จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 640
อักขระความมืด
ไอเท็มที่กริดได้รับหลังจากยอมให้ดวงวิญญาณบราฮัมเข้าสิงเพื่อทำภารกิจหนแรก
บราฮัมได้จัดการกับข้ารับใช้ยาธานอันดับหนึ่ง ทัลลอส ผู้เป็นฉากหน้าให้จอมอสูรอาโมแร็ค
ทัลลอส มันมิใช่ตัวตลกที่ผู้คนจะดูแคลนได้
ทัลลอสถูกเลือกโดยจอมอสูร มันย่อมแข็งแกร่ง ป่าเถื่อน โหดร้าย และเชี่ยวชาญเวทมืดทุกแขนง ไม่อย่างนั้นคงไม่เตะตาจอมอสูรแน่
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ความสำเร็จทั่วทั้งทวีปตะวันตกของวิหารยาธานในช่วงหลัง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฝีมือของทัลลอสผู้นี้
แม้แต่กริดในปัจจุบัน การเผชิญหน้ากับทัลลอสก็ไม่รับประกันชัยชนะ
จะไม่ใช่การต่อสู้ที่ง่ายแน่
เพียงเพราะบราฮัมเมื่อครั้งนั้นแข็งแกร่งเกินไป พลังของบราฮัมยิ่งใหญ่จนส่งผลให้ทัลลอสกลายเป็นเพียงหนอนแมลง
ข้ารับใช้อันดับหนึ่งถูกโค่นด้วยเวทมนตร์สุดกระจอกอย่างศรเวท โดยบราฮัมให้เกียรติจบชีวิตมันด้วยไฟบอลจากค่าสติปัญญา 15,580 หน่วย
หรือสรุปโดยสั้น...อักขระความมืดคือสิ่งที่ครอบครองได้ยากยิ่งกว่ายาก
จะมีผู้เล่นคนใดในโลกสามารถแย่งชิงอักขระความมืดจากทัลลอสได้อีกหรือ...
คำตอบคือไม่มี
ใช่แล้ว...หากกริดไม่ถูกมหาจอมเวทในตำนานสิงร่าง เขาก็คงยังไม่รู้ถึงการมีตัวตนของอักขระความมืดจวนจนทุกวันนี้
'จากบรรดาผู้เล่นสองพันล้าน จำนวนผู้เล่นที่ครอบครองอักขระมีเพียงหยิบมือเท่านั้น แม้กระทั่งกิลโอเวอร์เกียร์ที่รวบรวมหัวกะทิผู้เก่งกาจไว้มากมาย แต่คนที่ถือครองอักขระกลับมีเพียงเราผู้เดียว'
กริดคาดการว่า ซาทิสฟายในอนาคต ความแข็งแกร่งของผู้เล่นจะตัดสินกันที่พลังแฝงภายในอักขระ
ใครสามารถสะสมพลังได้มากกว่า หรือพลังที่แข็งแกร่งกว่า คนผู้นั้นก็จะได้รับชื่อเสียงและความก้าวหน้าไปครอบครอง
'บางที...อักขระของแอ็กนัสอาจแข็งแกร่งกว่าเรา'
ไม่เพียงแอ็กนัสเท่านั้น แต่ผู้เล่นระดับดวงอาทิตย์ที่ลอเอลจับตามอง อาจมีใครสักคนครอบครองอักขระหายากอยู่กับตัวแล้ว
กริดจะไม่ประมาทเด็ดขาด ภายในอักขระของคนเหล่านั้น อาจมีบางอักขระที่แข็งแกร่งกว่าอักขระความมืดของตน
ถึงกระนั้น ชายหนุ่มก็มั่นใจมากว่า ต่อให้ปัจจุบันมีผู้ถือครองอักขระมากมายเพียงใด แต่ตนก็ยังนำหน้าพวกมันอยู่หนึ่งก้าว
ทำไมน่ะหรือ...
'เพราะเรามีพลังของจอมอสูรแท้*อยู่กับตัวยังไงล่ะ!'
( *จอมอสูรแท้ - หมายถึงจอมอสูรที่ยังไม่ถูกทำลายกายเนื้อ จอมอสูรที่ถูกอริยดาบมุลเลอร์ทำลายกายเนื้อไปแล้วมีทั้งหมด 5 ตน ประกอบด้วย เฮล-กาโอ ดราเชี่ยน เฟอร์ฟู อัสทารอธ และอาโมแร็ค ส่วนบีเบียลถูกอัญเชิญด้วยกายเนื้อตนเอง ทำให้มีพลังมากกว่าจอมอสูรที่เหลือเพียงดวงวิญญาณ บีเลียลเป็นจอมอสูรแท้ตนแรกที่ถูกโค่นบนโลกมนุษย์ และกริดก็เป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้สลักพลังของบีเลียลลงไป )
[ อักขระความมืด ]
ไอเท็มผูกมัดตัวละคร
ผูกติดกับช่องสัมภาระถาวร
ไม่สามารถค้าขาย โยนทิ้ง หรือทำลายได้
ผลกระทบการใช้งาน : พลังอสูรจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เปิดใช้งาน
* การโจมตีธรรมดาและทักษะจะเพิ่มความรุนแรงธาตุมืด 20%
ผลพิเศษติดตัว : เมื่อเอาชนะเผ่าอสูรพิเศษหรือจอมอสูร ท่านสามารถดูดกลืนพลังของพวกมันมาเป็นของตนได้
* พลังทีราเม็ท : หากพลังชีวิตลดต่ำลงกว่า 10% ท่านจะได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิต 30% ในทันที ระยะหน่วงหลังใช้ : 12 ชั่วโมง
* พลังลาทีน่า : ได้รับทักษะ <ท่านจะเป็นราชาแห่งความตายได้หรือไม่>
★พิเศษ★
พลังบีเลียล จอมอสูรลำดับ 32
ราชินีแห่งความมืดผู้มอบความหวาดกลัวให้โลกมนุษย์
ราชินีแห่งไฟผู้เผาผลาญโลกมนุษย์จนมอดไหม้
ราชินีแห่งคำโป้ปดผู้ปั่นหัวมนุษย์มากมายนับไม่ถ้วน
อักขระแห่งความมืดได้กักเก็บพลังอันยิ่งใหญ่ของราชินีแห่งขุมนรกไว้
พลังดังกล่าวสามารถสำแดงออกมาในนามแห่งกริด
"อักขระความมืด...พลังบีเลียล!"
บรึ้มมมมมมมม!
"...!"
"!!"
โนเอะ ผู้นอนบาดเจ็บอยู่บนพื้นหลังจากถูกเจียงซืออาชาทมิฬโจมตีใส่
ยารุกต์ ผู้กำลังเผชิญหน้ากับเจียงซืออาชาทมิฬด้วยวิชาดาบอันสูงส่ง
เจียงซืออาชาทมิฬ บอสของคุกลาวาที่เริ่มคุ้นชินกับวิชาดาบของยารุกต์
ซูเอ มนุษย์ผู้อ่อนแอ ซึ่งทำได้เพียงเฝ้ามองการต่อสู้ระดับสูงของอสูรดาบและสิ่งมีชีวิตระดับปีศาจ
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนหันมามองกริดเป็นตาเดียวจากทุกทิศทาง
พลังเวทที่ระเบิดออกจากร่างกริดอย่างฉับพลัน ได้แปรเปลี่ยนบรรยาศคุกใต้ดินจากหน้ามือให้เป็นหลังเท้า
ชายหนุ่มแสยะยิ้มเหยียดหยันพร้อมกับจ้องมองเจียงซืออาชาทมิฬ
พลังเวทสีแดงหนึ่ง สีดำหนึ่ง พวกมันกำลังควบแน่นในปริมาณอันเข้มข้น
ร่างกายกริดกำลังถูกรายล้อมด้วยเวทมนตร์อันงดงาม ประหนึ่งดาวตกยามค่ำคืนก็มิปาน
[ ท่านปลดปล่อยพลังของจอมอสูรบีเลียลจากอักขระแห่งความมืด ]
[ มนุษย์มิอาจรองรับพลังอันยอดเยี่ยมของบีเลียลได้ทั้งหมด ]
[ ร่างกายของท่านได้รับภาระมากเกินไป ท่านจะสูญเสียพลังชีวิตเทียบเท่า 35% จากพลังชีวิตสูงสุดในทันที ]
[ ท่านตกอยู่ในอาการ 'อ่อนแอ' ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ พลังชีวิตของท่านลดต่ำลงกว่า 10% พลังทีราเม็ททำงานอัตโนมัติ ]
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 30% ]
[ ท่านสูญเสียพลังชีวิตเกินกว่า 70% ของพลังชีวิตสูงสุด สมญานาม <กษัตริย์คนแรก> ทำงาน ]
[ บาเรียคุ้มกายถูกสร้างขึ้นเท่ากับความเสียหายที่ได้รับใน 1 นาทีล่าสุด ]
[ หากบาเรียยังคงอยู่ ท่านสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกสภาพพื้นผิว 100% ความเร็วทุกชนิดและพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 10% ]
[ ในฐานะมนุษย์ ท่านสามารถเลือกรับพลังบีเลียลได้เพียงหนึ่งจากสาม ]
[ พลังที่เลือกได้ประกอบด้วย : ความมืด อัคคี และหลอกลวง ]
พลังของบีเลียล กริดเคยทดสอบมาบ้างแล้ว
หากเลือกพลังอัคคี ชายหนุ่มจะได้รับทักษะติดตัว <ราชินีแห่งไฟ>
ส่งผลให้ค่าเรี่ยวแรงไม่ลดลง อัตราฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น 300%
ค่าต้านทานธาตุไฟกลายเป็น 100% หากได้รับการโจมตีจากเปลวเพลิงที่มีระดับด้อยกว่าเพลิงโลกันตร์ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นการฟื้นฟูพลังชีวิตแทน
และยังมีทักษะให้ใช้งานอีก 2 ชนิดคือ :
<เพลิงโลกันตร์แห่งราชินี> และ <ร่องรอยเพลิงโลกันตร์>
ด้วยพลังโจมตีอันมหาศาล พลังอัคคีจึงเหมาะกับการต่อสู้อย่างมาก
หากกริดเลือกพลังความมืด เขาจะได้รับทักษะติดตัวที่สามารถแปรเปลี่ยนเผ่าอสูรทุกตนให้กลายเป็นมิตร อัตราการฟื้นฟูมานาตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น 300% และค่าต้านทานเวทมืดกลายเป็น 100%
จากนั้นยังได้รับทักษะ <การยั่วยุของราชินี> และ <ร่องรอยความมืด>
เป็นพลังที่เหมาะสำหรับจอมเวทมากกว่า
ง่ายต่อการใช้งาน และสามารถสร้างอาการผิดปรกติให้ศัตรูได้มาก
สุดท้าย
หากกริดเลือกพลังหลอกลวง เขาจะได้รับทักษะ <การหลอกลวงของราชินี> เพียงทักษะเดียว
อาจเป็นพลังที่ยอดเยี่ยมก็จริง แต่การใช้มันให้คล่องแคล่วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย กริดในตอนนี้ยังไม่มีความสามารถและฝีมือควบคุมมากพอจะใช้ได้เต็มประสิทธิ์ภาพ
"คงเจ็บหน่อยนะ"
เมื่อย่างก้าวขึ้นมาถึงคุกลาวาชั้นสี่ พลังชีวิตของกริดยังคงสภาพไว้ในระดับ 40%
ส่งผลให้ สมญานามกษัตริย์คนแรกใกล้จะทำงานเต็มที
และเมื่อชายหนุ่มเปิดใช้อักขระความมืด พลังชีวิตของเขาลดลงเพราะร่างกายได้รับภาระหนัก ส่งผลให้สมญานามทำงานพร้อมกับพลังทีราเม็ท ฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาเป็น 40% ดังเดิม แต่กลับได้บาเรียคุ้มกายเป็นของแถม
ซู่ววว
ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มีส่วนใดของร่างกายกริดที่ไม่ถูกเพลิงโลกันตร์ห่อหุ้ม
แม้กระทั่งคิ้วทั้งสองข้างก็ยังลุกเป็นไฟ
[ ท่านเลือกพลังอัคคี ]
[ ท่านได้รับทักษะ <ราชินีแห่งไฟ> ติดตัวเป็นเวลา 2 นาที ]
[ ระหว่างที่พลังของบีเลียลยังคงอยู่ ท่านสามารถใช้งานทักษะ <เพลิงโลกันตร์แห่งราชินี> และ <ร่องรอยเพลิงโลกันตร์> ได้ ]
[ เพลิงโลกันตร์แห่งราชินี ]
เวทมนตร์ธาตุไฟอันทรงพลัง เป็นเครื่องหมายแสดงถึงราชินีแห่งไฟ
สร้างเปลวเพลิงโลกันตร์อันร้อนแรงโจมตีใส่เป้าหมาย
ความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับค่าสติปัญญาของผู้ร่ายและค่าพลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมาย
มานาที่ใช้ : 90% ของมานาสูงสุด
ระยะหน่วงหลังใช้ : 10 นาที
[ ร่องรอยเพลิงโลกันตร์ ]
เมื่อราชินีแห่งไฟย่างกราย เธอจะสร้างเพลิงโลกันตร์ไว้บนเส้นทางที่เดินผ่านเสมอ ระหว่างเปิดใช้งานทักษะนี้ เปลวเพลิงบนร่างท่านจะสร้างอาการ <เผาไหม้> แก่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรุนแรง
เมื่อโจมตีด้วยทักษะหรือการโจมตีธรรมดา ความเสียหายธาตุไฟจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนค่าพละกำลังและค่าสติปัญญา
ทรัพยากรที่ใช้ : สูญเสีย 250 พลังชีวิตและ 60 มานาในทุก 1 วินาทีที่เปิดใช้งาน
ระยะหน่วงหลังใช้ : 5 วินาที
สาเหตุที่กริดเลือกใช้พลังอัคคี...
เนื่องด้วยธรรมชาติของเจียงซืออาชาทมิฬที่มีพลังป้องกันกายภาพสูง
สังเกตได้จากการโจมตีของยารุกต์ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง แต่สภาพของมันกลับยังสบายดีอยู่
'หากพลังป้องกันกายภาพสูง...มีความเป็นไปได้ว่า พลังป้องกันเวทมนตร์อาจต่ำมาก'
ต้องจัดการด้วยเวทไฟ!
ชายหนุ่มรีบร่ายเพลิงโลกันตร์แห่งราชินีใส่เจียงซืออาชาทมิฬทันที
ซู่ววววว!
"อึก...!"
กริดรู้สึกราวกับวิญญาณหลุดจากร่างเมื่อเวทมนตร์ร่ายจบ
ตามระบบของเกมแล้ว หากผู้เล่นใช้มานาเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาสั้น ผู้เล่นจะตกอยู่ในอาการ 'มานาปั่นป่วน'
แต่น่าเสียดายที่สิ่งนี้ไม่เคยส่งผลกระทบต่อกริด
[ ท่านต้านทาน ]
สิทธิ์พิเศษพื้นฐานของตำนานทุกคน
ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!
เปลวเพลิงอันร้อนแรงอาบร่างเจียงซืออาชาทมิฬราวกับน้ำตก
มันไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตไร้ความรู้สึก
โงนเงน
ไม่ว่าจะมองมุมใดก็เป็นการโจมตีที่ก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง
ในฐานะมอนสเตอร์ระดับบอส เจียงซืออาชาทมิฬย่อมมีค่าความอดทนสูงกว่ามอนสเตอร์ทั่วไปหลายสิบเท่า ดังนั้น เพลิงโลกันตร์แห่งราชินีที่สร้างความเสียหายตามเปอร์เซ็นต์พลังชีวิตเป้าหมาย จึงกลายเป็นของแสลงสำหรับเจียงซืออาชาทมิฬโดยปริยาย
ซู่วววว!
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
เกิดระเบิดชนิดฟ้าถล่มแผ่นดินทลายรอบกายเจียงซืออาชาทมิฬ
ห้องขังคุกใต้ดินเลือนหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน
"กรี๊ดดด!"
"เนี๊ยว!"
เมื่อไร้ที่ยืน ทั้งซูเอและโนเอะต่างเสียหลักร่วงหล่น
'ปุ่มเท้าของท่านสัตว์เซียน!'
ซูเอลูบไล้ปุ่มเท้าสีชมพูของโนเอะอย่างมีความสุข
เธอลืมเลือนสถานการณ์สุดเลวร้ายตรงหน้าจนหมดสิ้น
ปุ่มเท้าโนเอะสุดยอดถึงขนาดนั้นก็ว่าได้
ฟุ่บ!
ชายหนุ่มพุ่งตัวไปยังอีกฟากหนึ่งของคุกในจุดที่เจียงซืออาชาทมิฬยืนอยู่
+9 ความผิดพลาดในมือกำลังลุกโชนด้วยเพลิงโลกันตร์อันน่าเกรงขาม
"วิชาดาบแพ็กม่า"
ซู่วววว
เปลวพลิงรอบกายกริดระบำสะบัดไหววูบวาบ
"ร่ายรำสังหาร!"
เปรี้ยง!
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
ความผิดพลาดได้ทะลวงร่างเจียงซืออาชาทมิฬอีกหลายหน
[ คริติคอล! ]
[ ผลของสมญานาม <ตายในการโจมตีเดียว> แสดงผล ความแรงคริติคอลเพิ่มขึ้น 30% ]
[ ท่านโจมตีจุดอ่อนเป้าหมาย การโจมตีจะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ]
[ คริติคอล! ]
[ ผลของสมญานาม <ตายใน... ]
[ ท่านโจมตีจุดอ่อน... ]
...
...
บัฟโทสะช่างเหล็กได้สอดประสานกับอักขระความมืดอย่างลงตัว รีดเร้นความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่า
เจียงซืออาชาทมิฬที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากเพลิงโลกันตร์ราชินีก่อนหน้านี้ เมื่อถูกซ้ำด้วยวิชาดาบแพ็กม่าในสภาพบัฟสมบูรณ์พร้อม มันจึงเริ่มออกอาการโซเซให้เห็น
"ย๊ากกก!"
กริดต้องรีบจบทุกสิ่งก่อนพลังบีเลียลจะหมดลง ชายหนุ่มพยายามปิดเกมด้วยการใช้วิชาดาบแพ็กม่าทั้งหมด ยกเว้น <คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร> ที่ยังติดระยะหน่วง
ถึงกระนั้น เจียงซืออาชาทมิฬก็ยังเป็นบอสที่มีค่าสถานะสูงกว่าบอสทั่วไปหลายเท่า แถมมันยังไม่รู้สึกเจ็บปวด ท่ามกลางการโหมกระหน่ำจากกริด หัวหน้าผู้คุมพยายามโจมตีสวนกลับเพื่อแลกชีวิต ระหว่างนี้ กริดกลับไม่คิดปัดป้องแม้แต่น้อย ชายหนุ่มเสี่ยงโจมตีตอบโต้กลับไปทุกครั้ง นั่นก็เพื่อลดระยะเวลาการต่อสู้ให้สั้นลง
หน้ากากปริศนาที่กริดสวม หน้ากากเพชฆาต บัดนี้กำลังชุ่มด้วยเลือด
และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น...
พลังชีวิตของเจียงซือลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในการฟาดฟันครั้งสุดท้าย ออปชั่นลับของความผิดพลาด <ผ่าสองซีก> ได้แสดงผลจนเกิดเป็นความเสียหายพิเศษและส่งมันไปสู่ความตาย
ศีรษะของเจียงซืออาชาทมิฬขาดสะบั้นจากลำคอและกลิ้งไปทางซัมดาซูที่ยืนอยู่อีกฝั่ง
เสียงข้อความระบบดังระงมก้องกังวาลภายในหัวกริด
[ ท่านสังหาร <หัวหน้าผู้คุมคุกลาวา> ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 1,922,509,991 หน่วย ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <สูตรการสร้างเจียงซือ> ]
[ สูตรการสร้างเจียงซือ ]
ทักษะเกรดยูนีค
หนังสือเก่าแก่ที่บรรจุสูตรการสร้างเจียงซือเหล็ก
เงื่อนไขการเรียน : นักพรต, หมอผี
"เจ๋งเป้ง!"
สูตรการสร้างเจียงซือเชียวนะ!
นี่คือการค้นพบครั้งสำคัญที่แม้แต่กริดก็ไม่คาดฝัน
หากสร้างสำเร็จ เขาจะสามารถแก้ไขปัญหากำลังรบขาดแคลนให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ได้ทันที กลายเป็นอาณาจักรที่เปี่ยมด้วยกองทัพเจียงซือ!
'...จริงสิ กิลด์เราไม่มีหมอผีนี่นา'
ชายหนุ่มดีใจและเศร้าโศกในเวลาเดียวกัน แต่ตอนนี้เหลือที่ว่างให้ขบคิดไร้สาระได้อีกไม่มากแล้ว ชีวิตของฮานซอกบงกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
"บิน"
ทันทีที่พลังบีเลียลหมดเวลา ชายหนุ่มรีบสวมรองเท้าบราฮัมเพื่อคว้าร่างซูเอและโนเอะที่กำลังร่วงหล่นไว้ จากนั้นก็รีบมุ่งหน้าไปหาฮานซอกบงโดยไว
ฟ้าววว
คณะของกริดรอดพ้นจากการพังถล่มของของคุกลาวามาได้ฉิวเฉียด
ภูเขาไฟที่พังทลายกำลังระอุด้วยลาวาเดือดพล่านทุกหนแห่ง ผลกระทบที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือฝุ่นขี้เถ้าซึ่งกำลังฟุ้งในอากาศ เมืองคาราสึแห่งอาณาจักรโชกำลังจะถูกปกคลุมด้วยฝุ่นขี้เถ้าภูเขาไฟ
"ต้องบ้าไปแล้วแน่...! แกทำอะไรลงไป!!"
ซัมดาซูส่งเสียงตะโกนโหวกแหวกเมื่อศีรษะของเจียงซืออาชาทมิฬกลิ้งกระทบปลายเท้า มันพยายามรีบพาฮานซอกบงออกไปไปประหาร แต่น่าเสียดายที่เรื่องนั้นไม่มีวันเกิดขึ้น จริง ชายผมดำปริศนาได้ปรากฏกายขวางทางมันไว้พร้อมกับซูเอในอ้อมอก
เธอยังคงงดงามแม้ร่ายกายจะเปรอะเปื้อนด้วยฝุ่นขี้เถ้า
"ท่านพ่อ!"
"ซูเอ!"
ในที่สุด สองพ่อลูกก็หวนพบกันอีกครั้ง
"แกเป็นใครกันแน่! ไม่มีทางเป็นไปได้! แกใช้วิธีอะไรเอาชนะเจียงซืออาชาทมิฬ! วิชามารสินะ!!"
"เราคือกษัตริย์แห่งโอเวอร์เกียร์"
"..."
ใบหน้าของซัมดาซูพลันบิดเบี้ยว
***
ขณะเดียวกัน ภายในห้องรับรองแขกพิเศษของวังหลวง
"นั่นเสียงอะไร"
ยังบันในชุดหรูหรา พวกมันพลันสัมผัสถึงเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลระหว่างกำลังพักผ่อนหย่อนใจ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ติดตามผู้แปลได้ที่ : www.facebook.com/bjknovel/
สมกับเป็นกริด
ReplyDeleteสักพักก็ได้คลาสหมอผีเพิ่มอีก ก็อดกริด
ReplyDelete