพร้อมกับร่ายศรเพลิงห้านัดพุ่งเข้าโจมตีไมก้า
'เป็นไปไม่ได้!'
ไมก้าพลันตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ลาเอลล่าอาศัยแรงลมจากทอร์นาโดเพื่อส่งให้ศรเพลิงเคลื่อนที่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ไฟและลมสามารถเป็นส่วนเติมเต็มกันและกันได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคและมุมมองในการเลือกใช้งาน โดยไมก้ากำลังถุกจุดนี้เล่นงานอย่างจัง
"กรี๊ดดดด!"
ไมก้าส่งเสียงกริดร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อร่ายกายถูกศรเพลิงทั้งห้านัดพุ่งปะทะ
"เธอไม่ต้องให้ฉันคอยช่วยอีกแล้ว โตขึ้นมากเลยนะ ลาเอลล่าของฉัน"
จิสึกะหันไปมองลาเอลล่าด้วยสายตาชื่นชม ระหว่างนี้ก็สังหารศัตรูอยู่เป็นระยะโดยมิได้หยุดมือ
เป็นเวลาเดียวกับที่ 'เซ็ดนอส' จอมเวทย์วายุอันดับหนึ่งใช้มือตบหน้าอกเบาๆ พร้อมกับแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ
"ลาเอลล่าซ้อมกับฉันทุกวัน! การรับมือเวทย์ลมนั้นง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก!"
"ปอกกล้วยเข้าปาก… นั่นคำพังเพยของเกาหลีไม่ใช่รึไง"
( ผู้แปล - ต้นฉบับเขียนด้วยคำพังเพยที่มีความหมายเดียวกัน )
"ฉันได้ยินพีคซอร์ดพูดอยู่บ่อยๆ น่ะ… ติดปากเข้าจนได้"
"ฮะฮะ"
เป็นบทสนทนาที่ฟังดูผ่อนคลาย
คนอื่นที่ไม่รู้อาจเข้าใจผิดว่าสองคนนี้กำลังจิบน้ำชาไปพลางทานอาหาร
แต่เปล่าเลย ตรงหน้าคือสนามรบที่มีการนองเลือดอย่างน่าสยดสยอง จิสึกะและเซ็ดนอสสังหารศัตรูไปเกินกว่า 100 คนแล้วระหว่างที่หันมาคุยกันอย่างออกรส
'โจมตีได้รุนแรงมาก'
ท้องฟ้าด้านบน
กริดกำลังเล็งหาเหยื่อด้วยเวทย์บิน เขาเกิดความชื่นชมทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นจิสึกะและเซ็ดนอสกำลังล้างสังหารศัตรูอย่างราบคาบ
โดยเฉพาะจิสึกะที่กริดยกย่องพลังโจมตีของเธออยู่เป็นประจำ เขาไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า คลาสนักธนูคือคลาสที่โจมตีทางกายภาพได้รุนแรงที่สุด
"เจอตัวแล้ว"
ดวงตาของกริดเป็นประกายอีกครั้ง
ห่างออกจากใจกลางสนามรบราว 50 เมตร เขามองเห็นหนูสกปรกตัวหนึ่งกำลังลอบหนีผ่านดงสาหร่ายทะเลหนาทึบ ชื่อเหนือศีรษะของมันเขียนไว้ด้วยตัวอักษรสีแดงสุดเข้ม บอกเป็นนัยว่านี่คือผู้เล่นคลาสระดับสามของบลัดคาร์นิวัลแน่นอน
"มอบไอเท็มของแกมาเดี๋ยวนี้!"
กริดคือมหาจอมโจรตัวจริงเสียงจริง เขากำลังถูกความโลภเข้าครอบงำและโจมตีใส่คนที่ไม่เคยมีความบางหมางต่อกันมาก่อน ไม่สนว่าหมอนี่จะทำอะไรมา ขอให้เป็นผู้เล่นพีคีที่มีค่ากรรมสูงถึงเพดานก็เพียงพอ
กริดถึงขนาดใช้ทักษะที่มีระยะหน่วงนานอย่าง 'มายา' เพื่อโจมตีเข้าไปจากระยะไกล
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
ห่าฝนรัศมีดาบอันรุนแรงได้ถล่มให้พื้นบริเวณนั้นถูกทำลายราบคาบ
'การุด้า' ผู้เล่นพีเคที่ลอบหนีเข้ามาในดงสาหร่ายทะเล มันเอาชีวิตรอดมาได้อย่างฉิวเฉียดจากทักษะป้องกันตัว
ไม่สิ มันแค่คิดว่ามันรอด
'เมื่อไรกัน...'
กริดยังคงเหวี่ยงดาบราวกับคนเสียสติอยู่บนท้องฟ้า
เมื่อไรมานาของชายคนนี้จะหมดลงสักที!
'มานาไม่มีวันหมดรึไงฟะ...'
การุด้าไม่มีวันจินตนาการได้เลยว่ารัศมีดาบทำลายล้างเหล่านี้ 'ไม่ใช้มานา'
มันได้แต่หวังให้การกระหน่ำโจมตีจากกริดหยุดลงโดยไว
ในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งที่แอบอยู่ไม่ใกล้จากการุด้ากำลังถือโอกาสซุ่มดูสถานการณ์ไปในตัว
'ไอ้บัดซบกริด!'
ผู้เล่นที่จงเกลียดจงจังกริดคนนี้มีชื่อว่า 'ทาร์ม่า' นักลอบสังหารที่เข้าร่วมการแข่งซาทิสฟายนานาชาติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลอบสังหารครอเกล
แต่กลับต้องถูกกริดและครอเกลดับลมหายใจไปสองครั้ง
'เป็นความผิดของแกที่ทำให้ฉันกลายเป็นตัวตลก!'
ระหว่างการแข่งทำลายวัตถุ ทาร์ม่ามีโอกาสลอบเข้าใกล้ครอเกลได้หนหนึ่ง แต่กลับถูกกริดขัดขวางไว้โดยบังเอิญ แถมยังถูกสังหารภายในเวลาไม่กี่วินาที จิตใจของมันบอบช้ำจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมากทีเดียว
'หลังจากนั้นเราก็ยังพ่ายแพ้ครอเกลอีก...!'
พวกพ้องของมันเอาแต่เย้ยหยันล้อเลียน สีหน้าของทาร์ม่าแดงก่ำทุกครั้งที่วิดีโอ 'ทาร์ม่าสามวิ' ถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอินเทอร์เน็ต มันอยากเข้าหลบอยู่ในรูหนูให้รู้แล้วรู้รอด
'เราต้องแก้แค้นให้ได้!'
ทาร์ม่าระงับความโกรธพร้อมกับรอจังหวะที่เหมาะสม
มันรอฉวยโอกาสที่การุด้าเสียชีวิตลง
เป็นไปตามคาด กริดกำลังก้มเก็บไอเท็มที่ดรอปจากการุด้าโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง!
'ดีล่ะ!'
ซู่วว!
ทาร์ม่าเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบไปโผล่ด้านหลังกริด
ในขณะที่มีดสั้นของมันกำลังจะปักเข้าไปในลำคอของชายหนุ่ม
[ ท่านเสียชีวิต ]
'อะไรกัน...!'
มันตายแล้วหรือ
'ได้ยังไง'
ตอนไหน และฝีมือของใคร!
ในขณะที่ภาพหน้าจอของทาร์ม่าเริ่มกลายเป็นสีเทา
ตัวอักษรข้อความระบบสุดท้ายที่มันเหลือบเห็นคือ 'เฟคเกอร์'
"หือ… นี่มันอะไร"
กริดพลันตกตะลึงทันทีเมื่อเก็บรองเท้าของการุด้าเข้าช่องสัมภาระเรียบร้อย
เป็นเพราะเขาได้พบกับไอเท็มชิ้นใหม่ดรอปอยู่ด้านหลังตนโดยไม่ทราบสาเหตุ
ในขณะเดียวกัน ยูเฟอมิน่าก็กำลังวิ่งเข้ามาใกล้
"สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ฉันกำลังจะไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เผ่าวารี… นายจะไปกับฉันไหม"
"หืม… เอาสิ"
ผู้เล่นคลาสระดับสามของบลัดคาร์นิวัล ส่วนใหญ่ถ้าไม่ตายไปแล้วก็หายตัวอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงทหารรับจ้างในสนามรบ กริดและยูเฟอมิน่าจึงมุ่งหน้าไปยังวังหลวง
ขอบคุณที่แปลครับ
ReplyDeleteรอตอนต่อไปอิอิ😍😍
ReplyDeleteก็ได้แต่รอ รอ และรอ ตอนต่อไป
ReplyDeleteปกตื 2-4 ทุ่มก็อัพละ 2 วันมานี่ลงช้าแปลกๆ
ReplyDeleteชอบคุณมากครับ
ReplyDelete