จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 645


    
    ผ้าคลุมล่องหน  
    ตามชื่อของมัน  การใช้งานจะส่งผลให้ผู้สวมใส่ไม่ถูกพบเห็น
    ผ้าคลุมล่องหนที่โด่งดังคือชิ้นที่ถูกสร้างโดยครูเกอร์  ช่างตัดเย็บในตำนาน  ว่ากันว่าปัจจุบันเหลือเพียงห้าผืนเท่านั้น  เป็นไอเท็มหายากระดับสูงสุด  ไม่เคยมีใครเห็นกับตามาก่อน  
    สำหรับคนทั่วไป  ผ้าคลุมล่องหนเป็นราวกับไอเท็มที่อยู่ในความฝัน    
    
    ยังมีคนอีกมากที่ไม่รู้ว่า  บัดนี้ผ้าคลุมล่องหนได้ถูกใครสักคนสร้างขึ้นใหม่สำเร็จ

    พรืด

    "มันจะไม่ทำงานจนกว่าจะรูดซิปขึ้น"

    เสื้อคลุมหัวแบบมีซิปของกริดสร้างจากทักษะออกแบบไอเท็ม  
    วัสดุที่ใช้เป็นเกรดพื้นฐาน  ทำให้ประสิทธิภาพของการล่องหนอยู่ในระดับพื้นฐานเช่นกัน  แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้สวมใส่ไม่ถูกมองเห็นและพบตัว

    'แน่นอนว่า...ผ้าคลุมล่องหนต้นตำหรับของครูเกอร์ย่อมดีกว่ามาก'

    กริดคาดว่าผ้าคลุมล่องหนต้นตำหรับจะลบร่องรอยผู้สวมให้หายไปโดยสมบูรณ์จนยากแกการตรวจจับ  สำหรับผู้ที่ผ่านประสบการณ์มากมายเช่นกริด  เขาไม่กล้าฟันธงว่าผ้าคลุมของตนจะยอดเยี่ยมไปกว่าผ้าคลุมของช่างตัดเย็บในตำนานได้  
    แต่ประสิทธิภาพเท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับใช้งานทั่วไป

    จุดประสงค์หลักของผ่าคลุมล่องหนมีเพื่อไม่ให้ถูกพบตัว  และผ้าคลุมที่กริดสร้างก็นับว่าตอบโจทย์พื้นฐานข้อนี้
    อย่างน้อยก็ช่วยให้เดินทางในคาราสึอย่างปลอดภัย

    "ก--กริด!"

    "นายกลับมาตอนไหน!"

    ณ โรงเตี๊ยมที่ใดสักแห่ง  
    เมื่อกริดกลับถึงห้อง  เขาพบหยางเฟยกำลังจัดที่นอนอย่างเป็นระเบียบ  และไอดานกำลังอ่านหนังสือศึกษาสูตรทำอาหาร  
    คนทั้งสองแสดงสีหน้าตกตะลึงเมื่อจู่ๆ หน้าต่างก็เปิดออกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  จากนั้นกริดก็ปรากฏตัวในห้องราวภูติผี  

    'แว่บไปแว่บมาเหมือนกับฮงกิลดง*ไม่มีผิด!'    

( *ฮงกิลดง - ตำนานโรบินฮู้ดของเกาหลีสมัยราชวงศ์โชซอน  ปรากฏตัวและหายตัวไปมาเพื่อปั่นหัวทางการครั้งแล้วครั้งเล่า  ตามจับตัวได้ยากมาก  เคยถูกสร้างเป็นซีรีย์ทางทีวีเกาหลีใต้)

    กริดคือฮงกิลดงในตำนานรึไง...
    
    ทันใดนั้น  ชายหนุ่มกล่าวเรียกสติไอดานและหยางเฟยกลับคืนมา

    "รีบไปจากที่นี่กัน"

    "อะ...ด--ได้!"

    ไอดานยังคงสับสนและปรับตัวไม่ทัน  แต่หยางเฟยนั้นคล่องแคล่วว่องไว  เธอพร้อมรับกับสถานการณ์รอบข้างเสมอ  นับตั้งแต่ต้องคอยดูแล 15 ชีวิตที่บ้านตามลำพัง
    ขณะไอดานเก็บข้าวของอย่างเงอะงะ  หยางเฟยก็เก็บสัมภาระด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง  เมื่อเธอเก็บเสร็จ  หยางเฟยหันมาจ้องไอดานตาเขม็ง  ไอดานเห็นดังนั้นจึงลนลานรีบเก็บกระทะเข้ากระเป๋า  
    ไอดานจะอ่อนแอเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฟยผู้นี้

    เมื่อกริดเห็นคนทั้งสองเตรียมตัวเสร็จ  ชายหนุ่มทำการอัญเชิญโนเอะออกมาพร้อมหัตถ์เทวะ

    "ได้พักผ่อนเพียงพอแล้วใช่ไหม  ช่วยพาสองคนนี้ตามฉันมาด้วย"

    "เข้าใจแล้ว  เมี๊ยว!"

    เมื่อสิ้นเสียงกริด  ปากทรง 'ㅅ' ของ โนเอะก็คาบคอเสื้อหยางเฟยทันที  ส่วนหัตถ์ทั้งสี่ก็ช่วยกันจับร่างกายไอดานจนแน่น  ทั้งหมดกระโดดออกจากหน้าต่างตามกริดและโบยบินไปบนท้องฟ้า

    "อ--อึ๋ย...!  มือพวกนี้อะไรกัน!"

    ไอดานหวาดผวาเมื่อถูกมือสีทองที่ขยับได้เองลากขึ้นท้องฟ้า  เขาจ้องมองลงมายังบ้านเรือนด้านล่างที่ค่อยๆ เล็กลงจนเหลือเพียงจุด  
    ประหนึ่งเป็นโรคกลัวความสูง  ไอดานแทบสิ้นสติโดยพลัน
    ตรงกันข้ามกับหยางเฟย  แววตาของเธอพลันเปล่งประกายเมื่อได้อยู่บนท้องฟ้า

    'เรากำลังบิน!'

    หยางเฟยจ้องมองดวงอาทิตย์ย่ำรุ่งทางทิศตะวันออกด้วยสีหน้ามีความสุข
    เธอจินตนาการภาพการใช้ชีวิตอยู่กับกริดหลังจากนี้...มันจะต้องสนุกมากแน่

[ ความสัมพันธ์กับไอดานลดลง 10 หน่วย ]
[ ความสัมพันธ์กับหยางเฟยเพิ่มขึ้น 10 หน่วย  แต่ท่านมีความสัมพันธ์กับหยางเฟยถึงขีดจำกัดอยู่แล้ว ]

    ไปถึงขีดจำกัดตอนไหนกันนะ...

    ***

    "บรรยากาศภายในคาราสึเป็นยังไงบ้าง...พวกเรายังโดนตามล่าอยู่ไหม"

    "กษัตริย์โชปลอดภัยรึเปล่า...ยังบันลงโทษอาณาจักรโชอย่างไรบ้าง"

    ซูเอถามกริดที่กลับมาพร้อมไอดานกับหยางเฟย 
    ชายหนุ่มส่ายศีรษะ

    "บอกไม่ได้เหมือนกัน...ฉันบินบนท้องฟ้ากลับมา  จึงไม่รู้ถึงสถานการณ์เบื้องล่าง"

    "บนท้องฟ้า..."

    "นายบินกลับมา...!"

    นั่นไม่ใช่ความสามารถเฉพาะตัวของคนทรงหรอกหรือ...
    กริดเป็นกษัตริย์  นักดาบ  ช่างตีเหล็กผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดง...แล้วยังบินได้อีก!

    "คุณเป็นใครกันแน่...!"

    ชายคนนี้สร้างความประหลาดใจให้ตนครั้งแล้วครั้งเล่า
    ยิ่งฮานซอกบงได้รู้จักกริด  เขาก็ยิ่งทึ่งในความสุดยอด

    'เป็นบุคคลที่มีปริศนาเต็มไปหมด...'

    ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน  ซูเอมักถูกผู้ชายตามจีบไม่ขาดสาย  แต่กลับไม่มีใครเลยที่สามารถสั่นคลอนหัวใจเธอได้  ซูเอเติบโตในสภาพแวดล้อมหม่นหมอง(?)เช่นนี้โดยตลอด  ส่งผลให้ต้องใช้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย  ไม่เคยมีชายใดสามารถจุดไฟราคะในใจได้เลยสักครั้ง
    จนกระทั่งได้พบกริด  ซูเอต้องการมอบกายและใจทั้งหมดของเธอให้กริด
    แต่ปัญหาคือ  กริดกลับเอาแต่หลบหน้าทุกครั้ง
    
    "เอ่อ..."

    หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง  ฮานซอกบงตัดสินใจเอ่ยปากถาม

    "พวกเราจะทำยังไงกันต่อ"

    ผลกระทบที่ทำให้ยังบันบาดเจ็บนั้นร้ายแรงเกินไป  อิทธิพลของยังบันแผ่ขยายทั่วทวีปตะวันออก  ไม่มีสถานที่ให้กริดหลบซ่อนได้แน่  ต่อให้หลบหนีออกจากคาราสึสำเร็จ  แต่อนาคตก็ยังมืดมนอย่างมากอยู่ดี
    ทันใดนั้น  ชายหนุ่มหยิบม้วนคาถากลับทวีปตะวันตกออกมา  เขายื่นให้ฮานซอกบงผู้กำลังมีสีหน้าหวั่นวิตกได้เห็น

    "ฉันบอกไปแล้วนี่...ฉันต้องการให้พวกนายคอยเป็นกำลังสำคัญในอาณาจักรของฉัน"

    "เอ่อ..."

    ม้วนคาถาที่กริดนำออกมานั้น  ดูไม่ต่างจากกระดาษทั่วไปเลยสักนิด
    มันคือแผ่นกระดาษเก่าโทรม   
    ตรงกันข้ามกับฮานซอกบงที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก  ซูเอกลับเข้าใจสถานการณ์ทันที

    "นี่เป็นเครื่องรางที่ช่วยพากลับทวีปตะวันตกใช่ไหม"

    กริดพยักหน้า

    "ถูกต้อง  นี่คือม้วนคาถาที่บรรจุเวทมนตร์สำหรับเคลื่อนย้ายทวีปอยู่ด้านใน"

    "ถ้าใช้มัน  พวกเราทุกคนจะถูกส่งไปทวีปตะวันตกงั้นหรือ..."

    "ใช่แล้ว"

    เดิมที  ม้วนคาถากลับทวีปตะวันตกจะใช้ได้เพียงคนเดียว  แต่กริดเดินทางมายังทวีปตะวันออกหนนี้ด้วยความตั้งใจจะหากำลังเสริมให้อาณาจักร  เมื่อสติกส์เข้าใจจุดประสงค์  เขาย่อมไม่มอบม้วนคาถาธรรมดาให้กริดแน่  
    สติกส์คืออัจฉริยะที่มอบม้วนคาถากลับทวีปตะวันตกแบบกลุ่มให้กริด
    ชายหนุ่มสามารถพาผู้คนกลับทวีปตะวันตกพร้อมกันได้หลายคน

    "ไปกันเถอะ"
    
    กริดกล่าวขึ้นพร้อมกับเตรียมจะฉีกม้วนคาถา  แต่ฮานซอกบงกลับรีบห้ามไว้
    เขาก้มศีรษะขอร้องด้วยสีหน้าเจ็บปวด

    "ผมรู้ดีว่าอาจเป็นคำขอที่เห็นแก่ตัวเกินไป  แต่ผมไม่อาจทิ้งท่านแม่ให้อยู่ในแพงเจียตามลำพังได้  ก่อนจะกลับ  พวกเราไปแพงเจียเพื่อพาท่านแม่ไปพร้อมกันได้หรือไม่"

    อันที่จริง  ฮานซอกบงคิดว่า  คำของร้องของตนช่างเห็นแก่ตัวนัก
    การถูกยังบันตามล่าเช่นนี้  หากช้าแม้เพียงนิดเดียว  ทุกสิ่งอาจสายเกินแก้ไข  
    แต่ถึงกระนั้น  ฮานซอกบงก็ไม่อยากทิ้งมารดาไว้ในแพงเจียตามลำพัง  มารดาของตนคงรู้สึกเจ็บปวดทุกคืนวันเมื่อบุตรชายถูกกล่าวโทษให้เป็นผู้ทรยศอาณาจักร  
    ฮานซอกบงมิอาจปล่อยเธออยู่คนเดียวได้

    หัวใจของกริดพลันถูกสั่นคลอน
    เขาเองก็มีแม่เช่นกัน

    "เข้าใจแล้ว"

    "...!!"

    กริดพยักหน้าโดยไม่ลังเล  ซึ่งผิดจากที่ฮานซอกบงคาดไว้มาก  
    ฮานซอกบงคิดว่า  กริดอาจปฏิเสธ  หรือไม่ก็ครุ่นคิดเป็นเวลานาน

    "กริด...คุณสุดยอดมาก"

    กริดยิ่งใหญ่จนฮานซอกบงมิอาจประเมินชายคนนี้ได้หมด
    เป็นระดับที่เกินกว่ากษัตริย์ของอาณาจักรไปแล้ว  
    ฮานซอกบงชื่นชมกริดในใจ
    
    ชายหนุ่มอมยิ้ม

    "อันที่จริง  พวกเรากลับไปแพงเจียก่อนก็ไม่เลว  ฉันต้องการให้หน่วยฟินิกซ์แดงกลับไปเป็นพลังให้อาณาจักรอีกแรงด้วย"

    หน่วยฟินิกซ์แดงแทบไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันระหว่างล่าเกราะหนามก็จริง  แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาอ่อนแอ  ระดับฝีมือของหน่วยฟินิกซ์แดงเทียบเท่าอัศวินทมิฬแห่งจักรวรรดิ  และจะกลายเป็นหน่วยที่มีฝีมือระดับต้นๆ ของทวีปตะวันตกได้แน่

    'โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เมื่ออยู่ใต้บังคับบัญชาของซูเอ  คนเหล่านั้นจะมีค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 10%  หากเราฝากฝังซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดงให้อัสโมเฟลล่ะก็  พวกเขาจะพัฒนากลายเป็นกองพลปีศาจได้แน่'

    ซูเอพยักหน้าเล็กน้อย

    "เป็นความคิดที่เยี่ยมเลย...หน่วยฟินิกซ์แดงคงเลือกไปกับเราหากพวกเขารับรู้ความจริงทั้งหมด"

    "อึก..."

    ริมปากของซูเอมีระดับความเย้ายวนอยู่ในขั้นสุดยอด
    กริดกลืนน้ำลายอึกใหญ่ทุกครั้งที่ซูเอเปิดปากพูด  แต่ชายหนุ่มกลับไม่รู้ตัวเองเลยสักนิด

    "อะแฮ่ม...ดีล่ะ  ไปแพงเจียกัน"

    คณะเดินทางรีบมุ่งหน้าไปยังแพงเจีย...แต่ด้วยความเร็วที่ไม่สูงนัก
    ค่าพลังทางกายของไอดานและหยางเฟยอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับฮานซอกบงและซูเอ  คนทั้งสองเหน็ดเหนื่อยบ่อยครั้ง  ทำให้ความเร็วการเดินทางลดลง

    แต่ไม่มีใครที่คิดตำหนิไอดานและหยางเฟย
    เหตุใดสองพ่อลูกฮานซอกบงซูเอถึงได้รับความรักจากประชาชนมากมายน่ะหรือ  สาเหตุหนึ่งเพราะพวกเขามีจิตใจงดงาม  ตลอดการเดินทาง  ซูเอและซอกบงคอยให้กำลังใจไอดานกับหยางเฟยเสมอ 

    ระหว่างเส้นทาง  ค่าเรี่ยวแรงของหยางเฟยและไอดานเพิ่มขึ้นอย่างมาก  
    กริดอมยิ้มอย่างอมอุ่น  เขามองว่าการเดินทางมายังทวีปตะวันออกครั้งนี้ไม่สูญเปล่า

    ***

    "ท่านเจ้าเมืองฮานซอกบงถูกประหารตั้งแต่สี่วันก่อนแล้วหรือ..."

    "ท่านเจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่...เขาช่างอับโชคนัก"

    "ไม่อยากจะเชื่อเลย!  นี่มันฝันร้ายชัดๆ  ฮึก!"

    "...ท่านเจ้าเมืองไปสบายแล้ว"

    "แล้วคุณหนูซูเอล่ะ...เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูซูเอ!"

    แพงเจียคือหนึ่งในเมืองใหญ่ของอาณาจักรโช  
    เมืองนี้คือเมื่องท่าที่สำคัญทางเศรษฐกิจ  เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมและสินค้าที่หลากหลาย    แต่เรื่องราวทั้งหมดได้เปลี่ยนไปเมื่อไม่นานมานี้
    หนึ่งเดือนก่อน  เจ้าเมืองแพงเจีย  ฮานซอกบง  ถูกทางการจับกุมตัวไป
    นับแต่นั้น  บรรยากาศของเมืองแพงเจียก็หม่นหมองโดยตลอด  และยิ่งได้ยินว่าโทษประหารถูกกำหนด  บรรยากาศรอบเมืองก็ยิ่งแย่ลง  ชาวเมืองต่างพากันเศร้าโศกและเจ็บแค้น

    "แล้ว...ท่านแม่พัคล่ะ"

    ท่านแม่พัค 
    นี่คือคำที่ชาวเมืองเรียกขานมารดาของฮานซอกบง  พัคจูริม
    ท่านแม่...ฉายาที่ชาวเมืองมอบให้มารดาของฮานซอกบง  บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขาเคารพรักสตรีผู้นี้มากเพียงใด

    "ท่านเจ้าเมืองถูกประหารไปแล้ว  ท่านแม่ไม่ปลอดภัยแน่..."
    
    "...พ่อกับแม่ของฉันเคยรับใช้ท่านแม่พัค"

    "ท่านแม่พัคพยายามอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาเศษรฐกิจตกต่ำหลังจากเกิดเหตุการณ์นักพรตชั่วนำกองทัพมอนสเตอร์รุกราน  หากไม่มีท่านแม่พัคล่ะก็  พวกเราทุกคนคงอดตายไปนานแล้ว"

    "พวกเราต้องปกต้องท่านแม่พัค!  พวกเราต้องตอบแทนเธอ!"

    "ใช่แล้ว!  ปกป้องท่านแม่พัค!"

    ชาวเมืองรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อปกป้องพัคจูริม  ทุกคนรีบมุ่งหน้าไปยังปราสาทเจ้าเมืองเพื่อหวังปกป้องท่านแม่พัคให้พ้นภัย

    "ท่านแม่พัค!  รีบซ่อนตัวเร็วเข้า!"

    "ไม่ใช่เวลามัวอยู่ในปราสาทแล้ว!  ทางการกำลังส่งทหารมาจับตัวท่าน!"

    "พวกเราจะใช้อุปกรณ์ทำฟาร์มเพื่อปกป้องท่านแม่พัคเอง!  พวกเราจะเป็นโล่มนุษย์ให้ท่านหนีจากทัพหลวง!"

    "รีบหนีเร็วเข้า!"

    ด้านนอกปราสาทแพงเจีย  ผู้คนกำลังชุมนุมเสียงดังวุ่นวาย  ทั้งหมดต่างถืออุปกรณ์ทำฟาร์มในมือพร้อมกับตะโกนบอกให้ท่านแม่พัคหนีไป  
    เมื่อพัคจูริมได้ยินเสียงเหล่านี้  เธอจึงรีบออกมาด้านนอก

    "พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงคิดต่อต้านราชวงศ์!"

    "..."

    เสียงของเธอดังกังวาลจนยากจะเชื่อว่าเป็นเสียงของหญิงชราวัย 80 ปี
    ทุกคนที่ได้ยินต่างผิดคาด  พวกเขานิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน
    ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของพัคจูริมเริ่มเผยรอยยิ้มที่เศร้าหมอง

    "บุตรชายของฉันเป็นขุนนาง  เจ้าเมือง  และลูกชายที่ยอดเยี่ยมก็จริง  แต่พวกเราต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น  เขาถูกประหารในโทษฐานคนบาป  พวกเจ้าคิดจะปกป้องแม่ของคนบาปรึไง!  พวกเจ้าอยากกลายเป็นคนบาปกันหมดรึไง!  ทั้งสามีและลูกของฉันล้วนถูกตัดสินให้เป็นคนบาปของอาณาจักร...แล้วจะให้ประชาชนที่รักฉันกลายเป็นคนบาปเพิ่มอีกรึไง!  เข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่า!"

    "..."

    "ท่านแม่..."

    ความโกลาหลของกลุ่มต่อต้านเริ่มซ่าลง  
    ท่านแม่พัค  ผู้ที่ควรเจ็บปวดมากที่สุดในเวลานี้  กลับเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกตนมากกว่าของตัวเธอเอง  
    อารมร์อันแปรปรวนและหลากหลายกำลังถาโถมจิตใจของชาวบ้านที่มาชุมนุม  พวกเขาเริ่มครุ่นคิด  ว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยท่านแม่พัคได้จริงหรือ

    ลงเอยด้วย

    ตุ้บ

    "ฮึก...!  ฮือ...ฮือ"

    "ท่านแม่...ท่านแม่พัค!"

    ชาวเมืองวางอุปกรณ์ทำฟาร์มลงพร้อมกับคุกเข่าร่ำไห้  พวกเขาล้วนตื้นตันในความใจกว้างของพัคจูริม  
    แต่ทันใดนั้น  มีบางคนได้กล่าวในสิ่งที่ไม่ควรพูด

    "ทั้งหมดเป็นเพราะช่างตีเหล็กนั่น...!  คนที่สร้างคันศรฟินิกซ์แดง!  ถ้ามันไม่สร้างคันศรฟินิกซ์แดงสำเร็จ  ท่านเจ้าเมืองฮานซอกบงคงไม่ถูกประหาร..."

    "..."

    อันที่จริงทุกคนล้วนรู้อยู่เต็มอก  ฮานซอกบงถูกทางการจับตัวไปและประหาร  เพราะเขาไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลของช่างตีเหล็กผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดง  
    แต่ก็ไม่สมควรโยนความผิดให้ช่างตีเหล็กผู้นั้น  เพราะหากเขาสร้างคันศรฟินิกซ์แดงไม่สำเร็จ  แพงเจียจะต้องตกที่นั่งลำบากยิ่งกว่านี้แน่  พวกยังบันอาจทำลายทั้งเมืองให้ราบเป็นหน้ากลอง

    "ฉันรู้น่า...รู้เหมือนกับทุกคน!"

    "พวกเราไม่ควรโยนความผิดให้ชายคนนั้น  เพียงเพราะเขาคือผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดงสำเร็จ...ฉันรู้ว่าพวกเราควรสำนึกในบุญคุณ!!"

    แต่พวกตนจะทำอะไรได้อีกในสถานการณ์เช่นนี้
    เหตุการณ์ตรงหน้าสิ้นหวังเกินไป  ขอตัดพ้อแค่นิดหน่อยก็ไม่ได้รึไง

    ครืนนนน!  เปรี้ยง!

    หรือน้ำตาของประชาชนนับหมื่นจะทำให้สวรรค์เห็นใจ...
    พลันเกิดพายุฝนขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าสดใสเมื่อครู่

    ซ่าาา...

    ฝนตกใส่หัวจนชาวเมืองทุกคนเริ่มใจเย็นลง  พื้นด้านล่างเปียกแฉะ  พัคจูริมเป็นห่วงว่าคนเหล่านี้อาจเปียกและป่วยไข้ไม่สบาย

    "...เดี๋ยวพวกเจ้าก็ป่วยกันหมดหรอก"

    เธอห่วงใยประชาชนราวกับลูกในไส้  นี่คือปฏิธานที่ตระกูลฮานใช้ปกครองชาวเมืองสืบทอดต่อกันรุ่นสู่รุ่น  พัคจูริมที่แต่งเข้าตระกูลย่อมซึมซับเข้าไปไม่มากก็น้อย

    "พวกเจ้ามัวรออะไรอยู่  รีบส่งพวกเขากลับบ้านได้แล้ว"

    พัคจูริมหันไปตะโกนกับหน่วยฟินิกซ์แดง 
    แต่ทันใดนั้น  สุ้มเสียงที่คุ้นเคยกลับดังลงมาจากกระเบื้องด้านบนหลังคาปราสาท

    "อย่างเพิ่ง...ให้พวกเขาอยู่ต่อ  ยิ่งคนมากเท่าไรก็ยิ่งดี"

    "...!!!"

    พัคจูริมและหน่วยฟินิกซ์แดงต่างตกตะลึง  
    ดวงตาของชาวเมืองทุกคนพลันเบิกโพลง  
    เบื้องหน้าพวกเขาคือชายผมดำ  ที่ร่างกายบึกบึนและดวงตาคมกริบ 

    "ดยุคแห่งคุณธรรมของแพงเจีย!"

    ผู้สร้างคันศรฟินิกซ์แดง!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ติดตามผู้แปลได้ที่ : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. แบบนี้ต้องไปด้วยกันทั้งเมืองแล้ว

    ReplyDelete
  2. คาดว่ากริดจะเอาไปทั้งเมืองแพงเจีย

    ReplyDelete
  3. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนทั้งเมืองหายไปซะเนี่ย555+

    ReplyDelete
  4. คือมันจะฮาเลยนะถ้าคำภีเคลื่อนย้ายใช้ได้คนเดียว

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00