จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 469



       >>  กริด  รีบมาไซเรนเร็วเข้า!

       >>  ทำไมต้องไซเรน...

       ตนกำลังจะไปหาไอรีนที่อยู่แค่เอื้อม!  จะมีสามีคนใดบนโลกบ้างที่คิดถึงภรรยามากขนาดนี้  
       ฝีเท้าของกริดพลันหยุดกึกทันที       

       ลอเอลรีบอธิบายต่อ

       >>  มีศัตรูบุกไซเรน  จำนวนของอีกฝ่ายคือ 1,000 คน  โดย 30 คนในกลุ่มนี้เป็นผู้เล่นคลาสระดับสาม  แถมยังมีหนึ่งคนที่เป็นผู้เล่นระดับดวงอาทิตย์  หรือก็คือ  มีฝีมือแข็งแกร่งเทียบเท่านาย

       'ระดับดวงอาทิตย์งั้นหรือ'

       น้ำหนักของข้อมูลจากลอเอลนั้นยิ่งใหญ่มาก  
       กริดได้แต่ยิ้มเจื่อน  ภายในใจของเขากำลังเจ็ดปวด

       >>  ดูเหมือนการรุกรานจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้หนึ่งเดือนสินะ  เข้าใจแล้ว  ฉันจะรีบไปเดี่ยวนี้

       อันที่จริง  กริดต้องการเสพสุขกับไอรีนและลอร์ดอีกสักพัก  แต่สิ่งเหล่านี้จะทำเมื่อไรก็ได้  เขาจำต้องเลื่อนมันไปก่อน  ชีวิตของพวกพ้องที่กำลังอยู่ในอันตรายนั้นสำคัญกว่ามาก  
       ชายหนุ่มรีบสวมรองเท้าบราฮัมพร้อมกับรีบบินขึ้นบนท้องฟ้า  
       
       >>  ตอนนี้ระบบสื่อสารกับไซเรนถูกตัดขาด  ทีมแนวหน้าที่ส่งไปไม่สามารถติดต่อได้แล้ว  หากนายไม่อาจส่งข้อความหาฉันได้  ไม่ต้องตกใจไป  รีบมุ่งหน้าไปยังไซเรน  ระหว่างนี้ฉันจะเข้าไปเคลียทางให้นายก่อน

       >>  เข้าใจแล้ว... ช่วยปกป้องเผ่าวารีให้มากที่สุดด้วย

       >>  ความหวังของนายจะเป็นจริงแน่นอน...

       มือไม้ของกริดพลันหงิกงอเมื่อได้ยินข้อความชวนขนหัวลุกจากลอเอล  
       เหตุใดสมาชิกแนวหน้าโอเวอร์เกียร์เกือบทั้งหมดต้องมาช่วยทำภารกิจของยูเฟอมิน่าเพียงคนเดียวน่ะหรือ  เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือ  ยูเฟอนิม่าเคยช่วยเหลือโอเวอร์เกียร์และเรย์ดันไว้มาก

       แต่ก็ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง  
       กริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์ตัดสินใจช่วยทำภารกิจยูเฟอมิน่าเพราะพวกเขาต้องการเป็นพันธมิตรกับเผ่าวารี  หากมีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน  ในอนาคตพวกเขาอาจมีกำลังเสริมที่แข็งแกร่ง  และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  กริดต้องการน้ำตาแห่งกษัตริย์เผ่าวารีจำนวนมาก  
       ด้วยเหตุนี้  พวกเขาจำเป็นต้องลดความเสียหายของอาณาจักรไซเรน  และลดการสูญเสียของเผ่าวารีให้ได้มากที่สุด  เพื่อที่จะกลายเป็นผู้มีพระคุณในภายหลัง

       ในขณะที่กริดกำลังลอยขึ้นด้วยสีหน้าเร่งร้อน
       
       "ท่านพ่อ!"

       เป็นเสียงของลอร์ด  เด็กทารกก่อนหน้านี้  เวลาในซาทิสฟายผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ทารกตัวน้อยกลายเป็นเด็กน้อยที่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้แล้ว

       "ลอร์ด...!"

       แม้เวลาจะกระชั้นชิดมากเพียงใด  แต่มีหรือที่เขาจะเมินเฉยเสียงเรียกจากบุตรชายตนเอง  กริดร่อนกลับลงมาพร้อมกับลูบไล้ศีรษะของลอร์ด  แม้เด็กคนนี้จะเป็นเพียงตัวตนในโลกเสมือนจริง  แต่ก็ถือกำเนิดจากตนและไอรีน  หญิงสาวที่ตนรักมากที่สุด  
       ลอร์ดทั้งน่ารักและหล่อเหล่า

       "ท่านพ่อกำลังจะไปไหน  ท่านพ่อยุ่งทุกวันเลย  ท่านแม่กับผมเป็นห่วงมาก!"  
       ในมุมมองของลอร์ด  กริดหายตัวไปหลายเดือนนับจากการพบกันครั้งสุดท้าย  
       ด้วยความที่เป็นอัจฉริยะระดับทวีป  ลอร์ดจึงเรียนรู้ภาษาและเติบโตได้เร็วกว่าเด็กทั่วไปหลายเท่า
       "ผมต้องการเล่นกับพ่อ!  ผมสร้างมีดได้เหมือนพ่อแล้วนะ!!"

       "ฮะฮะ!  งั้นหรือ  เดี๋ยวพ่อจะรีบกลับมาดูนะ"  
       แม้จะมีพรสวรรค์สูงลิบเพียงใด  แต่ลอร์ดก็ไม่เคยทระนงตนและพยายามอย่างหนักเสมอ  ราวกับความพากเพียรเป็นสิ่งที่ส่งต่อผ่านสายเลือดได้  กริดใช้ฝ่ามือลูบไล้เส้นผมสีดำของลอร์ดอย่างทะนุถนอม 
       "เดี๋ยวพ่อจะรีบจัดการให้เสร็จแล้วรีบกลับมาดูผลงานของลูกชายคนเก่ง  ตอนนี้ช่วยอยู่กับแม่ไปก่อนนะ"

       "...ครับ"       

       ลอร์ดเรียนรู้เรื่องราวมากมายจากจอมปราชญ์สติกส์  เขารู้ดีว่าบิดาของตนมีภาระหน้าที่ยิ่งใหญ่เพียงใดในฐานะดยุค  ลอร์ดพยายามไม่เศร้าเสียใจ  แต่ด้วยความที่ยังเด็ก  ย่อมเก็บอารมณ์ได้ไม่เก่งนัก  น้ำตาใสๆ ไหลรินออกจากดวงตากลมโต  กริดพยายามปลอบประโลมด้วยการลูบศีรษะอย่างเบามือ  
       แต่ทันใดนั้น  ชายหนุ่มพลันตกตะลึงเมื่อเหลือบไปเห็นด้านหลัง

       'อะไรกัน...'

       ด้านหลังของลอร์ดที่กำลังยืนร่ำไห้  
       'เด็กสาวที่ถูกเลือกแห่งรีเบคก้า' กำลังยืนเรียงรายอยู่หลายสิบคน

       'ไม่ใช่ว่าพวกเธอต้องทำฟาร์มอยู่กับปิอาโร่หรอกหรือ  เหตุใดถึงตามติดลอร์ดเช่นนี้'

       กริดตั้งคำถามในใจ  แต่ราวกับลอร์ดอ่านใจออก  เขาชี้นิ้วไปยังเด็กสาวที่ยืนอยู่ใกล้ตนมากที่สุดพร้อมกับกล่าวว่า
       "พี่สาวคนนี้ชื่อ 'เอโพน่า' เป็นคนรักคนแรกของผม"

       "คนแรก..."

       แปลว่ามีคนที่สองด้วยรึไง...
       และนั่นคือความจริง  ลอร์ดหยุดร้องไห้โดยพลันและหันไปชี้นิ้วยังเด็กสาวคนถัดไป
       
       "พี่สาวคนนี้ชื่อ 'อาร์น่า'...  เป็นคนรักคนที่สองของผม"
       
       "..."

       ยังไม่จบเพียงเท่านี้  ลอร์ดมีคนรักทั้งหมด 20 คน!

       "เชี่ย..."

       เด็กชายอายุยังไม่ถึงสองขวบกลับมีคนรักมากถึง 20 แล้วเนี่ยนะ!  กริดแต่งงานกับไอรีนโดยที่โสดสนิทมาตลอดเกือบ 30 ปี  ไม่มีทางเลยที่เขาจะเข้าใจหัวอกความรู้สึกของลอร์ด

       'คงไม่ได้เข้าใจผิดระหว่าง 'เพื่อน' กับ 'คนรัก' หรอกนะ'

       ปัญหาคือลอร์ดเป็นอัจฉริยะแตกต่างจากบิดาตน  เรื่องพื้นฐานเช่นนี้ไม่น่าเข้าใจผิดกันได้
       เด็กสาวนาม 'เอโพน่า' เริ่มอธิบายกริด

       "ดยุคกริด  ท่านเคยบอกให้พวกเราคอยดูแลลอร์ด..."

       'จริงด้วยแฮะ...'

       ทันทีที่ได้ยินเด็กสาว 'เอโพน่า' อธิบายด้วยใบหน้าแดงก่ำ  กริดก็หวนนึกไปถึงประโยคที่ตนเคยพูดไว้กับพวกเธอเมื่อครั้งไปหาปิอาโร่ในทุ่งข้าว

       "จงเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและงดงาม  อย่าลืมช่วยดูแล 'ลอร์ด' บุตรชายฉันด้วย"

       กริดส่ายศีรษะทันที

       'นี่คำพูดของเราทำให้ลอร์ดสร้างฮาเร็มขึ้นมางั้นหรือ'

       กริดพลันนึกภาพตามลอร์ดใช้ชีวิตอยู่กับเด็กสาวที่ถูกเลือกแห่งรีเบคก้าทั้ง 200 คน  
       หลังจากนั้นก็รู้สึกคับแค้นใจบิดาของตนเองทันที

       'บ้าจริง...!  ทำไมท่านพ่อถึงไม่รักเราแบบนี้บ้าง!'

       แนะนำเด็กผู้หญิงให้ลูกชายตัวเองบ้างสิฟะ!

       "ท่านพ่อ..."  
       ลอร์ดพลันฉงนเมื่อจู่ๆ กริดก็แสดงสีหน้าหงุดหงิด  
       ชายหนุ่มที่เกือบคลั่งไปแล้วได้กุมมือลอร์ดไว้และกล่าวว่า

       "นั่นสินะ  ได้เป็นเพลย์บอยคงดีกว่าต้องใช้ชีวิตตามลำพังเหมือนพ่อ  ดูอย่างพีคซอร์ดสิ  การไม่มีแฟนทำให้กลายเป็นคนแบบนั้น  ลูกโชคดีมากแล้ว  แต่อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดีล่ะ  อวัยวะส่วนสำคัญของลูกอาจชำรุดได้หากใช้งานมันมากเกินไป"

       "หือ... อวัยวะส่วนสำคัญ  ท่านพ่อกำลังพูดถึงอะไร"

       "เอ่อ... พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเจ็บรึเปล่า  พ่อไม่เคยใช้งานมากขนาดนั้นมาก่อน"

       เดี๋ยวประสบการณ์คงมอบบทเรียนให้ลอร์ดเอง  
       กริดรู้สึกอิจฉาบุตรชายตนมาก  เด็กคนนี้คาบช้อนทองมาเกิดอย่างแท้จริง  
       กริดโอบกอดลอร์ดทั้งน้ำตาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบินจากไป

       หลังจากนั้นครู่หนึ่ง

       คาซิมเริ่มกลับมาหายใจอีกครั้ง  หลังจากต้องกลั้นไว้ตลอดเวลาเมื่อกริดอยู่ใกล้

       'ดยุคกริด... เขาเปลี่ยนไปจากเมื่อสามเดือนก่อนมาก'

       แม้สีหน้าและคำพูดจะอบอุ่นขึ้น  แต่ประสาทสัมผัสกลับเฉียบแหลมคมกริบ  
       เมื่อครู่  คาซิมมองเข้าไปในดวงตาของกริดที่กำลังสนทนากับบุตรชายอย่างมีความสุข  แต่เขาพลันรับรู้ถึงอันตรายจนต้องรีบกลั้นหายใจไว้

       'โดรัน... ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมนายถึงมอบแหวนให้ดยุคกริด'

       โดรันมีสายตามองคนเป็นเลิศมาแต่ไหนแต่ไร  บางทีเขาอาจเห็นถึงความยอดเยี่ยมในตัวกริดมาตั้งแต่ต้น  
       ใช่แล้ว... บางที  โดรันในตอนนั้นอาจไม่ได้เข้าใจผิด

       'ดยุคกริด  ฉันจะสังหารทุกคนที่บังอาจสอดมือเข้ามายุ่งกับคนสำคัญของนาย  จงใช้ชีวิตอย่างสบายใจและรีบเติบโตขึ้น  รีบพัฒนาตนเองเพื่อโค่นล้มจักรวรรดิ  แก้แค้นให้ตระกูลของฉัน'

       ***

       "ชักไม่แน่ใจแล้วสิ  ว่าพวกเราเป็นทหารคือชาวนากันแน่"

       "ฉันด้วย... แต่ใครจะสนกัน  ขอเพียงแข็งแกร่งขึ้นก็พอแล้ว"

       "ถูกต้อง  แต่ฉันไม่อยากเข้าร่วมสงครามโดยใช้อุปกรณ์ทำฟาร์มหรอกนะ  แถมเริ่มเบื่อรสชาติของมันฝรั่งสายรุ้งแล้ว..."

       "เฮ้ย!  อย่าได้พูดแบบนั้นต่อหน้าบลันด์เชียว!  เจ้าเสพติดมันฝรั่งนั่นจะต้องโกรธนายมากแน่หากได้ยินเข้า"

       ทั้งอัศวินและทหารของโอเวอร์เกียร์  เมื่อฝึกกองทัพเสร็จในยามเช้า  อัสโมเฟลจะส่งให้คนเหล่านี้มาฝึกทำฟาร์มต่อในช่วงบ่าย  เขาหันไปมองกลุ่มที่เริ่มสับสนในตัวเองด้วยสีหน้าสมเพช  หลังจากนั้นก็หันกลับไปมองปิอาโร่ที่ยืนรอด้วยแววตาลุ่มลึกครู่หนึ่ง  
       ชาวนา... ไม่สิ  ปิอาโร่อมยิ้มตอบเมื่อเห็นกองทัพอัศวินและทหารเดินทางมาเพื่อรับการฝึกรอบบ่าย

       "เหนื่อตั้งแต่รุ่งเช้าเลยนะ  กัปตันกองอัศวินเวทย์มนต์โอเวอร์เกียร์"

       "ไม่หรอก  นายต่างหากที่เหนื่อยแย่  กัปตันกองอัศวินโอเวอร์เกียร์"

       สหายรักสองคนนี้เคยติดกับหญิงชั่วจนต้องเป็นศัตรูต่อกัน  หลังจากผ่านพ้นบททดสอบนานาชนิด  ในที่สุดทั้งคู่ก็กลับมาเป็นเพื่อนรักกันได้อีกครั้ง  แต่สายสัมพันธ์คราวนี้กลับแน่นแฟ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  ทั้งหมดเป็นเพราะดยุคกริด  ปิอาโร่และอัสโมเฟลที่เคยเป็นเสาหลักแห่งซาฮารันจึงขอติดตามรับใช้ดยุคกริดด้วยหัวใจจงรักภักดี

       ลอร์ดของตนกำลังทำสิ่งใดอยู่นะ...  
       ในขณะที่คนทั้งสองกำลังคิดถึงกริด

       "ปิอาโร่!"

       สุ้มเสียงดังขึ้นจากด้านบนท้องฟ้า  แม้จะบางเบา  แต่ก็แฝงไปด้วยความเข้มแข็งดุดัน  
       เจ้าของเสียงมิใช่ใครอื่น  เป็นกริด

       "นายท่าน!"

       เขามาหาปิอาโร่งั้นหรือ  อัสโมเฟลดีใจที่ได้พบกริดก็จริง  แต่ภายในใจกลับรู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย

       "อ้าว!  เป็นยังไงบ้างอัสโมเฟล  ไม่เจอกันนานเลยนะ  นายยังทำหน้าที่ฝึกทหารได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย!"

       กริดร่อนลงมาหยุดอยู่ข้างคนทั้งสอง  
       ทันใดนั้น  อัศวินและทหารหลายพันคนของเรย์ดันพลันคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง
       
       "ผู้มีพระคุณชั่วชีวิต!  ดวงอาทิตย์แห่งเรย์ดัน!  พวกเราขอถวายบังคมดยุคกริด!"

       ทหารเหล่านี้เติบโตขึ้นมากหลังจากเขากลายเป็นลอร์ดของเรย์ดัน  กริดดีใจทุกครั้งที่ได้ยินคำเชิดชูจากปากผู้คน 
       ไม่ใช่เพียงพลเมืองของเรย์ดันของเท่านั้น  แต่คนทั้งโลกต่างก็เรียกขานกริดว่าเป็นดวงอาทิตย์  เขารู้สึกภูมิใจมากที่ถูกยอมรับ  กริดอมยิ้มไปพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบกองทหาร

       ตอนนี้มีทหารทั้งหมดกว่า 4,000 นาย  แถมยังเป็นอัศวินมากถึงแปดคน  เขาคาดหวังกับอัศวินเหล่านี้มาก  เพราะทั้งหมดถูกเลือกและฝึกอย่างหนักโดยปิอาโร่

       'มีความสุขจัง'

       ผู้ชายน่าสมเพชคนหนึ่งได้กลายมาเป็นลอร์ดของประชาชนนับหมื่นและทหารอีกหลายพัน
       เรื่องราวเหล่านี้เพ้อฝันเกินกว่าจะจินตนาการออก  เมื่อลองย้อนกลับไปในอดีตสักสามปี
       ไม่สิ... แค่สิบเดือนในชีวิตจริงก็พอ

       'เราควรเขียนหนังสืออัตชีวประวัติดีไหม'

       ชื่อเรื่องจะต้องเป็น 'มหาตำนานจ้าวแห่งยุทธภัณฑ์' แน่นอน  
       แต่ปัญหาก็คือ  เขาต้องแต่งมันอย่างน้อย 50 เล่มเป็นอย่างต่ำ

       "นายท่านกำลังตามไปสมทบกับกองทัพของเอิร์ลลอเอลงั้นหรือ"

       ปิอาโร่เป็นห่วงที่กริดแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย  
       กริดพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับถือดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ในมือ  หลังจากนั้นเขาก็เรียกโนเอะออกมา

       "ใช่แล้ว  ตอนนี้ฉันค่อนข้างรีบ  ก็เลยอยากยืมค่าสถานะสักหน่อย"

       กริดมีแผนจะเพิ่มค่าความว่องไวบางส่วนด้วยการให้โนเอะเขมือบปิอาโร่  แต่ก่อนอื่นเขาอยากชมว่าปิอาโร่พัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว  จึงทำการหยิบดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ออกมาเตรียมส่อง  
       ทว่า  เขาตัดสินใจตรวจสอบค่าสถานะของอัสโมเฟลดูก่อน

       "...เฮ้ย!"

       ดาบสวรรค์ 'อัสโมเฟล'  ชายคนเดียวที่เคยมีฝีมือเทียบเคียงปิอาโร่ได้สูสี  เขาใช้เวลาไม่ถึงสองปีในการเรียกฝีมือเดิมกลับคืนมา  ในที่สุดอัสโมเฟลก็เป็นที่ยอมรับจากกริดเสียที

       "อัสโมเฟล  นายสุดยอดมาก!"       

       "นายท่าน...!"

       ความพยายามอย่างหนักของตนถูกนายท่านมองเห็นแล้ว!  
       ในขณะที่อัสโมเฟลกำลังขนลุกซู่

       "เป็นนายสินะ  เมี๊ยว!"  
       โนเอะที่นั่งเงียบงันอยู่บนหัวไหล่กริด  ยามนี้พูดขึ้นพร้อมกับอ้าปากกว้างและเขมือบอัสโมเฟลเข้าไปคำโต

       "เอาล่ะ  ได้ค่าความว่องไวตามที่ต้องการแล้ว  ขอบคุณมาก!  ฉันไปถึงที่หมายได้ไวขึ้นเพราะนายเลยนะ!"

       "น--นายท่าน...!"

       อัสโมเฟลที่ยามนี้ร่างกายเหนียวหนืดไปด้วยน้ำลายโนเอะ  เขากำลังยืนมองตามหลังกริดที่พุ่งหายไปในท้องฟ้าด้วยสายตาเหม่อลอย  ชายคนนี้เคยแข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิซาฮารันยุคหนึ่ง  เขาพลันหวนนึกถึงชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ในอดีต  สีหน้าอัสโมเฟลกำลังลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความทะเยอทะยาน

       "ปิอาโร่… ฉันจะไม่มีวันให้อภัยตนเองที่เคยตกเป็นเหยื่อของยาเลวทรามนั่นจนเกียจคร้านและขาดซ้อมเป็นเวลานาน!  ได้โปรดช่วยฉันด้วย!  จงฝึกฝนฉันให้หนักยิ่งขึ้น!"

       ปิอาโร่แสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย

       "ดี!  งั้นเริ่มด้วยจอบ!"

       "...ต้องทำแบบนี้ด้วยหรือ"

       อัสโมเฟล  อดีตชายที่เคยเรืองอำนาจในจักรวรรดิซาฮารัน  ขุนนางชั้นสูงที่ผู้คนนับแสนเคยให้ความยำเกรง  บัดนี้ต้องลงมือทำนาเฉกเช่นทหารเลวทั่วไป

Comments

  1. อัสโมเฟลก็ไม่เว้น 55

    ReplyDelete
  2. กำเนิดชาวนาในตำนานอีกคน

    ReplyDelete
  3. ไม่อยากเป็นชาวนาอย่าไปเหยียบเรย์ดัน

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00