จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 634



    ผู้เล่นในซาทิสฟาย...พวกเขาจะทานอาหารเพื่อความเอร็ดอร่อยและฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรง
    อาหารคือสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้

    แต่อาหารเกือบทั้งหมดของไอดาน...คือยาพิษ

[ ท่านรับประทานอาหารสุดห่วย ]
[ ท่านเข้าสู่ภาวะอาหารเป็นพิษ ]
[ ท่านต้านทาน ]

[ ท่านรับประทานในสิ่งที่มนุษย์ไม่ควรกลืนลงท้อง ]
[ ท่านได้รับยาพิษ (รุนแรง) ]
[ ท่านต้านทาน ]

    "..."

    "เป็นยังไงบ้าง...อร่อยเหมือนเคยใช่ไหม"

    ระหว่างการเดินทางไปยังคาราสึ  เมืองหลวงอาณาจักรโช

    กริดร่วมทางพร้อมกับไอดานและหยางเฟย
    บัดนี้...เขากำลังได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัส
    ชายหนุ่มถูกทรมานโดยฝีมือนักทรมานมืออาชีพ
    
    'ฉันเพียงแค่...ต้องการให้นายทำอาหารที่มนุษย์สามารถกลืนกลงท้อง  ไม่จำเป็นต้องอร่อยก็ได้!   ไม่ใช่อาหารที่กลายเป็นขยะมีพิษถึง 9 ใน 10 จานเช่นนี้!'

    ปัจจุบัน...กริดไม่สามารถให้สมาชิกและทหารโอเวอร์เกียร์ลิ้มรสฝีมือไอดานได้
    หากมีใครเกิดอาหารเป็นพิษจนร่างกายขยับไม่ไหว  เกรงว่า...ระบบเศรษฐกิจและการเมืองของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อาจล่มสลาย

    'เราต้องกินเข้าไปให้มากที่สุด...เผื่อเจ้าบ้าไอดานจะทำอาหารเก่งขึ้นมาบ้าง'

    กริดตัดสินใจพลีชีพ

    ตลอดการเดินทาง...ชายหนุ่มสั่งให้ไอดานทำอาหารบ่อยครั้งที่สุด 
    สภาพจิตใจอันแข็งแกร่งเช่นนี้...นับว่าก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปไกลแล้ว
    กริดนำพาตัวเองลงสู่ขุมนรกเพื่อมิให้พวกพ้องต้องเจ็บปวด

    "กริด...น้ำชา"

    ขณะชายหนุ่มกำลังจะอ้วกแตกตายจากอาหารเป็นพิษ  หยางเฟยได้ยื่นถ้วยชาให้ด้วยสีหน้าอบอุ่น

    "ข--ขอบใจมาก..."

[ ท่านดื่มชาเบเรนัส ]
[ ร่างกายและจิตใจของท่านสงบนิ่ง  อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น 10% เป็นเวลา 1 นาที ]

    ต่อมรับรสที่เคยเน่าเปื่อยผุพังไปแล้ว...บัดนี้ได้รับการเยียวยาจากฝีมือหยางเฟย

    นอกจากสติปัญญาอันเฉียบแหลมและประโยชน์หลากหลายด้าน...หยางเฟยยังเป็นจ้าวแห่งการชงชา
    ใบหญ้า  ดอกไม้  ใบไม้  และกิ่งไม้...ทุกสิ่งถูกนำมาผสมและต้มเป็นชารสเลิศ  ที่มีคุณสมบัติรักษาร่างกายอย่างน่าทึ่ง

    "เธอเรียนของแบบนี้มาจากไหน"

    "เป็นทักษะที่ฉันพัฒนาขึ้นเอง...เพื่อรับมือเหตุการณ์เฉพาะหน้าในร้านอาหารไอดาน  ซึ่งบางครั้ง...ลูกค้าจะเกิดการหมดสติจากภาวะอาหารเป็นพิษ  บางคนเกือบตายไปจริงๆ ก็มี"

    "..."

    เป็นคำตอบที่บ้าบอคอแตกสิ้นดี
    แต่กริดกลับดีใจ...ที่หยางเฟยยังมีจิตใจเมตตาต่อมนุษย์ร่วมโลก

    'ไม่ได้มีสายตาที่เฉียบแหลมเพียงอย่างเดียว...แต่ยังรู้จักคุณค่าของชีวิตผู้อื่นด้วยสินะ'

    แต่น่าเสียดาย...ความเข้าใจของกริดล้วนผิดถนัด
    มโนภาพของชายหนุ่มต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ ในเวลาเพียงไม่นาน

    "มันคงแย่น่าดูถ้ามีคนตายในร้านไอดาน...ถ้าร้านถูกปิด  ฉันจะไม่ซวยเอาหรือ...หมอนี่ยังค้างเงินเดือนฉันอีกตั้งหลายงวด"

    "...นั่นสินะ"

    ยิ่งกริดได้รู้จัก...หยางเฟยก็ยิ่งเข้ากับแร็บบิทได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย

    'หากส่งหยางเฟยไปทำงานกับแร็บบิท...ประสิทธิภาพการบริหารบ้านเมืองจะต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่าแน่'    

    เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด...จะส่งหยางเฟยไปอยู่ข้างกายลอร์ดไม่ได้เด็ดขาด

    'เจ้าเด็กบ้านั่นจะเปลี่ยนผู้หญิงทุกคนให้กลายเป็นคนรัก...โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายอายุเท่าไร'

    น่าเศร้าที่ลอร์ดตัวน้อยไม่เคยรู้สึกตัวเลยสักนิด  
    เขามองคนรักเป็นเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้น
    สิ่งนี้คือปัญหา...หากโตไปฝ่ายหญิงไม่มีทางยอมรับได้แน่
    
    'หญิงสาวเหล่านั้น...คงจะฝันเป็นภรรยาเจ้าชายในสักวัน--  เดี๋ยวนะ!'

    เมื่อนึกถึงลอร์ด  กริดพลันฉุกคิดบางสิ่งได้
    
    'หากลอร์ดอายุครบ 12 ปี...เขาจะถูกส่งไปเรียนที่จักรวรรดิสินะ'

    เช่นนั้นแล้ว...ลอร์ดจะไม่ทำให้หญิงสาวทั่วจักรวรรดิตกหลุมรักเอาหรือ

    'ฮุฮ่าฮ่าฮ่า!  สุดยอดดมากลูกพ่อ!'

    แม้แต่ตัวเม่นยังชมว่าลูกของตนน่ารัก
    จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กริดจะชื่นชมลอร์ด...อัจฉริยะระดับทวีปผู้นี้
    ชายหนุ่มภูมิใจในตัวบุตรชายเป็นอย่างมาก

    'ที่จักรวรรดิ...เขาจะมีสถานที่เที่ยวเล่นมากมาย  ไม่ใช่สิ...เราจะปล่อยให้ลอร์ดกลายเป็นตัวประกันไม่ได้เด็ดขาด'

    หมับ!

    กริดกำสร้อยคอแน่นจนเส้นเลือดปูด
    เป็นสร้อยคอที่เส้นลอร์ดเคยมอบให้ตน...กริดไม่รู้ว่าลอร์ดไปได้มาอย่างไร

    'เพื่อลูกชาย...เราจำเป็นต้องมีพลังสำหรับต่อต้านจักรวรรดิ!  เราจะไม่ยอมให้ชีวิตวัยเด็กของลอร์ดต้องทุกข์ทรมานเด็ดขาด!'

    เมื่อคิดถึงหน้าลูก  กริดสามารถทนกินอาหารของไอดานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
    และบัดนี้  ถึงเวลามื้ออาหารอีกครั้ง    
    ชายหนุ่มกำลังแสดงสีหน้าน่าสมเพชเวทนา  เมื่อต้องกล้ำกลืนฝืนทนกินอาหารของไอดานที่ปรุงจากเนื้อมอนสเตอร์...ซึ่งเพิ่งถูกล่าสดๆ เมื่อครู่
    เก่งได้ไม่นานจริงๆ

    ***

    "ไม่ง่ายเหมือนที่คิดเลยแฮะ"

    มุโต้เปิดกิจการค้าขายขนาดกลาง  โดยมียอดขายรายเดือนอยู่ราว 10,000 เหรียญทอง
    เขาคือคลาสพ่อค้าอันดับสามของโลก  ผู้กำลังผจญภัยอยู่บนทวีปตะวันออก
    มุโต้มีแผนเปิดตลาดที่ทวีปตะวันออกเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า

    แต่ทวีปตะวันออกโหดร้ายกว่าที่คาดไว้มาก  
    การค้าขายกับ NPC ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย  แม้จะมิใช่ NPC ขุนนางระดับสูงก็ตาม
    ยิ่งไปกว่านั้น...เลเวลของมอนสเตอร์ที่นี่ช่างโหดร้าย  การเดินทางข้ามผ่านแต่ละเมือง...มุโต้ไม่เคยพานพบความสงบสุขเลยสักครั้ง

    'ชื่อเสียงที่ลงทุนสั่งสมมานานภายในทวีปตะวันตก...ไม่ส่งผลกับ NPC ที่นี่แม้แต่นิดเดียว'

    หากเพิ่มจำนวนลูกค้าบนทวีปตะวันออกได้  มุโต้จะได้รับสิทธิ์ในการค้าขายสินค้าพิเศษหายาก
    ซึ่งตนจะกลายเป็นพ่อค้าที่มีอัตราต่อรองสูงทันที
    
    เมื่อกำไรเพิ่มขึ้น  มุโต้ก็จะขึ้นไปครองอันดับหนึ่งของผู้เล่นพ่อค้าสมใจนึก
    
    เขาเคยฝันถึงอนาคตอันสดใสมากมายบนทวีปตะวันออก
    ทว่า...ความจริงช่างโหดร้าย  
    ปัจจุบัน...เขาปราศจากลูกค้ามานานกว่าสิบวันแล้ว  
    ความกระตือรือต้นในตอนต้นค่อยๆ เสื่อมถอยจางหาย

    'ก็คงจะดีไม่น้อยหากชาวตะวันออกเชื่อว่า  เราสามารถไปกลับทวีปตะวันตกได้อย่างอิสระ...การค้าขายน่าจะราบรื่นกว่านี้มาก'

    น่าเสียดาย...ที่ชาวตะวันออกแทบไม่เชื่อเรื่องการเดินทางข้ามผ่านระหว่างทวีปเลย
    พวกเขาล้วนคิดว่า...นักผจญภัยจากทวีปตะวันตกล้วนเดิมทางมาถึงด้วยความบังเอิญ

    "เฮ่อ...น่าหงุดหงิดชะมัด"

    ในอดีต...มุโต้คือพ่อค้าที่มุ่งเน้นค้าขายในดินแดนของเอิร์ลบูตินแห่งจักรวรรดิ    
    ดินแดนของเอิร์ลบูติน  นับเป็นแดนสวรรค์ของขุนนางที่ชอบท่องเที่ยว  ส่งผลให้กิจการของมุโต้รุ่งเรื่องมากที่นั่น

    แต่แล้ววันหนึ่ง...ความสัมพันธ์กับเอิร์ลบูตินก็ขาดสะบั้นลง  
    เรื่องราวเกิดจาก  ทรายอายุวัฒนะของเรย์ดันที่เริ่มถูกนำมาขายภายในเมือง

    หลังจากทรายอายุวัฒนะของเอิร์ลบูตินถูกขายอย่างแพร่หลาย
    เหล่าขุนนางชั้นสูงของจักรวรรดิก็ไม่แยแสสินค้าจากมุโต้อีกเลย

    มุโต้ต้องการชุบชีวิตธรุกิจตนที่ทวีปตะวันออก
    หากไม่เพิ่มมูลค่าการค้าขายให้มากขึ้น  อีกไม่นาน...ธุรกิจที่ตนลงทุนมากับมือก็จะถึงคราวล่มสลาย

    'ดูจากแนวโน้มปัจจุบัน...เราคงตกลงไปอยู่อันดับเจ็ดในไม่ช้า'

    หากอันดับตก  สปอนเซอร์ย่อมหดหายตามไปด้วย  
    ศักดิ์ศรีของมุโต้ถูกระคายเคืองทุกครั้งที่หวนนึกถึง

    'ทันทีที่ไปถึงคาราสึ...เราต้องขอเข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งโชให้ได้  หากแสดงให้พระองค์เห็นถึงวัฒนธรรมของทวีปตะวันตกล่ะก็...---เอ๋!!'

    ขณะมุโต้กำลังเดินทางพร้อมนักรบรับจ้าง  ดวงตาของเขาพลันเบิกโพลง

    ฉากอันน่าทึ่งกำลังถูกฉายอีกฟากฝั่งของหุบเขา

    "นี่คือเทคนิคลับสุดยอด...ที่ถูกส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นในตระกูลของฉัน!  เทคนิคฟิลเลต์ปลาอันเลื่องชื่อ!*  ฉันขัดเกลาทักษะมาทั้งชีวิตเพื่ออาหารมื้อนี้โดยเฉพาะ!"

(Fillet - เป็นเทคนิคการหั่นรูปแบบหนึ่ง  หากเป็นการหั่นปลา  จะหมายถึงการและเนื้อปลาออกโดยไม่ติดให้ติดก้าง )

    "ม--ไม่ได้...นั่นไม่ใช่ปลาคาร์ปสักหน่อย  แต่หล่อนเป็นนางเงือก...!"

    "หืม...แต่ครึ่งหนึ่งก็เป็นปลาเหมือนกันนี่  ฉันไม่เห็นว่าจะมีปัญหาตรงไหน"

    "..."

    เป็นภาพที่มุโต้ไม่คาดคิด

    มอนสเตอร์นางเงือกเลเวล 300 ภายในหุบเขา
    กำลังสั่นระริกอย่างหวาดกลัว...ต่อหน้ามีดทำครัวในมือชายปริศนาวัยกลางคน

    ที่น่าประทับใจกว่านั้น
    ชายผมดำที่กำลังห้ามปรามพ่อครัว... มิให้เขาเข้าไปแล่เนื้อนางเงือกด้วยมีด

    'กริด...!'

    ผู้เล่นคลาสเกรดเลเจนดารีคนแรกของโลก
    กษัตริย์คนแรกของโลก
    ตัวตนที่สร้างชื่อเสียงไว้มากมายในซาทิสฟาย

    'เขามาทำอะไรที่นี่!'

    เรื่องบังเอิญงั้นหรือ
    มุโต้แสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย  

    'คงเป็นโชคชะตา...ที่นำพาให้พวกเรากลายเป็นสหายกัน'

    อันที่จริง...มุโต้เคยจงเกลียดจงชังกริดมาก  เพราะสาเหตุที่ธรุกิจของตนล่มสลาย...
    ล้วนมาจากทรายอายุวัฒนาของเรย์ดัน...เมืองที่กริดเป็นผู้ปกครอง
    หรือระบุให้ชัดก็คือ  มุโต้พลาดท่าเสียเหลี่ยมให้กริดในด้านการตลาด  นับเป็นการถูกย่ำยีศักศรีอย่างรุนแรงสำหรับวงการพ่อค้า  จึงไม่แปลกที่เขาจะเคยเกลียดชัง
    
    แต่ปัจจุบัน  ความรู้สึกเหล่านั้นเปลี่ยนไปแล้ว
    มุโต้คิดว่า...นี่คงเป็นชะตานำพา  ให้ตนได้พบพานกับกริดในสถานที่ห่างไกล

    "ตอนแรก...ฉันมีแผนจะพักผ่อนที่หุบเขา  แต่ดูเหมือนจะมีแขกตัดไปก่อนแล้ว"

    "ให้พวกเราจัดการไหม"

    นักรบรับจ้างเอ่ยปากถาม
    มุโต้ส่ายศีรษะ

    "หัวของพวกนายได้หลุดจากบ่ากันหมดแน่...หากเข้าไปยุ่งกับชายคนนั้น"    

    "..."

    กลุ่มนักรบรับจ้างพลันขมวดคิ้ว

    พวกมันคือสมาชิกเผ่านักรบอันแข็งแกร่งของทวีปตะวันออก...เผ่าเซ็นตู
    มูโต้ยอมจ้างพวกมันในราคาแพงเพราะตระหนักถึงความจริงข้อนี้

    แต่เมื่อครู่....มุโต้กลับบอกว่า  พวกมันทุกคนจะถูกชายผมดำสังหารในพริบตา

    "ฉันไม่ยอมรับเด็ดขาด"

    เซ็นตู...คือชื่อของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับชุมชนราชินีหนู  ซึ่งถูกทำลายอย่างปริศนาไปเมื่อหลายเดือนก่อน

    เพื่อให้รอดชีวิตจากการโจมตีของหนูใหญ่พิษ  ชาวบ้านเซ็นตูต้องฝึกฝนอย่างหนักโดยไม่หยุดพัก  ชายฉกรรจ์เกือบทุกคนในหมู่บ้าน  ล้วนได้รับการขนานนามให้เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง
    จึงไม่แปลกที่พวกมันจะทรนงในศักดิ์ศรี

    "ขอทดสอบได้ไหม...ว่าชายคนนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเราจริงรึไม่"
    
    กลุ่มนักรบรับจ้างมิอาจเก็บซ่อนท่าทีหงุดหงิดไว้ได้
    ทันใดนั้น

    "ให้ตายฉันก็ไม่มีวันกินเนื้อนางเงือกเด็ดขาด...!  มันเหมือนกับเนื้อมนุษย์ไม่ใช่รึไงฟะ!"

    บึ้มมมมม!

    ฉึกฉึกฉึก!

    เกิดระเบิดรุนแรงขึ้นท่ามกลางหุบเขาอันเงียงสงบ

    ปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติอุบัติขึ้นมากมาย  เมื่อชายผมดำเริ่มโจมตีนางเงือกด้วยวิชาดาบและเวทมนตร์

    "ป--เป็นไปไม่ได้"

    เหล่านักรบรับจ้างต่างทึงจนหมดคำพูด
    พวกมันแต่ละคน...แค่ดวลเดี่ยวกับนางเงือกหุบเขาทีละตัวก็เต็มกลืนแล้ว
    นางเงือกเหล่านี้แข็งแกร่งไม่แพ้หนูใหญ่พิษเลยสักนิด

    แต่ชายผมดำผู้นี้...กลับสังหารไปหลายสิบตัวในพริบตา
    เป็นมิติที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง    

    "เป็นอย่างไรบ้าง...สุดยอดไปเลยใช่ไหม  เคยได้ยินมาว่า...เผ่านักรบเซ็นตูจะยกย่องผู้แข็งแกร่งกว่าเสมอ  ชายคนนั้นเข้าตาพวกนายรึเปล่า"

    "อึก..."

    กลุ่มนักรบรับจ้องมิอาจให้คำตอบมุโต้ได้  
    พวกมันทำได้เพียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่...พร้อมเส้นขนที่ลุกตั้งชันไปทั่วร่างกาย

    'หากพวกเราเข้าไปใกล้โดยไม่ให้สุ้มเสียงล่ะก็...'
    
    'ป่านนี้คงมีชะตากรรมเดียวกับนางเงือกไปแล้ว'

    แค่คิดก็เสียวสันหลัง...
    กลุ่มนักรบรับจ้างส่ายศีรษพร้อมกัน
    ทันใดนั้น

    'เห...!'    

    เมื่อจัดการกันกลุ่มนางเงือกขนาดใหญ่จนหมด
    ชายผมดำปริศนาได้นำเข็มและด้ายออกมา...จากนั้นก็เริ่มลงมือเย็บปัก

    "อ--อะไรกัน!"

    สีหน้าทุกคนพลันตกตะลึง
    โดยมุโต้คือผู้ประหลาดใจยิ่งกว่าใคร

    'เย็บปักถักร้อย...!  ช่างตีเหล็กอย่างกริด...จัดการกับไอเท็มประเภทผ้าได้ยังไง!'

    ชายคนนี้...ไม่ได้มีแค่ชื่อเสียงเสียแล้ว
    
    แค่ได้พบเพียงไม่กี่นาที  มุโต้กลับประทับใจในตัวกริดถึงหลายส่วน
    เขามั่นใจมากว่า...

    'นี่คือโอกาสทองของเรา!'

    การพานพบโดยบังเอิญในวันนี้  จักต้องเกิดจากวาสนาชักนำอย่างแน่นอน
    ชั่วชีวิตนี้อาจมีเพียงหนเดียวเท่านั้น

    "ดีล่ะ...เข้าไปทักทายกันเถอะ"

    มุโต้สูดลมหายใจเข้าลึก...เพื่อปลดปล่อยความเกร็งและสงบจิตใจ
    จากนั้นจึงเดินเข้าหากริดพร้อมกับกลุ่มนักรบรับจ้าง

    แม้จะได้กลิ่นอาหารขยะโชยมาไกล  แต่เขาก็หาได้แยแส

Comments

  1. จะได้เรื่องมั้ยเนี่ย

    ReplyDelete
  2. นายเป็นคนดีนี่น่าที่แจกจ่ายของดีให้คนอื่น

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00