จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 530



       "ผู้ชนะจะได้รับรางวัลใดบ้าง"

       "พวกเราจะกลายเป็นโรงตีเหล็กแห่งเดียวที่ได้รับสัมปทานสร้างยุทธภัณฑ์ศึกส่งให้กองทัพแพงเจีย  และลอร์ดแพงเจียจะช่วยโฆษณาให้โรงตีเหล็กเรา  นั่นจะเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวภายนอกได้มหาศาล"

       แพงเจียใหญ่กว่าเรย์ดัน  เมืองใหญ่อันดับสองของอีเทอนัล  ราวสองเท่าเห็นจะได้
       แต่แตกต่างจากเรย์ดัน  แพงเจียมีผู้คนคราคร่ำและแน่นถนัดทุกหัวระแหง  ผู้ชนะในการแข่งตีเหล็กย่อมหมายถึงผลประกอบการณ์มั่งคั่งตลอดทั้งปี  พวกเขาจะกลายเป็นช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของแพงเจีย  ดังนั้น  การคว้าชัยในการแข่งนี้ย่อมเป็นฝันของช่างตีเหล็กทุกคน  
       แต่สำหรับไวท์  เขายังมีเหตุผลอื่น

       "แล้วก็… พวกเราจะได้รับสิทธิ์เข้าสำรวจดันเจี้ยนใต้ปราสาทแพงเจีย"

       "ดันเจี้ยนใต้ปราสาท..."

       อันที่จริง  มีปราสาทหลายแห่งที่แฝงไว้ด้วยดันเจี้ยนลับใต้ดิน  
       ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด  ปราสาทเปรโดของคริส  ปราสาทหลังดังกล่าวมีดันเจี้ยนแวมไพร์ซึ่งนานครั้งจะดรอปโอสถให้เชยชม  
       น่าเสียดายที่ปราสาทเรย์ดันไม่มีของแบบนั้น

       'เราเคยได้ยินมาว่า  ดันเจี้ยนใต้ปราสาทมักดรอปไอเท็มหายากมากมาย...'

       หนึ่งในแผนของลอเอลที่เคยวางไว้นานแล้ว  
       คือการยึดครองปราสาทใหญ่ของทวีปตะวันตกให้มากที่สุด  จากนั้น  กิลด์โอเวอร์เกียร์ก็จะมีขุมพลังรบที่แข็งแกร่งจากการผูกขาดดันเจี้ยนลับ

       'แต่นั่นเป็นไปได้ยากมาก'

       ดวงตากริดกลับคืนสู่ปรกติ  
       จากนั้นเขาก็หรี่ตาลง

       "ในดันเจี้ยนแพงเจียมีสิ่งใด"

       "เกราะหนาม..."

       "เกราะหนามงั้นหรือ..."
       
       "ศัตรูสังหารบิดาของผม  มอนสเตอร์ที่สามารถผลิต 'ด้ายเงิน' ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของช่างตีเหล็กทุกคน"

       'ด้ายที่ทำจากเงิน...'

       ด้ายเงินอาจฟังดูธรรมดาสำหรับกริด  แต่หากเป็นด้ายเงินทั่วไป  ไม่มีทางที่ช่างตีเหล็กของแพงเจียจะถวิลหาขนาดนี้แน่

       "ไม่ใช่ด้ายเงินธรรมดาใช่ไหม"

       "ด้ายเงินจะถูกสกัดจากชุดเกราะเงินที่มอนสเตอร์เกราะหนามสวมอยู่  ด้ายเงินเหล่านี้ชุ่มชะโลมไปด้วยเลือดเน่าของพวกมันเป็นเวลานาน  กระบวนการดังกล่าวกระทำซ้ำหลายสิบปี  ว่ากันว่า  มันคือด้ายที่ไม่มีวันขาดและเก็บงำเอฟเฟคลึกลับไว้มากมาย"

       "พ่อของนายถูกเกราะหนามสังหารสินะ..."

       "ก็อย่างที่คุณคิด  บิดาของผมคว้าแชมป์ในการแข่งเมื่อหลายปีก่อน  จากนั้นก็ลงดันเจี้ยนเพื่อหวังครอบครองด้ายเงิน  แต่น่าเสียดายที่ท่านกลับกลายเป็นเหยื่อเสียเอง"

       บิดาของไวท์ถูกสังหาร  แม้ว่ารอบกายจะรายล้อมด้วยทหารที่เก่งฉกาจของลอร์ดแพงเจีย  
       ไวท์เป็นกังวลว่าตนอาจมีจุดจบเดียวกับผู้เป็นพ่อ  แต่ความแค้นและความโลภนั้นมีมากจนกลบความหวาดกลัวมิดชิด

       "ผมจะสร้างศันศรฟินิกซ์สีชาดขึ้นให้ได้...!  คว้าชัยในการแข่งครั้งนี้  และได้รับสิทธิ์เข้าสู่ดันเจี้ยน  จากนั้นก็จะจัดการเกราะหนามทั้งหมดและรวบรวมด้ายเงินให้ได้มากที่สุด!  โรงตีเหล็กค้อนขาวจะกลายเป็นอันดับหนึ่งเต็มตัว  นั่นคือความฝันของท่านพ่อเสมอมา"

       "...หืม"

       กริดหันไปมองไวท์พร้อมกับเปลี่ยนแววตา  
       ตอนนี้สายตากริดแผ่ความอบอุ่นพร้อมกับให้กำลังใจ
       ชายหนุ่มสืบทอดเจตจำนงของผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าอย่างเต็มเปี่ยม  ทำให้เขารู้สึกชื่นชมช่างตีเหล็กทุกคนที่มีความมุ่งมั่น

       'ช่างตีเหล็กที่มีความฝัน  คงไม่ใช่คนเลวร้ายแน่'

       ทันใดนั้นเอง

       ชิ้ง~

[ ภารกิจถูกสร้างขึ้น ]

[ คว้าชัยในการแข่งตีเหล็ก! ]
ระดับความยาก : SSS
       ท่านคือผู้สืบทอดเทคนิคและจิตวิญญาณของแพ็กม่า!
       ท่านได้รับเจตจำนงของแพ็กม่าติดตัวมาอย่างเต็มเปี่ยม
       เจตจำนงดังกล่าวก็คือ 'ตีเหล็กเพื่อสร้างความสุขให้มวลมนุษยชาติ'
       ท่านเกิดความประทับใจในตัวไวท์  ที่ต้องการทำให้โรงตีเหล็กค้อนขาวกลายเป็นสุดยอดโรงตีเหล็กของแพงเจีย  เพื่อสานฝันต่อจากผู้เป็นบิดา
       จงช่วยไวท์คว้าชัยในการแข่งครั้งนี้!
       ในวินาทีที่โรงตีเหล็กค้อนขาวกลายเป็นอันดับหนึ่ง  ท่านจะได้ครอบครองขุมกำลังพันธมิตรสุดแข็งแกร่งของแพงเจีย       
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : สร้างคันศรฟินิกซ์แดงแบบจำลอง  เกรดยูนีคขึ้นไป
รางวัลภารกิจ : 
- ค่าความสัมพันธ์กับไวท์เพิ่มถึงระดับสูงสุด
- ค่าความสัมพันธ์กับลอร์ดแพงเจียเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 30~80 หน่วย
- ของรางวัลจากลอร์ดแพงเจียจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเกรดของธนู
- ได้รับสิทธิ์เข้าดันเจี้ยนแพงเจีย
- เลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : 
- ค่าความสัมพันธ์กับไวท์ลดลง
- ชื่อเสียงในแพงเจียลดลง

       'ดีล่ะ'

       ความอยากร่วมแข่งของกริดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี  เขาต้องการของรางวัลเหล่านั้น  กริดจึงไม่คิดปฏิเสธมัน       

[ ท่านจะรับทำภารกิจนี้หรือไม่ ]

       ภาพหน้าจอมีเพียงสองตัวเลือก 'ใช่' และ 'ไม่ใช่'
       กริดตอบตกลงโดยไม่ลังเล

       "เอาล่ะ  คุณกริด"

       ไวท์เปิดปากพูดทันทีเมื่อกริดรับภารกิจ

       "อันที่จริง  ผมยังไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับไม้ฟอสฟอรัสขาวได้ดีนัก  อย่างเก่งก็แค่ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น  ไม่มีทางควบคุมมันได้สมบูรณ์แน่  แต่คุณที่เป็นถึงช่างตัดไม้ในตำนาน  ย่อมถนัดในด้านการใช้ฟืนใช่ไหม  เช่นนั้นแล้ว… ผมขอพูดตามตรงโดยไม่ละอาย  ไม่ทราบว่าคุณจะช่วยลงแข่งในนามตัวแทนโรงตีเหล็กค้อนขาวได้รึไม่"

       "..."

       ช่างตีเหล็กในตำนานถูกเข้าใจผิดว่าเป็นช่างตัดไม้ในตำนานงั้นหรือ
       กริดเคอะเขินเล็กน้อย  สถานการณ์ดำเนินไปอย่างผิดแผก  แต่เขาก็มิได้ใส่ใจ  
       กริดพยักหน้าตอบตกลงทันที

       "เข้าใจแล้ว  ฉันจะช่วยนาย"

       "โอ้ว!  ขอบคุณมาก!  ขอบคุณมากจริงๆ!"

       แน่นอนว่า  ช่างตีเหล็กในตำนานย่อมเก่งฉกาจด้านเป่าลมเตาหลอม  
       การควบคุมไฟไม่ใช่เรื่องยากสำหรับกริดเลยสักนิด

       'ขอแค่ได้เข้าร่วมก็พอ… ไม่ว่าจะในฐานะไหน'

       ทันทีที่การแข่งเริ่มขึ้น

       'เราจะนำทางทุกคนเอง!'

       ***
       
       "เฮ่อ..."

       ฮานซอกบง  
       เขาคือทายาทของตระกูลขุนนางที่ถูกขับไล่  วัยเด็กของฮานซอกบงจึงยากจนมาก  
       แต่เป็นเพราะมารดาของเขาเฉลียวฉลาด  จึงเลี้ยงดูซอกบงให้สอบติดข้าราชการและไต่เต้าตำแห่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
       ฮานซอกบงถูกแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์อาณาจักรโช  ว่ากันว่า  การที่อาณาจักรโชมีนโยบายการเมืองแข็งแกร่งเช่นทุกวันนี้ได้  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการทำงานอย่างหนักของฮานซอกบง

       ชายคนนี้คืออัจฉริยะที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นลอร์ดแพงเจียตั้งแต่อายุ 50
       ทว่า… ถึงแม้จะเป็นวีรบุรุษของวงศ์ตระกูล  เป็นแบบอย่างที่ดีของสามัญชน  และเป็นพลเมืองสมบัติของชาติ  แต่ในช่วงหลายปีให้หลัง  ฮานซอกบงกลับมีเรื่องหนึ่งที่กลัดกลุ้มใจเสมอมา 
       นั่นคือการสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยของสมบัติแห่งแพงเจีย  คันศรฟินิกซ์แดง

       "ในที่สุด  พวกยังบันของอาณาจักรฮวานก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วสินะ"

       สมบัติสี่ชิ้นที่อัดแน่นไปด้วยพลังของเทพ

       ดาบโค้งมังกรฟ้าแห่งอาณาจักรคายา  ทางทิศตะวันออก
       หอกเสือขาวแห่งอาณาจักรปา  ทางทิศตะวันตก
       คันศรฟินิกซ์แดงแห่งอาณาจักรโช  ทางทิศใต้
       และอัญมณีเต่าดำแห่งอาณาจักรชิง  ทางทิศเหนือ

       อาณาจักรฮวานมอบสี่สมบัติแห่งเทพให้กับอาณาจักรโดยรอบ  พร้อมกับกำชับให้ปกป้องรักษายิ่งชีพ  แต่ตอนนี้อาณาจักรโชกลับทำคันศรฟินิกซ์แดงสาบสูญ  โดยมันหายไปในระหว่างที่ฮานซอกบงกำลังปกครองแพงเจีย

       'พวกยังบันบอกว่าจะให้เวลาเราอีกครึ่งปี...'

       หากมิอาจหาคันศรฟินิกซ์แดงมาคืนได้ภายในครึ่งปี  สิ่งที่จะสูญเสียมิได้มีเพียงชีวิตของฮานซอกบงเท่านั้น  แต่ยังรวมไปถึงอาณาจักรโชที่จะได้รับความเดือดร้อนและต้องจ่ายบรรณาการราคาแสนแพง  บางทีอาจถูกอาณาจักรฮวานขูดรีดไปอีกหลายปี  สถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลให้อาณาจักรโชไม่พัฒนา  และอีกไม่นานคงล้าหลังอาณาจักรอื่น

       "เฮ่อ..."

       ฮานซอกบงถอนหายใจอย่างเจ็บแค้น  
       เมื่อสองปีก่อน  นักบวชเต๋าชั่วได้รุกรานแพงเจียและขโมยคันศรฟินิกซ์แดงไป  
       นั่นคือต้นตอความเสื่อมถอยของอาณาจักรโชในทุกวันนี้  
       'หากอาณาจักรโชอ่อนแอลง… ฝ่ายที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคืออาณาจักรชิง… ดูเหมือนจะเป็นฝีมือของพวกชิงสินะ  ถึงได้รู้ความสำคัญของสมบัติเทพมากขนาดนี้'

       หรืออาจเป็นศัตรูภายใน...
       มีคนไม่มากนักที่จะได้รับผลประโยชน์หากอาณาจักรโชอ่อนแอลง

       'ซอกฮยุนกง!'

       น้องชายของกษัตริย์โชคนปัจจุบัน

       'แต่หมอนั่นไม่ใช่คนใจถึง  แถมฝ่ายสนับสนุนก็มีไม่มาก'

       หรือหากเลวร้ายกว่านั้น...

       'อาจมีคนต้องการใช้พลังคันศรฟินิกซ์แดง  จึงขโมยมันไป...'

       ถ้าเป็นเช่นนี้  อีกไม่นานก็คงเล็งดาบโค้งมังกรฟ้า  หอกเสือขาว  และอัญมณีเต่าดำด้วยแน่นอน  
       แย่แล้ว… ทั่วทั้งทวีปกำลังเข้าสู่ความโกลาหล

       'ไม่สิ… นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราควรกังวลในตอนนี้'

       หากสถานการณ์ของฮานซอกบงไม่คืบหน้า  บางที  คนของอาณาจักรฮวานอาจลงมือด้วยตนเอง
       
       'เราต้องรีบหาคันศรฟินิกซ์แดงไปคืน'

       แต่เขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคันศรฟินิกซ์แดงอยู่ที่ไหน  
       เป็นเพราะชุมชนมอนสเตอร์ทางทิศเหนือ  แพงเจียจึงถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก  มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถเดินทางผ่านไปมาได้  ข้อมูลข่าวสารจึงน้อยนิด  
       ดังนั้น  การสร้างแบบจำลองขึ้นใหม่ให้เหมือนอาจง่ายกว่า  
       ลงเอยด้วย  ฮานซอกบงฝากความหวังทั้งหมดไว้กับช่างตีเหล็กของแพงเจีย

       "ได้โปรด… ได้โปรดสร้างคันศรฟินิกซ์แดงเสมือนจริงขึ้นด้วยเถิด"

       ณ ห้องบูชา  หน้าแท่นป้ายชื่อคนตายที่สร้างจากหยกขาว  
       เสียงของหญิงชราคนหนึ่งดังขึ้นขณะฮานซอกบงกำลังนั่งคร่ำครวญอยู่หน้าจุดที่คันศรฟินิกซ์แดงเคยตั้งอยู่

       "ยิ่งเวลาผ่านไป  ใบหน้าของแกก็ยิ่งแก่ชราลง  ไม่รู้รึไงว่าความเครียดไร้ประโยชน์คือพิษร้ายต่อสุขภาพ"

       "ท่านแม่!"

       ฮานซอกบงคุ้นชินกับสุ้มเสียงนี้เป็นอย่างดี  เขารีบลุกขึ้น  
       ซอกบงกำลังเป็นกังวลกับมารดาวัย 80 ปี  เธอไม่ควรเดินถ่อลงมาไกลถึงห้องบูชา

       "ท่านแม่จะปวดเข่าเอาได้  หากยังขึ้นลงบันไดอยู่เช่นนี้"

       ฮานซอกบงรีบวิ่งไปพยุ่งมารดาที่กำลังถือพู่กันวาดเขียนในมือ
       จากนั้น  เธอได้ยื่นพู่กันมาให้พร้อมกับกล่าวว่า

       "แม่ของแกไม่เป็นอะไรหรอก  อย่าได้กังวลไป  บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าต้องสขุมเยือกเย็นไว้เสมอ… เอ้านี่!  ทำใจให้สงบซะ!   เฮ่อ..."

       มารดาฮานซอกบงเป่าเทียนที่ถูกจุดรอบป้ายชื่อหยกขาว  
       จากนั้นเธอก็นั่งลงในห้องที่มืดสนิท

       "หลังจากนี้ฉันจะหั่นแป้งต๊อก*  ส่วนแกก็สงบใจไปซะ"

( แป้งต๊อกของเกาหลี )

       "ครับ...!  เข้าใจแล้วครับท่านแม่!"

       มารดาของเขาคอยอยู่เคียงข้างมาตั้งแต่ยังเล็ก  เธอมักปรากฏตัวในยามที่จิตใจของซอกบงกระวนกระวาย

       'ทุกครั้งที่ลงมือเขียนพู่กัน  หัวของเราจะโล่งปลอดโปร่ง  จิตใจสงบนิ่ง'

       ฮานซอกบงอมยิ้มอย่างอ่อนโยน  จากนั้นก็เริ่มเขียนพู่กันอย่างบรรจง
       การตวัดพู่กันในห้องอันมืดมิดนับเป็นการฝึกฝนตนเองในหลายด้าน  
       แน่นอนว่า  ลายมือที่ออกมาย่อมห่วยแตกอย่างช่วยไม่ได้

       "โอ้ย!"

       มารดาฮานซอกบงทำพลาดขณะหั่น  คมมีดเฉือนเข้านิ้วเล็กน้อย  
       แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ  จึงใช่เรื่องน่ากังวล

       ***

       "นึกว่าใคร... ที่แท้ก็เป็นไวท์ผู้ดำสนิท  แห่งโรงตีเหล็กค้อนขาวนี่เอง"

       หนึ่งชั่วโมงก่อนการแข่งจะเริ่ม  แขกไม่ได้รับเชิญเดินเข้ามาในห้องเตรียมตัวของทีมตีเหล็กค้อนขาว  พวกเขากำลังรวบรวมวัสดุที่ใช้สำหรับการแข่ง
       มันผู้นั้นคือเจ้าของโรงตีเหล็งเพลิงฟ้า  เอโนช

       "โรงตีเหล็กค้อนขาวมีผลงานน่าอับอายมาตลอดสามปี  และปีนี้เองก็ไม่มีทางชนะเลิศเช่นกัน  พวกนายกำลังดิ้นรนเฮือกสุดท้ายอย่างน่าสมเพช!"

       เอโนชมีบุคลิกภายนอกที่ดูอบอุ่นและใจดี  ทว่าเนื้อแท้กลับน่าขยะแขยง

       "พ่อของนาย9hv'เสียใจมากแน่  ที่โรงตีเหล็กค้อนขาวกำลังจะล่มสลายในอีกไม่นาน  เป็นเพราะเขาเลือกช่างตีเหล็กโง่เขลาและใช้ไฟไม่เป็น  มาสืบทอดกิจการยังไงล่ะ"

       "..."

       เอโนชจาบจ้วงบิดาที่ล่วงลับของไวท์อย่างหยาบคาย  
       อันที่จริง  ไวท์กำลังโกรธจัด  แต่เขาพยายามข่มความรู้สึกและไม่แสดงมันออกมา  
       และคำพูดของเอโนชก็ไม่ผิดเท่าไรนัก  
       หากไวท์ออกอาการโมโหตรงนี้  รับรองได้เลยว่าเอโนชจะยิ่งหัวเราะร่วนมากกว่าเดิม

       'ท่านพ่อ… ผมขอโทษ'

       ไวท์กล่าวขอโทษที่ตนเป็นบุตรอกตัญญู

       หมับ!

       เลือดไหลซิบเมื่อไวท์กำหมัดแน่นจนเล็บจิก

       "เป็นช่างตีเหล็กต้องรักษามือให้ดีที่สุด"

       กริดเดินเข้ามาใกล้หลังจากได้เห็นเหตุการณ์  เขานำผ้าพันแผลของตนยื่นให้กับไวท์  จากนั้นก็หันไปพูดกับเอโนช

       "ได้ยินว่าแกเก่งการใช้ไฟนักใช่ไหม..."

       เอโนชไม่เข้าใจสถานการณ์เลยสักนิด

       "หมอนี่เป็นใครกัน!  ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน  เด็กใหม่อย่างแกกล้าขัดบทสนทนาของผู้ใหญ่เชียวหรือ"

       "ผู้ใหญ่อะไรกัน  อายุพวกเราห่างกันไม่ถึงสิบปี"

       "ฮะฮ่า!  แม้แต่ด้านมารยาท  โรงตีเหล็กค้อนขาวก็ยังต่ำทรามที่สุด!  ฉันเกลียดคนไม่รู้จักกาละเทศะ  จุ๊จุ๊… ก็พอจะเข้าใจได้ล่ะนะ  เพราะช่างตีเหล็กชั้นเลิศมารวมตัวกันที่โรงตีเหล็กเพลิงฟ้าของฉันหมดแล้ว!  ผู้ชนะปีนี้ไม่ใช่ใครอื่นแน่นอน  จะฉลองล่วงหน้าเลยดีไหมนะ  วะฮ่าฮ่าฮ่า!"

       'หมอนี่ช่างน่าขัน'

       มายังห้องพักของทีมอื่นเพียงเพื่อกล่าวคำเย้ยหยัน
       ไม่ต่างอะไรกับพวกสวะ  กริดเกลียดชังคนเช่นนี้ที่สุด

       "ฉันจะจัดการนายให้ราบคาบ"

       เป็นแค่ช่างตัดไม้  แต่กลับลั่นวาจาจะเอาชนะหัวหน้าโรงตีเหล็กเพลิงฟ้าเชียวหรือ  
       น่าเสียดายที่ไวท์ไม่ได้ยินคำพูดกริด  เขากำลังถูกความโกรธครอบงำจนไม่ได้สนสิ่งรอบข้าง

Comments

  1. จัดการมันเลย ก็อดกริด

    ReplyDelete
  2. อะไรคือ พ่อของนาย9hv' ครับ5555

    ReplyDelete
  3. กริดจะได้สูตรการตีคันศรฟีนิกซ์แดงสินะ อาวุธระดับเทพ ต้องเกรด" มิธ"

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00