จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 654



    นักคัดลอก

    มีเพียงน้อยคนนักที่รู้  แต่คลาสเกรดอีปิกแรกของโลกที่ผู้เล่นครอบครอง  คือนักคัดลอกของยูเฟอมิน่า
    เธอถือเป็นหนึ่งในสามคลาสอีปิกรุ่นแรกที่เคียงคู่มากับ <ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล> และ <นักรบโลหิต>
    
    หากทักษะใดมีเกรดต่ำกว่าอีปิก  นักคัดลอกสามารถขโมยไปใช้งานได้ดั่งใจนึก...
    โดยไม่ต้องร่าย

    หากนักคัดลอกครอบครองสุดยอดทักษะไว้กับตัวเป็นจำนวนมาก  พลังต่อสู้จะอยู่ในระดับสูงส่งเหนือจินตนาการ
    แม้แต่ราชาโอเวอร์เกียร์อย่างกริด  ชายผู้โค่นท้องฟ้า  ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะยูเฟอมิน่าในสภาพสมบูรณ์พร้อมได้

    "หล่อนเป็นใคร"

    พวกมันคือหน่วยเกราะหนักเจนศึกกองพลที่หนึ่ง  หน่วยรบหัวกะทิที่กษัตริย์เบลโต้ทรงประทานหมายเลขหนึ่งให้
    ในสงครามกับจักรวรรดิซาฮารัน  เป็นเพราะกองพลที่หนึ่งนี้เอง  ทัพของอาเรสจึงสามารถยื้อสงครามได้นานถึงสามวัน
    
    ขณะกองพลที่หนึ่งกำลังเคลื่อนทัพเข้าสู่ปราสาทอาเรสอย่างไม่เร่งร้อน  พวกมันกลับต้องพบเหตุการณ์ชวนฉงนตรงหน้า  
    ป้อมปราการบาคาลู  ป้อมที่ควรจะว่างเปล่าหลังจากทหารฝ่ายอาเรสถอนทัพจนหมด  บัดนี้กลับมีหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังยืนเด่นตระหง่านบนกำแพง  
    หล่อนมีใบหน้างดงาม  ร่างเล็ก  ผมสีบลอนด์ทองมัดจุกไว้ด้านหลัง
    
    "เป็นพลเรือนที่หนีไม่ทันรึไง"

    แต่ภาพที่เห็นกลับมีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล
    เธอกำลังยืนบนกำแพงด้วยสีหน้ามั่นใจเป็นพิเศษ  ปราศจากธงขาวอย่างที่ควรจะมี
    แม่ทัพแห่งกองพลที่หนึ่ง <เชน>  มันหันไปส่งสัญญาณกับพลธนู

    "ฆ่าหล่อนซะ"

    ดยุคอาเรสคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่
    ชายคนนั้นสามารถเปลี่ยนให้ชาวเมืองแสนอ่อนแอกลายเป็นยอดทหาร  และเปลี่ยนให้ยอดทหารกลายเป็นอัศวินแกร่งกล้า  
    บางที  หญิงสาวปริศนาคนนี้อาจเป็นอาวุธลับที่อาเรสสร้างขึ้น  เชนไม่อยากละเลยปัจจัยเล็กน้อยที่อาจเป็นภัยร้ายแรงภายหลัง  

    ครืดดดดด!
    
    แม้จะลังเลเล็กน้อย  แต่พลธนูของกองพลที่หนึ่งก็ง้างคันศรไปด้านหลังด้วยระเบียบวินัยที่ยอดเยี่ยม  
    ระยะห่างจากทัพกองพลไปถึงกำแพงป้อมคือ 500 เมตร  
    แรงลมไม่เป็นใจสักเท่าไร  
    แต่พลธนูของหน่วยเกราะหนักเจนศึกที่ถูกฝึกโดยอาเรส  พวกมันล้วนมีทักษะ <เพิ่มประสิทธิภาพการยิงธนู 80%> กันถ้วนหน้า  ส่งผลให้มองเห็นได้ไกลลิบ  
    ระยะห่าง 500 เมตรกลายเป็นสิ่งไร้ความหมาย

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

    ฝนธนูถูกโปรยใส่เป็นวิธีโค้งจำนวนสิบระลอก  
    ทั้งสิบระลอกสามารถคร่าชีวิตของหญิงสาวปริศนาได้อย่างแน่นอน  
    ทหารทุกคนคาดคิดเช่นนี้
    
    "มีพลธนูทั้งหมด 200 สินะ...อันตรายเอาเรื่อง"

    ยูเฟอมิน่าตัดสินใจใช้ทักษะที่คัดลอกมาจากเจฟฟ์  หัวหน้ากิลด์เซราฟ  ผู้เล่นคลาสชี่กงมาสเตอร์อันดับหนึ่งของโลก

    "แหกกฏสวรรค์"

    นี่คือหนึ่งในไพ่ตายของคลาสชี่กงมาสเตอร์ระดับสาม  
    คสาส <ผู้ฝ่าฝืนกฏสวรรค์>

    ซู่วว

    ซู่วว ซู่วว

    หยดน้ำทรงกลมจำนวนมากปรากฏขึ้นรอยกายยูเฟอมิน่า
    จากนั้น...

    ฉึกฉึกฉึก!

    ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!

    ฝนธนูทั้งสิบระลอกถูกดูดเข้าไปในหยดน้ำโดยสมบูรณ์  
    นี่คือผลของทักษะที่สามารถสลายการโจมตีระยะไกลทุกชนิด
    เหล่าทหารของกองพลที่หนึ่งต่างส่งเสียงฮือฮาทันที

    "ชี่กงมาสเตอร์!"

    "การโจมตีระยะไกลไม่มีผล!  เข้าประจัญบาน!"

    "พลโล่เคลื่อนที่ไปด้านหน้า!  พลธนูหยุดยิง!  ศัตรูอาจโจมตีกลับมาด้วยหยดน้ำปริศนา!"

    สมกับเป็นหน่วยรบหัวกะทิ  
    แม่ทัพตะโกนบัญชาการอย่างเสียงดังฉะฉาน  พลทหารเคลื่อนทัพเป็นระเบียบเรียบร้อย
    
    เพียงพริบตาเดียว  กองพลที่หนึ่งก็เข้าประชิดกำแพงป้อมในจุดที่ยูเฟอมิน่ายืนอยู่
    แต่น่าเสียดายที่การดิ้นรนของพวกมันต้องสูญเปล่า
    ไม่มีทางที่ทหารเลวจะย่างกรายเข้าใกล้ปีศาจสาวสวยผู้นี้ได้

    "พสุธากัมปนาท"
    "วังวนเหมันต์"
    "พายุอัสนีคำราม"
    "ลาวาปะทุ"

    "...!!"

    "อะไรนะ...!"

    เธอคือจอมเวท...มิใช่ชี่กงมาสเตอร์อย่างนั้นหรือ
    แถมยังเป็นจอมเวทที่ปลดปล่อยเวทมนตร์ระดับท็อปทั้งสี่ธาตุโดยไม่ต้องร่าย!

    "มหาจอมเวท!"

    ครืนนนน!

    แผ่นดินเริ่มสั่นสะเทือน

    แกร่กแกร่ก แกร่ก!

    แกร่กแกร่ก  แกร่กแกร่ก!

    ร่างกายทหารเกราะหนักเจนศึกเกิดอาการหนาวเหน็บฉับพลันจากพายุน้ำแข็ง

    เปรี้ยงงง!  เปรี้ยงงง...!

    พายุสายฟ้ากระหน่ำฟาดผ่าใส่กองพลที่หนึ่งอย่างต่อเนื่อง  
    พวกมันเริ่มได้รับบาดเจ็บรุนแรง
    จากนั้น...

    ปุดปุดปุดปุดปุดปุด!

    ลาวาทะลักออกจากรอยแยกที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว  แม็กม่าเดือดสาดกระเซ็นไปทั่วสนามรบใต้กำแพงป้อมในพริบตา  เป็นมหันตภัยของกองพลที่หนึ่งอย่างแท้จริง

    "อ๊ากกกก!"

    "หล่อนเป็นใครกัน...ทำถึงใช้เวทมนตร์ระดับท็อปอย่างต่อเนื่องได้"

    สถานการณ์กำลังโกลาหลสุดขีด

    ต่อหน้าเวทมนตร์ระดับสูงสุดทั้งสี่ธาตุ  ทัพอันเกรียงไกรของกองพลที่หนึ่งพลันระส่ำระสาย  
    เชนส่ายศีรษะทันทีเมื่อกวาดสายตาไปเห็นสภาพกองทัพโดยรวม
    เหล่าทหารต่างพากันหนีตายจากลาวาเดือด
    พวกมันถูกฝึกอย่างหนักเพื่อสู้กับคน...มิใช่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ

    'มีมหาจอมเวทในสังกัดของดยุคอาเรสด้วยรึไง...'
    
    มีจอมเวทไม่น้อยที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ทุกธาตุ
    แต่การไปให้ถึงเวทมนตร์ระดับสูงสุดไม่ใช่เรื่องง่าย  
    การจะครอบครอง  ต้องบรรลุเงื่อนไขมากมาย  จอมเวทหลายธาตุจะก้าวไปถึงเวทมนตร์ระดับสูงได้ยากกว่าจอมเวทที่มุ่งเน้นเพียงธาตุเดียว
    เฉกเช่นเซ็ดนอสที่เลือกเล่นธาตุวายุเป็นต้น
    
    แต่ก็มีตัวตนที่สามารถบรรลุเวทมนตร์ระดับสูงของทุกธาตุได้อยู่
    พวกเขาเหล่านั้นถูกเรียกขานว่า...มหาจอมเวท
    ตัวตนที่ทั่วทั้งทวีปมีเพียงสิบคน  
    ไม่ผิดแน่  สาวผมบลอนด์ร่างเล็กผู้นี้  เธอคือหนึ่งในสิบมหาจอมเวทของทวีป

    'ยิ่งไปกว่านั้น...'

    มหาจอมเวทก็ยังคงมีพื้นฐานเป็นจอมเวท  ทุกสิ่งย่อมมีขีดกำจัด
    จอมเวทไม่มีทางใช้ทักษะของชี่กงมาสเตอร์ที่เป็นศาสตร์ตรงข้ามกับเวทมนตร์ได้
    ชี่กงมาสเตอร์จะช่ำชองในทักษะที่เป็นจุดอ่อนของจอมเวท
    
    แต่หญิงสาวปริศนาคนนี้กลับ...ไร้จุดบอด
    
    '...สมบูรณ์แบบ'

    อึก!

    เชนพลันกลืนน้ำสายอึกใหญ่

    "ทุกคนออกจากกำแพง!  ทุกหน่วยใช้ทักษะระยะไกลถล่มกำแพงให้พัง!"

    กองพลที่หนึ่งขึ้นชื่อในด้านพลังป้องกันและความถึกทน  
    แม้จะได้รับบาดเจ็บหนักจากภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งสี่  แต่ก็ไม่มีใครเลยที่ถึงขั้นเสียชีวิต
    เมื่อลาวาเดือดหายไป  พวกมันรีบกลับมาตั้งขบวนใหม่อีกครั้งอย่างเป็นระเบียบ  ทุกคนต่างเร่งมือใช้ทักษะโจมตีใส่กำแพงจากระยะไกล
    ทันใดนั้น

    ครืนนน!
    
    กำแพงในจุดที่ยูเฟอมิน่ายืนอยู่เริ่มพังทลาย
    ป้อมแห่งนี้มิใช่ปราการสำคัญของอาณาจักร  ระดับของกำแพงจึงไม่ทนทานมากนัก
    ขณะเดียวกัน  ทหารเกราะหนักเจนศึกสามารถหลบเศษหินที่ถล่มลงด้านล่างได้อย่างคล่องแคล่ว

    ยูเฟอมิน่าร่อนลงท่ามกลางกำแพงที่หายไป  
    บัดนี้เธอถูกทหารนับพันของกองพลที่หนึ่งล้อมไว้จากทุกทิศทาง
    
    "ตายซะนังแม่มด!"

    พวกมันมิอาจคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของยูเฟอมิน่าได้
    เชนรู้เพียงแต่ว่า  หญิงสาวคนนี้คือปีศาจที่ก้าวข้ามสามัญสำนึกของมนุษย์ไปไกลแล้ว  ต้องรีบกำจัดโดยเร็วที่สุด
    
    เมฆาหนาที่เคยก่อตัวปกคลุมท้องฟ้าจากผลของเวทอัสนี  บัดนี้ถูกไอเดือดของลาวาในบรรยากาศขับไล่จนสลายตัว
    ท้องฟ้ากลับมาสดใสสว่างจ้าอีกครั้ง

    นี่คือสถานการณ์ที่ยูเฟอมิน่าคำนวณไว้แล้ว

    "ก้าวย่างแสงขาว"

    ซู่วววว!

    "...!!"

    ก้าวย่างแสงขาว  
    สุดยอดทักษะเคลื่อนที่ซึ่งจะแสดงผลสูงสุดภายใต้แสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์  
    ทักษะเคลื่อนที่แสนรักของครอเกล  บัดนี้ถูกนำมาใช้โดยจอมเวทยูเฟอมิน่า

    'หายไปไหน...!'

    เชนพยายามมองหายูเฟอมิน่าจากทุกทิศ
    เธอหายไปราวกับภูติผียามกลางวันแสก

    "สนับสนุนท่านแม่ทัพ!"

    พลธนู 200 ของกองพลที่หนึ่งยังคงยืนห่างออกไป 
    ทันทีที่พวกมันเห็นแม่ทัพกำลังมองหาศัตรู  ทุกคนจึงเล็งยิงธนูเข้าไปในวงล้อมทหารแบบสุ่ม  โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า  ปัจจุบันยูเฟอมิน่ายังควบคุมหยดน้ำทรงกลมของชี่กงมาสเตอร์ไว้อยู่
    ไม่แปลกที่พวกมันจะไม่รู้... 
    NPC ทหารเลวย่อมไม่มีทางเข้าถึงฝีมือควบคุมอันสุดยอดของผู้เล่นระดับอัจฉริยะ

    "อย่ายิง!"

    ขณะที่กำลังมองหายูเฟอมิน่า  เมื่อสัมผัสได้ถึงฝนธนูที่ตกลงจากฟากฟ้า  เชนรีบตะโกนห้ามพลธนูไม่ให้ยิงระลอกถัดไป  
    เพราะมันกำลังตระหนักได้ว่า  หยดน้ำของชี่กงมาสเตอร์ยังอยู่ในการควบคุมของหญิงสาวผมบลอนด์ปริศนา
    ฉลาดเฉลียวสมกับเป็นแม่ทัพกองพลที่หนึ่ง
    
    ฉึก!

    ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!

    ขณะหยดน้ำกำลังดูดกลืนฝนธนูเข้าไปด้านใน

    "โซนิคบูม"

    วิ้ง~~...บรึ้มมมมม!!

    เวทมนตร์ท่าไม้ตายของจอมเวทวายุอันดับหนึ่ง  เซ็ดนอส
    โซนิคบูมถูกปลดปล่อยเหนือศีษระเชนพอดิบพอดี  

    "...!!!"
    
    เกิดเสียงลมพายุบาดแก้วหูชนิดที่มนุษย์มิอาจทานทนไหว
    เชนและทหารกองพลที่หนึ่งต่างหมดสติทรุดลงกับพื้น  เลือดไหลรินออกทางหู  เป็นสัญญาณของอาการแก้วหูฉีกขาด  ศัตรูทั้งหมดสูญเสียการได้ยินและหมดสติชั่วคราว

    เมื้อสิ้นเสียงหวีดแหลม
    ตามต่อด้วยลมพายุเกรี้ยวกราดรุนแรงที่สามารถฉีกกระชากเนื้อหนังมนุษย์
    ยูเฟอมิน่าอาศัยจังหวะนี้สลายหยดน้ำของชี่กงมาสเตอร์
    ส่งผลให้ลูกธนูหลายพันที่ถูกกังขังไว้ตั้งแต่ต้น  ถูกลมพายุพัดกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง  ร่างของทหารเกราะหนักเจนศึกนับพันถูกฝนธนูปักเสียบประหนึ่งเม่น  
    
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น... ]
...
...

[ ท่านสังหาร <เชน> แม่ทัพกองพลที่หนึ่งแห่งหน่วยเกราะหนักเจนศึก ]
[ หน่วยเกราะหนักเจนศึกต่างเคียดแค้นท่าน!  ทหารหน่วยเกราะหนักเจนศึกที่เหลือจะได้รับค่าสถานะเพิ่มขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับท่าน ]

    ***

    @  ยูเฟอมิน่าคือจอมเวทของโอเวอร์เกียร์ที่เคยมีบทบาทเด่นเมื่อครั้งสงครามโกเล็มที่ไรน์ฮาร์ท

    @  อ๋อ...ผู้หญิงนักฆ่าโกเล็มคนนั้น

    กองทัพอาเรสให้ความสนใจในกิลด์โอเวอร์เกียร์มานานแล้ว  จึงไม่แปลกที่หลายคนจะเคยเห็นวิดีโอสงครามโกเล็มที่ไรน์ฮาร์ท  
    พวกเขาเคยพิจารณาวิดีโออย่างละเอียดอยู่หลายหน  และไม่มีวันลืมหญิงสาวปริศนาที่มีใบหน้างดงามไปได้
    บทบาทของเธอโดดเด่นมาก  โดยเฉพาะเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องร่ายและเวทมนตร์คลื่นย้ายมิติแบบกลุ่ม

    @  แต่ถ้าจำไม่ผิด...เธอทำอะไรศาสตราวุธบรรพกาลไม่ได้เลยนี่

    @  ในสงครามกับอีเทอนัล  เธอประจำอยู่ที่ป้อมปราการแพเทรี่ยนเหมือนกับจิสึกะ  แต่ก็ไม่ได้แสดงฝีมือเป็นรูปธรรมนัก  เทพฟินิกซ์แดงของจิสึกะได้ช่วงชิงความโดดเด่นทั้งหมดไป  และเธอก็ไม่ได้ปรากฏตัวในการต่อสู้กับบีเลียลด้วย

    @  เป็นคนไม่ค่อยโดดเด่นสินะ...แล้วทำไมกริดถึงไว้ใจให้รับมือกับกองพลที่หนึ่ง

    @  น่าจะเพื่อยื้อเวลา...เธอคงได้รับหน้าที่ให้ตรึงกองพลที่หนึ่งไว้  ระหว่างนั้น  กริด  จิสึกะ  เรกัสและป็อน  จะได้จัดการกับกองพลที่เหลือ

    @  นั่นสินะ...จอมเวทที่มีรัศมีโจมตีเป็นวงกว้าง  คงเหมาะสมกับการยื้อเวลามากกว่าคลาสใดทั้งหมด

    @  ยิ่งได้รู้จักกริด...ฉันก็ยิ่งเลื่อมใสในตัวเขา  ถึงกับยอมสละชีวิตพวกพ้องเพื่อรักษาความเป็นพันธมิตรกับพวกเราไว้

    @  กริดคงต้องการรักษาหน้าตัวเอง  ไว้ความสัมพันธ์ยืนยาวกว่านี้ก่อน  พวกเราค่อยเชื่อใจก็ยังไม่สาย

    @  อืม...อย่างน้อยก็เป็นคนที่น่าชื่นชม

    เหล่ากองทัพของอาเรสต่างยกย่องกริด
    พวกเขารู้สึกทึ่งที่กริดกล้าสละพวกพ้องที่เป็นแร้งเกอร์  เพื่อให้กองทัพอาเรสได้มีเวลาหายใจหายคอสำหรับทัพหนุน  
    และพวกเขาก็ชื่นชมยูเฟอมิน่าไม่แพ้กัน  ที่ยอมสละชีวิตตามคำสั่งกริดโดยไม่ลังเล

    @  กิลด์โอเวอร์เกียร์...บางทีอาจสุดยอดกว่าที่เราคิดไว้

    @  กองพลที่หนึ่งถูกทำลายแล้ว...!

    @  บางที...เธออาจอยู่ในระดับเดียวกับแอ็กนัสหรือครอเกลก็ได้นะ

    @  กองพลที่หนึ่งถูกทำลายแล้ว!

    @  ไม่น่าจะถึงขั้นแอ็กนัส  พวกเราไม่มีทางประเมินพลังของไอ้คนเสียสตินั่นได้

    @  สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อหมอผีทุกคนตัดสินใจรับใช้แอ็กนัส  อีกไม่นาน  กองทัพของแอ็กนัสก็จะแตะหลักแสน

    @  กองพลที่หนึ่งถูกทำลายแล้ว!

    "..."

    สมาชิกกองทัพอาเรสกำลังถกเถียงถึงความแข็งแกร่งระหว่างยูเฟอมิน่าและแอ็กนัสอย่างออกรส  แต่ระหว่างนี้กลับมีใครบางคนพิมพ์ข้อความไร้สาระอย่างต่อเนื่อง
    จนกระทั่งเริ่มมีคนทนไม่ไหว  เขากล่าวตำหนิ

    @  กองพลที่หนึ่งจะถูกทำลายได้ยังไง...อย่าเพิ่งพล่ามไร้สาระขัดบรรยาการการพูดคุยสิ

    @  พ--พวกเรา...อาจจะประเมินกิลด์โอเวอร์เกียร์ผิดมาตลอด!!
    
    ขณะนี้เอง  ผู้เล่นหน่วยข่าวกรองระดับสูงซึ่งเป็นคนสนิทของอาเรส  
    เขาออกไปทำหน้าที่รายงานข่าวในศึกกองพลที่หนึ่งด้วยเช่นกัน...
    
    ชายที่มีนิสัยจริงจังและเคร่งขึม  ได้ส่งข้อความยืนยันมาอีกเสียง

    @  ป--เป็นความจริง...!  ย--ยูเฟอมิน่า...ถล่มกองพลที่หนึ่งตามลำพัง...ด้วยเวทมนตร์ระดับภัยพิบัติ!      

    "..."

    ไร้สาระสิ้นดี
    แม้แต่จิสึกะก็ไม่อาจทำลายกองพลที่หนึ่งตามลำพังได้ 
    กองพลที่หนึ่งประกอบด้วยทหารสองพันนาย  แบ่งออกเป็นห้าชนิด  เป็นทัพที่มีความสมดุลสูง  สามารถรับมือกับศึกได้ทุกรูปแบบ  แถมผู้นำทัพอย่างเชนยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม
    ขนาดกองทัพจักรวรรดิยังถูกกองพลที่หนึ่งปั่นหัวมาแล้ว  
    
    ยูเฟอมิน่าสามารถทำลายกองพลที่หนึ่งได้ตามลำพังงั้นหรือ
    แถมยัง...

    @  ด้วยเวลาแค่ 12 นาทีเนี่ยนะ...

    รายงานที่ยูเฟอมิน่าเริ่มเปิดฉากปะทะกับกองพลที่หนึ่งถูกส่งมาถึงเมื่อ 12 นาทีก่อน 
    เมื่อยืนยันแน่ชัดว่าเวลาดังกล่าวถูกต้อง... 
    กองทัพอาเรสต่างตกอยู่ในภวังเงียบงัน


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ในอนาคต กองทัพอาเรสต้องยอมอยู่ในการปกครองของกริดแน่นอน พันธมิตรและผองเพื่อนในอนาคตของกริด 🙏

    ReplyDelete
  2. จริงแล้วกริดจัดการได้เพราะมีแนวและเรดี้อีกและก็รางมืด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00