จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 635

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 635

    "ราชาโอเวอร์เกียร์มีท่าทีอย่างไรบ้าง"    
    
    ณ จักรวรรดิซาฮารัน
    ปราสาทดยุคแห่งดาบ 'ลิมิต'  

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!    

    ดาบยักษ์สี่เล่มล่องลอยบนท้องฟ้า  พวกมันคือศาสตราที่ลิมิตเป็นผู้สร้างขึ้น  
    ทั้งหมดพลันพุ่งลงด้านล่างในพริบตา...กระหน่ำแทงทำลายพื้นดินลานฝึกจนพังพินาศ
    นี่คือวิชาดาบเฉพาะตัวของลิมิต
    มันเชื่ออย่างสุดหัวใจว่า...วิชาดาบของมันได้ก้าวข้ามมหาจอมดาบปิอาโร่ไปไกลแล้ว
    ก้าวข้ามแม้กระทั่ง...อริยดาบมุลเลอร์
    สิ่งเดียวที่มันยังขาดไปคือชื่อเสียง  ส่งผลให้ลิมิตไม่อาจกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เฉกเช่นอริยดาบหรือตำนานคนอื่น

    เมอร์เซเดสกำลังคุกเข่าลงหนึ่งข้างท่ามกลางฝุ่นควันคละคลุ้ง
    เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

    "เขายอมรับข้อเสนอ"    

    "เห...เจ้านั่นยอมคุกเข่างั้นหรือ"
    ลิมิตเอียงคออย่างฉงน
    มันหันมาจดจ้องเมอร์เซเดสที่กำลังคุกเข่า  แววตาลุ่มลึกพิศวง
    "กบฏที่อาจหาญเผชิญหน้ากับทัพหนึ่งแสนตามลำพัง  แต่กลับยินยอมคุกเข่า  และยอมรับเงื่อนไขอันแสนกดขี่ของจักรวรรดิแต่โดยดี  แถมยังไม่แสดงท่าทีคลุ้มคลั่งเดือลดาลแม้แต่น้อย"

    "ค่ะ...อย่างน้อยก็ภายนอก"

    "ภายในแตกต่างไปสินะ"    

    "ค่ะ...กริดคือสัตว์ป่าที่ไม่มีวันเชื่อง  แม้ยอมคุกเข่า...แต่เขาก็มิอาจเก็บซ่อนดวงตาอันคมกริบที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นไว้ได้"

    "ดวงตาอัสโมเฟล...ใช่ไหม"

    <ดวงตาอัสโมเฟล>
    สิ่งนี้ถูกเรียกขานภายในกองอัศวินหลวง (อัศวินสีชาดและอัศวินทมิฬ)
    หมายถึงดวงตาอันแน่วแน่ที่จะไม่ยอมแพ้ในทุกสถานการณ์  ไม่ว่าจะได้รับบททดสอบมากมายเพียงใด  เจ้าของดวงตาก็จะข้ามผ่านมันได้ในที่สุด      
    เป็นดวงตาที่หนักแน่นของตัวตนหมายเลข 2  
    ผู้ที่มีพรสวรรค์เป็นรองใครสักคน...แต่ก็พร้อมจะก้าวข้ามตลอดเวลา
    มีต้นกำเนิดจากดวงตาของอัสโมเฟลในยามจ้องมองปิอาโร่    

    "ก็ดี...ต้องอย่างนั้น  ราชาโอเวอร์เกียร์เอ๋ย...จงทะเยอทยานเข้าไว้"

    ลิมิตคือดยุคแห่งดาบ  หนึ่งในเจ็ดมหาดยุคของจักรวรรดิ
    ในสายตาบุคคลภายนอก  ลิมิตควรจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิมากกว่าใคร
    ทว่า...คำพูดเมื่อครู่ของมัน  หากใครได้ยินเข้า...อาจเข้าใจผิดจนเป็นเรื่องใหญ่ได้
    เหตุใดลิมิตถึงแสดงสีหน้าพึงพอใจ  แม้จะรู้ว่ากริดคิดแข็งข้อกับจักรวรรดิ  
    เมอร์เซเดสไม่เข้าใจเลยสักนิด

    ถึงบรรยากาศจะผิดแผก...แต่เมอร์เซเดสยังคงสงบนิ่งได้อยู่

    อัศวินสีชาดเดิมถูกทำลายไปแล้ว
    อัศวินสีชาดยุคใหม่เกิดจากการฟื้นฟูด้วยฝีมือจักรพรรดินีแมรี่...มิใช่จักรพรรดิฮวนเดอร์
    หากมองเพียงผิวเผิน...อัศวินสีชาดอาจดูเหมือนอัศวินประจำตัวองค์จักรพรรดิ  แต่ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น
    อัศวินสีชาดยุคใหม่จะเคลื่อนไหวภายใต้คำบงการจากจักรพรรดินี
    ดยุคแห่งดาบ  ลิมิต  กัปตันกองอัศวินสีชาด  มันจะทำตามพระประสงค์ของจักรพรรดินีแมรี่เท่านั้น

    อันที่จริง...เรื่องราวในตอนแรกมิได้ดำเนินด้วยทิศทางเช่นนี้
    ลิมิตเคยจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิฮวนเดอร์อย่างหาที่สุดมิได้  
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ในวันที่มันถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันกองอัศวินสีชาดอันยิ่งใหญ่
    แต่แล้ววันหนึ่ง...จักรพรรดิฮวนเดอร์กลับทรยศความรู้สึกของมัน

    ฮวนเดอร์ก่อตั้งหน่วยใหม่ขึ้น  
    เป็นกลุ่มขุนพลข้างกาย  ที่จักรพรรดิมอบความไว้วางใจในระดับสูงสุด
    หน่วยใหม่นี้ถูกจัดลำดับให้มีบรรดาศักดิ์สูงกว่ากองอัศวินสีชาดเสียอีก
    หน่วยที่ว่าก็คือ...ห้าเสาหลัก  
    แทนที่สองเสาหลักเดิม  ซึ่งเคยเป็นตำแหน่งของปิอาโร่และอัสโมเฟล
    
    นับแต่นั้น...ลิมิตได้หันหลังให้กับองค์จักรพรรดิตลอดมา

    "เมอร์เซเดส...จงเข้าเฝ้าฝ่าบาท  และทราบทูลทุกสิ่งที่เจ้ารู้สึกเกี่ยวกับราชาโอเวอร์เกียร์  พยายามโน้มน้าวให้ฝ่าบาททรงกริ้ว  จนถึงขั้นยกทัพทำลายอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ให้สิ้นซาก  ระหว่างนี้...จักรพรรดินีแมรี่จะได้มีเวลาแทรกแทรงการเมืองมากขึ้น"

    "ค่ะ"

    เมอร์เซเดสตอบรับคำสั่งอย่างนอบน้อม  ก่อนจะเดินออกมาเพื่อเตรียมเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิทันที
    ระหว่างการเดินทางบนหลังม้าสีขาว  เธอพยายามครุ่นคิดในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าตึงเครียด

    'ทางเลือกใดจะดีที่สุดสำหรับจักรวรรดิกันนะ...'

    การหลอกใช้องค์จักรพรรดิเช่นนี้  นับเป็นสิ่งดีแน่แล้วหรือ...
    การแก่งแย่งชิงดีของขั้วอำนาจภายใน 
    แต่ละฝ่ายล้วนทำทุกวิถีทาง  เพื่อให้องค์ชายฝ่ายตนขึ้นครองราชย์เป็นลำดับถัดไป
    เมอร์เซเดสกังวัลว่า...ในอนาคต  จักรวรรดิอาจถูกแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย
    
    ระหว่างนี้เอง...ใครบางคนกำลังจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด

    'เทพธิดาของฉัน!'

    มันคืออัศวินรับใช้ประจำตัวเมอร์เซเดส...สกาย
    สกายคือผู้เล่น...เป็นแร้งเกอร์ปกปิดตัวตน
    นับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว  สกายได้พยายามอย่างหนักเพื่อไต่เต้าตำแหน่งภายในจักรวรรดิ
    คลาสของมันคืออัศวิน  
    เมื่อไม่นานมานี้  สกายสามารถเข้าร่วมกองอัศวินทมิฬได้สำเร็จ
    ฝีมือของมันโดดเด่นจนกลายเป็นอัศวินข้ารับใช้ประจำตัวเมอร์เซเดสในที่สุด

    'ฉันจะยืนเคียงข้างเทพธิดาไปตลอดกาล!'

    มันฉีกยิ้มจนแก้มปริ
    เมอร์เซเดสคือสาวงามที่ทำให้ชายหนุ่มมากมายตกหลุมตั้งแต่แรกพบ  
    สกายหลงรักเมอร์เซเดสจนโงหัวไม่ขึ้น  
    เป็นความคลั่งไคล้ระดับเดียวกับที่ดาเมี่ยนมีให้อิสซาเบล
    ทว่า...มันมิใช่ความรักอันบริสุทธิ์

    'เทพธิดาเมอร์เซเดสเอ๋ย....ฉันจะเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์เอง'

    ***

    "สวัสดี...กริด"

    "หืม..."

    ที่นี่คือทวีปตะวันออก  อัตราส่วนของผู้เล่นมีเพียงน้อยนิด
    เรียกได้ว่า...เกินกว่า 99.9% เป็น NPC 
    ไม่เหมือนทวีปตะวันตก  ผู้คนที่นี่ไม่รู้จักกริดมากนัก...ไม่สิ  ไม่มีใครรู้จักเลยดีกว่า
    แต่ชายคนนี้กลับเดินเข้ามาทักทายด้วยสีหน้ามั่นใจ
    กริดรีบหันไปมองชายแปลกหน้าทันที  จากนั้น...ชายหนุ่มเหลือบไปเห็นชื่อตัวละครเหนือศีรษะ

    'มุโต้'

    ผู้เล่น...

    'ใช้ชีวิตอยู่บนทวีปตะวันออกได้...ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา'

    กริดพลันตื่นตัว  
    กลับกัน  มุโต้เดินปรี่เข้ามาใกล้โดยปราศจากความระแวง...สีหน้าของเขายิ้มแย้ม

    'น่าแปลกมาก...พวกแสร้งเป็นมิตรเช่นนี้  ส่วนใหญ่จะแฝงเจตนาไม่ดีไว้เสมอ'

    แม้จะเป็นความอคติ  แต่ก็ไม่ผิดนักที่กริดจะคิดเช่นนี้
    ซาทิสฟายไม่ใช่โลกบนทุ่งลาเวนเดอร์ที่เส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบ
    คงเป็นการยาก...ที่จะพบคนแปลกหน้าผู้มาพร้อมความจริงใจ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...คนที่ติดตามมุโต้มาด้วยด้านหลัง  พวกมันมีจำนวนมากถึงแปด

[ ดวงตาช่างตีเหล็ก ]

    นี่คือทักษะที่...หากจ้องมองนานกว่า 3 วินาที  ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบอุปกรณ์สวมใส่ของเป้าหมายได้บางส่วน  
    ด้วยเหตุนี้...กริดจึงทราบว่า  ทั้งแปดคนที่มากับมุโต้ล้วนเป็น NPC เลเวลสูงกว่า 280 

    'มีลูกน้องแข็งแกร่งจำนวนมากเช่นนี้...กะแล้วว่าต้องไม่ใช่ผู้เล่นธรรมดา'

    ขณะกริดกำลังระแวงหนัก  มุโต้กล่าวขึ้น

    "ตัวฉันไม่มีพลังต่อสู้หรอกนะ  เดินทางมายังทวีปตะวันออกได้ก็เพราะทักษะการพูด  ฉันเป็นพ่อค้า...เปิดบริษัทการค้ามุโต้ตามชื่อตัวเอง"

    "ใครก็โม้ได้ทั้งนั้น"

    กริดกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย  เขายังไม่คลายความระแวง
    มุโต้เกาศีรษะแกร่กอย่างจนปัญญา

    "ไม่เหมือนกับนายหรอกนะ  เลเวลของฉันไม่ติดอันดับแร้งเกอร์  แต่นายสามารถตรวจสอบรายชื่อของฉันได้จากอันดับพ่อค้า"

    "อา..."

    กริดรีบตรวจสอบอันดับพ่อค้า  ทันใดนั้น...เขาพลันต้องตกใจ
    มุโต้คือผู้เล่นอันดับสามของคลาสพ่อค้า!

    'ไม่ได้โกหกเรื่องก่อตั้งบริษัทสินะ...ถ้าจำไม่ผิด  ลอเอลเคยบอกให้ตีสนิทกับเหล่าพ่อค้าให้มาก  กลุ่มพ่อค้าจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ให้ดีขึ้น'

    ลอเอลกล่าวเสมอว่า  อาณาจักรจำเป็นต้องมีพ่อค้าจำนวนมาก
    แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะติดต่อกับผู้เล่นพ่อค้าสักคน   เพราะส่วนใหญ่จะทำการค้าภายในจักรวรรดิเสียมากกว่า
    และที่แย่ก็คือ...อาณาจักรโอเวอร์เกียร์เพิ่งเกิดใหม่และมีประชากรจำกัด
    จึงไม่เป็นที่น่าดึงดูดในสายตาของพ่อค้าเลยสักนิด

    'เพื่ออาณาจักรแล้ว...เป็นมิตรกับพ่อค้าไว้ก่อนแล้วกัน'

    กริดพยายามทำใจให้สงบ  ถึงกระนั้นก็มิได้ลดสมาธิลง
    ชายหนุ่มยื่นแขนออกไปจับมือมุโต้

    "ฉันคือกริด...ยินดีที่ได้รู้จัก"

    "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์!"

    ท่าทีสมกับเป็นพ่อค้า
    กริดเอ่ยปากถามมุโต้ต่อไป

    "คนกลุ่มนี้เป็นใคร"

    "นักรบรับจ้าง...ฉันจ้างพวกเขาเมื่อเดินทางมาถึงทวีปตะวันออก  ก็อย่างที่นายรู้...มอนสเตอร์ที่นี่โหดร้ายมาก  นักรบรับจ้างของทวีปตะวันตกห่วยแตกเกินไป  พวกเรามีแผนจะเดินทางไปเมืองคาราสึ  นายก็ด้วยรึเปล่า"

    "ถูกต้อง...ว่าแต่  นายไปคาราสึทำไม"

    "มีแผนจะเข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งโช...ฉันต้องการแลกเปลี่ยนสินค้ากับอาณาจักร"

    "กษัตริย์แห่งโช..."

    สีหน้าของกริดพลันดำมืด
    ภารกิจของตนคือการช่วยเหลือสองพ่อลูกฮานออกมาอย่างปลอดภัย
    บางที...อาจเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเป็นศัตรูกับกษัตริย์แห่งโช 
    
    เมื่อมุโต้เห็นสีหน้าตึงเครียดของกริด  เขาพลันอมยิ้ม

    "นายมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับกษัตริย์แห่งโชสินะ  น่าแปลกมาก...ฉันคิดว่านายจะไปคาราสึเพราะต้องการสานสัมพันธ์กับอาณาจักรโชเสียอีก"

    "ก็อยากจะทำแบบนั้นอยู่หรอก...แต่สถานการณ์ไม่อำนวยนัก"

    ในอนาคต...กริดอาจถึงขั้นลงมือกับกษัตริย์แห่งโช
    ชายหนุ่มมิอาจเล่าความจริงทั้งหมดให้มุโต้ฟังได้  
    ชายคนนี้ยังไม่สนิทใจพอให้เล่า
    มุโต้เริ่มเปลี่ยนเรื่อง  สายตาของเขาหันไปมองทางไอดานและหยางเฟย

    "พวกเขาเป็นใครหรือ...นับเป็นสหายร่วมทางที่แปลกมาก"

    แทนที่จะเป็นนักรบสุดแกร่ง...
    บนทวีปตะวันออกอันแสนโหดร้าย  กริดกลับเลือกเพื่อนร่วมทางเป็นชายแก่และหญิงสาว
    นอกจากกริด...คงไม่มีผู้เล่นคนใดกล้าทำเช่นนี้อีกแล้ว
    มุโต้จ้องมองกริดด้วยสายตาชื่นชม
    ชายหนุ่มเริ่มอธิบาย

    "คนหนึ่งคือพ่อครัวประจำตัว  ส่วนอีกคนคือนักชงชาประจำตัว"

    "สุดยอด..."

    จะมีผู้เล่นสักกี่คนบนโลก...ที่เดินทางไปไหนมาไหนพร้อมพ่อครัวและนักชงชาส่วนตัว
    อาจมีคนร่ำรวยที่จ้างพ่อครัวร่วมทางก็จริง...แต่กับนักชงชาแล้ว  กรณีนี้ออกจะพิเศษสักหน่อย

    'สมกับเป็นกษัตริย์...อยู่คนละมิติกับเราเลย'

    แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่า...อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังอยู่ในภาวะยากจน
    แต่ไม่ได้หมายความว่ากริดต้องยากจนตามไปด้วย
    ชายคนนี้คือผู้ก่อตั้งอาณาจักรด้วยเงินทุนมหาศาล  จึงไม่แปลกที่เขาจะใช้ชีวิตหรูหรา

    'ต้องตีสนิทให้มากที่สุด!'

    ในมุมมองพ่อค้า...การตีสนิทกับคนรวยถือเป็นสิ่งปรกติ
    โดยเฉพาะคนรวยระดับราชาอาณาจักร!
    มุโต้จ้องมองกริดด้วยแววตาเปล่งประกาย
    
    "กินอะไรสักหน่อยไหม"

    พ่อครัวไอดานยื่นอาหารชามหนึ่งให้มุโต้
    เป็นชามซุป

    "ฉันกินได้ด้วยหรือ"

    "ยังเหลือพอสำหรับหลายคน"

    "ด้วยความยินดี!"

    ใครจะปฏิเสธของฟรีกัน...
    มุโต้ปลามปลื้มน้ำใจจากไอดาน  เขารับชามซุปด้วยความเต็มใจ
    ขณะเดียวกัน...กลิ่นอันพิสดารของอาหาร  ได้พุ่งเสียดแทงรูจมูกมุโต้อย่างรุนแรง
    แต่มุโต้ก็มิได้แยแส  ค่าเรี่ยวแรงของตนกำลังเหลือน้อย  อาหารคือสิ่งจำเป็น
    จากนั้น...มุโต้ก็ได้สัมผัสขุมนรกที่แท้จริง

[ ท่านทานในสิ่งที่มนุษย์ไม่ควรกลืนลงท้อง ]
[ ท่านได้รับพิษ (รุนแรง) ]
[ พลังชีวิตจะลดลง 1,840 หน่วยทุก 1 วินาที  ผิวหนังของท่านเริ่มเน่าเปื่อย ]

    "เชี่ย!"

    โอ๊กกกกก~

    เป็นประสบการณ์เฉียดตายที่พ่อค้าอย่างเขาไม่เคยพานพบมาก่อน
    มุโต้สัมผัสได้ถึงความตายในทุกลมหายใจเข้าออก  
    เขารีบกลืนยาถอนพิษชั้นเลิศราคาสูงลิบลงคอทันที
    มันแพงยิ่งกว่ามูลค่าของอาหารหนึ่งมื้อเสียอีก
    
    "อ--อะไรกัน...!"

    หรือกริดพยามลอบสังหารตน...!
    มุโต้รีบหันไปมองหน้ากริด...ไม่ใช่!
    ทันใดนั้น

    "นายก็เป็นอีกคนที่ลิ้นไม่ถึงสินะ...จุ๊จุ๊  ดันไม่รู้จักอาหารที่แท้จริงเสียได้"

    "..."

    ไม่ได้ผิดที่กริด  แต่สาเหตุเกิดจากพ่อครัวบัดซบนี่!
    มุโต้รีบหันไปมองกริดพร้อมกับยิ้มชืดอย่างเวทนา

    'การจ้างพ่อครัวส่วนตัวที่มีรสมือราวกับจ้าวแห่งพิษเช่นนี้  หมายความว่า...ต่อมรับรสของกริดคงพิการตั้งแต่กำเนิดสินะ'
    
    ชายคนนี้คงเกิดมาลิ้นพิการ...ไม่เคยลิ้มลองอาหารรสเลิศเลยสักครั้ง
    ช่างน่าสงสาร...มุโต้เวทนากริดจับใจ

    "หากนายไม่ว่าอะไร...เดินทางไปกับพวกเราไหม  แม้จุดประสงค์ในการเดินทางไปยังเมืองคาราสึจะต่างกัน  แต่ก็นับเป็นปลายทางเดียวกัน  ฉันว่าพวกเราเป็นสหายร่วมทางที่ดีต่อกันได้  แถมฉันยังยินดีเป็นพิเศษ  ที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดคนอย่างนาย"

    "ตกลง...แต่ฉันจะไม่ตั้งปาร์ตี้  ฉันไม่ชอบแบ่งค่าประสบการณ์กับใคร"

    "ไม่มีปัญหา"

    "แต่ว่า...หากนายตั้งให้หัวหน้าปาร์ตี้เก็บไอเท็มดรอปทั้งหมด  บางทีฉันอาจเปลี่ยนใจยอมตั้งปาร์ตี้กับนายก็ได้...เหล่านักรบของนายมีหน่วยก้านค่อนข้างดี"

    "...ขอผ่าน"

    "คิดปฏิเสธน้ำใจจากฉันหรือ"    

    "..."

    "ก็ได้  ก็ได้...งั้นฉันจะแบ่งไอเท็มอย่างเท่าเทียมภายหลัง"

    "...เข้าใจแล้ว  หวังว่ากษัตริย์ของอาณาจักรจะไม่เอาเปรียบพ่อค้านะ..."

    "..."

    คนทั้งสองร่วมทางกันนานถึงห้าวันเต็ม  จนกระทั่งพวกเขามาถึงเมืองคาราสึ
    ระหว่างทาง  กริดและมุโต้สนทนาอย่างสนุกสนาน  
    กริดพยายามตีสนิทผู้เล่นพ่อค้าตามคำแนะนำของลอเอล  ส่วนมุโต้ก็ชื่นชอบในวิสัยทัศน์ของกริดในการพัฒนาอาณาจักร
    ลงเอยด้วย...

    "บริษัทการค้ามุโต้ของฉัน...เข้าไปทำธุรกิจภายในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ได้ไหม"

    ทุกสิ่งกำลังดำเนินไปในทิศทางที่กริดมุ่งหวัง
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ชายหนุ่มได้เรียนรู้สิ่งใหม่จากปากมุโต้
    ประการแรก  ผู้เล่นสามารถเดินทางระหว่างทวีปได้โดยไม่ต้องใช้ม้วนคาถา
    ประการที่สอง  เศรษฐกิจของจักรวรรดิใหญ่โตกว่าที่กริดจินตนาการไว้มาก
    ประการที่สาม  ผู้เล่นทั่วไปที่ไม่มีค่าต้านทานพิษ  หากกินอาหารของไอดานอย่างต่อเนื่อง  พวกเขาจะได้รับค่าต้านทานพิษเพิ่มขึ้น  จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะที่ร่างกายไม่ติดพิษอีกต่อไป

    นับเป็นความสัมพันธ์ที่ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

Comments

  1. ถือเป็นเรื่องที่ดี

    ReplyDelete
  2. กินจนต้านทานพิษ 555

    ReplyDelete
  3. ไอ้ข้อสามนี่รู้เลยว่ากริดจะเอาไปใช้ประโยชน์ยังไง

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00