จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 529



"..."

กริดตกตะลึงเพราะฝูงชนที่คราคร่ำตามท้องถนน  บัดนี้ทุกคนพร้อมใจกันคุกเข่าลง  
ประชากรเรือนหมื่นของแพงเจีย  
บรรยากาศรื่นเริงเมื่อครู่กลับเงียบสงัดราวหนูตาย  นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำรับกริด

'แพ็กม่า...'

ต้นตอของความเงียบงันทั้งหมด!
กริดขนลุกซู่เมื่อได้เห็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่ใจกลางถนน  เมื่อพวกมันเดินผ่านหน้า  ผู้คนต่างก้มกราบลงกับพื้นอย่างนอบน้อม  ทั้งหมดล้วนสวมชุดนักพรตสีน้ำเงิน  เส้นผมพวกมันสีดำเงางาม  มัดรวบปล่อยยาวด้านหลัง  
เป็นภาพลักษณ์แบบเดียวกับแพ็กม่าที่แรนดี้ในป่าปริศนาเคยก็อบปี้ไม่มีผิดเพี้ยน

'คนพวกนี้เป็นใคร...'

ชายที่สวมชุดนักพรตล้วนมีใบหน้าหล่อเหลางดงาม  
เหตุใดพวกเขาถึงคล้ายแพ็กม่านักนะ  แล้วเหตุใดผู้คนถึงต้องคำนับอย่างนอบน้อมเช่นนี้
ทันใดนั้น  ใครบางคนได้สะกิดขากริด  เป็นเอ็นพีซีธรรมดาทั่วไป  ชายคนดังกล่าวกำลังคุกเข่าก้มกราบกับพื้นด้วยร่างกายสั่นระริก  เขาไม่เงยหน้ามอง  ดูราวกับไม่ต้องการเป็นจุดสนใจของกลุ่มชายสวมชุดนักพรต

"ไม่กราบยังบัน*  นายยังสติดีอยู่รึเปล่า!  คิดว่าตัวเองมีสิบชีวิตรึไง!"

( ในราชวงศ์เก่าแก่ของเกาหลี - ยังบัน (양반/兩班) คือลำดับชั้นของยอดพีระมิด ได้แก่กษัตริย์ ขุนนาง ปราชญ์ขงจื้อต่างๆ รวมไปถึงนักรบ  
กล่าวคือ ยังบัน양반 แบ่งเป็นสองชนชั้น ประกอบด้วย มุนบัน(문반/文班)คือ บรรดาขุนนาง นักปราชญ์ทั้งหลาย และมูบัน(무반/武班)คือ บรรดาขุนนาง นักรบทั้งหลาย ชนชั้นนี้จะมีสิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของการปกครองบ้านเมือง และลูกหลานของยังบันเท่านั้นที่จะสามารถสอบควากอ(과거/科擧)หรือจอหงวนได้ และยังได้รับการยกเว้นภาษีด้วย )

"ยังบันเป็นใคร..."

"ชนชั้นสูงของอาณาจักฮวาน!"

'อาณาจักรฮวาน...'

อาณาจักรที่ต้นไม้ประจำชาติคือฟอสฟอรัสขาว  กริดไม่รีรอ  เขารีบคุกเข่าคำนับเพื่อมิให้เป็นจุดสนใจ  จากนั้นก็หันไปถามเอ็นพีซีคนดังกล่าว

"แพงเจียเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรฮวานหรือ"

"จุ๊จุ๊...  ฉันควรจะรู้ว่านายโง่  ตั้งแต่ที่นายไม่ยอมคำนับยังบันแล้ว"

"..."

"แพงเจียเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโช"

"แล้วทำไมพวกคุณต้องคำนับให้ยังบันของอาณาจักรฮวาน"

"นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่!  พวกเราต้องคำนับทุกคนของอาณาจักรฮวานอยู่แล้ว  นายไม่รู้เพราะโง่รึเปล่าเนี่ย!"

"..."

อาณาจักรฮวานใช่อาณาจักรในแบบที่ตนรู้จักจริงหรือ

'แพ็กม่าเกิดที่อาณาจักรฮวานสินะ...'

การเดินทางครั้งนี้ได้รับเบาะแสะแพ็กม่าเพิ่มทีละนิด  กริดรู้สึกคุ้มค่า

"หืม"

ทันใดนั้น  ยังบันในชุดคลุมสีน้ำเงินได้เดินผ่านกริดพร้อมกับหันมายิ้นให้เขาอย่างมีเลศนัย  
ในวินาทีที่สบตากัน  ชายหนุ่มพลันเย็นสันหลังวาบ  ออร่าปริศนาและบรรยากาศแสนอึดอัดได้ทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว

[ ท่านถูกบังคับให้ก้มศีรษะ ]
[ ท่านต้านทาน ]

อำนาจบังคับให้ก้มหัว  ด้วยเพียงแค่การสบตา...

'หรือว่า...'

กริดกลืนน้ำลายอึกใหญ่

'เป็นพลังของตำนานงั้นหรือ...'

ชายหนุ่มเริ่มสับสน

"ฮุฮุ"

เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นพร้อมกับการจากไปของกลุ่มยังบัน

***

ณ ร้านอาหารไอดาน

"ให้เตรียมชามะนาวล่วงหน้าเลยไหม"

หญิงบริกรผู้งดงามและน่ารักดั่งแมวน้อย
หยางเฟยเอ่ยปากถามกริดอย่างกระตือรือร้น  แต่ชายหนุ่มกลับนิ่งงันไม่ตอบ  เขากำลังครุ่นคิดถึงกลุ่มยังบันที่พบพานบนถนนเมื่อครู่

'เป็นตัวตนระดับตำนานไม่ผิดแน่'

ในอดีต  เมื่อครั้งกริดให้บราฮัมยืมร่างไปปราบทัลลอส  ชายหนุ่มเป็นต้องทึ่งในความสุดยอดของบราฮัมยามรวบรวมมานาที่ใจกลางทะเลแดง  
ตัวตนของยังบันที่กริดสัมผัสได้  เทียบเท่าความรู้สึกตอนนั้นทุกประการ

'แต่ไม่เคยมีหลักฐานปรากฏมาก่อน... ว่าตำนานคนใดมีต้นกำเนิดมาจากทวีปตะวันออก  เป็นเพียงการคาดเดาของเราเท่านั้นที่คิดว่าแพ็กม่าเป็นคนฝั่งนี้'

และอันที่จริง  ตำนานถูกระบุไว้ว่ามีเก้าคน  แต่จำนวนยังบันที่เห็นในวันนี้มีเกินสิบ

'หรือตำนานของทวีปตะวันออกจะแยกจากทวีปตะวันตกโดยสิ้นเชิง...'

ไม่เหมือนกับทวีปตะวันตกที่มีแค่เก้า...

'...นั่นต้องใช่แน่'

สองทวีปอยู่ห่างกันเกินไป  จึงไม่แปลกที่จะไม่ใช้ตำนานร่วมกัน  สมเหตุสมผลแล้วหากจะมีตำนานแยกแต่ละทวีป

'ดูอย่างลอร์ดสิ'

เด็กคนนั้นถูกเรียกว่าอัจฉริยะของทวีป

'มันช่าง...'

โลกใบนี้กว้างใหญ่นัก
ตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่กริดไม่เคยพบเห็นบนทวีปตะวันตกหรือขุมนรก  กำลังแผ่ขยายอำนาจกว้างขวางบนทวีปตะวันออก
แต่กริดก็มิได้หวั่นวิตก  ตรงกันข้าม  เขากำลังตื่นเต้นและให้ความสนใจ

'ในอนาคต  เราจะต้องแข็งแกร่งขึ้น'

ต่อให้กริดเก่งไปกว่าทุกวันนี้  แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เกมซาทิสฟายถึงขั้นเสียสมดุล  
หรืออีกความหมายหนึ่ง  เขามั่นใจว่าตนแข็งแกร่งขึ้นได้อีกมาก

'เราคือตำนาน'

ชายผู้พยายามอย่างหนักกว่าใครเสมอ
เฉกเช่นที่ผ่านมา

"เรียบร้อย!  ขอโทษที่ให้รอนาน"

"..."

ไอดานปรุงอาหารเช้าให้กริดด้วยไข่ไก่  
ไข่แดงไหม้เกรียมจนเป็นสีดำ  ส่วนไขขาวก็ดิบเหลวราวกับไม่ผ่านความร้อนเลยสักนิด

"บ้าน้า... ทำไมถึงทำอาหารออกมาพิสดารได้ขนาดนี้"

กริดห้ามปากตนเองไม่อยู่  เขาบ่นอย่างหัวเสียทันทีเมื่อได้เห็นอาหาร  
แต่น่าเสียดาย  ไอดานกลับคิดว่านั่นคือคำชม

"มันทำยากกว่าไข่ม้วนธรรมดาหลายเท่า  ฉันต้องแยกไข่แดงออกก่อนและนำไปทอดให้เกรียม  จากนั้นก็นำไข่ขาวมาราดให้เป็นลักษณะของซอส"

"...นายไม่คิดทำอาหารแบบปรกติบ้างรึไง"

"เอ๊ะ!  นายนี่!  ไม่เบื่อบ้างรึไงที่ต้องกินไข่ดาวแบบทั่วไปน่ะ"

"อย่างน้อยนายก็ควรทำอาหารให้เหมือนคนปรกติสักหน่อย..."

"ฉันปรุงจานนี้ขึ้นด้วยหัวใจของพ่อครัว  ต้องการให้ลูกค้าได้ลิ้มรสไข่ไก่คุณภาพสูงที่สุด  จากนั้นก็นำซอสไข่ขาวดิบราดลงบนไข่แดงเจียวน้ำมันอันแสนพิถีพิถัน  นายไม่คิดว่ามันทั้งแปลกใหม่และสุดยอดบ้างหรือ"

'ทำไมไม่ทำไข่ลวกมาฟะ!'

อาหารจานพิสดารนี้  ไอดานไม่ได้ตั้งใจทำมาเพื่อฆ่ากริดแต่อย่างใด  
ชายหนุ่มไม่ต้องการกินมันเลยสักนิด  แต่ท้ายที่สุด  เขากลั้นหายใจ  หลับตาลงและกลืนทั้งหมดเข้าปากอย่างรวดเร็ว  รสชาติของไข่ขาวดิบนั้นเลวร้ายสุดขีด  ทุกครั้งทีเคี้ยว  มันพะอืดพะอมราวกับตกนรก  รสชาติแย่ๆ ของไข่อัดแน่นอยู่เต็มปาก  ไข่แดงที่ปรุงสุกเกินพอดีทำให้มันสูญเสียเอกลักษณ์ไป  
ไข่แดงไหม้เกรียมมีรสชาติราวกับเคี้ยวก้อนหินแห้ง

อุฟ!

กริดแทบอ้วกหลายหน  แต่เขาก็ฝืนกลืนลงคอสำเร็จ  จากนั้นก็รีบปิดท้ายด้วยผลไม้

[ ท่านเข้าสู่ภาวะอาหารเป็นพิษ  หลังจากกินอาหารปรุงไม่สุก ]
[ ท่านต้านทาน ]
[ ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น 1 แต้มเป็นการถาวร ]

'อาหารปรุงไม่สุก...'

ไอดานจริงจังกับจานนี้มาก 
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า  หมอนี่ไม่มีหัวในด้านการทำอาหารเลยสักนิด

"เฮ่อ..."

กริดเอ่ยปากถาม

"ทำไมนายถึงไม่ใส่เกลือ"

นั่นคงทำให้กินง่ายกว่านี้เยอะ
ไอดานประหลาดใจเล็กน้อย  จากนั้นจึงตอบกลับ

"เกลือไม่ดีต่อสุขภาพ!"

'ถ้านายกินราเมียนจะไม่คลั่งตายเอาหรือ  จานนั้นใส่เกลือเพียบ'

"เอ้านี่!"

ขณะกริดบ่นอุบอิบ  หยางเฟยก็เดินมาเสิร์ฟชามะนาว  
นับเป็นการเตรียมพร้อมที่ไม่เลว
กริดรีบยกซดเพื่อล้างรสชาติในปาก  จากนั้นก็หันไปมองหยางเฟยประหนึ่งเธอคือนางฟ้า

"ขอบคุณมาก"

อึก อึก

กริดพยายามขจัดกลิ่นไข่ดิบออกด้วยชามะนาว  
ขณะที่สีหน้าของกริดกลับมาเป็นปรกติ  หยางเฟยก็พูดด้วยสีหน้ามีเลศนัย

"เอ่อ… วันนี้ฉันปวดขามากเลย"

หยางเฟยถกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยจนเห็นขาอ่อนอันขาวนวล  
ช่างเป็นภาพที่น่าดูชมยิ่ง! 
แต่กริดกลับไม่คิดไปไกล  สำหรับหญิงสาวที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี  เขาไม่มีวันมองว่าพวกเธอเป็นผู้ใหญ่… นอกเสียจากจะมีหน้าอกคัพ D 

"ไม่มีปัญหา  ฉันจะนวดคลึงให้อย่างดี"

"..."

กริดพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย  แต่ทางหยางเฟยกลับมีใบหน้าแดงก่ำเหมือนผลแครอท  ช่างน่าเศร้า  นับแต่นี้ไป  หยางเฟยคงไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากฝ่ามือของกริด

***

"มาแล้วหรือ!"

ณ สังเวียนทางทิศเหนือของปราสาทแพงเจีย
กริดเดินเข้าไปภายในห้องพักนักกีฬาที่ถูกจัดเตรียม  สนามแห่งนี้มีขนาดใหญ่จนดูคล้ายโคลอสเซียม
ไวท์แห่งโรงตีเหล็กค้อนขาวกล่าวทักทายกริด  จากนั้นก็ยื่นแขนออกมาจับมือชายหนุ่มอย่างนอบน้อบ

"คุณช่างตัดไม้  ขอบคุณมาก!  พวกเรามีเปลวไฟองศาที่เหมาะสมได้เพราะไม้ฟอสฟอรัสขาวของคุณ!  หากโรงตีเหล็กค้อนขาวคว้าชัยในการแข่งปีนี้  ความดีความชอบจะต้องตกเป็นของคุณแน่นอน!"

'คุณช่างตัดไม้งั้นหรือ'

กริดคิดว่ามันช่างพิลึก  แต่เขามิได้กล่าวสิ่งใด

"แล้วแข่งในหัวข้ออะไรล่ะ"

กริดสนอกสนใจในฐานะช่างตีเหล็กคนหนึ่ง  
ไวท์รีบตอบ

"เหมือนกับปีก่อน  สร้างแบบจำลองของสมบัติแห่งแพงเจีย  ซึ่งสูญหายไปในสงครามเมื่อสองปีที่แล้ว"

"สมบัติเป็นแบบไหน"

"คันศรฟินิกซ์แดง...  เป็นธนู"

"คันศรฟินิกซ์… แดง!"

กริดให้ความสนใจทันที
คันศรฟินิกซ์แดง  หากดูจากชื่อ 'ฟินิกซ์แดง' แล้ว...
จักต้องเป็นคันศรธาตุไฟอันทรงพลังแน่  คงเป็นอาวุธที่เหมาะกับจิสึกะมากทีเดียว

'เป็นถึงสมบัติของทวีปตะวันออก  พลังโจมตีไม่มีทางกระจอก  หากเราได้สูตรการผลิตติดตัวกลับไปคงดีไม่น้อย'

ในทางทฤษฏี  การเฝ้ามองเพียงอย่างเดียวและได้รับสูตรการผลิต  สิ่งนี้แทบไม่มีทางเกิดขึ้น  ในบรรดาช่างตีเหล็กนับหมื่นคน  ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ทำได้
แต่กริดเป็นใครกัน  เขาไม่ใช่ช่างตีเหล็กทั่วไป  ชายหนุ่มคือช่างตีเหล็กในตำนาน  นับว่าคุ้มค่าไม่น้อยที่จะลองทดสอบดู

'ถึงโอกาสสำเร็จจะต่ำก็เถอะ'

เขาจะทำมันอย่างเต็มที่เหมือนกับทุกครั้ง
กริดกำลังตื่นเต้น  แต่ทันใดนั้นก็ผุดคำถาม

"ทำไมโจทย์การแข่งถึงเหมือนกับปีที่แล้ว"

"ในปีก่อน  ไม่มีช่างตีเหล็กคนใดสร้างคันศรฟินิกซ์แดงสำเร็จ  ลอร์ดของแพงเจียจึงจัดการแข่งในรูปแบบเดิม  เพื่อเฟ้นหาผลงานชิ้นเอกที่ดีที่สุด"

"คันศรฟินิกซ์แดงรุ่นต้นแบบมีหน้าตาเป็นเช่นไร… พวกนายมีสูตรการผลิตรึเปล่า"

"มันคือธนูที่สร้างขึ้นเป็นตัวแทนหนึ่งในสี่เทพผู้พิทักษ์  มังกรฟ้า  เสือขาว  เต่าดำ  และฟินิกซ์แดง  เป็นธนูที่มีพลังโจมตีธาตุไฟสูงลิบ  แน่นอนว่าพวกเราไม่มีสูตรการผลิตดั้งเดิม  มันสาปสูญไปในสงครามเมื่อนานมาแล้ว  ตอนนี้ทุกคนจึงทำได้เพียงจินตนาการขึ้นเอง"

"หืม..."

ถ้าหากเป็นธนูธาตุไฟ  ก็คงต้องใช้ศิลาอัคคีเป็นวัสดุในการสร้าง...

'ละลายศิลาอัคคีและหลอมรวมเข้ากับเหล็ก… ธนูเหล็กจะต้องมีพลังโจมตีที่สูงมากแน่…  เดี๋ยวก่อน!'

ที่นี่คือทวีปตะวันออก  ตนไม่สามารถใช้สามัญสำนึกของทวีปตะวันตกขบขิดได้

'อาจมีวัสดุพิเศษสำหรับเพิ่มความเป็นธาตุไฟในทวีปตะวันออก… จริงสิ!'

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวกริด

'ไม้ฟอสฟอรัสขาว!'

กริดมั่นใจมาก

'เราคือช่างตีเหล็กคนเดียวที่สามารถสร้างคันศรฟินิกซ์แดงได้...'

เพราะอะไรน่ะหรือ
เพราะเขาคือช่างตีเหล็กเพียงคนเดียวที่ตัดไม้ฟอสฟอรัสขาวได้!
ดวงตากริดเปล่งประกายทันที

"ผู้ชนะจะได้รับรางวัลใดบ้าง"

ความโลภครอบงำกริดโดยสมบูรณ์  ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความหิวกระหาย  
เป็นความละโมภที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งบนโลก!
แต่ไวท์กลับเข้าใจดวงตานั่นผิดไป

'เป็นสายตาที่มุ่งมั่นมาก!'

ด้วยเหตุนี้  ไวท์จึงอธิบายสถานการณ์โดยละเอียด

Comments

  1. ไอ้ฝามือนรกกริด!

    ReplyDelete
  2. ความโลภเริ่มครอบง่ำ และความมันกำลังจะมาถึง รอลุ้นต่อไป ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  3. อยากอ่านต่อเร็วๆจัง 55555

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete
  5. อ่านนิยายเกาหลีอยู่ดีๆ ทำไมมันออกไปแนวจีนแล้วล่ะ 5555555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00