จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 639



    "ฮานซอก...หืม--"

    ผู้คุมที่กำลังลากตัวฮานซอกบง  มันพลันชะงักเมื่อหันไปเห็นกริด

    ครืนนนน

    ทันใดนั้น  มอนสเตอร์ระดับบอสได้ปรากฏกายจากรอยแยกบนพื้นและขวางทางกริดไว้
    
[ บอสประจำคุกลาวาปรากฏกาย ]

    'อะไรกัน...'

    กริดพลันสับสนเมื่อได้เห็นเจียงซือบอสที่มีร่างกายผอมบางและขาวซีดผุดขึ้นจากพื้น
    ในซาทิสฟาย  เพียงตัวตนระดับบอสปรากฏกาย  บรรยากาศโดยรอบจะต้องหม่นหมองในทันที  แม้กระทั่งบอสระดับต่ำสุดก็ยังสร้างอาการผิดปรกติเป็นวงกว้างเมื่อปรากฏตัว

    ทว่า  บอสประจำคุกลาวาแห่งนี้กลับไม่สร้างอาการผิดปรกติหมู่อย่างที่ควรจะเป็น
    ไม่ต่างจากมอนสเตอร์ธรรมดาทั่วไป  ซึ่งสิ่งนี้ทำให้กริดตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิมหลาเท่า

    'การที่มันไม่สร้างอาการผิดปรกติ  ย่อมต้องหมายความว่า...'

    ค่าสถานะพื้นฐานของบอสคุกลาวาอยู่ในระดับมหาศาล!
    หากประเมินจากความเก่งกาจของเจืองซือโลหิตที่เคยสู้ด้วยก่อนหน้านี้  มีความเป็นไปได้สูงว่า  บอสคุกลาวาจะเป็นมอนสเตอร์ที่มีค่าสถานะสูงลิบ  ชนิดที่กริดไม่เคยพบพานมาก่อน

    'เริ่มปวดท้องแล้วสิ...'

    ไม่ใช่ว่าเจียงซือปรกติก็เก่งมากแล้วรึไง...
    ลูกเตะของพวกมันทรงพลังมากพอจะส่งให้ดาบในมือกริดกระเด็นหลุด  
    หากบอสเจียงซือเก่งกว่าตัวธรรมดาสักสามเท่า  เกรงว่ากริดคงไม่มีปัญญาล้มมันตามลำพัง  การต่อสู้จะยิ่งยากขึ้นเมื่อชายหนุ่มมิอาจใช้ดาบบล็อคการโจมตีจากอีกฝ่าย

    'ไม่สิ...เรากังวลเกินเหตุรึเปล่า'

    ชายหนุ่มส่ายศีรษะพร้อมกับยิ้มสู้
    ทันใดนั้น  ซูเอตะโกนขึ้น
    
    "เจียงซืออาชาทมิฬ...!!"

    "..."

    ทำไมซูเอต้องตกใจขนาดนั้น...
    ชายหนุ่มเริ่มตึงเครียดเมื่อเห็นหัวหน้าผู้คุมง้างท่าเตะใส่ซูเอ  ท่าเตะครั้งนี้ไม่ธรรมดา  มันดูคล้ายกับท่วงท่าของผู้เล่นคลาสนักสู้อันดับหนึ่งของโลก  เรกัส
    ไม่สิ...ท่าเตะของบอสเจียงซือทั้งรวดเร็วและเฉียบคมยิ่งกว่าเรกัสมาก

    วืด!

    แม้จะเตะโดนลม  แต่ก็มากพอทำให้กริดชนลุกไปทั่วร่าง
    ซูเอหลบอย่างฉิวเฉียดด้วยทักษะพริ้วไหวที่ติดมากับมีด  นับเป็นการใช้มีดสั้นอุดมคติได้อย่างชาญฉลาด

    "ท่าเตะงั้นหรือ..."    

    กริดโล่งใจเล็กน้อยที่เห็นซูเอปลอดภัย  แต่เขากลับยิ่งฉงน  เพราะเจียงซือก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้ท่าเตะเพื่อโจมตี  มีเพียงใช้ปัดป้องเป็นครั้งคราว  ส่งผลให้กริดคิดว่า  มอนสเตอร์ชนิดนี้อาจไม่ชำนาญล่างกายส่วนล่าง
    แต่หัวหน้าผู้คุมได้ทำให้มุมมองของเขาต้องเปลี่ยนไป

    ซูเอเริ่มอธิบาย

    "เจียงซือมีทั้งหมดห้าชนิด"

    ชนิดแรก  เจียงซือเหล็ก
    เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด  ทักษะโจมตีทรงพลังและดุดัน  ค่าสถานะสูง  ร่างกายแข็งแกร่งทนทานราวกับสวมเกราะเหล็กไว้ตลอดเวลา  แต่ความเร็วจะต่ำมาก  เพราะพวกมันมิอาจงอเข่าได้

    ชนิดที่สอง  เจียงซือพิษ
    สมรรถภาพร่างกายคล้ายคลึงกับเจียงซือเหล็ก  แต่อันตรายในการต่อสู้มากกว่า
    พวกมันสามารถขับพิษจากบาดแผล  ส่งผลให้ศัตรูต้องคอยระวังตัวมากขึ้น

    ชนิดที่สาม  เจียงซือโลหิต
    สิ่งที่ใช้สร้างไม่เหมือนกับเจียงซือเหล็กและพิษ
    พวกมันถูกสร้างจากเลือดสาวพรหมจรรย์  ผสมผสานกับยาพิษรุนแรงจำนวนมาก  
    เก่งกาจกว่าเจียงซือเหล็กถึงสามเท่า
    เจียงซือโลหิตจะเริ่มมีสติปัญญาในระดับต่ำ  สามารถทำตามคำสั่งพื้นฐานได้เล็กน้อย  
    ฉลาดกว่าสองประเภทแรก

    หากอาณาจักรใดสามารถสร้างเจียงซือโลหิตได้ในปริมาณมาก  กองทัพเดนตายของพวกมันจะแข็งแกร่งไร้เทียมทาน  แต่น่าเสียดายที่การเคลื่อนไหวยังไม่คล่องแคล่วเท่าที่ควร

    อีกสองชนิดที่เหลือคือ  เจียงซืออาชาทมิฬ  และเจียงซืออาชาสวรรค์
    ทั้งสองชนิดล้วนเกิดจากการสร้างด้วยวิธีเหนือธรรมชาติ  แตกต่างจากเจียงซือสามชนิดแรกอย่างเทียบไม่ติด
    
    เจียงซืออาชาทมิฬถูกประเมินให้อยู่ระดับ 'ปีศาจ'
    ค่าพลังกายภาพสูงกว่าเจียงซือโลหิตถึง 10 เท่า   และไม่มีขีดจำกัดทางด้านร่างกายแม้แต่น้อย  พวกมันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว  กระทั่งสามารถใช้ทักษะ
      
    ส่วนเจียงซืออาชาสวรรค์  พวกมันถูกประเมินให้อยู่ในระดับ 'มหาปีศาจ'
    ถูกสร้างจากเลือดสาวพรหมจรรย์จำนวนมากและโอสถหายากอีกหลายชนิด
    ว่ากันว่า  เจียงซืออาชาสวรรค์เพียงตนเดียวสามารถทำลายหนึ่งกองทัพใหญ่ได้ง่ายดาย
    แต่นั่นเป็นเพียงตำนาน  ไม่เคยมีข้อเท็จจริงรองรับมาก่อน

    หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ

    "เจียงซืออาชาทมิฬเป็นสายพันธุ์ทรงพลังที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น"

    "...ให้ตายสิ"

    กริดอดหน้าซีดเป็นไม่ได้  
    สมรรภภาพร่างกายสูงกว่าเจียงซือโลหิต 10 เท่างั้นหรือ...
    ทั้งที่ตนมองว่า  ต่อให้เก่งกาจกว่าเพียงสามเท่าก็มิอาจรับมือไหวแล้ว
    แล้วนี่สิบเท่า...

    'ไม่มีทางเอาชนะซึ่งหน้าได้แน่'

    "กริด!  ไม่ต้องห่วงฉัน...หนีไปพร้อมกับซูเอซะ!  ช่วยดูแลบุตรสาวของฉันด้วย!"

    ฮานซอกบงตะเบ็งสุดเสียงจากอีกฟากฝั่ง  เขากำลังถูกเจียงซือโลหิตผู้คุมพันธนาการและลากตัวไปลานประหาร
    แม้จะรู้ว่ากริดเก่งกาจเพียงใด  แต่คงไม่มีใครสามารถเอาชนะเจียงซืออาชาทมิฬได้แน่  ฮานซอกบงจึงตัดสินใจละทิ้งชีวิตของตน  เขาหวังให้กริดและซูเอมีชีวิตรอดปลอดภัย

    ซูเอรีบออกตัวทันที

    "ฉันจะยื้อเวลาให้  กริด...นายรีบหนีไปเถอะ"

    เธอเองก็เตรียมใจตายไว้แล้ว
    ซูเอกระโจนขวางทางเจียงซืออาชาทมิฬอย่างห้าวหาญ  ริมฝีปากถูกขบด้วยสีหน้าเจ็บแค้น

    'ท่านพ่อ...หนูขอโทษที่มิอาจช่วยเหลือท่านได้  แต่ไม่ต้องห่วง...หนูจะตามไปอยู่บนสวรรค์ด้วยแน่นอน'

    ต่อหน้าเจียงซืออาชาทมิฬ  ซูเอหมดสิทธิ์ช่วยเหลือบิดาโดยสิ้นเชิง
    สิ่งที่เดียวที่สามารถกระทำได้ในตอนนี้  คือถ่วงเวลาให้กริดหนีกลับไปอย่างปลอดภัย
    บุญคุณที่เคยช่วยเหลือกันไว้  ซูเอจะขอชดใช้ในชาติภพถัดไป

    "รีบหนีไป!"

    เธอไม่อยากให้กริดต้องบาดเจ็บ
    ซูเอขว้างมีดสั้นอุดมคติ  อาวุธเพียงอย่างเดียวของเธอ  กลับคืนให้กริด
    จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่เจียงซืออาชาทมิฬด้วยมือเปล่า

    กรี๊!

    เจียงซืออาชาทมิฬส่งเสียงร้องราวกับกำลังเหยียดหยัน    
    เธอหลบการโจมตีไม่พ้นแน่  ด้วยสภาพร่างกายโรยราเช่นนั้น
    
    คิดยื้อเวลาให้กริดหนีไปงั้นหรือ

    'ใครจะสนกันฟะ!'

    กริดมาที่นี่เพื่อหากำลังเสริม  
    เขาต้องการเป็นมิตรกับฮานซอกบงและซูเอที่ยังมีชีวิตอยู่  โดยไม่สนว่าจะถูกอาณาจักรโชทอดทิ้งหรือไม่

    'ฉันจะช่วยเหลือทั้งคู่ให้ได้!  และเปลี่ยนแพงเจียให้เป็นเมืองของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์!'

    กริดลั่นวาจาพร้อมอัญเชิญหัตถ์เทวะ
    แค่เขามิได้สั่งให้เป็นเปลี่ยนรูปเป็นหอกไลฟาเอลเหมือนเช่นเคย

    'ประสิทธิภาพของหอกไลฟาเอลแปลงรูป...อ่อนแอกว่าเล่มจริงมาก'

    แม้พาเฟรเนี่ยมจะสุดยอดเพียงใด  แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำลองขนปุกปุยของเทพธิดาให้เสมือนจริงได้
    กริดไม่เชื่อว่าหอกไลฟาเอลจำลองจะรับมือกับเจียงซืออาชาทมิฬไหว
    การกระทำเช่นนั้นคงเป็นการเผาผลาญทักษะเปลี่ยนรูปอย่างเปล่าประโยชน์

    'ในศึกนี้...หัตถ์เทวะมีหน้าที่ปกป้องเท่านั้น'

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ

    ทันทีที่รับเจตจำนงจากกริด  หัตถ์เทวะทั้งหมดพวยพุ่งไปรอบกายซูเอเพื่อปกป้องเธอ
    หัตถ์เทวะข้างหนึ่งถูกเจียงซืออาชาทมิฬซัดจนกระเด็นแทนซูเอ

    เคร้ง!

    เคร้งงงง!

    อีกหนึ่งข้อดีของพาเฟรเนี่ยมคือ  พวกมันไม่มีวันบุบสลาย
    ด้วยค่าความคงทนอนันต์  ไม่ว่าจะถูกเจียงซืออาชาทมิฬโจมตีรุนแรงมากเพียงใด  แต่พวกมันก็ไม่มีวันเสื่อมสภาพผุพัง  
    ถึงกระนั้น  ระบบป้องกันของหัตถ์เทวะก็แสดงผลได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก
    เวลาส่วนใหญ่สูญไปกับการถูกซัดกระเด็น  มิใช่ปัดป้อง
    แต่ก็นับว่าช่วยเหลือซูเอได้มากทีเดียว

    "โนเอะ!"

[ สัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกปรากฏกาย ]

    สาเหตุที่กริดไม่อัญเชิญโนเอะในช่วงก่อนหน้านี้  เพราะชายหนุ่มต้องการถนอมค่าเรี่ยวแรงโนเอะไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
    เฉกเช่นปัจจุบัน
    การต่อกรกับอสูรกาย  มีแต่ต้องอยู่ในสภาพพร้อมรบสุดขีดเท่านั้น

    "เมี๊ยว!  กินละน๊า~  อ้าาาม~~"    

    โนเอะปรากฏตัวพร้อมอ้าปากขว้าง  เจ้าแมวอ้วนหวังเขมือบเจียงซืออาชาทมิฬอย่างเต็มปากเต็มคำ
    ทว่า...คู่ต่อสู้ว่องไวเกินไป  มันสามารถเคลื่อนที่หลบโนเอะในพริบตา

    "เอ๋...!"

    "เหมียว...!"

    โนเอะเขมือบพลาด...
    กริดและโนเอะต่างอึ้งไปพักใหญ่

    ผัวะ!

    "เนี๊ยว!"

    ดวงตาโนเอะกลายเป็นตัว X ทั้งสองข้างหลังจากถูกเจียงซือโจมตีใส่
    ลิ้นห้อยจุกปาก  เจ้าแมวอ้วนหมดสติร่วงหล่นลงบนพื้นดินโดยพลัน
    ช่างน่าสงสารนัก

    "ท--ท่านสัตว์เซียน...!"

    เมื่อครั้งต่อสู้กับเกราะหนามในอดีต  ซูเอเคยเข้าใจผิดว่าโนเอะคือสัตว์เซียน
    เธอพลันตะลึงเมื่อเห็นโนเอะเสียท่าในพริบตา

    "กริด...ได้โปรดหนีไป!"

    แม้กระทั่งสัตว์เซียนยังมิอาจต่อกรกับเจียงซืออาชาทมิฬได้  ซูเอจึงคิดว่ากริดคงไม่สามารถเอาชนะได้เช่นกัน  เธอต้องการให้กริดมีชีวิตรอด  
    ทว่า...กริดกลับไม่ยอมสนอง
    ชายหนุ่มพุ่งทะยานเข้าประชิดเจียงซืออาชาทมิฬด้วยสีหน้าแน่วแน่
    
    "ซูเอ...เธอเข้าใจผิดไปหนึ่งเรื่อง  ฉันไม่ได้มาที่นี่โดยบังเอิญ  แต่มาเพื่อช่วยพวกเธอสองพ่อลูกให้ออกไปอย่างปลอดภัย  แม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม"

    "...ทำไมกัน"

    เหตุใดกริดต้องสละชีวิตเพื่อช่วยเธอกับพ่อด้วย  ซูเอมิอาจเข้าใจได้เลย
    กริดคือผู้มีพระคุณของตนและบิดา  ทางนี้ต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายสละชีพเพื่อปกป้องกริด

    "อะ..."
    
    เธอจ้องมองกริดด้วยนัยต์นาที่สั่นระริก
    ดาบยาวเล่มใหม่ในมือกริดได้สะกดทุกสิ่งไว้อย่างอยู่หมัด  
    เป็นยารุกต์
    ออปชั่น <ความเท่> ได้ส่งเสริมให้ดาบเกรดเลเจนดารีเล่มนี้งดงามเจิดจรัสยิ่งกว่าเล่มใดที่กริดมี  ประกายสีแสงโลหิตกำลังแดงฉานไปทั่วคุกลาวาชั้นสี่

    นี่คือสัญญาณบ่งบอกว่า...อสูรดาบอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกกำลังจะปรากกาย

    "อัญเชิญยารุกต์"
    
[ กำลังอัญเชิญอสูรดาบยารุกต์ ]

    กรี๊~~~!

    เมื่อสิ้นเสียงประกาศ  ยารุกต์ในมือกริดพลันส่งเสียงกรีดร้องกึกก้อง
    ประกายแสงสีแดงทับทิมส่องกระจายออกทุกทิศทางสว่างจ้า
    ยารุกต์สั่นคลอนรุนแรง  ก่อนจะพุ่งออกจากมือกริดและลอยขึ้นไปในอากาศ

    "อะ...!"

    ซูเอรู้สึกเย็นสันหลับวาบ  ซาบซ่านไปทั่วร่างกาย 
    แสงโลหิตจากดาบยารุกต์คือฉากอันงดงามที่เธอไม่เคยพบเห็นมาก่อน
    มันสะกดจนซูเอตกอยู่ในภวังค์  เป็นความงดงามที่ตรงกับรสนิยมของเธอทุกประการ

    ซู่ววววว!    

    "...สดชื่น"

    ดวงวิญญาณสีแดงได้ก่อตัวเป็นร่างคน
    ชายชราผู้หนึ่งปรากฏกาย 
    ยารุกต์ได้สูดอากาศภายนอกพร้อมกับปราณดาบอสูรอันเข้มข้นที่ห่อหุ้มร่าง
    นี่คือปราณดาบอสูรที่มีเฉพาะ <นักดาบขุมนรก> เท่านั้น
    หากยารุกต์อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม  มันจะเป็นปราณดาบอันทรงพลังที่แม้แต่จอมอสูรยังเข็ดขยาด  
    และต้องไม่ลืมว่า  ชายคนนี้มีชาติกำเนิดเป็นเพียงอสูรระดับต่ำ
    
    ฟุ่บ

    เมื่อสูดอากาศบริสุทธ์เข้าไปจนพอใจ  ยารุกต์เริ่มกวัดแกร่งดาบเป็นหนแรก
    ฉากที่น่าทึ่งได้ปรากฏแก่สายตาทุกคน  ดาบยาวโลหิตในมืออสูรดาบ  ถูกฟาดฟันปะทะร่างเจียงซืออาชาทมิฬอย่างแม่นยำ
    ยารุกต์มีความเร็วสูงขนาดนั้นเลยหรือ...คำตอบคือไมใช่
    ยารุกต์มิได้มีค่าสถานะสูงไปกว่าสิ่งมีชีวิต 'ปีศาจ' เฉกเช่นเจียงซืออาชาทมิฬ
    สมรรถภาพร่างกายและค่าสถานะของเจียงซือย่อมสูงกว่ายารุกต์หลายขุม

    เหตุผลที่เจียงซืออาชาทมิฬมิอาจหลบพ้น  เป็นเพราะวิชาดาบของยารุกต์มีระดับสูงส่งเกินไป  
    ใช่แล้ว...วิชาดาบอสูรของยารุกต์เปี่ยมด้วยอำนาจมหาศาลจนมิอาจหลบพ้น  แม้จะมองเห็นและตามความเร็วทันก็ตาม

    ฉัวะฉัวะฉัวะฉัวะฉัวะ!

    แสงดาบสีเลือดจำนวนมากกำลังรายล้อมร่างเจียงซืออาชาทมิฬทุกทิศทาง
    สิ่งนี้ช่วยยื้อเวลาให้กริดได้ดีทีเดียว

    "อักขระความมืด"

    กริดตัดสินใจปลดปล่อยขุมพลังลับอันยิ่งใหญ่

    "พลังบีเลียล!"

    พลังอันมหาศาลของจอมอสูรกำลังจะถูกสำแดงโดยมนุษย์ผู้หนึ่ง

    ***

    "หมอนั่นเป็นใคร!"

    ซัมดาซูรีบไปแอบซ่อนเมื่อพบผู้บุกรุกเดินขึ้นมายังชั้นสี่
    มันมิอาจเก็บความประหลาดใจไว้ได้  เมื่อเห็นชายปริศนาไม่ยอมหนีไปแม้กำลังเผชิญหน้ากับเจียงซืออาชาทมิฬ
    มันรีบหันไปถามฮานซอกบงด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

    "คนเสียสติที่ไม่ยอมหนีเจียงซืออาชาทมิฬ...ไอ้งั่งนี่เป็นใครกัน"

    ฮานซอกบกจ้องซัมดาซูตาเขม็ง  แม้เขาจะถูกผู้คุมล็อคตัวไว้ก็ตาม

    "ระวังคำพูดด้วย  เขามิใช่บุรุษที่คนปากมอมเช่นแกสามารถดูแคลนได้"

    "คุคุคุ!  แกกำลังโกรธแทนคนที่กำลังจะตายเนี่ยนะ...ช่างน่าขัน"

    เจียงซืออาชาทมิฬคือศาสตราวุธลับของอาณาจักรโช  ทั่วทั้งอาณาจักรมีเพียงห้าตนเท่านั้น
    ชายลึกลับปรากฏตัวขึ้นเพื่อหวังช่วยฮานซอกบงงั้นหรือ...
    น่าสมเพชนัก  มันไม่มีวันเข้าใกล้ฮานซอกบงได้ด้วยซ้ำ

    'ซูเอก็คงไม่รอดเช่นกัน'
    
    นับว่าน่าเสียดายไม่น้อย
    แต่บัดนี้  ซัมดาซูกังวลว่าตนอาจเลยเวลาประหาร  ซึ่งอาจส่งผลให้ยังบันกริ้วโกรธ  มันจึงเร่งมือผู้คุมให้ลากฮานซอกบงออกไป
    ฮานซอกบงที่ถูกลากทึ้งกำลังเป็นห่วงซูเอและกริดจับใจ  เขาเหลียวหลังกลับมามองเป็นระยะ

    แต่ทันใดนั้นเอง

    ครืนนนนนน!

    ชั้นบนสุดของคุกลาวาพลันเกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรง

    "อะไรกัน..."

    ซัมดาซูหันกลับมามองด้านในคุกลาวาด้วยสีหน้าตกตะลึง
    กลุ่มก้อนเวทมนต์อันทรงพลังกำลังกระหน่ำทำลายทุกสิ่งจนพินาศย่อยยับ
    ฝุ่นควันคละคลุ้ง  แสงระเบิดปกคลุมภายในจนแทบมองสิ่งใดไม่เห็น

    "เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น"

    ผู้บุกรุกแข็งแกร่งขนาดทำลายคุกลาวาชั้นสี่จนราบคาบ  ทั้งที่มีเจียงซืออาชาทมิฬคอยเฝ้าอยู่เนี่ยนะ...

    สับสน...
    ซัมดาซูกำลังฉงนหนัก  มันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยสีหน้าตึงเครียด

    ตุ้บ...

    ทันใดนั้น  มีบางสิ่งกระเด็นกลิ้งมาหาซัมดาซู...เป็นวัตถุทรงกลม
    สิ่งนั้นคือศีรษะของเจียงซีอาชาทมิฬที่อาณาจักรโชสุดแสนภาคภูมิใจ  ศีรษะของสิ่งมีชีวิตระดับปีศาจได้กลิ้งหลุนหลุนกระทบปลายเท้าซัมดาซูอย่างน่าสะอิดสะเอียน

    "อ--อึ๋ย...!"
    สีหน้าขุนนางชั่วพลันชาวซีดราวกระดาษ

Comments

  1. นี่แหละพลังแห่งกริด

    ReplyDelete
  2. ฆ่าขุนนางชั่วซัมดาซูนี้ด้วยกริด

    ReplyDelete
  3. แปลดีมาก ไม่อีกแล้วหรออ่านเป็นอาทิตยืกว่าจะมาถึงตอนนี้ค้างคาใจมาก

    ReplyDelete
  4. ความเรียกว่า "มีแต่พลัง..แต่ขาดทักษะ" ก็ตายได้เหมือนกัน 555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00