จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 485-486



       'ค้อนงั้นหรือ'

       กริดใช้อาวุธประเภทดาบมาทั้งชีวิต  จึงไม่แปลกที่บราฮัมคิดว่า  กริดกำลังจะนำอดามันเที่ยมมาสร้างอาวุธประเภทดาบ
       แต่กลับกลายเป็นค้อนเสียได้
       กริดอธิบายกับบราฮัมที่กำลังสับสน
       "เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  อาวุธประเภททุบล้วนมีความแม่นยำที่สูง"

       อาวุธประเภททุบสามารถโจมตีใส่ศัตรูได้ทุกองศาและมุม  ไม่จำเป็นต้องเล็งเฉพาะจุด  เฉกเช่นส่วนคมดาบหรือปลายหอก 
       ในอีกความหมายหนึ่ง  มันคืออาวุธที่ใช้งานง่าย  ระบบของเกมจึงเพิ่มค่าความแม่นยำพื้นฐานติดมาให้ 

       'ฉันเข้าใจว่านายทำเช่นนี้เพราะต้องการอาวุธที่มีค่าความแม่นยำสูง  แต่นั่นจะไม่เป็นปัญหาเอาหรือ  เพราะอาวุธประเภทใช้งานง่ายมักมีจุดอ่อนใหญ่หลวงอยู่'

       ด้วยผิวสัมผัสที่กว้างกว่าอาวุธประเภทอื่น  อาวุธชนิดทุบจึงมีการโจมตีที่เชื่องช้า  เนื่องจากมีขนาดใหญ่และต้านลม  แต่หากโดนเข้าไปอย่างจัง  ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะรุนแรงมาก  เพราะมีการรวมน้ำหนักไว้ที่จุดเดียว
       ทว่านั่นคือดาบสองคม  อาวุธที่เชื่องช้ามักตกเป็นเหยื่อของการโจมตีสวนกลับและสะท้อน  ยิ่งต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง  อาวุธประเภททุบก็ยิ่งด้อยประสิทธิภาพ

       'เป็นการยากที่จะโจมตีอีกฝ่ายให้โดนอย่างจัง  แถมอาวุธชนิดนี้จะเสียสมดุลได้ง่ายมาก  สิ่งที่ตามมาคือการเสียหลักของตัวละครผู้เล่น  ทำให้ควบคุมร่างกายได้ลำบากขึ้น  นี่คือเหตุผลว่า  ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกดาบเป็นอาวุธหลัก  เพราะอาวุธประเภทดาบมีความสมดุลในทุกด้าน...'

       "นี่นายเป็นจอมเวทไม่ใช่รึไง  ทำไมถึงรู้เรื่องของอาวุธเยอะนัก"

       ดูเหมือนบราฮัมจะชอบสะสมความรู้จริงๆ สินะ 

       "ที่นายพูดมา  ไม่มีสิ่งใดผิด  อาวุธประเภททุบมีข้อเสียมากมายเมื่อเทียบกับอาวุธยอดนิยมอย่างดาบและหอก  สมดุลของมันแย่มาก  และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  ค่าเฉลี่ยพลังโจมตีก็ต่ำมากเช่นกัน"

       ผู้เล่นส่วนมากคิดว่าอาวุธชนิดทุบมีความรุนแรงสูงกว่าดาบ  
       ทางทฤษฏีแล้ว  พลังโจมตีสูงสุดของมันมีมากกว่าดาบก็จริงอยู่  แต่นั่นก็ต่อเมื่อสามารถโจมตีใส่คู่ต่อสู้ได้อย่างจังทุกครั้ง
       ในการต่อสู้ระดับสูง  แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายจะถูกโจมตีอย่างจังด้วยอาวุธประเภททุบ

       อาวุธประเภททุบแม้จะมีข้อดีคือใช้ส่วนใดโจมตีก็ได้  ทำให้ค่าความแม่นยำสูง  ทว่าก็จะไม่มีผลของ 'แทง' หรือ 'ฟัน' เกิดขึ้น  
       แน่นอนว่าอาจแก้ไขปัญหานี้ด้วยการติดคมดาบเข้าไป  แต่นั่นจะทำให้ข้อดีของอาวุธประเภททุบไม่หลงเหลืออยู่อีก  
       เมื่อไม่สามารถโจมตีอย่างจังได้บ่อยครั้ง  ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมักเป็นค่าพลังโจมตี 'ต่ำสุด' ที่อาวุธนั้นมี  ทำให้ค่าเฉลี่ยพลังโจมตีของอาวุธประเภททุบอยู่ในระดับต่ำมาก
       แต่อย่าลืมว่านั่นเป็นเรื่องของการต่อสู้ระดับสูง  หากสู้กับมอนสเตอร์ที่ค่าสติปัญญาต่ำล่ะก็  อาวุธประเภททุบจะแสดงประสิทธิภาพได้มาก  ไม่อย่างนั้น  ซีบาลคงไม่เลือกใช้งานกระบองแน่

       "ฉันคือช่างตีเหล็กในตำนาน  และหัตถ์เทวะก็สร้างขึ้นโดยมีมือของฉันเป็นต้นแบบ"

       สำหรับช่างตีเหล็ก  ไม่มีสิ่งใดถือถนัดมือไปกว่าค้อนอีกแล้ว  การทุบค้อนนับแสนนับล้านครั้งชั่วชีวิต  ฝ่ามือและค้อนหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง  ราวกับเกิดมาเพื่อกันและกัน

       "ฉันตระหนักถึงข้อดีข้อเสียของค้อนเป็นอย่างดี  จึงรู้ว่า  ไม่มีสิ่งใดเหมาะกับหัตถ์เทวะไปกว่าค้อนอีก"
       
       แน่นอนว่าค้อนที่จะสร้างขึ้นใหม่นี้  กริดไม่คิดใช้มันเอง  เพราะในแง่ของความสมดุล  มันยังด้อยประสิทธิภาพกว่าอาวุธประเภทดาบมาก  หากต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ระดับเดียวกัน  
       กริดคิดจะให้มันเป็นอาวุธเฉพาะของหัตถ์เทวะเท่านั้น  หัตถ์เทวะมีค่าคงทนอนันต์และไม่เกรงกลัวความตาย  
       การโจมตีสะท้อนหรือสวนกลับแล้วยังไงล่ะ
       หัตถ์เทวะก็แค่ชะงักไปชั่วคราวและกลับมาโจมตีได้ต่อ

       "แถมยิ่งไปกว่านั้น"

       กริดต้องการสร้างไอเท็มที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทักษะ 'ผสานไอเท็ม'  
       ยากมากที่จะผสานไอเท็มในการต่อสู้จริงกับผู้เล่นที่มีไหวพริบสูง  เฉกเช่นครอเกลในการแข่งนานาชาติที่ผ่านมา
       กริดไม่เพียงต้องการสร้างไอเท็มที่โจมตีได้แม่นยำเท่านั้น  
       แต่ยังเน้นหนักว่าเป็นค้อนเท่านั้น  เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาสลับสับเปลี่ยนในยามใช้ทักษะผสานไอเท็ม  และมีเพียงอาวุธประเภทค้อนเท่านั้น  ที่สามารถใส่ออปชั่นเพิ่มความเร็วตีเหล็กเข้าไปได้

       'หืม...'

       บราฮัมไม่ออกความเห็นอีก  ดูเหมือนกริดจะตั้งใจและคิดคำนวณมาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว 
       สมาธิของกริดกำลังจดจ่อกับข้อความระบบตรงหน้า

[ ท่านจะใช้วัสดุใดในการสร้างค้อน ]

       "อดามันเที่ยม  เขี้ยวเดรก  น้ำตาแห่งกษัตริย์เผ่าวารี  และเส้นเอ็นยักษ์"

[ กรุณายืนยัน ]

       "ยืนยัน"

[ กรุณาออกแบบรูปลักษณ์ไอเท็ม ]

       พิมพ์เขียวโผล่ขึ้นตรงหน้ากริดอีกครั้ง  
       นี่คือหนที่ 14 แล้วที่กริดออกแบบไอเท็มเองกับมือ  ชายหนุ่มบรรจงวาดมันอย่างละเอียดละออ  ไม่รีบร้อน  เขามีสมาธิจดจ่อและใจเย็นมากทีเดียว

       'ด้ามจับสร้างจากเขี้ยวเดรก'

       ด้านจับคือสิ่งที่สำคัญสำหรับเครื่องมือทุกชนิด  มันคือปัจจัยหลักที่ทำให้คุณภาพของไอเท็มกลายเป็นระดับสูง
       โดยเฉพาะไอเท็มประเภทค้อน  สิ่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทุบ  และจะกิดแรงกระแทกกลับสู่มือตลอดเวลา  หากด้ามจับไม่ดี  ผู้ใช้จะเกิดอาการล้าและปวดมือได้ง่าย

       แต่ข้อเสียทั้งหมดก็ถูกแก้ได้ด้วยด้ามจับที่สร้างจากเขี้ยวเดรกอันเหนียวและยืดหยุ่น  
       แรงกระแทกเกือบทั้งหมดจะถูกสลายไปก่อนมาถึงมือผู้ใช้  
       เดิมทีเขี้ยวเดรกก็เป็นวัสดุในอุดมคติของอาวุธประเภทหอกอยู่แล้ว  แต่ด้วยราคาและความหายาก  จึงไม่เคยพบเห็นไอเท็มที่สร้างจากเขี้ยวเดรกมาก่อน

       "ด้ามจับต้องไม่ใหญ่เกินไป"

       ควรพอดีมือหัตถ์เทวะให้มากที่สุด
       กริดกำหนดให้ความยาวด้ามค่อนข้างสั้น  เพียงแค่ 15 เซนติเมตรเท่านั้น

       "หัวค้อนต้องหนักมากหน่อย"

       การเพิ่มน้ำหนักย่อมหมายถึงเพิ่มพลังทำลาย  แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขการสวมไอเท็มที่สูงขึ้น  
       สิ่งนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  ในเมื่อหัตถ์เทวะคัดลอกมาจากมือของกริด  มันจึงสืบทอดคุณสมบัติ 'สวมใส่ไอเท็มได้ทุกชนิด' มาด้วย
       ตัวโลหะที่เป็นส่วนหัวค้อน  กริดกำหนดให้หน้าตัดมีขนาด 15x15 เซนติเมตร  ส่วนด้านยาวจากหัวถึงท้ายมีความยาว 30 เซนติเมตร  
       เป็นค้อนประหลาดที่ด้านจับสั้นพิลึก  แต่กลับมีหัวค้อนที่ใหญ่ยาวพิสดาร  ผิดแผกจากค้อนทั่วไปที่มักตรงกันข้าม  ดูแล้วใช้งานยากมากทีเดียว
       แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่  ย่อมหมายถึงสามารถโจมตีให้โดนศัตรูได้ง่าย  และนี่คือสิ่งที่กริดต้องการตั้งแต่ต้น       

       'ต้องเพิ่มรายละเอียดเข้าไปสักหน่อย'

       ที่ปลายด้ามจับ  กริดเพิ่มสายยางยืดสีแดงที่ทำจากเส้นเอ็นยักษ์  
       ผู้ใช้สามารถสอดนิ้วเข้าไป  สำหรับหมุนควงค้อนก่อนขว้าง  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรุนแรงของทักษะขว้างค้อน

       'ในการจะเพิ่มความเร็วของทักษะผสานไอเท็ม  เราต้องเพิ่มออปชั่นเร่งความเร็วการถลุงโลหะ... เพิ่มการนำความร้อนเข้าไปด้วยคงจะดี'

       เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วนะ
       ท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างโรงตีเหล็กเริ่มมืดลง  กริดเองก็เหมือนกับเกมเมอร์อีกหลายคนที่ชอบเล่นเกมเวลากลางคืน  
       เขาค้นพบความจริงอันน่าประหลาดว่า  ตนเองจะมีสมาธิมากขึ้นในยามค่ำคืน  
       ฝ่ามือของชายหนุ่มกำลังเคลื่อนไหววาดภาพอย่างบรรจงแม่นยำ

       สองชั่วโมงถัดมา  ในที่สุดเขาก็วาดเสร็จ  กริดภูมิใจกับผลงานสุดท้าย  ก่อนจะกดนิ้วไปยังปุ่มตกลง

[ หากท่านยืนยัน  จำนวนในการออกแบบไอเท็มจะลดลง 1 ครั้งเป็นการถาวร  กรุณายืนยัน ]

       กริดไม่ลังเล

       "ยืนยัน"

       กริดมีแผนจะสร้างไอเท็มขึ้นสองชิ้น  
       หนึ่งคือค้อนสำหรับหัตถ์เทวะ  
       และอีกหนึ่งคือ 'ดาบ' สำหรับให้ตนเองใช้งาน  
       หากใช้วัสดุที่ดรอปจากเดรกในงานแข่ง  กริดมั่นใจมากว่า  ตนสามารถสร้างดาบที่มีประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่ายารุกต์ได้หนึ่งเล่ม

[ พิมพ์เขียวเสร็จสิ้น ]
[ จำนวนการออกแบบถูกใช้ไปหนึ่งครั้ง ]
[ กรุณาอธิบายคุณลักษณะของไอเท็ม ]

       คำอธิบายเวิ่นเว้อเกินจำเป็นไม่ใช่สิ่งที่ดี
       คำอธิบายต้องกระชับ  เข้าใจง่าย  และตรงประเด็นที่ต้องการ  สามารถยืดยาวได้หากต้องการระบุรายละเอียดปลีกย่อย  

       กริดเริ่มอธิบายอย่างระมัดระวัง
       
       "แผ่นโลหะบริเวณหัวค้อนสร้างขึ้นจาก 'อดามันเที่ยม' โลหะแห่งเทพ  ส่งผลให้ค้อนอันนี้สามารถทำลายความคงทนของโลหะได้ทุกชนิดยกเว้นพาเฟรเนี่ยม  เมื่อเทียบกันระหว่างขนาดของหัวค้อนที่ใหญ่เทอะทะกับด้ามจับที่เล็กกระทัดรัด  ค้อนอันนี้จึงออกแรงน้อยกว่าปรกติในการโจมตี  ด้วยความใหญ่ของหน้าตัดค้อน  โอกาสโจมตีโดนเป้าหมายจึงสูงมาก  เป็นค้อนที่ใช้ง่ายด้วยมือข้างเดียว  แถมยังช่วยเร่งความเร็วในการกลั่นโลหะ  และสุดท้าย  หยดน้ำตาแห่งกษัตริย์เผ่าวารีที่ผสมลงไป  จะช่วยให้ค้อนสามารถฝังเวทย์มนต์ได้หนึ่งชนิด"

[ ระบบทำการวิเคราะห์... ]
       
       ชิ้ง~

       ภาพที่กริดวาดไว้กำลังเลือนหายไป
       ถูกแทนที่ด้วยภาพใหม่ซึ่งระบบช่วยปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

[ พิมพ์เขียวเสร็จสิ้น ]

       'ดีล่ะ!'

       กริดพิจารณารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งด้วยสีหน้าโล่งใจ  
       ค้อนที่ออกแบบเพื่อให้ถือถนัดด้วยมือเพียงข้างเดียว  
       หัวค้อนสีทองขนาดใหญ่เปล่งประกายระยิบระยับ  ไม่ว่าศัตรูคนใดเห็นเข้า  เป็นต้องเกิดลางร้ายขึ้นทั้งสิ้น  ราวกับมันสามารถป่นกระโหลกยักษ์ให้แหลกละเอียดได้ในการโจมตีเดียว  
       ด้ามจับสีดำสนิท  และเชือกเส้นเอ็นยักษ์สีแดงสดได้มอบความหรูหรางดงาม

       เมื่อบราฮัมเห็นคำว่า 'กริด' ถูกสลักไว้ที่มุมหนึ่งของหัวค้อนสีทองอร่าม  เขาพลันเกิดรู้สึกชื่นชมจากใจทันที

       'ยอดเยี่ยมมาก...'
       สีทองอร่ามและสีดำสนิทมักเข้ากันได้ดีเสมอ  เป็นสีของความหรูหราองอาจ  ซึ่งตรงกับรสนิยมบราฮัมทุกประการ  
       'เพียงแค่สีของมัน  ก็มากพอจะสร้างความหวาดกลัวให้คู่ต่อสู้ได้แล้ว  เอาล่ะ  ได้เวลาที่มันต้องมีชื่อ'

       "ชื่อ..."

       ข้อความระบบแสดงขึ้นเพื่อให้กริดตั้งชื่อ  
       ชายหนุ่มครุ่นคิด

       "ค้อนอดามันเที่ยมเป็นไง..."

       '...'

       ในที่สุดบราฮัมก็ได้ตระหนักว่า  กริดมีเซนส์ในการตั้งชื่อห่วยแตกขนาดไหน  
       บราฮัมไม่ต้องการให้ค้อนสุดหรูมีชื่อที่ดาษดื่นเช่นนั้น

       'ผลงานชิ้นเอกไม่เพียงประกอบด้วยประสิทธิภาพและรูปลักษณ์  แต่ยังรวมไปถึงชื่ออันยิ่งใหญ่ของมันด้วย'

       "งั้นก็เอาค้อนอดามันเที่ยมนี่แหละ"

       กริดชอบมัน  เพราะชื่อนี้ให้ความรู้สึกที่ดีกับเขา  
       กริดคิดเช่นนั้นจริงๆ

       เฮ่อ...

       เกิดเป็นความเงียบงันอยู่นาน  กริดยังคงมิได้ตอบระบบกลับไป 
       บราฮัมยอมแพ้ในความหัวรั้นของชายคนนี้  เขาตัดสินใจเป็นฝ่ายรอดูเงียบๆ
       ทันใดนั้น  ลอเอลรีบแทรกเสียงขึ้นอย่างรีบร้อน  ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยผ่านการตั้งชื่อของกริดไปได้

       "มโยลเนียร์!  ตั้งชื่อมันว่ามโยลเนียร์!"

       "มายองอะไรนะ"

       "มโยลเนียร์คือชื่อของค้อนที่ทอร์ใช้  ซึ่งมันเหมาะกับค้อนที่นายออกแบบมาก  มโยลเนียร์จะมีด้ามสั้นและสามารถขว้างได้ไกล"

       แม้จะไม่มีคุณสมบัติพุ่งกลับมาหาเจ้าของได้เอง  เหมือนกับมโยลเนียร์ตามตำนาน  
       แต่ค้อนที่กริดออกแบบ  ก็เทียบได้กับมโยลเนียร์ในแง่ของประสิทธิภาพการ 'ทำลาย' และ 'บดขยี้'

       "อา..."
       เยี่ยมไปเลย  เมื่อได้ฟังเรื่องราว  กริดก็ชื่นชอบชื่อนี้ทันที  นี่อาจเป็นครั้งแรกที่กริดและลอเอลเห็นพ้องต้องกันในการตั้งชื่อ
       แต่ว่า
       "ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่...  มานานแค่ไหนแล้ว"

       "เรื่องนั้น..."
       ลอเอลแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน
       "จู่ๆ ข่านก็วิ่งหน้าตาตื่นมาหาฉันและกล่าวว่า  ตอนนี้โรคบ้าของนายกำเริบหนักแล้ว...  เขาเป็นกังวัลว่านายอาจเป็นมากกว่าเดิม  ก็เลยบอกให้ฉันช่วยดูแล  หลังจากนั้นฉันก็รีบมาที่นี่  และเห็นนายกำลังออกแบบไอเท็มอยู่"

       "เอ๋... นี่ฉันดูเหมือนคนบ้าไปได้ยังไง"

       เกิดอะไรขึ้นกันนะ
       กริดรีบหันไปมองข่าน  ตอนนี้ดวงตาของข่านกำลังแดงก่ำราวกับเพิ่งหยุดร้องไห้
       ขานสบตากับกริดและตะโกนขึ้นว่า
       "ฉันเห็นนายพูดกับตัวเองหลายครั้งแล้ว!  กลับกันถ้าเป็นนาย  หากเห็นฉันพูดกับตัวเองโดยไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ   นายจะไม่คิดว่าฉันบ้าบ้างรึไง!  ฉันคิดว่านายต้องเสียสติไปแล้วแน่!  ฉันเป็นกังวลกับเรื่องนี้มาก!"

       "..."

       กริดสาบานกับตนเองอย่างหนักแน่น  ว่าหลังจากนี้จะระวังไม่ให้ใครเห็นตอนพูดคุยกับบราฮัมอีก
       ทันใดนั้น

[ กรุณาตั้งชื่อของไอเท็มที่ท่านออกแบบ ]

       ข้อความระบบแจ้งเตือนซ้ำอีกครั้ง
       ช่างไม่มีหัวใจเอาเสียเลย  ที่บีบคั้นให้ผู้เล่นรีบตัดสินใจอย่างเร่งด่วนเช่นนี้  
       กริดส่ายศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับตอบกลับไป

       "มโยลเนียร์"

[ กรุณายืนยัน ]
  
       "ยืนยัน"

[ ในระบบมีไอเท็มชื่อ <มโยลเนียร์> อยู่ก่อนแล้ว  ระบบจะทำการเพิ่มส่วนขยายของชื่อ  เพื่อมิให้ชื่อไอเท็มซ้ำกัน   ]

[ ท่านออกแบบไอเท็มเสร็จสิ้น ]

[ มโยลเนียร์ - โลกมนุษย์ ]
เกรด : ยูนีค ~ เลเจนดารี (เติบโต)
       เครื่องมือที่ช่างตีเหล็กในตำนาน 'กริด' สร้างขึ้นจากโลหะแห่งเทพ 'อดามันเที่ยม'
       มันคือค้อนที่มีคุณประโยชน์รอบด้าน  ทั้งการทำลายและสรรสร้าง       
       หัวค้อนขนาดใหญ่ได้มอบความน่าสะพรึงกลัวแก่ศัตรู  แถมยังทำให้รู้สึกถึงลางร้ายได้เป็นอย่างดี  
       ค้อนอันนี้สามารถโจมตีโดนเป้าหมายได้ง่ายและก่อให้เกิดอาการหวาดกลัว
       อาวุธชนิดนี้มีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าอาวุธแห่งเทพ 'มโยลเนียร์' เลยสักนิด  
       ขึ้นอยู่กับระดับในการเติบโต
* เวทมนตร์ที่ฝังไว้ : ไม่มี
เงื่อนไขการสวมใส่ :
- เลเวล 350 หรือสูงกว่า
- ค่าพละกำลัง 3,000 หรือสูงกว่า
- ความชำนาญ 3,500 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : 4,900

ประสิทธิภาพเกรดยูนีค :
ความคงทน : 610/610
พลังโจมตี : 660~1,090
* ความแม่นยำ +20%
* จะพุ่งได้เร็วมากเมื่อขว้าง
* เมื่อเป้าหมายถูกโจมตี  มีโอกาสสูงที่จะตกอยู่ในอาการ 'ชะงัก' เป็นเวลา 0.1 วินาที
* ความคงทนของทุกสิ่งที่ถูกทุบจะลดลง 
( ยกเว้นไอเท็มของผู้ใช้งาน )
* ความเสียหายคงที่จำนวน 1,990 หน่วยจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่โจมตีใส่เผ่าอสูรและเผ่าอันเดด
* มีโอกาสปานกลางที่จะทำให้ 'ศัตรู' ตกอยู่ในอาการ 'หวาดกลัว' 
* ทักษะที่เกี่ยวกับการตีเหล็กทุกชนิดจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ประสิทธิภาพเกรดเลเจนดารี :
ความคงทน : 689/689
พลังโจมตี : 790~1,400
* ความแม่นยำ +35%
* จะพุ่งได้เร็วมากเมื่อขว้าง
* เมื่อเป้าหมายถูกโจมตีจะตกอยู่ในอาการ 'ชะงัก' เป็นเวลา 0.1 วินาที
* ความคงทนของทุกสิ่งที่ถูกทุบจะลดลง 
( ยกเว้นไอเท็มของผู้ใช้งาน )
* ความเสียหายคงที่จำนวน 2,400 หน่วยจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่โจมตีใส่เผ่าอสูรและเผ่าอันเดด
* มีโอกาสสูงที่จะทำให้ 'ศัตรู' ตกอยู่ในอาการ 'หวาดกลัว' 
* ทักษะที่เกี่ยวกับการตีเหล็กทุกชนิดจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นมาก

       "...สุดยอด"

       สมบูรณ์แบบ
       มันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่กริดคาดไว้เสียอีก  ไอเท็มชิ้นนี้สามารถพัฒนาไปเป็นเกรดมิธได้ในอนาคต  ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือสุดยอดอาวุธอย่างแท้จริง
       แต่กริดก็ยังเหลือบไปเห็นเงื่อนไขการสวมใส่ที่สูงลิบ  ย่อมเป็นเรื่องช่วยไม่ได้  เพราะเขาหวังสร้างไอเท็มให้ตนและหัตถ์เทวะใช้เท่านั้น  จึงจำเป็นต้องรีดประสิทธิภาพสูงสุดของวัสดุออกมา  โดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขการสวมใส่
       
       'ก็ยังดี'

       มันถือกำเนิดจากความต้องการลึกๆ ในใจกริด  เขาต้องการเป็นที่หนึ่ง  จึงมิได้คิดขายหรือแบ่งปันไอเท็มชิ้นนี้ให้ผู้อื่นตั้งแต่แรก

       "เป็นยังไงบ้าง  ออกมาดีเลยใช่ไหม"       

       เมื่อเห็นใบหน้าพึงพอใจของกริด  ลอเอลจึงเอ่ยปากถาม

       'จะยอดเยี่ยมกว่า <ความผิดพลาด> รึเปล่านะ'

       ลอเอลคาดหวังไว้มาก
       กริดแชร์รายละเอียดไอเท็มให้ลอเอลอ่านทันที

       "เชี่ย..."

       ผลงานชิ้นโบว์แดงที่สร้างขึ้นโดยช่างตีเหล็กในตำนาน  ด้วยวัสดุของโลกแห่งเทพ
       ลอเอลยืนอ่านรายละเอียดไอเท็มอย่างไร้คำพูด  ประสิทธิภาพของมันเหนือล้ำยิ่งกว่าสามัญสำนึก  ไม่มีทางที่ผู้เล่นทั่วไปจะจินตนาการออก  
       เมื่อเห็นสีหน้าสุดทึ่งของลอเอล  กริดจึงประกาศกร้าว
       "แอ็กนัส… หมอนั่นจะเก่งกว่าฉันได้อีกนานแค่ไหนเชียว"
       
       ยิ่งกริดสร้างไอเท็ม  เขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง

       "ฉันแข็งแกร่งที่สุด"

       ลอเอลไม่เคลือบแคลงหรือคิดโต้แย้งคำพูดกริดแม้แต่น้อย
       ชายคนนี้เชื่อมั่นในตัวกริดยิ่งกว่าใครมาตั้งแต่ต้น
       ในทางกลับกัน  บราฮัมกำลังนำกริดไปเปรียบกับแพ็กม่า

       'สร้างสุดยอดยุทธภัณฑ์สงครามขึ้นมาได้ด้วยมือตนเอง...'
       ดูเหมือนตนจะประเมินศักยภาพช่างตีเหล็กในตำนานต่ำเกินไป
       กริดตรงหน้าคือชายที่ไร้ขีดจำกัด
       'หากมีเวทมนตร์ของเราเสริมเข้าไป  ไม่มีทางเดาได้เลยว่าเขาจะเติบโตขึ้นเป็นปีศาจระดับใด'

       เมื่อลองคิดดูให้ดี  มันก็น่าขันนัก
       เพื่อความสงบสุขของเผ่าพันธุ์มนุษย์  แพ็กม่าลงมือสังหารบราฮัมเพียงเพราะเป็นแวมไพร์  แต่ช่างย้อนแย้ง  ในช่วงบั้นปลายชีวิต  แพ็กม่ากลับต้องทำพันธสัญญากับจอมอสูรเพื่อให้โลกสงบสุข

       'แพ็กม่า  ฉันจะเป็นพลังให้กริด  กริดคือชายที่ถูกโชคชะตากำหนดไว้แล้วว่าต้องก้าวข้ามนายได้สักวัน  นายที่ทรยศฉัน  แต่กลับเลือกบาเอล  จงเฝ้ามองอยู่ในขุมนรกอันดำมืด  จงรู้สึกเสียดายพลังของฉัน  และจงสำนึกเสียใจที่นายเลือกบาเอลมากกว่าฉัน!'

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 485 - จบตอน

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 486

       เคร้ง! เคร้ง!

       กริดทุ่มเวลาเวลาตลอดสิบวันสิบคืนเพื่อสร้างมโยลเนียร์  ไม่มีช่วงเวลาใดที่เขาหยุดพัก  ชายคนนี้ต้องการให้มโยลเนียร์ออกมาเป็นสุดยอดผลงานของโลก
       บราฮัมถึงกับทึ่ง

       'สมาธิของกริด...'

       เป็นสิ่งที่บราฮัมคาดไม่ถึง
       เหนือล้ำยิ่งกว่าตอนที่แพ็กม่าสร้างพาเฟรเนี่ยมเสียอีก
       ระดับเดียวกับในยามที่มูมัดวิจัยเวทมนตร์

       '...ผู้มีพรสวรรค์ในด้านความเพียร'

       พรสวรรค์ติดตัวของกริดนั้นเป็นศูนย์  ยิ่งเมื่อเทียบกับอัจฉริยะอย่างมูมัดหรือแพ็กม่า    นั้นยิ่งแล้วกันไปใหญ่
       อันที่จริง  กริดในตอนแรกไม่คู่ควรถูกยกมาเปรียบกับสองคนนั้นเลยสักนิด  แต่เมื่อเวลาผ่านไป  พรสวรรค์ในด้านความเพียรก็เริ่มแสดงออกอย่างเด่นชัด  จนเขามีค่ามากพอให้ยกขึ้นเปรียบเทียบ
       หากวัดกันในด้านความเพียร  เกรงว่ากริดอาจไม่แพ้ใครเลย
       บราฮัมพยายามมองในแง่บวกที่สุด

       'ถ้าไร้ความพยายาม  พรสวรรค์ก็จะสูญเปล่า  คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงนัก  แต่ถ้าคนอย่างกริดมีพรสวรรค์อื่นร่วมด้วยแม้เพียงเศษเสี้ยว  เขาคงกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของโลกไปนานแล้ว'

       แม้จะเล็งเห็นข้อดี  แต่บราฮัมก็ตระหนักถึงความน่าเสียดายไปพร้อมกัน
       เขาทำได้เพียงส่ายศีรษะเล็กน้อย

       "ชิ…! ครั้งนี้ก็ล้มเหลว"

       กริดโยนมโยลเนียร์เกรดยูนีคกลับเข้าไปในเตาหลอม
       เขาเรียนรู้ว่า  ทั้งอดามันเที่ยมและเขี้ยวเดรกต่างมีความคงทนที่สูงมากทั้งคู่  มโยลเนียร์ล้มเหลวสามารถโยนกลับเข้าเตาและหลอมสร้างใหม่ได้เรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น
       จนกว่ามันจะกลายเป็นเกรดเลเจนดารี       

       'ชายคนนี้… เขาจะเริ่มทุกอย่างใหม่หมดตั้งแต่ต้นอีกแล้วหรือ'

       บราฮัมไม่รู้ว่าตนเห็นภาพนี้มากี่ครั้งแล้ว  และมันจะเกิดขึ้นอีกกี่หน
       บางทีกริดอาจต้องหมกตัวทำสิ่งนี้ไปอีกหลายเดือน
       ความมุ่งมันของกริด  บราฮัมเริ่มรู้สึกหวาดกลัว
       
       ***
       
       "กริดยังอยู่ที่โรงตีเหล็กจริงดิ"

       กริดหมกตัวอยู่ในโรงตีเหล็กเรย์ดันมาสองสัปดาห์แล้ว

       "เขาควรใช้เวลาอันมีค่านี้รีบเก็บเลเวลมากกว่า  บัฟค่าประสบการณ์ของเกาหลีใต้เหลืออยู่ไม่มากแล้วนะ"

       "ใช่  เขามีอาวุธที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว  ไม่ควรปล่อยให้เวลาบัฟผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์เช่นนี้"

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์บางคนไม่เข้าใจกริด
       แต่ทั้งจิสึกะ  ลอเอล  เรกัส  ป็อน  ไอเบลลิน  และขุนพลหัวกะทิอีกมาก  
       อัจฉิริยะทุกคนในกิลด์ต่างเข้าใจความรู้สึกกริดเป็นอย่างดี

       "เขาต้องแก้ปัญหาตรงหน้าให้ได้เสียก่อน"

       "เชื่อเถอะ  กริดรู้ตนเองว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง"

       "แต่ความพึงพอใจต้องมาก่อน"

       "ไฟแห่งความมุ่งมั่นในตัวกริดกำลังลุกโชน"

       "..."

       ดูเหมือนคำกล่าวที่ว่า
       'อัจฉริยะกับคนบ้าถูกกั้นแบ่งด้วยเส้นบางๆ'
       จะเป็นความจริง

       ***

       ท่ามกลางความมืดมิด

       ดวงวิญญาณของยารุกต์ไม่ปลื้มเลยสักนิด
       ยารุกต์ฟื้นคืนพลังกลับมาแล้วหลายส่วน  หลังจากพัฒนาไปเป็นเกรดเลเจนดารี
       แต่กริดกลับไม่ยอมอัญเชิญตนอีกเลยหลังจากสู้กับมาซง  และนั่นทำให้ยารุกต์ไม่พอใจมาก

       'คราวหน้าที่พบกัน  คงต้องสั่งสอนสักหน่อย'

       เผ่าอสูรคือสิ่งมีชีวิตที่มีสัญชาติญาณการเอาตัวรอดสูง
       ในบรรดาเผ่าอสูรทั้งหมด  ผู้ปกครองมักเป็นอสูรที่เกิดมามีพรสวรรค์สูง
       สำหรับยารุกต์  เขาไม่พึงพอใจที่ต้นต้องคอยรับใช้กริด  ซึ่งยารุกต์มองว่าอ่อนแอกว่า

       'ใช่แล้ว  ครั้งหน้าต้องทำให้ชัดเจน  สำแดงพลังให้เป็นที่ประจักษ์  ฉันจะเปลี่ยนชายคนนั้นให้กลายเป็นทาสรับใช้'

       ยารุกต์หวังจะเป็นผู้บงการกริด  จนกว่าตนจะฟื้นคืนพลังเดิมกลับมาทั้งหมด
       หลังจากนั้นก็...

       'กลับไปแก้แค้นเซปาร์!'

       จอมอสูรลำดับ 29 'เซปาร์'
       ยารุกต์ไม่อาจให้อภัยจอมอสูรที่บังอาจดูแคลนวิชาดาบตน  เซปาร์ใช้ลูกไม้สกปรกในการผนึกดวงวิญญาณยารุกต์ไว้  เขาจึงสั่งสมความคับแค้นใจมานานกว่า 300 ปีแล้ว
       และตอนนี้กำลังระอุสุดขีด

       ซู่ววว

       ดวงวิญญาณยารุกต์กำลังแผ่จิตสังหารอันรุนแรงท่ามกลางความมืดมิด 
       ในขณะที่ยารุกต์ฆ่าเวลาด้วยการครุ่นคิดเรื่องราวมากมายไปเรื่อยเปื่อย
       ทันใดนั้น  สุ้มเสียงอันคุ้นหูก็ดังขึ้น
       
       "ออกมา  ยารุกต์"

       เป็นเสียงของกริด
       ยารุกต์ไม่รู้เลยว่า  นับจากที่พบกับกริดหนสุดท้าย  วันเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

       'ในที่สุด...!'

       ชิ้ง~

       ท่ามกลางความมืดมิดที่ดวงวิญญาณยารุกต์กำลังลอยละล่อง  เกิดเป็นอุโมงแสงสว่างสีขาวเจิดจ้าถูกเปิดออก  ยารุกต์รีบแทรกตัวผ่านเข้าไปโดยไม่รีรอ

       "...สดชื่น"

       อากาศบริสุทธิ์ที่ตนสูดเข้าปอด  สิ่งนี้ทำให้รู้สึกดีได้เสมอ
       แต่กริดกลับไม่ยอมให้ยารุกต์ดื่มด่ำกับอิสระภาพอย่างมีความสุข  
       เขาพูดขัดคอ

       "ทำไมนายถึงพูดคำเดิมซ้ำทุกครั้งที่ถูกอัญเชิญออกมา...  น่าเบื่อฉิบ"

       ยารุกต์ผมเทาพลันกำดาบสีโลหิตในมือแน่น
       อสูรดาบตนนี้พ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยันใส่กริด

       "น่าขันนัก  คนอ่อนแอเช่นนายกำลังพูดกับฉันโดยไม่เกรงกลัวงั้นหรือ"

       ถึงคราวดัดนิสัยรึยังนะ
       ยารุกต์ผู้มั่นอกมั่นใจ  บัดนี้ชี้ปลายดาบเข้าหากริด

       "จงคุกเข่าลง  และรับรู้ถึงความต่างชั้นของนายกับฉัน!"

       "..."

       ฉากตรงหน้า  เคยเป็นพลอตเรื่องสุดฮิตในการ์ตูนเมื่อหลายสิบปีก่อน
       กริดตอบกลับอย่างเฉยชา
       "นายนี่ทำตัวน่าเบื่อฉิบ"

       "คิดไว้แล้วว่าต้องพูดเช่นนี้!"

       ยารุกต์โพล่งขึ้นเสียงดัง  หลังจากนั้นก็เล็งฟันดาบอสูรเข้าใส่ต้นขากริด  นั่นก็เพื่อหวังจะให้กริดทรุดคุกเข่าลง
       ชายหนุ่มคิดหยุดการโจมตีดังกล่าวด้วยการฟันดาบไปยังทิศทางเดียวกัน
       ดาบในมือกริดตอนนี้  ดาบสีดำเล่มใหม่เอี่ยมที่ยารุกต์ไม่คุ้นตา  ดูเหมือนจะเป็นอาวุธที่เพิ่งถูกสร้างขึ้น  แต่ยารุกต์ก็หาได้สนใจ  ฝีมือของกริดห่างชั้นกับตนหลายขุม  การเปลี่ยนอาวุธมิได้ทำให้สถาการณ์พลิกผันแต่อย่างใด

       'ฉันจัดการนายได้ง่ายเพียงพลิกผ่ามือ!'

       ย่าห์!

       ยารุกต์บิดข้อมือฉับพลัน  ดาบแดงโลหิตที่เคยเล็งไปยังต้นขา  บัดนี้แฉลบกลับมาเสยแทงใส่ปลายคางแทน  
       รวดเร็วประหนึ่งงูฉก
       ไม่มีใครมองตามทันและรับมือได้แน่  เขามั่นใจมากว่ากริดต้องได้รับบาดเจ็บหนัก
       ยารุกต์แสยะยิ้ม

       เคร้ง!

       "อะไรกัน..."

       ดาบสีดำเล่มใหม่ของกริด  มันแยกออกเป็นสองเล่มในพริบตา  
       หนึ่งเล่มเล็กปัดป้องดาบยารุกต์
       อีกหนึ่งเล่มยาวฟันใส่ต้นยารุกต์

       "ดาบแยกส่วน...!  เล่นไม่ซื่อ!  อั่ก!"

       เมื่อการโจมตีถูกปัดป้อง  
       ยารุกต์ชักดาบโลหิตกลับ  และหวังจะใช้ท่าไม้ตายของตน 'ดาบพิสทุธิ์' โจมตีใส่กริดอย่างสุดแรง  แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยชื่อทักษะ
       
       ฟ้าววว!

       หัตถ์เทวะจำนวนสี่ข้างบินมาล้อมยารุกต์ไว้ทุกทิศ  พวกมันเหวี่ยงค้อนใส่อย่างพร้อมเพรียง  บรรยากาศน่าสะพรึงกลัวที่อัดแน่น  แม้แต่อสูรดาบอย่างยารุกต์ยังต้องสะดุ้ง
       ยารุกต์ลนลานฟันดาบใส่หนึ่งในหัตถ์เทวะอย่างแม่นยำ  
       แต่ในขณะกำลังจะฟันดาบใส่มือข้างที่เหลือ  ดวงตาอันแดงก่ำซึ่งสามารถมองเห็นวิถีการโจมตีที่ดีที่สุดของศัตรู  กลับร้องออกมาว่า...

       'อะไรกัน… เราหลบทั้งหมดไม่พ้น!'
       ยารุกต์พยายามปัดป้องค้อนสีทอง  ซึ่งถูกกระหน่ำทุบจากทุกทิศทาง
       'ไม่สมเหตุสมผลเลย!  กับค้อนแค่เพียงสี่  ทำไมเราถึงหลบไม่พ้น!'       

       ยารุกต์หวังใช้การก้าวเท้าเพื่อสลัดหัตถ์เทวะให้หลุด
       แต่ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใด  ทั้งหมดล้วนสูญเปล่า

       ผัวะ!

       ผัวะ! ผัวะ !ผัวะ!

       "แค่ก!"

       ค้อนสีทองซึ่งมีน้ำหนักมหาศาล  มีอันหนึ่งทุบใส่หลังศีรษะยารุกต์อย่างจัง
       พลังเทพที่อัดแน่นอยู่ในค้อน  ทำให้ยารุกต์ชะงักงันไปชั่วครู่
       ยารุกต์โงนเงน  กริดไม่พลาดโอกาสทอง  ชายหนุ่มเสียบดาบสีดำสนิทใส่หัวใจยารุกต์อย่างแม่นยำ
       ในช่วงเวลาเช่นนี้  กริดย่างกรายเข้าใกล้อีกฝ่ายและกระซิบว่า
       "พรุ่งนี้มาลองกันอีกรอบไหม"

       ***

       'ช--เชี่ย!  เกิดอะไรขึ้น!'

       เป็นการยากที่จะบอกได้ว่า  เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่
       ทันทีที่ได้สติ  ดวงวิญญาณก็กลับมาอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอีกแล้ว

       'ทำไมกัน...'       

       ทำไมตนถึงหลบค้อนสีทองนั่นไม่พ้น
       ค้อนนั่นมันอะไรกันแน่!
       ดวงวิญญาณของยารุกต์กำลังสับสนปั่นป่วน

       ***

       'ยอดเยี่ยมมาก  อาวุธทรงพลังกว่าที่คาดไว้'

       ชายชรานามยารุกต์  หมอนี่เป็นผีเหมือนบราฮัม
       ไร้ร่างเนื้อ  การที่เห็นเป็นรูปร่างได้  เพราะดวงวิญญาณก่อตัวเป็นภาพลวงตา  
       สัญญาณชีพที่แผ่ออกจากร่าง  ทั้งอ่อนแอและไม่น่าประทับใจ  ราวกับเป็นเปลวไฟจากเทียนไขที่กำลังดับมอด
       แต่ความจริงคืออะไรงั้นหรือ
       ยารุกต์นั้นแข็งแกร่งผิดคาด!

       แม้จะเป็นผี  แต่พลังต่อสู้ของยารุกต์ไม่ด้อยไปกว่าแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ชั้นบารอนเลยสักนิด  
       ระหว่างการล่ามาซง  กริดตกตะลึงในความรุนแรงและวิชาดาบของยารุกต์มาก  เขาถึงขนาดประเมินว่า  พลังที่แท้จริงยารุกต์อาจเทียบชั้นได้กับจอมอสูรเลยทีเดียว
       
       แต่เมื่อครู่

       "อ๊ากกกกกก!"

       ยารุกต์พ่ายแพ้ต่อกริด  แถมยังในพริบตา
       ทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้มโยลเนียร์  ยารุกต์ไม่อาจหลบมโยลเนียร์พ้น  เขาโดนกระหน่ำทุบจนเกือบตาย  แสดงให้เห็นเป็นอย่างดีว่า  พลังโจมตีและความแม่นยำของมโยลเนียร์สูงส่งมากแค่ไหน  
       เมื่อดวงวิญญาณยารุกต์กลับเข้าไปในดาบ  กริดอมยิ้มอย่างพึงพอใจ  พร้อมกับกล่าวยกย่องชื่นชมบราฮัม

       "ทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะนาย"       

       บราฮัมสำเร็จการบีบอัดเวทมนตร์ตรวจจับ (พัฒนา) 
       ระยะการตรวจจับลดลงเหลือไม่ถึงหนึ่งเมตร  แต่ผลการตรวจจับกลับแม่นยำมากขึ้น  แถมยังกลายเป็นทักษะติดตัว  ที่ช่วยเพิ่มค่าความแม่นยำได้ตลอดเวลา
       ด้วยเหตุนี้  มโยลเนียร์จึงมีค่าความแม่นยำเพิ่มขึ้นอีก 50% 
       จากของเดิม 35% ในเกรดเลเจนดารี  ตอนนี้กลายเป็น 85% เรียบร้อย
       หมายความว่า  หากโจมตี 100 ครั้ง  มโยลเนียร์จะโจมตีโดนเป้าหมาย 85 ครั้งโดยไม่สนใจเงื่อนไข  ไม่ว่าเป้าหมายจะหลบหลีกด้วยทักษะใด  เว้นเสียแต่เป็นอมตะ
       สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นอาวุธสุดโกง

       "แต่ความรุนแรงกลับไม่ยอดเยี่ยมนัก...  อย่างที่เคยคิดไว้  พลังโจมตีสูงสุดปรากฏขึ้นไม่บ่อยครั้ง"

       น่าเสียดายที่กริดไม่อาจกลบจุดอ่อนของอาวุธประเภททุบได้หมด
       การมีพลังโจมตีสูงสุดที่รุนแรงจึงเปล่าประโยชน์ไปโดยปริยาย  
       เพราะการโจมตีที่เกิดขึ้น  เกือบทุกครั้งจะเป็นค่าพลังโจมตีต่ำสุด

       'แล้วมันยังไงกัน  ถึงกระนั้น  ยารุกต์ก็ถูกจัดการในพริบตา'

       "นั่นไม่ใช่เพราะมโยลเนียน์โจมตีได้รุนแรง  แต่เป็นเพราะยารุกต์อ่อนแอต่างหาก"

       ร่างเนื้อยารุกต์ถูกสร้างขึ้นจากส่วนผสมของดวงวิญญาณและพลังเวท
       อสูรดาบยารุกต์ในปัจจุบัน  เขากำลังอ่อนแอสุดขีด
       ระยะหน่วงในการอัญเชิญยารุกต์ออกมาอีกครั้งคือ 24 ชั่วโมง  แถมระยะเวลาที่คงร่างอยู่ได้  มีเพียงสิบนาทีเท่านั้น  
       พลังชีวิตของยารุกคือ 10,000 หน่วย  ส่วนพลังป้องกันต่ำกว่านั้นมาก

       อ่อนแอขนาดที่  กริดโจมตีเพียงสามถึงสี่ครั้งก็ถึงแก่ความตายแล้ว
       แต่กริดก็ยังชื่นชอบในตัวยารุกต์อยู่ดี  อสูรดาบตนนี้จะมีประโยชน์มากแน่  ทั้งในการเก็บเลเวลและล่าบอส  หรือแม้กระทั่งการดวล
       สุดยอดพลังโจมตีของยารุกต์  สามารถกลบจุดอ่อนด้านความอ่อนแอทางร่างกายได้มิดชิด  แถมยารุกต์ยังมีฝีมือดาบที่ยอดเยี่ยม  ซึ่งไม่ปล่อยให้ศัตรูโจมตีโดนง่ายนัก
       
       'ใช้รับมือกับครอเกลได้เหมาะมาก'
       
       แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องในปัจจุบัน  
       อนาคตยารุกต์จะแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ถ้าได้รับพลังที่แท้จริงคืนกลับมา  บางทีอาจเหนือกว่าครอเกลก็เป็นได้
       สำหรับกริดแล้ว  ยารุกต์คือนักดาบอันดับหนึ่ง  ซึ่งกำลังกลายเป็นบริวารผู้ซื่อสัตย์ของตน

       "แม้เราจะจัดการยารุกต์ได้ง่ายเพราะมโยลเนียร์  แต่เจ้านี่ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน"

       จริงอยู่ที่มโยลเนียร์ใช้ต่อกรกับยารุกต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
       แต่ดาบสีดำที่ช่วยเปิดช่องว่างก่อนกริดจะใช้มโยลเนียร์  สิ่งนี้ย่อมสำคัญไม่แพ้กัน  
       ชายหนุ่มยืนมองดาบยาวสีดำสนิทในมือด้วยสีหน้าพึงพอใจ 
       ตั้งแต่ด้ามจับไปจนถึงปลายคมดาบ  ทั้งหมดล้วนดำสนิท  ถึงขั้นที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่า  ส่วนใดคือด้ามจับ  ส่วนคือคือใบดาบ  
       หากดูเผินๆ จะเหมือนกับดาบที่สร้างขึ้นจากถ่านหิน

[ วิญญาณดาบ ]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 1,109/1,110
พลังโจมตี : 1,836
* สามารถแยกเป็นสองส่วน  เล็กหนึ่ง  ใหญ่หนึ่ง
* เมื่อแยกออกจากกัน  ชิ้นเล็กจะมีพลังโจมตี 930 หน่วย  ชิ้นใหญ่จะมีพลังโจมตี 1,480 หน่วย
* ทุกครั้งที่โจมตีโดนเป้าหมายเดิม  พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 10%  
( สะสมสูงสุดได้ 100% )
* ได้รับทักษะ <ฟาดฟัน>
       ดาบที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างตีเหล็กในตำนาน 'กริด'  มันถูกออกแบบเพื่อให้มีพลังโจมตีสูงสุด
       วัสดุที่ใช้สร้างมีทั้งเขี้ยว  กรงเล็บ  กระดูก  และเกล็ดของเดรก
       สามารถพูดได้เต็มปากว่า  ดาบสีดำเล่มนี้คือเดรกฉบับย่อส่วน
       บนดาบจะมี 'สลัก' อยู่สองแห่ง  จุดแรกอยู่กึ่งกลางใบดาบ  จุดที่สองอยู่ด้านล่าง  สลักนี้สร้างขึ้นจากเขี้ยวเดรก  การหมุนสลักสามารถแยกดาบออกเป็นสองส่วน  หากโจมตีด้วยสลักดาบที่ยื่นออกมา  ศัตรูจะได้รับความเสียหายทางจิตใจอย่างรุนแรง
       พื้นผิวของดาบและสลักล้วนมีสีดำสนิทเหมือนกัน  ทำให้ไม่สามารถจำแนกสลักด้วยตาเปล่าได้ง่ายนัก  
เงื่อนไขการสวมใส่ : 
- เลเวล 360 หรือสูงกว่า
- ความชำนาญดาบขั้นสูงเลเวลเจ็ด  หรือสูงกว่า
- ค่าพละกำลัง 2,500 หรือสูงกว่า
- ค่าความว่องไว 3,000 หรือสูงกว่า
น้ำหนัก : 4,390

       ยารุกต์มีฉายาว่า 'อสูรดาบ'  
       กริดจึงตั้งชื่อดาบเล่มนี้ว่า 'วิญญาณดาบ' เพื่อเป็นการล้อ
       ดาบทั้งเล่มถูกสร้างขึ้นจากวัสดุเดรก  เป็นวัตถุดิบซึ่งมีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่มนุษย์จะหาได้ในตอนนี้  เขาใช้กระทั่งเกล็ดเดรกที่เหมาะแก่การนำไปสร้างชุดเกราะ

       ผลลัพธ์ของมันน่าพึงพอใจมาก  แม้จะเป็นดาบมือเดียว  แต่ค่าความคงทนและพลังโจมตีกลับสูงกว่ามโยลเนียร์
       เป็นอาวุธแห่งการโจมตีอย่างแท้จริง

       "ด้วยคุณสมบัติแยกส่วน  ยารุกต์ที่ไม่ทันตั้งตัวจึงเกิดช่องว่าง  ทำให้มโยลเนียร์ลงมือกับยารุกต์ได้ง่ายขึ้น"

       กริดได้รับแรงบันดาลใจอาวุธแยกส่วนจากครอเกล  เขาจึงสร้างดาบยาวที่แยกส่วนได้ขึ้นมา  
       หลังจากทุ่มเวลาให้กับการสร้างไอเท็มนานถึง 29 วัน
       ในที่สุดกริดก็ทะลวงขีดจำกัดตนเองได้สำเร็จ

       "และสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้..."

       ชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังโรงประมูลเพื่อมองหาหินเสริมแกร่งอาวุธ

Comments

  1. สุดจริงๆ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณมากๆครับ เมื่อได้รับโบนัสปลายปี ติดตามต่อไป

    ReplyDelete
  3. สองตอนซ้อน ขอบคุณมากคราาาาบ สนุกมากกกกๆๆ

    ReplyDelete
  4. 2 ตอนซ้อน ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  5. รอติดตามอยู่นะครับ หรือว่าคนแปลชดเชยแปลให้เพราะไม่อยู่เลยอัพสองตอนซ้อน 😂😂😂😂🙈🙈

    ReplyDelete
  6. รู้สึกค้อนมัน ออฟชั่น ไม่โหดเท่าที่ควรอ่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ตอนนี้มันยังเทพไม่พอ

      Delete
    2. ใช่มันยังโหดได้กว่านี้อีก

      Delete
  7. คิดถึง "กริด" ในจุมนรกจัง

    ReplyDelete
  8. กริดน่าจะเสริมแกร่งได้+7แน่ เพราะใช้ดวงตีอาวุธเยอะเกิ๊น

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00