จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 653



    ณ สะพานพูเร็ต

    สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นทอดผ่านแม่น้ำที่มีขนาดกว้างยิ่งกว่าทะเลสาป  
    อยู่ในเขตอาณาจักรเบลโต้  ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของอาณาจักร 
    มันถูกเรียกว่า 'สะพานอมตะ' เพราะไม่เคยผุพังเลยสักครั้ง

    กรุบกรุบกรุบกรุบ!

    ม้าศึกจำนวน 300 ตัวกำลังเคลื่อนขบวนผ่านสะพานด้วยความเร็วสูง  
    เป็นจำนวนที่มากเสียจนต้องเพ่งมองจากระยะใกล้  จึงจะรู้ว่านี่คือทัพม้า
    แน่นอนว่า  พวกมันทั้งหมดคือหน่วยเกราะหนักเจนศึก  กองพลที่สี่

    "เร่งความเร็วขึ้นอีก"

    กองพลที่สี่ของหน่วยเกราะหนักเจนศึก  เคลื่อนไหวได้รวดเร็วและคาดไม่ถึงเสมอ  ถูกฝึกฝนอย่างหนักในภารกิจแทรกซึมและกองโจร
    นี่คือจุดเด่นของกองพลที่มีจำนวนทหารน้อย  

    "รีบยึดหอสังเกตการณ์ที่ปลายสะพาน"

    หากแผนลอบโจมตีถูกหอสังเกตการณ์พบเข้า  สิ่งนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
    โบการ์ด  แม่ทัพแห่งกองพลที่สี่  มันออกคำสั่งกับทหารอย่างเงียบเชียบ
    เหล่าทหารต่างเร่งความเร็วควบม้าพร้อมเพรียง  ทุกคนตอบสนองความคาดหมายของโบการ์ดด้วยทักษะระดับสูง  เพียงพริบตาเดียวก็ข้ามสะพานยาวพูเร็ตไปถึงอีกฝั่ง  
    เมื่อระยะห่างกับหอสังเกตการณ์เหลือเพียงสามเมตร  ทหารกองพลที่สี่ต่างพากันกระโดดจากบังเหียนโดยไม่สูญเสียการทรงตัวแม้แต่น้อย  ราวกับถูกฝึกมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ
    
    ครืดดด!

    ทุกคนกระโดดปาโซ่ขึ้นไปเกี่ยวเสาหอสังเกตการณ์  จากนั้นก็เริ่มปีนป่ายขึ้นด้านบนอย่างชำนาญ

    "ศัตรู--- อั่ก!"

    ทหารด้านบนหอสังเกตุการณ์  ทุกคนตรวจพบศัตรูเมื่อสายไปแล้ว  
    ในวินาทีที่เห็นศัตรู  นั่นหมายถึงความตายของพวกเขา
    กองพลที่สี่ของหน่วยเกราะหนักเจนศึก  จะถูกฝึกเพื่อปฏิบัติการแทรกซึมโดยเฉพาะ
    รวดเร็วและเงียบงัน

    "มีศัตรู!"
    
    เวลาผ่านไปจนกระทั่งทหารยามตายไปกว่าครึ่ง  หน่วยรักษาความปลอดภัยบนหอสังเกตการณ์จึงเริ่มเอะใจ  
    แต่ทุกสิ่ง็สายไปแล้ว  กองพลที่สี่จำนวนหลายร้อยกำลังปืนไต่หอและไล่ฆ่าทหารยามด้านบนอย่างบ้าคลั่ง

    "เผา!  พวกเราต้องส่งสัญญาณว่ามีศัตรู!"
    
    รอบสะพานพูเร็ตเป็นยุทธศาสตร์โล่งแจ้ง  ทำให้พบเห็นจากระยะไกลได้ง่าย  และคนบนหอสังเกตุการณ์ย่อมมองเห็นด้านนอกได้กว้างไกล  ส่งผลให้สะพานแห่งนี้ไม่เคยถูกศัตรูบุกโจมตีมาก่อน  
    ไม่มีใครคาดคิดว่าหน่วยเกราะหนักเจนศึกจะเลือกเส้นทางนี้ในการเคลื่อนทัพ  
    ทหารทุกคนที่ประจำการล้วนประมาทเลินเล่อ
    หัวหน้าทหารยามสะพานพูเร็ตพยายามจุดไฟเพื่อส่งสัญญาณ  แต่แน่นอนว่า  กองพลที่สี่ต้องไม่ยอมให้มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น
    เพียงไม่นาน  พวกมันก็ดับไฟทั้งหมดจนมอด  ไม่หลงเหลือสัญญาณใดส่งออกไปให้ทัพอาเรสรับรู้  
    ขณะหัวหน้าทหารยามกำลังหัวเสีย  เขาก็เห็นโบการ์ดกำลังย่างกรายเข้ามาใกล้

    "แกใช้แผนของดยุคอาเรส!  ไม่รู้สึกละอายใจรึไง!  หากไม่มีดยุคอาเรส...พวกแกคงไม่มีทางแข็งแกร่งได้อย่างทุกวันนี้!  แกกล้าดียังไงถึงทำให้ดินแดนดยุคอาเรสต้องนองเลือด!"

    "พวกเราฝึกหนักกับดยุคอาเรสเพราะต้องการรับใช้อาณาจักร  ดยุคอาเรสเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมก็จริง  แต่เขาคือกบฏที่คิดล้มล้างราชวงศ์"

[ ภารกิจล้มเหลว! ]
[ ท่านล้มเหลวในการโน้มน้าว <โบการ์ด> แม่แทัพกองพลที่สี่แห่งหน่วยเกราะหนักเจนศึก ]

[ ภารกิจเปลี่ยนเนื้อหา ]
[ จงเอาชีวิตรอดจากสะพานพูเร็ตให้ได้!  ต้องรายงานให้ดยุคอาเรสรับทราบถึงการลอบจู่โจมจากศัตรู! ]

    'บัดซบ!'

    หัวหน้าทหารยามของสะพานพูเร็ตคือผู้เล่นที่ชื่อ <บาฟรังซ์> 
    เขาคือสมาชิกคนหนึ่งของกองทัพอาเรส
    อันที่จริง  บาฟรังซ์หงุดหงิดใจมากเมื่อถูกสั่งประจำการณ์ที่สะพานพูเร็ต  สะพานแห่งนี้ไม่เคยถูกศัตรูบุกรุกมากก่อน  ส่งผลให้มันมิอาจโดดเด่นในสงครามได้เหมือนคนอื่น  สิ่งนี้ไม่ดีต่อความก้าวหน้าและชื่อเสียงเลยสักนิด  
    แต่ปัจจุบัน  หน้าที่ของบาฟรังซ์กลับกลายเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญสมใจนึก

    'ถ้าศัตรูบุกฝ่าไปได้...ทุกอย่างจบสิ้นแน่'

    สะพานพูเร็ตคือทางลัดที่สั้นที่สุดในการเคลื่อนทัพไปยังปราสาทอาเรส
    จะเกิดอะไรขึนหากศัตรูบุกผ่านไปได้...
    กองทัพอาเรสจะถูกลอบโจมตีทีเผลอจนอาจได้รับความเสียหายหนัก

    'อันตรายเกินไป...เราต้องรีบส่งข่าวให้อาเรส'

    หากบาฟรังซ์ใช้ช่องสนทนากิลด์  เขาคงสามารถบอกข่าวแก่กองทัพอาเรสได้ทันที  
    แต่ปัญหาปัจจุบันคือช่องสนทนากิลด์นี้เอง...
    นับตั้งแต่วินาทีที่ภารกิจเริ่มขึ้น  บาฟรังซ์ถูกห้ามใช้ระบบสื่อสารพิเศษระยะไกลทั้งหมด  ส่งผลให้มันต้องหาทางแจ้งข่าวชนิดปากต่อปาก  โดยการหนีไปให้ถึงปราสาทอาเรส

    "ย่าห์!"

    บาฟรังซ์ฉวยโอกาสกระโดดลงจากหอสังเกตการณ์
    ชายร่างใหญ่สวมเกราะหนักทั้งตัวคิดกระโดดลงจากหอสูงหกเมตรเนี่ยนะ...
    หากกระแทกพื้นอย่างจัง  บาฟรังซ์จะถูกระบบบังคับให้บาดเจ็บด้วยอาการตกจากที่สูง  แต่บาฟรังซ์เป็นผู้เล่นคลาสระดับสามที่ชำนาญสงคราม  ฝีมือควบคุมตัวละครย่อมไม่อ่อนแอ
    เมื่อร่างบาฟรังซ์เหลือห่างจากพื้นเพียงสองฟุต  เขาตัดสินใจใช้ท่าพุ่งตัวพร้อมกับพลิกร่างกายกลางอากาศอย่างชำนาญ  

    แต่น่าเสียหายที่หนีไม่พ้น  
    โบการ์ดมองออกว่าบาฟรังซ์จะใช้ลูกไม้ใด  
    มันขว้างหอกดักไว้อย่างแม่นยำ

    ฉึก!

    "อั่ก!"

    โบการ์ดนับเป็นจ้าวแห่งหอกในหน่วยเกราะหนักเจนศึก
    ทุกหอกที่โบการ์ดซัดล้วนแม่นยำเหนือมนุษย์  คมหอกเสียบทะลุหัวใจบาฟรังซ์อย่างน่าเหลือเชื่อ  
    บาฟรังซ์ได้รับบาดเจ็บรุนแรง  พลังชีวิตสูญหายไปหนึ่งส่วนสาม
    ยังไม่จบเท่านี้

    เปรี้ยะ!

    ไฟฟ้าสถิตย์ลั่นเปรี้ยะจากหอกที่กำลังเสียบหัวใจ  
    บาฟรังซ์ได้รับความเสียหายธาตุสายฟ้าเพิ่มเติมจนตกอยู่ในอาการมึนงง

    'ไอ้ระยำนั่น!'

    บาฟรังซ์ขยับตัวไม่ได้  จะดื่มโพชั่นก็ไม่ได้
    เขาทำได้เพียงนอนเหลือกตามองทหารกองพลที่สี่ซึ่งกำลังเดินมาล้อมไว้ทุกทิศทาง

    'จบสิ้นแล้ว...'

    เมื่อคิดว่าคงไม่รอดแน่  บาฟรังซ์หลับตาลงด้วยสีหน้าเจ็บแค้น
    หากเขาตายที่นี่  กองทัพอาเรสจะถูกลอบโจมตีอย่างหนัก  และอาจถึงขั้นที่ตนถูกไล่ออกจากกิลด์ 
    อนาคตอันสดใสที่เคยฝันไว้ในกองทัพอาเรส  บัดนี้กำลังเลือนหายไปทีละนิด

    "บัดซบ!  ถ้าเราไม่ประมาทล่ะก็...!"

    มันคงพบศัตรูได้เร็วกว่านี้  และสามารถส่งสัญญาณไฟบอกอาเรสได้ทัน
    บาฟรังซ์ดุด่าตนเองที่ประมาทเลินเล่อ  มันกำลังสำนึกผิดจากใจ
    
    รอบกายบาฟรังซ์เต็มไปด้วยเสียงฝีเท้าของทหารเกราะหนักเจนศึกกองพลที่สี่  
    บาฟรังซ์เตรียมใจตายไว้แล้ว  
    อนาคตอันสดใสงั้นหรือ...คงต้องบอกลาแต่เพียงเท่านี้
    บาฟรังซ์เจ็บใจในความโง่เขลาของตน

    แต่ทันใดนั้น...

    ครืนนน!
    
    สายฟ้าอันทรงพลังได้ฟาดผ่าลงมาจากท้องฟ้าที๋ไร้เมฆ
    ความรุนแรงของสายฟ้าอยู่คนละมิติกับหอกซัดของโบการ์ดเมื่อครู่
    
    เปรี้ยงงงง!

    ฟ้าผ่าลงในจุดที่ไม่ห่างจากวงล้อมกองพลที่สี่มากนัก  
    เสียงฟ้าคำรามดังสนั่นจนทุกคนแทบหูอื้อ

    "...!"

    กองพลที่สี่ซึ่งกำลังล้อมบาฟรังซ์  บัดนี้รีบหันหอกไปยังจุดที่สายฟ้าฟาดลงมา
    พวกมันกำลังสัมผัสได้ถึงอันตรายสุดขีด  
    สัญชาตญาณร่ำร้องให้รีบตั้งกระบวนรบอย่างรวดเร็ว

    อึก...!

    เกิดเป็นความเงียบงันชั่วขณะ
    กองพลที่สี่ต่างพากันกลืนน้ำลายอย่างเสียวสันหลัง  

    พวกมันแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น...
    สายฟ้าที่ผ่าลงมาเมื่อครู่  บัดนี้กลับยังไม่สลายไป  
    ตรงกันข้าม  สายฟ้าปริศนากำลังเคลื่อนไหว!
    ใช่แล้ว  สายฟ้าที่ควรจะสลายลงดินกลับเริ่มเคลื่อนไหววูบวาบ
    
    เปรี้ยะ!

    เปรี้ยะ เปรี้ยะ!
    
    'เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น...!'

    นอกจากจะไม่หายไป  กลับยังเคลื่อนไหวต่อได้อีก...
    มีสายฟ้าประเภทนี้อยู่บนโลกด้วยรึไง!
    กองพลที่สี่แห่งหน่วยเกราะหนักเจนศึกต่างพากันขมวดคิ้วอย่างฉงน
    
    น่าเสียดายที่พวกมันคงไม่รู้จัก...

    อาชูร่า
    
    จากบรรดาคลาสนักสู้หลายแสนคนบนโลก  
    มีอัจฉริยะเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถรีดเร้นประสิทธิภาพของคลาสทั่วไปชนิดนี้ออกมาได้ถึงขีดสุด

    "เรกัส!"

    บาฟรังซ์ตะเบ็งเสียงเอ่ยนามด้วยดวงตาที่เบิกโพลง

    "มังกรอัสนีผงาด!"

    เปรี้ยะเปรี้ยะ! 

    ฟุ่บ! 

    เรกัสเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดจนหายไปจากการมองเห็นของทุกคน

    เปรี้ยง!

    ถูกเสยขึ้นด้านบน...

    เปรี้ยะ เปรี้ยะ!
    ผัวะ!

    ลอยละลิ่วในอากาศ...

    เปรี้ยง!

    ทุกครั้งที่เรกัสปรากฏตัว  สองถึงสามชีวิตพลันดับมอดลงในพริบตา
    เป็นการหายตัวและลอบโจมตีที่ไม่มีใครมองทันด้วยตาเปล่า  
    กองพลที่สี่ตกเป็นเหยื่อการล่าฝ่ายเดียวจากเรกัส

    'มองไม่เห็น...'

    '...ตอบโต้ไม่ทัน!'

    เปรี้ยะ เปรี้ยะ!

    กำปั้นเรกัสปะทะชุดเกราะของกองพลที่สี่ครั้งแล้วครั้งเล่า
    การโจมตีใดที่ไมถึงแก่ความตาย  การโจมตีนั้นจะฝังประจุสายฟ้าลงในร่างและก่อให้เกิดอาการมึนงง
    
    ท่ามกลางความวุ่นวายของหน่วยเกราะหนักเจนศึก  
    ป็อนปรากฏตัวอีกฟากฝั่งสนามรบ...

    "ที่จริงก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ"

    กองทัพอาเรสอาจกลายเป็นศัตรูในอนาคต  ป็อนจึงต้องการปล่อยให้บาฟรังซ์ตายไปเสียก่อน
    แต่เรกัสกลับมิอาจทนดูผู้เล่นถูก NPC รุมสังหารได้  จิตวิญญาณเทควอนโดไม่ยอมให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น
    ในเมื่อตอนนี้ทั้งสองฝ่ายเป็นพันธมิตรกัน  เรกัสมองว่าตนควรยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
    
    "ไหนๆ เรื่องก็เป็นแบบนี้แล้ว  ช่วยไม่ได้แฮะ...ถือว่านายโชคดีก็แล้วกัน"

    ป็อนแสยะยิ้มพร้อมกับง้างหอกไปด้านหลัง

    ฟ้าวว...

    เปรี้ยงงงงงง!

    ทหารกองพลที่สี่ซึ่งถูกเรกัสทำให้มึนงง  บัดนี้ถูกคลื่นหอกแหลมของป็อนเสียบทะลวงร่างคนแล้วแล้วคนเล่าเป็นเส้นตรง  กระเด็นซ้อนทับกันประหนึ่งไม้เสียบลูกชิ้นปิ้ง      
    หอกเล่มใหม่เอี่ยมของป็อนถูกสร้างจากวัสดุบีเลียลและรางวัลการแข่งนานาชาติ
    ส่งผลให้ทักษะหอกคลื่นเสียงมีทำลายรุนแรงโหดเหี้ยม...
    ชนิดที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน
    
    ฉากตรงหน้าทำให้บาฟรังซ์ถึงกับอ้าปากค้าง  

    'ป็อนกับเรกัสแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว...'

    แม้บาฟรังซ์จะตระหนักดีกว่า  กิลด์โอเวอร์เกียร์ได้รวบรวมอัจฉริยะของโลกเอาไว้มากมาย  โดยเฉพาะเหล่าสมาชิกระดับขุนพล  
    แต่หากนำไปเทียบกับตัวตนพิเศษอย่างยูร่า  กริด  จิสึกะ  และแค็ทซ์  คนที่เหลือออกจะดูจืดชืดไปสักหน่อย

    'ความเร็วของเรกัสและพลังทำลายของป็อนเมื่อครู่...ขนาดแข็งแกร่งถึงเพียงนี้แล้ว  แต่ในโอเวอร์เกียร์กลับยังมีปีศาจที่เก่งกาจกว่า...'

    ผู้เล่นระดับโลกนี่ช่าง...

    วาบ

    บาฟรังซ์พลันเย็นสันหลังวาบ
    เมื่อจัดการกองพลที่สี่จนราบคาบ  ป็อนและเรกัสได้เดินเข้ามาหาบาฟรังซ์พร้อมกับยิ้มให้

    "ลุกไหวรึเปล่า"

    "..."

    เหตุใดเรกัสถึงฉีกยิ้มอย่างมีความสุขนักล่ะ...
    บาฟรังซ์กระอักกระอ่วน  เขาทำตัวไม่ถูก

    'ฉันอาจกลายเป็นศัตรูของนายได้สักวัน...แต่นายกลับช่วยฉันไว้เฉกเช่นมิตรสหาย'

    บาฟรังซ์มั่นใจว่า  ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เรกัสปรากฏตัวในเวลานั้น
    เรกัสมาเพื่อช่วยตนแน่นอน

    'กิลด์โอเวอร์เกียร์ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันนะ...'

    แล้วกลับกัน...ลองย้อนมองดูตนบ้าง
    บาฟรังซ์ละอายใจจนไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นลูกน้องของอาเรส  
    เขาหงุดหงิดใจเมื่อรู้ว่าถูกส่งประจำการในจุดยุทธศาสตร์ที่น่าเบื่อ 
    และที่แย่ไปกว่านั้น  ตนกลับไม่ยอมทำหน้าที่ให้ดีที่สุด  มัวแต่ประมาทเลินเล่อจนเสียท่าศัตรู
    
    บาฟรังซ์ไม่เคยคิดถึงผู้อื่น
    เขาเพียงต้องการสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง  เพื่อจะได้มีอนาคตที่สดใส

    "ฉันละอายใจเหลือเกิน..."
    
    นับแต่นี้ไป  บาฟรังซ์จะยึดถือการกระทำของกิลด์โอเวอร์เกียร์เป็นแบบอย่าง
    เขายื่นแขนออกไปจับมือเรกัสพร้อมกับพยุงร่างขึ้น
    สายตาบาฟรังซ์เปี่ยมด้วยความชื่นชมและชื่นชอบเรกัส

    "กริดเป็นชายที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน...คนเก่งอย่างพวกนายถึงยอมติดตามรับใช้  ฉันจินตนาการไม่ออกจริงๆ"

    "..."

    เรกัสขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงุนงง
    ส่วนป็อนกำลังกลั้นขำจนท้องแข็ง

    ***

    @  กองพลที่สี่ถูกป็อนกับเรกัสถล่มจนราบคาบ

    "..."

    กองทัพอาเรสได้รับรายงานจากบาฟรังซ์
    กองพลที่สี่แม้จะมีจำนวนน้อย  แต่ล้วนเป็นทหารหัวกะทิในหมู่หัวกะทิ  แผนกองโจรของพวกมันรับมือได้ยากมาก  เคลื่อนที่ได้รวดเร็วไร้ร่องรอย
    แต่ผู้ที่เอาชนะได้กลับไม่ใช่กริดหรือจิสึกะ  หากแต่เป็นเรกัสกับป็อนงั้นหรือ

    "ถ้าบาฟรังซ์สั่งการทหารที่สะพานพูเร็ตได้ดี  เรื่องนี้ก็พอเป็นไปได้อยู่"

    ใครบางคนวิเคราะห์...ที่เหลือต่างพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเห็นด้วย
    แต่สก็อตต์และลัคกลับคิดต่าง

    "ไม่เลย...พลังของกิลด์โอเวอร์เกียร์มีมากกว่าที่พวกเราคาดไว้"

    "ดูเหมือนไอเท็มที่สร้างจากวัสดุบีเลียลจะมีสิทธิภาพสูงกว่าที่คิด  พวกเขาทุกคนแข็งแกร่งกว่าเมื่อครั้งล่าบีเลียลมาก"

    "แข็งแกร่งกว่าเมื่อครั้งล่าบีเลียล...แล้วจิสึกะจะกลายเป็นปีศาจระดับไหนกัน"

    "กริดคือตัวอย่างที่ชัดเจน  กริดในตอนนี้สูสีกับอาเรสที่นำพากองทัพสองหมื่น...ไม่สิ  น่าจะสามหมื่น"

    "ผู้เล่นคนเดียวสูสีกับอาเรสที่มาพร้อมทหารสามหมื่น..."

    "..."

    "แต่ปัญหาที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้  กริดคงมั่นใจในตัวจิสึกะมาก  เธอน่าจะถูกมอบหมายให้รับมือกับกองพลที่หนึ่ง"

    "จิสึกะคือสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนแรกที่จะพ่ายแพ้"

    แตกต่างจากกองพลอื่น  
    การได้เป็นกองพลลำดับที่หนึ่ง  ย่อมหมายความว่าพวกมันแข็งแกร่งที่สุด      
    กองพลที่หนึ่งประกอบไปด้วยทหารหลายรูปแบบ  มีพลังป้องกันครบถ้วนในทุกธาตุ  ต้านทานการโจมตีแทบทุกชนิด  สามารถรับมือกับศัตรูได้ทุกรูปแบบ
    เทพฟินิกซ์แดงเพียงหนึ่งตนของจิสึกะ  ไม่มีทางทะลวงผ่านพลังป้องกันและสังหารทุกคนในพริบตาได้แน่

    "แต่ก็ไม่สูญเปล่าเสียทีเดียว...จิสึกะคงบั่นทอนค่าเรี่ยวแรงศัตรูได้มากพอสมควร"

    "ฉันก็คิดแบบนั้น  จิสึกะคงทำให้กองพลที่หนึ่งเสียศูนย์ไปพักใหญ่  หลังจากนั้นเมื่อพวกเราพร้อม  พวกมันก็จะถูกจัดการในพริบตา"

    ค่าประสบการณ์ของกองพลที่หนึ่งจะต้องตกเป็นของทัพอาเรสแน่  พวกเขามั่นใจมาก
    แต่ทันใดนั้น  ข้อความในช่องสนทนากิลด์ก็ถูกรายงานเข้ามาเพิ่มเติม

    @  กองพลที่หนึ่งปะทะกับสมาชิกโอเวอร์เกียร์แล้ว  แต่ว่า...

    @  แต่อะไร

    @  เป็นหญิงสาวที่ชื่อยูเฟอมิน่า  ไม่ใช่จิสึกะ

    @  ยูเฟอมิน่า...

    @  เธอเป็นใครกัน

    "..."

    ทำไมเหตุการณ์ถึงกลับตาลปัดไปหมด...


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. 5555 สนุกมาก 🙏ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  2. ยูเฟอมิน่าจังมาแล้ว

    ReplyDelete
  3. ผมนึกได้ว่าจิสึกะโกงมากเลยเป็นทั้งแครี่และซับในคนเดียวคงจะโกงแบสุดๆเลยอะ

    ReplyDelete
  4. ทีม โลลิ เว้ยยยยย

    ReplyDelete
  5. อย่ามาดูถูกโอเวอร์เกียร์ โดยเฉพาะ "ยูเฟอมิน่า" ขนาดกริดยังไม่กล้า

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00