จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 636


    "สภาขุนนางกำลังหัวเสีย...เราคงเลื่อนวันประหารเจ้าได้เท่านี้"

    ณ คุกลาวา
    กษัตริย์แห่งโชกลับมาเยี่ยมเยียนฮานซอกบงด้วยสีหน้าหม่นหมอง
    ฮานซอกบงกำลังก้มกราบอย่างสำนึกผิดภายในห้องขัง

    "กระหม่อมคือคนบาปที่สมควรตาย!  ท่านพี่...อย่าได้คิดลังเลอีกต่อไป  เชิญสั่งประหารได้ทุกเมื่อ!"

    "..."

    กษัตริย์โชจ้องมองฮานซอกบงด้วยสีหน้าทุกข์ระทม
    ฮานซอกบงเป็นใครกัน...ในยามที่ยังเป็นเพียงองค์ชาย  เขาคือสหายเพียงของเดียวของกษัตริย์โช      
    ฮานซอกบงรักและเทินทูนกษัตริย์แห่งโชเกินกว่าความสัมพันธ์ฉันนายบ่าว
    
    "เราขอย้ำอีกครั้ง...ยังบันจากอาณาจักรฮวาน  พวกเขาต้องการรู้ที่อยู่ของผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดงให้ได้  หากเจ้าไม่มอบคำตอบที่พวกเขาต้องการ  อาณาจักรโชจะตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก  เรื่องนี้...เจ้าไม่รู้จริงหรือ"

    "...จริงขอรับฝ่าบาท"

    "ให้ตายสิ..."

    กษัตริย์แห่งโชเชื่อในคำพูดของฮานซอกบง
    แต่ปัญหาคือสภาขุนนาง  พวกมันรีบกล่าวโทษฮานซอกบงให้เป็นผู้ทรยศอาณาจักร  
    สภาขุนนางมีแผนจะทำให้ยังบันใจเย็นลงด้วยการประหารฮานซอกบง

    'มีขุนนางจำนวนมากที่ไม่ชอบหน้าฮานซอกบงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  พวกมันรีบฉวยโอกาสนี้เร่งรัดวันประหาร'

    ความตงฉินของฮานซอกบงย่อมขัดหูขัดตาขุนนางกังฉิน
    โอกาสทองเช่นนี้...พวกมันไม่มีทางปล่อยผ่านไปแน่
    ส่งผลให้...แม้แต่กษัตริย์แห่งโชก็ไม่มีอำนาจยื้อชีวิตฮานซอกบงไว้ได้

    "อาจเป็นคำขอร้องที่มากไปสักหน่อย...แต่รบกวนฝ่าบาทช่วยปกป้องบุตรสาวกระหม่อมด้วย"

    "เข้าใจแล้ว...เราจะช่วยซูเอเท่าที่กำลังของเราจะทำได้"

    แม้อาจถูกริบบรรดาศักดิ์ทั้งหมด  แต่อย่างน้อยก็คงรักษาชีวิตไว้ได้
    กษัตริย์แห่งโชกล่าวคำอำลาที่แสนข่มขื่นกับฮานซอกบง

    "เราจะไม่อยู่ดูวาระสุดท้ายของเจ้า  เราไม่ต้องการเห็นเจ้าจบชีวิตลงด้วยตาคู่นี้"

    "ขอฝ่าบาททรงพระเจริญ...กระหม่อมเชื่อว่า  ฝ่าบาทจะนำพาอาณาจักรไปสู่ทิศทางที่รุ่งโรจน์ได้"

    "..."

    คำวิงวอนครั้งสุดท้ายของฮานซอกบง...มิใช่เพื่อตนเอง  แต่เพื่ออาณาจักร
    กษัตริย์แห่งโชมิอาจกล่าวสิ่งใดได้อีก  เขารีบเดินออกจากคุกลาวาด้วยสีหน้าเจ็บปวด

    ***

    "ใหญ่เหมือนกันแฮะ"

    เมืองหลวงแห่งโช  คาราสึ
    เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมหลากหลายชาติ  เฉกเช่นแพงเจีย
    บ้านเรือนมีทั้งทรงเอเชียและยุโรปปะปนกัน
    แต่วังหลวงมีรูปทรงคล้ายคลึงพระราชวังชิลลา*อย่างมาก

( * ประวัติศาสตร์สามก๊กเกาหลีอันโด่งดัง  ประกอบด้วย  โกคุรยอ  แพ็กเจ  และชิลลา )

    'ใหญ่กว่าไรน์ฮาร์ทหลายเท่า...'

    ทวีปตะวันออกมีเพียงห้าอาณาจักร  ทำให้ขนาดของแต่ละอาณาจักรย่อมกว้างใหญ่กว่าอาณาจักรทวีปตะวันตก
    ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบเมืองโดยในมือยังคงถือกรรไกรและผ้าไว้

    ขณะกริดกำลังตัดเย็บยุกยิก  มุโต้เอ่ยปากขึ้น

    "ฉันขอไปสำรวจเมืองให้รอบก่อน  จะได้รู้ว่าตลาดของที่นี่มีสภาพเป็นเช่นไร  จะได้ยื่นข้อเสนอต่อกษัตริย์แห่งโชอย่างเหมาะสม"

    "เข้าใจแล้ว...พยายามเข้านะ"

    "แล้วนายล่ะ"

    "ฉันต้องตามหาคน"

    "ขอทราบชื่อได้ไหม...เผื่อจะได้ช่วยหา"

    "ไม่จำเป็น...ฉันรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน"

    "อา..."

    กริดไม่คิดเปิดเผยรายละเอียดภารกิจกับใครทั้งสิ้น
    มุโต้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกมา

    "ถ้าเช่นนั้น  เอ่อ...ส่วนแบ่งไอเท็มระหว่างทางของฉัน"

    ตลอดห้าวันเต็ม  คณะเดินทางกริดและมุโต้สังหารมอนสเตอร์ไปกว่าหลายร้อย
    ไอเท็มดรอปตลอดทางมิใช่สิ่งที่สามารถมองข้ามได้  
    แต่ระบบปาร์ตี้ได้ตั้งค่าให้หัวหน้าเป็นผู้เก็บไอเท็มทั้งหมด  
    ส่งผลให้ไอเท็มดรอปทุกชิ้นจึงยังอยู่ในตัวกริด

    ชายหนุ่มแบ่งส่วนให้มุโต้อย่างเท่าเทียบในอัตรา 8:2
    แน่นอนว่ากริดอยู่ฝั่ง '8'  
    ถึงกระนั้น  มุโต้มิได้มองว่าตนถูกเอาเปรียบ
    กลับกัน  กริดค่อนข้างใจดีด้วยซ้ำ

    "กริด...ไม่ใช่ว่านายเป็นคนจัดการกับมอนสเตอร์ทั้งหมดหรอกหรือ  พวกเราแบ่ง 9:1 เถอะ"

    "มีบางครั้งที่ฉันอาจเป็นอันตรายถ้าไม่ได้นักรบเซ็นตูช่วยไว้  แบ่งเท่านี้ถือว่ายุติธรรมแล้ว"

    "ก็ได้..."

    มุโต้พลันรับรู้ถึงความใจกว้างจากกริด

    'กิลด์โอเวอร์เกียร์เปี่ยมด้วยผู้เล่นระดับสูง  หากเราทำการค้าขายกับกริด...รับรองว่าไม่ขาดทุนแน่นอน'

    หลังจากนี้  มุโต้มีแผนจะย้ายเข้าสู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ทันทีเมื่อกลับทวีปตะวันตก
    เขาลั่นวาจาในใจพร้อมกับแยกทาง
    กริดแสยะยิ้มทันที  ชายหนุ่มมั่นใจมากว่า...ตนสามารถซื้อใจมุโต้สำเร็จแล้ว

    'ยอมสละไอเท็มดรอปเพียงเล็กน้อย...เพื่อให้อีกฝ่ายประทับใจมากขึ้น'

    ชายหนุ่มเยินยอความอัจฉริยะของตน  จากนั้นได้ชำเลืองสายตาไปยังจัตุรัสใจกลางเมือง
    ขณะนี้  บรรยากาศของเมืองดูแปลกประหลาดชัดเจน  
    ผู้คนจำนวนมากรวมตัวจนผิดวิสัย  มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากลกำลังจะเกิดขึ้น

    'มีอะไรกันนะ...'

    ชายหนุ่มเดินตรงไปยังจัตุรัสด้วยสีหน้าฉงน

    "โทษประการของเจ้าเมืองแพงเจียถูกกำหนดแล้ว...เป็นพรุ่งนี้!!"

    "ท่านฮานซอกบงเป็นขุนนางตงฉิน...เหตุใดเขาจึงถูกตัดสินประหารชีวิตได้"

    "ดันไปทำให้ยังบันจากอาณาจักรฮวานโกรธเข้ายังไงล่ะ"

    "อึ๋ย...ย--ยังบันงั้นหรือ..."

    "เช่นนั้นก็สมควรตายแล้ว..."

    "..."

    กริดยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นเมื่อทราบว่า...เป้าหมายภารกิจของตนมีกำหนดถูกประหารในวันพรุ่งนี้

    'ทำไมถึงเร็วนัก!'

    กริดต้องการเวลาเพื่อวางแผนช่วยเหลือสองพ่อลูกให้ละเอียดแยบยล

    เริ่มด้วยการระบุตำแหน่งของคุกคุมขังให้ได้เสียก่อน  
    จากนั้นก็ประเมินความเป็นไปได้ในการช่วยเหลือ  
    หากโอกาสสำเร็จต่ำ  กริดจะเลือกเจรจากับกษัตริย์แห่งโช
    แต่หากมีโอกาสสำเร็จอยู่บ้าง  เขาจะเลือกช่วยเหลือออกมาในทันที

    ทว่า...กริดหมดสิทธิ์เลือกเรียบร้อยแล้ว

    'หากคำตัดสินถูกประกาศชัดเจน  หมายความว่า...การเข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งโชคงไม่เกิดประโยชน์ใด  มีแต่ต้องใช้กำลังช่วยเหลือสองพ่อลูกออกมา'

    กริดเริ่มสืบข่าวฮานซอกบงและซูเอจากชาวเมือง
    ในขั้นตอนนี้  ทักษะ <ตรวจหาเหยื่อที่ถูกหลอกง่าย> ของหยางเฟยมีประโยชน์อย่างมหาศาลจนกริดคาดไม่ถึง
    เธอสามารถเลือกเหยื่อที่ถูกหลอกง่ายให้กริดสอบถามได้รวดเร็ว  
    ชายหนุ่มบรรลุเป้าหมายในเวลาเพียงไม่นาน

    "...เราไม่ควรกลายเป็นพวกถูกหลอกง่ายสินะ"

    ชายหนุ่มลั่นวาจาว่า  ตนจะไม่ยอมให้หยางเฟยมองเป็นพวกถูกหลอกง่ายเด็ดขาด
    แต่กริดไม่เคยรู้เลยว่า...หยางเฟยเคยมองเขาเป็นพวกถูกหลอกง่ายมากแล้วหนหนึ่ง    
    ***

    ขุนนางซัมดาซู  มันมาเยือนชั้นสองของคุกลาวาเพื่อพบหน้าบุตรีของฮานซอกบง
    ฮานซูเอ

    "อ--อะไรนะ...คำตัดสินประหารท่านพ่อถูกประกาศแล้วหรือ"

    แม้จะถูกคุมขังภายอยู่ภายในคุกที่เก่าโทรมนานกว่าสองสัปดาห์  แต่ตัวตนของซูเอกลับยังคงเฉิดฉายเจิดจ้าประหนึ่งอัญมณีหยก
    หากคุกลาวาเปรียบดั่งค่ำคืนอันมืดมิด  ซูเอก็เปรียบดั่งแสงจันทร์ส่องสว่าง
    เสน่ห์อันล้นเหลือที่แผ่ออกมาจากร่างกาย  ไม่ว่าชายใดก็ยากจะห้ามใจไว้อยู่
    ซัมดาซูกลืนน้ำลายเล็กน้อย  สายตาของมันชำเลืองมองสัดส่วนอันน่าหลงไหลของซูเอโดยไม่กระพริบ
        
    "ถูกต้อง...เป็นวันพรุ่ง"

    "ท--ทำไมกัน...!"

    ซูเอไม่อยากจะเชื่อ
    บิดาตนทำคุณงามความดีให้แผ่นดินนับไม่ถ้วน 
    แต่กลับถูกสังประหารชีวิตเพียงเพราะยังบันไม่พอใจ
    บ้าบอสิ้นดี...

    "เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง...!  พวกเราเป็นประชาชนและขุนนางของอาณาจักรโชมิใช่หรือ  แล้วเหตุใด...ชะตาชีวิตถึงขึ้นอยู่กับอารมณ์ของพวกยังบัน!"

    "เธอยังเด็กและไร้เดียงสานัก  อาณาจักรฮวานคือท้องฟ้า  พวกเราทั้งสี่อาณาจักรต้องรับใช้อาณาจักรฮวานโดยมิอาจปริปาก  ใครก็ตามที่ต่อต้านต้องถูกลงโทษสถานหนัก"

    "..."

    "ไม่ต้อห่วง...ซัมดาซูผู้นี้ได้ร้องขอชีวิตเธอไว้แล้ว  มันคงโหดร้ายเกินไปสักหน่อย...หากเธอต้องจบชีวิตลงเพียงเพราะความผิดพลาดของผู้เป็นบิดา  แต่น่าเสียดาย..ที่เธอต้องถูกริบบรรดาศักดิ์ทั้งหมด"

    "..."

    "ส่วนเรื่องความเป็นอยู่...เธอไม่ต้องกังวล  เธอจะได้อยู่ข้างกายฉันจนกว่าจะแก่เฒ่า  ฉันคนนี้จะเป็นผู้ปกป้องเธอเอง"

    ซัมดาซูมิได้รู้เลยว่า...บัดนี้สายตาของมันกำลังหื่นกระหายออกนอกหน้า
    ซูเอจ้องมองมันกลับ  
    แววตาอันแสนเว้าวอนของเธอ...แทบทำให้วิญญาณซัมดาซูหลุดออกจากร่าง

    "ฉันเชื่อคุณ"

    "อา...ใช่แล้ว  ต้องอย่างนั้น!  เธอต้องเชื่อใจฉัน...แล้วทุกอย่างจะดีเอง"

    "ฉันเชื่อคุณ...ได้โปรดพาฉันไปหาท่านพ่อด้วยเถิด  ฉันต้องการกล่าวคำอำลากับท่านเป็นครั้งสุดท้าย"

    "ได้เลย...ผู้คุ้ม!  เปิดประตูห้องขังเดี๋---  ไม่...!  ไม่!  หยุดก่อน!"

    ซัมดาซูพลันได้สติกลับคืนมา  
    แม้ซูเอจะเป็นหญิงงาม  แต่หล่อนก็เป็นนักบู๊ตัวฉกาจในเวลาเดียวกัน
    หากปล่อยให้ออกจากห้องขัง  ไม่รู้ว่าจะลงมือทำสิ่งใดลงไปบ้าง
    
    ซูเอพ่นลมหายใจอย่างฉุนเฉียวด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวสุดขีด

    "ชิ...ถ้าแต่งหน้าอยู่ล่ะก็"

    "หือ..."

    ซัมดาซูขมวดคิ้วราวกับมันหูแว่วไป
    ซูเอ...หญิงสาวที่มีสีหน้าสุดแสนอาฆาตเมื่อครู่  แปรเปลี่ยนกลับเป็นสตรีผู้แสนบอบบางและอ่อนแออีกครั้ง 
    มันปรับอารมณ์แทบไม่ทัน

    "ฮือ...ช่างน่าเศร้า  แม้แต่วาระสุดท้ายของท่านพ่อ...ฉันก็ไม่มีสิทธิ์บอกลางั้นหรือ"

    "ม--ไม่ต้องห่วง...!  วันพรุ่งนี้...ก่อนที่พ่อของเธอจะถูกประหาร  ฉันจะพาเธอไปกล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้ายแน่นอน"

    ซัมดาซูยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนก่อนรีบเดินจากไป
    มันเกือบทำพลาดเพราะถูกใบหน้าอันงดงามนั่นสะกดเข้า

    ซูเอที่ถูกทิ้งตามลำพัง  เธอกำลังกัดเล็บครุ่นคิดสถานหนัก
    'เราจะทำยังไงดี...'
    
    ความตายของบิดาถูกกำหนดไว้แล้ว...ซูเอจะปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
    เธอต้องช่วยบิดาออกมาก่อนถึงเวลาประหาร
    แต่ด้วยวิธีใดกัน...
    
    "...เราช่างไร้พลังนัก"

    หยดน้ำใสพลันไหลรินอาบสองข้ามแก้ม
    ซูเอนั่งกอดเข่าร่ำไห้อย่างหดหู่  
    ในยามต้องโศกเศร้าตามลำพัง  เธอมิอาจแสดงมาดของหญิงแกร่งอย่างที่เคยเป็นได้

    ***

    "กษัตริย์แห่งโชรายงานเข้ามาว่า  มันจะประหารชีวิตฮานซอกบง  ผู้ปิดบังที่อยู่ของช่างตีเหล็กผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดง"

    "เห...พวกมันคิดรึไง  ว่าทำเช่นนี้แล้วเราจะหายโกรธ...ไม่มีทาง!"

    "ช่างโง่เขลา...ใครจะสนชีวิตพวกมดปลวกกันเล่า"

    ณ ห้องรับรองแขกสุดพิเศษของวังหลวงอาณาจักรโช  
    กลุ่มคนวัยเยาว์กำลังนั่งสนทนาด้วยท่าทีผ่อนคลาย    
    ชุดผ้าไหมที่กำลังสวม  มีมูลค่าสูงยิ่งกว่าวังหลวงทั้งหลังเสียอีก
    ใช่แล้ว  พวกมันคือยังบันแห่งอาณาจักรฮวาน

    "ผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดงต้องเป็นแพ็กม่าไม่ผิดแน่!  หลังจากที่ออกจากอาณาจักรฮวานไป...คิดไม่ถึงว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่  ช่างเถอะ...ไม่ว่ายังไง  พวกเราก็ต้องหาตัวมันให้พบ"

    "หากฮานซอกบงไม่ยอมปริปากที่ซ่อนของแพ็กม่าก่อนตาย...พวกเราคงต้องลงมือค้นหาด้วยตัวเอง"

    "คิดถึงแพ็กม่าจังแฮะ...ฉันคิดถึงวิชาดาบของเจ้านั่น"
    
    "นายหมายถึงท่ารำดาบปาหี่...ที่อาวุโสฮานึลทำลายจนราบคาบนั่นน่ะหรือ  คุคุคุ!  เรียกว่าวิชาดาบยังไม่ได้ด้วยซ้ำ"

    "พวกนายสำรวมหน่อย...ที่นี่ไม่ใช่อาณาจักรฮวาน  เราต้องสง่างามต่อหน้าพวกไพร่เสมอ"

Comments

  1. สรุปช่วยไม่ทัน โดนประหาร

    ReplyDelete
  2. รอลุ่น. ตอนมันๆ ใกล้จะเริ่มแล้ว

    ReplyDelete
  3. ขอให้พวกแม่งโดนวิชาดาบของแพ็กม่าตายห่าให้หมด

    ReplyDelete
  4. ทำไมถึงเรียกผู้อาวุโสหึหึ

    ReplyDelete
  5. ยังบันที่ครอเกลไม่อาจสู้ได้แล้วกริดจะไหวหรอ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00