จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 524

*** ประกาศสำคัญ เนื่องจากในกลุ่มแปลทันตันฉบับ จึงขอปรับเปลี่ยนเวลาลงตอนฟรีเป็นจันทร์-ศุกร์


       ผู้คนไม่พูดถึงเจ็ดกิลด์ใหญ่อีกแล้ว

       เมื่อถือกำเนิดขั้วอำนาจใหม่  ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเจ็ดกิลด์ใหญ่ผนึกกำลังกัน  นับแต่นั้นมา  พวกมันก็สูญสิ้นเกียรติยศ  
       จากฉายากองกำลังสุดแกร่ง  ปัจจุบันห่างไกลความจริงนั้นมาก 
       คำร้องขอย้ายออกจากกิลด์  มีมากกว่าความต้องการขอย้ายเข้า

       "พวกเราขอถอนตัวออกจากพันธมิตร"

       กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส  บองเดร

       ก่อนจะได้ดวลเดี่ยวกับกริดในงานแข่งนานาชาติ  บองเดรคือผู้เล่นคลาสจอมอาคมน้ำแข็งอันดับหนึ่ง  ซึ่งได้รับฉายา 'ไร้พ่าย' เคียงคู่มากับครอเกล  แถมมันยังเป็นหัวหน้ากิลด์จอมเวทอันดับหนึ่งของซาทิสฟาย  ไอซ์ฟลาเวอร์  
       แต่ตอนนี้กลับขอถอนตัวจากพันธมิตรเจ็ดกิลด์ใหญ่

       หัวหน้ากิลด์คนอื่นไม่มีใครคัดค้านห้ามปราม  พวกมันยอมปล่อยบองเดรไป  
       ทว่า  การกระทำของบองเดรได้จุดประกายความคิดที่จะถอนตัวของกิลด์อื่นตามมา  พวกมันล้วนตัดสินใจแยกย้ายไปตามทางของตนเอง  ไม่มีเหตุใดให้ต้องยึดติดกับพันธมิตรที่ใกล้ล่มสลายเต็มทน  

       ซีบาล  หัวหน้าพันธมิตรใหญ่  มันกำลังคิดแบบเดียวกัน

       "ฉันจะไม่ห้ามพวกมัน"

       ซีบาลเปลี่ยนมุมมองต่อโลกนับตั้งแต่จบงานแข่งนานาชาติหนที่สอง  
       ก่อนหน้านี้  มันเคยทระนงตนเสมอ  ว่าตูข้าแข็งแกร่งที่สุดในด้านการเก็บเลเวลและล่าบอส  ทว่า  ความโอหังดังกล่าวกลับดับมอดกลายเป็นหมันเมื่ออยู่ต่อหน้ากริด  มันพ่ายแพ้กริดอย่างราบคาบในการล่าบอส  ด้วยเวลาที่เกือบเท่าตัว  แม้จะมีสมาชิกร่วมทีมดีกว่ากริดหลายขุมก็ตาม
       ซีบาลตระหนักได้ว่า  ตนมิใช่อันดับหนึ่งในด้านนี้อีกแล้ว  มันไม่มีสิทธิ์ทระนงตนจนเกินเหตุ  และไม่มีสิทธิ์บังคับให้ผู้อื่นคิดเช่นนั้น

       ซีบาลไม่ยึดติดกับเจ็ดกิลด์ใหญ่  มันเลือกเส้นทางใหม่เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีกลับคืนมา  
       ตอนนี้ซีบาลกำลังหยุดอยู่หน้าดันเจี้ยนหมู่เกาะเบเฮ็น  หลังจากได้อ่านข้อความขอถอนตัวออกจากพันธมิตร  มันจึงก้าวเข้าประตูมิติของหมู่เกาะเบเฮ็นพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน

       ***

       "แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อไป"

       สมาชิกกิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์ออกอาการกระวนกระวาย  พวกมันคือกลุ่มจอมเวทหัวกะทิที่มีจำนวนเพียง 30 คน  แน่นอนว่าคงเกิดปัญหาแน่หลังจากถอนตัวจากพันธมิตร  เพราะกิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์กำลังมีข้อพิพาทร้ายแรงกับกลุ่มอื่น  แถมภายในกิลด์ก็ไม่มีสมาชิกสายผลิตเลย  ไม่อาจสร้างไอเท็มขึ้นได้เอง  นั่นถือเป็นข้อเสียเปรียบอย่างมาก

       บองเดรพูดปลอบใจทุกคน

       "พวกเราจะเข้าร่วมกับเทพสงคราม  ชีวิตวันข้างหน้าจะสุขสบายกว่านี้แน่นอน  ฉันรับประกัน"

       "เทพสงคราม..."

       "ใครกัน..."

       บองเดรอธิบายกับสมาชิกที่ยังไม่เข้าใจ
       "อาเรส  แร้งเกอร์ปกปิดตัวตนที่มีความสามารถเฉพาะตัวพิเศษ  พลังอำนาจของเขาเทียบเท่ากริด"

       "สุดยอด..."

       แข็งแกร่งขนาดหัวหน้ากิลด์ของตนยกย่องให้อยู่ระดับเดียวกับกริดเชียวหรือ
       สมาชิกไอซ์ฟลาเวอร์ต่างทึ่ง

       "แล้วทำไมถึงไม่โด่งดัง"

       "นั่นสิ  ฉันเพิ่งเคยได้ยินชื่อ"

       "ซาทิสฟายกว้างใหญ่นัก  หรือต่อให้เป็นชีวิตจริง  พวกนายรู้จักผู้คนที่สุดยอดในแต่ละสาขาของโลกรึเปล่า  คงไม่ใช่ไหม  ซาทิสฟายเองก็เป็นเช่นนั้น  เสมือนโลกความจริงอีกใบ  อัจฉริยะเร้นกายอย่างเงียบงันอยู่รอบโลก"

       อันที่จริง  บองเดรไม่เคยรู้ว่าอาเรสเป็นใครจนกระทั่งสามวันก่อน  สก็อตต์ติดต่อมาหาพร้อมกับเล่าเรื่องราวของอาเรสให้ฟัง  
       บองเดรผงะไปพักใหญ่เมื่อได้เห็นข้อมูลที่สก็อตต์แจกแจง  

       "โลกใบนี้กว้างใหญ่นัก  ความโกลาหลสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ"

       ขณะที่กำลังอธิบายถึงการเข้าร่วมกิลด์อาเรส
       เสียงของใครบางคนก็ดังกึกก้อง

       "ใช่แล้ว!  โลกใบนี้กว้างใหญ่!  และพวกแกทุกคนก็ต้องสยบแทบเท้าฉัน!"

       "ใครกัน!"

       กิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์รีบตื่นตัวทันใด 
       เพียงพริบตา  พวกมันทุกคนก็ถูกล้อมด้วยกองทัพนักรบโครงกระดูกจำนวนมหาศาล  เสียงของชายปริศนาดังขึ้นอีกหน  จอมเวททุกคนรีบร่ายมนตร์อย่างลนลานเพื่อหวังขจัดอันตรายเบื้องหน้า

       "บองเดรเอ๋ย...  จงกลายเป็นเหยื่อสังเวยของราชาเสียเถอะ!"

       วาบ...

       บองเดรและสมาชิกทุกคนพลันเย็นสันหลังวาบพร้อมกัน  น้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความบ้าคลั่งได้ทำให้พวกมันต้องสั่นระริกหวาดกลัว

       'แค่เสียงก็ทำให้ตกอยู่ในอาการกลัวได้แล้วหรือ'

       ต้องเป็นมอนสเตอร์ระดับบอสแน่!

       'บอสปรากฏตัวบนถนนที่ผู้คนนับพันผ่านไปมาตลอดทั้งวันได้ยังไง...'

       บ้าบอสิ้นดี

       "เผยตัวออกมาซะ!"

       บองเดรเสร็จสิ้นการร่ายเวท  ใบมีดนำแข็งเลเวลแปดถูกยิงออกไปโดยพลัน  บองเดรเล็งไปยังจุดที่ต้นเสียงปริศนาดังขึ้นพอดิบพอดี

       เพล้ง!

       ใบมีดน้ำแข็งอันคมกริบที่พุ่งแหวกอากาศพลันหยุดกึกและแตกละเอียดเป็นเศษเสี้ยว  มันปะทะเข้ากับม่านความมืดที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อครู่

       'เวมมนตร์ของเราถูกทำลายง่ายดายขนาดนี้เชียว...'

       ซู่ววว

       ท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่แตกละเอียดกลางอากาศ

       "แอ็กนัส!"

       ซู่ววว

       บองเดรถึงกับตะลึงเมื่อชายปริศนาเผยตัวออกมาจากม่านความมืด

       แอ็กนัส 
       ผู้เล่นแร้งเกอร์ระดับสูง  หลังจากครอเกล  ซีบาล  และยูร่าหายไปจากอันดับ  แอ็กนัสก็ก้าวขึ้นมาครอบอันดับสามของโลกแทน 
       มีข่าวลือหนาหูว่า  ชายคนนี้วิกลจริตจนแม้แต่ครอเกลก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยว
       
       "ฮิคิคิคิคิคิ!"

       ดวงตาสีทองของมันกำลังส่องประกายในยามจ้องมองบองเดรที่สั่นกลัวเหมือนหนูจนตรอก

       ***

       "จุดเก็บเลเวลอยู่ห่างจากหมู่บ้านไกลไปหน่อย  คราวหน้าเราควรพกม้วนคาถากลับเมืองมาด้วย"

       แรกเริ่มเดิมที  กริดมีแผนจะกลับเมืองให้ตรงกับช่วงงานแข่งสร้างยุทธภัณฑ์ของแพงเจีย  
       แต่แผนทั้งหมดต้องเปลี่ยนผัน  เขากำลังเร่งฝีเท้ากลับไปหาไอดานเพื่อส่งภารกิจและเพิ่มพูนค่าความสัมพันธ์  
       เหตุผลหลักมาจากรายละเอียดของกระทะไอดานนั่นเอง

[ กระทะไอดาน ]
เกรด : ยูนีค
ความคงทน : 35/260
พลังโจมตี : 89
* เมื่อถูกสวมใส่  ผู้ใช้งานจะได้รับทักษะความชำนาญทำอาหารขั้นกลาง  เลเวล 2 
       ผู้ใช้งานจะกลายเป็นพ่อครัวฝีมือเยี่ยมทันที!
       กระทะใบนี้สืบทอดภายในตระกูลไอดานกว่าหนึ่งร้อยปี  นับเป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญในหลักปรัชญาการทำอาหาร
       สามารถดึงประสิทธิภาพวัตถุดิบออกมาได้ถึงระดับสูงสุด
       ยิ่งไปกว่านั้น  มีโอกาสเกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้นทุกครั้งที่ปรุงอาหาร  เนื่องจากกระทะใบนี้มีจิตวิญญาณของสุดยอดพ่อครัวที่หลงไหลในการทำอาหารอัดแน่นอย่างเต็มเปี่ยม
       เมื่อคนในตระกูลไอดานปรุงอาหารด้วยกระทะใบนี้  มีโอกาสสูงที่อาหารจะมีคุณสมบัติช่วยบัฟให้กับผู้ทานเป็นระยะเวลาหนึ่ง  และมีโอกาสเล็กน้อยที่จะเพิ่มค่าสถานะเป็นการถาวร  
       แต่เงื่อนไขดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจากท่านกินอาหารจนหมดเกลี้ยงแล้วเท่านั้น
เงื่อนไขสวมใส่ : 
- ความชำนาญทำอาหารขั้นต้น
- ผลพิเศษจะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อสมาชิกตระกูลไอดานใช้งานเท่านั้น
น้ำหนัก : 40

       'เราไม่แน่ใจเรื่องรสชาติ  แต่นี่ต้องเป็นเหตุผลที่ครอเกลกินพายเข้าไปถึงสี่ชิ้น'

       ไอดาน  ชายผู้นี้คือห่านทองคำที่สามารถฟักโอสถค่าสถานะได้ไม่มีวันหมด!  
       อาหารอาจมีรสชาติหมาไม่แดก  แต่มูลค่าของมันกลับสูงลิบลับ  เป็นพรสวรรค์ระดับหนึ่งในล้านที่จะพบเห็นได้

       กริดตั้งใจแน่นหนัก  ว่าต้องทำให้ไอดานกลายเป็นพ่อครัวส่วนตัวของตน

       "ไอดาน!"

       ณ ถนนทิศเหนือแพงเจีย  
       กริดวิ่งหน้าตั้งไปยังร้านอาหารไอดานพร้อมกับเอ่ยปากถามพนักงานอย่างร้อนรน

       "ไอดานอยู่ไหน!"

       "หัวหน้าออกไปรวบรวมวัตถุดิบ"

       "ทำไมถึงไม่ใช้บริการส่งของ"

       "เพราะไม่มีเจ้าไหนส่งตับเน่าของเจียงซือ*ให้น่ะสิ"

( เจียงซือ - ผีดิบจีน / ผีกองกอยจีน )

       "ตับเน่าของเจียงซือ..."

       กริดพลันเย็นวาบไปทั้งตัว  
       กระทะไอดานมีคุณสมบัติพิเศษในการดึงรสชาติวัสดุดิบออกมาถึงขีดสุด  
       จะเกิดอะไรขึ้นหากไอดานปรุงอาหารโดยใช้ตับเน่าของเจียงซือเป็นวัตถุดิบ...

       '...อาหารนรก!'

       มันบ้ามาก...  แววตากริดหม่นหมองทันที

       'บ้าไปแล้ว...  หมอนั่นจะปรุงตับเน่าไปทำไม'

       แถมยัง...

       'ทำไมต้องศพเจียงซือ...'

       หากตนจ้างไอดานเป็นพ่อครัวส่วนตัวถาวร  ไม่ใช่ว่าเขาต้องกินอาหารนรกพวกนี้ทุกมื้อหรอกหรือ

       '...เป็นไปไม่ได้แน่'

       ไอดานคงไม่ปรุงอาหารพิสดารทุกมือแน่นอน  เขาต้องมีจานปรกติบ้าง

       'เราต้องกิน  ไม่ว่ายังไงก็ต้องกินอาหารของไอดาน!'

       ยากที่กริดจะทำใจเชื่อลง  ว่าไอดานสามารถรังสรรค์อาหารบัดซบได้ทุกมื้อ
       เขาเอ่ยปากถามพนักงานอีกครั้ง

       "แล้วเจียงซืออยู่ไหน"

       สุดประตูทิศใต้ของแพงเจีย  เดินขึ้นเหนือมาเล็กน้อย  ที่นั่นจะมีสุสานอยู่  ซากศพเจียงซือจะถูกทิ้งกองรวมกันไว้ที่นั่น

       "ดีล่ะ!  ไอดานอยู่ที่สุสานใช่ไหม"

       เมื่อกริดได้รับข้อมูลที่อยู่  เขาก็เตรียมจะวิ่งไปหา
       ขณะเขากำลังก้าวเท้าออกจากร้านอาหาร

       "เอ่อ... แล้วนายเป็นใครกัน"

       ไอดานกลับมาพอดี
       ในมือมีตะกร้าอัดแน่นไปด้วยวัตถุปริศนาสีดำ  กริดพยายามไม่สนใจกลิ่นเหม็นเน่าราวซากศพ  เขารีบยื่นกระทะให้ไอดานโดยไว

       "เอ้านี่!  ที่สัญญากับนายไว้"

       "หืม..."

       ไอดานเคยตัดใจจากมรดกตระกูลชิ้นนี้ไปแล้ว
       คงเป็นการยากที่จะคาดหวังว่า  ชายแปลกหน้าจะหามันพบด้วยเวลาเพียงสองวัน
       ไอดานจ้องมองกระทะด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างหนัก  จากนั้นก็ส่งเสียงดีใจสุดชีวิต

       "อ--โอ้!  โอ้ว!  โอ้ววววว!  ไม่น่าเชื่อ!  นายหาสมบัติประจำตระกูลของฉันพบเร็วขนาดนี้เชียว!"

       ไอดานดีใจจนแก้มปริ  
       ขณะที่ไอดานกำลังลูบไล้กระทะอย่างมีความสุข  ข้อความระบบก็แสดงขึ้นตรงหน้ากริด

[ ภารกิจ <ตามหาร่องรอยมหาวีรบุรุษ> สำเร็จ ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 30% ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับไอดานเพิ่มขึ้น 10 หน่วย ]

       "เอ๋!"

       ค่าความสัมพันธ์ +10 เนี่ยนะ...
       เพิ่มขึ้นสิบหน่วยแม้จะหาสมบัติประจำตระกูลมาให้!  ช่างบ้าบอสิ้นดี!

       'อย่างน้อยก็ควรสัก 50 ไม่ใช่รึไง'

       ไอดานส่งสัญญาณเป็นนัยบอกกริดให้นั่งลงบนโต๊ะอาหาร

       "ยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม  ดีล่ะ!  นั่งลงก่อน  ฉันจะตอบแทนผู้มีพระคุณที่ช่วยนำมรดกประจำตระกูลกลับมา  ด้วยอาหารที่มีรสชาติเป็นเลิศ"

       "อา... ได้เลย"

       เป็นโอกาสดีที่ตนจะได้กินอาหารเพื่อเพิ่มค่าสถานะถาวร  กริดรีบนั่งลง  แต่ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้บางสิ่ง  เขารีบพูดดักคอ

       "เอ่อ... ลืมบอกไป  ฉันเป็นโรคแพ้ตับนะ  ถ้ากินตับแล้วจะต้องตาย"

       อีกความหมายหนึ่งก็คือ  ได้โปรดอย่าทำอาหารโดยใช้ตับเน่าเจียงซือบัดซบนั่น!
       ใบหน้าอันยิ้มแย้มของไอดานกระตุกเล็กน้อย  ท่าทีแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันใด

       "ง--งั้นหรอกหรือ..."

       ไอดานส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิดพร้อมกับเดินเข้าไปในครัว  ทั้งสีหน้าและการกระทำที่ไม่เป็นมิตรของไอดานทำให้กริดพลันวิตกหนัก 

       'อย่าบอกนะว่าค่าความสัมพันธ์ลดลง'

       ราวกับไอดานเป็นเอ็นพีซีที่เพิ่มค่าความสันพันธ์ได้จากการกินอาหารของเขาเท่านั้น

       'ต้องเป็นแบบนั้นแน่...'

       นั่นคือเหตุผลที่ความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเพียง 10 แต้มหลังการนำกระทะกลับมาคืนให้
       ในวันแรกที่พบกัน  กริดกินพายครีมออร์คไม่หมด  และครั้งนั้นอาจทำให้ไอดานโกรธจนค่าความสัมพันธ์ลดลง

       'บัดซบสิ้นดี...'

       การจะจ้างไอดานมาเป็นพ่อครัวประจำตัว  ปัจจัยสำคัญอันดับแรกคือค่าความสัมพันธ์ระดับสูงสุด  
       จะมีวิธีใดบ้างที่สามารถเพิ่มค่าความสัมพันธ์ได้โดยไม่ต้องกินอาหารขยะเหล่านี้
       ขณะกริดกำลังครุ่นคิดหัวแทบระเบิด

       "นี่คืออาหารจานถนัดของฉัน... จับเช" (ยำวุ้นเส้นเกาหลี)

       "..."

       ไอดานยื่นจานจับเชให้กริด  
       จับเชคืออาหารยอดนิยมของชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่  ไม่เว้นแม้กระทั่งกริด

       'ฟู่ว  ขอบคุณสวรรค์  ไม่ว่าพ่อครัวจะกระจอกแค่ไหน  แต่คงไม่มีทางทำให้จับเชไม่อร่อยได้แน่'

       ผัก  เนื้อ  และเส้นจับเช  
       กริดคีบทั้งหมดในปริมาณพอเหมาะพร้อมกับยัดใส่ปากโดยไม่ลังเล  จากนั้นก็พ่นพรวดออกมาทันทีโดยไม่ทันกลืนลงคอ  
       ผักมีรสชาติเหี้ยเหมือนเคี้ยวดินแถมกรอบจนดังกร้วม  ส่วนหมูดิบทั้งเย็นและแข็ง  ทางด้านเส้นจับเชทั้งเหนียวและเคี้ยวยาก  
       อาหารจานนี้ไม่มีวัตถุดิบลับพิสดาร  หากแต่มันมีคุณภาพต่ำและไม่ถูกปรุงอย่างถูกต้อง  ยิ่งได้กระทะไอดานช่วยขับรสสัมผัสให้เข้มข้น  ความห่วยแตกจึงเพิ่มพูนเท่าทวี

       "นี่มัน..."

       นี่ตนต้องกินอาหารขยะจานนี้ไปอีกกี่มื้อ...
       ขณะที่กริดกำลังจะสาปแช่งตามนิสัย  เขาพลันหยุดกึก  เพราะตอนนี้แววตาไอดานกำลังจดจ้องจับเชที่กริดถุยออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา
       
       "นายถุยทิ้งเพราะรสชาติไม่ถูกปากงั้นหรือ"

       "ม--ไม่เลย  มันอร่อยมาก  อร่อยจนฉันตกใจเผลอถุยออกไปเล็กน้อย"

       อดทนเข้าไว้...
       กริดอุดจมูกพร้อมกับกวาดจับเชทั้งจานเข้าปากในคำเดียว

       งั่มงั่ม...

       กริดเคี้ยวจับเชนรกด้วยสีหน้าขาวซีดเหมือนคนป่วยใกล้ตาย
       ไอดานเอ่ยปากถาม
       
       "ทำไมนายต้องอุดจมูกเวลากิน"

       "ป--เป็นนิสัยส่วนตัวของฉัน...  ทำจนเคยชินแล้ว"

       "หืม  จริงหรือ...  เป็นนิสัยที่แปลกมาก"

       'แปลกไม่เท่าอาหารมึงหรอก...'

       กริดเหงื่อแตกพลั่กในขณะกล้ำกลืนฝืนกิน

[ อาหารของไอดานได้เพิ่มค่าสติปัญญาให้ท่าน 1 แต้ม ]

       "อะ..."

       นับเป็นครั้งแรกในชั่วชีวิตการเล่นซาทิสฟายของกริด  ที่เมื่อได้รับค่าสถานะเพิ่มขึ้น  แทนที่จะดีใจ  เขากลับแสดงสีหน้าป่วยไข้ไม่สบาย

Comments

  1. 55555 สนุกมากครับ ขอบคุณครับ รอติดตามผลงานแปลเสมอนะครับ

    ReplyDelete
  2. 5555+ ลั่นเลยกับคำว่า(รสชาติหมาไม่แดก)

    ReplyDelete
  3. แปลกไม่เท่าอาหารมึงหรอกนี่อย่างลั่นเลย

    ReplyDelete
  4. ทนอยู่กับรสชาติหมาไม่แดก ไปอีกยาวว

    ReplyDelete
  5. มันต้องพูดความจริงกับไอดานป่ะ ถึงจะทำให้มันทำอาหารดีดีสักที

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00