จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 533



       มีบางส่วนที่เหมือนกันระหว่างคันศรฟินิกซ์แดงของกริด  และภาพแบบคันศรที่ไวท์นึกออกในจินตนาการ  
       คันธนูมีสีขาว  มาพร้อมพลังเปลวเพลิงร้อนแรงสุดหยั่ง  
       และนั่นคือวินาทีที่กริดมั่นใจสุดขีด  ว่าวัสดุหลักจะต้องเป็นไม้ฟอสฟอรัสขาวแน่

       ไม้ฟอสฟอรัสขาวมีเนื้อแข็งดั่งเหล็กมังกร  แต่มาพร้อมน้ำหนักที่เบาและเปลวเพลิงร้อนระอุอัดแน่นอยู่ภายใน  ไม่มีสิ่งใดเหมาะจะสร้างคันศรฟินิกซ์แดงไปมากกว่านี้อีกแล้ว  แต่กลับไม่มีช่างตีเหล็กทีมใดเลย  ที่เลือกใดไม้ฟอสฟอรัสขาวเป็นวัสดุในการสร้าง  
       มีน้อยคนนักที่จะคิดถึงไม้ฟอสฟอรัสขาวในหัว

       พวกเขาโง่งมจนคิดไม่ถึงงั้นหรือ
       ไม่ใช่อะไรแบบนั้น  แต่ชาวเมืองทวีปตะวันออกล้วนถูกปลูกฝังว่า  ไม้ฟอสฟอรัสขาวไม่มีวันถูกโค่นลงได้  ทุกที่ในทวีปตะวันตกล้วนมีสามัญสำนึกเช่นนี้ 
       ไม่มีใครเลยสักคนที่กล้าคิดสร้างไอเท็มด้วยวัสดุจากไม้ฟอสฟอรัสขาว

       แต่กริดกลับทำมัน...
       เขาคือชายเพียงคนเดียวที่สามารถตัดไม้ฟอสฟอรัสขาวได้!

       "นั่นไม้ฟอสฟอรัสขาวใช่ไหม..."

       "บ้าน่า… เป็นไปไม่ได้แน่"

       ผู้ชมเรือนหมื่นที่เฝ้ามองการแข่ง  ทุกสายตาจดจ้องไปยังท่อนไม้สีขาวเป็นตาเดียว  สิ่งที่เด็กใหม่โรงตีเหล็กค้อนขาวนำออกมา  ดูคล้ายคลึงกับไม้ฟอสฟอรัสขาวเสียเหลือเกิน  
       ท่อนไม้ยาวตรง  ภายนอกเหมือนกับฟอสฟอรัสขาวไม่ผิดเพี้ยน
       แต่ผู้คนยังคงเย้ยหยันว่า  นั่นต้องไม่ใช่ไม้ฟอสฟอรัสขาวแน่

       "ต้นฟอสฟอรัสขาวไม่มีวันถูกโค่น… ใช่ไหม"

       "ถูกต้อง  ฉันได้ยินมาว่า  หากมันได้รับความเสียหาย  จะเกิดระเบิดรุนแรงขึ้น"

       "ไม่มีทางเป็นไม้ฟอสฟอรัสขาวได้...  คงแค่คล้ายกันเท่านั้น"

       แต่ยังมีไม้ชนิดใดที่ภายนอกคล้ายคลึงกับฟอสฟอรัสขาวอีกหรือ
       อาจมีต้นไม้สีขาวมากมายบนโลก  แต่ฟอสฟอรัสขาวนั้นพิเศษ  ลายและท่อนไม้ของฟอสฟอรัสขาวจะเรียบตรงไร้จุดตำหนิ  ไม่มีการบิดเบี้ยวแม้แต่เศษเสี้ยว  
       ในขณะที่ผู้ชมกำลังสับสน  มีใครบางคนเริ่มกล่าวหา

       "ไอ้พวกทีมตีเหล็กค้อนขาวน่ารังเกียจ!  ไร้ทักษะดึงดูดผู้คนถึงขนาดต้องสร้างความฮือฮาด้วยวิธีอื่นเชียวรึ!"

       อีกด้านหนึ่งของเวทีการแข่ง
       ย่อมเป็นเสียงโพล่งอย่างฉุนเฉียวของเอโนช  จากฝั่งโรงตีเหล็กเพลิงฟ้าที่มีซุ้มแข่งตั้งประจัญหน้ากับโรงตีเหล็กค้อนขาว  
       มันกำลังโกรธจัด
       เอโนชไม่ชอบที่ผู้ชมละเลยความสนใจจากมันซึ่งเป็นแชมป์เก่า  และหันไปสนใจกับทีมตีเหล็กกระจอกอย่างโรงตีเหล็กค้อนขาว

       โรงตีเหล็กค้อนขาวดึงดูดผู้คนด้วยความฮือฮา  มิใช่ฝีมือ
       กล้านำไม้ฟอสฟอรัสขาวปลอมออกมาเชียวหรือ
       ก็แค่การกระทำชั้นต่ำไร้ประโยชน์  รังแต่จะทำให้พวกมันขายขี้หน้ามากขึ้น!

       ดาไวท์  ชายที่เอโนชเคยเคารพรักยิ่งกว่าใครบนโลก  
       เอโนชกำลังมีอารมณ์แปรปรวน  ศักดิ์ศรีของโรงตีเหล็กค้อนข้าวที่ดาไวท์สร้างขึ้นอย่างยากลำบาก  บัดนี้สูญสิ้นทุกสิ่งไม่มีเหลือ

       'ดาไวท์!'

       เหตุใดเขาถึงเลือกไวท์เป็นผู้สืบทอด  จนทำให้โรงตีเหล็กค้อนขาวตกต่ำลงถึงเพียงนี้
       ทุกสิ่งที่ดาไวท์เพียรสร้างขึ้น  ทั้งหมดกลายเป็นหมันทันใด

       'แม้แต่ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกก็ยังหน้ามืดตามัว  เห็นสายเลือดดีกว่าความสามารถ!'

       แกร่ก!

       เอโนชนำฟืนเกรดสูงสุดที่เตรียมไว้ล่วงหน้า  มาใส่ใต้เตาหลอม  เขาใช้เทคนิคพิเศษในการสร้างเปลวเพลิงสีฟ้าขึ้น  
       ก่อเกิดเป็นเพลิงฟ้าลุกโชนท่วมเตาหลอมอย่างร้อนแรง

       "ฉันจะแสดงเปลวเพลิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดของโลกให้เห็นเอง!"

       พรึ่บ!  

       เมื่อเอโนชเหยียบที่เป่าลม  เพลิงสีฟ้าอันงดงามได้ลุกโชนเฉิดฉาย  
       อุณหภูมิเวทีการแข่งสูงขึ้นพริบตา  การกระทำนี้เรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมทันใด

       "โอ้!!  เป็นเปลวเพลิงที่ใหญ่มาก!"

       "แถมสีฟ้าของมันก็ยังสวยสุดยอด!"

       เพลิงฟ้าคือเปลวเพลิงที่มีคุณภาพสูงสุดในอาณาจักรโช  
       แม้กระทั่งดาไวท์ยังชื่นชมเพลิงฟ้าในยามที่เขายังมีชีวิต
       เหล็กคุณภาพต่ำสุดจะกลายเป็นเหล็กถูกภาพเยี่ยมเมื่อถูกถลุงด้วยเพลิงฟ้า  และนี่คือสาเหตุที่เปลวเพลิงสีฟ้ามีคุณภาพสูงสุดในบรรดาเปลวเพลิงทั้งหมด

       เปลวไฟร้อนแรงวูบวาบได้ทำให้ผู้ชมเริ่มตื่นเต้น
       กองเชียร์ละสายตาจากโรงตีเหล็กค้อนขาวและไม้ฟอสฟอรัสขาวทันที  
       ขณะเดียวกัน  กริดเองก็ชื่นชมเปลวเพลิงเอโนชไม่น้อย

       'มีทักษะเป่าลมที่ดี'

       หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับเปลวเพลิง  บางทีเอโนชอาจมีระดับสูงถึงช่างฝีมือ
       ใช่แล้ว  แค่ช่างฝีมือเท่านั้น  ยังห่างชั้นกับช่างตีเหล็กในตำนานหลายขุม
       กริดทั้งประหลาดใจและผิดหวังในเวลาเดียวกัน

       'คิดว่าจะได้เรียนรู้เทคนิคพิเศษจากโรงตีเหล็กเพลิงฟ้าเสียอีก... ไม่เหมือนกับที่เราเรียนรู้จากโรงตีเหล็กค้อนขาว'

       ก็ไม่เท่าไรนี่นา...
       
       'เทคนิคการใช้ค้อนของโรงตีเหล็กค้อนขาวเจ๋งกว่าตั้งเยอะ'

       ดูเหมือนดาไวท์ที่ทุกคนชื่นชม  จะเป็นช่างตีเหล็กฝีมือเยี่ยมตัวจริงเสียงจริง
       กริดครุ่นคิดพลางโยนฟืนฟอสฟอรัสขาวใส่ใต้เตาหลอม

       ทันใดนั้นเอง

       บรึ้มมมมมม~~~!

       "...!"

       เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นทางฝั่งเตาหลอมของโรงตีเหล็กค้อนขาว
       ผู้ชมและช่างตีเหล็กคนอื่นต่างหันมามองเป็นตาเดียวอีกครั้ง  
       จากนั้นทุกคนพลันต้องตะลึง       

       "อ--อะไรกัน!  เปลวเพลิงนั่นมัน..."

       "มันกำลังลุกท่วมเตาหลอม!"

       เปลวเพลิงของกริดมีขนาดมหึมา
       เตาหลอมที่ว่าใหญ่แล้ว  แต่เปลวเพลิงกลับลุกท่วมโชติช่วง  ส่วนยอดเปลวเพลิงกำลังลุกโชนวูบวาบกลางอากาศ  เปลวเพลิงสีแดงนรกตรงหน้าทุกคน  เป็นราวกับเพลิงจากดวงอาทิตย์ไม่ผิดเพี้ยน  
       ตรงข้ามกับทุกคนที่กำลังตกใจ  เอโนชหัวเราะร่วนอย่างขบขัน

       "วะฮ่าฮ่าฮ่า!  ไอ้มือใหม่คนนี้ไม่รู้จักควบคุมเครื่องเป่าลม!  วัสดุไม่มีทางทนเปลวเพลิงที่ร้อนแรงขนาดนี้ได้แน่!  สิ่งที่นายทำคือการเผาทุกอย่าง-- เฮ้ย!"

       เป็นครั้งแรกที่เอโนชตกอยู่ในภวังค์เงียบงัน

       กึก  กึก  กึก

       กริด...

       ช่างตีเหล็กหน้าใหม่ของทีมค้อนขาวกำลังใช้เครื่องเป่าลมอย่างชำนิชำนาญ  
       เขาวนกระทำซ้ำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

       พรึ่บบ!  พรึบ...

       เปลวเพลิงขนาดมหึมาเมื่อครู่  บัดนี้สงบนิ่งไม่เกรี้ยวกราด  ราวกับลูกแมวเชื่อง  
       ทั้งเอโนช  หัวหน้าโรงตีเหล็กทั่งดำ  และหัวหน้าโรงตีเหล็กแหนบแดง  ทุกคนจดจ้องฉากตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกโพลง

       'เปลวเพลิงที่ราวกับไม่มีทางควบคุมได้  กลับสงบในพริบตา...'

       'เทคนิคการใช้ที่เป่าลมสุดยอดมาก  การขยับมือของเด็กหนุ่มผู้นั้น… ราวกับเขาใช้ทั้งชีวิตที่ผ่านมาเพื่อฝึกฝนสิ่งนี้'

       'เขาเป็นใครกันแน่… ยืนอยู่เบื้องหน้าเปลวเพลิงที่อาจหลอมละลายผิวหนัง  แต่กลับไม่สั่นไหวเลยสักนิด  แถมยังสุขุมเยือกเย็นพอที่จะควบคุมเครื่องเป่าลมอย่างไร้ที่ดิ… ดูผิวหนังของเขาสิ  ยังไม่เปลี่ยนสีแม้แต่นิดเดียว!'

       พรึ่บ!

       ฝั่งโรงตีเหล็กค้อนขาวเกิดเสียงดังอีกครั้ง  คราวนี้เป็นเสียงของอุณหภูมิเปลวเพลิงที่เพิ่มขึ้นฉับพลัน

       "ส--สุดยอด  แต่มันจะไม่ร้อนไปหน่อยหรือ!  นายอาจกลายเป็นตอตะโกก่อนได้ใส่วัสดุใดลงไปในเตาหลอม..."

       กริดหันไปอธิบายให้กับไวท์ผู้ตื่นตระหนก

       "มันอาจอันตรายไปบ้าง  แต่ก็จำเป็น  ฟืนฟอสฟอรัสขาวที่ฉันตัดมาแสนยากลำบาก  ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดลุกไหม้ที่เริ่มแผ่ความร้อน"
       
       ฟืนชนิดนี้มีความร้อนแฝงภายในมหาศาล
       แต่ไม้ฟอสฟอรัสขาวจะเริ่มลุกไหม้ในอุณภูมิที่สูงกว่าฟืนทุกชนิด  นี่คือองค์ความรู้ที่กริดได้รับจากข้อความระบบของช่างตีเหล็กในตำนาน
       
       พรึ่บบบบ!
       
       เปลวเพลิงเตาหลอมร้อนแรงจนยากจะยืนใกล้  ไวท์และลูกมือต่างถอยหลังคนละก้าวสองก้าว  ส่วนกริดเดินสวนทางเข้าไปในเปลวเพลิงพร้อมกับโยนท่อนฟอสฟอรัสขาวที่เตรียมมา
       จากนั้นก็เร่งไฟด้วยเครื่องเป่าลม

       กึก!  กึก!  กึก!

       สายลมที่พัดผ่านอย่างเป็นจังหวะ  ได้เร่งอุณหภูมิเตาหลอมให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก

       'เป็นไปไม่ได้!'
       
       ช่างตีเหล็กทีมเพลิงฟ้าต่างพยายามปฏิเสธความจริงที่เห็น  
       ในสายตาพวกมัน  กริดไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว  หากแต่เป็นจอมอสูรที่มาพร้อมกับเพลิงนรกโลกันตร์  
       เอโนชเริ่มหวาดกลัวในตัวกริด

       "สำเร็จ!"

       กริดหยุดการเป่าลมและนำแหนบยาวคีบท่อนฟอสฟอรัสขาวออกจากเตา
       ยามนี้  สีเนื้อไม้ขาวนวลยิ่งกว่าเก่า  แถมยังเปล่งแสงสีขาวเจือจาง  ชายหนุ่มใช้แหนบยกท่อนฟอสฟอรัสขาวและย้ายไปวางบนทั่ง
       จากนั้น  เขานำค้อนตีเหล็กระดับสูงสุดออกมา  มีเพียงผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าเท่านั้นที่ใช้งานมันได้  

       แคร้งงงงง!

       เสี้ยววินาทีที่ค้อนกริดปะทะกับท่อนฟอสฟอรัสขาว

       "อะ--!"

       หัวหน้าโรงตีเหล็กทั้งสี่ต่างหยุดหายใจโดยพลัน
       ฝีมือการขึ้นรูปโลหะของกริด… ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าฝีมือการควบคุมเครื่องเป่าลมเมื่อครู่ไม่รู้ตั้งกี่เท่า!

       'เด็กหนุ่มผู้นี้...'

       'สมบูรณ์แบบ!'

       ชายคนนี้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าดาไวท์ในยุครุ่งเรืองเสียอีก  
       เขาเก่งฉกาจพอจะทำให้ทุกคนพลันนึกถึงช่างตีเหล็กในตำนานที่เคยได้ยินเพียงชื่อ

       เคร้ง!  เคร้ง!  เคร้ง!

       กริดยังคงกระหน่ำทุบค้อนเป็นจังหวะ  เขาทุบมันจน  ไม้ฟอสฟอรัสขาวที่ได้ชื่อว่าแข็งดั่งเหล็กมังกร  บัดนี้เริ่มอ่อนตัวลงและบิดงอ  
       ขณะร่างกายกริดกำลังชุ่มชะโลมด้วยเหงื่อไคล  ข้อความระบบได้แสดงขึ้น

[ ทักษะ 'ความอดทนของช่างตีเหล็กในตำนาน' แสดงผล ]
[ สมาธิ  เรี่ยวแรง  และพลังป้องกันจะเพิ่มขึ้นมหาศาลเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ]

       เดิมที  กริดจะแสดงอาการดีใจเสมอเมื่อมีข้อความระบบเชิงบวก  
       แต่คราวนี้เขากำลังเข้าสู่ภาวะไร้ตัวตน  ทุกสิ่งรอบกายแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน  มีเพียงตนที่หลอมหลวมเป็นหนึ่งเดียวกับค้อน  และไม้ฟอสฟอรัสขาวที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
       เขาอุทิศกายใจทั้งหมดให้กับการสร้างคันศรฟินิกซ์แดง  
       จากนั้น  กริดได้เพิ่มส่วนผสมเป็นเขามิโนทอร์ลงไป  ชายหนุ่มชอบคุณสมบัติอ่อนตัวของมัน  และใช้ในการสร้างธนูให้จิสึกะเรื่อยมา
       เขามิโนทอร์ทำให้ไม้ฟอสฟอรัสขาวถูกดัดเป็นรูปทรงธนู  คล้ายคลึงกับทรงที่ไวท์เคยเห็นอย่างมาก

       'นี่คือรูปทรงที่ดีที่สุดของธนู...'
       
       รายละเอียดเล็กน้อยถูกจัดการให้เข้าที่ด้วยปลายนิ้วอันปราณีตบรรจงของกริด

       'เยี่ยมมาก...'

       กริดรู้สึกพึงพอใจ  ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่า

       'หรือต่อให้ซวยที่สุด...'
       
       หากคันศรฟินิกซ์แดงออกมาเป็นเกรดอีปิก  สิ่งนั้นก็มิใช่ปัญหา
       กริดยังมีทักษะ 'อัพเกรดไอเท็ม' ที่สามารถยกระดับให้มันกลายเป็นเกรดยูนีค  
       การผ่านภารกิจคราวนี้คือเรื่องแน่ชัดแล้ว 
       แม้ทักษะอัพเกรดไอเท็มอาจจำกัดครั้งใช้งานเหมือนทักษะออกแบบ  แต่กริดก็มองว่าคุ้มค่าที่จะผ่านภารกิจนี้

       'เราต้องเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับไวท์และฮานซอกบงให้ได้'

       เหตุผลนั้นง่ายมาก  
       ฮานซอกบงจะต้องรู้ข้อมูลยุทธภัณฑ์เทพผู้พิทักษ์ชิ้นอื่นแน่  และประสิทธิภาพของมันย่อมไม่ด้อยไปกว่าคันศรฟินิกซ์แดง  
       ใช่แล้ว  กริดมีแผนจะครอบครองสูตรการผลิตของยุทธภัณฑ์เทพทุกชนิดบนทวีปตะวันออก  ชายหนุ่มมั่นใจว่า  ยุทธภัณฑ์เทพผู้พิทักษ์คงสุดยอดเทียบเท่าศาสตราเทพของโบสถ์รีเบคก้าเลยทีเดียว
       หากตนสามารถผลิตในจำนวนมาก  กองทัพของเขาจะไร้พ่าย

       ขณะเดียวกัน  ร่ายกายเอโนชกำลังสั่นระริกในจุดห่างไกลออกไป

       "เป็นไปไม่ได้!  เด็กใหม่เก่งขนาดนี้ได้ยังไง!"

       ชายผมดำตรงหน้า  หากไม่มีอคติลำเอียง  เขาเก่งกาจยิ่งกว่าดาไวท์ไม่ผิดแน่
       เอโนชไม่อยากยอมรับกริด  แต่เขาก็มิอาจปฏิเสธความจริงได้เช่นกัน  
       ในฐานะช่างตีเหล็ก  เอโนชชื่นชมทักษะกริดจากก้นบึ้งของหัวใจ  เป็นสัญชาตญาณที่ช่างตีเหล็กทุกคนยากขัดขืน
       จากนั้น...

[ คันศรฟินิกซ์แดงเสร็จสมบูรณ์ ]

       7 ชั่วโมง 59 นาที 49 วินาที 
       นี่คือเวลาที่กริดใช้ไป… ในที่สุดชายหนุ่มก็หยุดมือ 
       คันศรสีขาวบริสุทธิ์อันโค้งมนงดงาม  ได้ติดตราตรึงใจผู้ชมทั่วทั้งสนามแข่ง
       
       "คันศร… ฟินิกซ์แดง!"

       ลอร์ดแพงเจีย
       ชายผุ้นี้เฝ้ามองกริดไม่ละสายตามาตั้งแต่การแข่งเริ่มขึ้น
       ทันทีที่กริดหยุดมือ  ออร่าของคันศรฟินิกซ์แดงได้แผ่กระจายออกไปทั่วทั้งอัฒจรรย์

Comments

  1. สนุกมากครับ

    ReplyDelete
  2. กลุ่มลับนี้ ยังมีเปิดมั้ยครับ แล้วเข้ายังไง ช่วยบอกที

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00