จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 480



       ระหว่างที่กริดและมาซงต่อสู้อย่างดุเดือดในท้องพระโรง  
       ด้านนอกวัง  สมาชิกบลัดคาร์นิวัลก็ถูกล้างสังหารจนหมดสิ้นด้วยความร่วมมือจากสมาชิกโอเวอร์เกียร์และเผ่าวารี

       "ของที่ดรอปมามีมูลค่าสูงเอาเรื่องอยู่นะ  ส่วนใหญ่จะเป็นไอเท็มที่ใช้สำหรับต่อสู้กับผู้เล่นด้วยกันเอง  หายากอยู่เหมือนกัน"

       "เป็นเพราะเจ้าพวกบ้านี่กระหายเลือดและชอบสังหารผู้เล่นยังไงล่ะ  แต่น่าเสียดายที่เป็นไอเท็มเลเวลต่ำ  ไม่เหมาะให้พวกเราใช้งานอีกแล้ว"

       "คนของอดีตกิลด์ซิลเวอร์ไนท์มีเลเวลอยู่ในช่วง 250 ใช่ไหม  เอาไปขายให้พวกเขาในราคาถูกกันเถอะ"

       "นำไปให้กริดดูก่อน  บางทีเขาอาจต้องการเรียนรู้วิธีสร้างไอเท็มชนิดใหม่"

       "แน่นอนอยู่แล้ว"

       สมาชิกบลัดคาร์นิวัลนั้นมีค่ากรรมสูงมาก  หมายความว่าโอกาสดรอปไอเท็มย่อมสูงตาม  
       บางสิ่งที่ดรอปก็ไร้ค่า  แต่บางสิ่งก็มีมูลค่าสูงลิบจนน่าตกใจ  
       องค์ชายลำดับหนึ่ง 'พาอง' และองค์ชายลำดับสาม 'กูล็อง' ได้เดินเข้ามาหากลุ่มสมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจสอบไอเท็มดรอป

       "ขอบคุณ  ขอบคุณพวกคุณมากจริงๆ"

       "เพราะพวกคุณ  อาณาจักรของเรา...!  ประชาชนของพวกเราจึงปลอดภัย!  ทั้งเด็ก  ผู้ปกครอง  คู่รัก  และคนแก่เฒ่าต่างถูกช่วยไว้!  ขอบคุณพวกคุณมาก!"

       องค์ชายทั้งสองผงกศีรษะไม่ยอมหยุด  
       ศีรษะของพวกเขาโขกพื้นครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเป็นการขอบคุณจากใจจริง  หากไม่มีสมาชิกโอเวอร์เกียร์  ชีวิตของชาวเมืองอันแสนสำคัญก็คงจะ... 
       องค์ชายถึงกับหลั่งน้ำตา

       "เผ่าวารีของพวกเราจะต้องตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้แน่!"

       "ใช่แล้ว!  พวกเราจะหาโอกาสตอบแทนในสักวัน!"

       บุญคุณต้องตอบแทนด้วยบุญคุณ  
       องค์ชายทั้งสองสาบานด้วยเกียรติแห่งราชวงศ์

       ทหารเผ่าวารีที่เหลือรอดต่างวิ่งกลับไปแสดงความดีใจกับคนสำคัญ
       เด็กเล็กปล่อยโฮทันทีเมื่อได้พบกับพ่อแม่  ผู้ปกครองบางคนที่เคยคิดว่าบุตรของตนตายไปแล้ว  เมื่อพบเด็กอีกครั้งก็รีบโผเข้ากอดอย่างแนบแน่น  คนเฒ่าคนแก่ต่างรู้สึกเสียใจว่าทำไมพวกตนถึงไม่เป็นฝ่ายตายแทนคนหนุ่มสาว  คู่รักที่พลัดพรากได้สวมกอดกันอีกครั้ง  
       ส่วนกลุ่มคนที่พบว่ามีเพียงตนเหลือรอดตามลำพัง  พวกเขาทำได้เพียงยืนจ้องมองซากปรักหักพังด้วยสายตาที่เหม่อลอย
       
       สมาชิกโอเวอร์เกียร์หันไปมองกลุ่มผู้เหลือรอดจากเหตุการณ์ด้วยอารมณ์หลากหลาย
       แม้จะภูมิใจที่ปกป้องเมืองไว้ได้  แต่ก็รู้สึกเสียใจกับผู้ที่ตายไป  ทุกคนต่างเสียดายที่ปกป้องคนเหล่านี้ไว้ไม่ทัน   
       ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าหมอง  มีเพียงแค็ทซ์ที่ส่ายศีรษะอย่างเงียบงันตามลำพัง

       'ก็แค่เอ็นพีซีที่ตายไปแล้ว...'

       อันที่จริง  แค็ทซ์ไม่ใช่คนใจดำอำมหิตแต่อย่างใด  ท่าทีของเขาเป็นเช่นเดียวกับผู้เล่นส่วนใหญ่ในซาทิสฟาย
       เอ็นพีซีที่ตายไปก็แค่ปัญญาประดิษฐ์ซึ่งผสมผสานกับกราฟฟิกอันยอดเยี่ยมเท่านั้น  แม้อาจมีอารมณ์และความคิดเหมือนมนุษย์  แต่พวกเขาก็มีชีวิตแค่ในโลกเสมือน  
       คงเป็นการยากที่จะให้ใครสักคนรู้สึกเศร้าเสียใจในการตายของเอ็นพีซี

       แต่กรณีของสมาชิกโอเวอร์เกียร์นั้นพิเศษสักหน่อย  แน่นอนว่าทั้งหมดได้รับอิทธิพลมาจากกริด  สิ่งนี้เป็นได้ทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง...
       เป็นเรื่องของศีลธรรมที่ไม่อาจระบุได้ชัดเจนว่าถูกหรือผิด

       "ขอเชิญพวกท่านไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทพร้อมกับพวกเราด้วย!  งานเลี้ยงตอนรับอย่างยิ่งใหญ่กำลังจะถูกจัดขึ้น!"

       "ตอนนี้ลอร์ดของท่านคงกำลังพูดคุยอยู่กับกษัตริย์ของเรา  รีบไปกันเถอะ"

       องค์ชายทั้งสองนำทางสมาชิกโอเวอร์เกียร์ไปยังวังหลวง  เมื่อกริดและลอเอลไม่อยู่  คนที่เป็นผู้นำคือจิสึกะ  เธอเดินนำหน้าทุกคนไปโดยมีปิอาโร่และอัสโมเฟลเดินตาม

       หลังจากนั้นไม่นาน

       ทุกคนพลันตกตะลึงหนักเมื่อเดินทางมาถึงท้องพระโรง  ยามนี้ทั่วทั้งห้องถูกทำลายพังพินาศยับเยินจากการต่อสู้  และใจกลางความวุ่นวายทั้งหมด  กษัตริย์เผ่าวารี 'มาซง' กำลังคุกเข่าลงอย่างหมดสภาพ  โลหิตชะโลมกายอย่างน่าสยดสยอง  
       ต้นตอของความพังพินาศ  คงหนีไม่พ้นเป็นฝีมือของปาร์ตี้กริดแน่นอน

       "ฝ่าบาท!"

       "เสด็จพ่อ!"

       องค์ชายลำดับหนึ่ง 'พาอง' และองค์ชายลำดับสาม 'กูล็อง' รีบวิ่งเข้าไปหามาซง
       สีหน้าและแววตาเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นที่ถูกหักหลัง  พวกเขาค่อยๆ พยุ่งร่างของมาซงขึ้น

       "พวกแก...!  ไอ้มนุษย์ชั่วช้า!  พวกแกแสร้งทำเป็นช่วยเหลือพวกเรา  แต่แท้จริงแล้วมีเป้าหมายอยู่ที่ฝ่าบาทสินะ!"

       "บัดซบ...!  ทั้งที่ฉันเชื่อใจพวกแก!  ทั้งที่ฉันซาบซึ้งในบุญคุณ..."

       "..."

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างทำตัวไม่ถูก  
       พวกเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ตรงหน้ากำลังเดินไปยังทิศทางใด

       "เกิดอะไรขึ้นกันแน่"       
       จิสึกะเอ่ยปากถามเพื่อต้องการรับรู้ความจริง

       ในขณะที่กริดกำลังจะเปิดปากพูด  เขาก็ต้องชะงักไปเล็กน้อยและหยุดความคิดนั้นไว้  เป็นเพราะมีใครบางคนชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน
       มาซง

       "เราไม่เป็นอะไร"

       ตุ้บ!

       มาซงที่ได้บุตรชายช่วยพยุงร่างขึ้น  บัดนี้ตัดสินใจคุกเข่าลงต่อหน้ากริดอีกครั้ง
       กษัตริย์ของอาณาจักรกำลังคุกเข่าให้กับมนุษย์หนึ่งคน  แถมยังต่อหน้าสายตาจำนวนมากที่จับจ้อง  ภาพนี้ไม่น่ามองเลยสักนิด  ความสับสนโกลาหลเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง
       ทั้งทหารและองค์ชายต่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น  แม้กระทั่งสมาชิกโอเวอร์เกียร์ก็ด้วย  
       ทุกสิ่งกำลังวุ่นวาย  

       มีเพียงชายคนเดียวที่ยังสงบนิ่งอยู่ได้
       กริดมิได้ทำตัวโง่งมไร้กาละเทศะ  เขาจ้องมองมาซงอย่างเงียบงันและรอให้มาซงเป็นฝ่ายพูดขึ้น
       หลังจากนั้นไม่นาน  มาซงก้มศีรษะลงและกล่าวว่า
       "มนุษย์แปลกหน้าเอ๋ย... เราเข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านถึงโมโหเรา  ระหว่างต่อสู้  เราได้เห็นท่านสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องบริวารเพียงคนเดียว  ท่านคงไม่พอใจเราสินะ  ที่ไม่เคยบริหารบ้านเมืองและใส่ใจประชาชนเลย"

       "..."

       "ท่านคิดถูกแล้ว  เราทำตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่งกษัตริย์  กษัตริย์สมควรดูแลประชาชนให้เหมือนกับลูกหลาน  แต่เราไม่ได้ทำ"

       ตนใช้ข้ออ้างความตายของบุตรสาวในการไม่ยอมใส่ใจบริหารบ้านเมือง  ไม่ยอมปกป้องประชาชนที่ควรปกป้อง  
       เมื่อลองมองย้อนกลับไป  ตนคือกษัตริย์ที่แย่ที่สุด  มาซงเสียใจมากที่ไม่อาจเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเหล่าองค์ชายได้

       "เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  บุตรสาวที่กำลับหลับลึกอยู่ใต้ท้องทะเล  ป่านนี้คงกำลังรู้สึกสมเพชที่มีบิดาไร้ความสามารถอย่างเรา"
       มาซงจ้องมองกริดด้วยสายตาเคารพนับถือ
       "แม้จะเป็นมนุษย์  แต่ท่านสามารถบงการสัตว์วิเศษและอสูร  ท่านใส่ใจชีวิตของบริวารมากกว่าชีวิตตน  ท่านเหมาะสมจะเป็นกษัตริย์มากกว่าเรา"
       
       พลังแห่งท้องทะเลกำลังผสานกับสุ้มเสียงของกษัตริย์จนดังกังวาลไปทั่วไซเรน
       ทุกครั้งที่มาซงเอ่ยปากพูด  มานารอบกายเขาจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอันสดใสอบอุ่น

       ซู่ววว

       คลื่นที่แสนอ่อนโยนลอยเข้ามาโอบล้อมร่างกายกริดไว้
       ชายหนุ่มรู้สึกราวกับจิตใจและร่างกายได้รับการชำระล้าง

       "เราขอแสดงความนับถือต่อท่านด้วยใจจริง  เราหวังว่าบุตรชายทุกคนจะได้เรียนรู้จากท่านและกลายเป็นกษัตริย์ที่ดีในอนาคต  ไม่เหมือนกับบิดาผู้แสนโง่เขลาของตน  เราหวังว่าอาณาจักรไซเรนที่หยุดพัฒนามานาน  อาณาจักรที่อ่อนแอจนไม่สามารถต้านทานผู้รุกรานได้ด้วยตนเอง  จะแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต  และพัฒนาขึ้นในทุกด้าน"

       นั่นคือความปรารถนาของมาซง

       "กรุณาช่วยเหลือไซเรน  ช่วยนำทางราชวงศ์ไซเรนให้ก้าวไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง  พวกเราทุกคนขอติดตามท่านไป"

       ฮือฮา

       สมาชิกโอเวอร์เกียร์รวมไปถึงปิอาโร่และอัสโมเฟล  ทุกคนกำลังจ้องมองฉากตรงหน้าอย่างขนลุก  
       กษัตริย์ของอาณาจักรหนึ่งกำลังถวายสัตย์ว่าจะจงรักภักดีกับลอร์ดของตน!  นี่คือความยิ่งใหญ่ที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มีวันจินตนาการถึง
       เฉกเช่นพวกพ้อง  กริดเองก็หัวใจพองโตและกำลังตื่นเต้นไม่แพ้กัน  แต่เขาพยายามข่มใจให้สงบ  กริดสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกับลงมือกระทำบางสิ่ง
       ก่อนอื่น  เขาพยุงมาซงที่กำลังคุกเข่าอยู่ให้ยืนขึ้น  หลังจากนั้นก็ยื่นแขนออกไปขอจับมืออย่างเท่าเทียม
       
       "กษัตริย์มิควรก้มหัวให้ผู้ใด"       

       มาซงไม่ใช่คนแรก  
       แต่ทั้งสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนที่นี่  ปิอาโร่  อัสโมเฟล  จู๊ด  โนเอะ  และแรนดี้  ทุกชีวิตล้วนติดตามกริดโดยมิได้เคลือบแคลงสงสัยในตัวชายคนนี้

       'เราจะทำให้พวกเขาผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด'

       รากฐานต้องปูทางไปสู่ 'ชื่อเสียง' มิใช่ 'ความอับอาย'  
       แม้จะเห็นแก่ตัวไปบ้าง  แต่กริดผู้ที่ 'พากเพียรยิ่งกว่าใครทั้งหมด' กำลังนำพาตนเองไปสู่เส้นทางของราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่

       ***

[ กิลด์โอเวอร์เกียร์จับมือเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์ไซเรนแห่งอาณาจักรเผ่าวารี ]

[ กิลด์โอเวอร์เกียร์และราชวงศ์ไซเรนจะแลกเปลี่ยนความรู้กันทางด้านกองทัพ  วรรณกรรม  เวทมนต์  เศษรฐกิจ  และศาสนา ]

[ นับแต่นี้ไปจนกระทั่งครบสองปี  กิลด์โอเวอร์เกียร์จะสนับสนุนเงินทุนต่อไซเรนเดือนละ 100,000 เหรียญทอง   แต่หลังจากครบสองปี  กิลด์โอเวอร์เกียร์จะได้ส่วนแบ่งทางกำไรจากไซเรนจำนวน 20% ในทุกเดือน ]

[ เพื่อเป็นการปกป้องไซเรน  กิลด์โอเวอร์เกียร์สามารถนำกำลังทหารเข้าไปประจำการที่ไซเรนได้ทุกเมื่อ  แต่ในทางกลับกัน  หากไซเรนต้องการเคลื่อนกำลังพล  พวกเขาต้องได้รับการอนุญาตจากหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์ 'กริด' เสียก่อน ]

[ หากกริดกลายเป็นกษัตริย์ในอนาคต  อาณาจักรไซเรนจะยุบรวบเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรกริดในทันที  จนกว่าจะถึงตอนนั้น  ไซเรนจะไม่ทรยศกริดเด็ดขาด ]

       ด้วยมันสมองของลอเอล  สนธิสัญญาพันธมิตรจึงถูกร่างขึ้น  
       ข่าวนี้ถูกแพร่ออกไปยังสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนทั่วทั้งทวีป  ไม่ว่าจะเป็นเรย์ดัน  วินสตัน  ไบรัน  หรือเกาะคอร์ก  
       สมาชิกกว่า 300 คนในตอนนี้ต่างพากันโห่ร้องยินดีอย่างมีความสุข  กำลังใจของพวกเขากำลังพุ่งสูงเสียงฟ้า

       "นี่ไม่ใช่สนธิสัญญาพันธมิตรแล้ว  ลองอ่านดูให้ดีสิ  กริดกลายเป็นเจ้าของไซเรนอย่างสมบูรณ์แล้วต่างหาก"

       "โฮ่... กิลด์ของพวกเรากำลังโตวันโตคืน  ก็อดกริดสุดยอด!"

       "โชคดีจังที่ได้เข้าร่วมโอเวอร์เกียร์!"

       พวกมันที่ถูกขนานนามให้เป็นเจ็ดกิลด์ใหญ่  แต่กลับมีดินแดนในครอบครองเพียงหนึ่งแห่งเท่านั้น  
       บนโลกนี้ยังมีอีกพันอีกหมื่นกิลด์  แต่เกือบทั้งหมดกลับไร้ดินแดน  
       แล้วโอเวอร์เกียร์ล่ะ  พวกเขามีดินแดนอยู่เท่าไร
       ดินแดนอย่างเป็นทางการคือสาม  ประกอบด้วยไบรัน  เรย์ดัน  และเกาะคอร์ก  ส่วนวินสตันก็เป็นของไอรีน  ภรรยาสุดรักสุดหวงของกริด  
       เท่านั้นยังไม่พอ  ตอนนี้กริดได้ฮุปกลืนทั้งอาณาจักรไซเรนให้เป็นของตนเรียบร้อยแล้ว

       ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
       พวกเขายังเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นกับเอิร์ลสไตม  ขุนนางอับดับหนึ่งแห่งดินแดนตอนเหนือของอีเทอนัล  
       หลังจากสร้างกิลด์ได้เพียงสองปีในเวลาจริง  กิลด์โอเวอร์เกียร์ก็เติบโตด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึงมาตลอด  และกลายเป็นเป็นกิลด์อันดับหนึ่งของโลกได้สำเร็จ
       สมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนโดยเฉพาะอดีตกิลด์ซิลเวอร์ไนท์ล้วนชื่นชมในพลังทางการเมืองและการบริหารของกริดอย่างมาก

       "เขาสมรสกับไอรีนและกลายเป็นบุตรเขยของขุนนางทรงอิทธิพล"

       "เขาฮุบกลืนกิลด์เซดาก้าห์"

       "เขาพัฒนาเมืองไปพร้อมกับเปิดรับการอพยพจากชนกลุ่มน้อย"

       "มาถึงตอนนี้เป็นก็อาณาจักรเผ่าวารี..."

       สมกับเป็นก็อดกริด  ความภาคภูมิใจแห่งเกาหลีใต้
       อดีตสมาชิกซิลเวอร์ไนท์ต่างยกย่องสรรเสริญกริดในรูปแบบของพวกตน  
       ทั่วทั้งทวีป  บ้างก็เต้นรำอย่างมีความสุข  บ้างก็หัวเราะราวกับคนเสียสติ  
       ผู้เล่นคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์จึงเริ่มแพร่กระจายข่าวลืออีกครั้ง
       'กิลด์โอเวอร์เกียร์  นับวันยิ่งมีพวกไม่ปรกติมากขึ้นทุกที'

       สมาชิกบลัดคาร์นิวัลที่ได้ยืนข่าวลือต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน

       "มีพวกไม่ปรกติเพิ่มขึ้นอีกแล้วหรือ"

       "ของเดิมก็มากพออยู่แล้วนะ..."

       "แค่ก!  พวกเราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับโอเวอร์เกียร์โดยเด็ดขาด"
       
       นักรบโลหิต 'แค็ทซ์'  มนุษย์สัตว์ป่า 'ทูน'  หัวล้าน 'แวนเนอร์'  นักด่าพ่อล่อแม่ 'ฮิวรอย'  และอีกมากมาย  
       ชาวบลัดคาร์นิวัลต่างสั่นระริกเมื่อหวนนึกถึงกลุ่มผู้เล่นสติไม่สมประกอบในกิลด์โอเวอร์เกียร์
       ความน่าสะพรึงกลัวของนิสัยอันผิดแผกพิสดาร  ได้ส่งผลให้แม้แต่วายร้ายสุดกู่อย่างพวกมันยังเข็ดขยาด

       แน่นอนว่าไม่ใช่บลัดคาร์นิวัลทุกคนที่กลัวจนหัวหด  
       แบล็คและไวท์  ฝาแฝดนรกคู่นี้กำลังลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งการแก้แค้น

       "ผลลัพธ์จะออกมาตรงข้ามแน่ถ้าพวกเรามีโอกาสสู้ด้วยกัน!"

       "ถูกต้อง!  ได้โปรดมอบโอกาสแก้แค้นให้พวกเรา!  กรุณาให้พวกเราหยิบยืมพลังด้วย!"

       ทั้งสองกำลังอ้อนวอนต่อหัวหน้าใหญ่แห่งบลัดคาร์นิวัล  
       แต่หัวหน้าในเงามืดคนนี้กลับปฏิเสธ

       "พวกเราร่วมมือเพียงเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น  การระดมพลเพื่อแก้ปัญหาของใครคนหนึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"

       "ชิ!  ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะจ่ายเงิน!  ฉันไม่สนว่าจะแพงแค่ไหน!  ได้โปรดเปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมแผนถล่มเรย์ดันด้วย!"

       "พวกเธอลืมกฏเหล็กไปแล้วหรือ  ว่าฉันจะไม่ระดมพลในภารกิจที่มีโอกาสสำเร็จต่ำ"

       "อึก...!"

       นี่คือการประเมินของหัวหน้าใหญ่แห่งบลัดคาร์นิวัล

       'มันยังไม่ถึงเวลา'

       ใช่แล้ว  ยังไม่ใช่ตอนนี้  ทุกสิ่งมีขีดจำกัด  แม้กระทั่งการพัฒนา
       แม้ตอนนี้กิลด์โอเวอร์เกียร์อาจเติบโตรวดเร็วจนน่าใจหาย  แต่อีกไม่นานก็ต้องเข้าสู่ภาวะคงที่  ตัวอย่างเช่น 'ชาวนาในตำนาน' ผู้โด่งดังคนนั้น   อีกไม่นานก็คงไม่ใช่ตัวตนที่พิเศษแต่อย่างใดแล้ว

       'ปิอาโร่งั้นหรือ… เราคงต้องหาเอ็นพีซีพิเศษที่ใกล้เคียงกับเจ้านั่นมาใช้งานบ้าง'       

       เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวล่ะนะ

       ***

       "กระผมจะทำฟาร์มที่นี่"
       ปิอาโร่พูดขึ้นขณะอยู่ในไซเรน

       ลอเอลออกอาการไม่เห็นด้วยทันที
       "พื้นดินมีแต่ทรายหยาบปกคลุมเช่นนี้  ผลผลิตไม่มีทางเจริญเติบโตได้แน่  นายทำฟาร์มไม่สำเร็จหรอกนะ"

       "ไม่เลย  การทำฟาร์มคือรากฐานของชีวิต  การทำฟาร์มไร้ขีดจำกัด  กระผมจะแสดงให้เห็นเอง  กระผมจะปลูกผลผลิตที่สามารถเติบโตได้ในไซเรนเท่านั้น  สิ่งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของนายท่านได้มาก  ได้โปรดอนุญาตด้วย"

       กริดรู้ดีว่าปิอาโร่เป็นคนหัวรั้นขนาดไหน
       แต่เขาก็เชื่อใจปิอาโร่มากกว่าใครเช่นกัน  ปิอาโร่คือตำนาน  ตำนานที่เข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากกว่าตน  
       ในสิ่งที่ปิอาโร่ถนัด  ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับเขา

       "เข้าใจแล้ว  ฝากที่นี่ด้วยนะ"

       "นายท่าน!  ถ้าปิอาโร่ไม่อยู่  ใครจะเป็นองครักษ์ให้กับเรย์ดัน"

       พลังของปิอาโร่คือสิ่งที่ไม่อาจทดแทนได้  หากเขาต้องจากเรย์ดันไปจริง  ลอเอลเป็นกังวลว่าเรย์ดันอาจตกอยู่ในอันตราย  การรักษาความปลอดภัยต้องยกระดับให้สูงขึ้น  และนั่นหมายถึงการสิ้นเปลืองกำลังคน
       เมื่อกริดได้ฟังคำคัดค้านของลอเอล  ชายหนุ่มจึงหันไปมองอัสโมเฟลพร้อมกับพูดขึ้นว่า

       "ตำแหน่งที่ว่างลงของปิอาโร่… ฉันจะให้ทหารของพวกเราทำแทน"

       "อึก...!"

       อัสโมเฟลนั้นมีอุปนิสัยขึงขังจริงจังเสมอ  เขาไม่มีอารมณ์ขันแม้แต่เศษเสี้ยว  ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ากริดกำลังยกย่องว่าเขาอยู่ระดับเดียวกับปิอาโร่  
       ตรงกันข้าม  อัสโมเฟสคิดว่ากริดกำลังมองตนเป็นเพียงทหารคนหนึ่ง

       'นายท่านเห็นเราเป็นแค่ทหารสินะ...!'
       ถ้าหากเป็นเช่นนั้น
       'เราจะกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น!'

       ใช่แล้ว  อัสโมเฟลจะกลับไปเป็นทหารอีกครั้ง

       'เราจะเพิ่มพูนทักษะ!'

       นี่คือวินาทีซึ่งทักษะ 'ความมุ่งมั่นของหมายเลขสอง' ทำงาน   
       หลังจากนี้ไม่นาน  ทั่วโลกจะต้องตกตะลึงกับ...
       'ตำนานทหารผู้ไร้พ่าย'

Comments

  1. อัสโมเฟส เข้าใจกริดผิดไปอีกแล้ว แต่การเข้าใจผิดก็แลกมา ด้วยเอ็นซีพี พิเศษยิ่งกว่าเดิม......ตำนานทหารผู้ไร้พ่าย .....[ตำนาน]
    ขอบคุณที่แปลครับ

    ReplyDelete
  2. กริดนายเปลี่ยนยอดนักดาบให้กลายเป็นตำนานได้อีกแล้วนะ

    ReplyDelete
  3. ทำไมตอนนี้ คำว่าตำนานมันเยอะจังวะ

    ReplyDelete
  4. ตอนแรกเปลี่ยนมหาจอมดาบเป็น [ชาวนาในตำนาน]​ นี่จะเอาอีกละหรอ

    ReplyDelete
  5. ตำนานบทไหมเยอะจริงๆ

    ReplyDelete
  6. ใครอยากได้คลาสระดับตำนานก็จงเข้าใจกริดบ่อยๆนะ

    ReplyDelete
  7. นักด่าพ่อล่อแม่ ฮิวรอย
    5555555555555555

    ReplyDelete
  8. ปิอาโร่นายจะทำฟาร์มทุกที่ที่ไปไม่ได้นะเมืองไซเรนจะกลายเป็นเมืองแห่งการเกษตรกรรม

    ReplyDelete
  9. ได้ตำนานมาอีกคนละ

    ReplyDelete
  10. ถ้ามันบุกก็คงตอนงานเเข่งเลยมั้งนั้น ที่เหลืออยู่เมืองก็คงมีเเค่เฟคเกอร์

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00