จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 637



    "ที่นี่ไม่ใช่คุกปรกติสินะ..."

    คุกลาวามิได้สร้างจากฝีมือมนุษย์ 100%  
    หากแต่ดัดแปลงเพียงเล็กน้อยจากภูเขาไฟธรรมชาติ 
    มันคือคุกที่เกิดขึ้นจากฝีมือธรรมชาติมากกว่ามนุษย์
    ภูเขาไฟสีดำสนิทสูงตระหง่านได้มอบความรู้สึกตึงเครียดให้กริด
    
    "ยอดปลายทั้งสูงและแหลม...รู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะ"    

    "ดูจากลาวาที่ไหลด้านข้าง...นี่คือภูเขาไฟที่สงบแล้วแน่หรือ  ไม่ใช่ว่าจะเกิดระเบิดตอนเราเข้าไปด้านในนะ"
    
    ไอดานและหยางเฟยออกอาการลังเล      
    พวกเขาไม่มีความกล้ามากพอจะเดินเข้าไปด้านในคุกลาวา
    แน่นอนว่า  กริดไม่มีเจตนาจะให้ทั้งสองเข้าร่วมตั้งแต่แรก

    "แค่หาคุกลาวาให้พบก็พอแล้ว...พวกนายสองคนกลับที่พักก่อนเลย  แล้วรอฉันอยู่ที่นั่น"

    "จะเตรียมอาหารรสเลิศไว้รอนะ"

    "ฉันจะเตรียมอ่างอาบน้ำอุ่นและชาคุณภาพสูงไว้...ได้โปรดกลับมาอย่างปลอดภัยด้วย"

    "แน่นอน"

    เมื่อเหลือกริดเพียงคนเดียว  ชายหนุ่มตรวจสอบเวลาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
    อีกสองชั่วโมงจะถึงเวลาประหารฮานซอกบง

    'เราหาข้อมูลนานเกินไป'

    แถมยังเป็นความเร็วที่ได้รับความช่วยเหลือจากหยางเฟยแล้ว
    หากไม่มีเธอล่ะก็  ป่านนี้คงยังไม่ได้เบาะแสสองพ่อลูกแน่

    'และทางเลือกของเราจะเหลือเพียงการเผชิญหน้ากษัตริย์โชโดยตรง  มันจะเป็นหนทางที่นองด้วยเลือดแน่นอน'

    ภารกิจลับของชายหนุ่มสามารถบรรลุได้ 2 รูปแบบ
    เงื่อนไขแรก : ช่วยเหลือสองพ่อลูกออกจากคุกอย่างปลอดภัย
    เงื่อนไขที่สอง : เผชิญหน้ากับกษัตริย์โชโดยตรง
    หากพิจารณาจากสามัญสำนึก  การเข้าพบกษัตริย์โชคงเป็นหนทางที่มีการต่อสู้รออยู่  ชายคนนี้ไม่มีทางยอมปล่อยสองพ่อลูกออกมาแต่โดยดีแน่  เพราะมันคือผู้ริเริ่มโทษประหารตั้งแต่ต้น
    ซึ่งกริดไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น  
    การมาเยือนทวีปตะวันออกหนนี้  จุดประสงค์หลักเพื่อสร้างพันธมิตร  และนำกองทัพกลับไปสนับสนุนอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
    
    'เราไม่อยากเป็นศัตรูกับอาณาจักรโช...ต้องเหลือโอกาสให้สานสัมพันธ์ทางการทูตบ้าง'

    เวลาเหลือไม่มากแล้ว  กริดต้องเร่งมือช่วยเหลือฮานซอกบงกับซูเออย่างรวดเร็วและเงียบเชียบที่สุด
    เมื่อชายหนุ่มตัดสินใจแน่วแน่  เขารีบสวมหน้ากากและผ้าปิดตาเพชฆาตทันที
    
    ...ในวินาทีที่กริดย่างกรายเข้าสู่คุกลาวา

[ ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่ค้นพบดันเจี้ยนคุกวาลา ]
[ ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากดันเจี้ยนคุกลาวาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ]
[ เมื่อเอาชนะมอนสเตอร์ประเภทบอส  โอกาสดรอปไอเท็มเกรดยูนีคหรือสูงกว่า  จะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า  ]

    "เอ๋...!"

    คุกลาวา...คือดันเจี้ยน!

    'เรามาผิดคุกรึเปล่า...'

    กริดยังคงสงบนิ่งได้  แม้จะพานพบสิ่งไม่คาดฝัน
    ชายหนุ่มพิจารณาโครงสร้างคุกเบื้องหน้าอย่างถี่ถ้วน  
    เขาจะไม่ประมาทกับทุกสิ่งที่คลืบคลานเข้าหา
    
    ครืดดด  ครืดดด

    มีเสียงประหลาดดังขึ้น  ราวกับเสียงของโซ่ถูกลากไปกับพื้น
    ชายหนุ่มกวาดสายตามองโดยรอบอย่างละเอียด
    จนกระทั่งได้พบกับเจียงซือตนหนึ่ง  
    ชื่อเหนือศีรษะของมันเขียนไว้ว่า <ผู้คุมคุกลาวา>
    เจียงซือเหล่านี้มีผิวหนังขาวซีด  ข้อมือทั้งสองถูกโซ่เส้นใหญ่ล่าม  โซ่ยาวห้อยลากไปกับพื้น

    'ผู้คุมเป็นมอนสเตอร์หรอกหรือ...'

    ถึงจะไม่เข้าใจนัก  แต่นี่นับเป็นเรื่องดี

    'เราคงรู้สึกผิดที่ต้องฆ่าแกงมนุษย์ด้วยกัน  แต่หากเป็นมอนสเตอร์ล่ะก็...คงต้องรีบจัดการให้หมด  และหาตัวสองพ่อลูกฮานให้พบโดยเร็ว'

    ชายหนุ่มอัญเชิญหัตถ์เทวะที่สี่ข้างออกมาพร้อมมโยเนียร์

    "เก็บกวาดซะ"

    เมื่อสิ้นเสียงกริด...

    ผัวะผัวะ!

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

    หัตถ์เทวะทั้งสี่พุ่งใส่เจียงซือและทุบมันด้วยมโยลเนียร์

    'อะไรกัน...!'

    ขณะชายหนุ่มกำลังจะโจมตีซ้ำ  เขาพลันสะดุ้ง
    เจียงชือที่ถูกมโนลเนียร์ทุบเมื่อครู่  มันมิได้แสดงอาการ 'ชะงัก' เลยสักนิด
    ราวกับต้านทานไว้ได้
    แถมยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นอีก
    หมายความว่า...พวกมันคือมอนสเตอร์ที่มีค่าพลังป้องกันและค่าต้านทานสูงมาก    

    'ถึงถูกใช้เป็นผู้คุมในคุกธรรมชาติสินะ...'

    ชายหนุ่มชักดาบทรงฉลามเล่มใหญ่ออกมาถือ
    ประกายแสงจากคมดาบกำลังระยิบระยับท่ามกลางความมืดมิดภายในคุก
    ใช่แล้ว...มันคืออาวุธที่จะทรงพลังอย่างมากเมื่อต่อสู้ในความมืด
    +9 ความผิดพลาด

    ***

    สาเหตุที่คุกลาวาขึ้นชื่อด้านความโหดร้าย  
    สถานที่แห่งนี้มีบรรยากาศร้อนระอุเกินกว่ามนุษย์จะใช้ชีวิตอยู่ได้
    เพียงนั่งเฉยๆ แค่ครู่เดียวก็ทำให้เหงื่อไคลชุ่มชะโลมทั่วทุกรุขุมขน
    ร่างกายจะขาดน้ำในเวลาไม่นาน  บางรายอาจถึงขั้นผิวหนังไหม้เกรียม
    การถูกกักขังภายใน  ไม่ต่างจากการถูกทรมานทางอ้อมเลยสักนิด
    
    ด้วยเหตุนี้  ผู้คุมของคุกจึงมิอาจใช้มนุษย์ทำหน้าที่แทน
    ในทางทฤษฏี  ทหารทั่วไปไม่มีทางทนสภาพแวดล้อมได้แน่
    ทางอาณาจักรจึงต้องสร้างเจียงซือและนำมันมาปล่อยไว้ภายใน

    "ได้เวลาแล้ว...ออกมา"

    "อึก..."

    ฮานซอกบงพยุงกายขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด
    เขารอดพ้นจากสภาวะร่างกายขาดน้ำมาได้  เพราะกษัตริย์โชเตรียมน้ำสะอาดให้ดื่มเป็นจำนวนมาก
    ถึงกระนั้น  เหงื่อไคลก็ยังไหลชุ่มกายตลอดเวลา  ค่าเรี่ยวแรงลดถดถอยอย่างรวดเร็ว
    
    โงนเงน...

    ขณะฮานซอกบงกำลังจะล้มลง  ผู้คุมได้เดินเข้ามาพยุงร่างไว้
    ฮานซอกบงพลันเย็นสันหลังวาบเมื่อสัมผัสกับเนื้อหนังของผู้คุมโดยตรง

    'เจียงซือโลหิต...!'

    เจียงซือโลหิตจะถูกสร้างจากเลือดสาวพรหมจรรย์  ผสานกับพิษร้ายรุนแรง
    พวกมันมีสมรรถภาพร่างกายแข็งแกร่งกว่าเจียงซือทั่วไป  และสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้เล็กน้อย
    แน่นอนว่า  มันจะจงรักภักดีต่อผู้สร้างเท่านั้น

    กึก  กึก

    ฮานซอกบงเดินโซเซด้วยการพยุงจากเจียงซือโลหิต  
    เมื่อความตายคลืบคลานเข้าใกล้  จิตใจของเขามิอาจสงบนิ่งได้
    มิใช่เพราะรักตัวกลัวตาย  แต่เพราะกังวลเกี่ยวกับบุตรสาว...ฮานซูเอ

    'ไม่สิ...เราไม่จำเป็นต้องห่วงเธอ  ลูกสาวของเราแข็งแกร่งอยู่แล้ว  ถึงจะอยู่คนเดียวคงไม่เป็นไร  ฝ่าบาททรงกำชับหนักแน่นแล้ว  ว่าจะช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ'
    
    หนึ่งในหน้าที่สำคัญของผู้เป็นพ่อแม่  คือการไว้เนื้อเชื่อใจในตัวบุตรหลาน
    ฮานซอกบงพยายามสงบสติ 
    ขณะเขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับความตายที่ใกล้มาเยือน  ใครบางคนได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า...
    ขุนนางซัมดาซู

    "สภาพดูไม่ได้เลยนะ..."

    "ซัมดาซู..."

    ใบหน้าฮานซอกบงพลันบิดเบี้ยว
    ซัมดาซูคือตัวแทนขุนนางกังฉินผู้คิดคดต่ออาณาจักร
    มันมักขัดขวางสิ่งที่ฮานซอกบงพยายามทำเพื่อความก้าวหน้าอาณาจักรเสมอ
    ฮานซอกบงมิอาจยอมรับให้คนเยี่ยงนี้เป็นขุนนาง

    "หากฉันตาย...ฝ่าบาทจะเหลือแต่แกเท่านั้น  ฉันชักเป็นห่วงอนาคตของอาณาจักรนี้แล้วสิ"

    ฮานซอกพึมพำ
    ซัมดาซูแสยะยิ้มชั่วร้าย

    "เปล่าประโยชน์น่า...คนที่กำลังจะตาย  ทำไมถึงต้องห่วงเรื่องในอนาคตด้วย"

    "...มาเพื่อสมน้ำหน้ากันรึไง"

    "คุคุคุ...ใจร้ายจังนะ  ฉันเองก็ใจหายที่ความสัมพันธ์อันเน่าเฟะของพวกเรากำลังจะจบลงเท่านี้  แม้จะไม่เคยลงรอยกันเลยสักครั้ง...แต่ฉันมาที่นี่เพื่อกล่าวในสิ่งที่แกได้ฟังแล้วจะสบายใจขึ้น"

    "ฉันไม่อยากได้ยินคำปลอบใจจากแก"

    "ฟังเถอะน่า...มันเกี่ยวกับบุตรสาวสุดที่รักของแก  ฮานซูเอ"

    "...ห้ามเอ่ยชื่อของเธอด้วยปากอันเน่าเฟะนั่น!"

    เมื่อชื่อของซูเอถูกกล่าวถึง  ฮานซอกบงพลันปลดปล่อยจิตสังหารรุนแรง
    ซัมดาซูเห็นดังนั้นจึงชอบใจ  มันหัวเราะร่วนด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวสุดขีด    
    จากนั้นก็เดินเข้ามากระซิบข้างหู

    "ฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดีตลอดชีวิตที่เหลืออยู่  ไม่ต้องห่วง...ฉันจะทำให้เธองดงามอยู่เสมอจนกว่าฉันจะเบื่อ  ดังนั้นแกไม่ต้องกังวลถึงอนาคตของเธอ...หลับให้สบายเถอะนะ"

    "...!"    

    นัยน์ตาฮานซอกบงพลันสั่นระริก
    เรื่องที่ซัมดาซูเล็งซูเอไว้  เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
    แต่ถึงกระนั้น  ซอกบงพยายามสุขุมให้มากที่สุด

    "แกทำไม่สำเร็จแน่...ฝ่าบาททรงรับปากฉันว่าจะดูแลซูเอด้วยพระองค์เอง"

    "คุคุคุ...แล้วถ้าเกิดว่า  เธอเลือกจะอยู่กับฉันล่ะ"

    "อะไรนะ..."

    "ฉันสั่งให้คนนำฮวานรยองโชใส่ในอาหารมื้อเช้าของเธอแล้ว"

    "ฮ--ฮวานรยองโช...!"

    ฮวานรยองโชคือยาที่ทำให้เห็นภาพหลอน
    ผู้ที่กินเข้าไปจะไร้แรงต่อต้าน  ถูกเป่าหูเช่นไรก็จะเชื่อฟังไปเสียหมด    

    "ใครบางคนจะปลอมเป็นแกเพื่อไปกระซิบข้างหูซูเอว่า...จงเชื่อใจซัมดาซูจนกว่าชีวิตจะหาไม่  ซัมดาซูจะปกป้องเจ้าเอง...คุคุคุ!  นั่นคือคำสั่งเสียสุดท้ายของผู้เป็นบิดายังไงล่ะ!  เคี๊ยกฮ่าฮ่าฮ่า!"

    "แกมันปีศาจ!!"

    ฮานซอกบงตะเบ็งสุดเสียง  เขาสาปแช่งด้วยถ้อยคำแข็งกร้าวที่สุดเท่าที่ร่างกายกระทำไหว
    แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงสายลมพัดผ่าน  
    อีกไม่นานฮานซอกบงจะถูกประหาร
    ตัวเขาขณะนี้ยังถูกพันธนาการโดยเจียงซือโลหิต  มิอาจปรี่เข้าไปทำร้ายซัมดาดูได้ดั่งใจต้องการ
    ซัมดาซูแสยะยิ้มอย่างต่ำทราม  สีหน้าของมันกำลังพึงพอใจสุดขีด
    
    ***

    ณ ชั้นสองของคุกลาวา

    "ท่านพ่อ..."

    เป็นเพราะอากาศร้อนรึเปล่านะ...จิตใจของซูเอเริ่มพร่ามัวตั้งแต่ยามเช้า
    ถึงกระนั้น  เธอก็รู้สึกดีมากที่ได้พบกับบิดาเป็นครั้งสุดท้าย
    ซูเอมิอาจบอกได้เลย  ว่าเหตุการณ์ตรงหน้าคือเรื่องจริงหรือฝันไป
    บิดาตนกำลังใช้มือสัมผัสแก้มอย่างอ่อนโยน  
    แต่น่าแปลก  เหตุใดฝ่ามือของท่านพ่อถึงมิได้อบอุ่นเช่นเคย  กลับเย็นยะเยียบอย่างน่าฉงน
    อย่างไรก็ตาม  นั่นไม่ใช่ปัญหา

    "ท่านพ่อต้องไปแล้วหรือ"

    ซูเออาวรณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
    ฮานซอกบงกล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย

    "ซูเอ...พ่อต้องไปแล้ว  หลังจากนี้...ซัมดาซูจะเป็นผู้ปกป้องเจ้าแทนพ่อ  เจ้าต้องอยู่รับใช้เขาไปชั่วชีวิต"

    "ได้ค่ะ...เข้าใจแล้ว"

    นี่คือคำสั่งเสียสุดท้ายของผู้เป็นบิดา
    ซูเอพยักหน้ารับคำอย่างจำยอม

    ...ทันใดนั้น

    "มอนสเตอร์อัปลักษณ์กลายเป็นพ่อของเธอตั้งแต่เมื่อไร..."

    เป็นเสียงของชายที่เธอไม่มีวันลืมลง
    เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและพึ่งพาได้...
    ซูเอรู้จักเจ้าของเสียงเป็นอย่างดี

    "กริด...!"

    นี่ตนกำลังอยู่ในฝันสินะ...ถึงได้พบทั้งท่านพ่อและกริด
    ขณะกำลังสับสน  ใบหน้าของฮานซอกบง  ผู้กำลังสัมผัสแก้มเธอ  ได้แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของปีศาจร้าย
    
    "ไอ้บัดซบ!"

    ฮานซอกบงโพล่งขึ้นอย่างเดือดดาล
    ใบหน้าของมันเริ่มละลายราวกับของเหลว 
    หลังจากนั้นไม่นาน  ปีศาจตนนี้ก็ไม่เหลือเค้าเดิมของฮานซอกบงอีก  
    กลายเป็นใบหน้าอันชั่วร้ายของชายปริศนา  ที่เธอไม่เคยพานพบมาก่อน

    "แกเป็นใคร...!  ท่านพ่ออยู่ที่ไหน!"

    เมื่อผลของยาฮวานรยองโชเริ่มคลายออก  สติของซูเอเริ่มกลับคืนมาบางส่วน
    หญิงสาวผู้กำลังสับสนพลันตื่นตระหนกสุดขีด
    เธอปวดหัวรุนแรง  ซึ่งเกิดจากผลข้างเคียงยา

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่...เธอกำลังหวาดกลัวในสิ่งที่ไม่เข้าใจ
    ขณะจิตใจว้าวุ่นท่ามกลางคุกอันมืดมิด  
    
    ซูเอก็ได้ยินเสียง...

    "วิชาดาบแพ็กม่า"

    เป็นสุ้มเสียงใสกังวาลของกริด

    "ร่ายรำ"

    ฟุ่บ!

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

    "อ๊ากกก!"

    ชายปริศนาที่พยายามล่อลวงซูเอ  มันกรีดร้องอย่างเจ็บปวด

    ตึงง!

    ลูกกรงเหล็กที่เคยจองจำซูเอไว้  บัดนี้ถูกตัดทำลายไม่เหลือชิ้นดี

    "รีบหนีกันเถอะ"

    "อะ..."

    ฝ่ามือที่ใหญ่และพึ่งพาได้กำลังแหวกความมืดมิดเข้ามาใกล้เธอ
    ซูเอจำจดฝ่ามือนี้ได้เป็นอย่างดี

    "กริด...นั่นนายใช่ไหม!"

    "อื้อ"

    กริดคว้ามือซูเอพร้อมกับให้คำตอบ
    ชายหนุ่มถอดหน้ากากที่ชุ่มด้วยเลือดและอมยิ้มอย่างอ่อนโยน

    "กลับบ้านกันเถอะ"

    เป็นเสียงที่ฟังดูติดขัดเล็กน้อย
    สิ่งที่น่าห่วงก็คือ...โลหิตบนหน้ากากซึ่งควรจะเป็นเลือดของเหยื่อ
    แต่คราวนี้มันกลับชุ่มด้วยเลือดของกริดแทน
    ใช่แล้ว...ร่างกายชายหนุ่มกำลังเปี่ยมด้วยบาดแผล  

Comments

  1. ถ้าเห็นภาพคงโคตรเท่

    ReplyDelete
  2. พระเอกมักมาได้เวลาอันเหมาะสมเสมอ ทันเวลาตลอด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00