จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 538



       "เป็นความคิดที่ดี"

       หากเทียบจากกำปั้นของชาวอัง  มอนสเตอร์ด้านในดันเจี้ยนล้วนเป็นปีศาจที่รับมือได้ยาก  กริดไม่มั่นใจว่าไวท์จะรอดชีวิตกลับมาได้  
       คำประกาศถอนตัวของไวท์ทำให้กริดโล่งใจหลายส่วน
       
       'อย่างน้อยหมอนั่นก็ไม่ใช่คนหัวรั้น'

       ไวท์คือชายผิวดำวัยกลางคน  
       กริดชื่นชอบเขามาก  เมื่อได้ยินไวท์ถอนตัว  ชายหนุ่มจึงอมยิ้มอย่างสบายใจ
       เป็นเวลาเดียวกับที่ซูเอเดินเข้ามาหา

       "สุดยอดมากที่รอดจากกำปั้นของชาวอังมาได้  นายสร้างชุดเกราะนี้ด้วยตนเองงั้นหรือ"

       กริดสามารถทนทานต่อการโจมตีของชาวอังด้วยสาเหตุหลายประการ  หนึ่งในนั้นคือค่าความอดทน  มิใช่สามชั้นเพียงอย่างเดียว  
       ชายหนุ่มมีค่าความอดทนมากถึง 1,500 แต้ม  ส่งผลให้พลังป้องกันของกริดสูงลิบลับ  เทียบเท่าแร้งเกอร์สายแทงค์เลเวล 200 ตอนปลาย 
       แต่ซูเอมิได้ตระหนักถึงสิ่งนี้

       ในด้านสามัญสำนึก  ช่างตีเหล็กอย่างกริดไม่ควรมีค่าความอดทนสูงระดับตัวแทงค์  ซูเอจึงคิดว่า  ความทนทานของกริดต้องมาจากพลังป้องกันชุดเกราะเป็นส่วนใหญ่

       "ถูกต้อง  ฉันเป็นคนสร้างมัน"

       แกร่ก!

       กริดยืดอกอย่างผ่าเผย  การกระทำเช่นนี้ยิ่งส่งผลให้เกล็ดของสามชั้นเงางามขึ้นหลายเท่า  เกล็ดสีดำนับร้อยเปลี่ยนสีทุกครั้งเมื่อกริดขยับตัว  สมกับเป็นงานศิลป์ที่รังสรรค์โดยช่างตีเหล็กอัจฉริยะ

       "ตกลง  ฉันจะไม่ห้ามนายอีก  นายมีคุณสมบัติมากพอจะร่วมสำรวจดันเจี้ยน  แต่หากต้องการรักษาชีวิต  ช่วยทำตามที่ฉันบอกด้วย"

       "ไม่มีปัญหา"

       กริดไม่ขัดข้องกับการทำตามคำสั่ง  
       ซูเอเป็นหญิงสาวสุภาพ  แถมสิ่งที่เธอกังวลมาตั้งแต่ต้น  ทั้งหมดล้วนเพื่อความปลอดภัยของตัวกริดเอง
       ไม่มีเหตุผลที่ชายหนุ่มต้องมองซูเอในแง่ร้าย

       'ช่างเถอะ  เดี๋ยวเราก็ได้ทำตามใจชอบอยู่ดี'

       เมื่อลงไปถึงด้านล่าง  ซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดงคงยุ่งอยู่กับการปราบมอนสเตอร์จนไม่มีเวลาสนใจกริด  พวกเขาไม่มีทางจำกัดการกระทำของกริดได้

       'แต่เราจะไม่ล้ำเส้น'

       หากมองจากพื้อเพของทวีปตะวันออกและความเก่งกาจของมอนสเตอร์เกราะหนาม  มีความเป็นไปได้สูงว่า  หน่วยฟินิกซ์แดงจะเก่งกาจกว่าอัศวินสีชาดที่กริดเคยพบพาน  
       ไม่ใช่เรื่องแปลกหากพวกเขาล้วนเป็น NPC คลาสระดับสี่และแข็งแกร่งกว่ากริด  ไม่ใช่เรื่องฉลาดนักที่จะเป็นศัตรูกับคนเหล่านี้

       'คงน่าสนุกไม่น้อย  ถ้าเราตรวจสอบทีละคนด้วยดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่  หากใครพรสวรรค์สูงลิบ  เราจะนำกลับไปเรย์ดันด้วย!'

       ขณะกริดกำลังคิดแผนชั่ว  หน่วยฟินิกซ์แดงเตรียมตัวเสร็จพอดี  พวกเขาค่อยๆ โดดลงไปในบ่อน้ำทีละคนโดยไม่ตื่นกลัวหรือลังเล

       "ไปกันเถอะ"

       "อื้อ"

       กริดและซูเอคือสองคนสุดท้าย

       "ระวังตัวด้วยนะ"

       เธอกังวลว่ากริดอาจได้รับบาดเจ็บ  ความห่วงใยจากซูเอทำให้กริดอมยิ้ม

       'เป็นคนมีความรับผิดชอบในหน้าที่สูงมาก'

       เขากำลังรู้สึกดี
       ไม่เกี่ยวกับฝ่ามืออันนุ่มนิ่มของซูเอที่กำลังจับท่อนแขนกริดแต่อย่างใด

       ***

[ ท่านเข้าสู่ดันเจี้ยนลับแพงเจีย ]
[ กำแพงของดันเจี้ยนจะดูดกลืนแสงสว่างทุกชนิด  ไอเท็มกำเนิดแสงสว่างและเวทมนตร์กำเนิดแสงทุกชนิดจะไร้ผล ]

[ ขอบเขตการมองเห็นของท่านลดลง ]
[ เป็นปรากฏการณ์ทางกายภาพ  ท่านมิอาจต้านทาน ]
[ ท่านจะมองเห็นได้ไกลเพียงรัศมี 5 เมตรรอบตัว ]

       'แย่กว่าเมืองใต้ดินแวมไพร์อีกแฮะ'

       มืดมิดไร้แสง
       เป็นความมืดชนิดที่สายตาปรับตัวไม่ได้  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม  
       กริดต้องการทราบขนาดความแคบดันเจี้ยนโดยเร็ว  เขารีบเหยียดปลายนิ้วออกไปเพื่อควานหากำแพงที่ใกล้ที่สุด  
       แต่กลับลงเอยด้วยการสัมผัสโดนบางสิ่งที่นุ่มนิ่ม

       ทันใดนั้น

       "อ๊าง~"

       หน่วยฟินิกซ์แดงคนหนึ่งร้องเสียงหลงเมื่อถูกกริดสัมผัส  
       เป็นตาลุงหนวดเฟิ้มอายุราว 40 ที่กำลังหน้าแดงก่ำ  ไม่ใช่ภาพน่ามองนัก  แข้งขาของเขาอ่อนแอและทรุดลง

       "นี่ริว!  ฉันพอจะรู้ว่านายมีความต้องการเรื่องอย่างว่าสูง  แต่ช่วยเลือกสถานที่และเวลาหน่อยเถอะ!"

       "เฮ่อ... กล้าทำเรื่องน่าไม่อายเช่นนี้ในสนามรบ..."

       "แถมยังเป็นเวลาที่กัปตันซูเออยู่ด้วยเนี่ยนะ...!"

       หน่วยฟินิกซ์แดงกำลังเข้าใจริวผิวมหันต์

       หงึกหงัก...

       เมื่อริวได้สติกลับมา  ร่างกายของเขาเริ่มฟื้นคืนสภาพเดิม

       "ฉันแค่เดินตามปรกติ!  ไม่ใช่อย่างที่พวกนายคิด!"

       "ถ้าแค่เดินปรกติ  แล้วเสียงครางนั่นมันอะไร"

       "มีบางสิ่งมาสัมผัสโดนข้อมือฉัน!"

       "..."

       ร้องเสียงหลงขนาดนั้นเพียงเพราะมีบางสิ่งสัมผัสโดนข้อมือเนี่ยนะ
       ซูเออมยิ้มให้กับข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น

       "ร่างกายของนายอ่อนไหวง่ายจัง  เป็นพวกไก่อ่อนรึไง"

       ริวอับอายจนไม่กล้าเงยหน้า  ส่วนซูเอก็จ้องมองริวอย่างตื่นเต้น
       ดูเหมือนเธอจะให้ความสนใจผู้ชายไก่อ่อนจนผิดวิสัย
       กริดเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง  ซูเอจ้องมองริวไม่กระพริบ  เหมือนกับแมวที่มีปลาย่างวางอยู่ด้านหน้าไม่มีผิด

       'เธอคงเป็นพวกโรคจิตสินะ...'

       หล่อนคงไม่อยากลิ้มรสฝ่ามือมารของเขาแน่(?)  
       หากเธอเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา  กริดอาจทนรับความต้องการมหาศาลนั่นไม่ไหว

       'ขนาดไอรีนผู้เรียบร้อยยังกลายเป็นสัตว์ป่าหิวกระหายบนเตียง...'

       แล้วซูเอจะกลายเป็นสัตว์ป่าระดับไหนกัน...

       'คงต้องระวังมือให้มาก'

       ในเมื่อเขาทำมันได้แค่เดือนละครั้ง  
       ชายหนุ่มรีบนำมือของตนไปซ่อนไว้ด้านหลังทันที

       วาบ!

       ด้วยความที่ค่าวิสัยทัศน์สูงส่ง  ท่ามกลางความมืดมิด  กริดสัมผัสถึงแสงสะท้อนจากบางสิ่งได้ก่อนใคร

       'ด้าย...'

       ด้วยความแคบของดันเจี้ยน  ทหารเกราะหนักเต็มยศสามารถเดินเรียงแถวหน้ากระดานได้สูงสุดเพียงห้าคน  
       กริดมองเห็นด้ายสีเงินพุ่งกระจายราวกับใยแมงมุม  ปิดทางเดินเบื้องหน้าเอาไว้จนมิดชิด

       'นั่นคือ… ด้ายเงินงั้นหรือ'

       ขณะกริดกำลังทึ่ง

       เกราะหนาม!

       หน่วยฟินิกซ์แดงเห็นช้ากว่ากริดหนึ่งก้าว  พวกเขารีบตั้งท่าสู้รบโดยไว 
       เกือบทั้งหมดชักธนูออกมาง้างและเล็งไปยังอีกฝั่งของทางเดิน  ซึ่งยามนี้ถูกปิดกั้นด้วยด้ายเงินโดยสมบูรณ์

       กึก...  กึก...

       ทันทีที่เสียงฝีเท้าดัง  ลูกศรจากปลายธนูทุกคันถูกปล่อยในพริบตา  เป้าหมายคือทิศทางต้นเสียง

       "มันมาแล้ว!"

       ฟุ่บฟุ่บ!

       ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!

       หน่วยฟินิกซ์แดงถูกฝึกฝนอย่างหนัก  พวกเขาโจมตีได้พร้อมเพรียงและแม่นยำ  นับเป็นฝีมือธนูอันน่าทึ่ง

       ฉึก!

       ฉึกฉึกฉึก!

       "โฮกกกกก!"

       เสียงร้องคำรามดังจากอีกฝั่งของทางเดินอันมืดมิด  เป็นสัญญาณว่า  ลูกธนูของหน่วยฟินิกซ์แดงเข้าเป้าอย่างแม่นยำ

       "ยอดไปเลยแฮะ"

       คาดเดาต่ำแหน่งของศัตรูที่มองไม่เห็นจากเสียงเท้า  แถมยังโจมตีได้ไม่พลาดเป้า

       'คนพวกนี้มีทักษะความชำนาญธนูขั้นไหนกันแน่'

       ขณะกริดกำลังชื่นชม  ซูเอได้ยื่นเครื่องรางสีเหลืองมาให้

       "ระหว่างต่อสู้  ฉันไม่อาจดูแลความปลอดภัยของนายได้  ดังนั้นช่วยรับนี่ไว้ด้วย"

[ ท่านได้รับ <เครื่องรางป้องกันตัว> ]
[ เมื่อพกเครื่องรางชนิดนี้  ท่านสามารถรอดพ้นจากการโจมตีของศัตรูได้หนึ่งครั้ง  ]
[ หลังจากเครื่องรางปัดป้องการโจมตีจากศัตรู  พลังป้องกันของท่านจะเพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลา 2 นาที ]
[ ไอเท็มชนิดนี้จะหายไปทันทีเมื่อผลของบัฟหมดลง ]

       'ประกันชีวิตได้หนึ่งการโจมตีสินะ...'

       น่าเสียดายที่ไอเท็มจะหายไปหลังจากหมดผลของบัฟ  ประสิทธิภาพของมันนับว่ายอดเยี่ยม  เหมาะการดวลและล่าบอส  สิ่งนี้สามารถพลิกผันสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ  
       หากซื้อขายระหว่างผู้เล่น  มูลค่าของมันย่อมสูงลิบลับ

       'หน่วยฟินิกซ์แดงกล้ามอบไอเท็มมูลค่าสูงขนาดนี้ให้เรา...'

       กริดรู้สึกชื่นชอบในตัวซูเอมากขึ้น
       แต่ผ่านไปไม่นานกลับต้องผิดหวังอย่างหนัก

       'บ้าจริง… ซื้อขายระหว่างผู้เล่นไม่ได้!'

       แม้กระทั่งย้ายไปช่องสัมภาระของสัตว์เลี้ยงก็ทำไม่ได้  
       แผนการอันชั่วช้าของกริด  แอบเก็บไว้ขายทีหลัง  พลันต้องเป็นหมันทันใด

       'คงได้ใช้ในดันเจี้ยนนี้แน่'

       กริดส่ายหัวอย่างเสียดาย

       "โฮกกกก!"

       เกราะหนามสี่ตัวปรากฏขึ้น  บนร่างกายมันมีธนูถูกปัก  
       มอนสเตอร์ชนิดนี้เป็นซอมบี้สวมหมวกไม้ไผ่  ชุดเกราะสีเงินกำลังละลายหลอมรวมกับเลือดเน่า  
       ด้วยเหตุนี้  กริดได้ข้อสรุปหนึ่งสิ่ง

       'เลือดเน่าของพวกมัน… ร้อนจนละลายโลหะได้เลยสินะ'

       ระหว่างโจมตี  คงต้องระวังเลือดเน่าเพิ่มอีกหนึ่งสิ่ง

       'หัตถ์เทวะน่าจะช่วยเราได้'

       เคร้ง!

       เคร้ง!

       หน่วยฟินิกซ์แดงเริ่มพุ่งประจัญบานใส่เกราะหนามสี่ตัว  
       พวกเขาสำแดงวิชาดาบที่น่าทึ่ง  ซึ่งยอดเยี่ยมว่าฝีมือธนูเมื่อครู่เสียอีก  
       แต่มอนสเตอร์เกราะหนามถือเป็นชนิดอันเดด  พวกมันไม่เจ็บปวด  ไม่หวาดกลัวต่อบาดแผล  มักต่อสู้แลกชีวิตอย่างดุร้ายเสมอ  ไม่ว่าร่างกายจะถูกแทงจนพรุนมากแค่ไหนก็ตาม

       เปรี้ยงงง!

       ซอมบี้เกราะหนามมีวิชาดาบที่เก่งกาจไม่แพ้หน่วยฟินิกซ์แดงเลยสักนิด  ทั้งความรวดเร็วและความรุนแรง  
       เมื่อพวกเขามิอาจหลบพ้น  มีเพียงป้องฝืนปัดป้องอย่างเต็มกลืน  ส่งผลให้ถูกดันถอยหลังกลับหลายก้าว  บางส่วนถึงกับล้มหัวคะมำ

       'แต่ว่า'

       ในสายตากริด  เกราะหนามไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหน่วยฟินิกซ์แดงแม้แต่น้อย

       หน่วยฟินิกซ์แดงเชี่ยวชาญการรบ  ประสานงานได้ดีเยี่ยม  แถมยังมีค่าสถานะสูง  น่าตกใจที่เลเวลกลับไม่ถึงคลาสระดับสี่  
       เกราะหนามย่อมไม่อาจรับมือจำนวนคนที่มากกว่าได้  หากใช้คนหมู่มากเข้ารุม  พวกมันก็จะไม่ใช่ภัยอันตราย

       นั่นเป็นเพียงการกะเกณฑ์อย่างหยาบจากกริด
       เกราะหนามเริ่มสำแดงฝีมือที่แท้จริงออกมา

       ปึด! ปึด!

       "ระวัง!"

       เกราะหนามตระหนักว่า  ฝีมือดาบเพียงอย่างเดียวไม่อาจโค่นกลุ่มศัตรูตรงหน้าได้แน่  พวกมันตัดสินใจเปลี่ยนโหมด  หลังจากกล้ามเนื้อตามร่างกายเริ่มพองตัว  พวกมันทำการขับด้ายเงินที่ผสมกับเลือดเน่าออกมาโจมตีใส่หน่วยฟินิกซ์แดง

       "อั่ก!"

       หน่วยฟินิกซ์แดงต้องรับมือพัลวัน 
       ด้ายเงินพุ่งกระจายออกจากร่างซอมบี้ทุกทิศทางประหนึ่งหนามงอก  
       หน่วยฟินิกซ์แดงล้วนมีสีหน้าตึงเครียดในขณะตั้งรับ  บ้างถึงกับเหงื่อไคลท่วมกาย

       'จะมีความแข็งขนาดไหนกันนะ'

       โลหะเงินจากชุดเกราะถูกหลอมรวมกับเลือดเน่าจนกลายเป็นด้ายเงิน  ซอมบี้เกราะหนามใช้งานพวกมันโจมตีอย่างคล่องแคล่วชำนาญ  สถานการณ์สงครามพลิกผันทันทีเมื่อเกราะหนามเปลี่ยนโหมด  
       หน่วยฟินิกซ์แดงไม่สามารถโต้กลับ  พวกเขาทำได้เพียงป้องกันตัว

       'ว่าแล้วเชียว… เป็นด้ายเงินที่คุณภาพสูงมาก'

       เกราะหนามหนึ่งตัวสามารถสร้างด้ายเงินได้ 8 ถึง 15 เส้น  แต่ละเส้นยาวสิบเมตร
       พวกมันชำนาญการควบคุมด้ายเงินประหนึ่งแขนขา  ด้ายขยับเองกลางอากาศราวกับมีชีวิต

       'หลบไม่พ้นแน่  เราคงต้องสู้ด้วยหัตถ์เทวะสถานเดียว'

       หากเรกัสหรือเฟคเกอร์อยู่ที่นี่  เขาพวกคงสร้างความแตกต่างได้ทันที  
       แต่ยามนี้  ไม่มีใครเลยสักคนที่สามารถหลบหลีกด้ายเงินได้พ้นทั้งหมด

       ฉึก!

       ฉึกฉึกฉึก!

       ด้ายเงินยาวสิบเมตรทั้งแข็งและเหนียว
       เมื่อถูกเหวี่ยงใส่ดาบของหน่วยฟินิกซ์แดง  หากไม่กระเด็นลอยขึ้นไปบนอากาศ  ก็ต้องหัวทิ่มปักกำแพงเสียงดังโครม

       'บางครั้งก็แข็งราวกับดาบ  บางครั้งอ่อนตัวเหมือนแส้...'

       เป็นความคงทนอันน่าเหลือเชื่อ  ไม่มีดาบของหน่วยฟินิกซ์แดงคนใดสามารถตัดมันให้ขาด  นี่คงเป็นเหตุผลที่ช่างตีเหล็กทวีปตะวันออกต่างกระหายจะครอบครอง

       'เหมือนเป็นพาเฟรเนี่ยมในรูปทรงด้าย… จะถึงขั้นนั้นรึเปล่านะ'

       ไอเท็มชนิดใดบ้างที่ใช้ด้ายเป็นส่วนผสม...
       กริดใช้ประสบการณ์อันล้นเหลือครุ่นคิดอย่างตั้งใจ  
       ขณะเดียวกัน  หน่วยฟินิกซ์แดงกำลังตกที่นั่งลำบากสุดขีด

       "มันมาแล้ว!"

       มีสองเหตุผลหลักที่ซอมบี้เกราะหนามใช้ใยแมงมุมเงินปิดทางเดินไว้
       หนึ่งเพื่อมิให้เหยื่อหนีรอดไปได้
       และสอง  เพื่อซื้อเวลาให้เกราะหนามสองตัวขึ้นไป  ผสานกันเป็นตัวเดียว
       มันจะถูกเรียกว่า 'เกราะหนามผสาน'  ตัวตนของมันเปรียบดั่งฝันร้าย

       ต้องใช้เกราะหนามอย่างน้อยสองตัวในการผสานเป็นหนึ่งด้วยด้ายเงิน  
       เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ  พวกมันจะกลายเป็นซอมบี้ใหม่หนึ่งตัว  แม้การเคลื่อนไหวจะห่วยแตกและดูขัดแย้งกันเอง  แต่ถือเป็นหนึ่งในเครื่องจักรสังหารที่ทรงพลัง  
       มีแขนขาเพิ่มเป็นสองเท่า  และมีด้ายเงินเพิ่มเป็นสองเท่า

       "โฮกกกกก!"

       เสียงมอนสเตอร์คำรามดังจากความมืดมิดจากทางเดินอีกฝั่ง  เกราะหนามผสานกวาดทำลายใยแมงมุมเงินและปรี่เข้าโจมตีใส่หน่วยฟินิกซ์แดง

       "ทุกคนถอย!"

       ซูเอไม่เคยประสบพบเจอกับเกราะหนามสี่ตัวพร้อมกันมาก่อน  เธอรีบสั่งให้หน่วยฟินิกซ์แดงล่าถอยโดยไม่รีรอ  
       แต่มีหรือมอนสเตอร์ที่เก่งกาจจะยอมให้ทำเช่นนั้นได้ง่าย  
       ขณะที่ทุกคนกำลังวิ่งหนีไปยังทางเดินอีกฝั่งที่อยู่ด้านหลังกริด  ทันใดนั้น  ทางรอดได้ถูกปิดตายลงฉับพลัน

       "นี่มัน...!"

       หน่วยฟินิกซ์แดงต่างพากันแสดงสีหน้าลนลาน  
       เกราะหนามผสานหนึ่งตัว  พร้อมกับเกราะหนามธรรมดาอีกห้าตัว  พวกมันโผล่มาจากความมืดมิดและปิดทางหนีอีกฝั่งไว้  
       ซูเอเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบในหน้าที่  เธอคือกัปตันหน่วยฟินิกซ์แดง  ไม่อาจปล่อยให้ลูกน้องตายไปต่อหน้า  และไม่อาจปล่อยให้ผู้มีพระคุณแพงเจีย  กริด  ตายไปเช่นกัน  
       ซูเอพุ่งเข้าใส่เกราะหนามผสานด้วยใบหน้าปราศจากความลังเล
       
       "ฉันจะถ่วงเวลาให้  รีบหนีไปซะ!"

       "กัปตัน!"

       "คุณหนู!"

       หน่วยฟินิกซ์แดงห้ามเธอไว้ไม่ทัน  
       ซูเอมีความเร็วสูงสุดในบรรดาทุกคน  แน่นอนว่าตำแหน่งกัปตันมิได้มาเพราะโชคช่วย
       เพียงพริบตาเดียว  เธอถูกดงมอนสเตอร์ล้อมไว้ทุกทิศทาง
       แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุด...
       กริดตามเธอไปตั้งแต่เมื่อไร...!

       "นี่นาย!"

       เจ้าช่างตีเหล็กบ้านี่สมองทึบรึไง...
       เธออุตส่าห์ยอมสละชีวิตยื้อเวลาเพื่อให้เขาหนี  แต่กลับตามเข้ามาตกอยู่ในวงล้อมอย่างโง่เขลาเช่นนี้
       ซูเอกำลังหัวเสียหนัก  
       แต่ทันใดนั้น  ภาพอันน่าทึ่งก็ปรากฏตรงหน้าเธอ

       "วิชาดาบแพ็กม่า"
       
       พลังลึกลับอัดแน่นรอบกายกริดในยามที่เขารำดาบด้วย +9 ความผิดพลาด

       "คลื่น!"

       ซ่าาา!

       คลื่นดาบอันทรงพลังพวยพุ่งออกไปทุกทิศท่ามกลางความมืดมิด

Comments

  1. สนุกมากครับ

    ReplyDelete
  2. ค้างโว้นยยยย อยากอ่านนนน

    ReplyDelete
  3. ค้างมาก อยากอ่านต่อเร็วๆ จัง น่าจะลงให้อ่านทุกวัน 😂😂🙏🙏

    ReplyDelete
  4. ปักธงสาวไป1

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00