จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 651
"ทัพหลวงคือหน่วยเกราะหนักเจนศึกจำนวนหนึ่งหมื่นงั้นหรือ"
"ถูกต้อง"
"แย่ล่ะสิ..."
สก็อตต์ก่ายหน้าผากทันทีเมื่อหน่วยข่าวกรองรายงาน
หน่วยเกราะหนักเจนศึก
ทหารหน่วยนี้ถูกพัฒนาขึ้นจากทักษะ <เสริมแกร่งทหารกล้า> ของอาเรสซึ่งใช้ใส่ทหารระดับหัวกะทิของทัพหลวง จนเกิดเป็นหน่วยกองพลปีศาจขึ้นมาอย่างในปัจจุบัน
อาเรสฝึกฝนพวกมันโดยกรอกหูทุกวันว่า 'จักรวรรดิซาฮารันคือศัตรูตัวฉกาจ'
ความแข็งแกร่งของทหารหน่วยนี้อยู่ในระดับน่าสะพรึงกลัว พวกมันชำนาญทักษะหลากหลายด้าน ครอบครองแม้กระทั่งทักษะ <ขี่ม้าขั้นสูง> ซึ่งนับว่าหาได้ยากยิ่ง
ในสงครามกับจักรวรรดิ ทหารหน่วยนี้มีสถิติรบที่โดดเด่นยิ่งกว่าใคร
'กษัตริย์เบลโต้ต้องโกรธมากแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่นำทหารไพ่ตายออกมาใช้ตั้งแต่ศึกแรก'
อาเรสเคยคิดว่า ทางราชวงศ์คงเก็บหน่วยเกราะหนักเจนศึกไว้สำหรับรับมือจักรวรรดิที่อาจลอบโจมตีได้ทุกเมื่อ
'...แต่ถ้าหากจัดการกับพวกเราได้ในพริบตา ทางราชวงศ์ก็ไม่ต้องกังวลด้านจักรวรรดิสินะ'
ปัจจุบัน จำนวนกำลังทหารในมืออาเรสมีมากกว่าที่ผู้เล่นคนใดจะจินตนาการออก
สามหมื่นนาย...มากกว่าหน่วยทหารเกราะหนักเจนศึกถึงสามเท่าตัว แต่ความจริงข้อนี้กลับไม่ได้ทำให้อาเรสสบายใจเลยสักนิด
'ทหารของเรายังเป็นทหารใหม่ที่มีเลเวลเพียง 170 เท่านั้น แต่ทหารเกราะหนักเจนศึกนั้นมีเลเวลสูงถึง 290 หลังจากจบสงครามจักรวรรดิ'
ทหารสามหมื่นคงเป็นได้เพียงเหยื่ออันโอชะ
'ทหารกลุ่มนี้ดันกลายมาเป็นหอกย้อนแทงตัวเราเอง ยิ่งเลเวลพวกมันเพิ่มขึ้น...ทางเราก็ยิ่งเสียเปรียบ'
สงครามกับจักรวรรดิได้แสดงให้เห็นประจักษ์ชัด ว่าพวกมันโดดเด่นมากเพียงใด
หนึ่งในทักษะที่อาเรสมอบให้ทหารหน่วยนี้คือ เมื่อเลเวลอัพ ทรัพยากรทุกชนิดเช่นค่าเรี่ยวแรง พลังชีวิต และมานา จะกลับมาเต็มหลอดอีกครั้ง
หมายความว่า ยิ่งฆ่ามากก็ยิ่งเก่งขึ้น พลังประเภทนี้จะเป็นปัญหาต่อศัตรูอย่างมาก ในมหาสงครามที่สองฝ่ายยกกองทัพนับหมื่นรบพุ่งกัน
ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งตายยาก...เรียกว่าเป็น 'กองทัพอมตะ' ก็ไม่ผิดนัก
'การนำหน่วยหัวกะทิเข้าสู้คงได้ผลที่ดีกว่า...เราจะทำสงครามกองโจรกับพวกมัน'
หน่วยหัวกะทิของอาเรสย่อมหมายถึง...
ผู้เล่นที่สังกัดใน 'กองทัพอาเรส'
<กองทัพอาเรส> คือชื่อกิลด์มีอาเรสเป็นหัวหน้า
สมาชิกผู้เล่นรวมทั้งหมด 200 คน หากไม่นับ 28 คนที่เป็นสายผลิต สมาชิกที่เหลือล้วนเป็นคลาสเจนสงครามที่มีเลเวลเฉลี่ย 300 ระดับ
'กลับกัน...ทางฝั่งหน่วยทหารเกราะหนักเจนศึกยังมีเลเวลไม่ถึงคลาสระดับสาม หากทางเราได้สมาชิกโอเวอร์เกียร์ 162 คนคอยช่วยถ่วงเวลาให้ บางทีอาจยื้อได้จนครบสี่วัน'
สี่วันเท่านั้น อีกสี่วันหลังจากนี้ ทักษะ <เสริมแกร่งทหารกล้า> ของอาเรสจะใช้ได้อีกครั้ง
หากเวลานั้นมาถึง ชัยชนะก็จะตกเป็นฝ่ายกองทัพอาเรสแน่นอน
ขณะสก็อตต์กำลังครุ่นคิดอย่างมั่นใจ หน่วยข่าวกรองได้เข้ามารายงานเพิ่มเติม
"หน่วยสนับสนุนจากโอเวอร์เกียร์มาถึงแล้ว...ต--แต่ว่า"
"แต่อะไร"
"อ--เอ่อ...พวกเขามากันแค่ห้าคน"
"อะไรนะ"
ใบหน้าสก็อตต์พลันกระตุก
"เจ้าพวกบ้านั่น...!"
พวกมันสร้างสถานการณ์อันเลวร้ายเพื่อบีบบังคับให้ฝ่ายตนยอมจับมือ
แต่ทางโอเวอร์เกียร์กลับส่งกำลังเสริมมาแค่ห้าคนเนี่ยนะ...
'นี่ต้องเป็นแผนทำลายพวกเราโดยใช้การจับมือบังหน้าแน่!'
สก็อตต์พลันเดือดดาล เขาไม่เคยคิดว่า กิลด์อันดับหนึ่งอย่างโอเวอร์เกียร์ ที่ว่ากันว่ารวบรวมผู้เล่นพรสวรรค์ไว้มากที่สุดของโลก จะทำตัวต่ำทรามเยี่ยงนี้
'หงุดหงิดชะมัด...ทำไมต้องจับมือกับพวกเจ้าเล่ห์ด้วยนะ'
สก็อตต์ส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องรับรองแขกพิเศษ
เมื่อถึงหน้าประตู เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อสงบจิตใจ
'เราจะทำให้เกียรติของอาเรสเสื่อมเสียไม่ได้เด็ดขาด'
อาเรสขอร้องให้ปฏิบัติต่อแขกอย่างสุภาพ ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ให้การสนับสนุนเท่าที่ควรก็ตาม
เมื่อใจเย็นลง สก็อตต์เคาะประตูห้องเล็กน้อย
ก็อกก็อก!
ทันใดนั้น...
"เข้ามาเลยค่ะ"
'อะไรนะ...'
สก็อตต์แทบไม่เชื่อหูเมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวดังจากภายในห้อง VIP
เป็นเสียงอันทรงเสน่ห์ที่ชายหลายคนไม่มีวันลืม
เสียงของจิสึกะผู้โด่งดังคนนั้น
'เทพีแห่งคันศร...!'
สิ่งที่จิสึกะแสดงให้ทั่วโลกเห็นระหว่างสงครามอีเทอนัล ทุกคนย่อมตราตรึง
เธอเป็นราวกับเทพสงครามที่กำราบผู้รุกรานหลายหมื่นจนอยู่หมัด
หากเป็นมหาสงครามขนาดใหญ่ พลังของเธอคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้
จิสึกะเป็นเพียงไม่กี่คนที่อาเรสให้การยอมรับ เฉกเช่นกริดและครอเกล
'ต่อให้มีแค่ห้าคน แต่ถ้ามีเทพีแห่งคันศรล่ะก็...'
ก็ไม่แย่ซะทีเดียว...
กิลด์โอเวอร์เกียร์ไม่ใช่พวกต่ำทรามอย่างที่คิด
สก็อตต์เปิดประตูห้อง VIP ด้วยสีหน้าโล่งใจ
"สวัสดี..."
ขณะสก็อตต์กำลังจะกล่าวทักทายทุกคนอย่างเป็นมิตร
"ยินดีที่ได้รู้จัก"
ชายไหล่กว้าง ตัวใหญ่เท่าครึ่งหน้าต่าง
เส้นผมดำขลับ จมูกโด่งเป็นสัน
แววตาคมกริบดุดัน หน้าผากกว้างผึ่งผาย
"ราชาโอเวอร์เกียร์...!"
กริด...
ชายคนเดียวที่สามารถโค่นท้องฟ้า
ชายคนแรกที่สามารถนั่งบนบัลลังก์กษัตริย์
เขาเป็นหนึ่งในกำลังเสริมจากโอเวอร์เกียร์งั้นหรือ
'ได้ยังไง...'
ด้วยฐานะช่างตีเหล็กในตำนานและกษัตริย์อาณาจักร กริดควรจะเป็นผู้มีภาระยุ่งวุ่นวายมากที่สุดของโลกในปัจจุบัน
เขาคือดาวเด่นบนท้องฟ้า เฉกเช่นอาเรส มิใช่คนที่จะพบตัวได้ง่ายนัก
แต่กริดกลับสละเวลาอันมีค่า มาเป็นกำลังเสริมในพันธมิตรชั่วคราวด้วยตนเอง...
นับว่าเหนือความคาดหมายสก็อตต์อย่างมาก
กริดอมยิ้มให้สก็อตต์ ผู้กำลังตกตะลึงเพราะไม่ได้เตรียมใจจะพบกับตัวตนที่ยิ่งใหญ่
"ฉันดีใจที่พวกนายยอมรับข้อเสนอพันธมิตร เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ ทางเราจึงเตรียมมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้เป็นที่ระลึก"
"ของขวัญ..."
สก็อตต์ขมวดคิ้วอย่างงุนงง
กริดประกาศอย่างมั่นใจ
"พวกเราจะจัดการทัพศัตรูครึ่งหนึ่งให้ราบคาบภายในสองวัน"
"...อุ--ฮะฮะ!"
สก็อตต์หลุดขำทันที...กริดช่างไร้เดียงสา
'ทางโอเวอร์เกียร์ไม่ได้เข้าใจสถานการณ์เลยรึไง'
นั่นแปลว่า กิลด์โอเวอร์เกียร์อาจไม่รู้ถึงพลังของกองทัพอาเรสมากนัก
'ขนาดพวกเรายังรับมือกับทัพหลวงไม่ไหว...แค่นี้ก็น่าจะตระหนักถึงความแข็งแกร่งของศัตรูได้แล้วไม่ใช่หรือ'
ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างกริดกลับสมองทึบเพียงนี้เชียว...
'เป็นไปไม่ได้แน่...นี่คงเป็นมุกตลก'
กริดคงไม่ได้คิดบดขยี้กองทัพศัตรูครึ่งหนึ่งด้วยเวลาเพียงสองวันแน่
เมื่อสามารถอ่านใจตัวตนอย่างกริดได้ สก็อตต์จึงแสยะยิ้มอย่างภาคภูมิ
"แค่ตรึงทัพหลวงครึ่งหนึ่งไว้ได้นานเกิน 30 ชั่วโมงก็เก่งมากแล้ว...ทางเราขอแค่นี้ ฝากด้วยนะ"
"แค่นี้เองหรือ"
"แน่นอน...คงไม่ยากเกินไปใช่ไหม"
"ตกลง แล้วจะให้รับมือกองพลใดบ้าง"
ปัจจุบัน ทัพหลวงของอาณจักรเบลโต้ถูกแบ่งออกเป็นแปดกองพล โดยบางกองพลจะรับมือได้ยากเป็นพิเศษ
สก็อตต์เลือกมาทั้งหมดสี่
"กองพลที่หนึ่ง สาม สี่ และหก...ทหารกลุ่มนี้โดดเด่นอย่างมาก แม้เลเวลจะเท่ากับทหารกองพลอื่น แต่ทักษะในการรบจะสูงกว่าเล็กน้อย พวกมันไม่ใช้กำลังปะทะเข้าโดยตรง แต่มักเอาชนะศัตรูด้วยกลยุทธ์ที่แยบยล"
ทั้งสี่กองพลที่สก็อตต์เลือก พวกมันต่างใช้เส้นทางเคลื่อนทัพที่เป็นอุปสรรค์ต่อฝ่ายอาเรส มีหลายเส้นทางที่ไม่สามารถส่งทหารเข้าไปป้องกันได้สะดวกนัก
แต่กริดย่อมไม่รู้สถานการณ์
"ตกลง พวกฉันจะจัดการเอง"
กริดพยักเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้อง VIP
จิสึกะ เรกัส ป็อน และยูเฟอมิน่าที่นั่งฟังอย่างเงียบงันมาตลอด บัดนี้ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงและเดินตามกริดไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด
สก็อตต์พลันต้องประหลาดใจอีกครั้ง
'ป็อนกับเรกัส...!'
สก็อตต์ทึ่งในการปรากฏตัวของกริดจนไม่มีเวลาสำรวจสมาชิกคนอื่น
เขาเพิ่งจะเห็นป็อนกับเรกัสเมื่อครู่นี้เอง
'ราชาโอเวอร์เกียร์ เทพีแห่งคันศร องค์ชายอัศวินม้าขาว แล้วยังมีอาชูร่า...ถ้ามียูร่าและแค็ทซ์อยู่ที่นี่ด้วย จะถือเป็นการรวมตัวของผู้เล่นระดับท็อปแห่งกิดล์โอเวอร์เกียร์อย่างแท้จริง'
บางที กริดอาจไม่ได้มุก เขามั่นใจว่าตนสามารถบดขยี้ทัพหลวงครึ่งหนึ่งได้ภายในสองวัน
ด้วยกริด จิสึกะ ป็อน และเรกัส ทั้งสี่คือผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ซึ่งสามารถพลิกกระแสสงครามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะกริดผู้เคยเผชิญหน้าหนึ่งต่อแสน
ในสายตากริด ทหารทัพหลวงเพียงหนึ่งหมื่นย่อมไม่สะทกสะท้าน
'อีกไม่นาน พวกนายจะต้องนึกเสียใจที่ประมาททัพหลวงเกินไป'
หน่วยทหารเกราะหนักเจนศึกไม่เหมือนกับทหารเลวที่มีอยู่ดาษดื่น เลเวลแต่ละคนคือ 270 ทุกคนล้วนมีสติปัญญาในระดับสูง
อีกความหมายหนึ่งก็คือ พวกมันแข็งแกร่งเทียบเท่าแร้งเกอร์
เทพีแห่งคันศรผู้สามารถอัญเชิญเทพฟินิกซ์แดงแล้วอย่างไร ทักษะโจมตีเป็นวงกว้าง ต่อให้รุนแรงเพียงใดก็มิอาจจัดการกับทหารเกราะหนักในคราวเดียวได้แน่
ส่วนกริดกับคนที่เหลือ พวกเขายังเทียบชั้นจิสึกะไม่ได้ในสงครามใหญ่ มีโอกาสสูงมากที่ทั้งหมดจะพ่ายแพ้และเสียท่าถอยกลับมา
'แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว...'
สิ่งที่สก็อตต์ต้องการคือยื้อเวลาไว้จนกว่าทักษะ <เสริมแกร่งทหารกล้า> ของอาเรสจะพร้อมใช้งานรอบถัดไป
'สี่วันหลังจากนี้ ทันทีที่อาเรสสร้างทหารชุดใหม่เสร็จ ฝ่ายเราจะโต้กลับทัพหลวงจนพ่ายแพ้ราบคาบ จากนั้นจะหยุดพักเล็กน้อย แล้วค่อยทำศึกยึดครองบัลลังก์ต่อทันที'
ขณะที่ฝ่ายราชวงศ์เบลโต้กำลังฟื้นฟูความเสียหาย กองทัพอาเรสย่อมฟื้นตัวได้เร็วกว่าหลายเท่า
อาณาจักรเบลโต้ก็จะตกอยู่ในกำมือของอาเรสในไม่ช้า สก็อตต์มั่นใจมาก
ดวงตาของเขาพลันเปล่งประกายเมื่อจินตนาการถึงอนาคตอันสดใส
แต่กริดกลับหันไปเห็นและเข้าใจผิด
'มือขวาของอาเรสคงมั่นใจในพลังพวกเรามาก...ดูดวงตานั่นสิ เป็นแววตาที่เปี่ยมด้วยความหวังและความเชื่อใจอย่างมาก'
ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างมีความสุข
***
"กริด...จิสึกะ...ป็อน...เรกัส...!"
ดวงตาของลัคพลันลุกวาวเมื่อได้เห็นรายชื่อกำลังเสริมจากโอเวอร์เกียร์
"สมาชิกระดับขุนพลรุ่นก่อตั้งทั้งนั้น...ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม"
สาเหตุในการจับมือเป็นพันธมิตรคราวนี้ ไม่ค่อยเป็นที่น่าจดจำของฝ่ายอาเรสนัก
ลัครู้สึกประหนึ่งพวกตนกำลังเต้นรำบนฝ่ามือลอเอล แผนของลอเอลทำให้ฝ่ายอาเรสไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจับมือ
เป็นใครก็คงไม่สบอารมณ์
ลัคมองว่า ความสัมพันธ์เช่นนี้ไม่มีทางยืนยาวแน่ ทันทีที่กองทัพอาเรสยึดอาณาจักรสำเร็จ พวกเขาจะรีบตัดความสัมพันธ์อันเน่าเฟะนี้ทิ้งทันที
ทว่า กำลังเสริมจากโอเวอร์เกียร์กลับน่าตกตะลึง ทำเอาลัคถึงกับอ้าปากค้าง
แม้จะหงุดหงิดที่ถูกบีบบังคับให้เป็นพันธมิตร แต่ลัคก็ต้อมยอมรับว่า กิลด์โอเวอร์เกียร์ให้ความสำคัญกับการยึดอาณาจักรของกองทัพอาเรสมากทีเดียว
"พวกเขาไม่กล้าหักหลังเราแน่ ตราบใดที่ยังมีจักรวรรดิคอยจ้องเขมือบอยู่เช่นนี้"
เป็นถ้อยคำจากสก็อตต์ และลัคก็เห็นพ้อง
"...แต่ปัญหาก็คือ จักรวรรดิซาฮารันแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา บางทีพันธมิตรหนนี้อาจยาวนานกว่าที่พวกเราคิดไว้"
ลัคตระหนักถึงความน่าสะพรึงกลัวของทัพจักรวรรดิได้ดีในระหว่างสงคราม
อัศวินสีชาดระดับสูงแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้มาก และพลังอำนาจของอัศวินลำดับหนึ่งก็อยู่ในระดับน่าทึ่งเกินไป
'แค่อัศวินลำดับห้า...พวกเราก็รับมือแทบไม่ไหวแล้ว'
อัศวินสีชาดลำดับสี่ มันเป็นราวกับกำแพงสูงตระหง่านที่ไม่มีวันข้ามผ่าน
ส่วนอัศวินลำดับสามคือปีศาจขนานแท้ มันสามารถเอาชนะครอเกลในสภาพสมบูรณ์พร้อมได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
"ช่างเถอะ...สิ่งที่น่าสนใจตอนนี้คือพลังของโอเวอร์เกียร์ต่างหาก"
จะตรึงหน่วยเกราะหนักเจนศึกได้นานแค่ไหนกันนะ...
ลัคคาดไว้ว่าสามวัน
นี่เป็นการคาดเดาในเงื่อนไขที่ว่า ทั้งห้าขุนพลของโอเวอร์เกียร์เผชิญหน้าหน่วยเกราะหนักเจนศึกเพียงหนึ่งกองพล
'หากรบแบบกองโจรและคอยยื้อเวลาไว้ สามวันคงพอเป็นไปได้...'
ลัคและสก็อตต์อยากเห็นกลศึกที่ฝ่ายโอเวอร์เกียร์ใช้รับมือ
ทันใดนั้น พลันมีบางข้อความเด้งขึ้นจากช่องสนทนากิลด์
@ ห--หน่วยเกราะหนักเจนศึกกองพลที่สามถูกทำลายแล้ว...!!!
"อะไรนะ..."
ผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งวัน นับตั้งแต่สมาชิกโอเวอร์เกียร์เริ่มออกไปรับมือ
ลัคและสก็อตต์ไม่เข้าใจความหมายของหน่วยข่าวกรอง พวกเขาถามย้ำพร้อมกัน
@ เทพฟินิกซ์แดงของจิสึกะใช้ได้พลกับหน่วยเกราะหนักเจนศึกงั้นหรือ...
@ รึว่ากริดอัญเชิญเทพฟินิกซ์แดงออกมาสองตน...
คงไม่ใช่แค่นั้นแน่ หากฟังจากสถานการณ์แล้ว ทั้งกริด จิสึกะ เรกัส และป็อนต้องกระหน่ำทุกท่าไม้ตายใส่กองพลที่สามอย่างพร้อมเพรียง
'แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...'
สามารถทำลายหนึ่งกองพลของหน่วยเกราะหนักเจนศึกภายในครึ่งวันเองหรือ...
สก็อตต์และลัคต่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
ทันใดนั้น รายละเอียดที่น่าตกตะลึงของสงครามได้ถูกเปิดเผยเพิ่มเติม
@ ม--ไม่ครับ...กริดคนเดียว ทำการอัญเชิญเทพฟินิกซ์แดงถึงสี่ตน...!
@ ม--ไม่ผิดแน่ เป็นเทพฟินิกซ์แดง...
@ สี่ตน...
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุกมากครับ ลุ้นต่อไป
ReplyDeleteรอคัพรอ
ReplyDelete5 vs 10000
ReplyDeleteเปิดตัวอย่างเท่เลยครับ
นักอัญเชิญในตำนาน
ReplyDelete