จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 542



[ ท่านสังหารเกราะหนาม ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 121,599,800 หน่วย ]
[ จำนวนสังหารเกราะหนาม : 2/10 ]

    'เหยื่อโอชะ'

    ค่าประสบการณ์จากเกราะหนาม  มากเป็นสองเท่าของแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์
    หรือหากเทียบกับแวมไพร์จูเนียร์  เกราะหนามจะมอบค่าประสบการณ์สูงกว่าถึง 30 เท่า
    ด้วยเหตุนี้  หลอดค่าประสบการณ์ของกริดจึงเพิ่มพรวดพราดแม้เพิ่งจะอัพเลเวล 322 มาหมาดๆ

    แต่หากจะเรียกว่าจุดเก็บเลเวลจริงจัง  ดันเจี้ยนลับปราสาทแพงเจียยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร
    เพราะเกราะหนามมิได้ปรากฏตัวบ่อยขนาดนั้น

    'เหมือนกับที่ซูเอพูดไว้ไม่มีผิด'

    เกราะหนามคือมอนสเตอร์ที่ชอบทำตามใจตนเอง  ไม่จับกลุ่มสุงสิง  หกตัวแรกถือเป็นกรณีพิเศษ 
    หน่วยฟินิกซ์แดงสู้รบอย่างระมัดระวัง  ในยามที่เผชิญหน้ากับเกราะหนามหนึ่งตัว  ซึ่งนานๆ ครั้งจะพบที
    กริดเริ่มรู้สึกผิดหวัง

    'คงดีไม่น้อยหากมันเกิดมาทีละสองตัวพร้อมกัน'

    เขาต้องการรวบรวมด้ายเงินให้มากที่สุด
    กริดเริ่มกังวลว่าจะได้รับในจำนวนที่ไม่เพียงพอ
    หากรวบรวมสมญานามทั้งหมด  ค่าความชำนาญของกริดจะสูงถึง 3,723 แต้ม  หมายความว่า  ชายหนุ่มจะควบคุมด้ายเงินได้พร้อมกันสูงสุดสิบเส้น
    กริดอยากได้สิบเส้นโดยไว  มิใช่เพียงสองเส้นอย่างในปัจจุบัน  ไม่ว่ายังไงก็ต้องรวบรวมอีกแปดเส้นให้ครบ

    "หืม"    

    หลังจากลาดตระเวนราวสิบนาที  เกราะหนามที่พบทั้งหมดมีเพียงสองตัว
    ทันใดนั้น  อีกฟากฝั่งของทางเดินอันมืดมิด  เสียงก้าวย่างอันเชื่องช้าได้ดังขึ้นอีกครั้ง
    กริดทดลองไอเดียใหม่ทันที  
    เขาส่งโนเอะและหัตถ์เทวะไปคอยตรึงเกราะหนามไว้  จากนั้นก็ใช้ด้ายเงินสองเส้นรัดพันร่างกายมันอย่างแน่นหนา
    ส่วนชื่อท่าก็คือ...

    "ใยพันธนาการ!"

    ฟังดูคุ้นหูพิลึก
    แต่กริดไม่ได้ตั้งเอาฮา  นี่คือชื่อที่เกิดจากการกลั่นกรองมาแล้วอย่างดี

    ฉึบ!

    ด้ายเงินม้วนรอบเกราะหนามและรัดจนแน่น  
    แขนทั้งสองข้างของมันถูกมัดรวมกับสะโพกจนขยับไม่ได้  ฉากนี้ได้แสดงให้ทุกคนเห็นว่า  ค่าความชำนาญของกริดสูงส่งมากแค่ไหน

    'ดีล่ะ!  สำเร็จ!'

    กริดฉีกยิ้มกว้างถึงหู
    แต่รอยยิ้มนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน

    "เอ๋!"

    "โฮกกก!"

    เกราะหนามใช้พละกำลังดิ้นจนหลุดด้ายเงินมาได้

    'ประสิทธิภาพในการมัดอ่อนแอเกินไป'

    ด้ายเงินเพียงสองเส้นมีพลังไม่มากพอ  
    ไม่ใช่แค่เกราะหนาม  แม้แต่มอนสเตอร์สายพละกำลังช่วงเลเวล 200 ก็ยังสลัดด้ายเงินสองเส้นหลุดไม่ยาก

    'คงต้องใช้อย่างน้อยสิบเส้น  เพื่อให้ประสิทธิภาพการมัดเป็นที่น่าพึงพอใจ'

    ชายหนุ่มดึงด้ายเงินกลับพลางครุ่นคิด
    จากนั้น  เขาบิดข้อมือเพื่อม้วนด้ายให้เป็นเกลียว  ด้ายเงินสองเส้นหมุนควงสว่างโดยที่ส่วนปลายมีลักษณะสามเหลี่ยมแหลมคมเหมือนหัวลูกศร
    กริดใช้เวลาสองวินาทีในการก่อรูปร่างและยิงออกไป  หมายความว่า  หากมีสิบเส้นล่ะก็  ระยะเวลาก็น่าจะสูงถึงราว 10 วินาที
    เขาอยากให้ค่าความชำนาญของตนกลายเป็น 4,000 แต้มเสียประเดี๋ยวนี้  เพื่อให้ความเร็วการบังคับด้ายเพิ่มเป็นสองเท่า
    
    จะเกิดอะไรขึ้นหากกริดสามารถบังคับด้ายเงิน 10 เส้นภายใน 5 วินาที
    ไอเท็มสุดโกงถัดจากพาเฟรเนี่ยมก็จะถือกำเนิดขึ้น

    'สิ่งเดียวที่ยังขาดไป  คือสปีดในการขว้างด้ายเงินใส่เป้าหมาย'

    เพราะไม่ว่ายังไง  ด้ายเงินก็ยังมีลักษณะเหมือนด้ายอยู่ดี  น้ำหนักของมันเบาหวิว  ย่อมมีขีดจำกัดความเร็วในการขว้างไปถึงเป้าหมาย  
    หากต้องสู้กับศัตรูที่มีความคล่องตัวสูง  เขาไม่มีทางโจมตีให้โดนได้เลย

    'ถ้าอยากให้ด้ายเงินกลายเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพ  เราคงต้องติดคมมีดไว้ที่ส่วนปลาย  หรือไม่ก็ติดตั้งเป็นกับดักในจุดต่อสู้  และหาโอกาสใช้งานเมื่อศัตรูเผลอ'

    ตึกตัก!  ตึกตัก!

    กริดผุดไอเดียการใช้งานด้ายเงินมากมาย  
    ชายหนุ่มมั่นใจว่า  เมื่อไรก็ตามที่รวบรวมด้ายเงินได้ครบสิบเส้น  พัฒนาการของตนจะก้าวกระโดดอย่างไร้ขีดจำกัด

    'หากต้องสู้กับครอเกลสมัยงานแข่งนานาชาติ  โอกาสชนะของเราในตอนนี้คือ 100% เต็ม'

    กริดมั่นใจ
    แต่ปัญหาคือ  ครอเกลเองก็เติบโตขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด  เขาได้รับคลาสอริยดาบ  ที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งอันดับหนึ่งในบรรดาคลาสสายต่อสู้ทั้งหมด
    กริดไม่แน่ใจว่าครอเกลตอนนี้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว  เมื่อเทียบสมัยคลาสนักดาบสีขาวเกรดทั่วไปที่ตนพ่ายแพ้มา

    'เฮ่อ... ยิ่งคิด  ศักดิ์ศรีของเราก็ยิ่งถูกระคายเคือง'

    กริดเคยพ่ายแพ้ให้กับคลาสทั่วไป  แม้ว่าตนจะมีคลาสเกรดเลเจนดารีแล้วก็ตาม
    สมัยนั้น  เขาคิดว่ามันคือเรื่องปรกติ  ในเมื่อตนไร้พรสวรร์  ก็ต้องอาศัยความเก่งกาจจากด้านอื่นเพื่อให้สมดุล  
    แต่ตอนนี้  เมื่อลองย้อนกลับไป  กริดกลับรู้สึกอับอายอย่างมาก

    'ต้องลบล้างความผิดพลาดในอดีต'

    ไฟแห่งความมุ่งมั่นในตัวกำลังลุกโชน
    ไม่ว่ายังไง  เขาก็ต้องแซงหน้าครอเกลไปให้ไกลที่สุด

    ***

    "แสงสว่างงั้นหรือ"

    กริด  ซูเอ  และหน่วยฟินิกซ์แดง  ทุกคนได้รับการมองเห็นคืนมาเมื่อเดินเข้าไปถึงส่วนลึกของดันเจี้ยน  
    ผนังดันเจี้ยนที่เคยมีคุณสมบัติดูดแสง  บัดนี้ถูกเคลือบไว้ด้วยสีเขียวหยก  เกิดเป็นแสงสว่างเผยให้เห็นสถาปัตยกรรมภายใน
    
    "มีสถานที่แบบนี้ในดันเจี้ยนได้ยัง"

    เป็นเวลากว่าสี่ปีแล้ว  ที่หน่วยฟินิกซ์แดงเริ่มลงมือสำรวจดันเจี้ยนแพงเจียอย่างจริงจัง  
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา  พวกเขาไม่เคยมาไกลขนาดนี้เลยสักครั้ง  
    ส่วนใหญ่จะตัดสินใจกลับหลังจากล้มเกราะหนามได้เพียงหนึ่งหรือสองตัว
    แต่วันนี้ต่างออกไป

    กริดเดินนำทุกคนด้วยสีหน้าองอาจ  เขาสังหารเกราะหนามอย่างหิวกระหาย  
    ส่งผลให้ทุกคนที่เดินตามมา  ไม่สูญเสียเรี่ยวแรงมากนัก 
    จนลึกมาถึงห้องแห่งนี้ได้  
    ภายในห้องช่างงดงามอลังการ  กำแพงโดยรอบทั้งหมดถูกเคลือบด้วยแสงสีเขียวหยก  
    พวกเขาลงมือสำรวจภายในห้องอย่างละเอียดทันที  
    แล้วก็ได้พบทะเลสาปใสสะอาด  บางจุดมีสมุนไพรล้ำค่าเติบโต    

    "อุณหภูมิกำลังเหมาะสม  มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ถ้าหากมีอาหารมากพอ"

    "แต่ทำไมถึงมีทางเข้าออกสี่ทาง  พวกเราจะไม่แย่เอาหรือ  ถ้าหากถูกเกราะหนามล้อมโจมตีจากทุกทางพร้อมกัน"

    "อืม… นั่นก็จริง"

    สถานที่แห่งนี้คืออะไรกันแน่นะ  
    หน่วยฟินิกซ์แดงบางคนพยายามมองหาร่องรอยอาหาร  ส่วนบางคนก็สำรวจทะเลสาปใสบริสุทธิ์

    "อะไรกัน...  เฮ้ย!  นี่มัน!"

    "กล่องสมบัติ!  กล่องสมบัติ!"

    เฉกเช่นทุกดันเจี้ยน  
    ดันเจี้ยนลับปราสาทแพงเจียย่อมกล่องสมบัติซ่อนอยู่มากมาย
    แต่โอกาสได้พบกลับมีน้อยมาก  ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา  หน่วยฟินิกซ์แดงค้นพบกล่องสมบัติเพียงไม่ถึงสิบ 
    ทว่าคราวนี้  กล่องสมบัติได้จมอยู่ใต้ก้นทะเลสาปที่ใสสะอาด  ราวกับไม่อยากให้ใครหามันพบ
    กริดแสดงความสนใจทันที

    "จะมีทองอยู่ด้านในรึเปล่า"

    ผ่านไปแล้วสามชั่วโมงหลังจากทุกคนเริ่มสำรวจดันเจี้ยน
    กริดอมยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้พบกล่องสมบัติ  แม้ระหว่างทางที่ผ่านมาจะแทบไม่ได้ล่ามอนสเตอร์เลยก็ตาม
    หน่วยฟินิกซ์แดงรีบห้ามกริดที่กำลังจะเปิดกล่องออก

    "อาจเป็นกับดักก็ได้นะ"

    "ในปีที่แล้ว  พวกพ้องของเราคนหนึ่งได้เปิดกล่องสมบัติและถูกพิษเข้า"

    นั่นเป็นความจริง
    โอกาสที่กล่องสมบัติในดันเจี้ยนจะเป็นกับดักมีมากถึง 50%

    "แล้วจะปล่อยไว้ที่นี่โดยไม่เปิดออกรึไง"

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น  หน่วยฟินิกซ์แดงพลันส่ายหัว

    "เปล่าเลย  พวกเราแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณ"

    "ให้พวกเราเปิดมันเถอะ  คุณกริดไม่ควรเสี่ยงอันตราย"

    กริดไล่สังหารเกราะหนามอย่างอำมหิต  ส่วนสมาชิกฟินิกซ์แดงได้แต่เดินตามหลังโดยแทบไม่ต้องออกแรง
    แม้กริดจะทำเพื่อตนเอง  แต่ผลลัพธ์กลับเป็นประโยชน์ต่อหน่วยฟินิกซ์แดงและชาวเมืองแพงเจียทุกคน  
    พวกเขาจึงรู้สึกติดหนี้บุญคุณกริดใหญ่หลวง

    อึก...

    หน่วยฟินิกซ์แดงดึงกล่องสมบัติขึ้นจากน้ำ  พวกเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อจ้องมองมัน  ทุกคนต่างกลัวว่าจะถูกพิษหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรงขณะเปิดกล่อง
    แต่ถึงกระนั้น  ไม่มีใครต้องการให้กริดได้รับอันตราย

    แกร่ก!

    สมาชิกคนหนึ่งนั่งลงหน้ากล่อง  เขามีสีหน้าพะอืดพะอม  ฝ่ามือสั่นระริก
    แต่ท้ายที่สุด  ชายคนนั้นสลัดความกลัวและออกแรงเปิดกล่องโดยไม่ลังเล
    ไม่สิ  เขาทำได้แค่พยายาม

    "เอ๋!  เปิดไม่ออก!"

    "ล็อคอยู่หรือ"

    หน่วยฟินิกซ์แดงพลันโล่งอก
    บรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่  บัดนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส

    "กล่องสมบัติที่ล็อคอยู่  ไม่มีทางเป็นกับดักแน่นอน"

    "ถูกต้อง  คงมีสมบัติมหาศาลอยู่ข้างใน"

    "อา...!  มอบให้กริดกันเถอะ!"

    หากไม่มีกริด  ทุกคนไม่มีทางมาถึงที่นี่สำเร็จ 
    เจ้าของสมบัติด้านในย่อมต้องเป็นกริด  
    หน่วยฟินิกซ์แดงยื่นกล่องสมบัติให้กริดด้วยท่าทีสุภาพ

    "ในแพงเจียมีช่างทำกุญแจที่เก่งกาจ  เขาสามารถเปิดกล่องใบนี้ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์"
    
    "แต่คงต้องใช้เงินมากหน่อย  เพราะเป็นทักษะระดับสูง"

    "อา"

    กริดรับกล่องมาพร้อมกับขมวดคิ้ว

[ กล่องปริศนาอัดแน่นไปด้วยเวทมนตร์ชนิดพิเศษ  น้ำหนักของมันมหาศาล ]
[ ระดับน้ำหนักของร่างกายเพิ่มขึ้น  ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง 80% ]

    "..."

    ในสภาพนี้  กริดไม่อาจทำภารกิจล่าเกราะหนามให้สำเร็จแน่
    ชายหนุ่มยังเหลือเกราะหนามให้ต้องสังหารอีกหลายตัว  การแบกกล่องสมบัติไปด้วยจึงไม่ต่างอะไรกับถูกล่ามโซ่
    แต่กริดก็มิได้กังวล  เพราะเขามีมาสเตอร์คีย์อยู่กับตัว!

    กริ๊ก!

    กริดหยิบกุญแจสีดำหน้าตาพิสดารออกมา  จากนั้นก็ปลดล็อคกล่องในพริบตา
    มันง่ายดายผิดคาด
    เขาเพียงเสียบกุญแจเข้าไปในรู  บิดข้อมือ  และกล่องก็เปิด
    เป็นอีกครั้งที่ซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดงต้องทึ่ง

    'ปลดล็อคกล่องสมบัติดันเจี้ยนได้ในพริบตาเนี่ยนะ!'

    'บ้าบอสิ้นดี!'

    'กริดเก่งกาจรอบด้าน… เขาเกิดมาพร้อมกับดาวแห่งโชครึไง'

    ส่วนซูเอกำลังไม่เข้าใจตนเอง  เหตุใดเธอถึงต้องหน้าแดงกำเช่นนี้
    จะเป็นเพราะความชำนาญนิ้วนั่นรึเปล่านะ...

[ กล่องกับดักถูกเปิดออก ]
[ ควันพิษพุ่งกระจายรอบตัวท่าน ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,883 หน่วย ]
[ ท่านติดพิษ ]
[ ท่านกำลังเวียนศีรษะ ]
[ ร่างกายช่วงล่างมิอาจขยับได้ ]
[ ท่านจะสูญเสียพลังชีวิตวินาทีละ 4,500 หน่วย ]
[ ท่านต้านทาน ]

[ ตัวตนลึกลับปรากฏ! ]
[ ภารกิจถูกสร้างขึ้น ]
...
...

    "ก--กริด!"

    ซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดงต่างหน้าถอดสี
    ควันพิษที่พวยพุ่งออกจากกล่อง  เหมือนกับเหตุการณ์ที่พวกพ้องตนประสบเมื่อหนึ่งปีก่อนไม่มีผิด
    กริดสูดเข้าไปเต็มปอดเช่นนั้น  ไม่มีทางที่เขาจะสบายดี
    ขณะหน่วยฟินิกซ์แดงกำลังลนลาน  ซูเอรีบออกคำสั่งอย่างสุขุม

    "รีบนำยาถอนพิษให้กริด  จากนั้นพาเขาออกไปจากที่นี่!"

    ทันใดนั้นเอง

    "ใครจะยอมให้ทำเช่นนั้นกัน"

    เสียงของใครบางคนดังขึ้น

    "โฮกกกกกกก!"

    เกราะหนามกรูเข้ามาลอมทุกคนจากทางเดินทั้งสี่ด้าน  
    พวกมันทั้งหมดมีแปดตัว  
    ขณะกำลังถูกเกราะหนามล้อมกรอบ  ชายวัยกลางคนปริศนาได้ปรากฏตัวด้านหลังกริด  ซึ่งเป็นกึ่งกลางระหว่างกริดและหน่วยฟินิกซ์แดงพอดิบพอดี
    ซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดงล้วนจดจำใบหน้าชายคนนี้ได้
    ไม่สิ  พวกเขาไม่มีทางลืมมากกว่า

    "อารูบี!"

    ในอดีต  อารูบีคือมือขวาของฮานซอกบง  
    ทุกคนเคยคิดว่า  เขาถูกนักพรต*ชั่วสังหารไปแล้วตั้งแต่สองปีก่อน  สมัยแพงเจียถูกรุกราน
    ทว่ากลับกลายเป็น  อารูบีหลบซ่อนตัวอยู่ในดันเจี้ยนแห่งนี้มาโดยตลอด  
    แถมยังเป็นผู้ควบคุมเกราะหนามทั้งหมด!

(도사 - นักพรต  เขียนคนละแบบกับ 'เซียน' )

    "แก… แกหักหลังท่านพ่อ!"

    ซูเอเป็นคนฉลาด  
    เธอรู้ความจริงทั้งหมดทันที  ว่าอารูบีเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการถูกรุกรานเมื่อสองปีก่อน

    อารูบีแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย
    "สมกับเป็นดอกไม้แห่งแพงเจีย  แม้แต่ยามโกรธก็ยังงดงาม  ตัดสินใจได้แล้ว  ฉันจะเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นเจียงซือ  หลังจากที่ตายไป  เธอต้องคอยรับใช้ข้างกายฉันตลอดกาล"

    "แกกล้าดียังไงพูดจาล่วงเกินคุณหนู!"

    หน่วยฟินิกซ์แดงกำลังเดือดดาล  ทุกคนพลันชักอาวุธพร้อมกับส่งจิตสังหาร
    อารูบียังคงแสยะยิ้ม

    เคร้ง! เคร้ง!

    "เป็นเวลากว่าเจ็ดปีแล้ว  ที่ฉันได้พบเกราะหนามหลับไหลอยู่ภายในนี้  ซึ่งฉันบังเอิญพบมันเข้า  ก่อนลอร์ดฮานซอกบงจะรู้ตัวในอีกสามปีให้หลัง  ขณะนั้น  ฉันค่อยๆ ฝึกฝนพวกมันทีละนิดอย่างไม่รีบร้อน  จนถึงบัดนี้  พวกมันกลายเป็นสมุนผู้ซื่อสัตย์ของฉันโดยสมบูรณ์  พวกแกไม่มีทางสัมผัสตัวฉันได้แน่  เพราะก่อนที่อาวุธจะพุ่งมาถึง  ด้ายเงินจะเปลี่ยนให้ทุกคนที่นี่กลายเป็นเนื้อบด!"

    "อึก..."

    หน่วยฟินิกซ์แดงพลันสะดุ้งเฮือก
    เนื่องจากโมโหจนสติไม่อยู่กับตัว  พวกเขาจึงลืมความจริงที่ว่า  อารูบีทำการเรียกเกราะหนามมารุมล้อมทั้งหมดแปดตัวพร้อมกัน
    สถานการณ์กำลังเลวร้ายสุดขีด

    เคร้ง!  เคร้ง!

    อารูบีชอบใจเมื่อได้เห็นสีหน้าหวาดกลัวของหน่วยฟินิกซ์แดง  
    มันใช้มือกอดอกตัวเองไว้พร้อมกับแสดงท่าทางเปี่ยมสุข

    "คุคุคุ...!  ยอดเยี่ยมมาก  แล้วพวกแกจะได้เห็น  ฉันเฝ้ารอเวลานี้มานานถึงเจ็ดปีเต็ม!  ตั้งแต่ที่ได้พบพวกมันครั้งแรก  นี่คือวันที่ฉันจะได้ครอบครองแพงเจียและซูเอพร้อมกัน!"
    
    "แกมันเสียสติ… ไอ้คนทรยศ!"

    หน่วยฟินิกซ์แดงเริ่มตระหนักได้ว่า  อารูบีไม่ใช่คนปรกติอีกแล้ว
    พวกเขาแสดงสีหน้าสิ้นหวัง  
    ไม่มีใครรู้เลยว่า  กริดซึ่งนอนติดพิษอยู่หลังอารูบี  ยามนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง  
    พวกตนกำลังจะตายในไม่ช้า

    เคร้ง!  เคร้ง!

    "..."

    ว่าแต่  เสียงที่ดังน่ารำคาญมาตั้งแต่เมื่อครู่  มันคือเสียงของสิ่งใดกัน
    ใครมันเอาแต่ทุบค้อนมาสักพักแล้ว 
    กว่าอารูบีจะรู้สึกตัว  เวลาก็ล่วงเลยมาพักใหญ่
    หน่วยฟินิกซ์แดงและซูเอรีบหันไปมองด้านหลังอารูบีด้วยสีหน้าตกใจ

    "ก--กริด!"

    กริดติดพิษเมื่อครั้งเปิดกล่องสมบัติ
    แต่ชายที่ควรนอนหมดสภาพใกล้ตาย  ปัจจุบันกำลังนั่งยองทุบค้อนอยู่หน้าทั่ง

    "..."

    เครื่องหมายคำถามอันใหญ่  เกิดขึ้นเหนือศีรษะของซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดง

    "เจ้านี่บ้าไปแล้วรึไง"

    อารูบีเพิ่งจะรู้สึกถึงตัวตนกริด  มันขมวดคิ้ว
    อารูบีหงุดหงิดเพราะช่วงเวลาอันแสนสำคัญของมัน  กลับถูกขัดจังหวะโดยฝีมือช่างตีเหล็กสมองเพี้ยนคนนี้

    "ทุบค้อนไม่ดูตาม้าตาเรือ… แกยังปรกติดีอยู่รึเปล่า!"

    กริดตอบกลับหลังจากได้ยินอารูบีถามซ้ำสองหน

    "ที่แกพูดก็ไม่ผิด  ฉันไม่ปรกตินักหรอก"

    แคร้งงง~!

    ผสานไอเท็ม

    มันคือทักษะที่มีข้อเสียใหญ่หลวงในด้านเวลาเตรียมการ  แต่หากสำเร็จ  ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมน่าพึงพอใจ
    ชายหนุ่มสำเร็จการผสาน +9 ความผิดพลาดและ +8 ดาบใหญ่กริด
    จากนั้นก็ออกคำสั่งหัตถ์เทวะ

    "เปลี่ยนรูปไอเท็ม  ความผิดพลาด"

    ชิ้ง!

    หัตถ์เทวะสีทองสี่ข้าง  บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นดาบใหญ่ทรงฉลามสีทอง
    ถัดมาก็คือ...

    ซ่าาา!

    ในฐานะที่มีวัสดุเป็นพาเฟรเนี่ยม  ความผิดพลาดสีทองเล่มใหม่ย่อมมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นดั้งเดิม  พวกมันกวัดแกว่งกลางอากาศอย่างดุดัน  กระหน่ำฉีกกระชากเกราะหนามจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง 
    โลหิตสาดกระเซ็นไปทุกทิศ  ส่งผลให้ซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดงตกอยู่ในอันตราย

    "คลื่นร่ายรำสังหาร"
    
    ซ่าาา!  ซ่าาา!

    พายุคลื่นดาบทั้งแปดเส้น  พุ่งถาโถมเข้าใส่อารูบีแต่เพียงผู้เดียว

    "เอ๋… หือ!"

    อารูบียังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก  มันตกใจสะดุ้ง  ผงะถอยหลังตามสัญชาติญาณ
    กริดพุ่งเข้าใส่โดยไม่รีรอพร้อมกับกล่าวขอบคุณ

    "ขอบคุณสำหรับภารกิจสุดเจ๋ง"
    
    กริดมั่นใจเมื่อได้อ่านรายละเอียดของภารกิจเกรด SS อันใหม่อย่างถี่ถ้วน

Comments

  1. สนุกมากครับ และค้างหนักมากอย่างอ่านต่อเร็วๆ จัง

    ReplyDelete
  2. กูก็งง🤨 เคร้งเคร้ง!! อะไรว่ะ 555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00