จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 654
นักคัดลอก
มีเพียงน้อยคนนักที่รู้ แต่คลาสเกรดอีปิกแรกของโลกที่ผู้เล่นครอบครอง คือนักคัดลอกของยูเฟอมิน่า
เธอถือเป็นหนึ่งในสามคลาสอีปิกรุ่นแรกที่เคียงคู่มากับ <ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล> และ <นักรบโลหิต>
หากทักษะใดมีเกรดต่ำกว่าอีปิก นักคัดลอกสามารถขโมยไปใช้งานได้ดั่งใจนึก...
โดยไม่ต้องร่าย
หากนักคัดลอกครอบครองสุดยอดทักษะไว้กับตัวเป็นจำนวนมาก พลังต่อสู้จะอยู่ในระดับสูงส่งเหนือจินตนาการ
แม้แต่ราชาโอเวอร์เกียร์อย่างกริด ชายผู้โค่นท้องฟ้า ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะยูเฟอมิน่าในสภาพสมบูรณ์พร้อมได้
"หล่อนเป็นใคร"
พวกมันคือหน่วยเกราะหนักเจนศึกกองพลที่หนึ่ง หน่วยรบหัวกะทิที่กษัตริย์เบลโต้ทรงประทานหมายเลขหนึ่งให้
ในสงครามกับจักรวรรดิซาฮารัน เป็นเพราะกองพลที่หนึ่งนี้เอง ทัพของอาเรสจึงสามารถยื้อสงครามได้นานถึงสามวัน
ขณะกองพลที่หนึ่งกำลังเคลื่อนทัพเข้าสู่ปราสาทอาเรสอย่างไม่เร่งร้อน พวกมันกลับต้องพบเหตุการณ์ชวนฉงนตรงหน้า
ป้อมปราการบาคาลู ป้อมที่ควรจะว่างเปล่าหลังจากทหารฝ่ายอาเรสถอนทัพจนหมด บัดนี้กลับมีหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังยืนเด่นตระหง่านบนกำแพง
หล่อนมีใบหน้างดงาม ร่างเล็ก ผมสีบลอนด์ทองมัดจุกไว้ด้านหลัง
"เป็นพลเรือนที่หนีไม่ทันรึไง"
แต่ภาพที่เห็นกลับมีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล
เธอกำลังยืนบนกำแพงด้วยสีหน้ามั่นใจเป็นพิเศษ ปราศจากธงขาวอย่างที่ควรจะมี
แม่ทัพแห่งกองพลที่หนึ่ง <เชน> มันหันไปส่งสัญญาณกับพลธนู
"ฆ่าหล่อนซะ"
ดยุคอาเรสคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่
ชายคนนั้นสามารถเปลี่ยนให้ชาวเมืองแสนอ่อนแอกลายเป็นยอดทหาร และเปลี่ยนให้ยอดทหารกลายเป็นอัศวินแกร่งกล้า
บางที หญิงสาวปริศนาคนนี้อาจเป็นอาวุธลับที่อาเรสสร้างขึ้น เชนไม่อยากละเลยปัจจัยเล็กน้อยที่อาจเป็นภัยร้ายแรงภายหลัง
ครืดดดดด!
แม้จะลังเลเล็กน้อย แต่พลธนูของกองพลที่หนึ่งก็ง้างคันศรไปด้านหลังด้วยระเบียบวินัยที่ยอดเยี่ยม
ระยะห่างจากทัพกองพลไปถึงกำแพงป้อมคือ 500 เมตร
แรงลมไม่เป็นใจสักเท่าไร
แต่พลธนูของหน่วยเกราะหนักเจนศึกที่ถูกฝึกโดยอาเรส พวกมันล้วนมีทักษะ <เพิ่มประสิทธิภาพการยิงธนู 80%> กันถ้วนหน้า ส่งผลให้มองเห็นได้ไกลลิบ
ระยะห่าง 500 เมตรกลายเป็นสิ่งไร้ความหมาย
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!
ฝนธนูถูกโปรยใส่เป็นวิธีโค้งจำนวนสิบระลอก
ทั้งสิบระลอกสามารถคร่าชีวิตของหญิงสาวปริศนาได้อย่างแน่นอน
ทหารทุกคนคาดคิดเช่นนี้
"มีพลธนูทั้งหมด 200 สินะ...อันตรายเอาเรื่อง"
ยูเฟอมิน่าตัดสินใจใช้ทักษะที่คัดลอกมาจากเจฟฟ์ หัวหน้ากิลด์เซราฟ ผู้เล่นคลาสชี่กงมาสเตอร์อันดับหนึ่งของโลก
"แหกกฏสวรรค์"
นี่คือหนึ่งในไพ่ตายของคลาสชี่กงมาสเตอร์ระดับสาม
คสาส <ผู้ฝ่าฝืนกฏสวรรค์>
ซู่วว
ซู่วว ซู่วว
หยดน้ำทรงกลมจำนวนมากปรากฏขึ้นรอยกายยูเฟอมิน่า
จากนั้น...
ฉึกฉึกฉึก!
ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!
ฝนธนูทั้งสิบระลอกถูกดูดเข้าไปในหยดน้ำโดยสมบูรณ์
นี่คือผลของทักษะที่สามารถสลายการโจมตีระยะไกลทุกชนิด
เหล่าทหารของกองพลที่หนึ่งต่างส่งเสียงฮือฮาทันที
"ชี่กงมาสเตอร์!"
"การโจมตีระยะไกลไม่มีผล! เข้าประจัญบาน!"
"พลโล่เคลื่อนที่ไปด้านหน้า! พลธนูหยุดยิง! ศัตรูอาจโจมตีกลับมาด้วยหยดน้ำปริศนา!"
สมกับเป็นหน่วยรบหัวกะทิ
แม่ทัพตะโกนบัญชาการอย่างเสียงดังฉะฉาน พลทหารเคลื่อนทัพเป็นระเบียบเรียบร้อย
เพียงพริบตาเดียว กองพลที่หนึ่งก็เข้าประชิดกำแพงป้อมในจุดที่ยูเฟอมิน่ายืนอยู่
แต่น่าเสียดายที่การดิ้นรนของพวกมันต้องสูญเปล่า
ไม่มีทางที่ทหารเลวจะย่างกรายเข้าใกล้ปีศาจสาวสวยผู้นี้ได้
"พสุธากัมปนาท"
"วังวนเหมันต์"
"พายุอัสนีคำราม"
"ลาวาปะทุ"
"...!!"
"อะไรนะ...!"
เธอคือจอมเวท...มิใช่ชี่กงมาสเตอร์อย่างนั้นหรือ
แถมยังเป็นจอมเวทที่ปลดปล่อยเวทมนตร์ระดับท็อปทั้งสี่ธาตุโดยไม่ต้องร่าย!
"มหาจอมเวท!"
ครืนนนน!
แผ่นดินเริ่มสั่นสะเทือน
แกร่กแกร่ก แกร่ก!
แกร่กแกร่ก แกร่กแกร่ก!
ร่างกายทหารเกราะหนักเจนศึกเกิดอาการหนาวเหน็บฉับพลันจากพายุน้ำแข็ง
เปรี้ยงงง! เปรี้ยงงง...!
พายุสายฟ้ากระหน่ำฟาดผ่าใส่กองพลที่หนึ่งอย่างต่อเนื่อง
พวกมันเริ่มได้รับบาดเจ็บรุนแรง
จากนั้น...
ปุดปุดปุดปุดปุดปุด!
ลาวาทะลักออกจากรอยแยกที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว แม็กม่าเดือดสาดกระเซ็นไปทั่วสนามรบใต้กำแพงป้อมในพริบตา เป็นมหันตภัยของกองพลที่หนึ่งอย่างแท้จริง
"อ๊ากกกก!"
"หล่อนเป็นใครกัน...ทำถึงใช้เวทมนตร์ระดับท็อปอย่างต่อเนื่องได้"
สถานการณ์กำลังโกลาหลสุดขีด
ต่อหน้าเวทมนตร์ระดับสูงสุดทั้งสี่ธาตุ ทัพอันเกรียงไกรของกองพลที่หนึ่งพลันระส่ำระสาย
เชนส่ายศีรษะทันทีเมื่อกวาดสายตาไปเห็นสภาพกองทัพโดยรวม
เหล่าทหารต่างพากันหนีตายจากลาวาเดือด
พวกมันถูกฝึกอย่างหนักเพื่อสู้กับคน...มิใช่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
'มีมหาจอมเวทในสังกัดของดยุคอาเรสด้วยรึไง...'
มีจอมเวทไม่น้อยที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ทุกธาตุ
แต่การไปให้ถึงเวทมนตร์ระดับสูงสุดไม่ใช่เรื่องง่าย
การจะครอบครอง ต้องบรรลุเงื่อนไขมากมาย จอมเวทหลายธาตุจะก้าวไปถึงเวทมนตร์ระดับสูงได้ยากกว่าจอมเวทที่มุ่งเน้นเพียงธาตุเดียว
เฉกเช่นเซ็ดนอสที่เลือกเล่นธาตุวายุเป็นต้น
แต่ก็มีตัวตนที่สามารถบรรลุเวทมนตร์ระดับสูงของทุกธาตุได้อยู่
พวกเขาเหล่านั้นถูกเรียกขานว่า...มหาจอมเวท
ตัวตนที่ทั่วทั้งทวีปมีเพียงสิบคน
ไม่ผิดแน่ สาวผมบลอนด์ร่างเล็กผู้นี้ เธอคือหนึ่งในสิบมหาจอมเวทของทวีป
'ยิ่งไปกว่านั้น...'
มหาจอมเวทก็ยังคงมีพื้นฐานเป็นจอมเวท ทุกสิ่งย่อมมีขีดกำจัด
จอมเวทไม่มีทางใช้ทักษะของชี่กงมาสเตอร์ที่เป็นศาสตร์ตรงข้ามกับเวทมนตร์ได้
ชี่กงมาสเตอร์จะช่ำชองในทักษะที่เป็นจุดอ่อนของจอมเวท
แต่หญิงสาวปริศนาคนนี้กลับ...ไร้จุดบอด
'...สมบูรณ์แบบ'
อึก!
เชนพลันกลืนน้ำสายอึกใหญ่
"ทุกคนออกจากกำแพง! ทุกหน่วยใช้ทักษะระยะไกลถล่มกำแพงให้พัง!"
กองพลที่หนึ่งขึ้นชื่อในด้านพลังป้องกันและความถึกทน
แม้จะได้รับบาดเจ็บหนักจากภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งสี่ แต่ก็ไม่มีใครเลยที่ถึงขั้นเสียชีวิต
เมื่อลาวาเดือดหายไป พวกมันรีบกลับมาตั้งขบวนใหม่อีกครั้งอย่างเป็นระเบียบ ทุกคนต่างเร่งมือใช้ทักษะโจมตีใส่กำแพงจากระยะไกล
ทันใดนั้น
ครืนนน!
กำแพงในจุดที่ยูเฟอมิน่ายืนอยู่เริ่มพังทลาย
ป้อมแห่งนี้มิใช่ปราการสำคัญของอาณาจักร ระดับของกำแพงจึงไม่ทนทานมากนัก
ขณะเดียวกัน ทหารเกราะหนักเจนศึกสามารถหลบเศษหินที่ถล่มลงด้านล่างได้อย่างคล่องแคล่ว
ยูเฟอมิน่าร่อนลงท่ามกลางกำแพงที่หายไป
บัดนี้เธอถูกทหารนับพันของกองพลที่หนึ่งล้อมไว้จากทุกทิศทาง
"ตายซะนังแม่มด!"
พวกมันมิอาจคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของยูเฟอมิน่าได้
เชนรู้เพียงแต่ว่า หญิงสาวคนนี้คือปีศาจที่ก้าวข้ามสามัญสำนึกของมนุษย์ไปไกลแล้ว ต้องรีบกำจัดโดยเร็วที่สุด
เมฆาหนาที่เคยก่อตัวปกคลุมท้องฟ้าจากผลของเวทอัสนี บัดนี้ถูกไอเดือดของลาวาในบรรยากาศขับไล่จนสลายตัว
ท้องฟ้ากลับมาสดใสสว่างจ้าอีกครั้ง
นี่คือสถานการณ์ที่ยูเฟอมิน่าคำนวณไว้แล้ว
"ก้าวย่างแสงขาว"
ซู่วววว!
"...!!"
ก้าวย่างแสงขาว
สุดยอดทักษะเคลื่อนที่ซึ่งจะแสดงผลสูงสุดภายใต้แสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์
ทักษะเคลื่อนที่แสนรักของครอเกล บัดนี้ถูกนำมาใช้โดยจอมเวทยูเฟอมิน่า
'หายไปไหน...!'
เชนพยายามมองหายูเฟอมิน่าจากทุกทิศ
เธอหายไปราวกับภูติผียามกลางวันแสก
"สนับสนุนท่านแม่ทัพ!"
พลธนู 200 ของกองพลที่หนึ่งยังคงยืนห่างออกไป
ทันทีที่พวกมันเห็นแม่ทัพกำลังมองหาศัตรู ทุกคนจึงเล็งยิงธนูเข้าไปในวงล้อมทหารแบบสุ่ม โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ปัจจุบันยูเฟอมิน่ายังควบคุมหยดน้ำทรงกลมของชี่กงมาสเตอร์ไว้อยู่
ไม่แปลกที่พวกมันจะไม่รู้...
NPC ทหารเลวย่อมไม่มีทางเข้าถึงฝีมือควบคุมอันสุดยอดของผู้เล่นระดับอัจฉริยะ
"อย่ายิง!"
ขณะที่กำลังมองหายูเฟอมิน่า เมื่อสัมผัสได้ถึงฝนธนูที่ตกลงจากฟากฟ้า เชนรีบตะโกนห้ามพลธนูไม่ให้ยิงระลอกถัดไป
เพราะมันกำลังตระหนักได้ว่า หยดน้ำของชี่กงมาสเตอร์ยังอยู่ในการควบคุมของหญิงสาวผมบลอนด์ปริศนา
ฉลาดเฉลียวสมกับเป็นแม่ทัพกองพลที่หนึ่ง
ฉึก!
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!
ขณะหยดน้ำกำลังดูดกลืนฝนธนูเข้าไปด้านใน
"โซนิคบูม"
วิ้ง~~...บรึ้มมมมม!!
เวทมนตร์ท่าไม้ตายของจอมเวทวายุอันดับหนึ่ง เซ็ดนอส
โซนิคบูมถูกปลดปล่อยเหนือศีษระเชนพอดิบพอดี
"...!!!"
เกิดเสียงลมพายุบาดแก้วหูชนิดที่มนุษย์มิอาจทานทนไหว
เชนและทหารกองพลที่หนึ่งต่างหมดสติทรุดลงกับพื้น เลือดไหลรินออกทางหู เป็นสัญญาณของอาการแก้วหูฉีกขาด ศัตรูทั้งหมดสูญเสียการได้ยินและหมดสติชั่วคราว
เมื้อสิ้นเสียงหวีดแหลม
ตามต่อด้วยลมพายุเกรี้ยวกราดรุนแรงที่สามารถฉีกกระชากเนื้อหนังมนุษย์
ยูเฟอมิน่าอาศัยจังหวะนี้สลายหยดน้ำของชี่กงมาสเตอร์
ส่งผลให้ลูกธนูหลายพันที่ถูกกังขังไว้ตั้งแต่ต้น ถูกลมพายุพัดกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง ร่างของทหารเกราะหนักเจนศึกนับพันถูกฝนธนูปักเสียบประหนึ่งเม่น
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น... ]
...
...
[ ท่านสังหาร <เชน> แม่ทัพกองพลที่หนึ่งแห่งหน่วยเกราะหนักเจนศึก ]
[ หน่วยเกราะหนักเจนศึกต่างเคียดแค้นท่าน! ทหารหน่วยเกราะหนักเจนศึกที่เหลือจะได้รับค่าสถานะเพิ่มขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับท่าน ]
***
@ ยูเฟอมิน่าคือจอมเวทของโอเวอร์เกียร์ที่เคยมีบทบาทเด่นเมื่อครั้งสงครามโกเล็มที่ไรน์ฮาร์ท
@ อ๋อ...ผู้หญิงนักฆ่าโกเล็มคนนั้น
กองทัพอาเรสให้ความสนใจในกิลด์โอเวอร์เกียร์มานานแล้ว จึงไม่แปลกที่หลายคนจะเคยเห็นวิดีโอสงครามโกเล็มที่ไรน์ฮาร์ท
พวกเขาเคยพิจารณาวิดีโออย่างละเอียดอยู่หลายหน และไม่มีวันลืมหญิงสาวปริศนาที่มีใบหน้างดงามไปได้
บทบาทของเธอโดดเด่นมาก โดยเฉพาะเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องร่ายและเวทมนตร์คลื่นย้ายมิติแบบกลุ่ม
@ แต่ถ้าจำไม่ผิด...เธอทำอะไรศาสตราวุธบรรพกาลไม่ได้เลยนี่
@ ในสงครามกับอีเทอนัล เธอประจำอยู่ที่ป้อมปราการแพเทรี่ยนเหมือนกับจิสึกะ แต่ก็ไม่ได้แสดงฝีมือเป็นรูปธรรมนัก เทพฟินิกซ์แดงของจิสึกะได้ช่วงชิงความโดดเด่นทั้งหมดไป และเธอก็ไม่ได้ปรากฏตัวในการต่อสู้กับบีเลียลด้วย
@ เป็นคนไม่ค่อยโดดเด่นสินะ...แล้วทำไมกริดถึงไว้ใจให้รับมือกับกองพลที่หนึ่ง
@ น่าจะเพื่อยื้อเวลา...เธอคงได้รับหน้าที่ให้ตรึงกองพลที่หนึ่งไว้ ระหว่างนั้น กริด จิสึกะ เรกัสและป็อน จะได้จัดการกับกองพลที่เหลือ
@ นั่นสินะ...จอมเวทที่มีรัศมีโจมตีเป็นวงกว้าง คงเหมาะสมกับการยื้อเวลามากกว่าคลาสใดทั้งหมด
@ ยิ่งได้รู้จักกริด...ฉันก็ยิ่งเลื่อมใสในตัวเขา ถึงกับยอมสละชีวิตพวกพ้องเพื่อรักษาความเป็นพันธมิตรกับพวกเราไว้
@ กริดคงต้องการรักษาหน้าตัวเอง ไว้ความสัมพันธ์ยืนยาวกว่านี้ก่อน พวกเราค่อยเชื่อใจก็ยังไม่สาย
@ อืม...อย่างน้อยก็เป็นคนที่น่าชื่นชม
เหล่ากองทัพของอาเรสต่างยกย่องกริด
พวกเขารู้สึกทึ่งที่กริดกล้าสละพวกพ้องที่เป็นแร้งเกอร์ เพื่อให้กองทัพอาเรสได้มีเวลาหายใจหายคอสำหรับทัพหนุน
และพวกเขาก็ชื่นชมยูเฟอมิน่าไม่แพ้กัน ที่ยอมสละชีวิตตามคำสั่งกริดโดยไม่ลังเล
@ กิลด์โอเวอร์เกียร์...บางทีอาจสุดยอดกว่าที่เราคิดไว้
@ กองพลที่หนึ่งถูกทำลายแล้ว...!
@ บางที...เธออาจอยู่ในระดับเดียวกับแอ็กนัสหรือครอเกลก็ได้นะ
@ กองพลที่หนึ่งถูกทำลายแล้ว!
@ ไม่น่าจะถึงขั้นแอ็กนัส พวกเราไม่มีทางประเมินพลังของไอ้คนเสียสตินั่นได้
@ สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อหมอผีทุกคนตัดสินใจรับใช้แอ็กนัส อีกไม่นาน กองทัพของแอ็กนัสก็จะแตะหลักแสน
@ กองพลที่หนึ่งถูกทำลายแล้ว!
"..."
สมาชิกกองทัพอาเรสกำลังถกเถียงถึงความแข็งแกร่งระหว่างยูเฟอมิน่าและแอ็กนัสอย่างออกรส แต่ระหว่างนี้กลับมีใครบางคนพิมพ์ข้อความไร้สาระอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งเริ่มมีคนทนไม่ไหว เขากล่าวตำหนิ
@ กองพลที่หนึ่งจะถูกทำลายได้ยังไง...อย่าเพิ่งพล่ามไร้สาระขัดบรรยาการการพูดคุยสิ
@ พ--พวกเรา...อาจจะประเมินกิลด์โอเวอร์เกียร์ผิดมาตลอด!!
ขณะนี้เอง ผู้เล่นหน่วยข่าวกรองระดับสูงซึ่งเป็นคนสนิทของอาเรส
เขาออกไปทำหน้าที่รายงานข่าวในศึกกองพลที่หนึ่งด้วยเช่นกัน...
ชายที่มีนิสัยจริงจังและเคร่งขึม ได้ส่งข้อความยืนยันมาอีกเสียง
@ ป--เป็นความจริง...! ย--ยูเฟอมิน่า...ถล่มกองพลที่หนึ่งตามลำพัง...ด้วยเวทมนตร์ระดับภัยพิบัติ!
"..."
ไร้สาระสิ้นดี
แม้แต่จิสึกะก็ไม่อาจทำลายกองพลที่หนึ่งตามลำพังได้
กองพลที่หนึ่งประกอบด้วยทหารสองพันนาย แบ่งออกเป็นห้าชนิด เป็นทัพที่มีความสมดุลสูง สามารถรับมือกับศึกได้ทุกรูปแบบ แถมผู้นำทัพอย่างเชนยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม
ขนาดกองทัพจักรวรรดิยังถูกกองพลที่หนึ่งปั่นหัวมาแล้ว
ยูเฟอมิน่าสามารถทำลายกองพลที่หนึ่งได้ตามลำพังงั้นหรือ
แถมยัง...
@ ด้วยเวลาแค่ 12 นาทีเนี่ยนะ...
รายงานที่ยูเฟอมิน่าเริ่มเปิดฉากปะทะกับกองพลที่หนึ่งถูกส่งมาถึงเมื่อ 12 นาทีก่อน
เมื่อยืนยันแน่ชัดว่าเวลาดังกล่าวถูกต้อง...
กองทัพอาเรสต่างตกอยู่ในภวังเงียบงัน
รอตั้งนาน
ReplyDeleteในอนาคต กองทัพอาเรสต้องยอมอยู่ในการปกครองของกริดแน่นอน พันธมิตรและผองเพื่อนในอนาคตของกริด 🙏
ReplyDeleteจริงแล้วกริดจัดการได้เพราะมีแนวและเรดี้อีกและก็รางมืด
ReplyDelete