จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 537



       สมบัติลับ  สมุนไพรหายาก  และยุทธภัณฑ์สงครามชั้นเลิศ  ทั้งหมดสามารถหาได้จากดันเจี้ยนลับแพงเจีย 
       โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบด้ายเงินซึ่งผลิตจากมอนสเตอร์เกราะหนาม  พวกเขาเรียกดันเจี้ยนแพงเจียว่าเป็นเกาะสวรรค์
       ดินแดนที่ทุกคนหมายปองอยากเข้าไปสำรวจ!

       อัศวินและทหารของแพงเจียต่างเหนื่อยหน่ายใจกับเรื่องนี้มาก  
       ดันเจี้ยนใต้ปราสาทเนี่ยนะแดนสวรรค์
       ดินแดนแห่งโอกาสทองบ้าบออะไรกัน  
       คนพวกนี้ไม่ได้รู้อะไรเลยสักนิดเดียว  แท้จริงแล้ว  ดันเจี้ยนแพงเจียคือสถานที่เลวร้ายที่สุดบนโลก  ด้านในอัดแน่นไปด้วยมอนสเตอร์อัปลักษณ์และแข็งแกร่ง

       ไม่ว่าจะวันนี้หรือพรุ่งนี้
       อัศวินและทหารของแพงเจียต้องคอยออกสำรวจปราบปรามมิให้มอนสเตอ์ใต้ปราสาทก่อความวุ่นวายกับแพงเจีย
       พวกเขากำลังเสี่ยงชีวิตอย่างยากลำบาก  แต่ตอนนี้กลับมีพวกละโมภคิดสำรวจดันเจี้ยนเพียงเพราะอยากร่ำรวย
       นักสำรวจที่ไร้ฝีมือต่อสู้  เป็นได้เพียงภาระอันหนักอึ้งคอยถ่วงแข้งขา  
       ตัวอย่างเช่น  ช่างตีเหล็กสองคนนี้เป็นต้น

       'ช่างตีเหล็กพวกนี้ไม่รู้จักละอายบ้างเลยรึไง'

       กริดและไวท์เดินมาถึงพร้อมกับฮานซอกบง  
       ในสายตาอัศวิน  ช่างตีเหล็กผู้ชนะการแข่งของทุกปีล้วนเป็นศัตรูที่น่ารังเกียจ
       พวกเขาล้วนเกลียดชังช่างตีเหล็กที่มองว่าการสำรวจดันเจี้ยนเป็นเรื่องง่าย  ทั้งที่ทหารทุกคนต้องหลั่งเลือดอย่างเหน็ดเหนื่อยเจียนตาย
       ท่ามกลางบรรยากาศอึดอัด  บุตรสาวของฮานซอกบง  ซูเอ*  ก้าวออกมาด้านหน้า

( 수애 - ออกเสียงว่า Soo-Ae  ) 

       "ท่านพ่อ"

       "โอ้! ซูเอเองหรือ"

       ซูเอนั้นงดงามมาก  เธอคู่ควรกับการถูกขนานนามว่า  งดงามอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรโช
       แต่เหนือสิ่งอื่นใด  เธอทั้งสุภาพ  อ่อนน้อม  เฉลียวฉลาด  และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้  ฮานซองบงมักอวดโอ่ความสำเร็จของบุตรสาวให้ผู้อื่นฟังเสมอ
       แถมเธอยังเป็นหัวหน้าหน่วยสำรวจดันเจี้ยน  <ฟินิกซ์แดง>
       
       ในสายตากริด  ซูเอดูคล้ายนักแสดงซีรีส์เกาหลีย้อนยุค  เส้นผมสีดำขลับม้วนเป็นมวยด้านหลังและมีปิ่นปักไว้  เครื่องแต่งกายก็หรูหราราคาแพงสมฐานะ
       
       'น่ารักฉิบ...'

       กริดอดชื่นชมซูเอมิได้  
       ความงามของเธอนับว่าหายากยิ่ง

       กริดเป็นใครกัน
       เขาคือสามีของไอรีน  แถมยังเป็นเพื่อนสนิท(?) กับสองหญิงสาวที่งดงามที่สุดของโลก  อย่างยูร่าและจิสึกะ  
       ชายหนุ่มยังมีน้องสาวสุดน่ารักอีกหนึ่งคนอยู่ข้างกาย
       หรืออีกความหมายหนึ่ง  กริดคือชายที่ชาชินกับหญิงงามมากที่สุด
       เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นสักเท่าไรในยามได้พบหญิงสาวหน้าตาดี
       
       แต่ทันทีที่ได้พบซูอาเป็นหนแรก  ชายหนุ่มถูกสะกดอย่างจังราวต้องมนตร์
       ริมฝีปากอวบอิ่มและดวงตาเปล่งประกาย  สองสิ่งนี้ทำให้กริดแทบใจละลาย
       
       'ไม่สิ… มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง...'       

       เป็นเพราะทั้งสองคนคือชาวเอเชียเหมือนกันงั้นหรือ...
       กริดเปรียบเทียบซูเอกับยูร่า  มิใช่จิสึกะหรือไอรีน
       ด้วยความงดงามที่สะกดสิ่งรอบข้างจนอยู่หมัด  ยูร่าจะเปลี่ยนให้บรรยากาศรอบตัวเธอหมองหม่นลงกลายเป็นสีขาวดำ
       หากยูร่าเปรียบดั่งบุปผาบานสะพรั่ง  ซูเอจะเป็นราวกับแสงจันทร์นวลผ่องยามค่ำคืน

       ซูเอให้บรรยากาศเย็นชา  แต่ด้วยความพิเศษบางอย่าง  นั่นกลับยิ่งทำให้ต่อมราคะของกริดถูกกระตุ้นอย่างแปลกประหลาด
       จะเป็นเพราะต้นคอที่ขาวนวลนั่นรึเปล่านะ...

       กริดมิอาจปฏิเสธ  แต่ยังมีสิ่งอื่นนอกจากต้นคอขาวหิมะของซูเอ  ที่กำลังรบกวนจิตใจเขาอยู่อย่างหนัก
       ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงเสน่ห์เย้ายวนไม่ธรรมดาซึ่งแผ่จากร่างกายเธอ  แม้จะเปี่ยมไปด้วยออร่าสง่างามรอบตัวในเวลาเดียวกันก็ตาม

       'หรือว่า...'
       
       กริดตระหนักได้ถึงบางสิ่ง  ซูเอน่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตน  
       ซึ่งแตกต่างจากยูร่าที่เด็กกว่าเล็กน้อย  ซูเอคือหญิงสาวที่มีบรรยากาศรอบกายสุขุมและโตเป็นผู้ใหญ่กว่ามาก
       
       'ถ้ายูร่าโตกว่านี้อีกสักสองสามปี  เธอจะกลายเป็นแบบซูเอรึเปล่านะ'
       
       ถึงขนาดหน้าอกยูร่าจะยังไม่ถูกสเปคเขาก็เถอะ

       'คงน่าเสียดายแย่  หากยูร่าเลือกศัลยกรรมเสริมหน้าอก'

       ขณะกำลังดำดิ่งอยู่ในห้วงความคิด  กริดถูกขัดจังหวะ

       "เตรียมตัวออกสำรวจเสร็จแล้วหรือ"

       "ถูกต้อง  พวกเราทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว"

       "ได้ยินจากกัปตันฮอรัง  พวกมอนสเตอร์เพิ่มความเร็วในการขยายอาณาเขตมากขึ้นงั้นหรือ... พ่อชักเป็นกังวล  หน่วยฟินิกซ์แดงจะทนได้อีกนานแค่ไหนกัน"

       "พวกเรารู้ดี  หากหน่วยฟินิกซ์แดงจบสิ้น  นั่นจะถึงคราวจบสิ้นของแพงเจียด้วย  แต่ท่านพ่อไม่ต้องห่วง  พวกเรามีตารางเวลาทำงานรัดกุม  สุขภาพของทุกคนแข็งแรงดี"

       ฮานซอกบงและซูเอกำลังถกเรื่องเครียด
       หากฟังจากเนื้อหา  มอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนกำลังขยายอาณาเขตและเป็นภัยต่อแพงเจีย

       'พวกเขามิอาจขอความช่วยเหลือจากภายนอกได้  ส่วนหนึ่งเพราะถูกชุมชนมอนสเตอร์ทางเหนือปิดกั้นการสื่อสารกับโลกภายนอกสินะ'

       กริดเกิดคำถามทันที

       'แล้วพวกยังบันไม่คิดทำอะไรเลยรึไง...'

       คนเหล่านั้นมีความแข็งแกร่งระดับตำนาน  แถมอาณาจักรฮวานก็ยังมีความสันพันธ์อันดีกับอาณาจักรโช  
       เพราะคันศรฟินิกซ์แดงต้นแบบ  อาณาจักรฮวานได้เป็นผู้มอบให้อาณาจักรโชด้วยตนเอง  กริดจึงไม่เข้าใจเลยสักนิด  ทำไมยังบันของอาณาจักรฮวาน  ถึงไม่ยื่นมือเช้าช่วยเหลือในยามที่แพงเจียกำลังเดือดร้อน

       'คงเป็นงานง่ายสำหรับยังบัน  ในการกวาดล้างชุมชนมอนสเตอร์ทางทิศเหนือ  รวมถึงมอนสเตอร์ดุร้ายใต้ปราสาทแพงเจีย'

       แล้วทำไมพวกยังบันถึงยังนิ่งเฉย

       'ช่างเถอะ  นั่นดีกับเราแล้ว'

       ด้วยเหตุนี้  กริดจึงมีโอกาสสำรวจดันเจี้ยนแพงเจีย  จุดเก็บเลเวลชั้นเลิศ  
       ชายหนุ่มกำลังฉีกยิ้มกว้างถึงใบหู
       ขณะเดียวกัน  เขาก็พยายามหลบหน้าซูเออยู่  เพราะทุกครั้งที่จ้องมองเธอ  กริดจะเกิดอาการหน้าแดงก่ำอย่างควบคุมไม่ได้  จิตใจสับส่วนปั่นป่วน  ไฟราคะในกายลุกโชนวูบวาบ  
       หลังจากความผิดหวังใหญ่หลวงกับรักแรก  อาฮยอง  กริดก็หวาดกลัวที่จะมีปฏิสัมพันธ์ใดกับหญิงอื่นนอกจากภรรยา

       "ฉันอยากเข้าสำรวจดันเจี้ยนด้วยคน"

       แทนที่จะเป็นฮานซอกบง  คนที่ตอบคำถามกริดกลับเป็นซูเอ

       "ขอถามได้ไหม  ว่านายต้องการสำรวจดันเจี้ยนไปเพื่ออะไร"

       รอยยิ้มซูเอช่างกระชากใจเสียเหลือเกิน  กริดหน้าแดงทันทีเมื่อทั้งสองประสานสายตา  ชายหนุ่มพยายามข่มความรู้สึกให้มิดชิด

       "ฉันต้องการด้ายเงิน"

       "นายรู้รึเปล่าว่าต้องทำอย่างไรถึงได้ครอบครองด้ายเงิน... อ้อ!  จริงสิ  ขอโทษที่เสียมารยาท  ฉันชื่อฮานซูเอ  เป็นกัปตันหน่วยสำรวจฟินิกซ์แดง  และยังเป็นผู้สั่งการสูงสุดของทีมสำรวจคราวนี้  ขออภัยที่แนะนำตัวล่าช้า"

       ซูเอก้มศีรษะเล็กน้อยตามมารยาท  จากนั้นก็เดินเข้ามาขอกริดจับมือ  แต่กริดมิไม่มีกะจิตกะใจจะทำเช่นนั้น  ไม่สิ  เขาไม่ต้องการทำมัน  ชายหนุ่มไม่อยากให้พลังความชำนาญมือที่ตนผนึกไว้  แสดงออกมาในสถานที่เช่นนี้  และกับเธอคนนี้
       ใบหน้ากริดแดงก่ำราวผลแครอท  แดงไปจนถึงใบหู  เขาพยามหลบหน้าซูเอสุดความสามารถ        
       ทันใดนั้น  ดวงตาสีดำสนิทของซูเอพลันส่องประกายแปลกประหลาด

       'ผู้ชายคนนี้...'

       ไม่ผิดแน่  ชายคนนี้ไม่เคยมีประสบการณ์กับหญิงสาวมาก่อน  ซูเอมองว่าช่างน่าขบขันและน่าสนใจ
       เจ้าไก่อ่อน!
       แต่ก็เพียงแค่นั้น  เธอมิได้สนใจในตัวกริดเป็นพิเศษ

       "ได้ยินมาว่า  นายสามารถสร้างคันศรฟินิกซ์แดงขึ้นใหม่สำเร็จสินะ  ขอแสดงความยินดี  ฉันเป็นตัวแทนชาวเมืองแพงเจียเพื่อตอบแทนน้ำใจอันยิ่งใหญ่นั้น  ตัวอย่างเช่น  ฉันจะมอบด้ายเงินให้นายแทนคำขอบคุณ  ตกลงไหม"

       "...!"

       กริดตาลุกวาวทันทีเมื่อได้ยินว่าซูเอจะมอบด้ายเงินให้เป็นของขวัญ  ถือเป็นของรางวัลมูลค่าสูงลิบจนน่าตกใจ
       ทว่า  ช่างตีเหล็กทั้งสองคนตั้งใจหนักแน่นมาตั้งแต่ต้นแล้ว  พวกเขาจึงไม่คิดเปลี่ยนใจ

       "ไม่เป็นไร  เดี๋ยวฉันจะลงไปรวบรวมด้ายเงินด้วยตนเอง"

       กริดอยากสัมผัสดันเจี้ยนใหม่ที่จะมอบค่าประสบการณ์มหาศาล  แถมเขายังต้องการช่วยไวท์แก้แค้นให้พ่อ  กริดหวังสังหารเกราะหนามให้ได้มากที่สุด  
       ชายทั้งสองกำลังลุกโชนด้วยไฟแห่งการต่อสู้

       "หนทางเดียวที่จะรวบรวมด้ายเงิน  คือการสังหารเกราะหนาม  แต่มอนสเตอร์เกราะหนามนั้นแข็งแกร่งมาก  มีผู้คนมากมายต้องสละชีวิตให้มัน  และหนึ่งในนั้นคือดาไวท์"

       "..."

       "เป็นไปไม่ได้เลยที่นายจะล่าเกราะหนามสำเร็จโดยไม่ใช่คลาสนักรบ  หรือต่อให้ร่วมทางกับไปพวกเรา  ด้านในก็ยังเต็มไปด้วยอันตรายอยู่ดี  น่าเสียดายที่ฉันคงให้นายผ่านเข้าไปไม่ได้"

       "ลอร์ดเป็นคนพูดเองว่า  หากฉันทนรับการโจมตีของผู้เฝ้าประตูได้  จะให้ฉันลงไปด้านล่าง"

       ใบหน้าซูเอกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว

       "ผู้เฝ้าประตูมิใช่คนธรรมดา  เขาคือเป็นสมาชิกของชนเผ่าอัง  แม้จะมิได้เชี่ยวชาญศิลปการต่อสู้  แต่ค่าพลังทางกายภาพกลับสูงลิบตั้งแต่เกิด  ชนิดที่พวกนายไม่มีทางจินตนาการออก  นายอยากรับการโจมตีจากผู้เฝ้าประตู  ซึ่งมีพลังทำลายระดับเดียวกับเกราะหนามจริงหรือ  อย่าเจ็บตัวฟรีเลยน่า  ตัดใจเสียเถอะ"

       'ชนเผ่าอัง...'

       ผู้เฝ้าประตูที่ยืนอยู่ข้างบ่อน้ำ  เขามีส่วนสูงเกินกว่าสองเมตร  ร่างกายมโหฬาร  ไม่ใช่เพราะอ้วน  แต่เป็นเพราะชนเผ่าอังล้วนมีร่างกายเหนือมนุษย์เช่นนี้อยู่แล้ว

       'ลองดูสักตั้ง'

       กริดยักไหล่

       "อย่าห่วงเลย  ฉันทนได้สบายมาก"

       กริดพยายามเยือกเย็นให้มากที่สุด 
       ถึงกระนั้น  ภายในใจกำลังกระอักกระอ่วนเพราะไม่กล้าสบตาซูเอโดยตรง  
       เธอคือศัตรูตามธรรมชาติของกริดอย่างแท้จริง

       ซูเอเย้ยหยันกริดในใจ
       'ศักดิศรีของผู้ชายไก่อ่อนสินะ... ช่างน่าสมเพช'

       ความมั่นใจที่ผิดเพี้ยนสามารถนำพาผู้คนไปสู่หายนะ

       'หมอนั่นไม่มีวันจินตนาการออกแน่'

       ฮานซอกบงถอนหายใจเล็กน้อย  จากนั้นก็กระซิบกระซาบข้างหูซูเอ

       "เขาคือผู้มีพระคุณของแพงเจีย  ถือว่าพ่อขอร้อง  ให้เขาได้ทดสอบสักครั้งเถอะ"

       "ขอปฏิเสธ  เป็นผู้มีพระคุณแล้วยังไง  มันคุ้มกันหรือหากเขาเป็นอะไรไป"

       "ลองมองชุดเกราะที่เขาสวมสิ  ภายนอกดูแข็งแกร่งไม่น้อย  แม้อาจใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ  แต่อย่างน้อยก็คงไม่ถึงตาย  แถมพ่อยังแอบบอกให้ชาวอังคนนั้นใช้พลังแค่ 30%"

       "..."

       จริงด้วย  หากพิจารณาให้ละเอียด  ชุดเกราะของชายคนนี้ดูทนทานเป็นพิเศษ  
       นี่คือชุดเกราะที่สร้างโดยการนำแผ่นเหล็กขนาดเล็กมาซ้อนทับเรียงร้อยกันจนคล้ายกับเกล็ดมังกรดำ  
       นับเป็นงานศิลป์ที่งดงามและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน

       "10% ก็พอ  ไม่อย่างนั้น  เขาคงหมดสติไปเป็นสัปดาห์"

       "นั่นก็ได้  พวกเราแค่ต้องการให้เขารู้รับว่า  บางครั้งก็ไม่ควรมั่นใจตนเองเกินไป"

       หงึก

       ซูเอนำทางกริดและไวท์ไปหาผู้เฝ้าประตูชาวอัง  
       ผู้เฝ้าประตู  ชายคนนี้ไม่สนว่าลอร์ดจะนำแขกพิเศษขนาดไหนมาด้วย  เขาเพียงหาวอย่างเบื่อหนายพร้อมกับหันไปมองภูเขาซึ่งอยู่ไกลออกไป

       "อะไรนะ"

       ซูเอกระซิบคุยกับชาวอัง  ชายร่างยักษ์เกาศีรษะเล็กน้อยด้วยสีหน้าอย่างสับสน

       "โจมตีใส่พวกเขา  ใช้พลังเพียง 10%"

       "เข้าใจแล้ว"

       ชาวอังพ่มลมหายใจฟืดฟัดทางจมูกประหนึ่งกระทิงดุ  จากนั้นก็ง้างกำปั้นไปด้านหลัง
       
       "เตรียมเคลื่อนย้ายคนเจ็บไปห้องพยาบาล!"

       ซูเอหันไปออกคำสั่งกับหน่วยฟินิกซ์แดง

       เปรี้ยงงงงงง~!

       กำปั้นของชาวอังปะทะใส่ท้องกริดอย่างจัง  เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมคลื่นกระแทกเป็นวงกว้างเมื่อกำปั้นและโลหะกระทบกัน

       "นี่มัน...!"       

       ซูเอถึงกับผงะ  ใบหน้าของเธอขาวซีด  
       ดูเหมือนชาวอังจะฟังผิด  เขาใช้พลังไปเกินกว่า 50% เสียอีก!

       "ไม่นะ!!"

       ฮานซอกบงหน้าซีดเผือด  
       ผู้มีพระคุณของแพงเจีย  ช่างตีเหล็กอัจฉริยะที่สามารถสร้างคันศรฟินิกซ์แดงขึ้นมาใหม่  ชายคนนั้นกลับต้องตายต่อหน้าตนเพราะความผิดพลาดในการออกคำสั่ง

       "โหวกเหวกอะไรกัน..."

       ขณะหน่วยฟินิกซ์แดงกำลังหน้าซีด

       หงึกหงึก!  หงึกหงึก!

       กำปั้นชาวอังที่คาอยู่ตรงท้องกริดเริ่มสั่นระริกหงึกหงัก

       "...เอ๋!"

       ฮานซอกบง  ซูเอ  และหน่วยฟินิกซ์แดงทุกคนต่างตะลึงจนอ้าปากค้าง

       'ได้ยังไง...'

       'ชาวอังกำลังแสดงสีหน้าเจ็บปวด...'

       ถูกต้อง  ใบหน้าที่ใหญ่ยักษ์ของชาวอัง  บัดนี้กำลังแสดงอาการเจ็บปวดแสนสาหัส  เหงื่อไหลเม็ดเป้งหยดไหลตามตัว  ใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ  
       กลับกัน  กริดยังคงสบายดี  สีหน้าของเขาสงบนิ่งเช่นเดิม

       'เป็นไปไม่ได้!'

       ฮานซอกบงและซูเอยังคงอยู่ในภวังค์ตกตะลึง
       ทั้งสองคาดว่าจะได้เห็นลำไส้ระเบิดออกจากร่าง  กระดูกถูกป่นเป็นผง  หรืออะไรแบบนั้น 
       แต่กริดกลับยังสบายดี...
       ชุดเกราะของชายคนนี้ยอดเยี่ยมขนาดนั้นเชียว
       ขณะที่ฮานซอกบงและซูเอกำลังทึ่ง  มีใครบางคนพูดขึ้น

       "ถ้ามีพลังป้องกันขนาดนี้ล่ะก็  เขาต้องรอดจากการโจมตีของเกราะหนามแน่!"

       กริดได้รับสิทธิ์เข้าสำรวจดันเจี้ยนอย่างเป็นทางการทันที  
       แต่ยามนี้  ภายในใจของเขาพลันตื่นตระหนกอย่างหนัก
       เพราะอะไรน่ะหรือ...

[ ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง ]
[ <สามชั้น> ลดความเสียหายทางกายภาพลง 30% ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 2,303 หน่วย ]

       กำปั้นของชาวอังมิได้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่การแทงหรือการฟัน  ความเสียหายที่เกิดขึ้นจนลดทอนไม่หมด  สามชั้นไม่ได้แสดงผลอย่างเต็มประสิทธิภาพนัก  
       แต่สิ่งที่กริดตกตะลึงก็คือ  หากนี่เป็นเพียงการโจมตีด้วยพลัง 10% จากชาวอัง  หมายความว่า  มอนสเตอร์เกราะหนามย่อมเป็นปีศาจที่มีพลังทำลายมหาศาลยิ่งกว่านี้หลายเท่า

       'เกราะหนาม... มันแข็งแกร่งกว่าที่เราคิดไว้อีกหรือ'

       ราวกับเป็นบอสขนาดย่อมมากกว่ามอนสเตอร์ทั่วไป  หากปรากฏตัวพร้อมกันเป็นจำนวนมากละก็  การรับมือทุกทางย่อมไม่ใช่เรื่องฉลาด

       'ในดันเจี้ยนที่เล็กและแคบ  เราคงใช้งานหัตถ์เทวะได้ไม่เต็มที่'

       นี่คือสนามรบซึ่งต้องใช้ฝีมือควบคุมสูงลิบ  ทำให้กริดเริ่มตึงเครียด  
       แต่ยามนี้  ไวท์กลับกำลังหน้าขาวซีดสมชื่อ  เขาประหลาดใจอย่างมากเมื่อได้เห็นกำปั้นของชาวอังเกิดบาดแผลลึก

       "เอ่อ... ฉันขอถอนตัว"

       ไวท์คิดว่า  ตนควรหาทางแก้แค้นบิดาด้วยวิธีอื่น  
       ใช่แล้ว  ไวท์เป็นคนฉลาด

Comments

  1. สงสารไวท์จัง แต่ดีแล้วและที่ตัดสินใจถอนตัว เพราะหลังจากนี้คิดว่าพระเอกจะต้องฉายเดียว แน่นอน และ สมยานามดยุคแห่งคุณธรรมแพงเจีย อาจจะแสดงผล คิดเองเออเองแล้วเรา 😂😂😂 รออิน จนจิตนาการไปเองก่อนแล้ว

    ReplyDelete
  2. ทำไมเรื่องนี้ตั้งแต่อ่านมาชอบดูถูกคนจนเกินพอดี

    ReplyDelete
    Replies
    1. เกินพอดียังไง.....ซูเอะบอกริดเป็นไก่อ่อน......

      แต่พอเจอพลังนิ้วเข้าไป......ขอเป็นเมียรองเลย

      มันน่าจะเป็นมุกมากกว่า คิดมาก

      Delete
    2. ไม่อะไรหรอก แต่มุกมันไม่ขำไง มันน่ารำคาญมากที่เจอกันครั้งแรกแต่ทำตัวแบบนี้ แถมความคิดยังน่าขยะแขยงด้วย รังเกียจผู้หญิงแบบนี้้สุดๆ

      Delete
  3. แล้ว500ที่เอ็งจ่ายไปล่ะไวท์

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00